ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องสมุดรวบรวมตัวละครของ Eagle Sonic

    ลำดับตอนที่ #228 : [Aegis Superbia] เหล่าผู้พิทักษ์แห่งซูเพอร์เบีย No.5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 133
      0
      1 ธ.ค. 62

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ league of legends ekko true damage gif

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ league of legends ekko true damage gif


    Moving too fast like I'm moving in slow-mo


    I'm a God better ask if you don't know


    Homie better put your pride aside


    I'm a Benz and you’re more like a Volvo


    Your best stuff looks like my worst, synapses fire and burst


    Got the whole crew with me, 'bout to deal damage, you know we ain't average


    I ain't gonna say this again


    But this is my time better look in my eyes


    I'm a genius in disguise, wear my heart on my sleeve


    And you forced to oblige to a king in his prime


    Everybody get in Line, sit back, watch the stars align


    I finesse like my life on the line was a diamond in the rough


    And now I shine


    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ league of legends ekko true damage gif


    Application



     


    "......"


    บทบาท : นักศึกษาอีจิสฝึกหัด

    1.ข้อมูลลักษณะภายนอก

    ชื่อ : ดิเอโก้ บาร์โบซ่า [Diego Barbosa]

    ชื่อเรียก : ดิเอโก้ [Diego]

    เพศ : ชาย

    อายุ : 16  ปี

    เชื้อชาติ : บราซิล-อเมริกา-ไทย

    ลักษณะภายนอก : เด็กหนุ่มผิวสีเข้ม เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลช็อกโกแลต สูง 180 ซม. หนัก 70 กก. ทำผมทรงเดรดล็อกสีน้ำตาลเข้ม โกนคิ้วแหว่งแบบเฉียงๆที่บริเวณกลางๆปลายคิ้วข้างขวา สวมถุงมือครึ่งนิ้วสีดำ สวมเสื้อกันหนาวแบบมีฮู้ดสีดำถ่านทับเสื้อยืดสีขาวด้านใน สวมเสื้อแจ็คเก็ตลำลองแบบมีซิปรูดสีกรมท่าทับคอปกสีเหลืองทับชั้นนอก สวมกางเกงวอร์มขาห้าส่วนสีเทา ถุงเท้ายาวเลยข้อเท้าสีดำ คู่กับรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสูงสีเหลือง และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย เขาจะคล้องเฮดเซ็ทไร้สายสีเงินไว้ที่คอ พร้อมกับผ้าปิดปากลายทศกัณฐ์สีดำ

    2.ข้อมูลในฐานะอีจิส

    Class : Doctor DJ

    Trait : Tech

    property : Music,Sonic,X-ray,Herb

    Position : Healer, Supporter Enchanter , Debuffer

    Rank : F

    สังกัดกิลด์ : -

    Status : 

    HP : D

    MP : B

    STR : D                         AGI : D                       MAG : B

    VIT : D                          DEX : D                         INT : C

    STM : C                        INS : E                          SPD : C

    charisma skill : 

    [Megaphone Sonic]พลังคลื่นเสียงแห่งการทำลายล้าง สามารถใช้เสียงที่เสียงทุ้มทรงพลังในการทำให้แก้วหูศัตรูสั่นสะเทือนได้จากทั้งระยะที่ไกลแสนไกลและระยะใกล้ นอกจากนี้พลังยังสามารถทำลายสิ่งที่อยู่รอบตัวได้ด้วย และถึงแม้จะเป็นเพียงเสียงกระซิบก็สามารถสร้างความเสียหายได้เช่นกัน

    แต่แน่นอนว่าแม้พลังจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ย่อมต้องมีข้อจำกัด พลังนี้ต้องแลกมากับการที่ดิเอโก้ไม่สามารถพูดคุยกับใครได้เลย เพราะยังไม่สามารถควบคุมพลังนี้ได้อย่างที่ต้องการ

    หมายเหตุ:จริงๆแล้วพลังนี้มีชื่อจริงว่า ไฮเปอร์โซนิค แต่เนื่องจากกลัวว่าจะซ้ำกับพลังของฮีโร่ในมาร์เวลที่ชื่อ Black Bolt ดิเอโก้จึงเปลี่ยนชื่อสกิลนี้เป็นโทรโข่งแทน(เพราะยังไงโทรโข่งมันก็ดังอยู่แล้วล่ะนะ)

    Skill : 

    <<Passive>>

    [Eyes of X-ray]ดวงตาแห่งการเอ็กซเรย์ มองผ่านร่างกายคนออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ชนิดที่ว่าถึงจะใส่เสื้อผ้ามันก็สามารถมองเห็นได้ว่าคุณใส่กางเกงในลายอะไร(บ้าจริง เจ้าคนลามก) เห็นตั้งแต่ผิวภายนอกยันอวัยวะภายใน(ยกเว้นหัวใจ) แม้กระทั่งสิ่งของเองก็เช่นเดียวกัน แต่ไม่สามารถประเมินสเตตัสศัตรูได้ นอกจากนี้สกิลนี้ยังมีข้อเสียอีกอย่างหนึ่งคือ ทำให้เขาถูกสาวๆหนีห่างอยู่บ่อยๆเพราะกลัวจะโดนแอบส่อง ทั้งๆที่จริงๆสกิลมันมีข้อจำกัดอยู่คือใช้เพ่งได้เฉพาะเป็นรายๆคนไม่สามารถมองรวมได้หมด และใช้พลังได้แค่ครั้งล่ะ 10 นาที เมื่อใช้ไปแล้วจะใช้สกิลนี้ไม่ได้อีกจนกว่าจะครบ 2 ชม. แต่บางครั้งเขาก็อาจจะเผลอใช้พลังออกมาโดยไม่รู้ตัวได้เช่นกัน

    <<Active>>

    [Charge!] เล่นดนตรีอิเล็คโทรนิคที่สามารถช่วยเพิ่มค่า HP และปลุกความฮึกเหิมให้กับเพื่อนในระยะ 10 กิโลเมตรเท่านั้น นอกเหนือจากระยะทางที่กำหนดจะไม่สามารถฮีลได้

    [Grow up]ใช้เสียงเพลงกระตุ้นให้สมุนไพรโตเร็วขึ้น/ออกผลเร็วขึ้น

    ความสามารถในการต่อสู้ :

    -เก่ง คาโปเอร่า ศิลปะป้องกันตัวแขนงหนึ่ง มีต้นกำเนิดจากประเทศบราซิล เกิดจากการผสมผสานระหว่างการต่อสู้ การเต้น ดนตรี กายกรรม ปรัชญา เกิดโดยทาสชาวแอฟริกาในบราซิล

    -วิชาฝังเข็ม ช่วยทำให้เพื่อนรู้สึกดีขึ้น ใช้สมุนไพรรักษาบาดแผลคนอื่น

    อุปกรณ์ที่ใช้ :

    -ลำโพงสวมคอ ใช้คู่กับสกิล[Megaphone Sonic]

    -แว่นสแกนเนอร์ ใช้คู่กับสกิล [Eyes of X-ray] ทำให้สามารถระบุบาดแผลและความเสียหายของอวัยวะภายในในร่างกายเพื่อนที่ถูกแสกนได้

    -Bluelight DJ Controller อุปกรณ์ที่ดีเจขาดไม่ได้ ใช่แล้ว เครื่องเล่นดีเจไงล่ะ แต่เป็นเครื่องเล่นดีเจฉบับพกพาที่ปรากฎมาในรูปของลูกบอลประหลาดที่ดิเอโก้ได้มาจากนักประดิษฐ์คนหนึ่ง โดยหากวางลงบนพื้น มันก็จะประกอบร่างกันก่อนจะขยายใหญ่จนกลายเป็นเครื่องเล่นดีเจโดยอัตโนมัติ ใช้คู่กับสกิล [Charge!] นอกจากจะสามารถใช้ฮีลเพื่อนแล้ว ยังสามารถจัดงานปาร์ตี้ได้ด้วยนะ

    แต่ก็มีจุดอ่อนแหละ เวลาเล่นเพลงจะสู้ไม่ได้ ต้องมีคนคอยคุ้มกัน และแบตก็หมดได้เหมือนโทรศัพท์ ต้องชาร์จไว้ด้วย แล้วก็ถ้าโดนน้ำสาดใส่ เสีย และแน่นอนมีโอกาสพังได้ถ้ารักษาไม่ดี 

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ league of legends dj sona gif

    -กระเป๋ากีฬาแบบมีสายสะพายที่ส่วนใหญ่จะใส่ กล่องเก็บเข็มฝังเข็มของจีน โกร่งบดยา แล้วก็มีดพก 

    -กล่องไม้ธรรมดาใส่สมุนไพร หลักๆก็แค่ใส่สมุนไพร ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก


    ลักษณะเครื่องแบบ : ชุดเกราะประยุกต์ไซเบอร์สูทสีเทา แว่นตาสแกนเนอร์สีเขียว สวมลำโพงที่คอแบบพรีเซนต์มิคใน My Hero Academia

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ekko league of legends

    สไตล์การต่อสู้ : กองหลังที่เน้นการฟื้นฟูค่า HP และกำลังใจของเพื่อนๆในระยะ 10 เมตรโดยการเล่นเพลงให้พวกเขาได้ยิน ส่วนใหญ่เขาจะไม่ค่อยสู้  แต่ถ้าจำเป็นๆก็คงจะสู้แบบตัวต่อตัวระยะประชิดมากกว่า และบางทีถ้ามีมอนจำนวนมากกว่าจนฝ่าวงล้อมออกไปไม่ได้ก็จะใช้ charisma skill แต่ในกรณีที่ไม่สะดวกต่อการเล่นเพลง หรือเพื่อนได้รับบาดเจ็บจนลุกไม่ไหว เขาก็จะใช้ทักษะการฝังเข็มและการใช้ยาสมุนไพรรักษาแผลและอาการบาดเจ็บของเพื่อนแทน

    3.ข้อมูลภูมิฐาน

    อุปนิสัย : 

    -ไม่ใช่ไม่อยากพูด แต่พูดไม่ได้โว้ย!! จริงๆเป็นคนพูดมากกกกกกกกกกก มากจนน้ำไหลไฟดับลิงหลับตกต้นไม้กันเลยทีเดียว ดังนั้นอย่าท้าให้เขาพูดเด็ดขาด ไม่งั้นความพังพินาศจะมาเยือน เขาเคยเขียนบอกเพื่อนว่า ถ้าคุมพลังได้นะ สิ่งแรกที่เขาจะทำคือเขาจะร้องแร็ปให้ทุกคนฟังใเป็นอันดับแรกเลย

    -เหมือนเป็นคนหยิ่ง แต่จริงๆเฟรนลี่และสุภาพบุรุษกว่าที่คิด เขาพร้อมที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือทุกคนเสมอ ต่อให้เป็นคนที่ชอบบูลลี่เขาอยู่ประจำ เขาก็พร้อมที่จะช่วยถ้าหากคนคนนั้นตกอยู่ในที่นั่งลำบาก และถึงแม้จะมีสกิลมองทะลุปรุโปรงถึงร่างกายภายใน เขาก็ไม่เคยล่วงเกินใคร ดังนั้นเวลาที่คุยกับผู้หญิงคนไหน เพื่อให้พวกเธอสบายใจ เขาจะพยายามแหงนมองฟ้าบ้าง หันหน้าไปทางอื่น ปิดตาของตัวเองเพื่อป้องกันการเผลอใช้พลังออกมาโดยไม่รู้ตัว 

    -โกรธยาก แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีคนเห็น ดิเอโก้เป็นพวกที่ว่า มองโลกในแง่ดี ถึงแม้จะโดนแกล้งเขาก็จะไม่แกล้งใครกลับ เพราะเขาเชื่ออยู่เสมอว่า มนุษย์แต่ละคนนั้นอยู่ในสังคมที่แตกต่างกัน ดังนั้นบางคนที่เกิดมาเป็นเด็กเกเรอาจจะเพราะมีปม แต่กระนั้นก็ใช่ว่าเขาจะโกรธไม่เป็น เพราะถ้าคุณไปจี้ใจดำเขาในเรื่องที่เขาไม่มีพ่อ หรือดูถูกครอบครัว เขาจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันทีและจะพุ่งเขาใส่คุณอย่างเกรี้ยวกราดโดยไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น

    -เขารักสันติ เขาไม่ชอบการต่อสู้ แม้ดิเอโก้นั้นจะแข็งแรงและเก่งในเรื่องการต่อสู้ก็จริง แต่เขากลับเลือกที่จะเป็นฮีลช่วยเหลือเพื่อน เขาเห็นว่าในปัจจุบันอีจิสสายฮีลนั้นเป็นอีจิสที่หายากมาก และการช่วยเหลือคนอื่นก็เป็นเรื่องที่เขาถนัด ด้วยเหตุนี้เขาก็เลยตัดสินใจมาเป็นสายฮีลยังไงล่ะ แต่ถ้ามีคนทำร้ายเขาก็สามารถสู้เพื่อป้องกันตัวเองได้ด้วยเช่นกัน

    -ทำเพื่อส่วนรวมต่อส่วนตนก่อนเสมอ ดิเอโก้พร้อมจะเสียสละให้กับทุกคนแม้ว่าตัวเองจะต้องตายก็ตาม หากว่าสามารถช่วยคนอื่นได้เขาก้พร้อมที่จะทำ

    -เด็กดีของแม่ ติดแม่ รักพี่น้อง รักครอบครัว เป็นคนที่อบอุ่นสุดๆ

    -เจอสมุนไพรทีไรต้องวิ่งเข้าไปตะครุบทุกที ไม่รู้อ่ะ มันห้ามตัวเองไม่ได้เลย

    -ราชาแห่งการละเมอ เขาเป็นคนหลับลึก ปลุกยากมาก แถมยังนอนดิ้นอีก ยิ่งถ้าหมดพลังแล้ว ต่อให้ตบหน้าฟาดหัวทุบตีเขายังไงก็ไม่ตื่น การละเมอของเขานับว่าอันตรายมาก เขาสามารถเดินไปไหนมาไหนก็ได้ในขณะที่หลับโดยที่ไม่รู้ตัว แล้วอีกอย่างนะเวลานอนเจ้าตัวกรนเสียงดังเอามั่กๆด้วย และด้วยเหตุนี้เองห้องนอนของเขาจึงต้องทำมาเพื่อเก็บเสียงเขาโดยเฉพาะเพื่อป้องกันบ้านพัง โดยจะแยกห้องนอนกับห้องทำงานไว้ ถ้าเป็นห้องนอนก็มีแค่เตียงอย่างเดียว เพื่อป้องกันข้าวของอื่นพังขณะนอนกรน ส่วนห้องทำงานก็ติดกับห้องนอนนะแต่จะมีของเยอะกว่า ดังนั้นเวลาไปค้างคืน ตั้งแคมป์ ก็ต้องนอนแยกเต้นท์กับเพื่อน โดยใช้เต้นท์ชนิดพิเศษที่มีไว้กันเสียงของเขาออกมาข้างนอกเต้นท์โดยเฉพาะ

    -ถ้าได้ทำในสิ่งที่ชอบ จะสนุกกับมันอย่างเต็มที่ 

    -ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา ในเมื่อฉันร้องเพลงไม่ได้ ฉันก็เล่นเพลงแทนได้นี่นา เขาเป็นพวกที่พลิกแพลงได้เสมอ ต่อให้คนทั้งโลกจะบอกว่าเขาร้องเพลงไม่ได้ แต่เขาก็จะไม่ยอมสิ้นหวังและจมปรักอยู่กับความมืดแบบนี้หรอก เขาจะพยายามหาทางทุกอย่างเพื่อที่ตัวเองจะได้ก้าวเดินบนเส้นทางที่เขาต้องการอย่างภาคภูมิใจ ต่อให้ใครๆบอกว่าเขาทำไม่ได้ เขาก็ไม่สน ฉันจะสู้ให้ถึงที่สุด ฉันจะไม่ยอมถอยเด็ดขาด

    -ก่อนที่จะได้พลัง กับเพื่อนๆ เขาเป็นคนที่ร่าเริง ซุกซน อยู่ไม่นิ่ง ขี้เล่น ชอบแซว พูดมากกก เล่นมุขกวนสหบาทาเก่ง ซ่าอย่างสุดๆ ปกติถ้ากับเพื่อนสนิทจะเล่นกันตามประสาเด็กผู้ชาย (กระโดดเกาะคอ ตบไหล่ โยนลอยฟ้า บลาๆ)  แต่เวลากลัวอย่างนิ่ง(บอกให้รู้เลยว่าสลบเหมือดไปแล้ว)

    แต่หลังจากได้พลังมา พูดไม่ได้มาก บางทีอยากพูดแต่พูดไม่ได้ก็จะทำตัวยุกยิกๆ เดินวนไปมา เวลาอยากสื่อสารกับเพื่อนก็จะแสดงภาษากาย สื่อสารด้วยภาษาใบ้อะไรแบบนั้น


    ชอบ :

    -เสียงดนตรีอิเล็คโทรนิค เสียงเพลงแจ๊ส เสียงเพลงทุกแนว

    -แซกโซโฟน เครื่องดนตรีที่ถนัดและโปรดปรานที่สุดในบรรดาเครื่องดนตรีทั้งหมด

    -การร้องเพลง โดยเฉพาะการแร็ป 

    -ฟุตบอล คาโปเอร่า กรีฑา

    -วิชาดนตรี

    -หมาพันธุ์ฟิล่า บราซิเลียโร เขาเลี้ยงหมาพันธุ์นี้อยู่ตัวหนึ่งชื่อ มิคกี้

    -อาหารบราซิล กับอาหารไทยทุกอย่าง แต่ที่ชอบที่สุดต้องผัดไทครับ

    -โค้กซ่าๆกับขนมถุงอร่อยๆ(แต่แม่ไม่ค่อยอยากให้กินบ่อย เพราะน้ำอัดลมทำให้เรอบ่อย แถมเสี่ยงต่อการที่เผลอปล่อยพลังเสียงอีก ถึงจะปิดปากแล้วก็ไว้ใจไม่ค่อยได้อยู่ดี)

    -งานคาร์นิวัลในประเทศบราซิล

    -การช่วยเหลือคนอื่น

    ไม่ชอบ : 

    -แมลงสาบ ประสบการณ์โดยตรงคือ ตอนเด็กเคยเจอแมลงสาบหล่นมานอนตายในซุปที่เขากำลังจะกินตอนไปโรงเรียน

    -บร๊อคโคลี่ ไม่ว่าใครก็เกลียดทั้งนั้น

    -การเหยียดสีผิว แต่ไม่ถึงขั้นโกรธจนปรี๊ดแตกแค่ไม่ชอบ แต่ไม่ว่าใครก็ไม่ชอบให้ใครมาเหยียดหรอก(ลองนึกถึงคนที่มักจะโดนล้อว่าไอ้ดำ ไอ้เงาะบ่อยๆดูสิ คุณคิดว่าเขามีความสุขไหมที่โดนแบบนั้นน่ะ?)

    ลักษณะการพูด : 

    -ก็อย่างที่บอก เขาพูดไม่ได้ ส่วนใหญ่เวลาสื่อสารกับใคร เขาจะสื่อสารเป็นภาษามือ หรือไม่ก็เขียนข้อความลงกระดาษให้เพื่อนอ่าน แต่ถ้าในกรณีที่อยากพูดกับใครแต่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ เขาก็จะเขียนข้อความลงบนมือเพื่อนคนนั้นแทน และโดยปกติแล้วเขาจะแสดงออกโดยการใช้สีหน้าและภาษากายมากกว่า เช่น

    โกรธ-หน้าบึ้งตึง จริงจังทันที

    มีความสุข-ยิ้ม อารมณ์ดี ทำตัวร่าเริงกว่าปกติ ถ้าตลกมากจะหัวเราะแบบไม่มีเสียง

    เศร้า-หน้าหมาหงอย

    อ้อน-ทำแก้มป่อง

    กลัว-เก๊กขรึม ยืนแข็งทื่อ ก่อนจะเป็นลมล้มตึงสลบเหมือด

    กวนตรีน-ทำหน้าทะเล้น แลบลิ้น ปลิ้นตา หัวเราะแบบไม่มีเสียง ทำท่าติ๊งต๊องยั่วโมโหคนอื่น(เฉพาะกับเพื่อน)

    ปฏิเสธ-ส่ายมือ ส่ายหัว 

    ยอมรับ-พยักหน้า

    เขิน-แดงเป็นลูกมะเขือเทศ วิ่งหนีปรู๊ดไปสงบสติทันที

    -สมัยก่อนที่จะได้รับการปลุกพลังและยังพูดได้อยู่ เขาจะแทนตัวกับเพื่อนทุกคนว่า ฉัน กับผู้ใหญ่จะแทน ผม เรียกเพื่อนผู้ชายที่สนิทว่า นาย ถ้าเป็นผู้หญิงคือ เธอ ถ้าแก่กว่าหน่อยก็เรียก รุ่นพี่ ถ้าเป็นพี่สาวหรือรุ่นพี่สาวที่รู้จักและสนิทด้วยจะเรียกว่า เจ๊ แต่กับแม่จะเรียกว่า หม่ามี๊ กับผู้ใหญ่กว่าได้ทั้ง น้า ลุง ป้า อา ตา และจะลงท้ายด้วย ครับ กับพี่น้องผู้ชายจะเรียกว่า โบร(Bro)

    -คำพูดติดปากในการทักทายคนคือ "โย่ว Whassup?"

    -กับเพื่อนผู้ชาย ลงท้ายคำว่า ฟ่ะ ว่ะ เช่น

    "เฮ้ยๆอะไรของแกฟ่ะ?"

    "อะไรว่ะ?อยากเป็นฮีลแล้วมันผิดตรงไหนล่ะ?"

    -บางครั้งเผลอหลุดพูดภาษาถิ่นอีสานออกมา เช่น

    "ข่อยบ่รู้(ฉันไม่รู้)"

    "ซอยข่อยแหน่!!(ช่วยด้วย)"

    "จอกหลอก แจกแหลก( เล็กๆ น้อยๆ)"

    -พูดคำที่ขึ้นต้นด้วย F ไม่ได้ ก็ไม่รู้หรอกว่าทำไม แบบพอใครท้าให้พูดทีไร จะออกเสียงว่า "ฟ-ฟะ ฟะ..เอเฟ่น!"ตะกุกตะกักทุกที (เหตุผล หม่ามี๊สอนว่าอย่าให้พูดคำที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า F ออกมาจ้า)

    ประวัติ : 

         ดิเอโก้ บาร์โบซ่า เป็นเด็กลูกเสี้ยวที่มีเชื้อสายผสมระหว่าง อเมริกัน บราซิลและไทย พ่อของเขาเป็นคนไทยแท้ ส่วนแม่ของเขานั้นเป็นสาวบราซิลครึ่งอเมริกา ตัวของเขานั้นมีพี่น้องร่วมสายเลือดสามคนซึ่งได้แก่พี่สาวหนึ่งคน พี่ชายหนึ่งคนและน้องชายอีกหนึ่งคน ซึ่งหลังจากที่น้องชายของเขาเกิดมา แม่กับพ่อของเขาก็หย่ากันทันที โดยการหย่านั้นจบลงด้วยดี และแม่ก็ได้รับสิทธิ์เลี้ยงดูลูกทั้งสี่คนแต่เพียงผู้เดียวเพราะตอนที่ทั้งพ่อและแม่แต่งงานกันนั้นทั้งคู่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ทว่าดิเอโก้ในวัยเด็กนั้นไม่ได้รู้ถึงสาเหตุที่พ่อกับแม่เขาหย่ากันเลยแม้แต่น้อย

         ดิเอโก้และพี่น้องอีกสามคนของเขานั้นใช้นามสกุลของครอบครัวฝั่งแม่ตั้งแต่เด็ก หลังจากที่แม่หย่ากับพ่อ แม่ก็พาเขาและพี่น้องอีกสี่คนไปอาศัยอยู่กับคุณตาชาวบราซิลที่บ้านของพวกเขา ตระกูลของคุณตาและแม่ดิเอโก้นั้นเป็นตระกูลแพทย์ที่มีชื่อเสียง พวกเขามักจะคอยอุทิศตนช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนอยู่เสมอ ซึ่งผิดกับคุณยายชาวอเมริกันที่เป็นเพียงแค่นักเซลโล่ในวงออเครสตร้าธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น และเธอก็ได้เสียชีวิตไปก่อนที่ดิเอโก้จะเกิดเสียอีก (โดยสาเหตุที่เสียชีวิตนั้นเป็นเพราะถูกมอนฆ่าตาย)

         ตัวของแม่ดิเอโก้นั้นเป็นลูกคนกลางของบ้าน เธอมีพี่ชายและน้องชายอยู่สองคน ซึ่งทั้งคู่นั้นมีศักดิ์เป็นลุงและอาของดิเอโก้

         พี่ของแม่หรือลุงของดิเอโก้นั้นมีชื่อว่า ไมเคิล เขาเดินตามรอยของคุณยาย มุ่งหน้าสู่เส้นทางของนักดนตรี ในขณะที่น้องชายของเขาที่มีศักดิ์เป็นอาของดิเอโก้อย่าง จอร์แดน กลับเลือกที่จะเดินเข้าสู่วงการอีจิส แต่ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้นคุณตาก็เลือกที่จะปล่อยให้พวกเขาทั้งคู่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบมากกว่าที่จะบังคับพวกเขาให้เดินไปตามเส้นทางตน ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเขาไม่อยากให้ลูกหลานนั้นเป็นแบบตนเหมือนเมื่อก่อนที่ถูกบังคับให้เรียนหมออย่างไม่ค่อยเต็มใจ จนต้องพลาดสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนั่นก็คือความฝันในการเป็นนักดนตรี แต่ในท้ายที่สุดคุณยายก็ช่วยเติมเต็มเขาในด้านนี้ ส่วนแม่ของดิเอโก้นั้นเธอเลือกที่จะเป็นแพทย์ ไม่ใช่เพราะถูกบังคับ แต่ที่ทำนั้นเป็นเพราะความเต็มใจ

         แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าครอบครัวบาร์โบซ่านั้นจะเป็นที่ชื่นชอบของทุกๆคน เพราะด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขาเป็นคนผิวสี จึงไม่น่าแปลกใจนักที่จะมีคนบางกลุ่มรังเกียจ โดยเฉพาะพวกกลุ่มเหยียดสีผิว แต่กระนั้นพวกเขาก็ยังคงเป็นที่รักในบรรดาคนผิวสีในเขต 17 และคนดีหลายๆคนที่ได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขาด้วย

         ซึ่งถึงจะถูกเหยียดมากแค่ไหน ทุกคนในบ้านก็ไม่ได้โกรธากลุ่มคนเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาเข้าใจว่าคนเรานั้นมีความคิดที่ไม่เหมือนกัน มีคนรักย่อมต้องมีคนเกลียดเป็นเรื่องธรรมดา

         และยิ่งไปกว่านั้น มันคือบททดสอบที่คนในตระกูลบาร์โบซ่าทุกคนจะต้องผ่านไปให้ได้ด้วยเช่นกัน

         ดั่งจะเห็นได้จาก อแมนด้า พี่สาวของดิเอโก้ที่เดินตอมรอยอาของดิเอโก้ กว่าที่เธอจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นอีจิสคลาส A แห่งกิลล์ Hail Blade นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลายครั้งเธอมักจะถูกเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนร่วมงานคนอื่นในกิลล์ดูถูกดูแคลนและกลั่นแกล้งเสมอ เพียงเพราะเป็นผู้หญิงและเกิดมาเป็นคนผิวสี แต่ท้ายที่สุด เธอก็สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงความสามารถในการสังหารมอนมากมายของเธอได้สำเร็จ

         แซมบ้า พี่ชายของดิเอโก้ที่เดินตามรอยลุงของดิเอโก้เองก็เช่นกัน ก่อนที่จะกลายเป็นดีเจที่มีชื่อเสียง เขาเองก็ถูกกลั่นแกล้งสารพัด เหมือนกับอแมนด้าแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาและพยายามอย่างหนักจนกระทั่งความพยายามสัมฤทธิ์และได้กลายเป็นดีเจผู้โด่งดังดั่งใจหวัง

         แม้แต่ลุงกับอาของดิเอโก้ก็ด้วย แม้จะยากลำบากสักแค่ไหน ทุกคนก็ยังคงเดินหน้าต่อไป..

         ดิเอโก้เองก็ด้วย

         เขานั้นได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากคนในครอบครัวเขา ไม่ว่าจะเป็นอาที่สอนวิชาคาโปเอร่าให้เพื่อใช้ป้องกันตัว ตาที่ถ่ายทอดวิชาการแพทย์แผนไทย จีน และอายุรเวทให้ แม่ที่มักจะสอนภาษาอีสานพื้นบ้านกับวิชาการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้

         แต่ทว่าคนที่สอนและจุดประกายให้เขาก้าวเขาสู่วงการดนตรีได้นั้นก็คือ ลุงไมเคิล 

         ทุกอย่างเริ่มต้นในวันเกิดอายุครบ 7  ปีของดิเอโก้ ทุกคนจัดงานฉลองวันเกิดให้กับเขาอย่างอบอุ่น ของขวัญที่เขาได้จากคนในครอบครัวไม่ว่าจะชิ้นไหนเขาก็ชอบไปหมด แต่ทว่าในบรรดาของขวัญทั้งหมดที่เขาได้มานั้น ของขวัญจากลุงไมเคิลคือของขวัญที่ดีสุด

         มันไม่ใช่ของขวัญที่ยิ่งใหญ่อะไรนักสำหรับคนอื่น แต่มันกลับมีค่าต่อจิตใจของเขา

         ซึ่งนั่นก็คือเพลงวันเกิดที่ถูกดัดแปลงขึ้นใหม่โดยคุณลุงไมเคิลและวงดนตรีของเขาที่มาเล่นเซอร์ไพส์เขาถึงที่บ้านนั่นเองและเสียงเพลงอันไพเราะในวันนั้นก็ได้ทำให้ดิเอโก้หลงไหลในความงามของเสียงดนตรีและกลายเป็นแรงจูงใจให้ดิเอโก้มีความฝันอยากเป็นนักร้องและนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จให้ได้เฉกเช่นเดียวกับลุง

         หลังจากนั้นดิเอโก้ก็เริ่มฝึกฝนอย่างหนักในเรื่องการเล่นดนตรีและการร้องเพลง แน่นอนว่าทางบ้านสนับสนุน โดยเฉพาะกับลุงไมเคิลที่อาสาเป็นครูสอนพิเศษดนตรีให้กับเขาเลยซึ่งดิเอโก้นั้นเป็นคนเรียนรู้ไวและได้ค้นพบว่าตัวเองนั้นถนัดการเล่นแซกโซโฟนมากที่สุด ด้วยเหตุนี้ใช้เวลาไม่นานเขาก็กลายเป็นคนที่เก่งดนตรีที่สุดในโรงเรียน ได้ถูกส่งไปเป็นตัวแทนระดับโรงเรียนไปประกวดร้องเพลงระดับเขตตอนอายุ 11 ได้โชว์ฝีมือการเล่นแซกโซโฟนให้ทุกคนประจักษ์ในงานโรงเรียนตอนอายุ 12 ได้รับเชิญให้ไปเป็นนักพากย์เสียงการ์ตูนในรายการทีวีรายการหนึ่งตอนอายุ 13 กลายเป็นดาวรุ่งนักร้องและนักดนตรีประจำโรงเรียนที่น่าจับตามองมาตลอดถึง 4 ปี

         แต่แล้วความฝันทั้งหมดกลับต้องมาพังทลายลงในช่วงที่เขาย่างเข้าสู่วัย 15

         ที่จริงวันนั้นควรจะเป็นวันที่ดีสำหรับเขา เพราะมันคือวันที่เขาได้รับเลือกให้เป็นนักบรรเลงแซ็กโซโฟนในวงโยธวาทิตประจำโรงเรียน ทว่าน้องชายของเขากลับถูกพวกแก๊งคู่อริที่ชอบล้อเรื่องที่เขาเป็นคนผิวสีทำร้ายเพราะสาเหตุที่ว่าตัวเขานั้นแย่งตำแหน่งคนบรรเลงแซ็กโซโฟนไปจากตัวหัวหน้ากลุ่ม พวกนั้นก็เลยมาลงกับที่น้องเขาแทน เป็นเหตุให้ดิเอโก้ระเบิดความโกรธออกมาเป็นครั้งแรกในชีวิตและเผลอปลุกสกิลพลังคลื่นเสียงใส่พวกเขาจนลอยกระเด็นไปไกลและได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างไม่รู้ตัว อีกทั้งเสียงของเขาเองก็ได้ทำลายโรงเรียนไปกว่าครึ่งด้วย

         เหตุการณ์ในครั้งนั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาไม่สามารถร้องเพลงได้และพูดได้อีกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

         ความฝันในการเข้าสู่วงโยธวาทิต ความฝันที่จะได้กลายเป็นนักร้องต้องมาพังทลายลงในชั่วพริบตา แม้แต่จะอ้าปากร้องเพลงหรือเป่าแซกโซโฟนก็ยังทำไม่ได้ เพราะเมื่อใดก็ตามที่เขาเอ่ยปากพูด คลื่นเสียงที่เขามีนั้นจะทำร้ายคนที่อยู่รอบข้างเขาเสมอ แม้คนในครอบครัวกับเพื่อนๆจะบอกว่าให้เขาทำใจแล้วลองหันไปดีทางด้านอื่นแทนอย่างเช่นการเล่นฟุตบอลที่เขาเองก็ถนัดไม่แพ้กับการเล่นดนตรี แต่กระนั้นดิเอโก้ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะสำหรับเขาแล้วดนตรีนั้นเปรียบเสมือนทุกอย่างในชีวิตเขา

         และถึงแม้ทุกคนจะบอกว่าพลังทักษะพรสวรรค์ของเขานั้นคือพลังที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกดีใจเลยด้วยซ้ำที่ได้มันมา เพราะสำหรับเขาแล้ว มันคือพลังต้องคำสาป ยิ่งใหญ่แล้วจะได้อะไรกันล่ะถ้าหากว่าไม่ได้ทำในสิ่งที่ชอบน่ะ

         ไม่ ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!

         ถึงทุกคนจะบอกให้เขาถอดใจกับการเล่นดนตรี แต่ดิเอโก้ก็ยังคงเลือกที่จะทำตามสิ่งที่ใจของตัวเองต้องการ เขาได้ตัดสินใจสรรค์หาทุกวิถีทางเพื่อที่จะกลับเข้าสู่วงการดนตรีอีกครั้งโดยไม่สนใจเสียงค้านของเพื่อนและคนรอบข้าง

         เพื่อนๆหลายคนเริ่มตีตัวออกห่างจากเขามากขึ้นเรื่อยๆพอเห็นเขาเริ่มหมดประโยชน์ ยิ่งพอเขามีพลังในการเอ็กซเรย์เพิ่มมาอีก ก็ยิ่งไม่มีกล้าเข้าใกล้เขาเลย เพราะกลัวจะต้องตกอยู่ในอันตราย

         แต่ในเวลานั้นเองนี่แหละ ที่เป็นเวลาที่ทำให้เขาได้พบกับเพื่อนแท้ที่ดีที่สุดในชีวิตเขา

         ซึ่งนั่นก็คือ ฮิโรชิ คานาซาวะ

         แม้จะอยู่คนละห้อง แต่เจ้าหมอนั่นกลับเป็นคนเดียวที่ยังคงเข้ามาตีสนิทเขา หมอนั่นเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่เคยบอกให้เขาถอดใจกับการเป็นนักดนตรี บางทีอาจเป็นเพราะเป็นเด็กศิลป์เหมือนกันเลยเข้าใจหัวอกของอีกฝ่ายเหมือนกันก็ได้

         และหมอนั่นเองแหละที่ทำให้ได้ค้นพบทางออก

         "ร้องเพลงไม่ได้ เป่าแซกไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรที่เกี่ยวกับดนตรีไม่ได้นี่ จริงไหม?"

         !?

         คำพูดของฮิโรชิในวันนั้นได้ทำให้ดิเอโก้ย้อนนึกถึงตอนที่ตัวเองในวัยสิบเอ็ดที่ได้ชมคอนเสิร์ตของพี่ชายเขาเป็นครั้งแรกในทันที วันนั้นเป็นวันที่พี่ชายได้ชวนดิเอโก้และคนในครอบครัวทุกคนมาดูคอนเสิร์ตดีเจของเขา เสียงเพลงอันเร้าใจและ สีหน้าที่ยิ้มแย้มกับสนุกสนานของพี่ชายในขณะที่เล่นเพลงนั้นเองได้ทำให้ดิเอโก้หลงใหลในเสียงเพลงอิเล็คโทรนิคและการร้องเพลงแร็ปด้วยเช่นกัน

         นั่นสินะ ไม่เห็นจำเป็นต้องร้องเพลงหรือเล่นแซ็กก็ได้นี่นา

         เราเป็นดีเจแทนได้!

         และนั่นเองจึงทำให้ดิเอโก้ตัดสินใจที่จะเป็นดีเจตามแบบพี่ชายตน เขาตัดสินใจขอร้องให้พี่ชายสอนวิชาแต่งเพลงและการทำอาชีพดีเจให้กับเขา ซึ่งทีแรกพี่ชายก็ไม่ค่อยอยากจะสอนให้เท่าไหร่แต่ภายหลังโดนตื้อไปตื้อมาก็เลยยอม 

         ท้ายที่สุดดิเอโก้ก็เลยได้เรียนรู้การเป็นดีเจจากพี่ชายอย่างสมใจ แต่นั่นมันก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ได้นำพาเขาเข้าสู่วงการอีจิสด้วยเช่นกัน

         ที่มาของการเป็นอีจิสของเขานั้นมีจุดเริ่มต้นจากอแมนด้า มีช่วงหนึ่งอแมนด้ากลับมาจากสำนักงานของเธอแล้วบ่นให้พวกพี่น้องกับแม่ฟังว่า อีจิสสายฮีลช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน มีแต่คนลงแนวหน้ากันหมด ซัมม่อนเองก็มีน้อยนิด ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปต้องมีพวกอีจิสตายเกลื่อนกลาดเยอะขึ้นแน่ๆ

         ถ้างั้นผมจะเป็นฮีลให้ไหมล่ะ?

         ข้อความในกระดาษของดิเอโก้สื่อให้ทุกคนในวันนั้นทำให้ทุกคนถึงกับหลุดขำออกมา ทีแรกทุกคนนึกว่าเป็นเรื่องล้อเล่นที่ดิเอโก้สร้างขึ้นมาเพื่อให้พี่สาวสบายใจโดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ดิเอโก้พูดนั้นคือความจริง เพราะวัยเด็กนั้นเขาเห็นอีจิสและผู้คนมากมายที่ล้มตายโดยที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ และอีกสาเหตุหนึ่งที่เขาอยากเป็นฮีลนั้นก็เพราะเขาอยากใช้เพลงเปลี่ยนแปลงโลกด้วย

         "...."

         แม้ทุกคนจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่ดิเอโก้อยากจะเป็นฮีลสักเท่าไหร่ แต่กระนั้นพวกเขาก็ยอมให้กับความมุ่งมั่นของดิเอโก้ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ตากับแม่ยอมอนุญาตให้ดิเอโก้เข้าสู่วงการอีจิส โดยมีข้อแม้ว่าเขาต้องห้ามตายเด็ดขาด


         และเส้นทางของดิเอโก้ในฐานะของอีจิสจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยประการฉะนี้


    ความสามารถพิเศษ :

    -พอมีวิชาความรู้ในเรื่องการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีน และการแพทย์อายุรเวท อยู่บ้างแต่ยังไม่ถึงขั้น (ที่ถนัดจริงๆคือการฝังเข็มและการใช้ยาสมุนไพร)มีความรู้ในเรื่องสมุนไพรมากกว่าคนอื่นๆ ส่วนการแพทย์สมัยใหม่จะถนัดแค่ CPR 

    -มีความสามารถในการแต่งเพลงค่อนข้างสูง 

    -เล่นฟุตบอลเก่ง โดยส่วนใหญ่เล่นเป็นกองหน้า

    -เรียนอยู่ในระดับปานกลาง วิชาอื่นๆผ่านหมด(แต่ไม่ถึงกับเก่งเว่อร์)ยกเว้นวิชาดนตรีที่ห่วยเอาสุดๆ ไม่ใช่ไม่เก่ง ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่เพราะพอได้พลังมา เลยทำมันได้ไม่เต็มที่ เพราะข้อจำกัดของพลังที่มีด้วย

    -จมูกไวกว่าหมา แยกแยะกลิ่นที่ปะปนกันออกได้อย่างไม่มีปัญหา(สามารถแยกแยะกลิ่นสมุนไพรและกลิ่นเฉพาะตัวของเพื่อนแต่ละคนได้ว่าใครเป็นใครแม้ว่าจะถูกปิดตาอยู่ก็ตาม)แต่ถ้าเป็นหวัดจะแยกแยะกลิ่นไม่ได้เลย

    -ก่อนที่จะมีพลัง ดิเอโก้นั้นมีความสามารถในร้องเพลงแร็ปและการเลียนเสียงคนกับสัตว์มาก่อน เขาสามารถเลียนเสียงของดาราและนักร้องแร็ปเปอร์ที่เขาชอบและสัตว์ต่างๆได้อย่างเหมือนเปี๊ยบจนแทบแยกไม่ออก แต่หลังจากที่เขาได้รับพลังมา ความสามารถนี้จึงไม่ได้ใช้อีกเลย

    เรื่องฝังใจ : แมลงสาบ,เสียงพูดที่ทำร้ายคนอื่น

    บุคคลที่เกี่ยวข้อง : ในที่นี้จะไม่ขอกล่าวถึงพ่อนะคะ แต่บอกให้รู้ไว้ก่อนว่าพ่อเขาเป็นคนไทย ที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวไทยลาว(ไทยอีสาน)

    -ซิลวา บาร์โบซ่า[Silva Barbosa] คุณหมอสาวฝีมือดีที่ทำงานในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขต 17 แม่ของดิเอโก้ เธอเป็นซิงเกิ้ลมัมผู้แข็งแกร่งที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ชายแต่อย่างไร(ลูกครึ่งบราซิล-อเมริกัน มีแม่เป็นชาวอเมริกัน)

    Just another Dahlia ✨ #crewofcuties

    -เปโดร บาร์โบซ่า[Pedro Barbosa] คุณตาของดิเอโก้ พ่อของซิลวา หมอแผนโบราณผู้รอบรู้วิชาการแพทย์พื้นบ้านทั่วโลกเป็นคนมอบความรู้เรื่องการแพทย์แผนโบราณให้กับดิเอโก้(คนบราซิล)

    CAVE

    -ไมเคิล บาร์โบซ่า[Michael Barbosa] คุณลุงของดิเอโก้ พี่ชายของแม่ดิเอโก้ เป็นนักดนตรีในวงดนตรีแจ๊สวงหนึ่งที่อยุ่ในเขต 17 เขาคือผู้จุดเริ่มต้นที่ทำให้ดิเอโก้และพี่ชายของเขาก้าวเข้าสู่วงการแห่งเสียงเพลง ปัจจุบันยังโสดอยู่

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ soul pixar

    -จอร์แดน บาร์โบซ่า[Jordan Barbosa] คุณอาของดิเอโก้ น้องชายของแม่ดิเอโก้ อดีตอีจิสสาย Martial art ประเภทโจมตีแห่งกิลล์ Hail Blade ที่ผันตัวมาเป็นครูสอนวิชาคาโปเอร่าให้กับดิเอโก้ เขาเป็นพ่อหม้ายลูกติดที่มีลูกสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกับดิเอโก้(ปัจจุบันภรรยาของเขาเสียชีวิตแล้ว)

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ aaron davis spider verse

    -ซานดร้า บาร์โบซ่า[Sandra Barbosa] ลูกพี่ลูกน้องของดิเอโก้ที่มีอายุเท่ากันกับดิเอโก้ ลูกสาวของลุงจอร์แดน มีแม่เป็นสาวสเปน ค่อนข้างดื้อและเอาแต่ใจ เพราะพ่อตามใจตั้งแต่เด็กๆ แต่กระนั้นก็ไม่เคยรังเกียจครอบครัวเลยแม้แต่น้อย มีความฝันอยากเป็นไอดอล

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ true damage

    เหล่าพี่น้องร่วมสายเลือดของดิเอโก้

    -อแมนด้า บาร์โบซ่า[Amanda Barbosa] พี่สาวแท้ๆของดิเอโก้เป็นอีจิสสาย Martial art ประเภทโจมตีแห่งกิลล์ Hail Blade

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ true damage

    -แซมบ้า บาร์โบซ่า[Samba Barbosa] พี่ชายแท้ๆของดิเอโก้ น้องชายของอแมนด้า ทำงานเป็นดีเจ และเขาคนนี้เองที่เป็นคนที่สอนการแต่งเพลงและการเป็นดีเจให้กับดิเอโก้


    -ริคาโด้ บาร์โบซ่า[Ricardo Barbosa] น้องชายอายุสิบสี่ของดิเอโก้ผู้หลงใหลในการวาดกราฟฟิตี้และการเล่นฟุตบอล บ่อยครั้งเขามักจะชวนพี่ชายอย่างดิเอโก้และแซมบ้ามาเล่นบอลด้วยกันบ่อยๆ

    How Spider-Verse Got You to Love Miles Morales in 45 Seconds

    *คุณยายของดิเอโก้นั้นเป็นชาวอเมริกัน เคยเป็นนักเล่นเชลโล่ในวงออเครสตร้า เธอมีชื่อว่า มาริอาน่า [Mariana] ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว

    MAIKE PLENZKE - Grandma Part of a bigger illustration which I...

    ข้อมูลอื่นๆ :

    -เพื่อนร่วมห้องตอนอยู่สมัยมัธยมของฮิโรชิ และเป็นเพื่อนในโรงเรียนคนแรกที่ฮิโรชิสนิทมากกว่าคนอื่น

    -ถ้าหากทำไรต์ปวดหัว ขอกราบอภัยด้วยฮะ(แก้ได้นะครัช สับให้เละเลยไม่ว่า ถ้ามันต้องแก้หนัก)



    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×