คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ภารกิจพิเศษ ภาคต่อ : การเดินทางที่แสนขื่นขม
ภารกิจพิเศษ ภาคต่อ : การเดินทางที่แสนขื่นขม : หัวใจไร้ทางออก
พลั่ก!!
ฉันผลักคนข้างหน้าเต็มแรง หลังจากที่เธอคนนั้นเปิดประตูออกมา จนคนโดนผลักลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่หน้าประตู
“เป็นบ้าอะไรของเธอ...กานต์” คนที่กองอยู่บนพื้นสบถขึ้น แล้วค่อย ๆ ปัดเนื้อปัดตัวลุกขึ้นมา
“ฉันควรจะทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำใช่มั้ย” คิ้วฉันขมวดเข้าหากัน แสดงให้รู้ว่าตอนนี้โมโหสุดขีด แต่โมโหด้วยเรื่องอะไรน่ะเหรอ....ฉันกำลังมาจัดการกับตัวปัญหานี่ไง
ฉันปิดประตู พร้อมกับล็อคกลอน ก่อนจะย่างสามขุมเข้าหา
“ตกลงเป็นอะไร....อยู่ดี ๆ ก็มาผลักฉันแบบนี้” ขวัญเริ่มขมวดคิ้วเหมือนฉันบ้าง
“เธอกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่...ขวัญ”
ฉันโยนซองบางอย่าง ใส่หน้าของอีกฝ่าย
“สนุกมากมั้ย....กับเกมที่ต้องแลกด้วยความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้”
ขวัญหยิบซองนั่นขึ้นมา.....ก่อนยิ้มมุมปากเหยียด ๆ....
มุมที่ใครต่อใครไม่เคยเห็น
มุมที่มีแค่ไม่กี่คนที่ได้เห็น
ฉันเป็นหนึ่งในนั้น
ที่ได้เห็นมัน!
“ทำไม....หลงเสน่ห์ก้อยอีกคนแล้วสิ”
ขวัญเดินเข้ามาเชยคางฉันขึ้น
“ก้อยมีอะไรดีกว่าฉันงั้นเหรอ....”
ขวัญเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น....
มากขึ้น....
มากขึ้น....
ฉันผลักขวัญออก....จะเดินหนี แต่ขวัญกลับดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอด...
“ทำเป็นเล่นตัว”
ขวัญดึงมือฉันให้ไปโอบคอเธอ... ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนต้องมนต์...เมื่อจู่ ๆ ริมฝีปากระหว่างเราสองคนกลับดึงดูดเข้าหากัน....เราจูบกันอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ขวัญจะค่อย ๆ ล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางของฉัน...
ก็อก! ก็อก!
เสียงเคาะประตูขัดจังหวะขึ้น เราชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าขวัญจะไม่ได้สนใจเสียงนั้น กลับดันฉันลงไปบนเตียง แล้วบดขยี้ริมฝีปากอย่างเร่าร้อน พร้อม ๆ กับปลดกระดุมของฉันจนหมดทุกเม็ด....แล้วเลื่อนหน้าลงไปพรมจูบที่หน้าท้องจนรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัว
“ขวัญ” ฉันเผลอใช้วงแขนโอบที่คอนั้น แล้วรั้งขวัญให้เข้ามาสูดกลิ่นกายตัวเองมากขึ้น...
ขวัญเปลี่ยนมาซุกไซ้ซอกคอฉัน มือที่อยู่ไม่สุขก็เค้นคลึงตรงก้อนเนื้อนุ่มผ่านเสื้อชั้นในลายลูกไม้นั้น...สักพักก็ค่อย ๆ ปลดกระดุมกางเกงยีนของฉัน ทีละเม็ด.....ทีละเม็ด
ก็อก! ก็อก!
ขวัญหยุดการกระทำ แล้วหันไปที่ประตูอย่างหัวเสีย แต่ก็ไม่วายก้มลงมากระซิบที่ข้างหูฉัน
“ยังหวานเหมือนเดิมนะ” แล้วยิ้มกริ่ม เดินไปประตู ....ฉันเองก็ลุกขึ้นมาจัดแจงตัวเองให้อยู่ในลักษณะปกติ...
เกือบไปแล้ว!
“อ้าว! ดาว มาแล้วเหรอ”
ดาวโผกอดขวัญแล้วสะอื้นออกมา....เพียงครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกคนเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“ดาว ฟังฉันก่อน...ฉันอธิบายได้นะ”
เป็นก้อยที่หน้าตาตื่นเข้ามา ....
“มันไม่ได้เป็นแบบที่เธอเห็นนะ”
เพี้ยะ!
เสียงดังฉาดใหญ่ ทำให้ฉันกับขวัญหันมองหน้ากัน....
ก้อยกุมหน้าตัวเอง มองดาวน้ำตาคลอ
“ฉันขอโทษ”
เพี้ยะ!
แก้มด้านซ้ายของก้อยเป็นรอยแดงด้วยฝ่ามือหฤโหดนั่น จนขวัญต้องจับดาวไว้ และบุ้ยหน้าให้ฉันพาก้อยออกไปก่อน...
....................
ก้อยนั่งประสานมือตัวเอง ก้มหน้าลง ปล่อยให้น้ำตาหยดลง โดยไม่มีเสียงสะอื้นใด ๆ ....ฉันทำได้แค่แตะไหล่ปลอบใจ...
“พี่ก้อย”
ฉันหันไปตามเสียง ก็เห็นตัวต้นเหตุยืนยิ้มร่าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น....แถมยังนั่งลงข้าง ๆ ก้อย....กอดแขนอีกข้าง แล้วซบลงที่ไหล่
“ปังรู้ว่าพี่ก้อยทำไปโดยขาดสติ....แต่ปังไม่โกรธพี่ก้อยนะคะ....ปังเต็มใจ....ถ้าเป็นพี่ก้อย”
ฉันส่ายหัวให้กับความคิดของเด็กคนนี้...ก่อนที่จะลุกขึ้นเตรียมเดินออกจากบรรยากาศอึมครึมนี้....แต่ก้อยกลับจับแขนฉันไว้
“ปัง พี่ขอคุยกับพี่กานต์แป๊บนึงนะ”
ขนมปังพยักหน้าอย่างว่าง่าย....แต่ก็เลื่อนหน้าเข้าไปกระซิบอะไรบางอย่าง...ที่ก้อยถึงกับเงยหน้าขึ้นเพื่อหยุดน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา และถอนหายใจยาวเหมือนรวบรวมพลังสักอย่าง ก่อนจะพยักหน้าให้อีกคนที่ยิ้มแก้มปริ
.......
ความเงียบเข้ามาครอบคลุมอีกครั้ง ก้อยมีอะไรในใจรึเปล่านะ ฉันเลื่อนมือไปแตะไหล่ก้อยอีกครั้ง....
“ถ้าก้อยบอกว่า....ก้อยไม่ได้มีอะไรกับปัง....พี่กานต์จะเชื่อมั้ย?”
ลงชื่อ......ธีรัชชา
.........
ฮ้าว!
ฉันเอามือป้องปาก รู้สึกง่วงผิดปกติ อาจจะเหนื่อยจากการเดินทางในวันนี้ก็เป็นได้....
ขณะนี้เวลาสองทุ่มตรง ทุกคนต่างทยอยมาตามนัดที่ทางรายการได้วางตารางไว้....
สวบ!
ฉันหันไปตามแรงกอดจากข้างหลัง ก็เห็นพี่สไปรท์ซบอยู่ข้างหลังท่าทางอ้อนเหมือนแมวไม่มีผิด
“ง่วงอ่ะ”
ฉันหยิกแก้มคนน่ารักจนแก้มย้วย....ก่อนจะใช้มือประคองหน้าขึ้นมาให้เราสองคนสบตากัน....
“ขี้อ้อนแบบนี้ไง...ถึงได้..........” ฉันเว้นจังหวะไว้เพื่อให้อีกคนคิดต่อ
“ถึงได้อะไร....” คนเป็นพี่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้....เหมือนอยากรู้คำตอบ
“เดี๋ยวคืนนี้บอกละกัน” ฉันบีบจมูกคนข้างหน้าที่ตอนนี้สบตาฉัน ดูจริงจังมาก...
“พี่รู้สึกดีนะ...ที่ได้อยู่กับออย” พี่สไปรท์พูดเสียงเบา แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ได้ยิน...
“ว่าไงนะ...ขออีกที” ฉันแกล้งถามอีกครั้ง
“เดี๋ยวคืนนี้บอกละกัน” พี่สไปรท์เล่นมุกเดียวกันกับฉัน....ฉันจึงจี้ไปที่เอวของคนพี่ พี่สไปรท์ก็จี้คืน เราสองคนหยอกล้อกัน....ฉันรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก....รู้สึกโชคดีที่มีผู้หญิงคนนี้เข้ามาในชีวิต
“หวานกันจังเลยนะ”
ฉันชะงักและมองไปตามเสียง เราจึงผละออกจากกัน แต่พี่สไปรท์กลับกอดคอฉัน แล้วตอบคนนั้นไป
“ยังไม่ได้ชิมเลย เลยไม่รู้ว่าหวานมั้ย”
ฉันรู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อน ๆ อัตโนมัติ ....เห็นพี่สไปรท์ยักคิ้วใส่พี่ขวัญที่ทำหน้าเนือย ๆ ใส่....
“อยู่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็คงได้ชิม” พี่ขวัญทิ้งท้ายแล้วเดินออกไป....พี่สไปรท์มองตามพี่ขวัญ และปล่อยแขนออกจากฉัน ถอนหายใจออกมา
“OK รึเปล่า” ฉันกุมมือคนข้าง ๆ
“พี่ควรจะถามออยมากกว่า....ว่า OK มั้ย?”
พี่สไปรท์จ้องหน้า พร้อมกับบีบมือฉัน ....ฉันกุมมือตอบแล้วพยักหน้าเชิงว่าเข้าใจ....ถ้าการที่พี่ขวัญกับพี่สไปรท์ยังมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันอยู่...มันก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่ฉันไม่สามารถก้าวก่ายได้....เพราะฉะนั้นการที่ฉันจะรู้สึกดี ๆ กับคน ๆ นี้....ก็ไม่มีใครมาก้าวก่ายสิทธิ์หัวใจฉันได้เช่นกัน
“แฮ่!”
เป็นเสียงของเพื่อนรักที่เข้ามาทำลายความคิดของฉัน....ปังกอดคอฉันหลวม ๆ จากด้านหลัง....พร้อมกับเอาคางมาเกยตรงหัว ฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองว่ามาไม้ไหน...
“เป็นอะไรเนี่ย”
“เดี๋ยวเล่าให้ฟัง”
ปังพูดจบก็ลุกออกไปนั่งกับพี่ก้อยที่ดูซึม ๆ พิกล....สงสัยพิษไข้เล่นงาน ....ฉันมองไปอีกคู่คือพี่ขวัญกับพี่ดาว ที่พี่ดาวดูหน้าเครียด ๆ ไม่ค่อยร่าเริงเหมือนที่เคย....พี่กานต์ก็เหมือนกัน ....ทำไมบรรยากาศวันนี้ดูแปลก ๆ นะ....ทั้ง ๆ ที่มันน่าจะผ่อนคลายมากกว่า
กิจกรรมที่ทางรายการให้เราทำในตอนนี้....คือแพ็คอุปกรณ์การเรียน เช่น ดินสอ ไม้บรรทัด ยางลบ ฯลฯ เพิ่มเติม เพื่อมอบให้เด็ก ๆ ในวันพรุ่งนี้....
ฉันบรรจงแพ็คถุงด้วยความตั้งใจ....เพราะในเมื่อเราตั้งใจทำให้ใครแล้ว....ก็หวังว่าผู้รับจะมีความสุขที่ได้รับมันเช่นกัน....
.....................................
สี่ทุ่ม!
ฉันเดินมาหาปังที่หน้าห้องพัก เพราะนางบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ....ขณะที่เดินมาใกล้จะถึงแล้ว...ก็ได้ยินเสียงใครคุยกัน ฉันจึงหยุดเดิน แล้วแอบตรงที่มืดเพื่อฟังแบบไม่ตั้งใจ
“ดาว ....แกฟังฉันก่อนนะ....แกจะเชื่อหรือไม่เชื่อฉันไม่รู้....แต่ให้ฉันอธิบายก่อนได้มั้ย....ว่ามันไม่ได้เป็นแบบที่แกคิด”
เป็นเสียงของพี่ก้อยสินะ ....ฉันขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิมเพื่อให้ฟังได้ถนัด
“..................”
“ดาว.....ฉันขอโทษ”
“..................”
บทสนทนาไม่มี....เพราะมีเพียงพี่ก้อยที่พูดอยู่ฝ่ายเดียว....ฉันเห็นภาพที่พี่ก้อยกอดพี่ดาวจากด้านหลัง โดยที่พี่ดาวร้องไห้และเอามือปิดหน้า....พี่ก้อยซบลงที่ไหล่ของพี่ดาว แล้วพูดอะไรสักอย่าง...
ไม่ได้ยิน....
พี่ดาวดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของพี่ก้อย พี่ก้อยพยายามจับแขนไว้ แต่พี่ดาวก็สะบัดแขนออก แล้วเดินออกไปจากจุดนั้น ทิ้งให้พี่ก้อยทรุดลงนั่งกับพื้นซบหน้าลงกับเข่า...
หรือว่า...สองคนนี้...จะมีอะไรมากกว่าเพื่อน...
คิดได้แค่นั้น....ฉันก็เดินจ้ำไปหาเพื่อนรักทันที....
...........................
ก็อกๆ!
ฉันเคาะประตูเป้าหมาย...ก่อนที่ปังจะเปิดออกมา แล้วลากฉันไปที่ข้างบ้านพักที่ไร้กล้องออนแอร์
“ปัง ฉันมีอะไรจะบอก” ฉันชิงพูดขึ้นมาก่อน จนปังขมวดคิ้ว
“ฉันว่าพี่ก้อยกับพี่ดาวต้องมีอะไรมากกว่าที่คิดแน่ ๆ ” ฉันพูดไปตามความคิด....แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร
“รู้แล้ว” ปังตอบสั้น ๆ....
“งั้น....แกก็ถอยออกมาเหอะ....”
“แกเป็นคนผลักฉันให้เข้ามาเองนะ....จะถอยง่าย ๆ ได้ไง”
“ก็ฉันไม่รู้...ว่าพี่ก้อยกับพี่ดาว....”
“เลิกพูดเหอะ.....อีกอย่างยาที่แกให้ฉันมา....ฉันก็ไม่ได้ใช้....ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมาจากความรู้สึกของฉันกับพี่ก้อย”
ฉันอึ้งไป....รู้สึกเหมือนมีอะไรหล่นมาใส่หัว....ไม่คิดว่าตัวเองจะยื่นยาพิษให้เพื่อนรักทำลายความรักของคนอื่นโดยไม่รู้ตัว
“ปัง....แต่ว่า......”
“ที่ฉันอยากคุยกับแก เพราะอยากให้แกช่วยฉันต่อ”
“ช่วย?”
“ช่วยกันพี่ดาวออกจากพี่ก้อยที”
ลงชื่อ......อรอมล
........
“ฉันไม่ได้ทำ” ขวัญปฏิเสธเสียงแข็งเกี่ยวกับยาซองนั่นที่ฉันโยนให้ ฉันสบตาขวัญเพื่อจับผิด แต่ขวัญไม่ได้หลบตาฉันสักนิด พร้อมกับยกมือสาบานว่าเธอไม่ได้เป็นคนหยิบยื่น.....
ยาปลุกเซ็กส์!
ให้กับขนมปังแน่นอน....
แล้วใครเป็นคนทำ....?
“ก้อยว่าแล้ว....ว่าพี่กานต์ก็คิดเหมือนดาว”
ก้อยยังก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม หลังจากที่ขนมปังเดินเข้าไปในห้องแล้ว ก้อยก็ตั้งคำถามกับฉันทันที
“ถ้าก้อยบอกว่า....ก้อยไม่ได้มีอะไรกับปัง....พี่กานต์จะเชื่อมั้ย?”
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเชื่อ หรือไม่น่าเชื่อ เพราะดาวก็โกรธซะขนาดนั้น ขนมปังก็ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ประหนึ่งว่าตัวเองเสียตัวให้ก้อยไปแล้ว แต่ก้อยกลับบอกว่าตัวเองไม่ได้มีอะไรกับปัง....ในฐานะที่เป็นคนกลาง...บอกตามตรง...ว่าตอบไม่ถูกเหมือนกัน
“พี่ไม่รู้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น...แต่เมื่อดาวโกรธ ก้อยก็ต้องอธิบายให้เขาฟังว่าความจริงมันเป็นยังไง”
ก้อยเงยหน้าขึ้นมามองฉัน แล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ....
........
“ดาว” จำได้ว่าเรียกชื่อคน ๆ นี้ออกมา.....เพราะด้วยพิษไข้รึเปล่าไม่รู้....ที่ทำให้มองเห็นคนตรงหน้าเป็นอีกคน....สัมผัสที่อ่อนโยนนั้นดูคล้าย ๆ กัน...แต่เมื่อได้สัมผัส ซุกไซ้ไปตามซอกคอแล้ว....กลับรู้สึกว่า
ไม่ใช่
ไม่ใช่ “ดาว”
คิดได้ดังนั้นก็ดึงตัวเองออกจากวงแขนของรุ่นน้องที่คล้องรั้งไว้ในตอนแรก....แต่คนเป็นน้องกลับจู่โจมด้วยการจูบอย่างหนักหน่วงจนตั้งตัวไม่ทัน
แก๊งงงงงงง!!!
เสียงอะไรบางอย่างกระทบกับพื้น ทำให้ต้องหันมองไปยังต้นเสียง ....ความตกใจเกิดขึ้นอัตโนมัติ
“ดาว”
เรียกชื่อ พร้อมกับเดินไปรั้งแขนคนนั้นไว้ แต่เธอกลับสะบัดทิ้งแล้วเดินจ้ำอ้าวไป....
ไม่ฟังแม้แต่คำอธิบาย....
ไม่เปิดโอกาสแม้จะให้อธิบายอะไร
และเมื่อจะอธิบาย....ก็ “ไม่ฟัง”
......................
“พี่กานต์ไม่เชื่อก้อยก็ไม่เป็นไรนะคะ....ก้อยแค่อยากบอกให้คนที่ก้อยไว้ใจ...รับฟัง...ว่าก้อยยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยมากกว่านั้น”
ก้อยก้มหน้าลงอีกครั้ง ...หยดน้ำตาหล่นลงอีก
ฉันเห็น...
แต่ฉันไม่เคยเห็นก้อยอ่อนแอขนาดนี้...
ทุกครั้งที่ก้อยร้องไห้....จะไม่ยอมให้ฉันเห็นน้ำตา...แม้แต่ตอนนี้....ก้อยก็ยังพยายามหลบหลีกเพื่อไม่ให้ฉันเห็นสภาพอารมณ์ในตอนนี้....
ฉันโอบไหล่ก้อยเป็นการปลอบใจ....อย่างน้อยพี่ก็ยังอยู่ข้าง ๆ เธอเสมอนะ....
ลงชื่อ.....ธีรัชชา
“ช่วยกันพี่ดาวออกจากพี่ก้อยที”
ฉันครุ่นคิดกับคำพูดของปังที่พูดกับฉันก่อนจะแยกย้ายกันเข้านอน....
นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่นะ.....ฉันยื่นมือไปทำร้ายคนตั้งหลายคน....เพียงเพราะความไม่รู้....
ไม่รู้ว่าพี่ก้อยคบกับพี่ดาว....เพราะถ้ารู้....ก็คงไม่ทำ....
จะไม่ยอมให้เพื่อนเข้าไปเป็นมือที่สามของเขาเป็นแน่.....
“แกเป็นคนผลักฉันให้เข้ามาเองนะ....”
ใช่....ฉันเป็นคนยื่นยาปลุกเซ็กส์นั่นให้ปังกับมือ....ฉันอาจจะมีความคิดที่เลวร้ายเกินไปที่อยากให้ปังรวบหัวรวบหางพี่ก้อย เพราะปังก็แอบชอบพี่ก้อยมานานพอควร ประกอบกับที่เห็นท่าทางพี่ก้อยดูเป็นห่วงเป็นใยปังดี ฉันก็คิดไปเองว่าพี่ก้อยมีใจให้ปังซะอีก...
ฉันคิดผิด.....
ดีนที่ปังไม่ได้ใช้ยานั่น....
แต่เอ๊ะ! ปังบอกว่า....เกิดจากความรู้สึกของปังกับพี่ก้อย....
แสดงว่าสองคนนั้น
มีอะไรกันแล้ว......
“ไม่น่าใช่” ฉันเผลอสบถออกมา ทำให้คนที่นอนอยู่ข้าง ๆ หันมาสวมกอดฉันที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่....ความมืดมิดนั้น อาจทำให้กล้องออนแอร์ที่จะใช้ถ่ายเราไม่มีประสิทธิภาพมากนัก
“ทำไมยังไม่นอนอีก” พี่สไปรท์ถามขึ้น พร้อมกับเอาจมูกมาคลอเคลียที่แก้มของฉัน.....
“ไหนว่าคืนนี้จะบอกอะไร” คนเป็นพี่อ้อนถาม.....ฉันจึงหันหน้ามาประจัน แล้วใช้จมูกตัวเองถูที่จมูกอีกคนเชิงหยอกล้อ....
“ยังต้องให้บอกอะไรอีกคะ....”
“อยากฟัง” พี่สไปรท์กระซิบด้วยเสียงเชิงออดอ้อน
ฉันไม่พูดอะไรต่อ....แต่เขยิบเข้าไปกระชับกอดมากขึ้น....เรามองตากันในความมืดและเงียบนั้น....ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายสั่น ๆ เนื่องจากจังหวะการเต้นของหัวใจที่ดูผิดปกติไปจากเดิม....
ฉันเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้....จุ๊บที่ริมฝีปากของคนพี่เบา ๆ....
“ออยรักพี่สไปรท์นะคะ”
พี่สไปร์ทกอดฉันแน่นขึ้น....ก่อนที่จะซุกไซ้ไปที่ซอกคอจนรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว....ฉันเลื่อนมือไปจับตรงหน้าอกของคนพี่ แล้วเค้นคลึงมันสักพัก...
“ออย....” พี่สไปรท์เรียกชื่อเสียงกระเส่า....
ฉันมองไปที่กล้องออนแอร์ที่ยังทำงานอยู่.....แสงสว่างในห้องมีเพียงเล็กน้อย คงไม่ทำให้เห็นว่าฉันกับคนบนเตียงกำลังทำอะไรกันอยู่นะ....
แต่เพื่อความปลอดภัย.....
ฉันถอนมือออกจากการเกาะกุมก้อนเนื้อนุ่ม ๆ นั้น....แล้วพลิกตัวหันไปอีกข้างเพื่อควบคุมอารมณ์....
แต่พี่สไปรท์กลับกอดก่ายฉันจากด้านหลัง พลางกระซิบข้างหู....
“ออย....”
สติของฉันเริ่มกระเจิดกระเจิง....ก่อนที่จะตัดสินใจลุกไปควานหาของในกระเป๋าส่วนตัว...
รีโมทตัดสัญญาณ
ฉันบังเอิญเก็บได้ตอนที่เข้าไปในห้องรวม....จึงได้รู้ว่ามันเป็นรีโมทตัดสัญญาณกล้องไม่ให้แพร่ภาพ....ความจริงไม่ได้ว่าจะใช้นะ...ตั้งใจจะเอาไปคืนมากกว่า....แต่ตอนนี้ชักจะเห็นประโยชน์แล้วสิ...
เมื่อความคิดและอารมณ์เข้ามาครอบงำ...ฉันจึงเดินเลื่ยงไปข้างหลังกล้อง ก่อนจะกดมันไป 1 ครั้ง...ไฟแดง ๆ ที่ทำงานอยู่เมื่อครู่ ค่อย ๆ ดับลง....
ฉันนั่งลงที่ปลายเตียง....ที่ตอนนี้...มีผู้หญิงจอมยั่วกำลังเข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง...แล้วหอมแก้มฉัน
ฉันหันหน้าไปเผชิญ....แล้วมอบจูบอันเร่าร้อนนั้นให้อีกฝ่าย....
ลงชื่อ......อรอมล
................
“เต้ย....ถ้าเกิดวันหนึ่งเต้ยรู้อะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับเรา....เต้ยจะโกรธเรามั้ย”
ฉันถามขึ้นมาในความมืด ที่ตอนนี้มือของกุมกันอยู่ใต้ผ้าห่มผืนนี้
“เรารับได้ทุกอย่างแหละ....ขอแค่บอกเรา...อย่าปิดเราแค่นั้น”
ฉันบีบมือเต้ย....แล้วถอนหายใจออกมา...
“แต่บางทีเรื่องของเรา....อาจทำให้เต้ยเกลียดเราไปเลยก็ได้นะ” ฉันหยั่งใจอีกฝ่าย
“ถ้าจะเกลียด....ก็คงเกลียดถ้ากานต์โกหกเรา....ว่ารักเรา...แต่ไม่ได้รัก”
“..............”
ฉันไม่มีอะไรพูดต่อ...นอกจากสมองและหัวใจที่กำลังตีกันอีรุงตุงนัง....
.................
“ขวัญ.....เธอทำแบบนี้กับเราได้ไง”
“แต่เรารู้สึกดีกับสไปรท์ไปแล้ว....เราขอโทษนะ....กานต์”
“แล้วเรื่องคืนนั้นของเราล่ะ....ขวัญ เธอลืมไปหมดแล้วใช่มั้ย”
“เราขอโทษ....ลืม ๆ มันไปซะเถอะนะ”
..................
รู้สึกเจ็บมาก....หลังจากคำตอบนั้น....
ฉันไม่ได้โกรธขวัญ....ไม่ได้เกลียดสไปรท์
แต่โกรธและเกลียดตัวเอง....ที่ไปหลงรักคนที่เขาไม่เคยคิดอะไรกับเรา...
ฉันปลื้มขวัญ.....
ฉันชอบขวัญ.....
ฉันหลงขวัญ....
แต่ฉัน....
ฉันไม่ได้รักขวัญ......
ฉันไม่ได้รักขวัญใช่มั้ย?
ทำไมต้องเจ็บ....
เจ็บที่เห็นขวัญหว่านเสน่ห์ใส่คนนั้นคนนี้....ทั้งสไปรท์ ทั้งดาว .....
แต่คนที่ขวัญไม่เคยเห็นในสายตาก็คือ....ฉัน.....
น้ำตา
ไหลออกมาจนได้.....ฉันพยายามเช็ดมันเพื่อไม่ให้อีกคนรู้ว่าฉันเป็นอะไร....แต่เต้ยพลิกตัวมากอดฉันเป็นการปลอบ.....
คนที่ฉันควรจะรัก....คือเต้ย...ใช่มั้ย?
“เรารู้สึกดี ๆ ต่อกัน....แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกัน....เธอเข้าใจใช่มั้ย”
ประโยคสุดท้ายของขวัญ....ก่อนที่ฉันกับขวัญจะหายไปจากชีวิตของกันและกัน....
จนมาถึงวันนี้
“ยังหวานเหมือนเดิมนะ”
ขวัญยังจำได้....เพราะฉะนั้นทำไมฉันจะจำไม่ได้....ว่าฉันกับเธอเคยมีอะไรกันถึงขั้นไหน....
เต้ย.....เราขอโทษ....
ขอโทษ....ที่ยังลืมขวัญไม่ได้....
T_____________________T
ลงชื่อ.....ธีรัชชา
...เพิ่มความสลับซับซ้อนของตัวละครไปอีก 1 ชั้น....ให้มันดูวุ่นวาย....หรือจะเรียกว่ามั่วดี ฮ่าๆ....
NC ก็ไปจินตนาการต่อเอาเองอีกสักตอนนะคะ....เดี๋ยวให้มีเวลาหาอารมณ์ศิลป์ ๆ ก่อน...ถึงจะแต่งออกมาเป็นฉากได้ ^_^
ติดตามกันไปเรื่อย ๆ นะคะรีดเดอร์ทั้งหลาย....อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะ
อ้อ! ยังไงก็อย่าลืมไปโหวตก้อยดาวนะคะ ....โค้งสุดท้ายแล้ว....ได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง...ถือว่าทำเต็มที่ละกันเนาะ....
http://activity.gmember.com/awards2015/vote
ความคิดเห็น