ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สัญญารัก (THE PROMISE)

    ลำดับตอนที่ #4 : อดีต

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 50




    อาโลฮ่าอย่างเศร้าใจสุดๆ

       ถึงแม้คนอ่านจะน้อย แต่ข้าพเจ้าก็จะลองสู้ต่อไป

                                                          เอาวะ(ค่ะ)
                                                         OLAN


    ....................................................................................................................................





    "พายแน่ใจนะ ว่าจะไม่ไป" เสียงภัทรินทร์ที่ก้องอยู่ในหัว ถามอีกครั้งยามเลิกเรียนในตอนเย็น

     

    "แน่ใจภา พายไม่อยากเจอเขา" พิมลพัทธ์พูดอย่างแน่วแน่ ทั้งที่สายตาหวั่นไหว

     

    "เอาเถอะภา มันเป็นการตัดสินใจของพาย ยอมรับมันเถอะ เพราะถ้าเป็นพิม พิมก็คงไม่อยากเห็นหน้าพี่ภามอีกเหมือนกัน" แฝดน้องที่ยอมรับการตัดสินใจของเพื่อนอย่างเข้าใจ จับมือพี่สาวเหมือนห้ามไม่ให้พูดอะไรต่อไปอีก


    ภัทรินทร์พยักหน้ารับกับน้องสาว ก่อนที่จะหันไปบอกลาเพื่อนสาว


    "งั้นภากับพิมไปก่อนนะพาย รีบกลับนะ"


    "จ้ะ รีบไปเถอะ เดี๋ยวงานจะเริ่มเสียก่อน ฝากขอโทษพ่อใหญ่กับแม่ใหญ่ด้วยนะ" คนที่พิมลพัทธ์กล่าวถึงก็คือพ่อแม่ของฝาแฝดที่เปรียบเสมือนพ่อแม่คนหนึ่งของเธอเช่นกัน


    "จ้ะพาย กลับถึงบ้านแล้วโทรหาพวกเราด้วยละกัน"


    "อื้ม"


     
    หญิงสาวถอนใจเมื่อนึกถึงตัวเองที่ต้องมานั่งอยู่คนเดียวในยามเย็นเช่นนี้ แต่จะทำอย่าไรได้ ในเมื่อตัวเธอเองเป็นผู้เลือกที่จะไม่เจอเขา


    ภวินทร์ เกศพิทักษ์


    บุตรชายคนโตของเกศพิทักษ์ หรือที่เธอเคยเรียกว่าพี่ภามจนติดปากในวัยเด็ก


      
    ด้วยความที่บ้านเธอและบ้านเขาสนิทสนมกันมานาน กอปรกับลูกๆทุกคนก็มีอายุใกล้เคียงกัน จึงทำให้เด็กๆทั้งสองบ้านถูกเลี้ยงมาเยี่ยงพี่น้องคลานตามกันจนกระทั่งถูกพวกผู้ชายถูกส่งกระจายไปเรียนนอก จึงเงียบเหงาไปบ้าง


     
    พิมลพัทธ์เทียบได้กับน้องคนสุดท้องของทั้งสองบ้าน เพราะเกิดคนสุดท้าย ในขณะที่สองสาวฝาแฝดเกิดก่อนเพียงสามเดือน และสามหนุ่มที่มีอายุมากว่าถึงหกปี


     
    พิมพ์นารานั้นซุกซนมาตั้งแต่เด็กเข้าทีมกันได้ดีกับพี่ชายคนโตของเธอ..ภาสกร รวมถึงภัทรินทร์ที่อาจจะไม่ชอบกระโดกกระเดกนัก แต่ก็ตามฝาแฝดไปไม่มีบ่น จึงทำให้สุภาพบุรุษน้อยของบ้านหิรัญเวศย์..ภูมินทร์ต้องตามไปดูแล


     
    พิมลพัทธ์น้องน้อยสุดท้องที่อ่อนแอในวัยเยาว์จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ไปบุกน้ำลุยไฟกับสองคู่หูตัวป่วน...พิมแอนด์ภีม... แต่เธอก็ไม่เคยเหงาเพราะมีพี่ภาม


    ..พี่ภามที่บอกว่ารักน้องสาวคนนี้


    ..พี่ภามที่สัญญาว่าจะตามหาเธอทุกครั้ง ที่เธอหายไป


    ..น้องพาย ที่เป็นได้แค่เพียงน้องสาวของพี่ภาม


     
    พิมลพัทธ์พูดได้เต็มปากว่าเธอรักภวินทร์ เธออาจจะไม่รู้ตัวว่าความรักในวัยเด็กอย่างน้องสาวมีต่อพี่ชาย กลายมาเป็นหญิงสาวมีต่อชายหนุ่มเมื่อใด เธอรู้เพียงแต่..เมื่อเธอรู้สึกตัว สายตาเธอมองหาแต่เขา เธอห่วงหาแต่เขา เธออาวรณ์แต่เขา


    ..พี่ภามของน้องพาย


     
    ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของมัน พิมลพัทธ์พอใจกับการได้เป็นน้องสาวคนสำคัญของภวินทร์ดังเช่นภัทรินทร์และพิมพ์นารา พี่ภามของเธอเอาใจใส่น้องพายของเขาไม่เคยขาด อาจจะมากว่าน้องสาวของตัวเองเสียด้วยซ้ำ ในเมื่อเขาดูแลเธอเองกับมือมาตลอดตั้งแต่เด็ก


     
    พิมลพัทธ์คิดว่าเธอควรจะพอใจกับฐานะของตัวเองในตอนนั้น เธอคิดว่าเธอมีความสุขแล้วที่เขาให้ความสำคัญกับเธอ แม้จะเป็นแค่เพียงน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น


     
    ภัทรินทร์กับพิมพ์นารามารับรู้ว่าเธอชอบพี่ชายของทั้งคู่ก็เมื่อตอนพวกเธอกำลังจะขึ้นม.ปลาย ในขณะที่สามหนุ่มกำลังศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย ทุกอย่างดูลงตัว และเป็นไปได้ด้วยดี จนกระทั่ง...วันเกิดของภวินทร์เมื่อหกปีก่อน


      
    พิมลพัทธ์ในขณะนั้นพึ่งจะขึ้นม.ปลายเช่นเดียวกับภัทรินทร์และพิมพ์นารา หญิงสาวจำได้ว่าเธอเตรียมงานวันเกิดให้เขาด้วยความตั้งใจ รอคอยและคิดว่าจะเป็นวันสำคัญอีกวันที่มีความสุขของเขาและเธอเหมือนเช่นทุกปี...เพราะเขาเป็นคนสำคัญ


     
      แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเริ่มพังทลายลงไปต่อหน้าต่อตา จุดร้าวเริ่มเมื่อพี่ภามของเธอพาผู้หญิงคนหนึ่งมาร่วมงานวันเกิดของเขาด้วย ผู้หญิงหน้าตาสะสวย รูปร่างติดตา ที่สำคัญที่สุด เขาแนะนำกับทุกคนว่าผู้หญิงที่เขาพามาคือ..คนรัก


     
    เหมือนความรู้สึกเจ็บในครานั้นมันยังไม่เคยจางหายไป วันนั้นภัทรินทร์ยืนตัวสั่นเคียงข้างเธอไม่ไปไหน พิมพ์นาราจับมือเธอแน่นเพื่อถ่ายทอดกำลังใจ ทุกคนคิดว่าเธอจะร้องไห้


    ...แต่เปล่า เธอยิ้ม ยิ้มตลอดคืน


    ..เธอยิ้มได้ เมื่อเขามีความสุข


    ..เธอสุขด้วย


     
    หลังจากนั้นชีวิตเธอก็กลับเข้าสู่ความปกติ ทุกๆอย่างก็เหมือนเดิม...จริงหรือ
    ?


     
    ไม่สิ..ภวินทร์พาผู้หญิงของเขาเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตของทุกคนมากขึ้นต่างหาก จากที่เคยมีเพียงพี่ภามและน้องพาย กลับมีชื่อใครอีกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง....รตา


     
    กันย์รตา เสนารักษ์ซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงนางแบบหน้าใหม่ของวงการแฟชั่นกันย์รตา เรียนที่เดียวกับภวินทร์เพียงแต่คนละคณะ ทั้งคู่บอกว่าเริ่มคบหากันมาได้ปีกว่า


    ..ปีกว่าที่เธอพลาดไป ตอนไหน
    ?


     
    แต่ช่างมัน
    ! พิมลพัทธ์คิดอย่างเข้าใจ ถ้าภวินทร์มีความสุข เธอก็มีความสุขเช่นกัน เธอเรียกขาน..พี่รตา..อย่างจริงใจจนพิพ์นาราเคยถามเธอ


    "พาย พายทนได้หรือ"


    "ได้สิพิม ขอเพียงพี่ภามมีความสุข พายก็มีความสุขเช่นกัน" นั่นเป็นประโยคที่เธอตอบตัวเอง และคนอื่นซ้ำๆ


    เธอรับได้  เพราะพี่รตา..ของพี่ภามอ่อนหวาน ช่างเอาใจกับทุกคนผิดกับบุคลิกที่เซ็กซี่เย้ายวน มั่นใจในตัวเอง พวกเขาเหมาะสมกัน


    .. แต่นั้นแค่เพียงช่วงแรก


     
    เมื่อพี่รตาของเธอ สามารถแทรกตัวเองจนเป็นส่วนหนึ่งของทุกคนได้อย่างไม่ขัดเขิน สายตาแปลกๆยามพิมลพัทธ์อยู่กับภวินทร์ก็เกิดขึ้น ต่อหน้าพี่ภามพี่รตาก้คือคนเดิมที่เคยมาแนะนำตัวในวันแรก


    ..แต่ยามพี่ภามไม่อยู่ตรงนั้น พี่รตาก็เปลี่ยนไป


    คำพูดแปลกๆที่เธอไม่เข้าใจมีออกมาบ่อยๆ


    "น้องพายไม่ไปไหนหรือคะ ถึงมาหาภามบ่อยๆ"


    "น้องพายมาทำอะไรที่นี่อีกแล้วคะ"


    "พี่ภามเขาก็บ่นกับพี่บ่อยๆ ว่าไม่อยากเลี้ยงเด็ก"


     
    และอื่นๆอีกมากมายที่จะสามารถทำลายความรู้สึกเธอได้อย่างเลือดเย็น พิมลพัทธ์ในตอนนั้นเชื่อคำพูดของกันย์รตาทุกๆคำ เชื่อ...เชื่อว่าพี่ภามอยากให้เธอออกห่างจากเขาบ้าง


    ทั้งที่ลึกๆ เธออยากให้เป็นเรื่องโกหก จนกระทั่งวันหนึ่งเธอแอบได้ยินคำพูดที่ออกจากปากเขาเอง...พี่ภามของเธอ


    "ภามอยู่กับน้องพายมากจัง ไม่เบื่อหรือคะที่ต้องดูแลน้องพายตลอด" เสียงกันย์รตาเอ่ยถามอยู่หลังบานประตูที่เพียงแค่เปิดออกไป ก็จะเห็นหน้า..พี่ภาม


    "หึ ก็นะ ผมอยู่กับพายมากไปจริงๆอย่างที่คุณพูดนั้นแหละ" เสียงนุ่มของภวินทร์ลอยมา


    ...เขารู้สึกว่าอยู่กับเธอมากไป


     
    พิมลพัทธ์จำได้แค่ว่าน้ำตาเท่านั้นที่เป็นเพื่อนเธอ เด็กสาววัยสิบหกปีที่ฟังเพียงจบประโยคนั้นก็วิ่งหนีออกมาทันที ฉับพลันเหมือนเด็กสาวพึ่งจะรู้สึกตัว


    ...เขาอาจจะรำคาญเธอมาตลอดก็เป็นได้


     
    สิ่งที่คิดได้ในวันนั้น ทำให้เธอออกห่างจากชีวิตของภวินทร์ และเขาก็ไม่สนใจที่จะถามไถ่ ความน้อยใจ ทิฐิ หรืออะไรก็ตามบอกเธอไม่ให้ไปยุ่งกับเขาอีก ตัดใจเสีย กลับไปเป็นแค่พี่น้องคนละพ่อและแม่อย่างที่คนอื่นเป็นกัน


     
    เธอทำได้..ไม่ใช่สิ..ทำได้ดีเชียวแหละในช่วงแรก แม้กลางดึกจะมีเพียงแค่น้ำตาเป็นเพื่อน...แต่ก็ดีกว่าไม่มีใครหรืออะไรเลย


     
    ทุกๆอย่างก็ควรจะเป็นอย่างที่ควรจะเป็น ถ้าเพียงแต่วันหนึ่ง...เธอจะไม่บังเอิญอยากโดดเรียนไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่ห้างไกลบ้านและโรงเรียน ถ้าไม่บังเอิญว่าเด็กสาวจะเจอกันย์รตาที่นั่น และจะไม่บังเอิญอีกเช่นกันที่กันย์รตาจะเดินโอบมากับผู้ชายคนหนึ่ง....ซึ่งไม่ใช่ภวินทร์


     
    กันย์ตาในตอนนั้นชักสีหน้าตกใจเมื่อสบตากับเธอ ก่อนที่จะเปลี่ยนกลับไปได้อย่างแนบเนียน หญิงสาวผละจากคนข้างเคียงเดินมาหาเธอ ที่ยืนอยู่กับเพื่อนผู้ชายในกลุ่มสมัยนั้นเพียงแค่สองต่อสอง ในขณะที่คนอื่นๆไปเข้าห้องน้ำ


    เสียงหวานของผู้หญิงคนนั้นที่บัดนี้มัน น่ารังเกียจในความรู้สึกเข้ามาชวนคุย


    "น้องพายมากันสองคนหรือคะ?"


    "พี่รตาก็มากันสองคนหรือคะ?" พิมลพัทธ์จำเสียงแข็งของตนที่ถามกลับไปได้เป็นอย่างดี พี่รตาที่เคยอ่อนหวานสะบัดหน้าเดินกลับไปทันทีเมื่อรู้ตัวว่าถูกเธอย้อนเข้าให้


     
    เด็กสาววัยสิบหกพึ่งจะรู้สึกว่าตนเองตาสว่างกับบางสิ่ง แต่ก็สร้างความหนักใจในบางสิ่ง ด้วยความที่ยืนนิ่งคิดจนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ผลที่ตามมาก็คือโดนคนที่เดินไปมาชนเข้ากับร่างบอบบางของตัวเอง เด็กสาวเซจนไปปะทะกับอกของเพื่อนชายในกลุ่มที่ประคองเธอเอาไว้ทัน


    ...มองไกลๆภาพนั้นอาจจะเหมือนว่า เธอกอดกับเพื่อนชายคนนั้นกลางสาธารณะ


     
    และก็ภาพที่เธอคิดไม่ถึงอีกเช่นกัน ที่ทำให้เย็นในวันนั้นที่เธอตัดสินใจไปเล่าเรื่องที่พบเห็นให้กับภวินทร์ฟัง กลายเป็นเรื่องของเธอไป


    "พี่ภาม พายมีเรื่อ.."


    "ไม่ต้องพูดอะไรอีกพิมลพัทธ์"


    "พี่ภาม.." เสียงเด็กสาวเริ่มเครือ เมื่อทันทีที่พบหน้าชายหนุ่ม พี่ภามที่อ่อนหวานกับเธอมาชั่วชีวิตกลับตวาดเธอเสียงดัง ลุกขึ้นประจันหน้ากับเธอด้วยใบหน้าโกรธขึงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน และสิ่งสำคัญที่สุด


    ...เขาเรียกเธอว่า
    "พิมลพัทธ์"


     
    แต่เด็กสาวก็ทำความเข้าใจได้เพียงเสี้ยววินาที เมื่อเห็นพี่รตาของเธอเข้ามาจับชายแขนเสื้อภวินทร์ไว้ เหมือนรั้งในอารมณ์พร้อมเอ่ยเสียงหวาน


    "ภามคะ อย่าไปว่าน้องพายเลย เด็กผู้หญิงมันก็ต้องมีบ้าง"


    "รตาอย่าช่วยเด็กคนนี้อีกเลย คุณพูดให้เขามามากพอแล้วยังไม่เห็นจะสำนึก" เสียงที่อ่อนลงของภวินทร์หันกลับไปพูดกลับคนรัก ก่อนที่จะหันกลับมาเสียงดังใส่เธออีกครั้ง


    "ฉันผิดหวังในตัวเธอมาก พิมลพัทธ์"


    "พี่รตาต่างหากที่.." เสียงผิดหวังของเด็กสาวพยายามที่จะบอกความจริง ก็ถูกตวาดกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับที่ชายหนุ่มยื่นภาพในโทรศัพท์มือถือให้เธอดู


    "หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ทำไมถึงทำแบบนี้ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้ ฉันอุส่าห์ยอมเข้าใจที่เธอเกลียดรตา จนไม่ยอมมาเจอกัน แต่นี่เธอยังจะหาเรื่องเขา งั้นถามหน่อยนี่มันอะไรกัน"


    ภาพเด็กสาวในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มวัยเดียวกันกลางห้างสรรพสินค้า


     
    นาทีนั้นพิมลพัทธ์ได้แต่พูดอะไรไม่ออก เธอมองภาพในโทรศัพท์มือถือด้วยน้ำตาคลอเบ้าอย่างผิดหวัง..ที่เขาไม่เชื่อใจ หรือแม้แต่จะถามอะไรเธอก่อน


    ...
    แต่น้ำตาของเธอสำหรับชายหนุ่มกลับกลายเป็นการยอมรับ..ว่าเธอทำ


    "ไม่คิดเลยจริงๆว่าจะทำตัวแบบนี้ เพราะตามใจเธอมากเกินไปใช่ไหมพิมลพัทธ์ ถ้าแม่เล็กรู้ว่าเธอทำตัวเหมือนผู้หญิงใจง่า...เพี้ย" ฝ่ามือน้อยๆสะบัดไปก่อนอย่างทนไม่ได้ ที่จะฟังคนที่เธอรักกล่าวหา...ผู้หญิงใจง่าย


    ..ชายหนุ่มที่เธอรักได้หายไปแล้ว..


     
    ภาพข้างหน้าเป็นเพียงภาพผู้ชายคนหนึ่ง ที่มองเธอย่างเย็นชา..ไม่รู้จัก เบื้องหลังที่เขาไม่มีวันเห็น คือภาพของกันย์ระตาที่ยิ้มเยาะอย่างสะใจ


     
    เด็กสาวไม่มีคำพูดใดๆเอ่ยออกมาอีกนอกจากน้ำตาที่ไหลอย่างเงียบงัน เธอเลือกที่จะเดินออกมาโดยไม่หันกลับไปอีก


    ...จุดร้าวที่เคยเริ่ม แตกสลายไปแล้วในวันนี้


    ...เธอไม่ได้เสียใจที่เขารักคนอื่น เชื่อคนอื่น


    ...แต่เธอร้าวราน ที่เขา..ไม่เชื่อใจเธอ


     
    เด็กสาวหายตัวไปหลายวันโดยที่ไม่มีคนรู้หรือตามเจอ นอกจากแค่โทรศัพท์มาบอกพี่ชายคนรองว่าไม่ต้องห่วงและไม่ต้องตาหา โชคดีที่พวกผู้ใหญ่ทั้งสี่อยู่ในช่วงไปดูงานต่างประเทศจึงไม่เป็นเรื่องใหญ่โต การพนันครั้งสุดกับสัญญาที่เขาเคยให้ไว้..แหลกไม่มีชิ้นดี


    ...เขาไม่ตามหา เมื่อเธอหายไป


     
    หลังจากที่เธอกลับมา เธอก็ไม่เคยที่จะถามถึงหรือเหยียบย่างไปเกี่ยวข้องกับคนชื่อภวินทร์อีก พวกผู้ใหญ่เพียงแปลกใจ แต่ก็อาจคิดเพียงแค่ เมื่อโตๆกันแล้ว ก็ต่างมีชีวิตของตัวเอง พี่ชายทั้งสองอาจรู้เรื่องบ้าง แต่ไม่เคยเอ่ยปากถามหรือต่อว่าเรื่องการหายไปหลายวันของเธอ นอกจากการลูบหัวเบาๆอย่างปลอบประโลม


     
    สองแฝดเป็นผู้นำเรื่องราวหลังจากที่เธอหายไป มาเล่าให้ฟัง..ความจริงบางส่วนที่ว่าพิมลพัทธ์ไปกับผู้ชายสองคนถูกเปิดเผยว่าไม่จริง เพราะฝาแฝดอยู่ด้วยในวันนั้น แต่ก็ไม่มีใครกล้ารับรองอีกเช่นกันว่าทั้งคู่กอดกันจริงหรือเป็นแค่อุบัติเหตุ เพราะทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์


     
    แต่แน่นอนว่าพิมพ์นาราเถียงภวินทร์เสียงแข็ง และต่อว่ากันย์รตาอย่างใหญ่โตกับภัทรินทร์ที่มองพี่ชายและคนรักด้วยสายตาเรียบที่ไม่ต้องพูดก็คงรู้ตัว


    "พิมไม่เชื่อว่ายัยพายจะเป็นคนแบบนั้น"


    "แต่ภาพมันก็ฟ้องอยู่ยัยพิม"


    "พายกับเต้ก็เป็นแค่เพื่อน อีกอย่างวันนั้นพิมกับภาก็ไปด้วย"


    "แต่ก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์"


    "แค่เชื่อใจยัยพาย พี่ภามก็ทำไม่ได้?"เสียงภัทรินทร์ที่เงียบมาตลอดเอ่ยขึ้นเรียบๆ


    "เอาเถอะค่ะ ไม่ว่าพี่ภามจะไปเชื่อใครหน้าไหนก็ไม่สำคัญอีกแล้ว ยัยพายหายตัวไปแล้ว พอใจหรือยังคะ" เสียงพิมพ์นาราช่วยเย้ยให้เธอในประโยคสุดท้ายอย่างแข็งขัน


     
    ตามคำบอกเล่าของสองสาว เมื่อจบประโยคนี้โดยที่ภวินทร์ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร คนรักของเขา..กันย์รตาก็สามารถล้มลงกับพื้น สลบจนต้องเข้าโรงพยาบาลได้เป็นอาทิตย์เนื่องจากเครียดจัด


     
    ผู้หญิงคนนั้นโทษตัวเองอย่างหนักว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้น....ยัยพิมบอกกับเธอภายหลังว่า น่าจะให้ตุ๊กตาทองยัยนี่....แต่สำหรับเธอ มันเป็นการย้ำให้เจ็บซ้ำๆมากกว่า ว่าภวินทร์เลือกผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่เธอ...


     
    เรื่องแปลกครั้งสุดท้าย เมื่อเธอที่หายตัวไปกลับมา กันย์รตาก็เหมือนคนผีออกที่หายป่วยได้ฉันพลันเช่นกัน เธอยังสามารถโทรศัพท์มาเยาะเย้ยได้ไม่หยุดหย่อย จนกระทั่งเด็กสาวต้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่


    ...เบอร์ที่ภวินทร์ไม่รู้


      
    ต่างคนต่างไม่ยุ่งกันเกือบปี ยกเว้นที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ เด็กสาวก็จะไม่มองหน้าชายหนุ่มที่ควงแขนมากับกันย์รตาเสมอๆ เธอกับเขาเป็นเช่นคนไม่รู้จักกัน แม้กระทั่งวันรับปริญญาของเขาก็ตาม


     
    จนกระทั่งชายหนุ่มตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ และลองเริ่มทำงานที่นั่น  ต่อมาภวินทร์ก็ต้องลาออกจากงานที่ทำอยู่ เพื่อบินไปบินมาอีกหลายครั้ง เมื่อ
    HKขยายสาขาไปยังประเทศที่เขาอยู่ จึงทำให้เขาต้องเข้ามาช่วยธุรกิจชิ้นนี้เต็มตัวเพื่อพ่อใหญ่เรียกตัว


     
    จวบจนทุกวันนี้ พิมลพัทธ์ไม่ได้เจอภวินทร์อีกเลย เกือบหกปีแล้วที่เธอทำเป็นคนไม่รู้จักเขา จนกระทั่งวันนี้ ที่ชายหนุ่มจะกลับมารับงานเต็มตัวที่ประเทศไทย งานเลี้ยงต้อนรับเป็นการภายในก็ได้จัดขึ้นที่บ้านเกศพิทักษ์


     
    เธอยอบรับว่าเธอไม่อยากเจอกันย์รตา เธอเกลียดคนรักของภวินทร์ ที่บัดนี้ได้กลายเป็นทั้งดารา นักแสดงและนางแบบชื่อดัง พิมลพัทธ์ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงคนนี้จึงเป็นนักแสดงได้ดี จนโด่งดัง


     
    และที่สำคัญ เธอไม่พร้อมที่จะเจอภวินทร์ ที่เธอไม่รู้ว่าความรักที่มีต่อเขามันหายไปหรือยัง แต่ที่แน่นอนที่สุด สิ่งที่ยังคงตรึงติดไม่มีทางหายไปได้จากใจเธอก็คือ..ความเจ็บปวด


    ..เจ็บกับความไม่เชื่อใจ


    ..เจ็บกับสัญญาที่เชื่อถือไม่ได้


     
    หญิงสาวที่นั่งคิดอะไรมานานเริ่มรู้สึกตัวถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุมบริเวณใต้ตึกโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวยกข้อมือที่สวนนาฬิกาขึ้นมาดูอย่างตกใจ


    "ตายแล้วจะสองทุ่มแล้วหรือเนี่ย!" หญิงสาวรีบลุกขึ้นจากโต๊ะคณะที่นั่งเธอนั่งสถิตจนแทบจะเป็นรูปปั้นในสายตาคนอื่น


     
    พิมลพัทธ์เลือกที่จะเดินออกไปทางประตูใหญ่ ที่มีรถสาธารณะให้ใช้บริการมากมาย แต่ระยะทางระหว่างตึกคณะของเธอและประตูนั้นถือได้ว่าห่างไกลกันพอสมควร


     
    หญิงสาวเลือกที่จะเดินตามถนนในมหาลัย ที่นานๆทีจะมีรถขับผ่านมาผ่านไปเนื่องจากช่วงเวลาที่ค่ำแล้ว หญิงสาวกอดหนังสือในมือแน่น เพราะไม่ค่อยถูกกับความมืด และการอยู่คนเดียว


     
    ร่างระหงเลือกที่จะสาวเท้าให้เร็วขึ้น ตามบรรยากาศที่เริ่มวังเวงจนใจเธอไม่ดี...อีกไม่ไกลก็จะถึงประตูใหญ่


     
    แต่ก่อนที่จะได้ถึงจุดหมายที่หญิงสาวต้องการ กลับมีมือหนามาจับต้นแขนของเธอเอาไว้แน่น หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว ก่อนที่จะโยนหนังสือที่กอดไว้แนบอกใส่คนที่คิดมิดีมิร้ายกับเธออย่างแรง ร่างบางที่ทำท่าจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ก็ต้องหุบปากฉับ เมื่อได้ยินเสียงคุ้นเคยเรียกเอาไว้


    "พาย"


     
    ตาที่ปิดไว้เพราะความหวาดกลัวไม่ว่าจะเป็นคนหรือผี ก็ต้องเบิกกว้างกับคนที่
    เรียกชื่อเธอ ก่อนที่ปากน้อยจะเอ่ยชื่ออีกฝ่ายแผ่วเบาโดยไม่รู้ตัว


    "พี่ภาม!"






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×