ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Nadao Girl] Stop! Your Heart – ปฏิบัติการห้ามหัวใจไม่ให้รัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ภารกิจที่ 1 : ละลายพฤติกรรม

    • อัปเดตล่าสุด 29 ม.ค. 58



    ภารกิจที่ 1  :  ละลายพฤติกรรม >>เปิดใจให้คนใกล้ตัว

              สวบ! สวบ

    เสียงพลิกตัวไปมาข้างคนข้าง ๆ  ทำให้ฉันปรือตาขึ้นมาในความมืด  ก่อนจะสะบัดหัวไล่อาการสะลึมสะลือ  มือควานหาโคมไฟข้าง ๆ  ความสว่างแผดแสงขึ้นทำให้ฉันหยีตาปรับความสมดุล  เห็นคนหลับเป็นตายไม่รู้ร้ายรู้ดี  ก็อดยิ้มไม่ได้  ฝ่ามือเองก็เผลอไปลูบไล้เส้นผมตรงยาวที่สลวยมาทางด้านหลังของคนนอนตะแคง  ฉันเพ่งไปดูนาฬิกาดิจิตอลตรงหน้าทีวี  แล้วขยี้ตาอีกครั้ง 

    เฮ้ย! ตีห้า”  ฉันกระวีกระวาดลุกขึ้นมา  แต่ก็ไม่ลืมที่จะเขย่าคนหลับให้รู้ร้อนรู้หนาวด้วย

    ปัง  ตีห้าแล้ว  ลุกเร็ว  ภารกิจหกโมงเช้า”  ฉันพูดพลางเดินไปจับผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้  จ้ำอ้าวเข้าห้องน้ำไป  ทิ้งให้อีกคนที่เพิ่งงัวเงีย  หาวหวอด ๆ  ร้องเร่ง

    พี่เต้ยไม่ปลุกปังเลย  ให้เวลา  ผลงานเพลง”  ว่าปุ๊บก็ยินเสียงเพลงจากช่องเพลงดาวเทียม  ดังขึ้นมา 

     

    ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไร ยิ่งอยากจะเผยใจ

    เมื่อสบสายตา ก็ยิ่งหวั่นไหว

    มันยากเหลือเกินจะเก็บซ่อนความรักเอาไว้

    แต่ความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม

    โปรดบอกความในใจให้ฉันรู้ทีนะเธอ .....

    https://www.youtube.com/watch?v=JilMHo1oj1w

     

    เฮ้ย!  เพลงตั้งแต่สมัยไหนวะเนี่ย!

    หลังจากที่เราอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อย  ฉันกับขนมปัง  คู่รูมเมทแห่งห้องสุดท้ายก็ได้เวลาย่างเยื้องไปยังที่นัดหมาย...นั่นก็คือห้องรับแขกนั่นเอง...

    เฮ้! ติดกล้องตั้งแต่เช้าเลยเหรอเนี่ย  เริ่มกระจายภาพสู่ประชาชีทั้งหลายตั้งเวลานี้เป็นต้นไปแล้วสินะ...

    รู้สึกว่าฉันกับปังจะมาถึงก่อนใคร  เราจึงนั่งรอที่โซฟายาว  ฉันเอนหลังพิงเอาหัวตัวเองวางกับหัวโซฟาหลับตาลง  ส่วนปังเดินไปดูนั่นดูนี่ตามประสา

    ”แต่ความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม”  เนื้อเพลงเมื่อกี้ยังดังก้องหู  เพลงเก่าแค่ไหน  แต่ถ้าความหมายดี  ต่อให้นานแค่ไหนก็ไม่มีวันเก่าอยู่ดี  ...ฉันคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่สักพัก  ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนกำลังเดินมา  น่าจะเริ่มทยอยกันมาแล้วมั้ง  คิดได้อย่างนั้นก็เลยลืมตาขึ้นมา

    เฮ้ย!”  ฉันอุทานออกมาเสียงดัง  จนต้นเหตุตกใจไปด้วย  จึงผละออกจากฉัน  ที่เมื่อกี้ใบหน้าของเธออยู่ชิดกับฉันไม่ถึง  10  เซนฯ

    เป็นไรเต้ย”  กานต์ทักอย่างตระหนก  เราไม่ใช่ผีนะ  ร้องซะลั่นเลย”

    ก็จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงล่ะ  เล่นเอาหน้ามาใกล้กันแบบนี้  เป็นใครก็สะดุ้งแหละ... ฉันสบตากับคนตรงหน้า  จะว่าไปฉันกับกานต์ก็ไม่ได้สนิทกันมาก  ถึงจะอยู่ห้องเดียวกัน  เคยอยู่แก๊งเดียวกัน  แต่ระยะหลัง  ฉันก็ห่างออกมาด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่าง  แต่วันนี้พอได้มาอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน  ก็รู้สึกแปลก ๆ ยิ่งตอนนี้...เรามองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรแบบนี้...ยิ่งทำให้สังเกตว่าเพื่อนของฉัน...น่ารัก...! หรืออาจเป็นเพราะฉันไม่เคยได้ใกล้ชิดกับกานต์ขนาดนี้นะ

    พี่เต้ย  ภารกิจออกแล้วนะคะ”  ขนมปังเดินมาเกาะแขนฉันเขย่า  แล้วชี้ให้ดูที่หน้าจอทีวีด้านหน้าที่มีข้อความปรากฏอยู่

    เออ  สิ่งที่สังเกตได้อย่างแรกคือทุกที่ในบ้านหลังนี้มีแต่กล้อง  ทีมงานเมื่อวานก็ไม่มีสักคน  หรือว่าที่นี่มีแต่พวกเราจริง ๆ  ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีไปอีกอย่าง  เพราะเราจะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น  เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น 

    ให้แต่ละคู่รูมเมททำอาหารตามวัตถุดิบที่มีอยู่ในครัวเท่านั้น  เวลา  ชั่วโมง”

    เป็นเสียงของขวัญที่อ่านคำสั่งนี้  โดยมีดาวยืนอยู่ข้าง ๆ  กับก้อย  ส่วนสไปร์ทกับออยยังไม่ลงมา 

              ฉันยิ้มกริ่มในใจ  เรื่องทำอาหารเนี่ย  ต้องยกให้ธนิดาคนนี้เลย  เพราะที่บ้านก็ช่วยแม่ทำเค้กเป็นประจำอยู่แล้ว  เพราะฉะนั้นเรื่องแค่นี้...สบาย ๆ...ขณะที่ฉันยิ้มภูมิใจกับตัวเอง  จู่ ๆ  ปังก็วิ่งมากอดคอฉันเฉยเลย

              เย้! ดีใจจังได้คู่กับพี่เต้ย  คู่เราชนะเลิศ”  ปังกอดคอฉันแน่นขึ้นจนเริ่มรู้สึกอึดอัด...ฉันจึงดึงมือน้องออก  แล้วหันไปดีดหน้าผากหนึ่งที  ข้อหาทำให้ฉันหายใจแทบไม่ออก

              พี่เต้ยอ่ะ”  ปังทำหน้าหยีเหมือนเจ็บมาก  ฉันเลยแกล้งใช้ฝ่ามือคลึงไปที่หน้าผากเบา ๆ เหมือนปลอบ  แล้วใช้มือยันจนปังเซไปเล็กน้อย  แล้วค้อนใส่ฉัน  เราหัวเราะ  ก่อนจะจูงมือกันไปยังเป้าหมายของเรา  คือห้องครัว

              ทุกคู่ดูขะมักเขม้นกับการเตรียมตัวทำอาหารในครั้งนี้  คงอยากแสดงฝีมือกันน่าดู  เพราะอย่างน้อยการที่จะเป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟ็กต์ได้  สำคัญที่สุดก็ต้องทำอาหารเป็นนี่แหละ...ฉันดูวัตถุดิบในครัวที่ทางทีมงานกำหนดให้  ซึ่งมีพวกเนื้อสัตว์ต่าง ๆ  ผักนานาชนิด  และผลไม้อีกหลายอย่าง....ฉันนิ่งคิดอยู่สักครู่ก็คิดเมนูออก  จึงให้ขนมปังสับหมูให้  ส่วนฉันหั่นผักกาดขาว  เพื่อจะทำต้มจืด

              โอ๊ย!” 

              ฉันหันไปตามเสียงอุทาน  ก็เห็นก้อยกำลังบีบมือ  น่าจะเป็นแผลเพราะมีดบาดมือล่ะมั้ง  ฉันกำลังจะก้าวขาไปดู  แต่ก็ต้องชะงักไว้  เมื่อมีคนไวกว่า  นั่นก็คือเพื่อนสนิทของก้อย  หรือดาวนั่นเอง

              งับ!

              เฮ้ย! ปากของดาวงับไปที่แผลตรงนิ้วชี้ของก้อย  ส่วนก้อยก็มองดาวตาโต

              แกทำอะไรอ่ะดาว”  เสียงก้อยทักท้วงขึ้นมา

              อยู่เฉย ๆ น่า  ก็ห้ามเลือดไง”  ดาวตอบ  แล้วดึงมือของเพื่อนรักไปล้างน้ำสะอาดตรงซิงค์ล้างจาน

              โธ่  แค่นี้เองดาว  แกอย่าเว่อร์น่า”  ก้อยติงขึ้นมา

              ได้ไง  แผลตั้งลึก  เนี่ยเห็นมั้ย  กดเข้าไปเลือดยังออกอยู่เลย”

              โอ๊ย! ดาว  เบาๆ”

              สองคนนั้น  ตกลงจะล้างแผล  หรือว่าจะฆ่ากันฉันไม่มั่นใจ  แต่ในเมื่อก้อยไม่เป็นไรแล้ว  ฉันจึงหันมาสนใจผักกาดตรงหน้า  แต่ก็ได้ยินเสียงอีกเสียงดังขึ้นก่อน  ฉันจึงเอี่ยวตัวไปดู

              อ้าว  เป็นไรกันก้อย  ดาว”  กานต์ทักขึ้นมา  ขณะที่ทั้งคู่กำลังทะเลาะกันอยู่

              ก็ก้อยสิคะ  ซุ่มซ่าม  ดูสิมีดบาดมือเลย”  ดาวพูดพลางดูแผลที่มือของก้อย  ลึกด้วย”

              ดูดาวเป็นห่วงก้อยมากจริง ๆ  ถ้าบอกว่าเป็นแฟนกัน  ฉันก็จะเชื่อนะ  ถ้าไม่ติดที่ว่าภาพความสนิทสนมของก้อยกับสไปรท์จะทำให้คิดเป็นอย่างอื่นมากกว่า 

              เด็กน้อยเอ๊ย  ทำกับข้าวไม่เป็นล่ะสิ  หั่นแค่นี้ก็มีดบาดมือ”  กานต์หัวเราะ  แล้วใช้มือขยี้หัวก้อยเชิงหยอกล้อ  ก่อนจะจับมือก้อยขึ้นมา  เป่าแผลที่นิ้วมือนั้น  แล้วบรรจงปิดพลาสเตอร์ลงอย่างแผ่วเบา

              โอ๊ย! อยากมีดบาดมือบ้างจัง”  ขวัญพูดกึ่งประชด จะได้มีคนห่วงบ้าง”

              วันนี้ทำไมฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนช่างสังเกตจังนะ  จึงเห็นว่าประโยคหลังของขวัญ  ทำให้อีกคนที่กำลังหุงข้าวอยู่  หันมามองในทันที  ฉับพลันสไปร์ทก็เดินเข้าไปกอดคอขวัญจากด้านหลัง

              “แกนี่มันขี้ใจน้อยจริง ๆ นะ”  ว่าพลางจับหน้าของคนที่อยู่ข้างหน้าให้หันมามองตนเอง

              .......”  ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่ถูกจับให้หันมา สไปรท์ควักผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าลายการ์ตูน  ไม่รู้ว่าลายอะไร  ดูไม่ชัด บรรจงเช็ดไปที่หน้าผากของอีกฝ่ายที่น่าจะมีเหงื่อ  ก่อนจะไล่ลงมาระหว่างแก้ม  ดูขวัญนิ่งไปอย่างเห็นได้ชัด  ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ นอกจากมองหน้าคนที่เช็ดให้  สักพักขวัญก็เป็นฝ่ายจับมือสไปรท์ออก  แล้วหันไปทำภารกิจของตนเองต่อ  คือการหุงข้าว สไปร์ทดูเหมือนจะเดินเข้าไปใกล้ขวัญอีก  แต่ถูกอีกเสียงเรียกไว้ก่อน

              พี่สไปรท์คะ”  สาวเงียบ  เรียบร้อยอย่างออย  เรียกสาวฮอตอย่างสไปร์ท 

              หุงข้าวเสร็จรึยังคะ  มาออยช่วย”  ว่าแล้วก็จับไส้หม้อหุงข้าวที่สไปร์ทเช็ดจนแห้ง  เดินไปยังหม้อหุงข้าวข้าง ๆ ขวัญ  แล้วยิ้มให้ขวัญอย่างเป็นมิตร

              พี่กานต์  ไหม้แล้ว ๆ”  ทั้งกลิ่นทั้งเสียง  ทำให้ฉันเหลียวหลัง  จนเห็นภาพของกานต์กำลังปิดไฟแก๊ส  ส่วนก้อยก็ตักไข่เจียวที่ลักษณะคล้ายนิโกลขึ้นมาใส่จาน  ทำหน้าเหยเก  ฉันยิ้มออกมา  ส่ายหัวเบา ๆ  แล้วก็เจอกับสายตาหนึ่งที่จ้องอยู่

              ยิ้มอะไรอ่ะ  พี่เต้ย”  ขนมปังถามเชิงจับผิด

              เปล่านี่  เราล่ะ  สับหมูถึงไหนแล้ว  เสร็จยัง”  ฉันเฉไฉไปเรื่องอื่น

              ขนมปังพยักหน้า  แล้วยื่นแก้วน้ำผลไม้ให้ฉัน  ฉันกำลังจะยื่นมือจับ  แต่อีกคนกลับส่ายหัว  แล้วจับที่หลอดเพื่อป้อนน้ำให้ฉัน  ฉันเลิกคิ้วมองหน้าคนเป็นน้อง  แล้วก้มลงดูดที่หลอดนั้น  สายตาก็มองไปยังคนมีน้ำใจที่ตอนนี้ยืนมองฉันยิ้ม ๆ

              พี่เต้ยน่ารักจัง” 

              เสียงหวานกระทบโสตประสาท  ส่งผลต่อระบบการทำงานของหัวใจรึไงนะ  ใจฉันเต้นตึกตัก  หรือจะเป็นครั้งแรกที่มีคนชม  แต่ก็ไม่นะเพราะโดนชมบ่อยแล้ว ^_^  จะว่าไปขนมปังก็เป็นเด็กที่น่ารักดี  กล้าพูดกล้าทำ  ตรงกันข้ามกับเพื่อนสนิทของเขาที่ดูนิ่ง  เงียบขรึม  เหมือนคนไร้ความรู้สึก  คิดได้ดังนั้น  ฉันก็มองข้ามไหล่ไปยังออยที่ยืนทำกับข้าวอยู่กับสไปรท์  กลับเห็นออยร่าเริงขึ้นมาก  มีหัวเราะ  มียิ้ม  เหมือนคนปกติทั่วไปแล้วสินะ  ฉันมองบรรยากาศรอบตัวอย่างสุขใจ  โอกาสที่ต่างคนต่างชีวิต  ต่างจิตต่างใจมาอยู่ด้วยกัน  ณ  ช่วงเวลาหนึ่ง  มันก็อาจเป็นเวลาที่ดีไม่น้อย

    เวลาผ่านไป 2  ชั่วโมง  กับข้าวฝีมือของพวกเราทั้ง  คู่  วางเรียงรายประหนึ่งรายการอาหารพวกเชฟกระทะเหล็ก  สีสันของแต่ละคู่ดูแปลกตาเล็กน้อยตามสภาพฝีมือ 

    ขวัญกับดาว  ทำข้าวผัด  ที่เหมือนข้าวผัดกลางแปลงผัก  เพราะเล่นใส่คะน้าชิ้นเบ้อเริ่ม  เหมือนจะเอาลงไปทั้งต้น  จนดาวยิ้มแหย ๆ  และรับสารภาพว่าเธอเป็นคนหั่นผักเอง  ส่วนคู่ของสไปรท์กับออย  ทำต้มยำรวมมิตร ที่อุดมไปด้วยเนื้อหมู  เห็ดนางฟ้า  ลูกชิ้น  ดูหน้าตาน่าทานทีเดียว  ต่อมาด้วยคู่ของก้อยกับกานต์  คู่นี้มีปัญหาตั้งแต่จับคู่กันแล้ว  เพราะก้อยออกตัวก่อนเลยว่าทำอาหารไม่เป็น  ส่วนกานต์เท่าที่อยู่ในแก๊งเดียวกันมา  ก็เป็นคนที่ทำอาหารได้รสชาติแย่ที่สุดแล้ว ^_^  ไม่ได้พูดประชดนะ  แต่มันกินยากจริง ๆ  เมนูที่ได้จึงเป็นไข่เจียวหมูสับหน้าด้าน  ขอตั้งชื่อแบบนี้ก็แล้วกัน  อาจจะเพราะกระทะน้ำมันยังไม่ร้อน  แต่ดันใส่ไข่ลงไปแล้ว  แทนที่จะฟู  กลับด้านอย่างที่เห็น  และสุดท้ายที่คู่ของฉันกับปัง  ฉันไม่ได้จะอวดตัวเองหรอกนะ  แต่เท่าที่ดูจากหน้าตาอาหารแล้ว  มันน่าทานที่สุดแล้ว  เพราะเมื่อฉันยกมาตรงโต๊ะอาหารปั๊บ  ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหอมมาก  ความจริงก็เมนูธรรมดานะ  ต้มจืดหมูสับ”  เพียงแต่ฉันกับปังพอจะทำอาหารเป็นทั้งคู่  ก็เลยไม่ดูเงอะงะเหมือนคู่อื่น

    อร่อยมั้ยดาว”  ขวัญมองหน้าดาว  ก่อนจะยิ้มเอ็นดูในท่าทีของดาวที่ทำหน้าแหย ๆ

    ฝีมือเรา...ก็แย่ใช่เล่นนะเนี่ย”  ดาวยอมรับในฝีมือการทำอาหารของตัวเอง  แล้วตักข้าวผัดที่วางเป็นจานกลาง  ให้ก้อยที่นั่งตรงข้ามกัน 

    ก้อย  แกชิมดู  แล้วแกจะรู้ว่า...มันไม่ง่ายเลยนะที่จะทำอาหารไม่อร่อย”  ดาวยิ้มตาหยี  ส่วนก้อยค้อนให้ดาวไปหนึ่งที  แล้วตักข้าวผัดใส่ปาก  เคี้ยวงุบงับ  แล้วพยักหน้าสองสามที

    ฉันว่า...มาม่าต้มยังอร่อยกว่าข้าวผัดกับไข่เจียวหมูสับของแกกับฉันอีกว่ะ”  ทุกคนหัวเราะกันร่วน...แล้วผลัดกันชิมอาหารของกันและกัน

    เต้ย  เก่งว่ะ  ทำเค้กก็อร่อย  อาหารก็สุดยอด  ใครได้เป็นแฟน  โชคดีสุด ๆ อ่ะ”  เป็นสไปรท์ที่พูดชมขึ้นมา  หลังจากที่นางเดินไปหยิบผลไม้จากในห้องครัว  วางไว้กลางโต๊ะอาหาร  แล้วกอดคอฉัน  เอาคางเกยบนหัว

    ทุกคนโห่ใส่  ยกเว้นขวัญล่ะมั้ง  ที่จ้องสไปร์ทหน้านิ่ง  แล้วหลบตาลง  หยิบผลไม้ที่คนเมื่อกี้เอามาวางไว้

    อะไรขวัญ  งอนเค้าเหรอ  เค้าไม่นอกใจขวัญหรอกน่า”  ว่าแล้วก็เดินไปนั่งข้าง ๆ ขวัญ  ซึ่งเป็นเก้าอี้ของดาวที่เพิ่งลุกออกไปล้างมือ

    แกหึงฉันเหรอ”  สไปรท์ยังล้อเล่นไม่หยุด

    ........”  ขวัญไม่ตอบ  แต่เปลี่ยนท่าทีนิ่ง ๆ  ไปหยิกแก้มของอีกฝ่าย

    ก็น่ารักแบบนี้  จะไม่ให้หึงได้ไง” 

    กลายเป็นสไปร์ทที่หน้าแดงกร่ำ  ตอนนี้ฉันเหมือนอยู่ท่ามกลางผีเสื้อที่โบยบินออกมากจากความจิ้น  และมโนภาพของฉันเอง  แต่ละคู่  แต่ละคนล้วนมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงเสมอ  รวมถึงคู่ที่กำลังเดินมาตอนนี้

     

    กานต์  เพื่อนสนิทของฉัน  กอดคอก้อยเดินออกมาจากห้องครัว  แล้วหัวเราะกันคิกคัก  คู่นี้ก็เหมือนจะจูนติดเร็วในเรื่องของความสนิทสนม  ทั้ง ๆ ที่กานต์เป็นคนไม่ค่อยพูด  แต่มีก้อยที่ช่างดูแลแบบนี้  กานต์ก็เลยดูร่าเริงสดใสมาก  รอยยิ้มที่เพื่อนของฉันแสดงออกมา  ทำไมฉันไม่ค่อยได้เห็นในตอนที่อยู่กับฉันบ้างนะ  มันน่ารัก...มันน่า.....รัก”  เฮ้ยฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย

    หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแรกในการทำอาหารไปแล้ว  ช่วงบ่ายเราก็เจอกับชั่วโมงละลายพฤติกรรม  เพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายในบ้าน  โดยคราวนี้มีครูบิวเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดสิ่งที่จะให้เราทำด้วย

    ให้พวกเราทั้ง  คน  นึกถึงคนที่เรารู้สึกดีมากที่สุด  ใน  คนนี้  จะเลือกใครก็ได้  เป็นเพื่อน  เป็นพี่  เป็นน้อง  เพื่อนต่างห้อง  หรือห้องเดียวกัน”

    คนแรกที่จะเขียนคนที่เรารู้สึกดีด้วย  ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการสารภาพรักนะ  แต่อาจจะเป็นความประทับใจในตัวเขา  แค่หนึ่งวันที่เราอยู่ด้วยกัน  เรารู้สึกอะไรกับใคร  ยังไง  แล้ววันสุดท้ายที่จะต้องมีคนออกจากบ้าน  ครูจะกลับมาถามอีกครั้ง  ว่าความรู้สึกของเรายังเหมือนเดิมหรือเปล่า”

    หลังจากนั้นครูบิวก็ให้เราเขียนชื่อคน ๆ นั้นพร้อมลงชื่อคนเขียน  ใส่ในกระดาษแล้วม้วนลงในแก้ว  เพื่อดูว่าคนที่ปรากฏชื่อบนกระดานตรงกับในสลากหรือไม่

    ผ้าผูกตาถูกทับทาบลงบนเปลือกตาของขวัญก่อนเป็นคนแรก  ในฐานะประธานนักเรียน  ในฐานะของผู้นำ  ในฐานะหมายเลข  เธอมักจะเป็นคนที่มีสิทธิ์ทำอะไรก่อนเสมอ 

    สไปรท์” 

    ขวัญคลายผ้าผูกตาออก  แล้วมองไปที่ครูบิวที่สไปรท์สลับกัน  ก่อนจะพูดความในใจ

    เหตุผลที่เลือกสไปรท์  เพราะเราเป็นเพื่อนกัน  แต่ในคำว่าเพื่อนนั้น  มันแฝงด้วยความรู้สึกที่หลากหลายค่ะ  ทั้งมิตรภาพ  ความประทับใจ  ความรู้สึกที่ว่าหากถามว่านึกถึงใครก่อนยกเว้นคุณแม่นะคะ  เมื่อหลับตาลงขวัญนึกถึงผู้หญิงคนนี้เป็นคนแรก  เพราะในเวลาที่ขวัญทุกข์หรือสุข  คน ๆ นี้จะอยู่ข้าง ๆ ขวัญเสมอค่ะ  แม้จะมีช่วงเวลาที่ไม่เข้าใจกันบ้าง  แต่ขวัญเชื่อว่าความรู้สึกนี้จะอยู่กับขวัญตลอดไป  อยู่ตรงนี้”  ว่าพลางใช้ฝ่ามือสัมผัสตรงบริเวณหัวใจ

    แม้ว่าวันหนึ่งเขาจะหายไป  แต่วันนั้นเขาเอาหัวใจขวัญไปด้วยค่ะ”

    ทุกคนปรบมือให้กับขวัญ ชื่อที่ปรากฏบนกระดาน  ไม่ได้ทำให้ทุกคนแปลกใจเท่ากับเหตุผลที่ขวัญพูด  เพราะอย่างน้อยพวกเธอก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัย ม.ต้น  แต่ความรู้สึกที่พูดขึ้นมานี่สิ  เหมือนกับสารภาพรักกันเลย  หรือมันจะมีอะไรมากกว่านั้น  เอ๊ะ! นี่ฉันเป็นคนชอบจิ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

    โอเค  สไปรท์”  ครูบิวชูสลากที่ขวัญเขียน  ฉันเห็นขวัญกับสไปรท์สบตากัน  ก่อนที่สไปรท์จะถูกเรียกชื่อให้เป็นคนต่อไป

    สไปรท์หยิบสลากที่ตัวเองเขียนขึ้นมา  เปิดให้ทุกคนดู  แล้วเขียนลงไป

    ขวัญ”

    แหม”  ฮั่นแน่”  วู๊”  ทุกคนโห่แซวกันอย่างสนุกสนาน

    เหตุผลที่เลือกขวัญ  เพราะขวัญยังไงก็ยังเป็นขวัญ  ไม่ว่าไปรท์จะเป็นยังไง  จะดีจะร้าย  ขวัญก็พร้อมอยู่เคียงข้าง  และเป็นเพื่อนที่ดีของไปรท์เสมอ  ดีใจนะ...ที่ใจเรายังตรงกัน...”

    สไปรท์พูดแค่นั้น  แล้วเดินไปนั่งที่เดิม  หันมองขวัญที่นั่งอยู่แถวเดียวกัน  แต่มีดาวกับก้อยคั่นกลาง

    กานต์”

    ฉันสะดุดกับชื่อที่เขียนบนกระดานในตอนนี้  สีปากกาไวท์บอร์ดสีน้ำเงินปรากฏชัด  จนฉันมองว่าใครเป็นคนเขียน  หันมากลายเป็นก้อย  ที่ยืมยิ้มแฉ่ง  สังเกตเห็นรูมเมทของขวัญเอามือค้ำคาง  หน้าไม่ยิ้มสักนิด  หรือจะผิดหวังที่เพื่อนสนิทไม่เลือกตัวเองกันนะ

    เหตุผลที่เลือกพี่กานต์นะคะ  เพราะก้อยชอบความเป็นผู้ใหญ่ของพี่กานต์ค่ะ  พี่กานต์คอยดูแลก้อย  ขนาดแค่อยู่ด้วยกันแค่คืนเดียว  ก้อยยังรู้สึกอบอุ่น  เพราะก้อยไม่มีพี่น้อง  เมื่อมีพี่กานต์เข้ามา  ก็เหมือนมีพี่สาวเพิ่มเข้ามาในชีวิต  ขอบคุณความบังเอิญละกัน  ที่ทำให้เราได้เป็นรูมเมทกัน  ขอบคุณค่ะ” 

    ก้อยพูดจบก็โบกไม้โบกมือให้กานต์ที่นั่งยิ้มแก้มปริ  แอบรู้สึกโล่งใจบอกไม่ถูก...ที่ก้อยพูดว่ารู้สึกกับกานต์เหมือนพี่สาว  ...เอ้อ...แล้วจะโล่งอกทำไมเนี่ย....ฉันรู้สึกแปลก ๆ มาตั้งแต่เช้าแล้ว  สงสัยจะเป็นไข้มั้ง

    พี่ขวัญ”

    ชื่อบนกระดานปรากฏขึ้น  ดาวหันไปทางก้อย  ค้อนให้เบา ๆ  เหมือนยิ้มเยาะ ๆ  ประมาณว่า...แกไม่เลือกฉัน  ฉันก็ไม่เลือกแก  มันช่างบังเอิญอะไรขนาดนั้น

    เหตุผลที่ดาวเลือกพี่ขวัญ  ก็เพราะว่าพี่ขวัญเป็นไอดอลของใครหลาย ๆ คน  เป็นนักเรียนตัวอย่างที่ใครต่อใครก็อยากเป็น  ดาวก็เช่นกันค่ะ  ดาวก็อยากเป็นเหมือนพี่ขวัญ  พี่ขวัญใจดีและเป็นกันเอง  ดาวรู้สึกว่าดาวโชคดีมากที่ได้อยู่ร่วมห้องกับพี่ขวัญ  ขอบคุณสำหรับเวลาดี ๆ ค่ะ”  ดาวพูดจบก็ยิ้มให้กับขวัญที่รับยิ้มอย่างอ่อนโยน

    คนต่อไปคือน้องออยสินะ  อยากรู้จังว่าออยจะเลือกใคร 

    สไปรท์” 

              ทุกคนหันหน้าซุบซิบกัน  ออยผู้พูดน้อยจนแทบนับคำได้ แอบประทับใจสไปรท์สาวฮอตเหรอเนี่ย

              ออยชอบความเป็นตัวของตัวเองของพี่สไปรท์ค่ะ  ชอบความสดใส  ความน่ารัก  ความเป็นกันเองกับทุก ๆ คน  ออยรู้สึกว่าออยกล้าทำอะไรมากขึ้น  เพราะกำลังใจจากพี่สไปรท์ค่ะ”

              สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ได้ใจความ  คนส่วนใหญ่ก็ชอบรูมเมทกันทั้งนั้น  อาจจะเป็นเพราะการได้อยู่ด้วยกัน  การดูแลกันและกัน  จึงเกิดความผูกพันกันขึ้นมาก็ได้

              เต้ย” 

              อ้าว! มีชื่อฉันด้วยเหรอเนี่ย  ขนมปังหันมายิ้มให้ฉันตาหยี  ฉันโบกมือให้ขนมปังเชิงขอบคุณ

              ต้องขอออกตัวก่อนนะคะ  ว่าปังปลื้มพี่เต้ยมาตั้งแต่ยังไม่เข้ามาที่บ้านนี้ค่ะ พี่เต้ยเป็นคนน่ารัก  ทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดี  ที่สำคัญ..เค้กอร่อยมาก ๆ  เพราะปังเคยแอบให้เพื่อนสั่งขนมเค้กของพี่เต้ยทานที่โรงเรียนค่ะ  สมมตินะ...สมมติว่าพี่เต้ยยังไม่มีแฟน  ปังจะขอเป็นแฟนพี่เต้ยจริง ๆ เลย เอาสิ” 

              ฉันนั่งขำกับความรู้สึกของน้องรูมเมทสุดติงต๊อง  แล้วหันไปข้าง ๆ เห็นกานต์เท้าคางมองฉันอยู่  เมื่อกานต์เห็นฉัน  ก็หันกลับไปมองขนมปังที่คุยจ้ออยู่หน้ากระดาน 

              ครูให้เขียนคนที่เราประทับใจนะ  ไม่ใช่คนที่เราจะขอเป็นแฟน”  ครูบิวทักขึ้นยิ้ม ๆ  ทุกคนเลยหัวเราะกันร่วน

             

              “คนต่อไปค่ะ  เต้ย” 

     

              เต้ย”

     

              พี่เต้ย”

     

              เป็นมือเล็ก ๆ ของขนมปังที่แตะมาที่ไหล่ฉัน  เฮ้ย! ฉันเหม่ออะไรเนี่ย  ฉันลุกไปหยิบสลากจากครูบิว  ใจหนึ่งก็อยากจะเปลี่ยนชื่อคนในสลากจัง  รู้สึกหวั่น ๆ กลัวความเป็นจริงที่จะเผชิญข้างหน้าจัง

             

              ฉันบรรจงเขียนชื่อบนหน้ากระดาน  แล้วหันหลังกลับมา  เจอหน้าเจ้าของชื่อที่ตัวเองเขียน  แล้วรู้สึกเขิน ๆ ยังไงไม่รู้

     

              กานต์”

     

              เหตุผลแรกที่เขียนชื่อกานต์  เพราะว่ากานต์เป็นเพื่อนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันที่โรงเรียน  แต่ด้วยความไม่ค่อยได้พูดคุยกัน  ก็เลยเป็นเหตุผลที่สอง  คือ  กานต์เป็นคนที่น่าค้นหา  เป็นคนที่อยากอยู่ใกล้ๆ”

              เฮ้ย! เดี๋ยว ๆ นี่ฉันพูดหลงประเด็นรึเปล่าเนี่ย  ทำไมทุกคนจ้องฉันแล้วเงียบไป

              เอ่อ  เพื่อพัฒนาจากเพื่อนธรรมดา  เป็นเพื่อนสนิทกันมากขึ้นค่ะ  แหะ ๆ”  ฉันยิ้มแหย ๆ

              เออ  นึกว่าจะสารภาพรัก  กำลังลุ้น”  ครูบิวทักขึ้นมาอีกครั้ง  “คนสุดท้ายค่ะ  กานต์”

              ตึกตัก  ตึกตัก  เสียงหัวใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ  เมื่อถึงคิวของกานต์  เธอจะเขียนชื่อใครกันนะ

              “เต้ย”

              ฉันนิ่งไปชั่วขณะ  เมื่อเห็นชื่อนั้น  คือชื่อของฉัน  มันเป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริง ๆ  ไม่ใช่สิ  ไม่ได้คาดไว้ด้วยซ้ำ

              เหตุผลที่กานต์เลือกเต้ย  เพราะเต้ยเป็นเพื่อนที่ดี  มีน้ำใจกับเพื่อนทุกคน  ทั้งคนที่สนิทและไม่สนิท  เป็นคนที่น่าจะปกป้องคนอื่นได้ดีค่ะ  ถ้าเป็นไปได้กานต์ก็อยากมีแฟนแบบเต้ยค่ะ”

              ชัดเจนมากกกกก”  ครูบิวลากเสียง  เหมือนครูให้พวกเราสารภาพรักกันเลยเนาะ  ไม่นะจ๊ะ...มันไม่ใช่จุดประสงค์” ^_^

              หลังจากนั้นครูบิวก็ให้พวกเรากอดคอกันทั้ง  คน  เป็นวงกลม  ฉันกับกานต์อยู่คนละฝั่งแต่ตรงกันเลยไม่แปลกที่เมื่อเงยหน้าขึ้นมา  สายตาจะประสานกันอย่างปฏิเสธไม่ได้  เราสบตากันได้ครู่หนึ่ง  กานต์ก็เป็นฝ่ายหลบสายตาก่อน 

              ถ้าเป็นไปได้กานต์ก็อยากมีแฟนแบบเต้ยค่ะ”  ความจริง  ประโยคนี้ไม่ต้องพูดก็ได้นะ  แต่เมื่อพูดออกมาแล้ว  ถ้าฉันจะคิดมากบ้าง  ก็คงไม่ผิดใช่มั้ย

              หลังจากเราทำภารกิจละลายพฤติกรรมกันเรียบร้อยแล้ว  ก็เป็นช่วงพักของเราไปจนถึงเวลาทานข้าวเย็น  ซึ่งฉันรับหน้าที่เป็นแม่ครัวประจำบ้านไปโดยปริยาย

              มีอะไรให้ช่วยมั้ย”  เสียงใสของกานต์ทักขึ้นมา  ทำให้ฉันหันขวับไปทันที

              เอ่อ  ไม่เป็นไรกานต์  ขอบใจนะ  เราทำได้  แป๊บเดียว  ไปรอกินเหอะ”

              ไม่เป็นไร  เราอยากช่วย  เป็นลูกมือเฉย ๆ  จะได้เสร็จเร็ว ๆ ไง”

              ฉันยิ้มรับในความหวังดี  และยื่นหัวหอมให้กานต์หั่นให้  เมนูวันนี้คือยำหอยแครง  กับต้มยำกุ้ง 

    ขณะที่ฉันแกะกุ้งอยู่  ก็สังเกตเห็นกานต์ใช้หลังมือเช็ดที่ตา จึงหันไปดู  ปรากฏว่าน้ำตาของกานต์คลอเบ้าอยู่  ฉันเลยถึงบางอ้อ  ว่าต้นเหตุก็คือ หัวหอมนั่นเอง 

    ฉันล้างมือจนสะอาด  แล้วควักผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อออกมาเช็ดน้ำตาให้กานต์อย่างแผ่วเบา  กานต์จ้องหน้าฉัน  แล้วเลื่อนมือไปจับมือของฉันที่ยังเช็ดอยู่ 

    ยังแสบตาอยู่มั้ย”  เป็นฉันที่ถามขึ้นก่อน

     

              โอเคแล้ว  ขอบใจนะ”  กานต์ยิ้มให้ฉัน  ฉันยิ้มตอบ  แต่อีกอึดใจเดียว  ฉันก็ค่อย ๆ หุบยิ้ม  แล้วเดินเข้าไปใกล้กานต์มากขึ้น  เหมือนไม่รู้ตัวเองเลยว่าทำอะไร  มารู้สึกตัวอีกที  ก็ดันกานต์ไปจนชิดซิงค์ล้างจานแล้ว  ฉันขยับหน้าไปจนจะชิดกับกานต์อยู่แล้ว  ถ้ากานต์ไม่ผลักฉันออกเบา ๆ  แล้วกระซิบข้าง ๆ หู

             

              กล้อง” 

              ฉันชะงักไปเล็กน้อย  เออ  จริงแฮะ  ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ลำพังนี่นา  มีใครอีกหลายคนที่ดูเราอยู่  ฉันผละออกจากกานต์  ใช้มือลูบหัวตัวเองแก้เขิน

              กานต์ดึงแขนฉันไปอีกทาง  จนฉันตะโกนบอกคนข้างนอกแทบไม่ทัน

              ปัง  ปัง  มาดูห้องครัวด้วย” 

              ข้างในห้องน้ำ  (ที่ไร้กล้อง)

             

              “เฮ้ย!  กานต์  จะทำอะไร”  ฉันถามคนที่ลากฉันมาแบบงง ๆ  เพราะในขณะนี้เราสองคนอยู่ในห้องน้ำ  ย้ำ...ในห้องน้ำ...ที่ปิดประตูล็อคกลอน  แต่ทางที่เราเดินเข้ามา  ก็ต้องมีคนเห็นอยู่ดี

              ตอนนี้ฉันโดนกานต์ผลักไปชิดผนังในห้องน้ำเรียบร้อย  ห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่มีอากาศหายใจไม่มากแบบนี้  ยิ่งอยู่ด้วยกันสองคนยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่  แต่เมื่อได้อยู่กับเธอ  ฉันกลับรู้สึกตรงกันข้าม  มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

              กานต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น  มากขึ้น  จนตอนนี้หน้าเราห่างกันแค่ไม่กี่เซนฯ แล้ว

              “เอ่อ  กะ กานต์....”  ตอนนี้เสียงของฉันตะกุกตะกัก  พูดแทบจะไม่เป็นคำ  ทั้งเสียงหัวใจที่มันเรียกร้องอยู่ตอนนี้  ฉันตัดสินใจเปลี่ยนตำแหน่งจากคนถูกรุก  มารุกแทน

              เต้ยรู้สึกยังไงกับเรา”  เป็นเสียงพูดเบา ๆ  เหมือนกลัวกล้องจะบันทึกเสียงไว้ ฉันเองก็ยอมรับว่าฉันรู้สึกดีกับผู้หญิงคนนี้  แต่จะให้บอกคำ ๆ นั้นออกไปเลย  ก็กลัวผลอะไรหลาย ๆ อย่างจะตามมา

              เอ่อ...”  ฉันอยู่ในสถานการณ์น้ำท่วมปาก  ไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาทั้งนั้น 

              “OK  สรุปว่าเราคิดไปเอง”  กานต์ผลักฉันออก  แล้วเอื้อมมือไปที่กลอนประตูเพื่อจะเปิดออก

              ฉันใช้ความกล้าสุดท้าย  รวบตัวทั้งตัวให้มาเผชิญหน้ากับฉันอีกครั้ง  ตอนนี้กานต์อยู่ในอ้อมกอดฉันเต็ม ๆ  สายตาที่กานต์มองมาที่ฉัน  เหมือนต้องการคำตอบที่ชัดเจน  หรือฉันแสดงออกมากเกินไปจนทำให้เธอรู้ว่าฉันไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อน...

              ไม่ตอบได้มั้ย”  ฉันพูดได้แค่นี้  แล้วคำพูดก็กลืนหายไปกับริมฝีปากที่ประกบคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา  จนเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงขึ้น  สัมผัสนี้มันคืออะไรกันนะ  คำว่าเพื่อนของเรา...จะเปลี่ยนไปแล้วใช่มั้ย...

             

              หลังจากที่เรารับรู้ความในใจของเราแล้ว  ฉันกับกานต์ก็ทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  แต่จะเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยตรงที่เรามองหน้ากันบ่อยขึ้น  ยิ้มให้กันบ่อยขึ้น  และเขินกันมากขึ้น  ตอนนี้รสชาติอาหารอะไรไม่รู้แล้วว่าอร่อยหรือไม่อร่อย  รู้แค่ว่ามีความสุขที่ได้กิน  ได้มองคนตรงหน้าแบบนี้  กานต์  ที่รัก”      

                                

    ลงชื่อ......ธนิดา 

    22  กันยายน 

              จบตอนนี้ซะที  ไปต่อไม่เป็น ฮ่า ๆ  ....ยังไงอย่าลืมไปโหวตกันนะคะ...
    ติชมได้ตามอัธยาศัยค่ะ ^_^

    https://polldaddy.com/poll/8610430/

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×