ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังรวบรวมใบสมัครตัวละคร Starfighters ที่ไม่มีลิงค์

    ลำดับตอนที่ #60 : เมื่อเหล่าตัวละครไรต์เจอกับผีเสื้อปริศนา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 66
      0
      9 มี.ค. 62

    [พูดคุยกับตัวละคร]

    [Sebastain]

             ยามราตรีที่แสนเงียบสงบ เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เห็นหมู่ดวงดารานับล้านดวงบนท้องฟ้าสีรัตติกาลอันเรียบง่าย พวกมันส่องแสงสีขาวระยิบระยับแต่งแต้มบนท้องฟ้าดุจเพชรน้ำงามที่ส่องประกาย

    นี่คือช่วงเวลาที่ผู้คนต่างเข้าสู่ห้วงนิทราแห่งการหลับใหล เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันใหม่ในยามรุ่งอรุณของวันพรุ่งนี้

    แม้แต่ที่เกาะมิวเทนต์สตาร์ก็เช่นเดียวกัน แต่ทว่า...

    [เซบาสเตียน]กลับเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้หลับ

    แม้จะพยายามสักแค่ไหน คุณก็มิอาจข่มตาหลับลงได้ ราวกับมีบางอย่างสะกิดใจคุณแต่ทว่า คุณกลับไม่รู้สาเหตุ..

    ‘โซล่าก็หลับไปแล้ว แต่ทำไมผมถึงนอนไม่หลับนะ เพราะอะไรกัน?’

    แต่ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น

    วิ้งๆๆๆ พั่บๆๆๆ

    จู่ๆก็มีผีเสื้อปริศนาบินเข้ามาในห้องของคุณ มันเป็นผีเสื้อที่มีรูปร่างแปลกประหลาด ปีกของมันเรืองแสงเป็นสีทองอ่อนๆ ลวดลายที่แต่งแต้มบนปีกของมันนั้นช่างแปลกตา แต่กลับแฝงไปด้วยสเน่ห์ที่ดูลึกลับและน่าดึงดูด ละอองสีทองของมันกระจายไปทั่วห้องนอนของคุณ และส่องสว่างเจิดจ้าจนทำให้คุณรู้สึก(แสบตา)

    แต่แล้วในตอนนั้นมันก็บินวนรอบๆหน้าคุณก่อนจะบินไปเกาะที่ปลายนิ้วของคุณ

    “น่าแปลกที่ผีเสื้อที่แสนสวยอย่างเธอจะหลุดเข้ามาอยู่ในห้องฉัน ดูจากลวดลายแล้ว เธอคงจะไม่ใช่ผีเสื้อธรรมดาสินะ..”

    เจ้าผีเสื้อน้อยไม่ได้ตอบ กลับกันมันบินขึ้นฟ้าและบินไปยังประตู มันกระพือปีกสองสามครั้งเป็นเชิงว่าให้คุณตามมันมา

    แม้จะรู้สึกประหลาดใจ แต่สุดท้ายคุณก็ยอมตามมันไป..

    คุณเดินตามเจ้าผีเสื้อๆไปอย่างช้าๆ ตามไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ..

    จนกระทั่งมาหยุดที่ริมชายหาดแห่งหนึ่งบนเกาะ ไร้วี่แววของผู้คน มีเพียงเสียงคลื่นทะเลที่ซัดกระทบกับชายหาดในยามกลางคืน

    และเมื่อมาถึง ผีเสื้อก็นำทางคุณไปพบกับ

    “ในที่สุดเจ้าก็มา..”

    บุคคลปริศนาที่นั่งอยู่บนโขดหินริมชายหาด ตัวของคนผู้นี้ถูกปกปิดด้วยผ้าคลุมสีขาวมีฮู้ดปกปิดใบหน้ามิดชิด จนมองไม่เห็นใบหน้า น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นฟังดูหวานปนทุ้ม..แต่ทว่ากลับยากที่จะคาดได้ว่าเป็นชายหรือหญิง

    “ใครกัน?”

    “ข้ารู้นะเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”

    บุคคลปริศนากล่าว ก่อนจะกระโดดลงมาจากโขดหินและเดินตรงมาหาคุณ ถึงแม้คุณจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่คุณก็สัมผัสได้ว่าใบหน้าที่อยู่ภายใต้ฮู้ดนั้นกำลังหัวเราะ

    เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังดู(แปลกประหลาด)

    “หือ เจ้าสงสัยอยู่สินะว่าข้าเป็นใคร?”

    “ผมไม่เคยเห็นคุณบนเกาะนี้เลย คุณเป็นใครกัน?”

    “ข้าเหรอ? แหม่ ก็ไม่รู้สิ ฮิๆ อันที่จริงข้าไม่มีชื่อด้วยซ้ำ แล้วเจ้าล่ะ เจ้าชื่ออะไร?”

    “เซบาสเตียน ไพโรคิเนซิส เรียกผมว่า เซบ เฉยๆก็ได้”

    “โอ้ เป็นชื่อที่ดูดีนะ”

    “ก็คงจะอย่างงั้น ว่าแต่คุณมีธุระอะไรกับผม?คุณใช่มั้ยที่เป็นเจ้าของผีเสื้อตัวนี้ บอกมาว่าคุณมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”

    “ใจเย็นๆก่อนซี้ แม่สาวน้อย/พ่อหนุ่มน้อย เอ๋ย.. ข้าไม่ได้มีเจตนาจะมาทำร้ายเจ้านะ”

    “งั้นคุณต้องการอะไรจากผม?”

    “ข้าแค่มีคำถามจะถามเจ้า”

    “คำถาม? ว่ามาสิ..”

    บุคคลปริศนานิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยปากถามคุณว่า..

    “หากสมมุติว่าเจ้าสามารถออกไปจากเกาะแห่งนี้ได้ เจ้าจะทำอะไรเป็นอย่างแรก?”

    คำถามที่คนตรงหน้าถามทำให้คุณรู้สึก(ชะงัก)คุณใช้เวลาคิดสักครู่ก่อนตอบไปว่า

    “ถ้าทำแบบนั้นได้ ผมอาจจะออกเดินทางไปรอบโลกพร้อมกับโซล่า และตามหาใครสักคนที่เข้าใจผมอย่างแท้จริง..”

    “อืม..เจ้าแน่ใจนะ”เขากล่าว “งั้นมาฟังคำถามข้อต่อไป”

    “หากมีคนบอกว่าสามารถพาเจ้าออกจากเกาะได้ แต่ต้องแลกกับความตายของคนที่เจ้ารัก เจ้าจะยอมหรือไม่?”

    คุณมองคนตรงหน้าสักครู่ก่อนจะตอบว่า

    “ผมไม่เหลือใครแล้วล่ะ ผมอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด ไม่มีใครที่รักผมจากใจจริงหรอก ถ้าให้เลือกผมควรจะตายตั้งแต่เกิดแล้ว...แต่ถ้าผมมีคนที่ผมรักจริงๆ ผมขอยอมตายเพื่อปกป้องคนคนนั้นเสียจะดีกว่า”

    “นี่เป็นคำตอบที่เจ้าเลือกสินะ แม่สาวน้อย/พ่อหนุ่มน้อย”

    คุณพยักหน้า

    “งั้นก็จงทำตามที่เจ้าเลือกเถอะ และจงจำคำตอบที่เจ้าตอบไว้ดีๆล่ะ”

    บุคคลปริศนากล่าว

    “เพราะหลังจากนี้เจ้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงมันได้อีก หลังจากที่ ‘เธอคนนั้น’ มาถึงที่นี่”

    “เธอ? หมายความว่าไง...ใครจะมาที่นี่เหรอ? หรือว่า คุณกำลังเล่นตลกกับผมอยู่?”

    คนตรงหน้าไม่ได้พูดอะไร กลับกันเขาเอื้อมมือมาแตะไหล่คุณ ก่อนจะ..

    เปรี้ยง

    ฉับพลัน คุณก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นเข้าไปในร่างกายของคุณอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันเจ็บจนทำให้คุณถึงกับ(แสบร้อนไปทั้งตัว ดั่งกำลังถูกไฟนรกแผดเผาทั้งเป็น)

    “เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้คำตอบเอง และนี่คงจะเป็นการพบกันครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเราทั้งสองคน เพราะจากนี้ไปเจ้าจะจำเหตุการณ์ในวันนี้ไม่ได้อีก”

    คนตรงหน้ากล่าว ก่อนจะก้มลงมามองคุณด้วยแววตาที่เรียบเฉย เขาเฝ้ามองคุณที่สติกำลังพร่ามัว และดับวูบ จมดิ่งลงสู่ความมืด

    แต่ในวินาทีสุดท้ายที่คุณกำลังจะจมลงสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์ คุณก็ได้ยินคนตรงหน้าพูดว่า

    “ยามที่เธอผู้นั้นปรากฏกาย เกาะแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไป..ตลอดกาล...”

    แล้วจากนั้นบุคคลปริศนาก็เดินจากไป ทิ้งให้คุณนอนสลบเหมือดอยู่บนหาดทรายเพียงลำพัง...



    [พูดคุยกับตัวละคร]

    [Mariana]

             ยามราตรีที่แสนเงียบสงบ เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เห็นหมู่ดวงดารานับล้านดวงบนท้องฟ้าสีรัตติกาลอันเรียบง่าย พวกมันส่องแสงสีขาวระยิบระยับแต่งแต้มบนท้องฟ้าดุจเพชรน้ำงามที่ส่องประกาย

    นี่คือช่วงเวลาที่ผู้คนต่างเข้าสู่ห้วงนิทราแห่งการหลับใหล เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันใหม่ในยามรุ่งอรุณของวันพรุ่งนี้

    แม้แต่ที่เกาะมิวเทนต์สตาร์ก็เช่นเดียวกัน แต่ทว่า...

    [มาเรียน่า]กลับเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้หลับ

    แม้จะพยายามสักแค่ไหน คุณก็มิอาจข่มตาหลับลงได้ ราวกับมีบางอย่างสะกิดใจคุณแต่ทว่า คุณกลับไม่รู้สาเหตุ..

    ‘พี่วอนดิสกับพี่เอเรียจะหลับรึยังนะ?’

    แต่ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น

    วิ้งๆๆๆ พั่บๆๆๆ

    จู่ๆก็มีผีเสื้อปริศนาบินเข้ามาในห้องของคุณ มันเป็นผีเสื้อที่มีรูปร่างแปลกประหลาด ปีกของมันเรืองแสงเป็นสีทองอ่อนๆ ลวดลายที่แต่งแต้มบนปีกของมันนั้นช่างแปลกตา แต่กลับแฝงไปด้วยสเน่ห์ที่ดูลึกลับและน่าดึงดูด ละอองสีทองของมันกระจายไปทั่วห้องนอนของคุณ และส่องสว่างเจิดจ้าจนทำให้คุณรู้สึก(อบอุ่น)

    แต่แล้วในตอนนั้นมันก็บินวนรอบๆหน้าคุณก่อนจะบินไปเกาะที่มือของคุณ

    “เจ้าผีเสื้อน้อย เธอมาทำอะไรที่นี่เหรอจ๊ะ?”

    เจ้าผีเสื้อน้อยไม่ได้ตอบ กลับกันมันบินขึ้นฟ้าและบินไปยังประตู มันกระพือปีกสองสามครั้งเป็นเชิงว่าให้คุณตามมันมา

    แม้จะรู้สึกประหลาดใจ แต่สุดท้ายคุณก็ยอมตามมันไป..

    คุณเดินตามเจ้าผีเสื้อๆไปอย่างเบาๆ ตามไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ..

    จนกระทั่งมาหยุดที่ริมชายหาดแห่งหนึ่งบนเกาะ ไร้วี่แววของผู้คน มีเพียงเสียงคลื่นทะเลที่ซัดกระทบกับชายหาดในยามกลางคืน

    และเมื่อมาถึง ผีเสื้อก็นำทางคุณไปพบกับ

    “ในที่สุดเจ้าก็มา..”

    บุคคลปริศนาที่นั่งอยู่บนโขดหินริมชายหาด ตัวของคนผู้นี้ถูกปกปิดด้วยผ้าคลุมสีขาวมีฮู้ดปกปิดใบหน้ามิดชิด จนมองไม่เห็นใบหน้า น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นฟังดูหวานปนทุ้ม..แต่ทว่ากลับยากที่จะคาดได้ว่าเป็นชายหรือหญิง

    “เอ๋? คนคนนี้คือใครกันนะ หรือว่าเขาจะหลงทางมา ไม่ได้การล่ะ มารีนต้องช่วยเขา”

    “ข้ารู้นะเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”

    บุคคลปริศนากล่าว ก่อนจะกระโดดลงมาจากโขดหินและเดินตรงมาหาคุณ ถึงแม้คุณจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่คุณก็สัมผัสได้ว่าใบหน้าที่อยู่ภายใต้ฮู้ดนั้นกำลังหัวเราะ

    เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังดู(ลึกลับ)

    “หือ เจ้าสงสัยอยู่สินะว่าข้าเป็นใคร?”

    “ค่ะ ว่าแต่ท่านคนแปลกหน้า ท่านเป็นใครเหรอคะ?”

    “ข้าเหรอ? แหม่ ก็ไม่รู้สิ ฮิๆ อันที่จริงข้าไม่มีชื่อด้วยซ้ำ แล้วเจ้าล่ะ เจ้าชื่ออะไร?”

    “อ๋อ หนูชื่อมาเรียน่า ไฮโดรคิเนซิสค่ะ ”

    “โอ้ เป็นชื่อที่ดูดีนะ”

    “ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะก็แค่ชื่อพื้นๆเองค่ะ ว่าแต่ท่านน่ะเป็นคนนอกใช่ไหมคะ? ถ-ถ้างั้นท่านต้อง ร-รีบออกไปจากที่นี่นะ ไม่งั้นทางการอาจจะจับ ต-ตัวท่านได้นะ ”มารีนกล่าวกับคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

    “ใจเย็นๆก่อนซี้ แม่สาวน้อย/พ่อหนุ่มน้อย เอ๋ย.. ข้าไม่ได้มีเจตนาจะมาทำร้ายเจ้านะ”

    “ถ้างั้นท่านน่ะมีธุระอะไรกับมารีนรึเปล่าคะ?”

    “ข้าแค่มีคำถามจะถามเจ้า”

    “คำถามเหรอคะ ได้สิคะ มารีนจะตอบให้หมดทุกอย่างค่ะ”

    บุคคลปริศนานิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยปากถามคุณว่า..

    “หากสมมุติว่าเจ้าสามารถออกไปจากเกาะแห่งนี้ได้ เจ้าจะทำอะไรเป็นอย่างแรก?”

    คำถามที่คนตรงหน้าถามทำให้คุณรู้สึก(สงสัย)คุณใช้เวลาคิดสักครู่ก่อนตอบไปว่า

    “ถ้าหากออกไปจากที่นี่ได้ มารีนจะออกไปตามหารักแท้ค่ะ”

    “อืม..เจ้าแน่ใจนะ”เขากล่าว “งั้นมาฟังคำถามข้อต่อไป”

    “หากมีคนบอกว่าสามารถพาเจ้าออกจากเกาะได้ แต่ต้องแลกกับความตายของคนที่เจ้ารัก เจ้าจะยอมหรือไม่?”

    คุณมองคนตรงหน้าสักครู่ก่อนจะตอบว่า

    “ถ้าเช่นนั้น มารีนก็ขอปฏิเสธค่ะ มารีนไม่ต้องการทำร้ายใคร ถ้าหากสิ่งที่มารีนปราถนาจะทำให้คนรักของมารีนต้องตาย มารีนก็ขอเลือกที่จะอยู่บนเกาะนี้ดีกว่าค่ะ”

    “นี่เป็นคำตอบที่เจ้าเลือกสินะ แม่สาวน้อย/พ่อหนุ่มน้อย”

    คุณพยักหน้า

    “งั้นก็จงทำตามที่เจ้าเลือกเถอะ และจงจำคำตอบที่เจ้าตอบไว้ดีๆล่ะ”

    บุคคลปริศนากล่าว

    “เพราะหลังจากนี้เจ้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงมันได้อีก หลังจากที่ ‘เธอคนนั้น’ มาถึงที่นี่”

    “ท่านหมายถึงใครเหรอคะ?”

    คนตรงหน้าไม่ได้พูดอะไร กลับกันเขาเอื้อมมือมาแตะไหล่คุณ ก่อนจะ..

    เปรี้ยง

    ฉับพลัน คุณก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นเข้าไปในร่างกายของคุณอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันเจ็บจนทำให้คุณถึงกับ(อ่อนแรงและอ่อนล้าไปหมด)

    “เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้คำตอบเอง และนี่คงจะเป็นการพบกันครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเราทั้งสองคน เพราะจากนี้ไปเจ้าจะจำเหตุการณ์ในวันนี้ไม่ได้อีก”

    คนตรงหน้ากล่าว ก่อนจะก้มลงมามองคุณด้วยแววตาที่เรียบเฉย เขาเฝ้ามองคุณที่สติกำลังพร่ามัว และดับวูบ จมดิ่งลงสู่ความมืด

    แต่ในวินาทีสุดท้ายที่คุณกำลังจะจมลงสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์ คุณก็ได้ยินคนตรงหน้าพูดว่า

    “ยามที่เธอผู้นั้นปรากฏกาย เกาะแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไป..ตลอดกาล...”

    แล้วจากนั้นบุคคลปริศนาก็เดินจากไป ทิ้งให้คุณนอนสลบเหมือดอยู่บนหาดทรายเพียงลำพัง...



    [พูดคุยกับตัวละคร]


    [Ottovies]

             ยามราตรีที่แสนเงียบสงบ เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เห็นหมู่ดวงดารานับล้านดวงบนท้องฟ้าสีรัตติกาลอันเรียบง่าย พวกมันส่องแสงสีขาวระยิบระยับแต่งแต้มบนท้องฟ้าดุจเพชรน้ำงามที่ส่องประกาย

    นี่คือช่วงเวลาที่ผู้คนต่างเข้าสู่ห้วงนิทราแห่งการหลับใหล เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันใหม่ในยามรุ่งอรุณของวันพรุ่งนี้

    แม้แต่ที่เกาะมิวเทนต์สตาร์ก็เช่นเดียวกัน แต่ทว่า...

    [ออตโตเวียส]กลับเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้หลับ

    แม้จะพยายามสักแค่ไหน คุณก็มิอาจข่มตาหลับลงได้ ราวกับมีบางอย่างสะกิดใจคุณแต่ทว่า คุณกลับไม่รู้สาเหตุ..

    ‘ออกไปหาอะไรสนุกๆทำดีกว่า ไหนๆพ่อก็หลับแล้ว เอ๊ะ หรือว่าจะไปหามารีนดีนะ’

    แต่ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น

    วิ้งๆๆๆ พั่บๆๆๆ

    จู่ๆก็มีผีเสื้อปริศนาบินเข้ามาในห้องของคุณ มันเป็นผีเสื้อที่มีรูปร่างแปลกประหลาด ปีกของมันเรืองแสงเป็นสีทองอ่อนๆ ลวดลายที่แต่งแต้มบนปีกของมันนั้นช่างแปลกตา แต่กลับแฝงไปด้วยสเน่ห์ที่ดูลึกลับและน่าดึงดูด ละอองสีทองของมันกระจายไปทั่วห้องนอนของคุณ และส่องสว่างเจิดจ้าจนทำให้คุณรู้สึก(แปลกใจ)

    แต่แล้วในตอนนั้นมันก็บินวนรอบๆหน้าคุณก่อนจะบินไปเกาะที่ไหล่ของคุณ

    “หา?! นี่ผีเสื้อพันธุ์ไหนเนี่ย ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย จับไปให้มารีนดีไหมนะ? อ้าว..เฮ้ย เดี๋ยวๆ”

    เจ้าผีเสื้อน้อยไม่ได้ตอบ กลับกันมันบินขึ้นฟ้าและบินไปยังประตู มันกระพือปีกสองสามครั้งเป็นเชิงว่าให้คุณตามมันมา

    แม้จะรู้สึกประหลาดใจ แต่สุดท้ายคุณก็ยอมตามมันไป..

    คุณเดินตามเจ้าผีเสื้อๆไปอย่างรวดเร็ว ตามไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ..

    จนกระทั่งมาหยุดที่ริมชายหาดแห่งหนึ่งบนเกาะ ไร้วี่แววของผู้คน มีเพียงเสียงคลื่นทะเลที่ซัดกระทบกับชายหาดในยามกลางคืน

    และเมื่อมาถึง ผีเสื้อก็นำทางคุณไปพบกับ

    “ในที่สุดเจ้าก็มา..”

    บุคคลปริศนาที่นั่งอยู่บนโขดหินริมชายหาด ตัวของคนผู้นี้ถูกปกปิดด้วยผ้าคลุมสีขาวมีฮู้ดปกปิดใบหน้ามิดชิด จนมองไม่เห็นใบหน้า น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นฟังดูหวานปนทุ้ม..แต่ทว่ากลับยากที่จะคาดได้ว่าเป็นชายหรือหญิง

    “ไอ้หมอนี่เป็นใครฟ่ะ?ผู้ก่อการร้ายรึเปล่าเนี่ย?”

    “ข้ารู้นะเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”

    บุคคลปริศนากล่าว ก่อนจะกระโดดลงมาจากโขดหินและเดินตรงมาหาคุณ ถึงแม้คุณจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่คุณก็สัมผัสได้ว่าใบหน้าที่อยู่ภายใต้ฮู้ดนั้นกำลังหัวเราะ

    เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังดู(ไม่น่าไว้ใจ)

    “หือ เจ้าสงสัยอยู่สินะว่าข้าเป็นใคร?”

    “เออ สิว่ะ ไม่ว่าใครที่ไหน ถ้าเจอคนแปลกหน้าเขาก็คิดแบบนี้เหมือนกันล่ะเฟ้ย แล้วแกน่ะเป็นใคร?”

    “ข้าเหรอ? แหม่ ก็ไม่รู้สิ ฮิๆ อันที่จริงข้าไม่มีชื่อด้วยซ้ำ แล้วเจ้าล่ะ เจ้าชื่ออะไร?”

    “กวนประสาทว่ะ แต่จะบอกให้เอาบุญก็ได้ ฉันชื่อ ออตโต้ เฟ้ย จำใส่กบาลแกไว้ด้วย”

    “โอ้ เป็นชื่อที่ดูดีนะ”

    “แหม่ๆ ดูดีๆๆๆๆ ใครๆก็ชอบพูดแบบนี้แหละ น่าเบื่อ..เอ้า พูดจบยัง ฉันจะได้จับแกเขวี้ยงออกนอกเกาะ”

    “ใจเย็นๆก่อนซี้ แม่สาวน้อย/พ่อหนุ่มน้อย เอ๋ย.. ข้าไม่ได้มีเจตนาจะมาทำร้ายเจ้านะ”

    “ถ้าไม่มาทำร้าย แล้วมาทำไม? มาหาพ่อให้ตัดริบบิ้นรึไง? ”

    “ข้าแค่มีคำถามจะถามเจ้า”

    “อ้าว ไม่ใช่เหรอ เออๆ ถามมาเถอะ เร็วๆล่ะ จะกลับไปนอน ขี้เกียจยืนฟังคนแก่บ่น”

    บุคคลปริศนานิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยปากถามคุณว่า..

    “หากสมมุติว่าเจ้าสามารถออกไปจากเกาะแห่งนี้ได้ เจ้าจะทำอะไรเป็นอย่างแรก?”

    คำถามที่คนตรงหน้าถามทำให้คุณรู้สึก(น่าขัน)คุณใช้เวลาคิดสักครู่ก่อนตอบไปว่า

    “ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ฉันจะพามารีนออกไปเที่ยวกับฉัน พาเธอไปดูโลกกว้าง และขอเธอ...แต่งงาน”

    “อืม..เจ้าแน่ใจนะ”เขากล่าว “งั้นมาฟังคำถามข้อต่อไป”

    “หากมีคนบอกว่าสามารถพาเจ้าออกจากเกาะได้ แต่ต้องแลกกับความตายของคนที่เจ้ารัก เจ้าจะยอมหรือไม่?”

    คุณมองคนตรงหน้าสักครู่ก่อนจะตอบว่า

    “หา?! อะไรว่ะ ถ้างั้นก็หมายความว่าฉันพามารีนไปไม่ได้น่ะซี้ ไม่เอาๆ ฉันขออยู่ที่นี่ดีกว่า เดี๋ยวฉันหาทางออกไปเองก็ได้ ไม่ง้อหรอก ”

    “นี่เป็นคำตอบที่เจ้าเลือกสินะ แม่สาวน้อย/พ่อหนุ่มน้อย”

    คุณพยักหน้า

    “งั้นก็จงทำตามที่เจ้าเลือกเถอะ และจงจำคำตอบที่เจ้าตอบไว้ดีๆล่ะ”

    บุคคลปริศนากล่าว

    “เพราะหลังจากนี้เจ้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงมันได้อีก หลังจากที่ ‘เธอคนนั้น’ มาถึงที่นี่”

    “นี่จะมาเล่นมุกอะไรอีกว่ะ ขำก็ไม่ขำ ยังทำให้เครียดอีก”

    คนตรงหน้าไม่ได้พูดอะไร กลับกันเขาเอื้อมมือมาแตะไหล่คุณ ก่อนจะ..

    เปรี้ยง

    ฉับพลัน คุณก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นเข้าไปในร่างกายของคุณอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันเจ็บจนทำให้คุณถึงกับ(หายใจไม่ออก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย รู้สึกทุกข์ทรมานเหลือเกิน)

    “เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้คำตอบเอง และนี่คงจะเป็นการพบกันครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเราทั้งสองคน เพราะจากนี้ไปเจ้าจะจำเหตุการณ์ในวันนี้ไม่ได้อีก”

    คนตรงหน้ากล่าว ก่อนจะก้มลงมามองคุณด้วยแววตาที่เรียบเฉย เขาเฝ้ามองคุณที่สติกำลังพร่ามัว และดับวูบ จมดิ่งลงสู่ความมืด

    แต่ในวินาทีสุดท้ายที่คุณกำลังจะจมลงสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์ คุณก็ได้ยินคนตรงหน้าพูดว่า

    “ยามที่เธอผู้นั้นปรากฏกาย เกาะแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไป..ตลอดกาล...”

    แล้วจากนั้นบุคคลปริศนาก็เดินจากไป ทิ้งให้คุณนอนสลบเหมือดอยู่บนหาดทรายเพียงลำพัง...



    [พูดคุยกับตัวละคร]


    [Fung Lan]


             ยามราตรีที่แสนเงียบสงบ เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เห็นหมู่ดวงดารานับล้านดวงบนท้องฟ้าสีรัตติกาลอันเรียบง่าย พวกมันส่องแสงสีขาวระยิบระยับแต่งแต้มบนท้องฟ้าดุจเพชรน้ำงามที่ส่องประกาย

    นี่คือช่วงเวลาที่ผู้คนต่างเข้าสู่ห้วงนิทราแห่งการหลับใหล เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันใหม่ในยามรุ่งอรุณของวันพรุ่งนี้

    แม้แต่ที่เกาะมิวเทนต์สตาร์ก็เช่นเดียวกัน แต่ทว่า...

    [ฟง หลิน]กลับเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้หลับ

    แม้จะพยายามสักแค่ไหน คุณก็มิอาจข่มตาหลับลงได้ ราวกับมีบางอย่างสะกิดใจคุณแต่ทว่า คุณกลับไม่รู้สาเหตุ..

    ‘อา แปลกจัง ปกติเวลานี้ข้าจะหลับแล้วนี่นา’

    แต่ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น

    วิ้งๆๆๆ พั่บๆๆๆ

    จู่ๆก็มีผีเสื้อปริศนาบินเข้ามาในห้องของคุณ มันเป็นผีเสื้อที่มีรูปร่างแปลกประหลาด ปีกของมันเรืองแสงเป็นสีทองอ่อนๆ ลวดลายที่แต่งแต้มบนปีกของมันนั้นช่างแปลกตา แต่กลับแฝงไปด้วยสเน่ห์ที่ดูลึกลับและน่าดึงดูด ละอองสีทองของมันกระจายไปทั่วห้องนอนของคุณ และส่องสว่างเจิดจ้าจนทำให้คุณรู้สึก(ตะลึงในความงามของมัน)

    แต่แล้วในตอนนั้นมันก็บินวนรอบๆหน้าคุณก่อนจะบินไปเกาะที่ปลายนิ้วของคุณ

    “โอ้โห อะไรกันเนี่ย มีผีเสื้อที่งดงามแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอ?”

    เจ้าผีเสื้อน้อยไม่ได้ตอบ กลับกันมันบินขึ้นฟ้าและบินไปยังประตู มันกระพือปีกสองสามครั้งเป็นเชิงว่าให้คุณตามมันมา

    แม้จะรู้สึกประหลาดใจ แต่สุดท้ายคุณก็ยอมตามมันไป..

    คุณเดินตามเจ้าผีเสื้อๆไปอย่างเบาๆ ตามไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ..

    จนกระทั่งมาหยุดที่ริมชายหาดแห่งหนึ่งบนเกาะ ไร้วี่แววของผู้คน มีเพียงเสียงคลื่นทะเลที่ซัดกระทบกับชายหาดในยามกลางคืน

    และเมื่อมาถึง ผีเสื้อก็นำทางคุณไปพบกับ

    “ในที่สุดเจ้าก็มา..”

    บุคคลปริศนาที่นั่งอยู่บนโขดหินริมชายหาด ตัวของคนผู้นี้ถูกปกปิดด้วยผ้าคลุมสีขาวมีฮู้ดปกปิดใบหน้ามิดชิด จนมองไม่เห็นใบหน้า น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นฟังดูหวานปนทุ้ม..แต่ทว่ากลับยากที่จะคาดได้ว่าเป็นชายหรือหญิง

    “เขาเป็นใครกันนะ แล้วมาอยู่บนเกาะนี้ได้ไง?ก็ในเมื่อที่นี่ถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก เอ๊ะ..หรือว่าเขาจะไม่ใช่คนกันนะ”

    “ข้ารู้นะเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”

    บุคคลปริศนากล่าว ก่อนจะกระโดดลงมาจากโขดหินและเดินตรงมาหาคุณ ถึงแม้คุณจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่คุณก็สัมผัสได้ว่าใบหน้าที่อยู่ภายใต้ฮู้ดนั้นกำลังหัวเราะ

    เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังดู(เจ้าเล่ห์และแฝงไปด้วยลับลมคมในที่คาดเดายาก)

    “หือ เจ้าสงสัยอยู่สินะว่าข้าเป็นใคร?”

    “ขอรับ ไม่ทราบว่าคุณเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร? แล้วคุณเป็นใคร?”

    “ข้าเหรอ? แหม่ ก็ไม่รู้สิ ฮิๆ อันที่จริงข้าไม่มีชื่อด้วยซ้ำ แล้วเจ้าล่ะ เจ้าชื่ออะไร?”

    “ข้าคือ ฟงหลิน แห่งตระกูลจีโอคิเนซิสครับ ยินดีที่ได้รู้จักขอรับ”

    “โอ้ เป็นชื่อที่ดูดีนะ”

    “ขอบคุณที่ชมนะขอรับ ว่าแต่คุณพอจะบอกเหตุผลได้รึเปล่าว่าคุณเข้ามาที่นี่ด้วยเหตุอันใด? ”

    “ใจเย็นๆก่อนซี้ แม่สาวน้อย/พ่อหนุ่มน้อย เอ๋ย.. ข้าไม่ได้มีเจตนาจะมาทำร้ายเจ้านะ”

    “ถ้างั้นคุณมาทำไมกันขอรับ?”

    “ข้าแค่มีคำถามจะถามเจ้า”

    “เชิญถามมาได้เลยขอรับ”

    บุคคลปริศนานิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยปากถามคุณว่า..

    “หากสมมุติว่าเจ้าสามารถออกไปจากเกาะแห่งนี้ได้ เจ้าจะทำอะไรเป็นอย่างแรก?”

    คำถามที่คนตรงหน้าถามทำให้คุณรู้สึก(ประหลาดใจ)คุณใช้เวลาคิดสักครู่ก่อนตอบไปว่า

    “ข้าจะนำของในเกาะแห่งนี้ไปขายให้กับโลกภายนอก ข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เป็นพ่อค้าที่เก่งกาจที่สุดโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาครอบครัวของข้า ดังเฉกเช่นทุกวันนี้”

    “อืม..เจ้าแน่ใจนะ”เขากล่าว “งั้นมาฟังคำถามข้อต่อไป”

    “หากมีคนบอกว่าสามารถพาเจ้าออกจากเกาะได้ แต่ต้องแลกกับความตายของคนที่เจ้ารัก เจ้าจะยอมหรือไม่?”

    คุณมองคนตรงหน้าสักครู่ก่อนจะตอบว่า

    “เป็นคำตอบที่ยากนะขอรับ แต่กระนั้นถ้าหากให้ต้องฆ่าบุพพการีผู้มีพระคุณของข้าเพียงเพราะจะออกไปยังโลกภายนอกนั้น มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยขอรับ เช่นนั้นข้าขออยู่นี่ซะยังจะดีกว่า... ”

    “นี่เป็นคำตอบที่เจ้าเลือกสินะ แม่สาวน้อย/พ่อหนุ่มน้อย”

    คุณพยักหน้า

    “งั้นก็จงทำตามที่เจ้าเลือกเถอะ และจงจำคำตอบที่เจ้าตอบไว้ดีๆล่ะ”

    บุคคลปริศนากล่าว

    “เพราะหลังจากนี้เจ้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงมันได้อีก หลังจากที่ ‘เธอคนนั้น’ มาถึงที่นี่”

    “คุณพูดเรื่องอะไรเหรอขอรับ?”

    คนตรงหน้าไม่ได้พูดอะไร กลับกันเขาเอื้อมมือมาแตะไหล่คุณ ก่อนจะ..

    เปรี้ยง

    ฉับพลัน คุณก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นเข้าไปในร่างกายของคุณอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันเจ็บจนทำให้คุณถึงกับ(ชา และแข็งทื่อราวกับรูปปั้น ขยับไปไหนไม่ได้ และโดนคนตรงหน้าผลักจนล้มลงไปกองกับพื้น)

    “เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้คำตอบเอง และนี่คงจะเป็นการพบกันครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเราทั้งสองคน เพราะจากนี้ไปเจ้าจะจำเหตุการณ์ในวันนี้ไม่ได้อีก”

    คนตรงหน้ากล่าว ก่อนจะก้มลงมามองคุณด้วยแววตาที่เรียบเฉย เขาเฝ้ามองคุณที่สติกำลังพร่ามัว และดับวูบ จมดิ่งลงสู่ความมืด

    แต่ในวินาทีสุดท้ายที่คุณกำลังจะจมลงสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์ คุณก็ได้ยินคนตรงหน้าพูดว่า

    “ยามที่เธอผู้นั้นปรากฏกาย เกาะแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไป..ตลอดกาล...”

    แล้วจากนั้นบุคคลปริศนาก็เดินจากไป ทิ้งให้คุณนอนสลบเหมือดอยู่บนหาดทรายเพียงลำพัง...



    [พูดคุยกับตัวละคร]

    [Sohee]


             ยามราตรีที่แสนเงียบสงบ เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เห็นหมู่ดวงดารานับล้านดวงบนท้องฟ้าสีรัตติกาลอันเรียบง่าย พวกมันส่องแสงสีขาวระยิบระยับแต่งแต้มบนท้องฟ้าดุจเพชรน้ำงามที่ส่องประกาย

    นี่คือช่วงเวลาที่ผู้คนต่างเข้าสู่ห้วงนิทราแห่งการหลับใหล เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันใหม่ในยามรุ่งอรุณของวันพรุ่งนี้

    แม้แต่ที่เกาะมิวเทนต์สตาร์ก็เช่นเดียวกัน แต่ทว่า...

    [โซฮี]กลับเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้หลับ

    แม้จะพยายามสักแค่ไหน คุณก็มิอาจข่มตาหลับลงได้ ราวกับมีบางอย่างสะกิดใจคุณแต่ทว่า คุณกลับไม่รู้สาเหตุ..

    ‘ให้ตายเถอะ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย..จะเที่ยงคืนแล้วเรอะ?’

    แต่ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น

    วิ้งๆๆๆ พั่บๆๆๆ

    จู่ๆก็มีผีเสื้อปริศนาบินเข้ามาในห้องของคุณ มันเป็นผีเสื้อที่มีรูปร่างแปลกประหลาด ปีกของมันเรืองแสงเป็นสีทองอ่อนๆ ลวดลายที่แต่งแต้มบนปีกของมันนั้นช่างแปลกตา แต่กลับแฝงไปด้วยสเน่ห์ที่ดูลึกลับและน่าดึงดูด ละอองสีทองของมันกระจายไปทั่วห้องนอนของคุณ และส่องสว่างเจิดจ้าจนทำให้คุณรู้สึก(รำคาญ)

    แต่แล้วในตอนนั้นมันก็บินวนรอบๆหน้าคุณก่อนจะบินไปเกาะที่มือของคุณ

    “แปลกจัง ฉันก็ไม่ได้เปิดหน้าต่างทิ้งไว้ซะหน่อย แล้วมันเข้ามาได้ยังไงกัน?”

    เจ้าผีเสื้อน้อยไม่ได้ตอบ กลับกันมันบินขึ้นฟ้าและบินไปยังประตู มันกระพือปีกสองสามครั้งเป็นเชิงว่าให้คุณตามมันมา

    แม้จะรู้สึกประหลาดใจ แต่สุดท้ายคุณก็ยอมตามมันไป..

    คุณเดินตามเจ้าผีเสื้อๆไปอย่างรวดเร็ว ตามไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ และเรื่อยๆ..

    จนกระทั่งมาหยุดที่ริมชายหาดแห่งหนึ่งบนเกาะ ไร้วี่แววของผู้คน มีเพียงเสียงคลื่นทะเลที่ซัดกระทบกับชายหาดในยามกลางคืน

    และเมื่อมาถึง ผีเสื้อก็นำทางคุณไปพบกับ

    “ในที่สุดเจ้าก็มา..”

    บุคคลปริศนาที่นั่งอยู่บนโขดหินริมชายหาด ตัวของคนผู้นี้ถูกปกปิดด้วยผ้าคลุมสีขาวมีฮู้ดปกปิดใบหน้ามิดชิด จนมองไม่เห็นใบหน้า น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นฟังดูหวานปนทุ้ม..แต่ทว่ากลับยากที่จะคาดได้ว่าเป็นชายหรือหญิง

    “ใครกัน?หรือว่าฉันตาฝาด..”

    “ข้ารู้นะเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”

    บุคคลปริศนากล่าว ก่อนจะกระโดดลงมาจากโขดหินและเดินตรงมาหาคุณ ถึงแม้คุณจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่คุณก็สัมผัสได้ว่าใบหน้าที่อยู่ภายใต้ฮู้ดนั้นกำลังหัวเราะ

    เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังดู(น่ารำคาญ)

    “หือ เจ้าสงสัยอยู่สินะว่าข้าเป็นใคร?”

    “ก็คงจะยังงั้น ว่าแต่คุณเป็นใครรึ?”

    “ข้าเหรอ? แหม่ ก็ไม่รู้สิ ฮิๆ อันที่จริงข้าไม่มีชื่อด้วยซ้ำ แล้วเจ้าล่ะ เจ้าชื่ออะไร?”

    “ชื่อของฉัน คือ โซฮี และสักวันหนึ่งฉันจะกลายเป็นไอดอลผู้โด่งดัง จำให้ดีล่ะ”

    “โอ้ เป็นชื่อที่ดูดีนะ”

    “ก็แหงล่ะ เก๋ไก๋ใช่มั้ยล่ะ แต่ช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ คุณน่ะเป็นใคร?ถ้าคิดจะแต๊ะอั๋งฉันล่ะก็ อย่าหวังเลย”

    “ใจเย็นๆก่อนซี้ แม่สาวน้อย/พ่อหนุ่มน้อย เอ๋ย.. ข้าไม่ได้มีเจตนาจะมาทำร้ายเจ้านะ”

    “ก็ดีเพราะไม่งั้นฉันคงจะเตะก้านคอคุณไปนานแล้ว”

    “ข้าแค่มีคำถามจะถามเจ้า”

    “คำถามเหรอ? แล้วอยากรู้อะไรล่ะ?”

    บุคคลปริศนานิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยปากถามคุณว่า..

    “หากสมมุติว่าเจ้าสามารถออกไปจากเกาะแห่งนี้ได้ เจ้าจะทำอะไรเป็นอย่างแรก?”

    คำถามที่คนตรงหน้าถามทำให้คุณรู้สึก(แปลกใจ)คุณใช้เวลาคิดสักครู่ก่อนตอบไปว่า

    “สิ่งแรกที่ฉันจะทำเมื่อออกไปที่โลกภายนอกก็คือ ทำตามฝันของตัวเอง ไปเป็นซุปเปอร์ไอดอลที่โด่งดังที่สุดให้คนทั้งโลกต้องตกตะลึง”

    “อืม..เจ้าแน่ใจนะ”เขากล่าว “งั้นมาฟังคำถามข้อต่อไป”

    “หากมีคนบอกว่าสามารถพาเจ้าออกจากเกาะได้ แต่ต้องแลกกับความตายของคนที่เจ้ารัก เจ้าจะยอมหรือไม่?”

    คุณมองคนตรงหน้าสักครู่ก่อนจะตอบว่า

    “จริงอยู่ที่ฉันไม่ได้ผูกพันกับครอบครัวนี้มากนัก แต่ถ้าให้ต้องแลกกับชีวิตพวกเขาเพียงแค่เรื่องโง่ๆแค่นี้ ฉันขอผ่านล่ะ”

    “นี่เป็นคำตอบที่เจ้าเลือกสินะ แม่สาวน้อย/พ่อหนุ่มน้อย”

    คุณพยักหน้า

    “งั้นก็จงทำตามที่เจ้าเลือกเถอะ และจงจำคำตอบที่เจ้าตอบไว้ดีๆล่ะ”

    บุคคลปริศนากล่าว

    “เพราะหลังจากนี้เจ้าจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงมันได้อีก หลังจากที่ ‘เธอคนนั้น’ มาถึงที่นี่”

    “ธง เธออะไรเนี่ยคุณ บ้ารึเปล่า?แม้แต่ปลาวาฬสักตัวยังเข้ามาในเกาะนี้ไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนจากโลกภายนอก ตลกล่ะ”

    คนตรงหน้าไม่ได้พูดอะไร กลับกันเขาเอื้อมมือมาแตะไหล่คุณ ก่อนจะ..

    เปรี้ยง

    ฉับพลัน คุณก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นเข้าไปในร่างกายของคุณอย่างไม่ทราบสาเหตุ มันเจ็บจนทำให้คุณถึงกับ(ชัก เจ็บแปร๊บไปทั่วทั้งร่างเสมือนกับโดนไฟฟ้าช๊อตเลยทีเดียว)

    “เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้คำตอบเอง และนี่คงจะเป็นการพบกันครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเราทั้งสองคน เพราะจากนี้ไปเจ้าจะจำเหตุการณ์ในวันนี้ไม่ได้อีก”

    คนตรงหน้ากล่าว ก่อนจะก้มลงมามองคุณด้วยแววตาที่เรียบเฉย เขาเฝ้ามองคุณที่สติกำลังพร่ามัว และดับวูบ จมดิ่งลงสู่ความมืด

    แต่ในวินาทีสุดท้ายที่คุณกำลังจะจมลงสู่ห้วงนิทราอย่างสมบูรณ์ คุณก็ได้ยินคนตรงหน้าพูดว่า

    “ยามที่เธอผู้นั้นปรากฏกาย เกาะแห่งนี้จะเปลี่ยนแปลงไป..ตลอดกาล...”

    แล้วจากนั้นบุคคลปริศนาก็เดินจากไป ทิ้งให้คุณนอนสลบเหมือดอยู่บนหาดทรายเพียงลำพัง...


    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×