ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สัญญารัก (THE PROMISE)

    ลำดับตอนที่ #3 : พิมลพัทธ์

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 50








    อาโลฮ่าเหมือนเดิม

       ไปอ่านกันเลย แบบไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลง

                                                    สู้โว้ย

                                                   OLAN


    ........................................................................................................................................









    "แม่คะ พายจะไปเรียนแล้วนะคะ" เสียงใสที่มาพร้อมกับร่างระหงในชุดนักศึกษาของหญิงสาวหน้าหวานรูปร่างสมส่วนผิวขาวใส



     
    ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวยถูกมัดรวบหลวมๆไว้ด้านขวา ดวงตาสีดำสนิทเป็นประกายอย่างอารมณ์ดีเมื่อก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้วพบกับมารดา ที่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานเพียงใดก็ยังคงความงามไว้ได้เต็มเปี่ยม



     
    ภัทราลดหนังสือพิมพ์ในมือลงตั้งแต่ได้ยินเสียงบุตรสาวคนเดียวขานเรียก ใบหน้าสวยสมวัยโครงเดียวกับสาวน้อยหน้าหวานที่เดินมานั่งเกาะแขนข้างๆอย่างออดอ้อนยิ้มอย่างอ่อนใจ



    ...ความเป็นเด็กของคนตรงหน้าไม่เคยลดไป เช่นเดียวกับความออดอ้อนอย่างน่าเอ็นดูที่ใครๆต้องยอมแพ้



    "
    โตจนจะเรียนจบปีนี้แล้วนะลูก ยังอ้อนเป็นเด็กๆอีก" เสียงคนเป็นแม่พูดอย่างอ่อนใจ



    "
    โธ่ แม่ขา พายก็อ้อนกับแม่คนเดียวนี่คะ" เสียงสาวน้อยพูดกระเง้ากระงอดได้อย่างน่ารักจนคนเป็นแม่อดที่จะพูดขึ้นมาไม่ได้



    "
    อย่าไปพูดแบบนี้กับใครนะพาย"





    "
    ทำไมคะ ท่าทางแบบนี้มันน่าเกลียดเหรอคะ" เสียงลูกสาวถามอย่างไม่เข้าใจ ใบหน้าที่ทำท่าฉงนจนคนเป็นแม่ต้องหัวเราะเบาๆกับความซื่อของลูกสาวคนเดียว



    "
    เอาเป็นว่าเชื่อแม่ละกัน" เสียงมารดายังคงย้ำโดยไม่ขยายความใดๆจนคนฉงนขี้คร้านจะสนใจอีก ก่อนจะหันไปถามถึงคนอื่นๆ



    "
    คุณพ่อออกไปแล้วหรือคะ"

     

     

    "จ้ะ คุณพ่อกับตาภีมมีประชุม"

     

     

    "พี่ภีม!" เสียงใสทวนอย่างตกใจ

     

     

    "ฝนจะตกหรือเปล่าคะแม่"

     

     

    "ยัยพาย ไปว่าพี่เขา" เสียงคนเป็นแม่เอ็ดเข้าให้

     

     

    "ก็แม่คะ พี่ภีมที่ร่อนเป็นนกย้ายถิ่นไปเรื่อยๆนี่นะคะ เข้าบริษัท แค่ฟังก็ขนลุกจะแย่"

     

     

      ภีม หรือภาสกร หิรัญเวศย์ ลูกชายคนโตของเธอชอบทำตัวเป็นพ่อนกย้ายถิ่นจริงเช่นที่ลูกสาวค่อนขอด ทั้งการที่ไม่เคยอยู่ติดบ้านนานๆ ชอบร่อนไปทั่วทั้งในและนอกประเทศตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่น อันเป็นผลจากการส่งไปเรียนนอกตั้งแต่แตกหนุ่ม รวมถึงเสียงร่ำลือถึงความเจ้าชู้เป็นศาสโนวาที่ไม่เคยหยุดอยู่กับใครนานๆ

     

     

    "สงสัยถูกคุณพ่อบังคับแน่เลย..หึ..แล้วพี่ภูล่ะคะ" เสียงใสถามถึงพี่ชายคนรองที่มีนิสัยตรงกันข้ามกับพี่ชายคนโตดั่งเช่นแสงและเงา

     

     

      ภูมินทร์ หิรัญเวศย์ที่เอาการเอางาน มีความรับผิดชอบ เป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียด นิ่งเป็นน้ำลึกต่างกับพี่ชายคนโตที่วุ่นวาย ปากร้ายเป็นน้ำท่วม

     

     

    "บินไปดูงานที่ฮ่องกงตั้งแต่เช้า แต่คงกลับตอนเย็นเลย"คนเป็นแม่บอกเล่าให้ลูกคนเล็กที่ช่วงนี้ยุ่งกับงานที่มหาลัยบ่อยๆจนไม่เจอใครเลย

    "อ้าว ทำไมกลับเร็วนักล่ะคะ"

     

     

     พิมลพัทธ์ถามอย่างแปลกใจที่พี่ชายคนรองต้องบินไปกลับภายในวันเดียวสำหรับการไปดูงานต่างประเทศที่คุณพ่อเคยบอกไว้บ่อยๆว่า...ใครก็ตามที่ต้องไปดูงานไกลๆให้บริษัท ให้พักสักวัน ไม่ต้องรีบร้อน ถ้าไม่มีเรื่องด่วนจำเป็น

     

     

      นี่เป็นสิ่งที่ทำให้นายพิพัฒน์ หิรัญเวศย์เป็นที่รักและเคารพสำหรับพนักงานในเครือHKทุกคน ความยุติธรรมที่มีใครกับผู้บริหารทุกท่านจนถึงขั้นภารโรงทุกคน ผลักดันให้บริษัทในเครือHKก้าวหน้าเป็นหนึ่งในประเทศไทยทุกวันนี้

     

     

      HK เป็นการร่วมมือกันระหว่างสองตระกูลที่ร่วมบุกเบิกHKขึ้นมาจนเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน

     

     

    ..หิรัญเวศย์และเกศพิทักษ์..

     

     

      นายพิพัฒน์ หิรัญเวศย์พ่อของพิมลพัทธ์ กับเพื่อนสนิทของท่าน นายพัชระ เกศพิทักษ์ร่วมกันก่อตั้งและบุกเบิกHKขึ้นมาตั้งแต่ทั้งคู่เริ่มลาออกจากงานประจำที่ทำไม่ถึงสองปีหลังจากจบปริญญาตรี ประจวบเหมาะกับท่านทั้งคู่กำลังจะสำเร็จการศึกษาปริญญาโทอีกใบ

     

     

      ภายในเวลาไม่ถึงสิบห้าปีHKเติบโตกลายบริษัทชั้นนำไม่ว่าจะเป็นด้านบ้านและการเคหะ โรงแรมและการท่องเที่ยว หรือแม้แต่การบริโภคขั้นพื้นฐาน

     

     

      คนเป็นแม่ถอนใจเมื่อคิดถึงงานมากมายที่ทั้งสองตระกูลช่วยกันบุกเบิกมาจนถึงทุกวันนี้...เติบโตและเหน็ดเหนื่อยตามขนาด

     

     

    "วันนี้มีงานที่บ้านนู้นไงลูก พาย" เสียงมารดาที่ตอบคำถามของหญิงสาว ทำให้เธอนึกถึงสิ่งที่ทำเป็นไม่สนใจมาหลายวัน

     

     

    ..เขากลับมาแล้ว

     

     

    "วันนี้พายติดทำรายงานที่มหาลัยค่ะ คงไปไม่ได้" หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องของพี่ชายและรีบบอกจุดประสงค์ที่ตนต้องมาพบมารดาแต่เช้า หลังจากที่มัวแต่ถามถึงคนในครอบครัว

     

     

    "อ้าว..พายไม่ได้นะลูก งานเลี้ยงต้อนรับตา.." เสียงมารดาที่พูดยังไม่จบก็โดนขัดด้วยเสียงใสปนออดอ้อนเช่นเคย

     

     

    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ พายไม่อยากเป็นคนไร้ความรับผิดชอบ อีกอย่างงานนี้ไม่มีพาย เขาก็อยู่กันได้"

     

     

    "แต่พายลูก.." เสียงคนเป็นแม่ที่จะขัดอีกครั้ง ก็เสียทีลูกสาวเสียก่อน เพราะเจ้าตัวชิงหอมแก้มตน ก่อนที่จะยกมือไหว้และวิ่งออกไปทันที

     

     

    "ยัยพาย!"

     

     

    .........................................................................................

     

    "พาย ทางนี้" เสียงเพื่อนตะโกนเรียกร่างโปร่งที่พึ่งจะก้าวลงจากรถที่มีคนขับรถที่บ้านมาส่งเป็นเรื่องปกติ เจ้าตัวก้มลงไปเอ่ยกับคนขับรถก่อนที่จะปิดประตูแล้วเดินไปตามเสียงเรียก

     

     

      ใต้ตึกใหญ่ประจำคณะบัญชีของมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังกลางกรุงเทพมีโต๊ะจำนวนมากมายตั้งไว้เพื่อเป็นจุดนัดพบ พักผ่อน หรือแม้แต่ทบทวนบทเรียนของนักศึกษา

     

     

      บริเวณโต๊ะใหญ่ที่ตั้งติดกันเรียงราย คนกลุ่มหนึ่งที่น่าจะรวมถึงเสียงใสที่ตะโกนเรียกเธอเมื่อครู่กำลังโบกไม้โบกมือเรียกเธอให้เข้าไปหา

     

     

    "พิม ไม่ต้องตะโกนพายก็เห็น" หญิงสาวที่เพื่อนต่างโบกมือเรียก ค้อนเพื่อนสาวที่ส่งเสียงดังเรียกเธอ จนคนทั้งตึกหันมามอง

     

     

    "ฮ่าๆ..." เพื่อนต่างหัวเราะคนโดนว่าที่ทำหน้าปั้นยาก อย่างที่เห็นไม่บ่อยนัก

     

     

    "พอๆเลยไม่ต้องมาหัวเราะฉันเลยไอ้พวกบ้า ภาก็ด้วย" เสียงพิมพ์นาราโวยวายใส่เพื่อนที่ไม่ช่วยเหลือตน โดยเฉพาะฝาแฝดไข่คนละใบของเธอ..ภัทรินทร์

     

     

    "โธ่ ก็ภาเตือนพิมแ้ล้วนะ พิมไม่ฟังเอง" เสียงหวานของฝาแฝดพูดอย่างขำขัน

     

     

      ภัทรินทร์ และพิมพ์นาราสองฝาแฝดแห่งตระกูลเกศพิทักษ์ ซึ่งถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักสนิทสนมก็จะคิดเพียงว่าสองคนนี้เป็นญาติกันด้วยเพราะสองสาวมีเพียงหน้าละม้ายคล้ายเคียงเท่านั้น นอกจากนี้ยังรวมถึงนิสัยอันแตกต่างราวฟ้ากับดินของคนทั้งคู่อีกด้วย

     

     

      ภัทรินทร์ หรือภา ที่ใครๆก็ทราบว่าเป็นแฝดผู้เกิดก่อนเพียงสองนาทีของพิมพ์นารา มีนิสัยอ่อนหวาน ใจเย็นแม้เธอจะไม่ออดอ้อนเอาใจเช่นพิมลพัทธ์ แต่ด้วยความนิ่งของเธอ ก็สามารถมัดใจหนุ่มๆที่มองผ่านเพียงครั้งเดียวได้อย่างง่ายดาย ประกอบกับรูปร่างเล็กสมส่วนพอๆกับพิมลพัทธ์ ดวงตาสีดำและผมยาวตรงสีเดียวกัน ยิ่งเสริมให้เธอเป็นคุณผู้อ่อนหวานมากยิ่งขึ้น

     

     

      ในขณะที่พิมพ์นารา หรือ พิม ผู้ละม้ายคล้ายแฝดผู้พี่ จนหนุ่มๆต้องมองตามกับความสดใสของเธอ ผมสีน้ำตาลยาวไม่ธรรมชาติ ดัดลอนอ่อนๆเพิ่มความน่ารัก กับรูปร่างสมส่วนและดวงตาสีเดียวกับพี่สาว แต่เมื่อเจอกับความห้าว ไม่ยอมใครที่เป็นตัวตนที่แท้จริง หนุ่มผู้ริเข้ามาผูกสัมพันธ์ ก็พากันถอยไม่เป็นขบวน

     

     

    "ทำไมพายมาช้าจัง" เสียงภัทรินทร์เอ่ยถามเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็ก เป็นการเปลี่ยนเรื่องเพื่อช่วยพิมพ์นารา

     

     

    "ก็มัวแต่คุยกับคุณแม่อยู่น่ะ รู้มั้ยว่าวันนี้โลกต้องถล่มแน่ที่พี่ภีมเข้าบริษัท"

     

     

    "นายภีมเนี่ยนะเข้าบริษัท! ขนลุกว่ะพาย" เสียงพิมพ์นาราพูดอย่างตกใจพร้อมท่าประกอบจนเพื่อนๆในกลุ่มต้องหัวเราะตาม

     

     

    "พิมก็ เรียกพี่เขาดีๆสิ" เสียงแฝดพี่เอ่ยเตือนน้องสาวที่ทำท่ายักไหล่อย่างไม่สนใจ

     

     

    "เอาน่าภา ภาก็น่าจะรู้ว่าสองคนนี้เป็นยังไง แต่พิมก็พูดเหมือนพายเลยล่ะตอนรู้ครั้งแรก..ขนลุก"พิมลพัทธ์สร้างเสียงหัวเราะอีกครั้งด้วยการทำท่าทางเลียนแบบพิมพ์นารา

     

     

    "แล้วพี่ภูสุดหล่อของฉันล่ะแก"เสียงยัยแปมหรือปวิตาของเพื่อนๆที่เป็นอันรู้กันว่าแทบจะตั้งแฟนคลับภูมินทร์อยู่แล้วถามขึ้น เรียกเสียงโห่จากคนที่เหลือ

     

     

    "พี่ภูไปฮ่องกง" เสียงพิมลพัทธ์ตอบอย่างขำขันกับท่าทีของเพื่อนสาวเธอ

     

     

    "หวาย...ฉันอยากไปด้วยจังแก"เสียงยัยหวานหรือนายสวัสดิ์ของเพื่อนฝูงเรียกกำปั้นจากอ้วนหรือ อธิวัทธ์ ชายหนุ่มแท้ ผู้อวบอิ่มสมชื่อลงบนหัวนายสวัสดิ์อย่างหมั่นไส้

     

     

    "ไอ้หวัด ไม่ต้องเพ้อให้มาก"

     

     

    "ไอ้อ้วน แกอย่ามาเรียกฉันอย่างนี้นะ ฉันชื่อหวานย่ะ น้องหวาน จำไว้!" เสียงนายหวัดแหวกลับมาใส่อ้วนจนต้องปิดหูแทบไม่ทัน ก่อนจะถูกห้ามทับโดยชายหนุ่มแท้อีกคนของกลุ่ม คุณวี หรือวีรภาพ

     

     

    "พอเถอะสองคน คนอื่นเขารำคาญกันหมดแล้ว" เสียงนิ่งๆพูดตัดความรำคาญในที่สุด จนสองหนุ่มแท้เทียมต้องพากันปิดปากสนิท

     

     

      เป็นที่รู้กันในกลุ่มเพื่อนสนิททั้งเจ็ดที่คบกันอย่างแนบแน่นมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสามสาวพิมลพัทธ์ ภัทรินทร์ พิมพ์นาราที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก อธิวัทธ์กับสวัสดิ์ที่สนิทกันตั้งแต่ประถม..ตามคำเล่าขานของนายอ้วนที่ว่า

     

     

    "เราเจอไอ้หวัดก่อนมีไอ้หวานละกัน"

     

     

    หรือแม้แต่เพื่อนร่วมกลุ่มเก่าสมัยมัธยมของคุณวีกับยัยแปมที่เคยแขวะกันนิ่งๆเสมอ

     

     

    "นายวีน่ะเหรอ นิ่งเป็นภูเขาน้ำแข็ง" กับ

     

     

    "ยัยแปม.......(ประมาณว่าไม่อยากจะพูด)"

     

     

      แต่ยังไงทั้งเจ็ดคนก็สามารถมารวมตัวกันได้อย่างสนิทสนมเป็นเวลาจะสี่ปีแล้ว จนบัดนี้คนทั้งกลุ่มเป็นอันรู้กัน ยามใดที่คุณวีพูด หมายถึง...ผมหมดความอดทนแล้วครับ!

     

     

    ...สัญญาณอันตรายสุดๆ

     

     

    "แปมชอบเวลาพวกพายเรียกคนในครอบครัวกันเองจัง เหมือนสนิทชิดเชื้อเป็นญาติกันหมด ทั้งที่ก็ไม่ได้เป็น" เสียงปวิตาเรียกร้องความสนใจในเรื่องอื่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศของภูเขาน้ำแข็งที่พึ่งระเบิด

     

     

    "นั่นสิ พ.พาน ภ.สำเภากันทั้งนั้น น่ารัก" เสียงหวานร่วมด้วยช่วยกันอย่างไม่เกี่ยงงอน

     

     

    "ฮ่าๆ.." เสียงยัยห้าวพิมของทุกคนหัวเราะไม่หยุดเมื่อเห็นหนังโรงอันแสนสนุกต้องมีตอนจบเหมือนกันทุกครั้ง จนแฝดพี่ที่กลั้นยิ้มอยู่ต้องเป็นฝ่ายตอบเอง

     

     

    "อืม ก็ช่วยไม่ได้ที่แม่ภากับแม่พายดันชื่อเหมือนกัน"

     

     

    "ใช่ พวกพ่อๆก็ดันชื่อพ.พานอีก บ้านเราก็สนิทกันมากเพราะเริ่มทำงานด้วยกัน ก็เลยร่วมกันตั้งชื่อแบบนี้แหละ"

     

     

      นายพิพัฒน์ และนายพัชระมีภรรยาคนละคน ที่ชื่อเหมือนกันคือ..ภัทรา สองสาวรุ่นแม่เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยม.ปลาย ซึ่งด้วยความที่ชื่อเหมือนกัน เพื่อนจึงเรียกขานตามลักษณะนิสัยที่แตกต่างว่า ภัทใหญ่ กับภัทเล็ก

     

     

     

     

      ซึ่งปัจจุบัน คุณภัทใหญ่ หรือที่เรียกกันติดปากว่าคุณใหญ่ เป็นคุณผู้หญิงบ้านเกศพิทักษ์ ในขณะที่เพื่อนสนิทกลายเป็น คุณเล็กแห่งหิรัญเวศย์

     

     

      คำอธิบายของพิมลพัทธ์ที่เคยมีต่อเพื่อนๆถึงลักษณะนิสัยของผู้เป็นแม่ทั้งสองนั้นมีอย่างง่ายๆ จนเพื่อนนึกตามได้ทันที

     

     

    "แม่พายซึ่งก็คือแม่เล็ก นิสัยเหมือนภา ในขณะที่แม่ใหญ่ของแฝดก็เหมือนยัยพิมไง "

     

     

     

     

    "ไปเรียนกันเถอะ" เสียงคุณวีเรียกเพื่อนที่เอาแต่คุณกันเรื่อยเปื่อยจนเลยเวลา

     

     

      ยัยแปมนั้นรีบเก็บของ บอกจะไปห้องน้ำก่อน โดยมีหวานหวัดวิ่งตามไปด้วย(มันจะเข้าห้องเดียวกันหรือไง) ในขณะที่คุณวีกับอ้วนก็ได้แต่เดินตามไปเงียบ อย่างระอากับความวุ่นวายของสองสาวแท้(เทียม)

     

     

      สามสาวที่เดินตามหลังขำขันกับภาพที่เห็นเป็นประจำอย่างสนุกสนาน พิมลพัทธ์ที่หัวเราะคิกคักกับพิมพ์นารา ในขณะที่ภัทรินทร์ยิ้มน้อยๆอย่างเป็นนิสัย

     

     

      เมื่อต้องรอคู่หูเทียมแท้เข้าห้องน้ำ คุณหนูภาของเพื่อนๆก็ได้โอกาสหันไปเริ่มคำถามที่กวนใจมาตั้งแต่เช้า จนความสนุกที่มีมาตั้งแต่ย่างกรายเข้ามหาลัยของพิมลพัทธ์หายไปจากใบหน้า

     

     

    "พายเย็นนี้.."

     

     

    "พายคงไปไม่ได้ มีงาน" เสียงคนที่รอยยิ้มเลือนไปทันทีที่ได้ยินคำถาม ตอบเรียบเบา

     

     

    "แต่..พายไม่มีงานอะไรนี่..พาย" เสียงแฝดพี่พยายามจะพูดอะไรต่อ ก่อนที่จะโดนแฝดน้องขัด

     

     

    "เอาเถอะ ถ้าพายไม่อยากไป เราจะช่วยเอง แต่ฟังเรานะพาย ยังไงพายก็หนีไม่พ้น" พิมพ์นาราพููดอย่างเข้าใจเพื่อนสาว ก่อนจะหันไปสบตาเป็นเชิง..ไม่ กับพี่สาว

     

     

    "ขอบใจพิม ขอบใจภา เข้าเรียนกันเถอะ" พิมลพัทธ์พูดขอบใจเพื่อนสาวเบาๆ ก่อนที่จะพากันเดินเข้าไปในห้องเรียนเมื่อคนเข้าห้องน้ำทั้งคู่กลับมาแล้ว

     

     

    ....พายยังไม่พร้อมจะเจอเขาหรอก

     

     

    ....คนไม่รักษาสัญญา

     

     

    ....พี่ภาม








     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×