คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : chapter 7
“โถ่ ไอคุณว่าที่ทนาย ไม่เห็นหน้าเห็นตาตั้งหลายเดือนนึกว่าตายห่าไปแล้วซะอีก”
ชานว่าพลางเดินเข้าไปหาร่างที่นอนนิ่งฟุบอยู่กับกองหนังสือบนโต๊ะ แล้วหยิบหนังสือที่กองสุมๆมั่วซั่วกันอยู่มาจัดให้เป็นกองๆ
“เป็นมึงนี่ก็ดีเนอะ อยากเป็นเชี่ยอะไรก็ได้เป็น ดูกูดิ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากูอยากเป็นอะไร เรียนตามไอแทคไปก็เท่านั้น มันเรียนแล้วก็ได้ทำงานกับพ่อมัน แล้วกูเป็นเชี่ยอะไรต่อกูยังไม่รู้เลย บางทีกูก็คิดนะว่าอาชีพโจรเหมาะกับกูที่สุดละ”
ชานพล่ามยาวราวกับว่าเพื่อนที่อยู่ตรงหน้าจะตื่นมาสนทนาด้วย ก็ไม่ได้อยากคุยด้วยสักเท่าไหร่หรอก แค่อยากระบาย อยากบ่นให้ฟังเท่านั้นเอง มันจะตอบไม่ตอบก็เรื่องของมัน
“กูก็ว่างั้นแหละ”
อยู่ๆเพื่อนชานก็ตอบขึ้นมาทั้งที่ยังฟุบอยู่ เค้าแค่ง่วงและยังงัวเงียมาก แต่ก็รู้ว่ามีหมามาครางงุ้งงิ้งๆ บ่นอะไรก็ไม่รู้อยู่ในห้องของตน
“ตื่นแล้วหรอมึง ไง?”
“ไง? ไงอะไรมึง?”
ใบหน้าของเพื่อนชานตั้งชันกับแขนพร้อมด้วยดวงตาที่กึ่งหลับกึ่งตื่น และคิ้วที่ขมวดจนแทบจะเป็นปม สื่ออาการงงๆว่าไอชานมันถามอะไร
“มึงไง”
“อะไรของมึง มึงเมาป่าววะ?”
“มึงนั่นแหละ ไอห่าจินอุน ตื่นได้แล้ว งัวเงียอยู่ได้”
ชานว่าพลางตบกะโหลกเพื่อนไปทีนึงเพื่อให้มันตื่น แล้วเจ้าตัวก็ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะที่เพื่อนใช้ฟุบอยู่
“มีอะไร?”
จินอุนพยายามเรียบเรียงสติตื่นมาคุยกับชานซองที่กำลังจะนั่งทับหัวตัวเองอยู่แล้วด้วยอาการมึนๆ
“ไม่เห็นมึงที่ร้านเลย เดี๋ยวก็เจ๊งหรอก ลูกจ้างซุกเงินแดกหมดนะเว่ย”
“อ้าว ไอนี่ ปากมึงนี่เนอะ”
จินอุนว่าพลางเอานิ้วแหย่ร่องก้นชานซองที่วางอยู่ข้างๆหัวตัวเองจนชานแทบจะดิ้นล่วงจากโต๊ะ
“ก็จริงนี่หว่า หายไปไหนของมึงห้ะ?”
“ก็อ่านหนังสือเตรียมสอบนี่แหละมึง อีกไม่กี่วันก็จะจบอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็นั่งทำงานชุดใหญ่มาก กูแทบตาย ตอนนี้ก็เบาลงและ”
“ถ้ามึงจบแล้วอย่าลืมไปเคลียร์คดีกูตอนกูโดนจับนะเว่ย”
“คงจะได้หรอก เท่าที่ว่าที่ทนายคนนี้ได้ศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว เคสมึงอ่ะ โทษประหารสถานเดียวครับ”
“แต่มึงเป็นเพื่อนกูนะเว่ย ต้องเคลียร์ให้กูดิ”
“หึหึหึ กูว่าทางทีที่ดีมึงอย่าโดนจับเลย ถ้ามึงโดนจับมึงก็ชิงฆ่าตัวตายไปก่อนได้เลย ยังไงก็ไม่รอด”
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
ชานซองแทบจะทรุดฮวบเมื่อเจอกำลังใจจากเพื่อนจองจินอุนที่ให้มาเต็มๆ ไม่ช่วยแล้วยังซ้ำอีก
“แล้วนี่มึงมาทำไม”
“ป่าว ช่วงนี้ชักเริ่มว่าง พี่เจย์แกเคลียร์เรียบเลย ถ้ากูยังทำต่ออีกเดี๋ยวงานหมด”
“เฮอะ ไอบ้า”
“มึงกูเหงาอ่ะ เมียกูไม่มาหาเลยว่ะ ยุ่งเพราะพี่เจย์นั่นแหละ เค้าเลยไม่มีเวลาเลย”
“เลยมาหากูว่างั้น? เห็นกูเป็นตัวสำรองหรือไง กูไม่ใช่เมียน้อยมึงนะ”
จินอุนพูดแหย่ชานเล่นแต่ก็เรียกอาการขนลุกได้ไม่น้อย เมียอ่อ? ตัวใหญ่ๆควายๆอย่างจองจินอุนเนี่ยนะ? ไม่ไหวมั้ง
“หึย อย่าพูดจาชวนขนลุกอย่างนั้นดิ กูแค่หาเพื่อนคุยเฉยๆ”
“แล้วพี่แทคไม่คบมึงแล้วหรือไง”
“โอ๊ย ขานั้นเค้าสวีทวี๊ดวิ้วกับเมียเค้าโน่น ไม่สนใจกูเลย”
“งั้นมึงก็ไปอ่านหนังสือ เดี๋ยวมึงก็สอบแล้วนี่”
“อย่าพูดเรื่องนี้เลยมึง ให้กูอ่านเนี่ยนะ ให้นอนหลับในอ่างจากุ๊ชชี่พร้อมเพลงเบาๆยังยากกว่าเลย งั้นกูกลับก่อนนะ แล้วเจอกันในศาลเว้ย”
“เอ๊า ไอบ้า ที่อื่นมีไม่เจอ มึงอยากไปนักหรือไงศาลเนี่ย”
“ก็มีรางว่ะ ฮ่าๆ แล้วเจอกันเว่ย”
..........................................................................................
“เฮียนึกบ้าอะไรของเฮียเนี่ยห้ะ ถึงได้พาผมมากินข้าวเที่ยงเนี่ย”
“มากินข้าวเที่ยงกับนายต้องเป็นคนบ้าด้วยหรอ?”
“ไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย”
อูยองว่าพลางยู่จมูกใส่คนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะอาหารด้านหน้าของตน วันนี้อูยองมีเรียนแค่ภาคเช้าเท่านั้น เลยโดนจุนซูพามากินข้าวที่ร้านเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันเลยน้า~
“จริงๆแล้วไอชานมันแนะนำมา”
“หรอ?”
“อื้ม”
จุนซูตอบพลางตักอาหารให้อูยองก่อนจะตักข้าวเข้าปากตัวเองแล้วเคี้ยวๆ
“น่าจะชวนพี่คุณมากินด้วยกันเนอะ”
“อึก~ จะบ้าหรือไง!! มาเดตนะเฟ่ย!”
จุนซูแทบจะกลั้นข้าวในปากไม่ให้พ่นใส่หน้าอูยองไว้ไม่ไหว แล้วทำไมต้องมีชื่อบุคคลที่สามในโต๊ะอาหารด้วยเล่า นั่นไม่เท่าไหร่ แต่เฮียแกหลุดปากไปแล้วว่าพาอูยองมาเดตแบบไม่ให้เค้ารู้ตัว แต่ชานไม่บอกหรือไงว่าถ้าเป็นดินเนอร์จะดีกว่า เล่นตอนเที่ยงกลางวันแสกๆขนาดนี้แล้วจะมีอะไรต่อได้อย่างไร? เฮียพลาดแล้ว
“ฮึ?”
ดูเหมือนอูยองกำลังช็อก
“ช่างเถอะ”
“โกรธหรอ??”
อูยองถามแล้วเอานิ้วชี้เรียวเล็กเอื้อมไปจิ้มๆแก้มคนด้านหน้าที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวแล้วทำหน้านิ่ง นอกจากนิ่งแล้วยังปัดมือเล็กออกจากหน้าตนอีกด้วย ท่าทางจะโกรธจริงแฮะ
“ชอบเค้าหรือไง?”
จุนซูถามด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนน้อยใจ
“อื้ม หน้าตาน่ามอง หล่อโคตรพ่อ น่ารักโคตรแม่”
“แล้วถ้าเค้าเป็นพวกอยู่ล่างอ่ะ?”
“ไม่เห็นเป็นไร ผมอยู่ล่างเค้าอีกทีก็ได้”
“เฮียกับเค้าใครหล่อกว่า”
“พี่คุณ”
จุนซูถอนหายใจเฮือกเพื่อไล่อารมณ์ร้อนแล้วถามคำถามต่อไป
“ใครน่าคบกว่ากัน”
“พี่คุณ”
ดูเหมือนจุนซูจะพยายามคูลดาวน์ให้มากที่สุด ก่อนจะยิงคำถามยับ
“เดินกับใครแล้วคิดว่าตัวเองดูดี”
“พี่คุณ”
“เฮียกับเค้าใครน่ามองกว่า”
“พี่คุณ”
“ใครดูแย่ในสายตานาย”
“เฮีย”
“อูยอง!!!!”
“ว้ากกกก ว้อเว่นนนน โอ๋ๆ ใจเย็นใจเย็น ก๊องแก๊ง ก๊องแก๊ง”
“ไอเด็กบ้า โกรธจริงนะเว่ย”
“โอ๋ ลุงอ่ะ ขี้ใจน้อยไปได้ แก่แล้วอย่าแก่เลยสิ”
“ไออูยอง!”
“ล้อเล่นนนนนน จริงๆผมก็ชอบพี่เค้าจริงๆนั่นแหละ แต่ก็อย่างว่า พี่เค้าอยู่ล่าง”
“หมายความว่าไง ถ้าเค้าอยู่บนนายก็ไม่มีเฮียในตัวเลือกเลยงั้นสิ?”
“ประมาณนั้น”
“ชิ อยู่ล่างได้ก็อยู่บนได้เหมือนกันแหละเว่ย จะอยู่ล่างหรืออยู่บนมันก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ถ้านายเลือกมันก็ไปเลยไป”
“โหยยยยยย โกรธจริงนะน่ะ ทำไมต้องโมโหขนาดนั้นด้วย ชอบผมหรือไง?”
จุนซูทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนแล้วไม่ตอบอะไร ส่วนอูยองก็ง้อด้วยการตักโน่นนี่นั่นให้ยกใหญ่ แล้วเอ็นเตอร์เทรนสารพัดให้เฮียหายโกรธ ตอนแรกก็ยังนิ่งได้ แต่ไม่กี่นาทีต่อมาก็กลายเป็นว่านั่งหัวเราะคิกๆคักๆไปกับอูยองซะแล้ว คนที่ทำท่าโกรธกระฟัดกระเฟียดเมื่อกี๊ไปไหน
RRRrrrrrr RRRrrrrrr
“โทรมาไมวะ อูยอง แป๊บนะเดี๋ยวเฮียมา”
“ครับ”
จุนซูเดินออกมารับโรศัพท์นอกร้านด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดี คนกำลังมีความสุขจะโทรมาทำไมตอนนี้วะ
“ครับ”
(เรื่องโคชอนน่ะ)
“ครับ พี่เจย์เค้าจะเป็นคนจัดการครับ”
(มันย้ายมาส่งของวันนี้นะ ผมโทรหาน้องคุณแล้วแต่เค้าไม่รับ ส่วนพี่ของคุณเค้าก็คงไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉะนั้นผมฝากคุณด้วยแล้วกัน แล้วก็เพราะมันเป็นงานด่วน ผมให้คุณเพิ่มอีกสองเท่าเลย)
“โอเคครับ ผมขอรายละเอียดด้วย”
(สถานที่ที่เดิม เวลาเดิม เพียงแต่ย้ายมาเป็นวันนี้)
“อีกครึ่งชั่วโมง?”
(ใช่ ฝากคุณด้วยแล้วกัน)
จุนซูวางสายแล้วเดินกลับเข้าร้านอย่างเซ็งๆ ถ้าอีกครึ่งชั่วโมงก็ต้องออกไปเวลานี้ ก็ต้องจากอูยองแล้วสิ บ้าจริงๆเลย พึ่งจะได้หัวเราะด้วยกันเมื่อกี๊เอง
“อูยอง เฮียมีธุระอ่ะ”
“โห่~ ไรอ้า~”
“อย่าโวยวายน่า อยากจะนั่งเล่นกี่ชั่วโมงก็นั่งไปเลย เดี๋ยวเฮียจ่ายเอง ถ้าเสร็จธุระแล้วจะโทรมาตามไปทำงานนะ”
“คร้าบบบบบ”
“ฝากกุญแจรถด้วยถ้ามีปัญญาเอากลับก็เอากลับให้ด้วย ถ้าไม่มีก็เฝ้าไว้ล่ะ”
“คร้าบบบบบบบบบบ”
ตกลงอูยองเป็นเด็กฝึกงานดนตรีของเฮียแน่นะ ดูบทบาทมันจะเพี้ยนๆไปหน่อย ทำไมไปฝึกงานดนตรีต้องไปปัดกวาดเช็ดถู กินข้าวกับเจ้านาย หัวเราะ มีความสุขกับเจ้านาย ถ้าเรียนจบแล้วจะได้อะไรบ้างมั้ยเนี้ย
จุนซูเลือกที่จะเดินทางโดยใช้วิธีของเค้าไปทำงานที่อยู่ในตัวโซล มันเร็วกว่ารถสปอร์ตเยอะเลย ท่ามกลางใจกลางกรุงโซลที่มีตึกมากมายเรียงรายกันจนแทบจะไม่มีที่จะงอกใหม่อยู่แล้ว นั่นแหละทางของจุนซู
เค้าก็แค่เลือกตึกที่มีระยะเรียงๆกันเยอะหน่อยแล้วลักลอบเดินเข้าไปในตึกแล้วกดลิฟต์ไปชั้นสุดท้าย แล้วขึ้นบันไดไปดาดฟ้า จากนั้นก็มีอุปกรณ์ในกระเป๋านิดหน่อยช่วยให้เค้าโดดข้ามตึกได้ไม่พลาด แค่นั้นเค้าก็ข้ามตึกไปเรื่อยๆชิวๆ มันเร็วกว่ารถอีกนะ เพราะมันไม่ต้องติดไฟแดง แถมอยากจะวิ่งไปทางไหนก็ได้ ไม่ต้องไปอ้อมถนนด้วย
ไม่นานนักเค้าก็ถึงดาดฟ้าที่นัดหมายของลูกค้าเค้าแล้ว จุนซูซุ่มอยู่สักพักก็แค่รอให้เค้าส่งของกันเสร็จจนคนเริ่มแยกย้ายก็ลงมือได้
“ทำไมถึงเปลี่ยนเวลากะทันหันล่ะ ผมเกือบมาไม่ทัน”
“ก็ขนาดคุณยังมาแทบไม่ทันเลย คนอื่นที่เพิ่งรู้ข่าวเราจะมาทันได้ไง รีบๆเถอะ”
“อืม”
‘แต่ฉันว่าฉันทันนะ’
จุนซูรอให้คนที่มาส่งของนั่นรับเงินแล้วเดินลงไป แล้วเริ่มไล่เก็บลูกน้องๆรอบๆตัวเจ้านายไอ้พวกนั้นทีละคน ลูกน้องเองก็เลิ่กลั่กหาแนวกระสุนเพื่อจะจัดการคนยิง แถมยังยิงสวนจุนซูมาอีก ยิงทำไมกัน ขี้เกียดหลบ แต่ยิ่งเข้ามาใกล้แนวกระสุนก็ยิ่งโดนยิงตายไปเฉยๆ แล้วก็ยังวิ่งป้องกันเจ้านายกันใหญ่ บ้าป่าววะ? ไปปกป้องทำไม ตายเหมือนกันแหละโว๊ะ! เปลืองสุน
จุนซูไล่เก็บจนมาถึงคนสุดท้ายคือคนที่เค้าออเดอร์มา
ใบหน้าเข้มกระตุกยิ้มแล้วเปลี่ยนกระบอกปืนให้เป็นขนาดพิเศษเพื่อบ่งบอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นลูกค้าของบ่ายสอง จุนซูเดินออกมาจากที่ซ่อนตัวและขยับก้าวเข้าไปใกล้ตัวลูกค้าเรื่อยๆ โดยที่ปลายกระบอกปืนกระบอกใหม่ก็ยังมีองศาพิกัดอยู่ที่หัวลูกค้าอยู่อย่างนั้น
“นัมจองเค้าออเดอร์คุณมาน่ะ”
ปัง!
จบประโยคปืนของจุนซูก็ทำงานทันที ไม่มีอะไรมาก จะตายแล้วก็แค่อยากให้รู้ว่าใครสั่งมา เผื่อชาติหน้าจะได้ตามไปล้างแค้นกันถูก
ไม่กี่วิจากนั้นจุนซูก็เริ่มได้ยินเสียงฝีเท้านับสิบกำลังขึ้นบันไดมาที่ดาดฟ้า จนทำให้จุนซูต้องย้ายร่างตัวเองไปอยู่บนดาดฟ้าของตึกข้างๆทันที ก่อนจะหันกลับไปมองกลุ่มบุคคลที่ขึ้นมาทำงานของตัวเองบนดาดฟ้านั้น เค้าไม่ใช่ใครที่ไหนเลย
“อีจุนโฮ หึหึ”
จุนซูได้แต่ยืนหัวเราะให้กับชีวิตตัวเองที่น้องชายต้องมารับผิดชอบคดีของตนเอง ทำไมชีวิตมันถึงได้ตลกบัดซบขนาดนี้นะ แล้วมันจะไม่เป็นอย่างนี้เลย ถ้าวันนั้นเค้าห้ามจุนโฮไม่ให้เลือกเรียนตำรวจได้
จุนซูกลับมาจนถึงดาดฟ้าของสตูตัวเองแล้วลงลิฟต์ไปชั้นล่าง ก็เห็นว่ารถเค้าจอดหน้าตึกเรียบร้อยแล้ว อูยองเอารถมาไว้สินะ
จุนซูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอูยองเพื่อจะตามให้มาทำงานเพราะเค้ากลับมาแล้ว
“ฮัลโหล นายอยู่ไหนอ่ะ?”
(แล้วเฮียอยู่ไหนอะ?)
“อยู่สตู จะโทรตามให้นายเข้ามาทำงานได้แล้ว”
“ว่าไงนะ!!!??? เฮียมาทางไหนกัน ผมนอนมองหน้าสตูอยู่”
ร่างสูงเดินคุยโทรศัพท์แล้วเดินเข้าห้องตัวเองเพื่อจะไปนอนรอเด็ก(ฝึกงาน)ของเค้า
“ทางไหนก็เรื่องของฉันน่า เฮ้ย!? แล้วนายนอนมองอยู่ตรงไหน??”
จุนซูปิดประตูแล้วยังก้มหน้าก้มตาเดินเขี่ยพรมเล่นอย่างเซ็งๆเข้าห้อง
“ตรงนี้ไงเฮีย”
“เฮ้ย!!”
อูยองโบกไม้โบกมือให้แล้วห้อยหัวลงมายิ้มแป้นแล้นให้เจ้านายจากช่องของฝ้าบนเพดาน โชคดีมากที่เพดานห้องนี้ ถ้าห้องอื่นคงเจอของสำคัญแน่
“เฮียบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเข้ามา”
“ก็ผมเบื่อนี่นา ก็เลยขับรถเฮียมาไว้ให้ แต่ก็อดเข้ามาตากฮิตเตอร์ไม่ได้ พอเข้ามาผมก็เซ็ง เฮียบอกไม่ให้ผมเพ่นพ่านผมก็เลยเข้าห้องที่เฮียให้ผมเข้าทุกวัน เพราะคงไม่โดนดุมาก แต่แล้วผมก็เจอช่องประหลาดที่เปิดพะงาบอยู่ พอปีนขึ้นมา โอ้ มา ก๊อด! มาเรียเต็มเกลื่อนกลาดมาก”
“มาเรียไหนวะ?”
“มาเรีย โอซาว่าไง ผมดูไปสองแผ่นละ กำลังขึ้นมาหาแผ่นที่สามแหล่มๆ ดูด้วยกันสิเฮีย”
“มาเรียไหนของมันวะ?”
“นู่นไง แผ่นนั้นก็ยังไม่ค่อยจบดี แต่ผมอยากดูแผ่นต่อๆไปแล้วอ่า ยังพอสไว้อยู่เลยแผ่นนั้นน่ะ”
ร่างสูงมองตามมือที่เด็กน้อยชี้ไปที่ทีวี โอเอ็มจี ไอเด็กบ้า แกกล้ามาก!!
“นั่นมันมิยาบินี่”
“ก็ผมเรียกมาเรียนี่ ก็เค้าชื่อมาเรียอ่ะ รายชื่อนักแสดงก็เขียนว่ามาเรีย เฮียไม่เคยอ่านหรือไง”
อึก~
จุนซูกลืนน้ำลายลงคอก้อนใหญ่แล้วมองหน้าเจ้าเด็กผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ที่เค้ารักมาตลอดตอบหน้าตาเฉยแล้วค้นหนังต่อ รู้แม้กระทั่งชื่อจริงของมิยาบิ แปลว่าดูบ่อยและเห็นชื่อนักแสดงปรากฏแน่ แกใสจริงป่าววะ?
“อูยอง ลงมาเถอะ เฮียใจจะสลายแล้ว”
“ฮะ? ว่าไงนะ? ช่างมันก่อนเฮีย เฮีย แผ่นพวกนี้เฮียดูหมดแล้วหรอ? ผมว่าเฮียเป็นแฟนตัวยงของมาเรียเลยนะเนี่ย เฮียมีแผ่นเกือบครบแน่ะ ขาดอีกแค่ประมาณ15แผ่นเอง ครบเลย”
‘บ้าเอ๊ย ฉันยังไม่รู้เลยว่าเค้าเล่นมากี่เรื่องฉันก็ซื้อมาอย่างนั้นแหละ แต่แกสิรู้ว่ากี่เรื่อง แน่นกว่าฉันอีก’
“อูยอง ลงมาเถอะ เฮียจะบ้าตายอยู่แล้ว”
“ว่าไงนะเฮีย อยู่บนนี้ได้ยินไม่ชัดเลย เอาไว้ก่อน ผมถามเฮียว่าดูหมดยัง ถ้าเรื่องไหนยังไม่ได้ดูจะได้มานั่งดูด้วยกัน ว่าไงเฮีย ครบยัง?”
‘ยังมีหน้ามาชวนดูด้วยกัน ถ้าฉันเกิดอารมณ์เกิดโทษฉันไม่ได้นะ แค่ภาพที่มันพอสไว้นั่นก็สยิวเกิ๊นแล้ว’
“ยัง ซาโอริน่ะออกใหม่ พึ่งซื้อมายังไม่ได้ดูเลย”
“มิน่าล่ะ เอาไว้หน้าสุดเลย”
‘กรรม มันรู้จักอีก T^T ผมอยากร้องไห้ ทำไมเด็กคนนี้ถึงเชี่ยวชาญปานฉะนี้’
“เฮ้ยเฮีย ทาคุมิ! เฮียดูด้วยหรอ”
“เฮ้ย!! ไหนวะ?”
จุนซูรีบโหนตัวขึ้นช่องฝ้าบนเพดาลตามอูยองไปทันทีที่ได้ยินชื่อชายคนนี้
“เฮ้ย มาไง?”
“แถมป้ะ? เนี่ยเฮียซื้อมาจากร้านนี้ เค้าซื้อ5แถม1ไม่ใช่หรอร้านนี้น่ะ แล้วแผ่นซาโอริและเพื่อนๆนี่พึ่งออกมาใหม่เองไอ5แผ่นเนี้ย เค้าคงแถมอะดิ”
‘คุณ
“ไม่หรอกมั้ง ของไอชานแน่เลย มันคงเอามาดูที่นี่อ่ะ”
“หรอ... ชานเล่นแรงนะเนี่ย”
แรง...งั้นหรอ? ไม่รู้เว้ย จุนซูก็ไม่เคยดู ก็อย่างที่บอก แผ่นของชานจริงๆ แบ่งๆกันดูทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละ แต่ไอเด็กหน้าใสข้างหน้าจุนซูนี่สิ ไม่น่าให้มันดูหรอก
“อูยอง...”
“ฮึ?”
“ทำไมนายรู้ดีจัง นายเคย...ยัง?”
“ฮะ?”
“แล้วทำไมนายรู้ดีจังล่ะห้ะ? ไม่ใช่เรื่องของเด็กอย่างนายเลยนะ”
“เฮียก็ เด็กเดิกอะไรกัน ชานยังดูได้เลย”
“ก็นั่นมันเด็กแก่แดด แต่นายมันเด็กน่ารัก ทำไมถึงทำอย่างเน้~”
“ก็ชอบอ่ะ!!!”
อูยองตอบแนวโวยวายใส่เจ้านายจนจุนซูเริ่มสู้แรงโวยวายของเด็กนี่ไม่ไหว เลยเปลี่ยนเรื่องถามดีกว่า
“ถ้านายชอบมิยาบิแล้วนายจะชอบ....ทำแบบ...........”
“แบบไหน?”
“แบบทาคุมิมั้ย?”
“เฮียถามอะไรน่ะ!!!????”
“เฮ้ย! โกรธหรอ เฮียแค่สงสัย”
“โกรธทำไม ผมแค่ไม่เข้าใจคำถาม”
“อ้าววว ก็ทำแบบ....แบบนี้อ่ะ”
มือหนาเอื้อมไปจับแก้มนิ่มไว้ก่อนจะเป็นฝ่ายโน้มตัวไปหาแล้วบรรจงกดเม้มกีบปากลงปากบางแนบแน่น ตอนแรกแค่จะทำตัวอย่าง แต่ถ้าถึงขนาดนี้แล้วมันอยากต่ออ่ะ ไฟบนหลังฝ้าก็ไม่มีแน่นอนมีแต่ไฟในห้องข้างล่างที่ส่องขึ้นมาแบบสลัวๆชวนให้ต่อ ปากหนายังคงบดขยี้อยู่อย่างนั้นจนปากแดงที่ถูกกดเริ่มเผลอเผยอปากออกจนทำให้ลิ้นเข้าไปในปากของเจ้าของร่างเล็กได้อย่างง่ายดาย ลิ้นหนาก็โกยความหวานโกยเอาๆทั้งๆที่อูยองกำลังงงกับตัวอย่างอยู่เลย แต่ก็ยอมให้ลิ้นของเจ้านายไล่รุกเขาไปในปากเค้าอย่างไม่ลดละแต่โดยดี จนคนตัวเล็กเริ่มกำไหล่ของจุนซูแน่น และเริ่มจิกเล็บลงไปเพราะเริ่มขาดอากาศหายใจแล้ว
“แฮ่กๆ”
จุนซูยอมผละออกทำให้ร่างเล็กหอบไปสักพักแต่ดูเหมือนคนที่ลั้นลาและชอบใจที่สุดเห็นจะเป็นเจ้านายเค้านะ ถ้าอูยองปล่อยให้มีเสียงรอดออกมาด้วยล่ะก็ มีต่อแน่
“แบบนี้อ่ะ เข้าใจยัง?”
อูยองมองหน้าคนที่ยังพูดจาแหย่ตัวเองตาขวาง ยังมีน่ามาพูดจาแบบนี้อีกหรอ แต่ก็โกรธได้ไม่นานไม่รู้ทำไม
“ตอบนะ ผมชอบดูมาเรียแต่ไม่ชอบทำ ส่วนทาคุมิผมไม่ชอบดูหรอก แต่ผมอยากทำเองมากกว่า เคป้ะ?”
พอตอบจบใบหน้าที่แดงฉาดนั่นก็หันหนีเจ้านายแล้วรีบกระโดดลงไปข้างล่างแล้วไปนั่งกอดเข่าหน้าแดงอยู่โซฟา ทั้งๆที่ตอนแรกจะโกรธแท้ๆ ไหงทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ เขินชะมัด พอลงมาก็ต้องมาจ้องกับภาพสุดสยิวของมิยาบิที่เค้าพอสไว้เองกับมืออีก อารมณ์โกรธยิ่งหายากเข้าไปใหญ่
ข้างบนมีรีโมทอยู่ตัวนึง บางทีจุนซูก็นอนดูอยู่บนนี้เพราะขี้เกียดลง มันทำให้ตอนนี้รีโมทตัวนั้นอยู่ในมือของผู้ชายคนนี้แล้ว จุนซูเหยียดยิ้มให้อูยองอยู่ด้านบนแล้วกดเพลย์ให้ภาพนิ่งได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง เด็กน้อยที่กำลังนั่งกัดเล็บนิ้วโป้งอยู่อย่างเขินๆถึงกับหยุดและเริ่มตาลุกวาวอีกครั้ง เค้าโดนแกล้งชัดๆ
จุนซูถือมาอีกสี่ห้าแผ่นแล้วโดดตามลงมาแล้วมานั่งดูข้างๆอูยอง อูยองที่กำลังจ้องตาไม่กระพริบ ไม่รู้ว่าในใจอูยองคิดยังไง ทั้งๆที่ชอบทำแบบทาคุมิ แต่ทำไมชอบดูมิยาบินักล่ะ?
อูยองยิ่งตัวแข็งเข้าไปใหญ่เมื่อรับรู้ว่ามีคนมานั่งกระแซะข้างๆ เหตุการณ์จะไม่มีอะไรบานปลายเลย ถ้าแผ่นต่อไปไม่ใช่ชายชาย
แผ่นมิยาบิเดินทางมาถึงจุดสุดก็ตอนใกล้จบ แซ่บจนนั่งช่วยตัวเองแล้วน้ำแตกกันทั้งคู่ แต่พอมันจบก็มานั่งเขินกันเองทั้งคู่ แต่แผ่นต่อไปที่ไม่น่าจะรับเชิญมาตอนนี้ก็เริ่มเล่นขึ้น อูยองเป็นคนเอาไปใส่ไว้เองนั่นแหละ เพราะเค้าไม่ได้เลือกว่าจะดูอะไร และไม่คิดว่าเหตุการณ์มันจะอะไรอะไรถ้าตาเฮียที่นั่งอยู่ข้างๆนี่ยังไม่มา
“เฮีย ผมปิดนะ แผ่นนี้อันตราย”
หมับ
จุนซูรีบคว้าแขนเจ้าตัวเล็กไว้แล้วดึงให้กลับมานั่งที่เก่า
“อันตรายยังไงอ่ะ? แผ่นนี้มันต้องสนุกกว่าแผ่นเมื่อกี๊สิ”
ไม่ใช่ไม่รู้ว่าเป็นแผ่นชายชาย เฮียแกรู้ดี และแกก็ทำเป็นใสๆ
“อื๊ออออออ....อิไต...อ๊าาาาาาา......ซื้ดดดดดดด”
ถ้ามันไม่ใช่ภาคย์ญี่ปุ่นเค้าคงได้อารมณ์กว่านี้เนอะ
“ทำไมไม่เลือกแผ่นที่มันมีภาคย์เป็นภาษาเราด้วยล่ะ”
“ก็ผมไม่ได้เลือกแค่หยิบๆใส่ไปเฉยๆนี่ ไม่ได้คิดว่าเฮียจะมานั่งอยู่ตรงนี้ด้วย อีกอย่างนะ ไม่เห็นต้องแปลอะไรเลย ภาษาญี่ปุ่นไม่ในนี้ก็มีไม่กี่คำ อิไตๆ อิคึๆ มันก็เจ็บนั่นแหละ”
คุณพระ!!!! จุนซูอึ้งอีกที ถึงมันจะเป็นศัพท์ง่ายๆใครก็รู้ แต่เด็กใสๆไม่น่าจะรู้ศัพท์ประเภทนี้ T^T
จริงๆแล้วที่อูยองพล่ามยาวเพราะเค้าไม่อยากจะมองไปที่หนังนั่นอีก แล้วพูดกลบๆเสียงผู้ชายที่กำลังร้องเสียงต่ำทุ้มชวน...นั่นด้วย
อูยองอยากจะลุกไปใจแทบขาด แต่มือของเจ้านายเค้าก็ยังเกาะกุมเค้าไว้และไหลไปได้เรื่อยๆ แค่โดนสัมผัสก็ไม่อยากจะลุก ถ้าไม่มีไอเสียงหนังนี่กอกหูเค้าคงลุกเดินหนีไปนานแล้ว
“เฮีย ไม่นะ”
สายตาจุนซูยังคงจ้องมองรีวิวประกอบท่าบนจอแอลซีดีขนาดยักษ์นั่นไม่วางตา แต่มือนี่สิ อยู่ไม่เป็นที่เลย มือเค้ายังไล่ลูบไล้ถูไถไปทั่ว อูยองเหลือแค่เสื้อเชิ้ตและเสื้อกล้ามเพราะด้านในมันอุ่นอยู่แล้วเสื้อคลุมก็เลยถอดไปแล้ว จุนซูเลยไล่แกะกระดุมเสื้ออูยองทีละเม็ดในเวลาไม่ถึงนาทีอย่างสบายๆ
“อูยอง เอาน่า~ นายน่ะ เอาแต่ดู ทำไมไม่ลองบ้างล่ะ”
“เฮีย~~ อ่า~”
อูยองร้องเสียงหลงทันที่จุนซูล้วงของเค้า แล้วทำไมไอเจ้านายคนนี้มันมาหื่นใส่ลูกน้องขนาดนี้วะ?
“เฮีย อ๊า~ ไม่เอา~~ อ่าาาา~”
คิมจุนซูเริ่มปลดกางเกงของลูกน้องแล้วลูบๆ คลำๆเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นค่อมช่วงล่างของอูยองเอาไว้
“เถอะน่า~”
“จุนซู!!”
อยู่ๆหญิงสาวที่จุนซูนัดไว้ก็จะเข้ามาเซอร์ไพรซ์จุนซูก่อนเวลา บรรยากาศตอนนี้เซอร์ไพรซ์กันทั้งห้องเลยทีเดียว
หลังจากจุนซูตัวแข็งทำอะไรไม่ถูกไปได้สักพักก็เริ่มคิดได้ว่าตัวเองควรจะลุกออกจากกิริยาอาการค่อมอูยองซะ พอจุนซูขยับตัวได้หญิงสาวผู้มาใหม่ก็ขยับได้เช่นกัน และเดินออกจากห้องนั้นทันที
จุนซูรีบจัดการสภาพตัวเองให้เรียบร้อยแล้วขอโทษอูยองยกใหญ่ ดูเหมือนยิ่งพูดอูยองก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ทำไมกันนะ
“อูยอง ก็เฮียบอกว่าขอโทษไง เฮียไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ จะให้พูดอีกกี่รอบก็ได้ แต่อย่าโกรธเฮียนะ”
“...”
อูยองยังสติลนิ่ง ทั้งที่ในใจน้ำตาไหลโจ๊กเลยล่ะ ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ? เฮียพูดว่าไม่ได้ตั้งใจหรอ
“อูยองอ่า เฮียไม่ได้ใจนะ เฮียขอโทษ~”
“โอ๊ย ผมรู้แล้วว่าเอียไม่ได้ตั้งใจ ไม่ต้องตอกย้ำกันนักก็ได้ ผมเข้าใจแล้วว่าเฮียไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ แล้วก็คงไม่มีทางตั้งใจด้วย พอแล้วไม่ต้องย้ำ ผมเข้าใจแล้ว”
ร่างเล็กโวยวายเสียงดังยกใหญ่ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าตัวเองมาใส่แล้วเดินออกจากบริษัทด้วยอารมณ์โกรธ โมโห งอน ม่ได้ดั่งใจตีกันไปหมด ทิ้งไว้ก็แต่จุนซูที่ยังยืนงงและไม่เข้าใจว่าทำไมเข้าใจแล้วยังทำท่าโกรธขนาดนั้น ก็คนมันไม่ได้ตั้งใจนี่หว่า ก็อารมณ์มันพาไป
จุนซูเลือกที่จะปล่อยอูยองไปก่อนและตามหญิงที่ตนนัดให้มาหาไป เธอยังไม่ได้ไปไหนไกล เธอแค่ไปนั่งสงบสติอารมณ์ในรถเท่านั้น พอจุนซูเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งด้วยเธอก็นิ่งใส่ แต่จุนซูก็เคลียร์จนได้
“เชื่อผมเถอะน่า ผมหยอกเค้าเล่นเฉยๆ”
“เล่นแรงไปมั้ยคะ?”
“โธ่ ก็เล่นนี่นา เดี๋ยวคืนนี้ผมเล่นกับคุณก็ได้ ไม่สิ ผมไม่เล่นกับคุณหรอก”
หญิงสาวทำหน้าไม่เข้าใจว่าจุนซูอารมณ์ไหน
“ผมไม่เล่นหรอก จริงจังกันดีกว่าเนอะ”
ชายหนุ่มกระซิบแนบชิดใบหน้าของหญิงสาวด้วยเสียงอันแผ่วเบาที่แฝงไปด้วยความหมาย เล่นเอาแก้มของหญิงสาวแดงระเรื่อไปเลย
จากนั้นทั้งสองก็ออกเดินทางไปยังที่ที่หนุ่มสาวนิยมไปกันยามค่ำคืน และต่อกันจนเช้าเลย ทุกอย่างเป็นเพียงงานที่จุนซูต้องทำ ผู้หญิงคนนี้เป็นเรขาคนสนิทของลูกค้าคนสำคัญที่หาตัวจับยากของจุนซู เค้าแค่ต้องการใกล้ชิดและล้วงข้อมูลของเจ้านายของผู้หญิงคนนี้ก็เท่านั้น ส่วนเรื่องตอนกลางคืนน่ะเหรอ กำไรล้วนๆ
โหยยยยยย จะมีรีดเดอร์ด่าหัวไรต์มั้ยเนี่ยว่าทำไมถึงส่งแม่นางคนนั้นมาขัดจังหวะซูด้ง
ก็แบบ...ใจเย็นๆ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป แต่อูยองจะมีเวลารอเฮียมากพอหรือป่าว ก็ต้องติดตามนะจ๊ะ คู่นี้จะจบเช่นไร
สวยไม่สวยเดี๋ยวรู้กัน!
ความคิดเห็น