คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ภารกิจมโน ภาคพิเศษ : One shot >> ก้อยดาว Hormones3
ภารกิจมโน ภาคพิเศษ : One shot >> ก้อยดาว Hormones3
“ถ้าจะเป็นแฟนกันน่ะ...จับมือกันได้ใช่มั้ย?”
ประโยคคำถามเชิงประโยคคำสั่งของก้อย
ก็เล่นยื่นมือมาแล้วอ่ะ...ถ้าฉันส่ายหน้าหรือเดินหนีไปเลย ก็คงจะน่าเกลียด...^>^
ไม่ใช่หรอก...ล้อเล่นเฉยๆ...
เต็มใจมากถึงมากที่สุดเลยล่ะ....
หมับ!
ฉันยื่นมือไปจับมือคนข้างหน้า
บีบมือสร้างความมั่นใจให้แกรู้ว่าฉันจริงใจกับแกมากแค่ไหน
ก้อยยิ้มจนแทบจะเห็นฟันครบทุกซี่ ไม่ต่างกับฉันที่หัวใจพองโต ปลื้มปริ่มสุด ๆ
เราเดินจูงมือกันไปอย่างไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว...แม้สายตาของคนรอบข้างที่มองมาจะทำให้รู้สึกเขิน
ๆ อยู่บ้าง...แต่ต่อจากนี้ไป
ฉันจะพังกำแพงที่ฉันก่อขึ้นเอง
แล้วเดินไปข้างหน้าพร้อม ๆ กับแกนะ
...............
“ฮายยยยย ฮะ.....”
ฉันเสียงดังมาแต่ไกลเมื่อเห็นเพื่อนรักมาถึงที่ห้องเรียนก่อน แต่เหมือนแผ่นสะดุดไปแว่บนึง เมื่อสายตาจับจ้องไปยังมือที่กุมกันอยู่นั่นน่ะสิ
“อ่ะ...เอ่อ พวกแก
ดีกันอีกแล้วนะ”
ฉันถามน้ำเสียงตะกุกตะกัก ท่าทางไม่มั่นใจเท่าไหร่ แต่ตอนนี้รู้สึกมั่นใจกว่าเดิมอีก...
มั่นใจว่าถูก “ทิ้ง”
อีกแล้ว
ก็ก้อยกลับมานั่งที่เดิมข้าง ๆ ดาว....แถมกระซิบกระซาบกันหวานแหวว ....ฉันได้แต่มองเก้าอี้ที่ว่างเปล่าข้าง ๆ
ที่นั่งตัวเอง เหมือนจะยินดีนะ แต่พวกแกนี่ยังไง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ฉันหน้าบู้ใส่ทั้งคู่ ก่อนจะนั่งลงวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ
“แอล ขอโทษนะ”
เป็นก้อยที่หันมาพูด หน้าตารู้สึกผิดนะ....
“เรื่องอะไร ถ้าเรื่องที่แกเปลี่ยนที่นั่ง ไม่เป็นไร
ฉันรู้ตัว...ว่าฉันเป็นแค่คนคั่นเวลา”
ฉันทำเป็นรู้ทัน แอบยิ้มในใจ
นี่พูดแบบนี้เป็นกับเขาด้วยเหรอวะ ฮ่าๆ
ก้อยกับดาวทำหน้าเสีย ...แต่มือที่จับกันอยู่น่ะ เมื่อไหร่จะปล่อยยะ...หมั่นไส้ -__-
“ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะ....จะให้ฉันกลับไปนั่งกับแกก็ได้นะ”
ก้อยไม่พูดเปล่า
ลุกขึ้นเตรียมเก็บกระเป๋าฉันยกมือห้ามไว้แทบไม่ทัน
“เฮ้ย! ไม่ต้องแก ฉันเห็นพวกแกมีความสุข...ฉันก็มีความสุขแล้วแหละ”
ฉันยิ้มให้ทั้งคู่อย่างจริงใจ....ดีเหมือนกัน
บรรยากาศแก๊งเราจะได้กลับมาดีเหมือนแต่ก่อน แต่รู้สึกว่าฉันจะกลายเป็นหมาหัวเน่านะ เพราะดูรังสีที่แผ่กระจายรอบ ๆ
ตัวคู่นี้มันช่างเป็นสีชมพูสดใสเหลือเกิน
อิจฉา!
“ว่าแต่...แม่แกเข้าใจแกแล้วนะ..ดาว”
ฉันถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง...ดาวยิ้มสบตากับก้อยแทนคำตอบ...
“เป็นเบี้ยน...ก็ไม่ยอมรับตั้งแต่แรกว่าเป็นเบี้ยน”
เสียงที่คุ้นเคยดังแทรกขึ้นมา ทำเอาฉันหวั่น ๆ ขึ้นมา กลัวเกิดสงครามกลางห้องอีกจัง
ดาวหันขวับไปยังต้นเสียง...เม้มปากเบา ๆ
ก่อนลุกขึ้นเผชิญหน้ากับคนหาเรื่อง
“เป็น...แล้วหนักหัวแม่แกเหรอคะ”
_>_ เอาแล้วไง....แม้จะมีคำว่าคะ พอให้ประโยคมันเบาลง แต่ตอนนี้หน้าทั้งคู่ไม่เบาใส่กันนะคะ
เพื่อนในห้องเริ่มเห็นความผิดปกติ ก็เริ่มทำตัวปกติของคนสอดรู้สอดเห็น เกิดเป็นไทยมุงเล็ก ๆ สิคะ...
“เฮ้ย! ดาว ใจเย็น ๆ ” ก้อยกระตุกแขนเสื้อดาวไว้
“ไม่รู้มีดีอะไรนักหนา ก้อยถึงเลือกคนที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ จนทิ้งผู้ชายดี ๆ
แบบนั้นได้....นี่เล่นเสน่ห์ป่าววะ”
ปากเนี่ยนะ...กลัวดาวยกโต๊ะฟาดหน้าจังว่ะ...
ดาวกำมือแน่นเหมือนสงบสติอารมณ์
“เอาสิ...อยากตบใช่มะ...จะได้เข้าห้องปกครองอีกสักรอบ” ดิวยิ้มยั่วแบบกวน Teen มาก....
เปรี๊ยะ!
ฉันมองมือตัวเองที่เป็นรอยแดงควบคู่กับรอยฝ่ามือบนหน้าของอีกคน เฮ้ย! นี่ฉันทำอะไรลงไปวะเนี่ย...ดิวมองหน้าฉันขบกรามด้วยความโกรธ
“แอล...แก”
ภาพสุดท้ายก่อนที่ฉันจะหลับตาปี๋คือฝ่ามือของดิวที่เงื้อมาเตรียมจะฟาดฉันเต็มแรง
เปรี๊ยะ!
“ก้อย”
ดาวประคองก้อยไว้ หลังจากถูกฝ่ามืออรหันต์ฟาดเข้าเต็มแรงจนมีเลือดซิบตรงมุมปาก นี่กะจะเอาให้หยอดน้ำข้าวต้มเลยเหรอวะ
“ดิว แกทำเกินไปแล้วนะเว้ย”
ฉันโมโหจัดเลยผลักดิวเต็มแรงจนเซไป ดิวก็ไม่ลดละผลักฉันกลับ
“แล้วทีแกมาตบฉันล่ะวะ...”
“ก็แกมาว่าเพื่อนฉันทำไมวะ...”
“แล้วมา...เสือก..อะไรวะ”
ดิวดึงคอเสื้อฉันไว้ จนเพื่อนในห้องต้องมาช่วยกันแยกออก
“เฮ้ย! พอที”
เสียงก้อยดังขัดสถานการณ์ของฉันกับดิว...
“ฉันกับดาวจะเป็นอะไร...แล้วแกจะมาอะไรวะดิว...ทำไมกัดไม่ปล่อยสักทีวะ”
ดิวหลบตาก้อยที่มองนิ่ง
“การที่เราจะยอมรับว่าเราเป็นอะไรมันก็มีเหตุผลของมันป่าววะ...มันก็มีเวลาของมันมั้ย แกอยากได้คำตอบอะไร อยากให้เพื่อนทั้งห้องรู้เหรอ หรืออยากให้ทั้งโรงเรียนรู้ โอเค...ทุกคน...ตอนนี้ฉันกับดาวเป็นแฟนกัน รักกันมากด้วย
จบนะ”
ก้อยสาดสายตาไปทั่วห้อง
ที่ทุกคนเงียบกริบและพยักหน้าให้อย่างพร้อมเพรียง
รวมทั้งฉันที่ต้องซูฮกให้กับพ่อพระเอกหน้าสวยนี่จริง ๆ
“เอ้า มีอะไรกันเนี่ย....นั่งที่ ถึงเวลาเรียนแล้วนะ”
อาจารย์ฟิสิกส์เดินเข้ามา ทุกคนจึงรีบกลับโต๊ะตัวเองอย่างรวดเร็ว
“แล้วปากเธอไปโดนอะไรมาวิริยา...ไปทำแผล”
........................
“โอ๊ย! เบา ๆ ดาว”
ฉันเลื่อนไม้พันสำลีที่ค่อย ๆ
เช็ดเลือดนั้นลง
ก่อนจะเปลี่ยนใจจี้ลงไปที่แผลเต็มแรง
“โอ๊ย! ดาว เจ็บ!”
ก้อยจับมือฉันไว้ ทำหน้าเหยเก
สงสัยจะเจ็บจริง
“หมั่นไส้....ทำตัวแมนดีนัก...สมน้ำหน้า”
ก้อยจับมือฉันแน่นขึ้น...
“ก็ไม่อยากให้ใครมาว่าแฟนเรานิ...”
ฉันสบตากับก้อย รู้สึกใจกระตุกเมื่อได้ยินคำว่า “แฟน” ...ในที่สุดเราก็เป็นแฟนกันอย่างเปิดเผยซะทีนะ...ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว เพิ่งรู้ว่าการที่ไม่ได้ทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ
มันมีความสุขขนาดนี้ รู้งี้แต่ง fic
แล้วไปวางให้แม่อ่านตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้คาราคาซังมานานขนาดนี้หรอก
“ป่ะ กลับห้องกัน”
ฉันทำลายความเงียบนั้น ก็ก้อยเอาแต่มองหน้าฉันตลอด เขินนะเว้ย...
“แป๊บนึง”
ก้อยรวบฉันเข้ามากอด...
“เฮ้ย! ก้อย...นี่ห้องพยาบาลนะ เดี๋ยวมีคนเห็น”
ครืด!
ก้อยดึงผ้าม่านที่คั่นระหว่างเตียงแต่ละเตียงมาปิด
“แค่นี้...ก็ไม่มีคนเห็นแล้ว”
“เดี๋ยวอาจารย์ถามหา...ป่ะ”
ฉันเริ่มรู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อก้อยใช้จมูกมาคลอเคลียอยู่แถว ๆ
คอฉัน
“แป๊บนึงจริง ๆ นะ”
พอฉันอนุญาต ก้อยก็กดจมูกมาที่ลำคอของฉัน ริมฝีปากก็พรมจูบเบา ๆ ...ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเบาหวิว พลันเสียงก็อื้ออึงอยู่ในลำคอ
“อื้อ!”
ฉันหันตัวไปหาก้อย
เลื่อนริมฝีปากเข้าไปสัมผัสจุดเดียวกันกับอีกคน
ริมฝีปากบนดูดดึงกับริมฝีปากล่างสลับกันไปมา...ก่อนที่ก้อยจะเลื่อนมาซุกไซ้ที่ซอกคอต่อ
ตึ้ง ดึ่ง..
เสียง Line เจ้ากรรมดังขึ้นขัดจังหวะ...นี่ฉันลืมปิดเสียงเหรอวะเนี่ย...
ฉันกับก้อยผละออกจากกันอัตโนมัติ รู้สึกเสียดายนิดหน่อย แต่เผื่อมีธุระจำเป็นก็ต้องดูก่อนแหละ
“พวกแก เสร็จยัง...อาจารย์จะสอบย่อย”
นั่นไง...กขค มาแล้ว....ชาตินี้คงได้กันแหละ...รอบนี้อดค่ะ...
.....................
บรรยากาศสัปดาห์นี้ดูคึกคัก...เพราะกิจกรรมกีฬาสีของโรงเรียนใกล้จะมาถึง น้องนนซึ่งเป็นประธานนักเรียนก็ดูให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเห็นสภานักเรียนเรียกประชุมกันยกใหญ่ ส่วนเราที่เป็นพี่ ม.6
ก็ไม่ค่อยมีส่วนร่วมอย่างเต็มตัวเท่าไหร่นัก
เพราะปีสุดท้ายต่างก็อ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะที่ทุกคนใฝ่ฝันกันทั้งนั้น...
ฉันเองก็เช่นกัน....
วิศวะ คือคณะที่ใฝ่ฝันของฉัน เช่นเดียวกับดาวที่คงจะเรียนในด้านที่ถนัดของเขา โดยเฉพาะด้านการเขียน
แอบนึกไปตอนที่อ่านหนังสือช่วงปิดเทอมที่เบลเยี่ยม ตอนนั้นเหงามาก แถมเฮิร์ท ๆ ที่ไม่ได้คุยกับดาวอีก รู้สึกสมองแปรปรวนไปหมด อ่านอะไรก็ไม่จำสักอย่าง พอเปิดเทอมมาแทนที่เจอกันจะมีอะไรดีขึ้นกลับแย่ลง จนฉันเผลอปล่อยใจให้ผู้ชายคนนั้นไปช่วงหนึ่ง
จุ๊บ!
ฉันถึงกลับหน้าถอดสี
เมื่อรู้สึกว่าการลองใจตัวเองเมื่อกี้มันไม่ได้ผล
มันไม่ได้ทำให้หัวใจฉันพองโตหรือหวั่นไหวสักนิด
เมื่อเทียบกับก่อนหน้าที่ฉันกับดาวจูบกันในฝัน หรือเกือบจะจูบกันจริงในห้องน้ำนั่นอีก
เน็ท
อาจเป็นผู้ชายที่ดีแบบที่ดิวว่านะ
...ฉันก็ไม่ปฏิเสธหรอก
เพราะเวลาที่อยู่ด้วยกันมันก็ดีไม่น้อย...ก็เหมือนกับที่ฉันบอกเน็ทว่า “ฉันชอบเน็ท แต่เน็ทเปลี่ยนฉันไม่ได้”
เน็ท
เปลี่ยนความรู้สึกที่ฉันมีต่อดาวไม่ได้เลยจริง
ๆ....ฉันตื้นตันจนแทบอยากจะร้องไห้
เมื่อดาวขอให้ฉันกลับไปคบด้วย
“ฉันรักแก ...รักแกเหมือนเดิม”
เพียงประโยคเดียวที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพียงแค่ลมปากหรือเปล่า แต่มันก็สั่งการให้ฉันก้าวขาไปบอกเลิกเน็ทได้อย่างทันทีทันได้ เพียงเท่านี้ก็ทำให้รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลแค่ไหนกับความรู้สึกของฉัน
“นัท แกเป็นไงบ้างวะ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาทำลายความคิดเมื่อครู่ ...ฉันหันไปยังเป้าหมาย นั่นคือหนุ่มหัวเกรียนห้องเดียวกันกับเน็ทที่ฉันเคยคุยด้วยเมื่อช่วงปัจฉิมพี่
ม.6 ปีที่แล้ว...
ตอนนี้นัทมีผ้าพันแผลที่บริเวณน่อง ...เห็นว่าโดนคทาของน้องเจน ม.5 ที่ตัวเองจีบไม่ติดแล้วไปปากมอมใส่เขา
....
ฉันส่ายหน้าให้ตัวเอง...และคิดย้อนกลับไปว่าไม่น่าเสียเวลากับคนแบบนี้เลย
แต่ก็ต้องขอบคุณนัทนะที่ทำให้รู้ว่าผู้ชายที่ดีกับไม่ดีเป็นยังไง แล้วสุดท้ายฉันก็ไม่เลือกทั้งสอง เลือกทำตามใจของตัวเอง
แม้ว่าคนที่ฉันเลือก...จะไม่ใช่เพศตรงข้ามกับฉันก็ตาม
“ก้อย...มีคนฝากของมาให้”
เพื่อนต่างห้องยื่นกล่องของขวัญพร้อมการ์ดใบเล็กให้...ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าที่รับไว้แค่อยากประชดดาวเท่านั้น ....ดูดาวซึม ๆ
นะที่เห็นฉันทำท่าดีใจกับของชิ้นนั้น
แต่สุดท้ายดาวก็ไม่พูดอะไร
ฉันจึงตัดสินใจลองคุย ๆ กับคนนั้นดู....
แล้วก็รู้สึกว่า “มันไม่ใช่”
“ก้อย....นั่นดาวใช่ปะ”
“อะไรนะ..”
ฉันเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ เพราะไม่ได้ยินว่านัทพูดอะไร เนื่องจากในงานปัจฉิม วง see
scape กำลังร้องเพลงอยู่ และมีเสียงกรี๊ดกร๊าดจากผู้คนมากมาย
“นั่นดาว...เคยคบกับก้อยใช่ปะ”
ฉันหันไปหาดาว...ที่ยืนเป็น Staff ประจำงานอยู่...
“อือ...ทำไม”
“ก็โมโหร้ายแบบนั้น...มิน่าถึงเลิกกัน
ถ้าก้อยคบกับเรา...เราจะทำให้ก้อยลืมผู้หญิงคนนั้นเลย คอยดูดิ”
ฉันเหลือบมองผู้ชายคนนี้ด้วยแววตาสมเพช....ไม่ต้องคอยดูหรอก...คนที่ดูถูกผู้หญิง
แถมยังเป็นผู้หญิงที่ฉันรักแบบนี้ด้วยแล้ว...พอกันที
“อ้าว! ก้อย”
เป็นเพื่อนนัทที่ทักขึ้นมา...ทำให้นัทหันมาด้วยเหมือนกัน
“กลับไปตีฉิ่งเหมือนเก่าแล้วดิ”
เรียกว่าคำทักทายหรืออะไรดี...คนแบบนี้น่าจะไปคบกับดิวนะ...คงสมกันพิลึก
“ก็คงดีกว่ากีตาร์ขาดแบบนี้แหละ...”
ฉันยิ้มมุมปากเย้ย
ๆ...แล้วเดินไปหาดาวทื่ยืนอยู่ข้างแสตนด์เชียร์ประจำสี
“ไม่ไปดูเน็ทวิ่งล่ะ...วันนี้รอบคัดเลือกด้วย”
ดาวพูดด้วยน้ำเสียงกึ่ง ๆ ประชด
“ไม่ล่ะ...อยู่กับดาวดีกว่า”
ดาวยิ้มให้ฉันตาหยี...พอใจสุด ๆ ...ฉันเลยแกล้งล็อคคอแล้วขยี้ผมด้วยความหมั่นไส้
“ผมยุ่งหมดแล้ว....”
“ยุ่ง...ยังไง ก็น่ารัก”
ฉันกับก้อยสบตากันปิ๊ง ๆ
ประหนึ่งคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งมีโอกาสเปิดเผยตัวตน
“เอ่อ...พี่ก้อย พี่ดาวคะ...รบกวนไปสวีทกันที่อื่นได้มั้ยคะ...น้อง
ๆ บนสแตนด์ไม่มีสมาธิเลยค่ะ”
น้องเฌอแตมบอก
พร้อมหันหน้าไปหารุ่นน้องที่ตอนนี้เอาแต่จับจ้องคู่เรา ฉันมองหน้ากันกับดาวยิ้มเขิน ๆ
...แล้วจูงมือออกไปจากตรงนั้น
.............................
“ดาว”
ฉันหันไปตามเสียงเข้มนั้น...
“อ้าว....พี่ดินมาได้ไง”
เป็นเสียงน้อง ม.5
ทักคนที่เพิ่งทักฉันเมื่อกี้
“เฮ้ย! ไอ้เภา....ฉันมาหาเพื่อน”
ดินหันมาหาฉัน และโบกมือให้....ฉันพยักหน้ายิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะหันมาที่ก้อยที่มองดินตาขวาง
“เป็นไงบ้างดาว ...สบายดีนะ”
เป็นดินที่ทักฉันขึ้นมาก่อน
...ฉันหันไปหาก้อยเหมือนต้องการความช่วยเหลือ แต่ก้อยกลับทำท่าจะเดินหนีจากตรงนั้น ....ฉันจึงรีบคว้ามือก้อยมากุมไว้ จนก้อยขมวดคิ้ว
“อือ...สบายดี ดินล่ะ”
“ก็โอเค...” ดินมองมาที่มือของฉันที่ประสานอยู่กับก้อย ฉันบีบมือก้อยแน่น
ไม่ได้กลัวตัวเองหวั่นไหวนะ...แต่อยากสร้างความมั่นใจให้คนรัก ว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับคนตรงหน้านี้อีกแล้ว
“นี่เราไม่ได้เจอกันนาน...จนหันมาตีฉิ่งแล้วเหรอ.....ฮะ
ฮ่า”
พลั่ก!
เลือดกบปากมั้ยล่ะ....ผู้ชายปากมอมนี่มันเยอะจริง
ๆ นะ...ก้อยสะบัดกำปั้น
แล้วขยุ้มคอเสื้อของคนโดนชกเมื่อกี้
“เพราะบนโลกนี้มันมีผู้ชายแบบแกไง...ผู้หญิงเขาถึงไม่เอา โลกมันไปถึงไหนแล้ว ปี 2015 แล้วนะเว้ย! เหยียดเพศอยู่ได้...น่ารำคาญ”
ก้อยผลักดินจนล้มไปกองกับพื้น....แล้วหันไปบอกรุ่นน้อง
“พารุ่นพี่ของน้องออกไปจากที่นี่ซะ...ถ้าไม่อยากโดนอีกคน” ก้อยชี้หน้าจนน้องที่ชื่อเภาดูขยาดไปเหมือนกัน...
“ครับ ๆ”
“ไปดาว” ก้อยกึ่งจูงกึ่งลาก ฉันหันไปมองหน้าดินที่ดูเจ็บใจใช่เล่น ....ฉันเลยแลบลิ้นใส่ทีนึง ข้อหาแกว่งเท้าหาเสี้ยน ^>^
..................
“นี่หึงเหรอ”
ฉันแกล้งยียวนคนทำตัวแมนเมื่อครู่
“เออ...หึง”
ก้อยพูดเสร็จก็นั่งลงกับม้าหินอ่อน...ทำหน้าไม่สบอารมณ์ ฉันจึงใช้นิ้วชี้จิ้ม ๆ ไปที่ระหว่างคิ้ว
“คิ้วขมวดแล้ว...แก่เร็วนะ”
ก้อยยังทำหน้ามุ่ย...ฉันเลยงัดไม้เด็ด
“เดี๋ยว...คืนนี้ไปอยู่เป็นเพื่อนนะ...พ่อไม่อยู่บ้านไม่ใช่เหรอ?”
ชี้โพรงให้กระรอกมั้ยล่ะตู...ก้อยทำตาเป็นประกาย...
ไอ้หื่น เอ๊ย!
“ตอนแรกชวนยังไงก็ไม่ไป”
“ก็อยากไปแล้วไง....ทำไม หรือจะไม่ไปดี”
ฉันแกล้งงอนบ้าง...
“โอ๋ๆ ...ไป ๆ”
เป็นก้อยที่ต้องง้อล่ะทีนี้
“ขอโทษนะคะ...พี่ก้อย พี่ดาว
ปังขอพื้นที่ทำอุปกรณ์เชียร์หน่อยได้มั้ยคะ”
ฉันหันมองข้าง ๆ
ที่รุ่นน้องหลายคนเตรียมตัวกันทำอุปกรณ์เชียร์กันเต็มที่
“ให้พี่ช่วยมั้ยคะ”
.................
“เฮ้ย! นวดดี ๆ ดิ...”
ฉันบิดตัวไปมาด้วยความเมื่อยล้า...หลังจากที่ไปนั่งทำอุปกรณ์เชียร์ช่วยน้อง
ๆ ด้วยน้ำใจของดาวที่ทำตัวเป็นนางเอก เมื่อตอนเย็น
ซึ่งตอนนี้ฉันมีนักกายภาพบำบัดส่วนตัวผู้เชี่ยวชาญในการนวดมานวดให้ด้วยนี่สิ...แต่ดูเหมือนจะพลังช้างสารเกินไปแล้วนะ
“จะบีบแรงกว่านี้อีก...หว่านเสน่ห์ไปทั่ว”
“อ๊ากกก! ดาว...เบา ๆ หว่านอะไรล่ะ...ก็น้องปังเขาหาของไม่เห็น ก็แค่เอื้อมมือไปหยิบให้แค่นั้น”
“แล้วจำเป็นต้องเอามือโอบไปข้างหลังแบบนั้นมั้ยล่ะ...บอกน้องเขาหันไปเอาเองก็ได้”
เห็นคนตรงหน้าทำหน้ามุ่ยแล้วก็อดขำไม่ได้ ฉันหัวเราะเบา ๆ
“นี่...หึง?”
“ไม่ได้หึง....”
“แล้ว....”
“หวง....”
ฉันมองหน้าดาวที่ดูจริงจัง...น่ารักดีแฮะ
...ฉันเลื่อนมือไปเกลี่ยผมที่ปรกหน้าออกแล้วเหน็บผมไว้ข้างหู
“จริงเหรอ”
“หวงมาก”
ฉันอมยิ้ม...แล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์
“เดี๋ยวให้รางวัล”
“รางวัลอะไร”
“รางวัลคนขี้หวง”
“อะไร?”
“อยากรู้ปะ”
“อยากรู้”
“ขอ NC ข้างล่างนะคะ”
........................
เป็นตอนพิเศษนะคะ...คิดพล็อตตอนหลักไม่ออก
ฮ่าๆ เดี๋ยวมาต่อทีหลัง
เอาตอนนี้ไปเป็นน้ำจิ้มก่อนเนาะ....เพราะไม่มีเวลาแต่งเลย นี่แค่หากำลังใจจากการทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ
อิอิ...ยังไงก็ติดตามกันเน้อ...
NC ตอนเดิม ก็ขอมาได้นะคะ...ถ้ามีเวลาก็จะส่งให้...
ส่วน NC ตอนนี้ ขอ Comment คนละ 3
คำ พร้อมเมลล์ เดี๋ยวส่งให้นะคะ >>> บ๊ายยย บายยยย
ความคิดเห็น