ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Nadao Girl] Stop! Your Heart – ปฏิบัติการห้ามหัวใจไม่ให้รัก

    ลำดับตอนที่ #7 : ภารกิจพิเศษ : การเดินทางที่แสนพิเศษ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 58


              ภารกิจพิเศษ  การเดินทางที่แสนพิเศษ  หัวใจสั่งให้ทำ

     

            ฮ้าว!” 

              ฉันเอามือป้องปากแล้วบิดขี้เกียจไปมา  พลางมือก็เอื้อมไปกดนาฬิกาปลุกตรงหัวเตียงให้หยุดทำหน้าที่ของมันสักพัก

              “04.30 น.” 

    วันนี้เราตื่นเช้ากว่าปกติ  เนื่องจากมีภารกิจสำคัญสืบเนื่องจากเมื่อวาน  คือ  การนำสื่อการสอนทำมือของพวกเราที่ตั้งใจทำกันเมื่อวานไปมอบให้โรงเรียนที่ขาดแคลนงบประมาณในการสนับสนุนการศึกษา  ซึ่งจุดหมายของเราก็คือโรงเรียนแถว ๆ ดอยปุย  จังหวัดเชียงใหม่นู่นแหนะ

    ดีเหมือนกัน  ได้โอกาสไปเที่ยวผ่อนคลายบ้างก็ดี  โดยพาหนะที่เราจะไปกันก็คือรถตู้  น่าจะใช้เวลาสัก 9 ชั่วโมงเห็นจะได้  เราจึงต้องออกเดินทางประมาณหกโมงเช้า  เพื่อจะได้ไปถึงสักประมาณสามหรือสี่โมงเย็น  ซึ่งตามตารางแล้วเมื่อไปถึงเชียงใหม่  ก็จะแวะนมัสการพระธาตุดอยสุเทพเพื่อเสริมสิริมงคลกันก่อนจะเข้าโรงแรมเพื่อพักผ่อนให้พร้อมที่จะทำภารกิจที่โรงเรียนในวันถัดไป

    ว่าแล้ว....ก็คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ...ชำระร่างกายให้สดชื่นดีกว่า

    ....................

              ฉันนั่งพิงโซฟา  โดยมีเกมกดสุดที่รักอยู่ในมือเพื่อฆ่าเวลาในการรอคอยคนอื่น ๆ

              เล่นเป็นเด็ก ๆ ไปได้” 

              เสียงหนึ่งดังขึ้น  ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมอง  จึงเห็นใบหน้าของอีกคนในสภาพกลับหัว

              พี่ก้อย......เฮ้ย! ตายเลยอ่ะ” 

              ฉันทำหน้าบู้ใส่เกมตัวต่อสุดฮิตที่มัน  Game  Over  ไปแล้ว

              สมน้ำหน้า”  พี่ก้อยพูดพร้อมกับเอามือมายีหัวฉัน 

              ฉันเผลอจ้องหน้าคนเป็นพี่  แววตาคมคู่นั้นจะมีเจ้าของหรือยังนะ  ถ้ามีก็คงไม่แปลก  แต่ถ้าไม่มี  อยากมีสิทธิ์เป็นคนโชคดีคนนั้นจัง

              สมมติว่าพี่เต้ยยังไม่มีแฟน  ปังจะขอเป็นแฟนพี่เต้ยจริง ๆ เลย เอาสิ” 

              ประโยคสุดท้ายตอนชั่วโมงละลายพฤติกรรม  ...เป็นการพูดเบี่ยงเบนความสนใจไปงั้นแหละ  ความจริงอยากเขียนชื่อของอีกคนมากกว่า  ทั้ง ๆ ที่วันนั้นก็ไม่มีใครเขียนชื่อพี่ก้อยไปด้วยซ้ำ  รู้งี้น่าจะเขียนก็ดี....

    .................

              อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” 

              ฉันเดินชนกับผู้หญิงคนหนึ่งกลางโรงอาหาร  น้ำแดงในแก้วพลาสติกนั่นพุ่งกระจายเต็มเสื้อของอีกฝ่าย  ฉันรีบควักผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากระโปรงนักเรียนมาเช็ดให้คู่กรณีอย่างรีบร้อน  พร้อมกับกล่าวขอโทษซ้ำ ๆ  ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มองหน้าด้วยซ้ำว่าเป็นใคร

              ไม่เป็นไรค่ะ....พี่เดินไม่ระวังด้วยแหละ  มัวแต่มองร้านอาหาร”

              ฉันเงยหน้าขึ้นมา  ดวงตาประสานไปกับคนตรงหน้า  อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองหน้าร้อนขึ้นมาอัตโนมัติ  ใจก็พลันเต้นตุบตับอย่างไม่รู้สาเหตุ

              พี่ก้อย” 

              ฉันเผลออุทานชื่อออกมา  จนพี่ก้อยเลิกคิ้ว  มองหน้าฉัน

              รู้จักชื่อพี่ด้วยเหรอ”

              ไม่รู้จักได้ไง  ขวัญใจสาว ๆ ขนาดนี้”  เป็นเสียงเล็ก ๆ ของพี่ดาวดังขึ้น  ก่อนจะกอดคอเพื่อนรัก  แล้วหันมาคุยกับฉัน

              ขอโทษแทนน้องด้วยนะคะ  เพื่อนพี่ซุ่มซ่ามอย่างนี้แหละ  ฮ่า ๆ” 

              พี่ดาวหันไปยิ้มหวาน  พร้อมยักคิ้วใส่พี่ก้อย  ส่วนพี่ก้อยก็ทำท่าค้อนใส่เพื่อนรัก

              ยังไงก็ขอโทษด้วยนะ  น้อง....”

              ขนมปังค่ะ”

    ..................

              ปัง”

              “.........”

              ปัง”

              “.........”

              “ปัง  เฮ้! เหม่ออะไรเนี่ย” 

              ฉันสะดุ้งกับเสียงเรียกของออย  เพื่อนสนิทของฉันที่เข้ามาแตะไหล่ฉันตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้  แล้วพี่ก้อยหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย  ฉันชะเง้อมองซ้ายมองขวา  แล้วถอนหายใจออกมา

              มองหาใคร”

              ยัยออยเป็นคนขี้สงสัยตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

              ปล๊าว  เปล่าเลย  เปล่ามองหาใคร”  ฉันเผลอขึ้นเสียงโวลุ่มดังไปหน่อยในจังหวะแรก

              ฉันว่าแกแปลก ๆ นะ”  ออยทักฉันขึ้น

              แต่ฉันก็ว่าแกแปลกเหมือนกันว่ะออย....เมื่อจู่ ๆ พี่สไปรท์  รูมเมทของออยก็เดินมาคล้องแขนคนที่กำลังคุยกับฉัน  แถมยัยออยยังมีการอมยิ้มเขิน ๆ ...ก่อนจะยกกระเป๋ากับพี่สไปรท์คนละข้าง  เสมือนใส่ลูกเหล็กเป็นสิบกิโล.....ทั้ง ๆ ที่มันเป็นแค่กระเป๋าเป้ใบนิดเดียวเนี่ยนะ...

              เฮ้! ออย...ของฉันกระเป๋าเดินทางนะเว้ย!  มาช่วยกันมั่งดิ  ...แค่คิดในใจแค่นั้นแหละ  เพราะอยู่ดี ๆ ก็มีฮีโร่มาคว้ากระเป๋าฉันไปถือเองซะแล้ว

              พี่ก้อย”

              เห็นทำท่าจะยก  ไม่ยกซะที  ก็ไม่หนักเท่าไหร่นิ....เอาไปแต่ชุดชั้นในเหรอ”  พี่ก้อยแซว...ฉันจึงได้ทีตีไปที่ไหล่ของพี่ก้อย

              พี่ก้อย...อ่ะ”

              ฉันหัวเราะคิกคักกับพี่ก้อยสักพัก  ก็รู้สึกถึงรังสีอำมหิตจากที่ไหนสักแห่งจับจ้องมา....

              อ้าว! ดาว  มา...ฉันช่วย”  พี่ก้อยมีน้ำใจอีกแล้ว....มิเสียแรงที่ฉันเทคะแนน  เป็นแฟนคลับเต็มตัว

              ไม่ต้องย่ะ....ไปช่วยน้องเลยไป”  พี่ดาวมีงอน...สงสัยจะหวงเพื่อนที่มาช่วยคนอื่นล่ะสิ...

              พี่ก้อยส่ายหัวเบา ๆ แล้วยิ้มออกมา  ก่อนที่จะใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่จูงมือฉันไปขึ้นรถ...

              รีบไปกันเถอะ....” 

              ฉันก้มมองมือที่พี่ก้อยกุมฉันอยู่อย่างนั้น  ใจก็เผลอเต้นอีกแล้ว  ....ฉันกรี๊ดในใจ...รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเอกเกาหลีที่แอบชอบพระเอกรอง  แล้วเขามาทำดีด้วย  แค่นี้ใจก็ล่องลอยถึงสวรรค์ชั้นไหนต่อไหนแล้ว

              “06.00 น.” 

              ทุกคนทยอยขึ้นรถตู้จนครบทุกคน  ....

              ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่ฉันรู้สึกว่าเพื่อนสาวของฉันเปลี่ยนไป  ดูร่าเริงสดใสผิดหูผิดตา  แถมยังดูสนิทสนมกับพี่สไปรท์มากกว่าเดิมอีก 

              ออยถอดหูฟัง  MP3  ของตัวเองออกข้างหนึ่ง  แล้วเอาไปใส่ที่หูอีกข้างของพี่สไปรท์....ฟังเพลงอะไรกันนะ  พี่สไปรท์ถึงเอาแต่ยิ้มไม่หุบอย่างนั้น  แถมยังเอามือมาหยิกแก้มคนที่เป็นดีเจนั่นอีก...แต่ก็ดีเหมือนกันแหละ  ออยจะได้ออกมาจากโลกส่วนตัวบ้าง  เลิกกินน้ำเปล่าจืด ๆ   แล้วมากินสไปรท์ซาบซ่าดีกว่า ....เฮ้ย! ๆ ไม่ใช่แล้ว....หมายถึงออยจะได้มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง

              ฉันมองไปยังอีกคู่  คือ  พี่เต้ยกับพี่กานต์  ที่พอจะรู้อยู่แล้วล่ะว่าพี่เขาคบกันอยู่  เพราะฉันเป็นรูมเมทพี่เต้ย  กว่าจะได้คำตอบก็คาดคั้นจนเสียน้ำลายไปเยอะพอสมควร  ก็พี่เต้ยเล่นกั๊กอยู่นั่นแหละ  จนฉันเจอหลักฐานจดหมายรักฉบับเล็กของพี่กานต์ที่ให้พี่เต้ยนั่นแหละถึงได้ยอมจำนน  แต่พี่เต้ยก็ไม่อยากเปิดเผยอะไร  ฉันก็เลยต้องเหยียบความลับนี้ไว้  ที่ไม่รู้ว่ามันเป็นความลับหรือเปล่า  เพราะบางทีการแสดงออกความรักมันก็มักจะเผยออกมาโดยที่เราไม่รู้ตัวเสมอ

              ฉันเอนเบาะเดี่ยวลงเล็กน้อย  พลันก็เหลือบไปเห็นพี่ขวัญกับพี่ดาวที่นั่งคู่กันอยู่เบาะหลัง....พี่ขวัญกำลังจัดทรงผมให้พี่ดาวให้เข้าที่เข้าทาง  ก่อนจะหยอกล้อด้วยการดีดหน้าผากพี่ดาวไปหนึ่งที  พี่ดาวก็เอาคืนด้วยการจับนิ้วพี่ขวัญมาหักเล่นจนอีกคนสะดุ้งโหยง  ....ฉันมองภาพนั้นแล้วอดยิ้มไม่ได้

              ยิ้มคนเดียวอีกแล้ว  บ้าเปล่าเนี่ย”  พี่ก้อยที่นั่งอยู่ข้างหน้าข้าง ๆ พี่เต้ยและพี่กานต์ทักขึ้นมา

              มีลูกอมมั้ย  พี่รู้สึกว่าจะเมารถ” 

              ฉันควักหาลูกอมจากกระเป๋าเสื้อแขนยาวแล้วยื่นให้พี่ก้อยไปสองเม็ด....พี่ก้อยพลิกห่อลูกอมไปมา  แล้วทักท้วงขึ้น

              กินฮาร์ทบีท....บำรุงหัวใจเหรอจ๊ะ”  พี่ก้อยยิ้มออกมา....รอยยิ้มนี่สินะ  ที่ทำให้ฉันหลงเสน่ห์...ตั้งแต่วันนั้นที่ฉันบังเอิญชนกับพี่ก้อย....จนถึงวันนี้ที่เรามีโอกาสอยู่ในบ้านเดียวกัน  ฉันก็รู้สึกว่าฉันคิดไม่ผิดที่ปลื้มคน ๆ นี้....

              น่ารัก...อบอุ่น...เป็นกันเอง...

              นิยามของพี่ก้อยเขาล่ะ...

              ขอบใจนะ”  เสียงพี่ก้อยทำให้ฉันตื่นจากความคิด....ฉันพยักหน้าให้แล้วเอนตัวลงกับเบาะ..

              ครืดดดดดด

              เสียงเปิดประตูรถตู้  ก่อนที่พี่ก้อยจะไล่ฉันให้เขยิบไปนั่งที่เบาะคู่ที่ยังไม่มีคนนั่งติดกับหน้าต่าง  ส่วนพี่ก้อยก็เขยิบมานั่งกับฉัน  ปล่อยที่นั่งของฉันเมื่อกี้ให้ว่าง...

              เขานั่งเป็นคู่กันหมด....เราจะนั่งเป็นคี่ได้ไง” 

              ฉันรู้สึกล่องลอยกับคำพูดนี้จัง....อยู่ดี ๆ ก็ได้ใกล้ชิดกับคนที่ตัวเองประทับใจแบบนี้....

              “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”  อันนี้คือกรี๊ดในใจ....รู้สึกปลื้มปริ่มเป็นที่สุด

              ......................

              เรานั่งรถไปได้สักพัก  ฉันก็รู้สึกง่วง ๆ  ...พลันตาก็ค่อย ๆ ปิดลง....แต่กลับรู้สึกถึงสัมผัสของคนข้าง ๆ ที่ดันหัวฉันให้มาซบที่ไหล่ของตัวเอง....พี่ก้อยปัดผมที่ปรกหน้าฉันขึ้น  แล้วคนเป็นพี่ก็เอนตัวไปที่เบาะของตัวเอง....

              ฉันเผลอเอามือไปกุมมือพี่ก้อย  ทั้ง ๆ ที่ตาฉันยังปิดอยู่....มารู้สึกตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป  ก็ไม่กล้าลืมตาซะแล้ว  ได้แต่ทำตาปี๋เหมือนคนทำผิด  ...แต่พี่ก้อยกลับกุมมือฉันตอบ  ตอนนี้เราจึงอาจอยู่ในสภาพของการกุมมือกัน...

              เหมือนแฟนกัน....

              แค่คิด...ก็ฟินแล้ว...

              ถ้ามันเป็นความฝัน....ก็อยากอยู่ในฝันตลอดไปล่ะนะ

              ...............................

              ฉันสะลึมสะลือขึ้นมา  เมื่อพบว่า...ตอนนี้เราอยู่ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง  ....พวกเราเปิดประตูรถลงไป  ต่างคนต่างยืดเส้นยืดสาย  เพื่อให้คลายอาการปวดเมื่อย...

              ถึงครึ่งทางแล้วสินะ....อยากนั่งต่ออีกสัก  24   ชั่วโมง >>^_^  ขอแค่คนข้าง ๆ ยังเป็นพี่ก้อยก็พอนะ...

              ฉันนั่งพักอยู่ตรงม้าหินอ่อนหน้า  7-11  ...แต่อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกถึงสัมผัสของความเย็นตรงหน้า 

              เฮ้ย!

              ฉันหันไป...เห็นพี่ก้อยยิ้มหวานใส่  พร้อมกับยื่นน้ำอัดลมกระป๋องยี่ห้อดังให้  ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ฉัน  ยกน้ำกระป๋องในมือดื่มอึก อึก  โดยไม่ใช้หลอด...>_< กรี๊ดดดด...คนอะไรเท่เป็นบ้า...

              ฉันมัวแต่เพ้อสินะ...พี่ก้อยเลยดึงกระป๋องในมือของฉันไป...เปิดที่ล็อคออก  เสียบหลอด  แล้วยื่นให้ฉัน...

              ฉันดูดน้ำนั่น....ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นรสอร่อย  ไม่อร่อย  สดชื่น  หรือไม่สดชื่น...แต่ตอนนี้รู้สึกชื่นใจมาก....อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้จัง

              ขณะที่ฉันคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่...ก็เหลือบไปเห็นออยกับพี่สไปรท์สวีทกันอยู่...

              สวีท?

              เฮ้ย! ไม่ใช่มั้ง....แค่ความสนิทสนมแหละ...

              ออยดูดน้ำจากหลอดในแก้ว...ที่พี่สไปรท์เป็นคนถือแก้วนั้น  ทั้งคู่สบตากัน...ก่อนที่ออยจะผละริมฝีปากออกจากหลอด  แล้วใช้ใบปลิวอะไรสักอย่างพัดแถว ๆ หน้าตัวเอง  สงสัยจะร้อนมั้ง....พี่สไปรท์เห็นดังนั้นจึงควักผ้าเช็ดหน้าออกมา...แล้วซับตามบริเวณใบหน้าของอีกคน  ออยหลับตาพริ้มให้อีกคนบรรจงลูบไล้ไปตามแก้ม  จนถึงซอกคอ....

              จะว่าไป...การที่ออยสนิทกับพี่สไปรท์มากขึ้นก็ดีเหมือนกัน....เพราะตอนแรก ๆ พี่สไปรท์กับพี่ก้อยสนิทกันมาก  จนเผลอ ๆ แอบคิดว่าเป็นแฟนกันเลยแหละ...

              เห็นอย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย....

              ไปกันเถอะ”

              พี่ก้อยแตะไหล่ฉัน...จนความคิดเพ้อเจ้อฉันหายไป....พี่ก้อยยื่นมือให้ฉันจับเพื่อลุกขึ้น....ฉันยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปหา....แต่ไม่ทันที่มือจะแตะกัน....ก็มีมือของใครสักคนมาตีแยกระหว่างกลางซะก่อน...

              พี่ดาวทำหน้าบู้ใส่พี่ก้อย.... ท่าทางหงุดหงิดพิกล....

              เป็นไร....”

              พี่ก้อยยักคิ้วใส่อีกฝ่าย...ก่อนที่จะโดนกระทุ้งศอกใส่ท้องเต็ม ๆ....แล้วคู่กรณีก็เดินหนีไป...

              พี่ก้อย  เป็นอะไรมั้ยคะ”

              อู้ย! ไม่เป็นไร...”  พี่ก้อยกุมท้อง...แววตาจ้องไปที่พี่ดาว...เหมือนอยากเอาคืนเสียเต็มประดา

    ................

    เราเริ่มเดินทางอีกครั้ง....บางทีก็แอบคิดเหมือนกันนะว่า...ทำไมไม่ให้เรานั่งเครื่องบินไปหว่าจะได้ถึงเร็ว ๆ  ...และอาจจะทำภารกิจเสร็จสิ้นตั้งแต่วันนี้เลยก็ได้...ไม่ต้องไปเสียค่าที่พง  ที่พัก  เปลืองเงิน  เปลืองทอง

              “เป็นไง  เหนื่อยกันมั้ยทุกคน”

              อ้าว! เสียงพี่ป็อบ...พี่ชายของฉันดังขึ้นนี่นา....เราทำตัวเหมือนไม่ค่อยสนิทกัน...เพราะเดี๋ยวเขาจะว่าฉันเด็กเส้น...แต่จะไม่ให้คิดก็ไม่แปลก...เพราะตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าฉันเข้ามาในรายการนี้ได้ยังไง...หรือพี่ป็อบจะเป็นคนดันให้เข้ามา...เฮ้ย! ช่างเหอะ...ว่าแต่พี่ป็อบมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย  ไม่ยักกะรู้

              ผมเพิ่งขึ้นมาเมื่อกี้เองแหละครับ...ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงไม่ขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่กัน  ซึ่งมันง่ายดายกว่านี้เยอะ”

              เออ! พี่ป็อบเอาคำถามจากสมองฉันไปรึเปล่าเนี่ย

              เหตุผลข้อแรก...มันสบายเกินไป

              เหตุผลข้อสอง...เวลาอันรวดเร็วของเครื่องบิน...จะไม่สามารถทำให้เราใกล้ชิดกันได้ขนาดนี้....จริงมั้ยครับ...สไปรท์”

             

              ทุกคนหันไปยังเป้าหมายคือพี่สไปรท์ที่เบาะยาวหลังสุด  ซึ่งมีออยนอนหนุนตักอยู่  รายนั้นหลับทีไรเหมือนซ้อมตายทุกที...

    แต่ดูท่าทีแล้ว...พี่ขวัญเหมือนไม่สบอารมณ์เท่าไหร่  พี่แกเบือนหน้าหนี  แล้วมาซบที่ไหล่พี่ดาวที่กุมมือปลอบอยู่ก่อนแล้ว

    และกฎเฉพาะกิจที่เรากำหนดในวันนี้นะครับ....คืนนี้...คู่รูมเมทของคุณ...คือคนที่คุณนั่งคู่ด้วยในตอนนี้ครับ”

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!

    กรี๊ดเป็นภาษาอะไรดี

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!

    ฉันมัวแต่บ้ากับตัวเองอยู่  จนลืมสังเกตคนข้าง ๆ ว่าเขารู้สึกเหมือนฉันรึเปล่า...

    พี่ก้อยดูนิ่ง ๆ ไป...ก่อนจะหันไปหาพี่ดาวที่อยู่ข้างหลัง  แต่ไม่พูดอะไร  หรือพี่ก้อยจะอยากนอนกับพี่ดาว  เพื่อนรักของเขา...ฉันควรจะเป็นนางเอกรึเปล่านะ...?

    พี่ก้อยคะ  ถ้าพี่ก้อยอยากเปลี่ยน.....”

    ไม่แม้แต่จะคิดนะครับ....น้องขนมปังคนสวย  เพราะนี่คือ กฎ

    .....................

    พระธาตุดอยสุเทพ  เชียงใหม่

    เราค่อย ๆ ทยอยลงรถเพื่อไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ  โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์อันมีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่  เพื่อเสริมสิริมงคลก่อนที่จะปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ต่อไป

    ฉันกับพี่ก้อยลงมาพร้อมกัน  จัดเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อย  แล้วเดินไปบูชาดอกไม้ธูปเทียน  ฉันสังเกตเห็นพี่ก้อยดูเศร้า ๆ ไปกว่าเดิม  จึงใช้หลังมือแตะที่หน้าผากของคนพี่เบา ๆ  เพื่อตรวจว่ามีอาการผิดปกติ  เมารถ  หรือไม่สบายรึเปล่า

    พี่ไม่เป็นไร  ขอบคุณนะ” 

    พี่ก้อยยิ้มให้  ฝืนรึเปล่านะ

    เฮ้! ไหว้พระด้วยคนสิ”  เป็นเสียงของเพื่อนสนิทฉันทักขึ้น

    แล้วพี่รูมเมทเธอไปไหนยะ”  ฉันแขวะออยเล่น ๆ

    ไปกับพี่กานต์  พี่เต้ย  พี่ขวัญน่ะ  สงสัยเขาจะไปไหว้เป็นทีม...ขอให้สอบติดกัน”

    ออยหันมายิ้มให้ฉัน  ที่ตอนนี้พี่ดาวเดินเข้ามาร่วมวงกับเราอีกคน

    หวังว่าฉันกับออยคงไม่เป็นก้างขวางคอนะ”

    พี่ดาวพูดด้วยน้ำเสียงประชดเล็ก ๆ  ...ประชดใคร  ประชดฉัน  พี่ก้อย  หรือออย....แต่สายตาตรงดิ่งไปที่เพื่อนของเขา....

    สงสัยจะหวงเพื่อน....

    ฉันภาวนาขอให้พี่ดาว...แค่หวง...พี่ก้อย...ในฐานะเพื่อน...เท่านั้น

     

    ..........................

              ที่พัก

              พวกเราได้พักที่รีสอร์ทริมเขาที่บรรยากาศดี๊ ดี....มีต้นไม้รายรอบ  และมีธรรมชาติอันน่าพิสมัย  ฉันเปิดหน้าต่างไม้ออกเพื่อสูดอากาศเย็น ๆ ให้ชุ่มปอด  ....รีสอร์ทหลังโตที่แบ่งเป็นห้องเดี่ยวสองห้อง  แต่ละห้องเป็นเตียงเดี่ยว  ซึ่งหลังนี้  ห้องฝั่งซ้ายมีฉันกับพี่ก้อย  ส่วนห้องฝั่งขวาคือพี่ขวัญกับพี่ดาว

              พี่ก้อยคะ....”  ฉันพูดพร้อมกับหันหลังไปหาอีกคน...แต่ฝ่ายนั้นสลบเหมือดไปแล้ว....

              ฉันเดินเข้าไปค่อย ๆ ใช้หลังมือแตะที่หน้าผากของคนที่นอนอยู่  เพราะเห็นว่าหน้าซีด ๆ ก็ต้องตกใจ  เพราะตัวร้อนมาก...ฉันรีบจัดแจงวิ่งหาผ้าขนหนูผืนเล็กที่ทางรีสอร์ทวางไว้  ไปชุบน้ำแล้วบิดหมาด  ก่อนที่จะบรรจงเช็ดไปตามใบหน้าของพี่ก้อยเบา ๆ ....

              ฉันรู้สึกเคลิบเคลิ้มกับใบหน้าอันชวนหลงใหลนี้จัง  ฉันใช้นิ้วเกลี่ยไประหว่างใบหน้าของอีกฝ่าย

              จุ๊บ!

              เฮ้ย! เผลอหอมแก้มคนป่วยไปได้ไงเนี่ย...ฉันยกมือปิดปากด้วยความอายตัวเอง...แต่จู่ ๆ คนข้างล่างก็ดึงฉันเข้ามากอด

              ดาว”

              ว้าย! ปังค่ะ  ปัง...ไม่ใช่พี่ดาว...แต่เอ๊ะ! ทำไมเรียกหาพี่ดาว

              ดาว...”

              ความคิดมหาโจรเริ่มเข้าครอบงำฉันโดยไม่รู้ตัว....ขอขโมยโอกาสนี้ได้มั้ย....ไม่ว่าพี่ก้อยจะเพ้อถึงพี่ดาวในฐานะอะไร  แต่ตอนนี้ฉันอยู่กับพี่ก้อย...เพราะฉะนั้น...

              ดาว”

              เรียกหาพี่ดาวอีกแล้ว...ฉันสะบัดตัวออกจากพี่ก้อย...เพราะเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว...ถ้าพี่ก้อยกับพี่ดาวมีอะไรมากกว่าความเป็นเพื่อน...ฉันก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งไม่ใช่เหรอ...ถึงจะรู้สึกกับคนที่นอนอยู่ตรงนี้มากแค่ไหนก็ตามเถอะ

              แต่ ณ ตอนนี้...พี่ก้อยไม่มีสติ....

    ถึงจะกอดฉัน...ก็ไม่ได้...รู้สึกอะไร

    ฉันตัดสินใจเปิดประตูห้องออกไปเพื่อจะไปเรียกเจ้าของชื่อที่อีกคนต้องการ....

    พี่ขวัญ”

    พี่คิดว่า...ปังควรใช้เวลาที่อยู่ที่นี่ให้คุ้มค่าที่สุดนะ”

    หมายความว่า....”  ฉันมองพี่ขวัญอย่างตั้งคำถาม

     “สองทุ่ม...นัดรวมห้องสัมมนา...มาบอกแค่นี้แหละ...”  พี่ขวัญยิ้มหวานให้  ก่อนจะทิ้งท้ายให้ฉันรู้สึกใจเต้นแปลก ๆ

    และที่สำคัญ....สองทุ่ม...เริ่มออนแอร์...ถ้าไม่รีบ...จะเสียใจ”

    คือ...ฉันต้องทำอะไรเหรอ...รวบหัวรวบหางเลยมั้ย?

    ฉันสะบัดความคิดบ้า ๆ ออกจากหัว  แล้วเดินไปนั่งบนปลายเตียงที่คนป่วยนอนอยู่  พลางตาก็มองไปดูนาฬิกาที่ตอนนี้หกโมงเย็นพอดี  ....ฉันมองหน้าพี่ก้อยที่หลับไม่รู้เรื่อง  สงสัยจะด้วยพิษไข้อ่อน ๆ นั่น  ที่ทำให้เพ้อชื่อเพื่อนรักออกมา....

    รู้สึกเจ็บนิด ๆ ...ถ้าเกิดว่าชื่อนั้น...เป็นคนที่พี่ก้อยรู้สึกดี ๆ ด้วย....

    ขอเป็นชื่อ ขนมปัง”  ได้มั้ย?

    ปัง....”

    หืม?

    พี่ก้อย”  ฉันขยับหน้าเข้าไปหาอีกคนใกล้ ๆ ด้วยอยากจะรู้ว่าเขาต้องการอะไรรึเปล่า  แต่ยิ่งขยับเข้าไปใกล้แค่ไหน...ก็รู้สึกว่าจะอดใจไม่ไหวอยู่ดี

    ฉันเลื่อนริมฝีปากของตัวเองไปประกบริมฝีปากของอีกคนอย่างแผ่วเบา

    อื้อ!”  เสียงพี่ก้อยลอดออกมา...ฉันจึงคลายริมฝีปากนั่นออก  ด้วยกลัวอีกคนจะตื่น

    ดาว”

    เจ็บนะ...กับการที่เขาเรียกชื่อคนอื่น...ทั้ง ๆ ที่ฉันอยู่ตรงนี้

    เจ็บที่มีโอกาส....แต่ทำไม่ได้...

    ไม่สิ...ทำได้....

    แม้จะเป็นการฉวยโอกาส...ก็ตาม

    ก้อย”

    ฉันเอ่ยขึ้น  แล้วโน้มหน้าเข้าไปจูบคนข้างล่างด้วยน้ำหนักที่แรงขึ้น  ก่อนจะบดริมฝีปากอย่างหนักหน่วง  จนคนเป็นพี่เผยอริมฝีปากเพื่อให้ฉันใช้ลิ้นนุ่ม ๆ ดันเข้าไปข้างใน....

    ความหวานที่ฉันได้รับ....

    ไม่รู้ว่า...เจ้าของชื่อ...จะได้รับมันรึเปล่า...

    แต่ตอนนี้....ฉันกำลังสัมผัสมัน...

    ขอโทษด้วยนะ...พี่ก้อย...

              ขอโทษที่เห็นแก่ตัว....

              ฉันถอนริมฝีปากออก  แล้วซุกไซ้ไปตามลำคอยาวนั่น  ใช้มือเล็ก ๆ ปลดกระดุมของคนที่หลับอยู่  ก่อนจะแทรกมือเข้าไปด้านใน  ลูบคลำไปตามหน้าท้องที่มีอุณหภูมิร่างกายไม่ค่อยปกติ....ฉันพรมจูบไปที่หน้าท้องนั้น....พี่ก้อยก็เหมือนจะตอบรับแต่โดยดี  เมื่อตอนนี้เธอพลิกตัวมาอยู่ข้างบนเรียบร้อย  พร้อมกับซุกไซ้ซอกคอของฉันจนต้องส่งเสียงเบา ๆ ออกมา

              อือ”

     

              ขอโทษ....ที่ต้องทำแบบนี้

              บางอย่าง....ถ้าไม่แลกด้วยอะไรสักอย่าง...ก็คงไม่ได้มันมา...

     

    ลงชื่อ.........ภาณิน
    25  กันยายน


     

              .........................................

              จบแบบ.... ฮ่าๆ....ไม่มี NC ...เป็นฉาก...มีแต่ NC มโนเอาเองละกันนะคะ...
    บอกไว้ก่อนว่าความดราม่า...วุ่นวาย...จะเข้ามาอีกเรื่อย ๆ....แต่ตอนนี้ก็เอาไปแบบนี้ก่อนละกัน....
    ขออภัยที่สร้างตัวละครบางตัวฉีกไปจากตัวละครใน
    hormones ไปบ้าง...
    แต่ก็เพื่อสร้างสีสัน...ให้มันน่าเบื่อน้อยลง
    ^_^

    ยังไงก็ติดตามกันไปเรื่อย ๆ นะคะ  พิมพ์ผิดพิมพ์ถูก...ขออภัยด้วยนะ...เพราะทั้งเผางาน เผาฟิคไปพร้อม ๆ กัน ^_^

    อ้อ! และที่สำคัญ...อย่าลืมไปโหวตก้อยดาว...ด้วยนะคะ...

    หมดเขต วันที่ 5 มีนาคม  นี้แล้วนะ....

    ไม่มีตังค์ส่งไม่เป็นไร....เรากดโหวตด้วยใจ...คราวละครึ่งชั่วโมง เย้ๆ >>>
    http://activity.gmember.com/awards2015/vote

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×