ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Nadao Girl] Stop! Your Heart – ปฏิบัติการห้ามหัวใจไม่ให้รัก

    ลำดับตอนที่ #14 : ภารกิจที่ 6 : รักเกินรัก มักทำลาย

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 58


    ภารกิจที่ 6  :  รักเกินรัก  มักทำลาย

              พี่ก้อย”

              เสียงเพ้อของคนป่วย  ทำให้ฉันที่นอนอยู่บนโซฟาข้าง ๆ  สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก....

              ฉันอาสานอนเฝ้าเพื่อนรักที่เพิ่งทำร้ายตัวเองจากคนใจร้ายที่เธอเพิ่งเรียกชื่อเมื่อครู่  ฉันถอนหายใจเล็ก ๆ  ลุกขึ้นไปดูขนมปังที่พลิกตัวไปอีกด้าน  พลางก็ยื่นมือไปแตะหน้าผากเพื่อนรักเบา ๆ

              ตัวร้อนจี๋เลย” 

              ฉันพูดกับตัวเอง  ก่อนจะเดินไปหยิบกะละมังใบเล็กข้าง ๆ เตียงไปใส่น้ำ  แล้วควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าสะพาย  บิดหมาด  แล้วบรรจงเช็ดตัวให้คนที่นอนอยู่...

              “พี่ก้อย....พี่ก้อย”

              เสียงแหบแห้งของขนมปังเหมือนจะเพ้อด้วยพิษไข้  รำพึงรำพันหาคนที่ทิ้งเธอไปอีกแล้ว  คิดแล้วก็น่าหงุดหงิด  หลังจากที่อาการของขนมปังพ้นขีดอันตรายแล้ว  ก็ดูเหมือนพี่ก้อยจะแค่รู้สึกผิดเท่านั้น  ฉันเห็นเขาทำหน้าเศร้า  แล้วก็โทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ขนมปังเป็นแบบนี้  แต่บางทีฉันอาจต้องกลับไปทบทวน...ว่าความจริงแล้ว  คนที่ผิดจริง ๆ อาจจะเป็นฉันก็ได้

              ฉันพอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับพี่ก้อยและพี่ดาวมาระยะหนึ่ง  ตั้งแต่ยังไม่เข้าไปบ้าน  The  Roommate นั่นด้วยซ้ำ  เพราะทั้งสองคนก็เป็นคู่จิ้นคู่ดังประจำโรงเรียนที่หลาย ๆ คนพูดถึง  แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นคู่จริงอะไร  เพราะช่วงนั้นก็เห็นพี่ก้อยอัธยาศัยดี  จนเรียกว่าเนื้อหอมเลยก็ว่าได้  ทั้งผู้หญิงผู้ชายดูจะชื่นชอบเธอทั้งนั้น  รวมทั้งเพื่อนของฉันด้วย  ส่วนพี่ดาวก็เห็นสนิทกับพี่ขวัญ  ซึ่งอาจจะเพราะอยู่ชมรมเดียวกันก็ได้ 

              พี่ก้อย”

              เสียงเพ้อดังขึ้นมาอีก  ทำลายความคิดของฉันโดยฉับพลัน  ....

              ปัง”

              ฉันแตะที่แก้มของคนที่นอนอยู่เบา ๆ

              พี่ก้อย....อย่าทิ้งปัง  พี่ก้อย...”

              สวบ!

              ปังพุ่งตัวพรวดมากอดฉันที่ตั้งตัวแทบไม่ทัน....ฉันลูบผมคนตรงหน้าไปมา  ปังกอดฉันแน่นขึ้น  สัมผัสได้ว่ามีน้ำอุ่น ๆ เปียกอยู่ที่ไหล่ของฉัน

              เลิกร้องไห้ให้คนใจร้ายแบบนั้นได้แล้ว”

              ตกลงคือปลอบ หรือซ้ำเติมไม่รู้  ปังสะอื้นหนักขึ้นไปอีก  พูดจนจะไม่เป็นภาษา

              อะ ออย....ฉะ ฉัน....ฉัน ระ รัก ...พะ พี่ กะ ก้อย ฮือออออออ”

              นี่ล่ะนะ ความรัก”

              รักมาก  เจ็บมาก....

              เขามีคนในใจอยู่แล้ว  แกอย่าหลอกตัวเองดิ”

              ฉันพยายามพูดให้ปังตัดใจจากอีกคน

              ฉันไม่อยากเสียเขาไป....”

              ขนมปังผละออกจากฉัน  เช็ดน้ำตาป้อย ๆ  สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด  ดวงตาแข็งกร้าวขึ้น

              ฉันจะทำทุกอย่าง....เพื่อให้ได้พี่ก้อยกลับมา”

    ลงชื่อ....ออย...

     

    ......................

             

    มุมสี่เหลี่ยมบนเพดานห้องในคอนโดหรู  กำลังลอยเป็นภาพทับซ้อนกัน  โลกเหมือนกำลังหมุนติ้ว  ติ้ว  ติ้ว......

     

    พอแล้วก้อย  พี่เวียนหัวแล้วนะ”

              ฉันพูดพร้อมกับดึงแก้วจากมือของรุ่นน้องมาไว้ในมือตัวเอง 

              พี่เมาแล้วก็ไปนอนไป....ก้อยยังเฉย ๆ อยู่เลย”

              ปกติฉันคอแข็งพอสมควร  กะอีแค่แอลกอฮอล์ไม่กี่แก้วไม่อาจทำให้ฉันสะทกสะท้านได้  ยกเว้นวันนี้ที่กินไปแค่ไม่กี่แก้ว  รู้สึกว่าสมง สมองไปหมดแล้ว...แต่คนตรงหน้านี่สิที่ทำให้ฉันเป็นห่วง  เพราะกินไปเยอะเลยทีเดียว  แต่ยังไม่มีท่าทีจะเมาง่าย ๆ  ....หรือเพราะสิ่งแย่ ๆ ที่ถาโถมมาพร้อม ๆ กัน  จะทำให้ความรู้สึกมันด้านชาไปหมดแล้วนะ

              ก้อยกระดกแก้วน้ำสีเหลืองอ่อน ๆ นั่นลงคออีกครั้ง  อาจด้วยฤทธิ์ของความขมที่ทำให้คนที่ฉันเพิ่งคิดว่าคอแข็งเมื่อครู่หยีตาด้วยรสของมัน  ก้อยวางแก้วลง  เอนหัวพิงที่นั่งโซฟา  หลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา 

              พี่ไปรท์  ก้อยเหนื่อย  ฮือๆ”

              โธ่! ก้อย....ฉันมองคนตรงหน้าด้วยความสงสารจับใจ

              ...........................

              ติ๊ก  ต้อก  ติ๊ก  ต้อก....

              เสียงนาฬิกาในห้องยังเดินไปเรื่อย ๆ  ตามวิถีทางของมัน  ...ตอนนี้หกทุ่มกว่าแล้ว  ...ฉันกับก้อยยังจับแก้วน้ำไว้กับตัวเหมือนกลัวมันจะหายไป ...ก้อยกำลังตาปรืออย่างเห็นได้ชัด  คงจะเมาจริง ๆ แล้วสินะ

              ไม่มาววววว  ไม่มาวววววว  อาวอีก  อาวอีก” 

              พูดทั้ง ๆ ที่ตอนนี้....หน้าฟุบอยู่ที่โซฟา  พลางก็เรียกชื่อคนนั้นคนนี้สลับกัน

              ปัง....พี่ขอโทษ....ดาว....ฉันขอโทษ”

              ก้อยพูดซ้ำ ๆ แบบนี้ไม่รู้กี่รอบ....แต่ฉันไม่เบื่อหรอกนะ...ฉันเข้าใจ  เข้าใจทุกอย่างดี...ว่าความรักมันมีอานุภาพมากแค่ไหน

             

              ก๊อก ๆ

              เสียงเคาะประตู  ทำให้ฉันชะงักแก้วที่กำลังจะยก  แล้วเดินไปต้อนรับแขกที่มาเยือน

              อ้าว  ดาว...มาแล้วเหรอ”

              ฉันทักทายคนที่จะเข้ามาโดยไม่รู้สึกตกใจ  เพราะฉันเป็นคนโทรให้ดาวมาดูใจก้อยเองแหละ ...

    แต่ที่ตกใจนั่นก็คือคนข้างหลังที่เดินมาสมทบต่างหาก

              ขวัญ”

     

    ........................................

              ขวัญนั่งพิงโซฟาตรงข้ามกับฉันที่นั่งผสมเหล้ากะโซดาอย่างเชี่ยวชาญ  ก่อนจะยื่นให้คนตรงหน้าที่ทำหน้าขรึมอยู่

              ซักแก้วมั้ย...คุณประธาน”

              ขวัญส่ายหน้าเล็กน้อย...

              ไม่ล่ะ...มันดีตรงไหนไอ้เหล้าเบียร์เนี่ย...ถามหน่อยเหอะ”

              รู้สึกเหมือนกำลังถูกสอบปากคำยังไงก็ไม่รู้แฮะ  ฉันเลยตอบไปแบบไม่ยี่หระ

              อย่างน้อยก็ช่วยให้ลืมอะไร ๆ ร้าย ๆ ได้ไปชั่วเวลาหนึ่งแหละ”

              แล้วพอหายเมา  สิ่งร้าย ๆ ก็อยู่กับเราต่อ”

              ขวัญพูดพร้อมกับจ้องหน้าฉันนิ่ง  ฉันพูดไม่ออกเหมือนกัน  มือยังกำแก้วใบนั้นอยู่  แล้วตัดสินใจกระดกมันครั้งเดียวจนหมดแก้ว  ด้วยความเข้มของมัน  ทำให้สมองตอนนี้เริ่มจะเบลอ ๆ เพิ่มไปจากอาการมึน ๆ ในตอนแรก  ฉันขยับเข้าไปหาขวัญ  ชี้หน้าคนข้างหน้า

              เหมือนกับสิ่งร้าย ๆ กำลังอยู่ต่อหน้าฉันตอนนี้ไง”

              ขวัญไม่ตอบ  แต่รวบตัวฉันเข้าไปกอด  ตอนนี้หน้าเราสองคนอยู่ใกล้กันมาก  มากเสียจน  อีกไม่กี่เซ็นมันต้องสัมผัสกันแน่ ๆ  ...ฉันพยายามผลักขวัญออก  แต่ดูเหมือนขวัญจะยิ่งรัดตัวฉันแน่นขึ้น  ...

              ฉันเป็นสิ่งร้าย ๆ สำหรับแกงั้นเหรอ”

              .................”

              ฉันไม่เคยเป็นสิ่งดี ๆ ของแกเลยสินะ”

             

              เพี๊ยะ

              ฉันตบหน้าขวัญด้วยความโมโห  ....ขวัญเป็นคนโลเล  ไร้ทิศทางแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน  ทั้ง ๆ ที่การทำหน้าที่เป็นประธานนักเรียน  ขวัญตรงไปตรงมา  และทำหน้าที่ที่ดีได้อย่างเต็มเปี่ยม  แต่ทำไมบทบาทในชีวิตถึงได้งี่เง่า  ไม่มีเหตุผลแบบนี้

              ตัดพ้อเพื่ออะไรขวัญ  แกเป็นอัลไซเมอร์รึไง  แกเป็นคนปล่อยให้ฉันไปหาออย  แล้วแกมาพูดแบบนี้ทำไมวะ....

              แกมันคนโลเล  เดี๋ยวก็มาง้อ  เดี๋ยวก็หายไป  เดี๋ยวก็อยากให้ฉันมีคนใหม่  เดี๋ยวก็อยากให้กลับไปเหมือนเดิม  แกเป็นบ้ารึไงวะ”

              ฉันพูดจบก็ทุบไหล่คนโลเลซ้ำ ๆ  แต่ขวัญไม่ปัดป้อง  จนฉันต้องหยุดเอง  แล้วมองอีกคนด้วยน้ำตา

              แกอยากให้ฉันคบกับออย  ฉันก็ทำให้อยู่นี่ไง  จะต้องการอะไรอีก”

              ฉันพูดได้แค่ประโยคนั้น  ขวัญก็ดึงฉันเข้าไปจูบอย่างรวดเร็ว  ด้วยฤทธิ์น้ำเมาที่ดื่มเข้าไปทำให้ร่างกายฉันอ่อนปวกเปียกตามไปด้วย  พลันมือก็วาดไปที่คอของผู้กระทำ  แล้วดึงรั้งเข้ามาหาตัวเองเข้าไปอีก  ...

              เรากวัดเกี่ยวลิ้นกันไปมา  ริมฝีปากยังอยู่ที่กันและกันอยู่  ....

              ตุ๊บ

              เสียงของบางอย่างกระทบพื้น  ทำให้ฉันกับขวัญผละออกจากกัน  มองไปเป็นดาวกำลังก้มเก็บกะละมังใบเล็กขึ้นมา 

              ขอโทษค่ะ” 

              ดาวเอ่ย  แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของฉันอย่างรวดเร็ว

              ฉันหันมาสบตากับขวัญพอดี  เราต่างเคอะเขินกัน  ....จากที่เมาเมื่อกี้เลยเริ่มจะสร่างเมาขึ้นมาทันใด  ...ขวัญกุมมือฉันไว้

              ฉันรู้ว่าฉันทำให้แกรู้สึกไม่ดี  รู้สึกแย่ตลอดเวลา  ...ฉันคงไม่คาดหวังว่าฉันจะเป็นสิ่งดี ๆ ในชีวิตแก  แต่หากฉันจะเป็นสิ่งร้าย ๆ สำหรับแกแล้ว....แกก็อย่าเกลียดฉันได้ไหม....

              ไม่รักก็ได้....แต่อย่าเกลียดกันนะ”

              ฉันพุ่งตัวเข้าไปกอดขวัญ  พลางเช็ดน้ำตาตัวเองที่ไหลออกมาอีกครั้ง...

              ฉันไม่เคยเกลียดแก...ไม่เคยเลยสักครั้ง..”

              งั้นเรา..........”

              RRRRRRRRRrrrrrrr  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตัดบทสนทนาของเรา  ฉันมองดูเบอร์ที่หน้าจอแล้วมองที่หน้าขวัญสลับกัน  ...ซึ่งขวัญพยักหน้าให้ฉันกดรับ

              อือ....ออย  ......หา!

              ฉันมองหน้าขวัญ  ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปเคาะประตูห้องนอน

              ฝากดูแลก้อยด้วย....พี่ต้องรีบไปโรงพยาบาล....ขนมปังกินน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไป  ตอนนี้กำลังล้างท้อง”

              ขวัญจับมือฉันไว้  พยักหน้าเหมือนรู้กัน  รีบเดินออกไปกลางดึกนั้น

    ลงชื่อ....สไปรท์....

              ..........

              ประโยคเมื่อครู่  ทำให้ฉันตกใจอยู่ไม่น้อย  หันไปดูตัวต้นเหตุที่นอนหลับใหลไม่รู้สึกรู้สา  แต่เพราะก้อยเครียดมากกับเรื่องนี้ต่างหาก  ถึงได้กินเหล้ามากมายขนาดนี้ 

              ฉันหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่บิดหมาดมาเช็ดตัวให้กับคนขี้เมาที่แม้จะหมดสภาพ  แต่ก็ไม่ทำให้ใบหน้าคมที่ดูดีนั้นหายไป  ...ฉันบรรจงเช็ดไปตามใบหน้า  แล้วเลื่อนมาตามซอกคอช้า ๆ...

              ดาว....ดาว” 

              คนเมาเพ้ออย่างไร้สติ  ทำให้ฉันอดยิ้มไม่ได้ที่มีชื่อฉันปรากฏออกมา

              ปัง....”

              ฉันหุบยิ้มในทันที  ...ทำไมต้องมีชื่อคนอื่นปนอยู่ในความรู้สึกด้วย  ทำไมไม่มีฉันคนเดียวฮะ! ก้อย....

              ฉันเม้มปากด้วยความโมโห  แล้วเช็ดตัวอีกคนด้วยน้ำหนักที่แรงขึ้น 

              ดาว...ดาว...โอ๊ย! เบา ๆ”

              ก้อยสะลึมสะลือ  ปรือตาขึ้นมา  แล้วคว้าข้อมือฉันไว้...พลางกุมหัวตัวเอง  พยุงตัวขึ้นมาพิงหัวเตียง

              ดาว....”

              ก้อยเรียกฉัน  แต่เหมือนไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่นัก  ...ฉันใช้อุ้งมือโอบแก้มทั้งสองของคนตรงหน้าไว้....แล้วเขย่าเพื่อเรียกสติ

              ก้อย  ก้อย”

              ก้อยลืมตาขึ้นมา  ก่อนจะสะดุ้งจนตัวโยน

              อ้วก!

              เต็ม ๆ....

              เสื้อผ้าของฉันเต็มไปด้วยอาหารการกินนานาๆ ชนิด ที่มันพวยพุ่งออกมาจากปากของก้อยเมื่อกี้  ถ้ามันออกมาในรูปของอาหารดี ๆ ก็คงจะดี  แต่นี่....อี๋ >>>>

              ฉันหยีหน้า...แล้วรีบเดินไปหาอุปกรณ์มาทำความสะอาด  ...เพราะกลัวเจ้าของห้องกลับมาคงได้บ่นกันหูชาแน่ ๆ

              .......

              ฉันซักเสื้อที่เปื้อนคราบอาเจียน  กลิ่นคละเคล้ากับน้ำหอมของคนที่นอนอยู่  กลิ่นที่คุ้นเคย...ไม่สิ...ที่เคย  เพราะว่าไม่ได้คุ้นนานแล้ว  หลังจากที่อีกคนคงจะไปคุ้นกับคนอื่นมากกว่า

              ฉันขยี้เสื้อไป...พร้อม ๆ กับคิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ....

              ฉันไม่รู้ว่าฉันรู้สึกกับก้อยมากกว่าเพื่อนตั้งแต่ตอนไหน...เพราะเราสนิทกันมาก...มากเสียจน  มันมองข้ามคำว่าความรัก  เป็นคำว่าความผูกพันไปซะแล้ว...

              เราเรียนห้องเดียวกัน  เรานั่งด้วยกัน  ไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่เสมอ  แม้จะมีแอลซึ่งเป็นเพื่อนร่วมแก๊งโลกสวยอีกคน  แต่แอลก็เป็นเสมือนไม้ประดับเท่านั้น  นี่ฉันไม่ได้ตีค่าแอลน้อยไปใช่มั้ย  ...แต่ฉันกลับให้ความสำคัญกับเพื่อนอีกคนมากกว่าจริง ๆ

              มีหลายครั้ง  ที่ฉันโทรชวนก้อยมาค้างที่บ้าน  แต่ไม่ได้ชวนแอล

              มีหลายครั้ง  ที่ฉันกับก้อยไปดูหนังด้วยกัน  แต่ไม่มีแอล

              มีหลายครั้ง  ที่ฉันกับก้อยไปกินข้าวด้วยกัน  แต่ไม่มีแอล

              และอีกหลาย ๆ ครั้ง  ที่ฉันจะนึกถึงก้อยก่อนที่จะคิดถึงแอล

              บางที....ฉันอาจจะรู้สึกดี ๆ กับก้อยมาตั้งนานก็ได้...เพียงแค่ไม่รู้ใจตัวเองเฉย ๆ ....เอาแต่คิดว่าตัวเองคงจะชอบพี่ขวัญ  เพราะประทับใจพี่เขาตั้งแต่แรกเจอ  แต่ไป ๆ มา ๆ พออยู่ใกล้กับพี่ขวัญ  ก็รู้สึกเพียงว่าพี่ขวัญเป็นพี่สาวที่น่ารักที่คอยดูแลฉันเป็นอย่างดีเท่านั้น 

              ฉันสะบัดผ้า  แล้วใส่ไม้แขวนตากตรงขาแอร์ด้านนอกระเบียง  ซึ่งเป็นเสื้อผ้าของฉันกับก้อยที่ผ่านวีรกรรมมาเมื่อสักครู่ 

              อ่ะ ! อ่ะอย่าคิดว่าตอนนี้ฉันโป๊  หรือใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียวนะ  ....หลังจากที่ชุดของฉันอุดมด้วยผลิตภัณฑ์  สิ่งบริโภคต่าง ๆ นานาของก้อย  ฉันก็ไปอาบน้ำ  แล้วก็ถือวิสาสะค้นตู้พี่สไปรส์เพื่อหาชุดที่จะใส่ชั่วคราวก่อน  ...แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อีกคน  พร้อมทั้งเช็ดตัวให้อีกรอบ  ^//////^

              “ดาว”

              เสียงเรียกชื่อฉันดังขึ้น  ทำให้ฉันเอี่ยวตัวไปหาเจ้าของเสียงที่นอนพลิกไปพลิกมา  พลางกอดอก  เนื่องจากอากาศเย็นเพราะเครื่องปรับอากาศในห้องที่เห็นตัวเลขในรีโมทแล้วถึงกับเหวอ

              “18  องศา”

              พี่สไปรท์กะจะแช่แข็งก้อยเลยเหรอเนี่ย” 

              ฉันพูดคนเดียว  แล้วกดเพิ่มอุณหภูมิไปยังเลข  25  ซึ่งเป็นเลขมาตรฐาน  ทั้งประหยัดไฟอีกต่างหาก

              วุ่นวายกับสภาพอากาศในห้องมากพอแล้ว  ฉันนั่งลงข้าง ๆ ใกล้ยัยตัวปัญหาที่นอนขดอยู่ใต้ผ้าห่ม  ...ฉันค่อย ๆ ปัดไรผมที่ตกมาปลกหน้าแล้วลูบหัวไปมาเชิงหมั่นเขี้ยว

              ดาว”

              ก้อยเพ้อขึ้นมาด้วยเสียงแหบแห้ง....ฉันแอบดีใจนิด ๆ  ที่ชื่อนั้นยังเป็นฉันอยู่

              ดาว”

              ฉันล้มตัวนอนลงข้าง ๆ คนขี้เพ้อ  ก่อนจะโอบกอดสร้างความอบอุ่นภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

              ก็อยู่ตรงนี้แล้วไง”

              ฉันเลื่อนหน้าไปจูบที่หน้าผากคนตรงหน้าเบา ๆ ด้วยกลัวอีกคนจะตื่น  รู้สึกคิดถึงมากจนห้ามใจไม่อยู่  ....

              “ดาว  อย่าทิ้งฉันไปไหนนะ”

              ก้อยพูดจบก็ลืมตาขึ้นมาสบตากับฉัน

              หายเมาแล้วเหรอ”

              ฉันใช้นิ้วชี้จิ้ม ๆ ไปที่แก้มของก้อยไปมา

              สร่างเมาตั้งแต่แกจูบที่หน้าผากฉันแล้วล่ะ”

              ก้อยยิ้มเจ้าเล่ห์  ทำให้ฉันนึกเขิน  เลยตีที่ไหล่ของคนตรงหน้าไปหลายครั้ง....ก้อยจับมือฉันไว้  ก่อนดึงเข้ามากอด  ที่ตอนนี้หน้าของเราชิดกันมาก  ....ก้อยใช้จมูกคม ๆ นั้นถูที่จมูกของฉันไปมา

              “ขอนอนกอดทั้งคืนได้มั้ย”

              ฉันไม่ตอบ....แต่พลิกตัวมาอีกด้าน  ซึ่งก้อยก็โอบกอดฉันไว้....จมูกของก้อยอยู่ใกล้ ๆ กับคอของฉัน  ลมหายใจอ่อน ๆ รดที่ต้นคอ  ทำให้รู้สึกใจเต้นตุบตับขึ้นมา...ฉันกุมมือก้อยที่พาดมายังลำตัวไว้...

              อยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้จัง....

    ลงชื่อ.....ดาว.....

              ฉันกับสไปรท์นั่งรถแท็กซี่มาถึงหน้าโรงพยาบาลก่อนจะรีบจ่ายเงิน  และเดินจ้ำอ้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว 

              ภาพที่เห็นหน้าห้อง  I.C.U  คือคุณพ่อ  คุณแม่ของขนมปัง  รวมทั้งพี่ชายของเธอ  คือ  ป็อบคอร์นนั่นเอง  ทุกคนหันมาทันทีที่ฉันกับสไปรท์มาถึง

              ขนมปังเป็นไงบ้าง”

              สไปรท์ถามป็อบทันที

              ก้อยไปไหน”

              ป็อบถามเสียงเรียบ

              .....................”

              บอกฉันมาสไปรท์”

              .....................”

              สไปรท์ยังนิ่งงัน...ไม่ยอมปริปากใด ๆ

              มันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนวะ!!!!

              สุดท้ายความอดทนของป็อบก็ไม่เหลืออีกต่อไป  ตะคอกใส่หน้าเราทั้งสองคนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

              ไปลากตัวมันมารับผิดชอบชีวิตน้องฉัน....ถ้าขนมปังเป็นอะไรไป...ฉันฆ่ามันแน่”

              ป็อกหันหลังเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดดาล....ขณะที่พ่อกับแม่ของขนมปังก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก 

              ฉันโอบไหล่สไปรท์ไว้เพื่อปลอบใจอีกฝ่ายที่ใจเสียไม่แพ้กัน....

              ไปรท์”

              ออยมาจากไหนไม่รู้....ปัดแขนของฉันออกจากสไปรท์  ก่อนที่จะกึ่งจูงกึ่งลากไปนั่งอีกด้าน....

              สไปรท์มองมาที่ฉัน  น้ำตาคลอขึ้นมา  ....ฉันพยักหน้าเชิงว่าเข้าใจ  แล้วฝืนยิ้มให้...มองคนรักพรากไปจากอ้อมกอดต่อหน้าต่อตา....เจ็บดีเหมือนกัน

              เรานั่งอยู่หน้าห้องเดิมอยู่พักใหญ่....จนกระทั่งคุณหมอเดินออกมา....เป็นออยที่พุ่งพรวดเข้าไปหาก่อน

              คุณหมอคะ....เพื่อนหนูเป็นไงบ้างคะ”

              หมอขยับแว่นเล็กน้อย

              เพื่อนคุณปลอดภัยแล้วครับ”

              ฉันสบตากับสไปรท์อยู่ไกล ๆ  พลางถอนหายใจโล่งอก.....แต่กลับใจสั่นอีกครั้ง  เมื่อเห็นออยลูบหัวสไปรท์อย่างห่วงใย...ฉันเบือนหน้าหนีจากภาพนั้น  แล้วเดินออกไป

              ภาพเก่า ๆ ทับซ้อนขึ้นมา...ตั้งแต่วันที่ฉันกับสไปรท์คบกัน  จนวันที่เราห่างกันไปอย่างไร้เหตุผล  ....จู่ ๆ ก็ไปไหนมาไหนกับไผ่  โดยที่ฉันตั้งตัวไม่ทัน....ฉันถูกบอกเลิกกลาย ๆ เมื่อสไปรท์บอกว่าเธอไม่เหมาะกับฉัน....

              มันใช่เหตุผลมั้ย?

              หรือมันมีเหตุผลอื่นมากกว่านั้น

              ฉันอยากถาม....อยากรู้คำตอบ....

              แต่ตอนนี้มันยังสำคัญมั้ย? ที่ฉันจะรู้คำตอบนั้น....

              ในเมื่อ....ไม่มีอะไรที่มันเหมือนเดิมอีกแล้ว

              สไปรท์คบกับออย....

              เขามีเจ้าของแล้ว....!

              .......................

              ฉันทิ้งตัวลงที่เตียงนอน  ซึ่งทั้งห้องมีแต่หนังสือที่เรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ  ....ฉันไม่ย้อนกลับไปที่คอนโดของสไปรท์อีก  ปล่อยให้ดาวกับก้อยปรับความเข้าใจกันตามสบาย  ส่วนเรื่องของฉันกับสไปรท์  ปล่อยให้มันเป็นเรื่องเวรเรื่องกรรมไปเถอะ

              ฉันดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า....พยายามข่มตาให้หลับ

              RRRRRRrrrrrrrr

              ฉันหยิบขึ้นมาอย่างเนือย ๆ ...แต่ก็ต้องขมวดคิ้ว...เมื่อเห็นเบอร์

              สไปรท์” 

              ฉันเอ่ยชื่อเจ้าของเบอร์  ก่อนกดรับ

              อืม”

              (ขวัญกลับบ้านแล้วเหรอ)

              อืม”

              (ทำไมไม่กลับมาที่คอนโด  พาดาวมาแล้วตัวเองก็หาย  แบบนี้ใช้ได้เหรอ)

              อืม”

              ฉันไม่พูดคำอื่นนอกจากการตอบรับที่ไม่ค่อยเป็นมารยาทที่ดีเท่าไหร่นัก  ....

              ก็อก! ก็อก

              เสียงเคาะประตูดังขึ้น....

              แค่นี้ก่อนนะ....แม่มา”

              ฉันกดตัดสาย  แล้วเดินไปเปิดประตู....พลันเงยหน้าขึ้นมาก็ถึงกับสะดุ้ง

              ไปรท์”

              สไปรท์ยักคิ้วใส่อย่างยียวน 

              ก็ฉันไง....เห็นเป็นใครล่ะ”

              สไปรท์พูดเสร็จก็เดินเข้ามาโดยไม่ต้องให้ฉันเชื้อเชิญ  แล้วนั่งลงที่ปลายเตียง  เอนตัวลงทาบไปบนที่นอน

              ทำไมมันมีแต่เรื่องวุ่นวายแบบนี้วะ”

              ฉันเอนตัวลงไปนอนข้าง ๆ กัน  ก่อนจะหันไปหาคนข้าง ๆ

              แล้วออยไปไหน  ทำไมแกไม่ไปอยู่กับแฟน  มาที่นี่ทำไม”

              .....................................”

              ฉันมองหน้าสไปรท์ที่เงียบไป

              เดี๋ยวออยก็ตามมาแหกอกฉันหรอก”

              ฉันพูดเชิงหยอกล้อ  ไม่ได้จริงจังมากนัก  แต่เห็นหน้านิ่ง ๆ ของสไปรท์  ทำให้ฉันหุบยิ้มไปทันที

              แกเป็นไรวะ  ไปรท์”

              ฉันเบื่อว่ะขวัญ”

              เบื่อเรื่องแย่ ๆ นี่น่ะเหรอ”

              เบื่อ....”

              สไปรท์เว้นวรรค  แล้วหันมาที่ฉัน....ตอนนี้เราจ้องตากันอยู่ในระยะประชั้นชิด  สไปรท์ใช้อุ้งมือทั้งสองประกบแก้มของฉัน

              เบื่อ....ที่ตัดใจจากแกไม่ได้สักที...”

              ฉันอึ้งไปกับคำตอบ....ของคนตรงหน้า...รู้สึกใจเต้นแปลก ๆ....ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี

              ดีใจ...ที่ใจตรงกัน

              หรือ...เสียใจ...ที่มันสายเกินไป

              แกอยากรู้มั้ย....ว่าทำไมตอนนั้น...ฉันถึงบอกเลิกแก  แล้วไปคบกับไผ่”

              ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้อีก...

              อยากรู้สิ”

    ...............

              แกมีอะไรดาวแล้วใช่มั้ย?

              ลงชื่อ.....ขวัญ......

    .....................................

              ฉันยังนั่งอยู่ที่เดิม....ตรงหน้าห้อง  ICU  ที่ตอนนี้หมอยังให้ออกซิเจนกับขนมปังอยู่....ฉันนั่งบนเก้าอี้  แล้วพิงที่ผนังอย่างหมดแรง  ....

              ฉันจะทำทุกอย่าง....เพื่อให้ได้พี่ก้อยกลับมา”

              ประโยคสุดท้าย....ก่อนที่ฉันเดินออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอก  ....เพียงเวลาไม่ถึงห้านาที  ทำให้ขนมปังคิดสั้นได้ขนาดนี้เลยเหรอ

              นี่สินะ...เขาถึงเรียกว่า  ความรักชนะทุกอย่าง  แม้แต่คำว่า  ถูกต้องและเหมาะสม

              ......

              ไปร์ท.....พี่ก้อยอยู่นั่นมั้ย  รีบมาโรงพยาบาลด่วนเลย  ตอนนี้ขนมปังกินยาล้างห้องน้ำเข้าไป  อยู่ห้อง  ICU

              ปลายสายกดวาง....คงจะตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น  แล้วอาจรีบมาในไม่ช้า....

              ฉันกดเบอร์เตรียมโทรพี่ป็อบ  แต่ยังไม่กล้าโทร....สัมผัสหน้าจอไปมาอยู่หลายครั้ง  จึงตัดสินใจกดปุ่มโทรออก  ในเมื่อเรื่องมันบานปลายไปใหญ่....เราคงแก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว

              พี่ป็อบ....ขนมปังอยู่ที่ห้อง  ICU  ค่ะ......”

              หลังจากที่แจ้งข่าวสารให้แต่ละฝ่ายรับรู้แล้ว  ฉันก็เดินกลับไปกลับมาด้วยความร้อนรน  รู้สึกเป็นห่วงขนมปังมากจนบอกไม่ถูก  ...อีกความรู้สึกก็คิดว่าตัวเองแย่ที่ดูแลเพื่อนไม่ดี  ไม่งั้นคงไม่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ 

              เวลาผ่านไปประมาณ  10  นาที  พี่ป็อบเข้ามาพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่  ...ฉันเดินเข้าไปทักทาย  พร้อมทั้งอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น

              ถ้าขนมปังเป็นอะไร....พี่ไม่ปล่อยไอ้ก้อยไว้แน่”

              คำพูดของพี่ป็อบ  ทำให้ฉันมองไปสองด้าน  บางที....อาจจะเป็นเพราะตัวขนมปังเองก็ได้ที่ไม่ยอมรับความจริงว่าพี่ก้อยไม่ได้รักเธอแล้ว  เพราะพี่ก้อยมีคนอื่น  ซึ่งเป็นคนที่มาก่อนตั้งแต่แรก  เพียงแต่ขนมปังเข้าไปชุบมือเปิบเอาดื้อ ๆ....หรือมันจะเป็นเวรกรรมที่ทำต่อกันไว้นะ  เรื่องมันถึงอิรุงตุงนังขนาดนี้

              ตึก  ตึก

              เสียงฝีเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาใกล้  ...จึงเห็นว่าเป็นพี่ขวัญกับแฟนของฉันเดินเข้ามา  ...พี่ขวัญโอบไหล่สไปรท์ไว้....ฉันเห็นดังนั้นก็พยายามควบคุมอารมณ์สุดฤทธิ์  กำหมัดไว้แน่น  ก่อนจะเดินไปหาคนทั้งคู่

              ไปรท์” 

              ฉันพูดพร้อมกับดึงมือคนที่โอบไหล่ออก....ฉันมองพี่ขวัญเพียงหางตา  ด้วยไม่อยากมีเรื่อง  รู้สึกเจ็บแปลบ ๆ....รู้สึกเหมือนกำลังจะโดนแย่งของรักไปจากมือยังไงก็ไม่รู้

    ...........

              ฉันขยี้ตาไปมา  ลุกขึ้น  ...ถึงเวลาที่ฉันจะต้องกลับบ้านแล้วเหมือนกัน...ตอนแรกว่าจะกลับพร้อมกับสไปรท์  แต่สไปรท์บอกว่ามีธุระด่วน  ฉันก็เลยไม่ขัด  เพราะฉันต้องรอถามรายละเอียดต่าง ๆ จากหมอก่อน

              ฉันเดินไปที่หน้าโรงพยาบาล  โบกรถแท็กซี่  ก่อนบอกจุดหมายที่ตั้งใจ

    ...............

              ก็อก ๆ ก็อกๆ

              ฉันเคาะประตูอยู่สองสามครั้ง  แต่เจ้าของห้องไม่เปิด  เลยถือวิสาสะ  หยิบกุญแจสำรองในกระเป๋าที่อีกคนให้ไว้มาไขประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย

              ฉันมองไปรอบห้อง....เห็นขวดเหล้ากับขวดเบียร์ที่วางไว้ที่มุมห้อง  ขมวดคิ้ว.....แล้วเดินไปยังห้องนอนของเจ้าของห้อง....ตั้งท่าจะเคาะประตู...แต่เปลี่ยนใจ  ชะงักไว้แค่นั้น  แล้วยิ้มกริ่ม 

              ฉันไขประตูเข้าไปด้วยหวังจะเซอร์ไพรส์คนในห้อง....

              แกร๊ก!

              เสียงเปิดประตู  พร้อมกับแสงสว่างที่สาดเข้าไปในห้อง  ฉันค่อย ๆ ย่องเข้าไป  แล้วเปิดผ้าห่มออกมาหมายจะแกล้ง  ....แต่เป็นฉันที่เบิกตากว้าง

              พี่ก้อย....พี่ดาว”

              ทั้งสองคนอยู่ในสภาพกอดกันอย่างสนิทแนบแน่น  ...แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของฉัน

              ออย”

              ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน...และคลายกอดจากกันทันที....คิด ๆ แล้วก็โมโหแทนขนมปังจริง ๆ...อีกคนนอนครึ่งเป็นครึ่งตายอยู่โรงพยาบาล  แต่อีกฝ่ายนอนด้วยกันอย่างมีความสุข....

              แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะต้องทำโทษพี่ก้อยแทนขนมปัง....แต่กลับถามหาเจ้าของห้องมากกว่า  เพราะคิดว่าจะกลับมาที่ห้อง....แล้วไปไหน

              พี่สไปรท์ไปไหนคะ”

              พี่ก้อยกับพี่ดาวมองหน้ากัน.....แล้วส่ายหัวปฏิเสธ...ฉันจึงถอนหายใจ  เดินออกไป  พร้อมจะปิดประตูให้

              ขอโทษที่รบกวนนะคะ”

              ......................

              ฉันออกมานั่งอยู่ตรงโซฟาห้องนั่งเล่น  แล้วกดโทรศัพท์หาเลขหมายที่ต้องการ

              ตื้ด  ตื้ด....ปิ๊บ

              เสียงกดรับจากปลายสาย  ฉันจึงรีบถามตามคอนเซ็ปต์

              ไปรท์อยู่ไหน”

              .......................................”

              ไปรท์”

              ฉันร้องเรียกอีกครั้ง....

              โอ๊ย! ขวัญ....เจ็บนะ.....”

              เป็นเสียงที่เข้ามาไม่ดังมากนัก....ทำให้ฉันรีบตัดสาย...ข่มกราม  แล้วกำโทรศัพท์ไว้แน่น  รู้สึกตาแข็งกร้าวขึ้นมาด้วยความโมโห

              พี่ขวัญ”

     

    ลงชื่อ.....ออย

              ............................................

         จบไปอีก 1 ตอน >>> ความวุ่นวายจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วแต่อารมณ์ของไรท์เอง ฮ่า ๆ เนื่องจากช่วงนี้ทั้งทำงาน ทั้งเรียน  ไม่ค่อยมีเวลามาอัพ  ยังไงก็อย่าลืมกันน๊าาา  ติดตามกันได้เรื่อย ๆ ค่ะ..

         ปล. NC ถึงความเห็นที่ 311 นะคะ  ขอโทษขออภัยที่ส่งช้า >>>

         ^_____^ สวีดัสค่ะ


       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×