ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Nadao Girl] Stop! Your Heart – ปฏิบัติการห้ามหัวใจไม่ให้รัก

    ลำดับตอนที่ #2 : วันแรก : กฎของ Roommate

    • อัปเดตล่าสุด 27 ม.ค. 58


    วันแรก  กฎของ  Roommate

     

    วันที่  21  กันยายน  ปิดเทอมวันแรกของเหล่านักเรียนนาดาวบางกอก  ถูกต้องว่ามันเป็นการปิดเทอมตามปฏิทินการศึกษาของโรงเรียน  แต่มันไม่ใช่กับพวกเราทั้ง  คน  เมื่อนักเรียนหญิงที่ได้รับการโหวตว่าเพอร์เฟ็กต์ที่สุดในนาดาวบางกอก  กลับต้องมาปฏิบัติภารกิจบ้าบอตามแผนธุรกิจของรายการรูมมง  รูมเมทอะไรก็ไม่รู้ 

     

    ไร้สาระสิ้นดี”  ฉันสบถออกมาอย่างอดไม่ได้ 

     

    ในฐานะประธานนักเรียนที่มีระเบียบแบบแผนการดำเนินชีวิตที่เป็นไปตามครรลองของคำว่า  เด็กตัวอย่าง”  แบบฉัน  การที่จะต้องเสียเวลาเป็นเดือนเพื่อมาอยู่ในบ้าน  มาทำภารกิจ? แล้วไอ้ภารกิจที่ว่าเนี่ย  มันดีกว่าที่ฉันเอาเวลานี้ไปเรียนพิเศษช่วงปิดเทอมตรงไหน  ใกล้จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเต็มทีแล้ว ยังต้องมาทำอะไรแบบนี้อีก

     

    เสียเวลา” นั่นเป็นเพียงข้อความกระซิบกับตัวเองเท่านั้น  ก็ในเมื่อทั้งสองมือกำลังลากกระเป๋าเดินทางที่บรรจุสิ่งของจำเป็นทั้งหมดทั้งมวล  เพื่อใช้ชีวิตอยู่ในบ้าน  The  Roommate  เป็นเวลา  เดือนนี่สิ

     

    ไม่ได้อยากไปเลยจริงๆ นะ  ถ้าครูอ้อไม่สไกป์ไกลมาจากอังกฤษ  ย้ำนักย้ำหนากับฉัน  ว่าคนเราเมื่อรู้จักเรียน  ก็ต้องรู้จักทำกิจกรรม  ไม่ใช่แค่ในห้องเรียนเท่านั้น  แต่ต้องรู้จักเผชิญโลกกว้างด้วย  ซึ่งประโยคที่ฉันโดนใจมากก็คือ  การเรียนทำให้คนมีงานทำ  กิจกรรมทำให้คนทำงานเป็น”  ฉันก็เลยพยักหน้ายอมรับในข้อนี้อย่างเสียไม่ได้...เอาวะ  อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์ดี ๆ  ที่นอกเหนือจากการอ่านแค่ในตำราละกัน

     

    The  Roommate

     

    ณ  บ้าน  The  Roommate  ใจกลางเมืองหลวง  ลักษณะบ้านทรงสมัยใหม่  ค่อนคล้ายไปทางลักษณะออฟฟิศที่มีห้องหับหลายห้องเรียงต่อกัน  ชั้นล่างเป็นห้องโถงขนาดใหญ่อยู่กึ่งกลางตัวบ้าน  เปิดประตูเข้าไปครั้งแรกเจอกับห้องรับแขกที่มีโซฟาหนังหลากสี  หลายขนาดวางเรียงรายเป็นรูปตัว  G  โทรทัศน์สีดิจิตอลจอแบนติดหราอยู่ตรงผนัง  ประตูส่วนใหญ่เป็นกระจก  ปิดกั้นด้วยผ้าม่านด้านใน  แต่ห้องที่เรากำลังเดินไปนั้น  ม่านเปิดออกครึ่งหนึ่งของกระจก  มองลอดไปเห็นคนอยู่สองสามคน  น่าจะเกี่ยวข้องกับภารกิจที่กำลังจะทำอยู่นี่แหละ

              “ของขวัญ” 

     

    มาค่ะ” 
     

    เสียงโปรดิวเซอร์รายการ  ขานเรียกชื่อ  พร้อมคำตอบรับของพวกเราทีละคน  เหมือนอยู่ที่ห้องเรียนเลยแฮะ  เหมือนที่ครูสอน  แล้วเรียกชื่อคนที่ไม่มา  ไปเรื่อย ๆ  จนครบทุกคน  ใน  8  คน  ดูทุกคนตื่นเต้นในการเข้าร่วมรายการนี้  ยกเว้นฉัน  กับน้องอีกคน  ชื่ออะไรนะ  ออย  อะไรเนี่ยแหละ  ที่ดูเนือย ๆ  ไม่ค่อยสนใจฟังคำแนะนำของพี่ ๆ เขาเท่าไหร่  จนกระทั่งมีมือเล็กๆ กระตุกชายเสื้อของฉัน  ถามเสียงเล็กน่ารัก

    พี่ขวัญ  ไม่สบายรึเปล่าคะ”  น้องคนนี้อยู่ชมรมกับเรานี่นา  น้องดาว  ลูกนายกสมาคมผู้ปกครอง  ที่ครูอ้อฝากฝังให้เราดูแล  ดูน้องเขาเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นดีนะ  ช่างพูดช่างคุยกับคนนั้นคนนี้  ไม่เว้นแม้แต่ฉันที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครมาก  เธอก็ไม่ได้มองข้าม

     

    อ๋อ  เปล่าจ้ะ  พอดีพี่คิดอะไรเพลินๆ  ไปหน่อย”  ฉันตอบแบบแถสีข้างไปเรื่อย  จะว่าไปถ้าการที่ได้อยู่ในบ้านกับผู้หญิงน่ารัก ๆ  อีกตั้ง  คน  มันก็ดีไม่น้อยนะของขวัญ...

     

    เอ๊ะ! เดี๋ยว ๆ  ....ก่อนที่ความคิดจะเตลิดเปิดเปิง  สไปรท์เพื่อนรักก็ใช้นิ้วดีดที่หน้าผาก  จนฉันหลุดออกจากความคิด

     

    แกยิ้มอะไรขวัญ  คิดอะไรลามกเปล่าเนี่ย  ฉันเห็นแกมองหน้าน้อง ๆ  จนเยิ้มไปหมดแล้ว”

    สไปรท์จ้องหน้าคาดคั้น  ฉันเลยได้ดีดนิ้วไปที่หน้าผากแบบเดียวกันเพื่อกลบเกลื่อน

     

              “จะบ้าเหรอ  ฉันก็มองเฉย ๆ  ว่ามีใครบ้าง  จะไม่ให้ฉันมองใครรึไง  หรือจะให้มองแค่แกคนเดียว” 

     

              พูดจบ  ฉันก็ชะงักกับประโยคหลังที่พูดออกไป  พร้อม ๆ กับสไปรท์ที่มองฉันหน้านิ่ง ๆ  และตอบกลับมาด้วยคำพูดที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจ

     

              ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ดี”

     

              ฉันกับสไปรท์มองหน้ากันอยู่อย่างนั้น  จนกระทั่งได้ยินเสียงโปรดิวเซอร์เรียกพวกเราไปอีกห้องหนึ่ง  ซึ่งเป็นห้องโถงใหญ่  จึงผละออกจากกันโดยไม่มีคำพูดใด ๆ อีก

     

    ณ  ห้องโถง

    สวัสดีครับ  วันนี้ผมมาทำหน้าที่พิธีกรรับเชิญของเรา  ขออนุญาตแนะนำตัว  เอ๊ะ! หรือไม่ต้อง”

     

    ไม่ต้องค่ะ”  พวกเราทั้ง  คน  พูดออกมาพร้อมกันเหมือนนัดกันไว้  ก็ไม่รู้จะแนะนำไปทำไม  ก็ในเมื่อพิธีกรประจำโรงเรียนก็คือแกคนเดียวแหละ  นายป๊อปคอร์น  หรือที่เขาชอบเรียกตัวเองว่า  ท็อปแท็ปนั่นแหละ  ไม่รู้ว่าเข้ากับหน้าตาตรงไหน  ฉันส่ายหน้าน้อย ๆ  ตาก็สะดุดไปที่อีกคนที่กำลังมองฉันไม่วางตา  แต่พอฉันสบตา  คน ๆ นั้นกลับหลบตาฉัน  แล้วหันหน้าไปคุยกับเพื่อนน้องดาว  หรือน้องก้อย  ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เธอมีอะไรกับฉันกันแน่  สไปรท์”

    เมื่อเราเข้ามาในบ้านหลังนี้แล้ว  ทุกอย่างที่เราทำจะอยู่ใน กฎ”  เป็นตัวควบคุม  เพราะฉะนั้นผมจะอธิบายกฎแต่ละข้อของบ้านหลังนี้”

     

    ฉันคงเคยชินกับการปฏิบัติตามกฎล่ะมั้ง  พอได้ยินคำนี้ขึ้นมา  ฉันจึงปล่อยความสนใจจากผู้หญิงคนนั้น  มาฟังป็อปคอร์นอย่างตั้งใจ

     

    ฟังผมดี ๆ นะครับ...กฎนี้มีไว้ให้เราปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด  เราจะมีคะแนนให้แต่ละคน  คนละ  100  คะแนน  หากใครฝ่าฝืนหรือทำผิดกฎจะถูกหักคะแนนครั้งละ  คะแนน  และถ้าใครมีคะแนนต่ำกว่า  90  คะแนน  คนนั้นจะหมดสิทธิ์ในการอยู่ในบ้านนี้ต่อ  นั่นหมายความว่าคุณมีสิทธิ์ผิดพลาดได้เพียง  ครั้งเท่านั้น  เมื่อถึงวันที่  15  ของการอยู่ในบ้าน  จะมีการคัดผู้ที่คะแนนน้อยที่สุด  4  อันดับสุดท้ายออก  และมีเพียง  4  คนเท่านั้น  ที่มีสิทธิ์ลุ้นเข้าไปเป็น  1  ใน  4  คนที่จะได้รับรางวัลสุดอลังการของเรา"

     

    ขณะที่ป็อปคอร์นเว้นจังหวะหายใจ  ฉันก็เหลือบไปเห็นสไปรท์นั่งหัวเราะคิกคักกับน้องก้อย  แถมยังเอาวงแขนเล็ก ๆ ของเธอ  กอดคอน้องเขาไว้อย่างสนิทสนม  จะว่าไปก็รู้สึกแปลก ๆ พิกล  ฉันส่ายหัวให้ความคิดตัวเอง  แล้วฟังกฎที่ว่าต่อ

     

    สิ่งที่จะวัดคะแนนของคุณว่าใครจะได้ที่  นั่นก็คือการโหวตจากท่านผู้ชมทางบ้านบวกกับคะแนน  จาก  100  คะแนนของแต่ละคน....เพราะรายการนี้คือรายการเรียลลิตี้  ชีวิตจริงของพวกคุณจะถูกถ่ายทอดผ่านช่องพิเศษของเรา  คนที่ได้ตำแหน่งจะได้รับรางวัลเป็นทุนการศึกษา  จำนวน  10  ล้านบาท  ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาตนเองให้เพอร์เฟ็กต์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป....เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะครับ”

     

    ทุกคนหันมองหน้ากัน  จริงอย่างที่ว่าเงิน  10  ล้าน  หานานแค่ไหนถึงจะได้  ถ้าไม่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง  หรือบังเอิญแต่งงานกับเศรษฐีพันล้าน   ดังนั้นฉันก็อยากได้รางวัลนี้เป็นของขวัญให้พ่อกับแม่  นอกจากจะได้เงินแล้ว  ยังการันตีความสามารถได้อีก...

     

      ฟังกฎต่อไปนี้ให้ดีนะครับ” 

     

              ข้อที่ 1  :  ห้ามนำโทรศัพท์  หรือเครื่องมือสื่อสารใด ๆ เข้าร่วมในรายการ

              ข้อที่ 2  :  มีเวลาส่วนตัวที่ไม่ได้ออนแอร์วันละ  ชั่วโมง  โดยภารกิจจะเวียนไปในแต่ละวันไม่เหมือนกัน  เช่น  ในวันพรุ่งนี้งดออนแอร์ตั้งแต่เวลา  06.00 – 12.00 น.  วันถัดไปงดออนแอร์ตั้งแต่เวลา  12.00 – 18.00 น.  วนไปเรื่อย ๆ ตามเข็มนาฬิกา 

              ข้อที่ 3  :  จะมีการโหวตรูมเมทที่ประทับใจประจำสัปดาห์  และคนนั้นจะได้คะแนนเพิ่ม  คะแนน

              ข้อที่ 4  :  หากผู้เข้าร่วมรายการทำผิดกฎหรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมร้ายแรง  ทางทีมงาน  สามารถยกเลิกการเข้าร่วมรายการได้

              และ  ข้อที่ 5  :  เมื่อจับคู่รูมเมทหรือคู่นอนในห้องแล้ว  ห้ามเปลี่ยนคู่โดยเด็ดขาด

    เราต่างคนต่างซุบซิบกัน  เพื่อนที่สนิทกันอย่างฉันกับสไปรท์  เต้ยกับกานต์  น้องก้อยกับน้องดาว  น้องออยกับน้องขนมปัง  ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน  ก็คงต้องปรับตัวกันเยอะเลยล่ะ 

     

     เราจะมีการจับสลากเพื่อเลือกรูมเมทกันครับ  เชิญของขวัญมาจับคนแรกครับ”

    ฉันลุกขึ้นเดินไปถึงหน้ากล่องกระดาษสี่เหลี่ยมที่ถือโดยคุณพิธีกร  แต่ก็วายล้วงมือไปพร้อมกับเหลือบมองหน้าใครบางคน  ทำไมเธอช่างมีอิทธิพลกับฉันจริง ๆ เลยนะ  สไปรท์มองฉันจับสลากอย่างลุ้น ๆ  ฉันเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน

    ห้องที่  1  ครับ” 

     

    ฉันเดินกลับมานั่งที่เดิม  สไปรท์เดินผ่านฉันไม่พูดอะไร  ก่อนเอื้อมมือไปจับสลาก  ถ้าฉันมองไม่ผิด  เธอถอนใจเล็ก ๆ  เมื่อเห็นตัวเลขในสลากนั้น

    ห้องที่  2  ครับ” 

     

    กลับเป็นฉันที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่  ทำไมนะ? ทำไม  วันนี้มีแต่คำถามว่า  ทำไมกับอีแค่คำถามเมื่อตอนเช้าที่ฉันคุยกับสไปรท์  ทำไมถึงต้องรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน  ทั้งที่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจะได้เข้ามาอยู่ด้วยกันแบบนี้  ทำไมต้องคอยมอง  คอยสนใจเธออยู่เรื่อยเลยนะ  หรือความรู้สึกเมื่อปีที่แล้วจะกลับมาอีกครั้ง

     

    -----------

    ไปรท์  เธอไม่คบกับไผ่ได้มั้ย”

    เหตุผล?

    ฉันแค่รู้สึกไม่ถูกชะตา”

    แค่นั้น....”

    อือ  แค่นั้น”

    ถ้าเหตุผลแค่นั้น...ก็คงห้ามฉันไม่ได้หรอกขวัญ”

    เธออยากคบกับไผ่มากใช่มั้ย”

    ก็ยังดีกว่าคบกับเธอ”

    ดีกว่ายังไง”

    เธอมันดีเกินไปขวัญ  ฉันไม่ดีพอสำหรับเธอหรอก”

     

    -------------

    เหตุผลน้ำเน่าที่คนเขาบอกเลิกกันมันมีอยู่แค่นี้หรือไง  หลังจากวันนั้นฉันก็ทำใจ  เสียสละความรู้สึกของฉันให้มันหลบไปไกล ๆ แล้วกลับมาเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม  จนกระทั่งวันนี้  ผู้หญิงคนนี้ทำให้ฉันหวั่นไหวอีกครั้ง  ฉันหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงป็อปคอร์นดังขึ้นมาขัดจังหวะ

    ตอนนี้เราก็จับสลากครบทุกคนแล้วนะครับ  สรุปได้ดังนี้

    ห้องที่ ขวัญกับน้องดาว”

    ห้องที่ สไปร์ทกับน้องออย”

    ห้องที่ 3 กานต์กับน้องก้อย”

    ห้องที่ 4 เต้ยกับน้องขนมปัง”

     

    กรุณาจำรูมเมทของคุณ  และอย่าสับเปลี่ยนคู่ตามอำเภอใจเด็ดขาดนะครับ  ตอนเย็นนัดรวมตัวกันตอนหกโมงเย็น”

     

    ฉันถอนหายใจยาว ๆ อีกครั้ง  มองดูอีกคนที่ลากกระเป๋าไปพร้อมกับน้องออย  สาวน้อยน่ารัก  แต่เงียบขรึมจนดูมืดมนไปนิดนึง  ส่วนฉันก็ช่วยน้องดาวยกกระเป๋าคิตตี้ใบกะทัดรัดเดินเข้าไปในห้องของเรา  ที่มีเฟอร์นิเจอร์คล้าย ๆ คอนโดหรู  น่าอยู่เหมือนกันแฮะ  แต่ถ้ารูมเมทร่วมห้องเป็นคน ๆ นั้นก็น่าจะดี

     

    พี่ขวัญ  ห้องน่ารักจังเลยค่ะ”  เพื่อนร่วมห้องของฉันเอ่ยขึ้น  ฉันจึงเบนความสนใจจากการมองสิ่งที่ตกแต่งตามผนังห้อง  มาสนใจเด็กน้อยที่ตอนนี้ยิ้มจนแทบจะมองไม่เห็นลูกกะตาอยู่แล้ว

     

    อือ  โอเคมากเลย  พี่ดีใจนะที่ได้ร่วมห้องกับน้องดาว”  ฉันยิ้มให้  แม้คำพูดจะดูสวนทางกับความรู้สึก  แต่อย่างน้อยมีน้องชมรมอยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ดีไปอย่าง 

     

    ดาวก็ดีใจมากเลยค่ะ  ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”  เด็กน้อยโค้งศีรษะลง  จนฉันตั้งรับแทบไม่ทัน  จึงจับมือน้องเขาไว้แล้วบีบมือสร้างกำลังใจ

     

    เรามาสู้ไปด้วยกันนะ”  ฉันพูดพลางส่งสายตามุ่งมั่น  แต่กลับทำให้อีกคนอายม้วน  คลายมือออกจากฉัน  แล้วบิดตัวไปมา  เอ๊ะ!  หรือคนตรงหน้าจะไม่สบายรึเปล่าฉันจึงใช้หลังมือแตะที่หน้าผากของเธอเบา ๆ  น้องดาวมองหน้าฉันนิ่ง  ฉันเผลอสบตาคนตรงหน้า

     

    น่ารักจัง” 

     

    เดี๋ยว ๆ  ฉันพูดอะไรออกไป  แถมยังทำให้อีกคนยิ้มหวานมากขึ้นไปอีก  ฉันยิ้มให้กับดาวอีกครั้ง  แต่สักพักก็ต้องหุบยิ้ม  เมื่อมองไปทางประตูที่ฉันยังไม่ได้ปิด  เห็นภาพของผู้หญิงห้องข้าง ๆ กับเพื่อนสนิทของดาวกำลังหยอกล้อกันอยู่ สไปรท์กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับก้อย  รอยยิ้มแบบนี้เหมือนภาพซ้อนของฉันกับเธอที่เคยมีด้วยกัน  ฉันก้มหน้าต่ำลง  รู้สึกเหมือนน้ำตาคลอ ๆ ที่ใต้ตา  ฉันได้ยินเสียงคนหน้าห้องเรียกชื่อฉันหลายครั้ง  แต่ฉันไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้  จนคนข้าง ๆ สะกิดแขนฉันสองสามครั้ง  พร้อมเรียกชื่อ

     

    พี่ขวัญคะ  พี่ขวัญ”

     

              ฉันพยายามรวบรวมความกล้า  แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ  เงยหน้าขึ้นมาเผชิญกับคนตรงหน้า

              “เป็นอะไรรึเปล่าขวัญ”  สไปรท์เข้ามาแตะไหล่ฉัน 

              แกไม่สบายรึเปล่า  หน้าแดงมากอ่ะ”  เธอใช้มือทั้งสองแนบที่แก้มสองข้างฉัน  แล้วจับใบหน้าให้มองไปยังแววตาของเธอ

     

              เป็นอะไร”  สไปรท์พยายามคาดคั้น  โดยเลื่อนมือลงมาบีบมือฉันไว้  เราสบกับตากันนานพอที่คนที่อยู่กับสไปร์ทเมื่อกี้จะเดินเข้ามาหาเพื่อนของเธอที่ยืนอยู่ข้างฉัน

     

              “ดาว  พาฉันไปดูห้องทางนู้นหน่อยสิ”  เป็นก้อยที่พูดขัดความเงียบขึ้นมา  ส่วนดาวเองก็เหมือนจะรู้ว่าต้องทำอะไร  เธอจึงเดินเกาะแขนก้อยออกไปจากห้อง  และไม่ลืมที่จะปิดประตูเข้ามาให้เราด้วย

             

              ฉันนั่งลงที่ปลายเตียงอย่างหมดแรง  พยายามทำตัวให้ปกติที่สุด  ตัวต้นเหตุนั่งลงข้าง ๆ ฉัน  แล้วกุมมือฉันไว้  พลางเอาหัวเล็ก ๆ  พิงที่ไหล่ของฉัน 

     

              เป็นอะไร”  สไปรท์ถามคำถามนี้อีกครั้ง

     

              ฉันคลายมือออกจากการเกาะกุม  แล้วลุกขึ้นมองออกไปยังกระจกที่เป็นวิวด้านนอก  กอดอกครุ่นคิดถึงการกระทำของสไปรท์  ตกลงเธอจะเอายังไงกับฉันกันแน่  บางทีก็ทำเหมือนแคร์  บางทีก็ไม่สนใจกันเลยด้วยซ้ำ  เธอต้องการอะไรจากฉัน....พลันความคิดบังเกิด  ฉันหันกลับไปเพื่อจะไปถามอีกคน  แต่ก็ต้องสะดุ้ง  สไปรท์เดินมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้  แต่ตอนนี้หน้าของเราอยู่ใกล้กันมาก  จมูกโด่งเป็นสัน  ใบหน้าเล็กเรียว  ขนตาที่ยาวเป็นแพ  ทำให้ฉันอดใจไม่ไหวที่จะขยับเข้าไปใกล้อีก  จมูกของเราสัมผัสกันแผ่วเบา  แต่ทว่าสไปรท์กลับเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีก่อน 

     

              ไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ย” 

     

    สไปรท์พูดโดยไม่มองหน้าฉัน  ฉันเองก็ไม่มีอะไรพูดต่อ  แต่ความรู้สึกตอนนี้มันหน่วงมากเหลือเกิน  แค่เห็นภาพที่เธอหยอกล้อ  ยิ้มร่าเริงกับคนอื่น  ฉันก็แทบจะทนไม่ไหว 

    เท้าของฉันก้าวไปอัตโนมัติ  ก่อนที่อ้อมแขนจะรัดไปที่ตัวของอีกคนที่ยืนอยู่จากด้านหลัง  เธอไม่ได้ขัดขืนการกอดของฉัน  แต่ฉันรู้สึกได้ถึงการสั่นเทาของร่างกาย  เสียงสะอื้นดังเบา ๆ  ฉันซบลงที่ไหล่ของคนข้างหน้า  หลับตาลง  ปล่อยให้น้ำตาของเราค่อย ๆ ไหลไปพร้อม ๆ กัน

    ...................

     

    6 โมงเย็น  ณ  ห้องโถง

     

    พวกเราทั้ง  คนมารวมตัวกันเพื่อรับฟังข้อปฏิบัติในภารกิจแรกของวันพรุ่งนี้  แต่ละคนนั่งเรียงกันเป็นคู่ตามรูมเมทที่จับสลากได้ 

     

    เราจะเริ่มติดกล้องตั้งแต่เวลา  06.00  น.  เพราะฉะนั้นให้ทุกคนตื่นขึ้นมาทำกิจกรรมตามตารางของเรา  ขอยืนยันว่าทางรายการไม่มีสคริปท์ใด ๆ ทั้งสิ้น  ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของพวกคุณเอง  ไม่มีการบังคับ  เพียงแต่ขอให้รักษาความเหมาะสมในฐานะผู้ที่ถูกโหวตเข้ามาแล้ว  เงินรางวัลเป็นเพียงผลพลอยได้  แต่สิ่งที่พวกคุณจะได้รับโดยตรงคือความรัก  ความผูกพัน  ประสบการณ์ดี ๆ  ขอให้ทุกคนตั้งใจ  และทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด  ขอบคุณครับ”

    เราปรบมือให้พี่โปรดิวเซอร์หลังจากพูดจบ  เราก็แยกย้ายไปกินข้าวที่โต๊ะอาหารที่มีอาหารชั้นดีวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ  ฉันนั่งลงคนแรก  ก่อนที่ดาวจะนั่งลงข้าง ๆ และยิ้มให้ฉันตาหยี  สไปร์ทนั่งกับก้อยตรงข้ามกับฉัน  ส่วนเต้ยกับกานต์นั่งฝั่งสไปร์ท  และออยขนมปังนั่งทางฝั่งฉัน

     

    ขอบคุณนะก้อย”  สไปรท์หันไปยิ้มหวานให้กับคนข้าง ๆ ที่ตักกับข้าวให้เธออย่างรู้ใจ  ฉันทำได้แค่มองเท่านั้น  เพราะฉันเองก็รู้ว่าสไปร์ทชอบอะไร  ไม่ชอบอะไร  เพียงแต่ฉันไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะทำให้ได้

    เออ  ถามจริงเหอะนะ  สไปรท์สนิทกับก้อยมานานแล้วเหรอ  ดูมุ้งมิ้งกันจัง”  เป็นกานต์ที่ถามขึ้นมากลางวงข้าว  จนฉันแทบสำลัก 

    ก้อยเป็นน้องชมรมของเพื่อนเราน่ะ...ก็เลยสนิทกัน”  สไปรท์ตอบอ้อมแอ้ม

    อ๋อ  เราก็นึกว่าแอบกุ๊กกิ๊กกัน”  กานต์ทำหน้าใสซื่อ

     

              “อุ๊บ!”  ก้อยสำลักน้ำ  ปิดปากแทบไม่ทัน  จนดาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามรีบหยิบทิชชู่แล้วเดินไปเช็ดปากให้ก้อย  ไอ้ที่ดูมุ้งมิ้งน่าจะเป็นคู่นี้มากกว่านะ

              เป็นอะไรมากมั้ยก้อย”  ว่าพลางยกแก้วให้คนสำลักดื่มน้ำเข้าไป  สายตาห่วงใยของดาวที่มีต่อเพื่อน  คงไม่เหมือนกับที่ฉันมีต่ออีกคนหรอกมั้ง  ฉันแค่คิดไปเอง

              ฉันไม่เป็นไรดาว  ขอบใจมากนะ”  ก้อยตบมือดาวที่จับไหล่ตัวเองไว้

     

              โอเครึเปล่า? ”  คนข้าง ๆ ก้อยถามขึ้นมา  พร้อมเอามือลูบหลังเบา ๆ

              โอเคค่ะ  กินข้าวต่อเถอะ”  สองคนยิ้มให้กัน  สไปรท์ตักกับข้าวให้ก้อย....แล้วลูบหัวน้องคนนั้น

     

              เจ็บ! เจ็บมาก....

     

              ครืดดดด! เสียงเก้าอี้  ทำให้ทุกสายตามองมาที่ฉัน  ฉันตัดสินใจเดินไปจากตรงนี้  ที่ที่มีเธอกับเขาอยู่  ที่ที่มันไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป 

     

              ฉันเลิกกับไผ่นานแล้ว......แต่ตอนนี้ฉันกำลังคุยกับก้อย”

     

              ประโยคสุดท้ายก่อนที่ฉันจะคลายอ้อมกอดในตอนนั้น.....

              ผ้าห่มผืนหนาถูกจับมาคลุมหัวในท่านอนคว่ำของฉัน  น้ำตาไหลออกมาอย่างอัดอั้น  ฉันร้องไห้ไปนานเท่าไหร่ไม่รู้....แต่ตอนนี้มีอ้อมแขนเล็ก ๆ  โอบมาที่ฉัน  แต่คน ๆ นั้นกลับจับผ้าห่มที่ฉันกำลังจะเปิดเอาไว้ 

     

              พี่ขวัญยังมีดาวนะคะ” 

     

              เจ้าของเสียงกระชับกอดให้แน่นขึ้น  ฉันกอดตอบ  อย่างน้อยฉันก็รู้สึกอบอุ่นมากขึ้น  แม้สัมผัสของกอดนั้นจะมีผ้าห่มมากั้นระหว่างเราก็ตาม

     

    ลงชื่อ......ของขวัญ

    21  กันยายน  

    --------------------------------------------------

    จบไปแล้ว...สำหรับตอนแรกของภารกิจ  นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น...!

    สิ่งที่จะดำเนินไปต่อไปนี้...คือสิ่งที่ไรเตอร์....อยากทำร่วมกับรีดเดอร์  ก็คือการโหวตคนที่จะอยู่ต่อ  4  คนสุดท้ายนั่นเอง  เมื่อภารกิจถึงวันที่  15  จะปิดการโหวต  และการแต่งฟิคนี้จะดำเนินต่อไปตามทิศทางของรีดเดอร์อยากให้เป็น  ท่านอยากให้ใครอยู่ต่อ  เชิญโหวตได้เลยค่ะ

    กด vote ที่นี่  https://polldaddy.com/poll/8610430/


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×