ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [วันแรก] ชายอีกคน
กระจกบางสีเข้ม ทอรับแสงอ่อนๆจากอาทิตย์ยามเช้า ม่านสีฟ้าที่สงบนิ่ง ไร้ซึ่งลมใดใด มีเพียงเครื่องปรับอากาศที่ทำให้อุณหภูมิในห้อง เย็นยะเยือกราวกับถูกแช่แข็ง แต่ความรู้สึกอบอุ่น ก็ยังคงแทรกซึมอยู่ทั่วอนู?? ทำไมนะ
“อืออออ”ชั้นครางเบาๆ เมื่อเริ่มรู้สึกตัว พยายามจะพลิกตัวไปบนที่นอนกว้างๆนี้ แต่ก็พบว่ามัน...ติด.. ติดไรนะ ชั้นคิดในใจ แต่หนังตาชั้นไม่มีท่าทีจะยกขึ้นซักนิด ก็มันเหนื่อยนี่ เหนื่อยอย่างสุดจะทนตั้งแต่เมื่อวาน ถ้าวันนี้ชั้นจะจับไข้ขึ้นมามันจะแปลกอะไร อือออ ประสาทสัมผัสชั้นถูกเรียกกลับมาอย่างช้าๆ อะไรนะ? ที่มันทับตัวชั้นอยู่ .... ชั้นเริ่มจับไปที่สิ่งๆนั้น แท่งๆ? นิ้วมั้ง อื้อ เอ มือหรอ? ใช่แหละ ...แล้วนี่ก็.แขน ชั้นค่อยๆจิ้มไปตาม สิ่งๆนั้นจนกระทั่ง สติชั้นถูกเรียกกลับมา นิ้ว มือ แขน และ......ตาชั้นลุกโพรงทันที หันขวับไปมองคนที่อยู่ข้างหลัง..
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ทำไมชั้นต้องทำอาหารให้นายด้วย”ชั้นยืนเถียงกับตาบ้านี่อยู่หน้าโซนที่เหมือนห้องครัว แต่มันมีโต๊ะทานข้าวอยู่ในตัว หลังจากเรื่องวุ่นๆเมื่อเช้า ชั้นแทบจะบ้าตาย ที่เห็นอีตาบ้านี่ มานอน....กอด ชั้น อี๋ คิดแล้วยังคันๆอยู่เลย แหวะ นี่ชั้นขัดตัวซะจนหนังกำพร้าแทบจะลอก ยังรู้สึกแหยงๆอยู่เลย ให้ตายเถอะ
“เธอเป็นอะไรฮะ ยัยโทรโข่ง เป็นคนใช้ก็ต้องทำกับข้าวสิ”อีตาซาคานิวะ สั่ง
“ชั้นทำเป็นซะที่ไหนเล่า ตาบ้า”
“อ๋อ ที่เมื่อวานเธอเช็ดโต๊ะตัวเดียวแล้วแอบไปนอนห้องชั้นนี่ มันก็มากเกินไปแล้วนะ วันนี้ชั้นไม่สั่งให้เธอทำความสะอาดใหม่ก็ดีเท่าไหร่แล้ว”อีตาบ้าพูดอย่างเป็นต่อ -*- ชั้นอุตส่าห์ทำก็ดีเท่าไหร่แล้วยะ หนอยย ถ้าแกรู้ว่าชั้นเห็นหัวกะลาครอบตอนเด็กๆของแก แกคงไม่พูดงี้หรอก!!!
“ก็ได้ แล้วอย่าหาว่าไม่เตือน”แล้วชั้นก็สะบัดหน้าเข้าห้องครัวไปทันที อย่างเถียงไม่ได้ ฮึ่ย แล้วชั้นจะทำไงล่ะ คิดว่าอย่างชั้นทำอาหารเป็นนักรึไงนะ ตาบ้า!!
“ตอนเช้าเอาข้าวต้มนะ”เสียงแกมหยอกของหมอนั่นทำให้ชั้นแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมา ฮึ่ย
“เออ”ชั้นกระแทกเสียงตอบรับ ที่ดูเหมือนระบายอารมณ์ซะมากกว่า “แล้วหม้อมันอยู่ไหนล่ะ”ชั้นเริ่มก้มงุดๆ หาตามที่ต่างๆ จนในที่สุด อุปกรณ์ต่างๆก็อยู่ตรงหน้า เอาล่ะ เริ่มล่ะนะ....
“เสร็จยางเนี่ย วันนี้ต้องไปเรียนนะยัยเซ่อ”ชายหนุ่มกดรีโมทย์ปิดทีวี
“อ่า ใกล้แล้วแปบนะ”ชั้นตะโกนกลับไป หวา  ทำไงดีเนี่ย ปรุงยังไงดีล่ะ ชั้นค่อยๆเขย่าขวดน้ำปลาแบบทุลักทุเล ด้วยความไม่แน่ใจว่าได้รึยัง
“เร็วหน่อยดี้ แค่ข้าวต้ม ทำอย่างกะ ปลานึ่งในภัตตาคาร”หมอนั่นส่งเสียงยั่วโมโหชั้นต่อ หนอยยย ชั้นเริ่มบันดาลโทสะขึ้นเล็กน้อย “ถึงจะทำนาน มันก็คงไม่อร่อยขึ้นร้อกกกก ฮะๆๆ”เสียงตาบ้านั่นดูจะขำกับคำพูดตัวเองนัก อยากยั่วโมโหชั้นนักใช่มั้ย.... เฮ่ย ตายแล้ว ฉับพลันหน้าชั้นก็ซีดเผือดขึ้นมาทันที เมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่เปลี่ยนไปในหม้อข้าวต้ม
“ดำปึ้ดเลย”ชั้นพึมพำเบาๆ แล้วคว้าช้อนใบเล็กมาแล้วตักชิมอย่างกล้าๆกลัวๆ “อี๋แหวะ เค็มชะมัด งั้นต้องใส่น้ำตาล\"แล้วชั้นก็คว้ากระปุกน้ำตาลขึ้นมาทันที
“โอยยย ชักช้า จริงวุ้ย”หมอนั่นยังคงบ่นมาเป็นระยะๆ แต่แล้ว ริมฝีปากชั้นก็เหยียดยิ้มขึ้นมาทันที อยากกวนประสาทชั้นนักใช่มั้ย ได้เล้ยยย แล้วชั้นก็จัดการ เทน้ำตาลในกระปุก ใส่หม้อข้าวต้มอย่างไม่เกรงใจ  ฮิฮิ นึกถึงรสชาติสิคะ ชั้นไม่อยากจะพูด อืม ไม่ได้ๆ ไม่สะใจ แล้วสายตาชั้นก็สอดส่ายไปทั่วห้องครัว ฉับพลัน ชั้นก็มองเห็นมะนาว วางเรียงรายอยุ่บนชั้น อื้ม ใช้ได้ ชั้นคว้ามาทันที แล้วหั่นๆๆ ให้เป็นชิ้นเล็กๆแบบทุลักทุเล
“อืม กลัวจะหวานไป กลัวจะเค็มไป เพิ่มเปรี้ยวไปอีกซักหน่อยคงไม่เป็นไรนะคะ”ชั้นพูดกับหม้อข้าวต้มด้วยท่าทีที่ราวกับนางมารเตรียมสังหารนางเอก แตกต่างกันแค่เพียงว่า ชั้นหน้าตาสวยกว่านางเอกก็เท่านั้นแหละ โฮะๆๆๆ แล้วไม่นาน ข้าวต้มสูตรเผด็จศึกของชั้นก็พร้อมเสิรฟ์ ชั้นยิ้มให้ถ้วยข้าวต้ม อย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าสีมันจะดูน่าสะอิดสะเอียนซักหน่อยก็เถอะ แล้วชั้นก็ก้าวออกมาจากโซนห้องครัว
“เสร็จแล้วค่ะ”ชั้นกัดปากพูด หมอนั่นตรงมาที่ชั้นทันที ชั้นจึงวางถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะ แล้วเดินไปนั่งอีกฝั่ง หมอนั่นนั่งลงตรงข้ามชั้น พลางจ้องถ้วยข้าวต้มด้วยสีหน้าที่แปลออกมาได้ว่า...มันคืออะไร...
“ไม่กินหรอ”ชั้นพูดยิ้มๆ
“นี่มันอะไรเนี่ย”ตาบ้านั่นเงยหน้าขึ้นมาถามชั้น มือก็ถือช้อน ตักข้าวต้มขึ้น แล้วก็เทออก
“เอ้า ก็ข้าวต้มไง ดูน่ากินดีออก สูตรเด็ดเลยนะ (ข้าวต้มสยบหมา(ในปาก))”ชั้นยิงฟันให้หมอนั่น
“แล้วไมมันดำเงี้ย”หมอนั่นทำหน้าเหยเก แล้วก็ตักข้าวต้มขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็เทออก
“ผสมช็อกโกแล็ตไง”ว่าไปนั่น
“ฮ้า ข้าวต้มบ้านไหน เค้าใส่ช็อกโกแล็ตเล่า”หมอนั่นถามอีก พร้อมกับตักข้าวต้มขึ้นอีกครั้ง ยกขึ้นเหมือนจะกิน แล้วก็เทออก ...--*-- ชั้นเริ่มโมโหแล้วนะ เมื่อไหร่จะกินซักทียะ
“ก็สูตรเด็ดไง”ชั้นเริ่มกัดฟันแน่น ด้วยความลุ้นกึ่งรำคาญ
“ทำไงอ้ะ”ถามต่อ สีหน้าหมอนั่นเริ่มมีรอยยิ้มกวนประสาทชั้นอีกครั้ง ฮึ่ย มันอยากตายนักใช่มั้ย “ไมเอาละ ไม่กินดีกว่า”หมอนั่นพูด ขึ้นมา แล้ววางช้อนลง ... ไม่กิน ไม่กินงั้นเร้ออ
“แค่ข้าวต้มถ้วยเดียวทำไมไม่กินฮ้า ตาบ้า ทำให้กินก็กินเข้าไปซี่ แค่ตักขึ้นมาแล้วก็เอาใส่ปากอย่างเงี้ย”ว่าแล้วชั้นก็ยัดข้าวต้มเข้าปากตัวเองด้วยอารมณ์เดือดดาล แต่แล้ว.........
“ก๊ากกกกก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮึกๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”หมอนั่นหัวเราะซะจนน่าหมั่นไส้ --*-- อี๋ให้ตายเถอะ รสชาติข้าวต้มนั่นยังติดปากอยู่เลย แหวะ  อยากจะอ๊วกออกมาอีกซักรอบ ส่วนอีตาบ้านี่ ก็หัวเราะไม่ยอมหยุด --*--
“เงียบเดี๋ยวนี้นะ”ชั้นแหวลั่น
“หือ ฮะๆๆ ทำไมชั้นต้องหยุดด้วยล่ะ ก็เธอน่ะ ก๊ากกกกก”
“อี.. อีตาบ้า.. จำไว้เลยนะ ชั้นจะเอาคืนให้ได้เลยคอยดู!!!”แล้วชั้นก็กระแทกส้นเดินนำหมอนั่นไปทันที ทำไมชั้นต้องมาเจอหมอนี่ด้วยนะ ให้ตายเถอะ ทำไมชั้นต้องมาเป็นคนใช้อีตาโรคจิตนี่ด้วย!!
ชั้นเดินนำมาได้ซักพัก ก็รู้สึกโล่งๆ เหมือนเสียงของหมอนั่นจะหายไปซะเฉยๆ จึงตัดสินใจหันกลับไปดูซักหน่อย เผื่อจะเห็นอีตาบ้า มันแบนคาพื้นถนน แต่กลับว่างเปล่า หมอนั่นหายไปแล้ว... อืม.. ก็ดี ชั้นคิดแล้วก็ก้าวต่อไป
ปึก
“โอ๊ย”ชั้นร้องขึ้นมาทันที เมื่อชนเข้ากับบางอย่างตรงหน้า ชั้นเงยหน้าขึ้น ก็พบกับอีตาโรคจิต ที่ยืนอยู่ข้างหน้าแล้ว “ทำไรยะ ถอยไป ชั้นจะไปเรียนแล้ว”
“ไม่ล่ะ วันนี้ขี้เกียจไปทำอย่างอื่นกันดีกว่า”หมอนั่นยิ้มอย่างนึกสนุก
“ว่าไงนะ ไม่ได้เด็ดขาด ชั้นเป็นรองประธานนักเรียนนะ ยังไงก็ต้องไป”ชั้นเริ่มขึ้นเสียงหน่อยๆ
“งั้นหรอ ไม่สน เธอเป็นคนใช้ ก็ต้องไปกับเจ้านาย”ว่าแล้วหมอนั่นก็ลากแขนชั้น ออกจากเส้นทางที่มุ่งสู่โรงเรียนทันที
“ไม่ได้นะ อีตาบ้า อีตาโรคจิต จะไปไหนก็ไปซี่ ปล่อยชั้นน้า”ชั้นร้องดังลั่น จนคนเกือบทั้งถนนหันมามองเป็นตาเดียว ....-- -- นั่นไงล่ะ ซวยแล้ว
“เห็นมะ ทำตัวให้มันดีดี ก็ไม่เป็นเรื่องแล้ว”หมอนั่นหันมายิ้มกวนประสาทอีกรอบ ฮึ่ย ชั้นไม่ยอมหรอก
“ช่วยด้วยย มีคนโรคจิตจะฉุดชั้น.. ช่วยด้วยค่า”ชั้นตะโกนโหวกเหวกพยายาม สะบัดแขนเต็มที่ให้หลุดจากการเกาะกุมของ อีตาโรคจิต
“เธอนี่มัน...”หมอนั่นจะหันมาต่อว่าชั้น แต่แล้ว ก็มีมือหนักวางลงบนบ่าของอีตาซาคานิวะ
“ปล่อยเธอไปซะ”ชายหนุ่มหน้าตาดี กึ่งจะหล่อเหลาพูดขึ้น ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
“อืออออ”ชั้นครางเบาๆ เมื่อเริ่มรู้สึกตัว พยายามจะพลิกตัวไปบนที่นอนกว้างๆนี้ แต่ก็พบว่ามัน...ติด.. ติดไรนะ ชั้นคิดในใจ แต่หนังตาชั้นไม่มีท่าทีจะยกขึ้นซักนิด ก็มันเหนื่อยนี่ เหนื่อยอย่างสุดจะทนตั้งแต่เมื่อวาน ถ้าวันนี้ชั้นจะจับไข้ขึ้นมามันจะแปลกอะไร อือออ ประสาทสัมผัสชั้นถูกเรียกกลับมาอย่างช้าๆ อะไรนะ? ที่มันทับตัวชั้นอยู่ .... ชั้นเริ่มจับไปที่สิ่งๆนั้น แท่งๆ? นิ้วมั้ง อื้อ เอ มือหรอ? ใช่แหละ ...แล้วนี่ก็.แขน ชั้นค่อยๆจิ้มไปตาม สิ่งๆนั้นจนกระทั่ง สติชั้นถูกเรียกกลับมา นิ้ว มือ แขน และ......ตาชั้นลุกโพรงทันที หันขวับไปมองคนที่อยู่ข้างหลัง..
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
“ทำไมชั้นต้องทำอาหารให้นายด้วย”ชั้นยืนเถียงกับตาบ้านี่อยู่หน้าโซนที่เหมือนห้องครัว แต่มันมีโต๊ะทานข้าวอยู่ในตัว หลังจากเรื่องวุ่นๆเมื่อเช้า ชั้นแทบจะบ้าตาย ที่เห็นอีตาบ้านี่ มานอน....กอด ชั้น อี๋ คิดแล้วยังคันๆอยู่เลย แหวะ นี่ชั้นขัดตัวซะจนหนังกำพร้าแทบจะลอก ยังรู้สึกแหยงๆอยู่เลย ให้ตายเถอะ
“เธอเป็นอะไรฮะ ยัยโทรโข่ง เป็นคนใช้ก็ต้องทำกับข้าวสิ”อีตาซาคานิวะ สั่ง
“ชั้นทำเป็นซะที่ไหนเล่า ตาบ้า”
“อ๋อ ที่เมื่อวานเธอเช็ดโต๊ะตัวเดียวแล้วแอบไปนอนห้องชั้นนี่ มันก็มากเกินไปแล้วนะ วันนี้ชั้นไม่สั่งให้เธอทำความสะอาดใหม่ก็ดีเท่าไหร่แล้ว”อีตาบ้าพูดอย่างเป็นต่อ -*- ชั้นอุตส่าห์ทำก็ดีเท่าไหร่แล้วยะ หนอยย ถ้าแกรู้ว่าชั้นเห็นหัวกะลาครอบตอนเด็กๆของแก แกคงไม่พูดงี้หรอก!!!
“ก็ได้ แล้วอย่าหาว่าไม่เตือน”แล้วชั้นก็สะบัดหน้าเข้าห้องครัวไปทันที อย่างเถียงไม่ได้ ฮึ่ย แล้วชั้นจะทำไงล่ะ คิดว่าอย่างชั้นทำอาหารเป็นนักรึไงนะ ตาบ้า!!
“ตอนเช้าเอาข้าวต้มนะ”เสียงแกมหยอกของหมอนั่นทำให้ชั้นแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมา ฮึ่ย
“เออ”ชั้นกระแทกเสียงตอบรับ ที่ดูเหมือนระบายอารมณ์ซะมากกว่า “แล้วหม้อมันอยู่ไหนล่ะ”ชั้นเริ่มก้มงุดๆ หาตามที่ต่างๆ จนในที่สุด อุปกรณ์ต่างๆก็อยู่ตรงหน้า เอาล่ะ เริ่มล่ะนะ....
“เสร็จยางเนี่ย วันนี้ต้องไปเรียนนะยัยเซ่อ”ชายหนุ่มกดรีโมทย์ปิดทีวี
“อ่า ใกล้แล้วแปบนะ”ชั้นตะโกนกลับไป หวา  ทำไงดีเนี่ย ปรุงยังไงดีล่ะ ชั้นค่อยๆเขย่าขวดน้ำปลาแบบทุลักทุเล ด้วยความไม่แน่ใจว่าได้รึยัง
“เร็วหน่อยดี้ แค่ข้าวต้ม ทำอย่างกะ ปลานึ่งในภัตตาคาร”หมอนั่นส่งเสียงยั่วโมโหชั้นต่อ หนอยยย ชั้นเริ่มบันดาลโทสะขึ้นเล็กน้อย “ถึงจะทำนาน มันก็คงไม่อร่อยขึ้นร้อกกกก ฮะๆๆ”เสียงตาบ้านั่นดูจะขำกับคำพูดตัวเองนัก อยากยั่วโมโหชั้นนักใช่มั้ย.... เฮ่ย ตายแล้ว ฉับพลันหน้าชั้นก็ซีดเผือดขึ้นมาทันที เมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่เปลี่ยนไปในหม้อข้าวต้ม
“ดำปึ้ดเลย”ชั้นพึมพำเบาๆ แล้วคว้าช้อนใบเล็กมาแล้วตักชิมอย่างกล้าๆกลัวๆ “อี๋แหวะ เค็มชะมัด งั้นต้องใส่น้ำตาล\"แล้วชั้นก็คว้ากระปุกน้ำตาลขึ้นมาทันที
“โอยยย ชักช้า จริงวุ้ย”หมอนั่นยังคงบ่นมาเป็นระยะๆ แต่แล้ว ริมฝีปากชั้นก็เหยียดยิ้มขึ้นมาทันที อยากกวนประสาทชั้นนักใช่มั้ย ได้เล้ยยย แล้วชั้นก็จัดการ เทน้ำตาลในกระปุก ใส่หม้อข้าวต้มอย่างไม่เกรงใจ  ฮิฮิ นึกถึงรสชาติสิคะ ชั้นไม่อยากจะพูด อืม ไม่ได้ๆ ไม่สะใจ แล้วสายตาชั้นก็สอดส่ายไปทั่วห้องครัว ฉับพลัน ชั้นก็มองเห็นมะนาว วางเรียงรายอยุ่บนชั้น อื้ม ใช้ได้ ชั้นคว้ามาทันที แล้วหั่นๆๆ ให้เป็นชิ้นเล็กๆแบบทุลักทุเล
“อืม กลัวจะหวานไป กลัวจะเค็มไป เพิ่มเปรี้ยวไปอีกซักหน่อยคงไม่เป็นไรนะคะ”ชั้นพูดกับหม้อข้าวต้มด้วยท่าทีที่ราวกับนางมารเตรียมสังหารนางเอก แตกต่างกันแค่เพียงว่า ชั้นหน้าตาสวยกว่านางเอกก็เท่านั้นแหละ โฮะๆๆๆ แล้วไม่นาน ข้าวต้มสูตรเผด็จศึกของชั้นก็พร้อมเสิรฟ์ ชั้นยิ้มให้ถ้วยข้าวต้ม อย่างมีความสุข ถึงแม้ว่าสีมันจะดูน่าสะอิดสะเอียนซักหน่อยก็เถอะ แล้วชั้นก็ก้าวออกมาจากโซนห้องครัว
“เสร็จแล้วค่ะ”ชั้นกัดปากพูด หมอนั่นตรงมาที่ชั้นทันที ชั้นจึงวางถ้วยข้าวต้มลงบนโต๊ะ แล้วเดินไปนั่งอีกฝั่ง หมอนั่นนั่งลงตรงข้ามชั้น พลางจ้องถ้วยข้าวต้มด้วยสีหน้าที่แปลออกมาได้ว่า...มันคืออะไร...
“ไม่กินหรอ”ชั้นพูดยิ้มๆ
“นี่มันอะไรเนี่ย”ตาบ้านั่นเงยหน้าขึ้นมาถามชั้น มือก็ถือช้อน ตักข้าวต้มขึ้น แล้วก็เทออก
“เอ้า ก็ข้าวต้มไง ดูน่ากินดีออก สูตรเด็ดเลยนะ (ข้าวต้มสยบหมา(ในปาก))”ชั้นยิงฟันให้หมอนั่น
“แล้วไมมันดำเงี้ย”หมอนั่นทำหน้าเหยเก แล้วก็ตักข้าวต้มขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็เทออก
“ผสมช็อกโกแล็ตไง”ว่าไปนั่น
“ฮ้า ข้าวต้มบ้านไหน เค้าใส่ช็อกโกแล็ตเล่า”หมอนั่นถามอีก พร้อมกับตักข้าวต้มขึ้นอีกครั้ง ยกขึ้นเหมือนจะกิน แล้วก็เทออก ...--*-- ชั้นเริ่มโมโหแล้วนะ เมื่อไหร่จะกินซักทียะ
“ก็สูตรเด็ดไง”ชั้นเริ่มกัดฟันแน่น ด้วยความลุ้นกึ่งรำคาญ
“ทำไงอ้ะ”ถามต่อ สีหน้าหมอนั่นเริ่มมีรอยยิ้มกวนประสาทชั้นอีกครั้ง ฮึ่ย มันอยากตายนักใช่มั้ย “ไมเอาละ ไม่กินดีกว่า”หมอนั่นพูด ขึ้นมา แล้ววางช้อนลง ... ไม่กิน ไม่กินงั้นเร้ออ
“แค่ข้าวต้มถ้วยเดียวทำไมไม่กินฮ้า ตาบ้า ทำให้กินก็กินเข้าไปซี่ แค่ตักขึ้นมาแล้วก็เอาใส่ปากอย่างเงี้ย”ว่าแล้วชั้นก็ยัดข้าวต้มเข้าปากตัวเองด้วยอารมณ์เดือดดาล แต่แล้ว.........
“ก๊ากกกกก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮึกๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”หมอนั่นหัวเราะซะจนน่าหมั่นไส้ --*-- อี๋ให้ตายเถอะ รสชาติข้าวต้มนั่นยังติดปากอยู่เลย แหวะ  อยากจะอ๊วกออกมาอีกซักรอบ ส่วนอีตาบ้านี่ ก็หัวเราะไม่ยอมหยุด --*--
“เงียบเดี๋ยวนี้นะ”ชั้นแหวลั่น
“หือ ฮะๆๆ ทำไมชั้นต้องหยุดด้วยล่ะ ก็เธอน่ะ ก๊ากกกกก”
“อี.. อีตาบ้า.. จำไว้เลยนะ ชั้นจะเอาคืนให้ได้เลยคอยดู!!!”แล้วชั้นก็กระแทกส้นเดินนำหมอนั่นไปทันที ทำไมชั้นต้องมาเจอหมอนี่ด้วยนะ ให้ตายเถอะ ทำไมชั้นต้องมาเป็นคนใช้อีตาโรคจิตนี่ด้วย!!
ชั้นเดินนำมาได้ซักพัก ก็รู้สึกโล่งๆ เหมือนเสียงของหมอนั่นจะหายไปซะเฉยๆ จึงตัดสินใจหันกลับไปดูซักหน่อย เผื่อจะเห็นอีตาบ้า มันแบนคาพื้นถนน แต่กลับว่างเปล่า หมอนั่นหายไปแล้ว... อืม.. ก็ดี ชั้นคิดแล้วก็ก้าวต่อไป
ปึก
“โอ๊ย”ชั้นร้องขึ้นมาทันที เมื่อชนเข้ากับบางอย่างตรงหน้า ชั้นเงยหน้าขึ้น ก็พบกับอีตาโรคจิต ที่ยืนอยู่ข้างหน้าแล้ว “ทำไรยะ ถอยไป ชั้นจะไปเรียนแล้ว”
“ไม่ล่ะ วันนี้ขี้เกียจไปทำอย่างอื่นกันดีกว่า”หมอนั่นยิ้มอย่างนึกสนุก
“ว่าไงนะ ไม่ได้เด็ดขาด ชั้นเป็นรองประธานนักเรียนนะ ยังไงก็ต้องไป”ชั้นเริ่มขึ้นเสียงหน่อยๆ
“งั้นหรอ ไม่สน เธอเป็นคนใช้ ก็ต้องไปกับเจ้านาย”ว่าแล้วหมอนั่นก็ลากแขนชั้น ออกจากเส้นทางที่มุ่งสู่โรงเรียนทันที
“ไม่ได้นะ อีตาบ้า อีตาโรคจิต จะไปไหนก็ไปซี่ ปล่อยชั้นน้า”ชั้นร้องดังลั่น จนคนเกือบทั้งถนนหันมามองเป็นตาเดียว ....-- -- นั่นไงล่ะ ซวยแล้ว
“เห็นมะ ทำตัวให้มันดีดี ก็ไม่เป็นเรื่องแล้ว”หมอนั่นหันมายิ้มกวนประสาทอีกรอบ ฮึ่ย ชั้นไม่ยอมหรอก
“ช่วยด้วยย มีคนโรคจิตจะฉุดชั้น.. ช่วยด้วยค่า”ชั้นตะโกนโหวกเหวกพยายาม สะบัดแขนเต็มที่ให้หลุดจากการเกาะกุมของ อีตาโรคจิต
“เธอนี่มัน...”หมอนั่นจะหันมาต่อว่าชั้น แต่แล้ว ก็มีมือหนักวางลงบนบ่าของอีตาซาคานิวะ
“ปล่อยเธอไปซะ”ชายหนุ่มหน้าตาดี กึ่งจะหล่อเหลาพูดขึ้น ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น