ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 : ความทรงจำ. . .
.. .แผ่นหินสีเทาหม่น โผล่พ้นเหนือพื้นดิน. ..
..ลายเส้นสีดำที่เกิดจากการสลัก แผ่นหิน ตัดผ่านกันเป็นตัวหนังสือ..
.. .บ่งบอกนามของใครคนหนึ่งที่ได้หันหลังให้กับการใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์โดยสมบูรณ์. ..
..ทิ้งใครบางคนไว้. .. ให้เธอได้หันมองจากบนฟ้าไกล..
...........นานาฮาระ มิซาเอะ..........
...............ชาตะ 14 ก.พ. 60...............
............มรณะ 23 มิ.ย. 97..............
ณ เวลานี้ เด็กหญิงตัวเล็ก ยกมือขึ้นแนบอก มือน้อยๆของเธอสั่นเทา แต่ดวงตาของเธอยังคงทอประกาย จับจ้องที่แผ่นหิน ราวกับเห็นแม่ของเธออย่างไรอย่างนั้น แต่แล้วดวงตาของเธอก็เริ่มสั่นระริก เมื่อความทรงจำเริ่มหวนกลับมา เธอปิด เปลือกตาลง เพื่อกลั้นน้ำใสๆ ไม่ให้ไหลออกมา
//ไม่ร้องไห้สิจ๊ะ ลูกจะต้องเข้มแข็งนะ//
//ริโอะกลัว ริโอะไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว ริโอะไม่ชอบคาซึคุง//
//ไม่เอาสิจ๊ะ หนูจะต้องเข้มแข็งนะ เผื่อเวลาที่แม่ไม่อยู่...//
//แม่จะไปไหนคะ//
//.. ... .ไปเยี่ยมพ่อไง พ่ออยู่คนเดียวมานานแล้วนะ คงคิดถึงแม่แย่แล้ว//
//ให้ริโอะไปด้วยได้มั้ยคะ//
//อืมมม ถ้าถึงเวลาลูกจะได้ไปแน่จะ เอาอย่างนี้.. .... นี่.//
//ผีเสื้อ//
//ใช่จะ ผีเสื้อ สวยใช่มั้ย ปีกผีเสื้อบอบบางมากนะ แต่มันก็ยังทะยานไปในอากาศได้อย่างมั่นคง มันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ แต่ก็มีความสำคัญต่อธรรมชาติ ถึงมันจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ถ้าขาดมันล่ะก็ ทุ่งดอกไม้คงไม่สวยเหมือนอย่างที่เห็นแน่ . .. แม่ให้หนูนะริโอะ //
//สวยจังเลยค่ะแม่//
//ซักวันลูกจะมีปีกที่สวยงามอย่างผีเสื้อ และโบยบินได้อย่างมั่นคงจะ//
//แล้วเมื่อถึงเวลา หนูจะใช้ปีกผีเสื้อบินขึ้นไปหาพ่อกับแม่บนนู้นนะคะ//
//.. .. . . จะ... แล้วแม่จะคอยมองลูกจากบนนั้นนะจ๊ะ//
บรรยากาศยังคงเงียบเหงา แม่จากไปแล้ว จากไปเมื่อเด็กหญิงยังคงมีอายุเพียง 5 ปีเท่านั้น ทั้งพ่อ และ..แม่......... จะไม่ร้องไห้ เป็นคำสัญญาที่เธอเชื่อฟังมาเสมอ เธอจะเข้มแข็ง และยืนหยัดอย่างปกติ เพื่อทำตามสิ่งที่เคยพูดกับแม่ไว้ ซักวัน เธอจะใช้ปีกผีเสื้อนั้น บินขึ้นไป.... อย่างมั่นคง เด็กหญิงยกมือขึ้นสัมผัสสร้อยคอ ผีเสื้อสีทอง และปีกที่ประดับด้วยเพชรพลอยหลากสี สะท้อนรับแสงอาทิตย์ยามเย็น
"เธอคงยังเด็กสินะ เลยยังไม่รู้ว่าแม่ตัวเองตายแล้ว"
"น่าสงสารนะ ตัวแค่นี้ พ่อแม่ก็ตายซะแล้ว"
"มิซาเอะก็น้า ดันมีลูกตอนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง"
"แล้วนี่ ใครรับเลี้ยงริโอะต่อล่ะ"
"ยูจิน่ะ เห็นว่างั้น"
/ / / / / / / / / /
"แม่จ๋า แม่ไปแล้วจิงๆหรอ แม่ไปหาพ่อแล้วหรอ ริโอะยังไม่ได้บอกลาเลย"
เด็กหญิงนั่งลงริมลำธารใส ข้างสุสานขนาดใหญ่ที่พึ่งจบพิธีไป แขกเหรื่อก็เริ่มกลับกันแล้ว เธอจึงมาที่นี่ ที่ที่สงบเงียบเช่นนี้ สนามหญ้าสีเขียวสด กับลำธารใส ผีเสื้อหลากสี กำลังบินล้อลมอยู่อีกฝั่งของลำธาร
"แล้วเมื่อไหร่ ริโอะจะได้ปีกผีเสื้อมาล่ะคะ ริโอะอยากไปหาแม่แล้ว"
เด็กหญิงละสายตาจากผีเสื้อที่กำลังโบยบิน เงยหน้าขึ้นบนฟากฟ้าที่เริ่มประดับด้วยสีม่วง
"... . . .. .. .."
กร๊อบ
เสียงไม้หักทำให้เด็กหญิงสะดุ้งสุดตัว น้ำตาหยาดแรกที่กำลังไหลรินเหือดหายไปในทันที
"ใครน่ะ"
เด็กหญิงถาม ขึ้น แต่สิ่งที่เธอเห็น มีเพียงเงาวูบเดียวที่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งไม่ไกลนัก แล้วบรรยากาศก็กลับมาเงียบเชียบอีกครั้ง
"ไงจ๊ะ ริโอะจัง"เสียงชายหนุ่มดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของชายคนหนึ่ง ด้วยสีหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม กับใบหน้าที่แฝงความอบอุ่น กับคำพูดที่คุ้นเคย เด็กหญิงถอนหายใจเบาๆ รู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด
"เมื่อไหร่ริโอะจะได้ไปหาแม่คะ"
"........ .."
"ถ้ามีปีกผีเสื้อ ริโอะจะไปหาแม่ได้"
เด็กหญิงพูดพลางยกมือขึ้น ข้างลำตัว ราวกับเธอมีปีกนั่นแล้ว
"อีกไม่นานหรอกจะ เอาล่ะ ไปกันเถอะ ไปบ้านใหม่ของเรากัน"
ชายท่าทางใจดี จับมือน้อยๆของเด็กหญิงให้ลุกขึ้น แล้วพาออกไป จากสวนใหญ่แห่งนั้น เมื่อร่างของเด็กหญิงผ่านต้นไม้ต้นหนึ่งไป เงาของใครบางคนก็ปรากฏขึ้น สายตาคู่นั้นกำลังจับจ้องเด็กหญิงที่เดินจากไป.. ... .
/ / / / / / / / / /
"อย่านะ อย่าเอาไปนะ อย่าเอาผีเสื้อของริโอะไป"
เด็กหญิงร้องครวญคราง เธอคว้าหมับเข้าที่ผีเสื้อสีทองแน่น เพื่อแย่งกลับจากเด็กชาย คนหนึ่ง แต่เพราะยังมีเด็กชายอีก 2 คน คอยขัดขวาง เธอจึงทำได้เพียงรั้งไว้เท่านั้น
"เอาน่า แค่ขอยืมเอง ไว้เพื่อนชั้นมาก่อนค่อยว่ากัน"
เด็กหนุ่มพูดพลางดึงสร้อยคอออกจากมือของเด็กหญิง
"ว่าแต่ ทาคุนี่ช้าจริงเลย"
"เอาน่าเดี๋ยวมันก็มา เฮ่ย ปล่อยซะทีสิ แค่สร้อยเส้นเดียวมันจะสำคัญอะไรนักหนา"
"สำคัญ สำคัญสิ สำคัญที่สุด เอาคืนมาเถอะ ริโอะขอร้อง"
ดวงตาของเธอเริ่มปรากฏน้ำใสๆออกมาทันที รู้สึกเจ็บไปทั้งตัว กับการขืนตัวจากการเกาะกุมของเด็กชาย 2 คน แต่จะไม่ยอม ไม่ยอมเสียสร้อยเส้นนั้นไป
แกร๊ก
สิ้นเสียงปีกผีเสื้อก็ร่วงลงสู่พื้น.
"หะ ปีกหักซะแล้ว แย่จิง เอาคืนไปเลย"
เด็กหนุ่มปล่อยสร้อยเส้นนั้น ทันที
"ไปเหอะ เบื่อจริง ไปรอทาคุดีกว่า"
ว่าแล้ว เด็กหนุ่มทั้ง 3 คนก็เดินจากไปทันที เหลือเพียงเด็กหญิงที่ทรุดลงนั่งอยู่ที่เดิม ตรงหน้าของเธอยังมีสร้อยคอและผีเสื้อปีกหัก ปีกผีเสื้อหักแล้ว เสียงเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ตอนนี้ คือ เธอจะไม่มีวันได้บินไปหาแม่แล้วใช่มั้ย และนี่เป็นครั้งแรก ที่เธอผิดคำสัญญา คำสัญญาที่ว่าจะเข้มแข็ง แต่ตอนนี้ หยาดน้ำใสๆไม่เชื่อฟังเธอเลย..
"เฮ่ย ทำไรอยู่ หลบหน่อยดิ๊"
น้ำเสียงเอาแต่ใจของเด็กชายคนหนึ่งทำให้เธอผวา เด็กหญิงคว้าสร้อยขึ้นมากำในมือ ราวกับกลัวว่าเขาจะมาฉกไป เด็กชายเดินมาตรงหน้าเธอแล้วนั่งลง
"เธอ"
เค้าก้มมองเด็กหญิงที่ยังคงก้มหน้านิ่ง มือน้อยยังคงกำสร้อยเส้นนั้นไว้จนมิด แนบมันไว้กับอก ตัวของเธอสั่นน้อยๆตามแรงสะอื้น
"นานาฮาระ"
เด็กชายพูดขึ้น เด็กหญิงนิ่งไปพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตา ดวงตาที่ฉายแววกระด้างเอาแต่ใจ กำลังจ้องมาที่ใบหน้าของเด็กหญิง
"ร้องไห้ทำไม"
น้ำเสียงของเด็กชายแข็งขึ้นมันชวนให้เธอรู้สึกแปลกใจ แต่ปากของเธอก็ไม่ขยับซักน้อย เธอได้แต่เพียงส่ายหน้า แต่แล้ว น้ำสีแดงสด ก็ซึมออกจากมือหยดแหมะลงบนพื้นทราย เด็กชายคว้ามือของเด็กหญิงทันที ถึงแม้เธอจะขืนไว้เท่าไหร่ก็ไม่สามารถทานแรงของเด็กชายได้เลย เมื่อฝ่ามือน้อยๆถูกบังคับให้แบออก สร้อยคอกับผีเสื้อสีทองที่บัดนี้รอยปีกที่หักไปกลายเป็น เสี้ยวแหลมคมฝังเนื้อของเด็กหญิง เลือดยังคงซึมออกมาเรื่อยๆ
"ยัยบ๊อง ใครเค้าให้กำของแตกแน่นๆเล่า"
เด็กชายกำลังเอื้อมมือไปหยิบผีเสื้อที่ตอนนี้เปื้อนเลือดแดงฉาน
"อย่านะ อย่าเอาไป อย่าเอาผีเสื้อของแม่ริโอะไป"
เด็กชายจ้องมองแววตาที่สั่นระริกของเด็กหญิงอีกครั้ง แววตาของเค้ามีแววตื่นเล็กน้อยให้ได้สังเกตเห็น
"ใครทำ"
เด็กชายถามขึ้น แต่เด็กหญิงก็ไม่มีทีท่าจะตอบ เธอเพียงแต่สายหน้าไปมา ราวกับยังกลัว
"บอกชั้น"
น้ำเสียงของเด็กหนุ่มแฝงความอบอุ่นอยู่ลึกๆ เด็กหญิงจ้องมองดวงตาที่กระด้างเอาแต่ใจนั้นอีกครั้ง ก่อนจะขยับริมฝีปากช้าๆ
"ริโอะไม่รู้ เค้ามีกัน 3 คน บอกว่ามารอคนที่ชื่อ ทาคุ"
เพียงเท่านั้น ดวงตาที่กระด้างเอาแต่ใจ ก็เหมือนกับแข็งกร้าวขึ้นมาทันที เค้าคว้าสร้อยคอออกจากมือของ เด็กหญิง ดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋า แล้วพันแปลกๆรอบฝ่ามือของเธอ
"มันช่วยหยุดเลือดได้ พ่อชั้นเคยทำ เธอกลับบ้านไปนะ ส่วนนี่"
เด็กหนุ่มยกสร้อยผีเสื้อของเธอขึ้นมา
"ชั้นขอ"
แล้วเด็กหนุ่มก็วิ่งจากไปทันที
"ไม่นะ อย่าเอาสร้อยของ ริโอะไป ไม่นะ ไม่"
"ริโอะ!!!"
เสียงที่ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้งสุดตัว พาให้สติหลุดออกมาจากความฝัน..... ฝันเมื่อ 10 ปีก่อน
"แก่แล้วยังจะมาฝันร้ายแล้วร้องโวยวายเป็นเด็กๆไปได้"
"โธ่ อายูจิก็"
หญิงสาวถอนหายใจ เฮือกใหญ่ เธอขยี้ตาหน่อยๆ ก่อนจะยืดแขนบิดขี้เกียจ ที่คอของเธอยังคงมีสร้อยเส้นหนึ่งอยู่เพียงแต่ มันไม่ใช่ผีเสื้อ เธอยกมือขึ้นสัมผัส มันเป็นเพียงรูปดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่เธอได้จากเพื่อนคนหนึ่ง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
"ฝันว่าอะไรล่ะ ร้องซะลั่นเลย"
"ไม่บอกหรอกค่ะ ความลับ"
หญิงสาวยิ้มใส ก่อนจะลุกขึ้นยืน
"งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ"
"รีบเลยล่ะ วันนี้เปิดเทอมวันแรกด้วย เดี๋ยวจะสาย"
"ค่า อายูจิ"
แล้วเธอก็เดินออกมาจากห้องนอน คว้าผ้าขนหนูผืนหนึ่งแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
/ / / / / / / / / /
-แปลกเหลือเกินนะ ที่อยู่ดีดี ดันมาเห็นเรื่องราวเมื่อ 10 ปีก่อน ทั้งที่มันออกจะเลือนรางขนาดนั้นแล้ว ทำไม ภาพที่เห็นถึงได้ชัดเจนนัก-
ซ่า ซ่า ซ่า -- -แอ๊ด-
ไอน้ำสีขาว ที่อบอวนในห้องน้ำ สร้างบรรยากาศอบอุ่นให้เช้าวันใหม่ที่เย็นยะเยือก ใบหน้าของเธอสะท้อนกับกระจกใส ที่เริ่มขึ้นฝ้าสีขาว
-จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้สร้อยเส้นนั้นคืนมาเลย-
เธอยิ้มน้อยๆ ไม่รู้ทำไม ในใจลึกๆถึงได้รู้สึกอยากเจอเด็กชายคนนั้นนัก เค้าเป็นใครกันนะ ชื่อก็จำไม่ได้เลย เจ้าของดวงตาแข็งกร้าว เอาแต่ใจนั้น เป็นใครกัน แต่แล้วเธอก็ส่ายหน้ากับความคิดของตัวเอง
"ตั้ง 10 ปี เค้าคงไปอยู่อเมริกาแล้วมั้ง"
/ / / / / / / / / /
"หนูไปนะคะ อายูจิ"
เด็กสาวพูดเสียงดัง
"อื้ม โชคดีนะ ริโอะ ข้าวกล่องเอาไปยังล่ะ"
"เอาแล้วค่ะ วันนี้หนูกลับเองนะคะ"
"น่ะ"
แล้วชายวัยกลางคนก็ชะโงกหน้าออกมาจากห้องครัว
"เปิดเทอมวันแรกจะไปเที่ยวกับเพื่อนล่ะสิ"
"ก็. .. ."
"ตามใจ แต่อย่ากลับค่ำล่ะ"
"ค่า อายูจิ ไปละค่ะ"
แล้วเธอก็เดินออกจากบ้านหลังเล็กๆ ที่เธอใช้ชีวิตอยู่หลังจากที่แม่ของเธอจากไป บ้านเล็กๆที่อยู่ติดกับป่า บรรยากาศยามเช้า จึงสวยงามเป็นที่สุด น้ำค้างยังคงเกาะยอดหญ้า นกน้อยกำลังขานบทเพลง พระอาทิตย์เปล่งแสงสีทองฉาบให้ท้องฟ้าดูราวกับทะเลสีส้มที่ไม่มีจุดสิ้นสุด หญิงสาวฮำเพลงเบาๆอย่างมีความสุข ในใจก็พลันนึกถึงความฝันอีกครั้ง
-จะว่าไป นั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เราร้องไห้สินะ ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าเราที่ห้าวๆตอนนี้ เมื่อ 10 ปีก่อนจะบ่อน้ำตาแตกง่าย-
เธอคิดไปก็ยิ้มไป จนในที่สุดก็มาถึง ป้ายรถเมล์ ปกติเธอต้องใช้เวลารอรถประมาณ 20 นาที เพราะเขตที่เธออยู่ก็นับว่ากึ่งชนบท การเดินทางจึงไม่สะดวกสบายอย่างในเมืองมากนัก
เอี๊ยดดด
ในที่สุดรถเมล์สายแรกของวันก็มาจอดเทียบ อีกไม่นานเกินรอ เปิดเทอมวันแรก ณ โรงเรียนแห่งใหม่ ก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว...
--End Chapter 1--
เรื่องราววุ่นๆในรั้วโรงเรียนกำลังเริ่มต้นขึ้น
อดีตที่ถูกรื้อฟื้นจะมี ปริศนาอะไรซ่อนอยู่รึไม่
ติดตามตอนต่อไปด้วยนะค้า .. . .
~~l-l.i.l<.a.l2.u.~~
..ลายเส้นสีดำที่เกิดจากการสลัก แผ่นหิน ตัดผ่านกันเป็นตัวหนังสือ..
.. .บ่งบอกนามของใครคนหนึ่งที่ได้หันหลังให้กับการใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์โดยสมบูรณ์. ..
..ทิ้งใครบางคนไว้. .. ให้เธอได้หันมองจากบนฟ้าไกล..
...........นานาฮาระ มิซาเอะ..........
...............ชาตะ 14 ก.พ. 60...............
............มรณะ 23 มิ.ย. 97..............
ณ เวลานี้ เด็กหญิงตัวเล็ก ยกมือขึ้นแนบอก มือน้อยๆของเธอสั่นเทา แต่ดวงตาของเธอยังคงทอประกาย จับจ้องที่แผ่นหิน ราวกับเห็นแม่ของเธออย่างไรอย่างนั้น แต่แล้วดวงตาของเธอก็เริ่มสั่นระริก เมื่อความทรงจำเริ่มหวนกลับมา เธอปิด เปลือกตาลง เพื่อกลั้นน้ำใสๆ ไม่ให้ไหลออกมา
//ไม่ร้องไห้สิจ๊ะ ลูกจะต้องเข้มแข็งนะ//
//ริโอะกลัว ริโอะไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว ริโอะไม่ชอบคาซึคุง//
//ไม่เอาสิจ๊ะ หนูจะต้องเข้มแข็งนะ เผื่อเวลาที่แม่ไม่อยู่...//
//แม่จะไปไหนคะ//
//.. ... .ไปเยี่ยมพ่อไง พ่ออยู่คนเดียวมานานแล้วนะ คงคิดถึงแม่แย่แล้ว//
//ให้ริโอะไปด้วยได้มั้ยคะ//
//อืมมม ถ้าถึงเวลาลูกจะได้ไปแน่จะ เอาอย่างนี้.. .... นี่.//
//ผีเสื้อ//
//ใช่จะ ผีเสื้อ สวยใช่มั้ย ปีกผีเสื้อบอบบางมากนะ แต่มันก็ยังทะยานไปในอากาศได้อย่างมั่นคง มันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ แต่ก็มีความสำคัญต่อธรรมชาติ ถึงมันจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ถ้าขาดมันล่ะก็ ทุ่งดอกไม้คงไม่สวยเหมือนอย่างที่เห็นแน่ . .. แม่ให้หนูนะริโอะ //
//สวยจังเลยค่ะแม่//
//ซักวันลูกจะมีปีกที่สวยงามอย่างผีเสื้อ และโบยบินได้อย่างมั่นคงจะ//
//แล้วเมื่อถึงเวลา หนูจะใช้ปีกผีเสื้อบินขึ้นไปหาพ่อกับแม่บนนู้นนะคะ//
//.. .. . . จะ... แล้วแม่จะคอยมองลูกจากบนนั้นนะจ๊ะ//
บรรยากาศยังคงเงียบเหงา แม่จากไปแล้ว จากไปเมื่อเด็กหญิงยังคงมีอายุเพียง 5 ปีเท่านั้น ทั้งพ่อ และ..แม่......... จะไม่ร้องไห้ เป็นคำสัญญาที่เธอเชื่อฟังมาเสมอ เธอจะเข้มแข็ง และยืนหยัดอย่างปกติ เพื่อทำตามสิ่งที่เคยพูดกับแม่ไว้ ซักวัน เธอจะใช้ปีกผีเสื้อนั้น บินขึ้นไป.... อย่างมั่นคง เด็กหญิงยกมือขึ้นสัมผัสสร้อยคอ ผีเสื้อสีทอง และปีกที่ประดับด้วยเพชรพลอยหลากสี สะท้อนรับแสงอาทิตย์ยามเย็น
"เธอคงยังเด็กสินะ เลยยังไม่รู้ว่าแม่ตัวเองตายแล้ว"
"น่าสงสารนะ ตัวแค่นี้ พ่อแม่ก็ตายซะแล้ว"
"มิซาเอะก็น้า ดันมีลูกตอนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง"
"แล้วนี่ ใครรับเลี้ยงริโอะต่อล่ะ"
"ยูจิน่ะ เห็นว่างั้น"
/ / / / / / / / / /
"แม่จ๋า แม่ไปแล้วจิงๆหรอ แม่ไปหาพ่อแล้วหรอ ริโอะยังไม่ได้บอกลาเลย"
เด็กหญิงนั่งลงริมลำธารใส ข้างสุสานขนาดใหญ่ที่พึ่งจบพิธีไป แขกเหรื่อก็เริ่มกลับกันแล้ว เธอจึงมาที่นี่ ที่ที่สงบเงียบเช่นนี้ สนามหญ้าสีเขียวสด กับลำธารใส ผีเสื้อหลากสี กำลังบินล้อลมอยู่อีกฝั่งของลำธาร
"แล้วเมื่อไหร่ ริโอะจะได้ปีกผีเสื้อมาล่ะคะ ริโอะอยากไปหาแม่แล้ว"
เด็กหญิงละสายตาจากผีเสื้อที่กำลังโบยบิน เงยหน้าขึ้นบนฟากฟ้าที่เริ่มประดับด้วยสีม่วง
"... . . .. .. .."
กร๊อบ
เสียงไม้หักทำให้เด็กหญิงสะดุ้งสุดตัว น้ำตาหยาดแรกที่กำลังไหลรินเหือดหายไปในทันที
"ใครน่ะ"
เด็กหญิงถาม ขึ้น แต่สิ่งที่เธอเห็น มีเพียงเงาวูบเดียวที่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งไม่ไกลนัก แล้วบรรยากาศก็กลับมาเงียบเชียบอีกครั้ง
"ไงจ๊ะ ริโอะจัง"เสียงชายหนุ่มดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของชายคนหนึ่ง ด้วยสีหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม กับใบหน้าที่แฝงความอบอุ่น กับคำพูดที่คุ้นเคย เด็กหญิงถอนหายใจเบาๆ รู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด
"เมื่อไหร่ริโอะจะได้ไปหาแม่คะ"
"........ .."
"ถ้ามีปีกผีเสื้อ ริโอะจะไปหาแม่ได้"
เด็กหญิงพูดพลางยกมือขึ้น ข้างลำตัว ราวกับเธอมีปีกนั่นแล้ว
"อีกไม่นานหรอกจะ เอาล่ะ ไปกันเถอะ ไปบ้านใหม่ของเรากัน"
ชายท่าทางใจดี จับมือน้อยๆของเด็กหญิงให้ลุกขึ้น แล้วพาออกไป จากสวนใหญ่แห่งนั้น เมื่อร่างของเด็กหญิงผ่านต้นไม้ต้นหนึ่งไป เงาของใครบางคนก็ปรากฏขึ้น สายตาคู่นั้นกำลังจับจ้องเด็กหญิงที่เดินจากไป.. ... .
/ / / / / / / / / /
"อย่านะ อย่าเอาไปนะ อย่าเอาผีเสื้อของริโอะไป"
เด็กหญิงร้องครวญคราง เธอคว้าหมับเข้าที่ผีเสื้อสีทองแน่น เพื่อแย่งกลับจากเด็กชาย คนหนึ่ง แต่เพราะยังมีเด็กชายอีก 2 คน คอยขัดขวาง เธอจึงทำได้เพียงรั้งไว้เท่านั้น
"เอาน่า แค่ขอยืมเอง ไว้เพื่อนชั้นมาก่อนค่อยว่ากัน"
เด็กหนุ่มพูดพลางดึงสร้อยคอออกจากมือของเด็กหญิง
"ว่าแต่ ทาคุนี่ช้าจริงเลย"
"เอาน่าเดี๋ยวมันก็มา เฮ่ย ปล่อยซะทีสิ แค่สร้อยเส้นเดียวมันจะสำคัญอะไรนักหนา"
"สำคัญ สำคัญสิ สำคัญที่สุด เอาคืนมาเถอะ ริโอะขอร้อง"
ดวงตาของเธอเริ่มปรากฏน้ำใสๆออกมาทันที รู้สึกเจ็บไปทั้งตัว กับการขืนตัวจากการเกาะกุมของเด็กชาย 2 คน แต่จะไม่ยอม ไม่ยอมเสียสร้อยเส้นนั้นไป
แกร๊ก
สิ้นเสียงปีกผีเสื้อก็ร่วงลงสู่พื้น.
"หะ ปีกหักซะแล้ว แย่จิง เอาคืนไปเลย"
เด็กหนุ่มปล่อยสร้อยเส้นนั้น ทันที
"ไปเหอะ เบื่อจริง ไปรอทาคุดีกว่า"
ว่าแล้ว เด็กหนุ่มทั้ง 3 คนก็เดินจากไปทันที เหลือเพียงเด็กหญิงที่ทรุดลงนั่งอยู่ที่เดิม ตรงหน้าของเธอยังมีสร้อยคอและผีเสื้อปีกหัก ปีกผีเสื้อหักแล้ว เสียงเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ตอนนี้ คือ เธอจะไม่มีวันได้บินไปหาแม่แล้วใช่มั้ย และนี่เป็นครั้งแรก ที่เธอผิดคำสัญญา คำสัญญาที่ว่าจะเข้มแข็ง แต่ตอนนี้ หยาดน้ำใสๆไม่เชื่อฟังเธอเลย..
"เฮ่ย ทำไรอยู่ หลบหน่อยดิ๊"
น้ำเสียงเอาแต่ใจของเด็กชายคนหนึ่งทำให้เธอผวา เด็กหญิงคว้าสร้อยขึ้นมากำในมือ ราวกับกลัวว่าเขาจะมาฉกไป เด็กชายเดินมาตรงหน้าเธอแล้วนั่งลง
"เธอ"
เค้าก้มมองเด็กหญิงที่ยังคงก้มหน้านิ่ง มือน้อยยังคงกำสร้อยเส้นนั้นไว้จนมิด แนบมันไว้กับอก ตัวของเธอสั่นน้อยๆตามแรงสะอื้น
"นานาฮาระ"
เด็กชายพูดขึ้น เด็กหญิงนิ่งไปพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตา ดวงตาที่ฉายแววกระด้างเอาแต่ใจ กำลังจ้องมาที่ใบหน้าของเด็กหญิง
"ร้องไห้ทำไม"
น้ำเสียงของเด็กชายแข็งขึ้นมันชวนให้เธอรู้สึกแปลกใจ แต่ปากของเธอก็ไม่ขยับซักน้อย เธอได้แต่เพียงส่ายหน้า แต่แล้ว น้ำสีแดงสด ก็ซึมออกจากมือหยดแหมะลงบนพื้นทราย เด็กชายคว้ามือของเด็กหญิงทันที ถึงแม้เธอจะขืนไว้เท่าไหร่ก็ไม่สามารถทานแรงของเด็กชายได้เลย เมื่อฝ่ามือน้อยๆถูกบังคับให้แบออก สร้อยคอกับผีเสื้อสีทองที่บัดนี้รอยปีกที่หักไปกลายเป็น เสี้ยวแหลมคมฝังเนื้อของเด็กหญิง เลือดยังคงซึมออกมาเรื่อยๆ
"ยัยบ๊อง ใครเค้าให้กำของแตกแน่นๆเล่า"
เด็กชายกำลังเอื้อมมือไปหยิบผีเสื้อที่ตอนนี้เปื้อนเลือดแดงฉาน
"อย่านะ อย่าเอาไป อย่าเอาผีเสื้อของแม่ริโอะไป"
เด็กชายจ้องมองแววตาที่สั่นระริกของเด็กหญิงอีกครั้ง แววตาของเค้ามีแววตื่นเล็กน้อยให้ได้สังเกตเห็น
"ใครทำ"
เด็กชายถามขึ้น แต่เด็กหญิงก็ไม่มีทีท่าจะตอบ เธอเพียงแต่สายหน้าไปมา ราวกับยังกลัว
"บอกชั้น"
น้ำเสียงของเด็กหนุ่มแฝงความอบอุ่นอยู่ลึกๆ เด็กหญิงจ้องมองดวงตาที่กระด้างเอาแต่ใจนั้นอีกครั้ง ก่อนจะขยับริมฝีปากช้าๆ
"ริโอะไม่รู้ เค้ามีกัน 3 คน บอกว่ามารอคนที่ชื่อ ทาคุ"
เพียงเท่านั้น ดวงตาที่กระด้างเอาแต่ใจ ก็เหมือนกับแข็งกร้าวขึ้นมาทันที เค้าคว้าสร้อยคอออกจากมือของ เด็กหญิง ดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋า แล้วพันแปลกๆรอบฝ่ามือของเธอ
"มันช่วยหยุดเลือดได้ พ่อชั้นเคยทำ เธอกลับบ้านไปนะ ส่วนนี่"
เด็กหนุ่มยกสร้อยผีเสื้อของเธอขึ้นมา
"ชั้นขอ"
แล้วเด็กหนุ่มก็วิ่งจากไปทันที
"ไม่นะ อย่าเอาสร้อยของ ริโอะไป ไม่นะ ไม่"
"ริโอะ!!!"
เสียงที่ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้งสุดตัว พาให้สติหลุดออกมาจากความฝัน..... ฝันเมื่อ 10 ปีก่อน
"แก่แล้วยังจะมาฝันร้ายแล้วร้องโวยวายเป็นเด็กๆไปได้"
"โธ่ อายูจิก็"
หญิงสาวถอนหายใจ เฮือกใหญ่ เธอขยี้ตาหน่อยๆ ก่อนจะยืดแขนบิดขี้เกียจ ที่คอของเธอยังคงมีสร้อยเส้นหนึ่งอยู่เพียงแต่ มันไม่ใช่ผีเสื้อ เธอยกมือขึ้นสัมผัส มันเป็นเพียงรูปดอกไม้ดอกเล็กๆ ที่เธอได้จากเพื่อนคนหนึ่ง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
"ฝันว่าอะไรล่ะ ร้องซะลั่นเลย"
"ไม่บอกหรอกค่ะ ความลับ"
หญิงสาวยิ้มใส ก่อนจะลุกขึ้นยืน
"งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ"
"รีบเลยล่ะ วันนี้เปิดเทอมวันแรกด้วย เดี๋ยวจะสาย"
"ค่า อายูจิ"
แล้วเธอก็เดินออกมาจากห้องนอน คว้าผ้าขนหนูผืนหนึ่งแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
/ / / / / / / / / /
-แปลกเหลือเกินนะ ที่อยู่ดีดี ดันมาเห็นเรื่องราวเมื่อ 10 ปีก่อน ทั้งที่มันออกจะเลือนรางขนาดนั้นแล้ว ทำไม ภาพที่เห็นถึงได้ชัดเจนนัก-
ซ่า ซ่า ซ่า -- -แอ๊ด-
ไอน้ำสีขาว ที่อบอวนในห้องน้ำ สร้างบรรยากาศอบอุ่นให้เช้าวันใหม่ที่เย็นยะเยือก ใบหน้าของเธอสะท้อนกับกระจกใส ที่เริ่มขึ้นฝ้าสีขาว
-จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้สร้อยเส้นนั้นคืนมาเลย-
เธอยิ้มน้อยๆ ไม่รู้ทำไม ในใจลึกๆถึงได้รู้สึกอยากเจอเด็กชายคนนั้นนัก เค้าเป็นใครกันนะ ชื่อก็จำไม่ได้เลย เจ้าของดวงตาแข็งกร้าว เอาแต่ใจนั้น เป็นใครกัน แต่แล้วเธอก็ส่ายหน้ากับความคิดของตัวเอง
"ตั้ง 10 ปี เค้าคงไปอยู่อเมริกาแล้วมั้ง"
/ / / / / / / / / /
"หนูไปนะคะ อายูจิ"
เด็กสาวพูดเสียงดัง
"อื้ม โชคดีนะ ริโอะ ข้าวกล่องเอาไปยังล่ะ"
"เอาแล้วค่ะ วันนี้หนูกลับเองนะคะ"
"น่ะ"
แล้วชายวัยกลางคนก็ชะโงกหน้าออกมาจากห้องครัว
"เปิดเทอมวันแรกจะไปเที่ยวกับเพื่อนล่ะสิ"
"ก็. .. ."
"ตามใจ แต่อย่ากลับค่ำล่ะ"
"ค่า อายูจิ ไปละค่ะ"
แล้วเธอก็เดินออกจากบ้านหลังเล็กๆ ที่เธอใช้ชีวิตอยู่หลังจากที่แม่ของเธอจากไป บ้านเล็กๆที่อยู่ติดกับป่า บรรยากาศยามเช้า จึงสวยงามเป็นที่สุด น้ำค้างยังคงเกาะยอดหญ้า นกน้อยกำลังขานบทเพลง พระอาทิตย์เปล่งแสงสีทองฉาบให้ท้องฟ้าดูราวกับทะเลสีส้มที่ไม่มีจุดสิ้นสุด หญิงสาวฮำเพลงเบาๆอย่างมีความสุข ในใจก็พลันนึกถึงความฝันอีกครั้ง
-จะว่าไป นั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เราร้องไห้สินะ ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าเราที่ห้าวๆตอนนี้ เมื่อ 10 ปีก่อนจะบ่อน้ำตาแตกง่าย-
เธอคิดไปก็ยิ้มไป จนในที่สุดก็มาถึง ป้ายรถเมล์ ปกติเธอต้องใช้เวลารอรถประมาณ 20 นาที เพราะเขตที่เธออยู่ก็นับว่ากึ่งชนบท การเดินทางจึงไม่สะดวกสบายอย่างในเมืองมากนัก
เอี๊ยดดด
ในที่สุดรถเมล์สายแรกของวันก็มาจอดเทียบ อีกไม่นานเกินรอ เปิดเทอมวันแรก ณ โรงเรียนแห่งใหม่ ก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว...
--End Chapter 1--
เรื่องราววุ่นๆในรั้วโรงเรียนกำลังเริ่มต้นขึ้น
อดีตที่ถูกรื้อฟื้นจะมี ปริศนาอะไรซ่อนอยู่รึไม่
ติดตามตอนต่อไปด้วยนะค้า .. . .
~~l-l.i.l<.a.l2.u.~~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น