ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic2PM] Bad Blood Guyz [TK-CH-SW]

    ลำดับตอนที่ #22 : chapter 6

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 55





                    “นั่งก่อนสิ”


                    “ครับ”


                    ร่างเล็กในแจ็คเก็ทหนังที่ดูสมาร์ทโค้งให้พ่อของแทคยอนเพื่อแสดงความเคารพก่อนจะนั่งลงตามคำเชื้อเชิญ


                    “งานไปถึงไหนแล้ว”


                    “ผมคิดว่าเค้าไม่น่าจะอยู่อเมริกาแล้วครับ เพราะผมหาจนทั่วทุกเมืองแล้ว ถึงผมจะอยู่ซีแอทเติ้ลแต่ผมก็โตที่นี่ผมมีเครือข่ายมากมายทั่วทุกรัฐทุกเมือง แต่ก็ไม่พบจริงๆ”


                    “นายรู้ใช่มั้ยว่านายกับลูกชายฉันคงจะมีความเป็นไปได้ต่ำ”


                    “ครับ จริงๆผมก็ได้คุยกับน้องแล้ว เค้าก็บอกว่าแทคเองก็มีคนใหม่แล้วนี่ครับ ผมคงต้องจบแต่โดยดี”


                    “รู้แล้วก็ดี จะได้ไม่หาว่าฉันหลอกใช้”


                    “ครับ?”


                    “อีกไม่นานฉันจะกลับเกาหลี ไปหาแทคยอน ฉันแค่อยากบอกนายล่วงหน้าให้นายเตรียมใจไว้ พอถึงช่วงนั้นก็อยากให้นายทำตัวให้ว่าง ฉันต้องการให้นายไปด้วย”


                    “ผม...”


                    “ไปในฐานะลูกน้องฉัน”


                    “ผมไม่กล้าไปเจอเค้า”


                    “ถือว่านายไปทำงาน นายไปกับฉัน”


                    “ท่านต้องการให้ผมไปกันท่าแทคกับคนใหม่ของเค้า”


                    “ฉลาดนี่”


                    “ผมไม่ไป”


                    “นายต้องไป การไปครั้งนี้อย่างน้อยนายจะคุยจะทำอะไรก็ได้ ถือว่าฉันเป็นคนอนุญาตเอง”


                    “ผมไม่ต้องการคุยกับเค้า”


                    “นายต้องคุย”


                    “ผมไม่คุยและผมก็ไม่ไปด้วย ส่วนงานที่ท่านให้ทำยังไงก็ไม่สำเร็จอยู่แล้ว ผมถอนตัว ขอตัวนะครับ”


                    เจย์ลุกและเดินไปเปิดประตูเพื่อจะจบความสัมพันธ์กับคนบ้านนี้สักที แต่ก็พบว่ายังมีลูกน้องของจินยองยืนประจันหน้ากันตรงประตูเต็มไปหมด และทำให้เจย์เดินออกไม่ได้


                    “นายต้องไป”


                    “ผมไม่ไป ท่านคิดว่าคนพวกนี้ทำอะไรผมได้หรือไง?”


                    “เค้าทำนายไม่ได้ และถึงนายไม่ทำเค้า แต่ฉันก็สามารถบอกตำรวจได้ว่านายทำ คนที่นี่ก็คนของฉันทั้งนั้น จะเอาพยานสักกี่คนดีล่ะ? แล้วตำรวจก็พวกฉันทั้งนั้น หรือนายอยากจะฆ่าอยากจะทำอะไรก็เชิญ พวกนั้นมันไม่ได้กลัวตายกันอยู่แล้ว ก็เอาสิ หรือนายคิดว่าไง?”


                    เจย์มองหน้าลูกน้องในชุดสูทของจินยองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสักพักก็หันหน้ากลับเข้าห้องอีกครั้งก่อนจะถีบเก้าอี้และแสดงสีหน้าไม่พอใจสุดๆ ไม่ใช่ว่าเจย์ฆ่าพวกนี้ไม่ได้ ฆ่าได้และพวกนี้ก็ยินดีให้ฆ่าด้วย พร้อมกับหลักฐานอีกมากมายที่จะมัดตัวเจย์ เฮอะ เล่นกับตำรวจยังง่ายกว่าเล่นกับพวกมีอิทธิพลอีก


                    “ฉันจะพูดอีกทีว่านายต้องไป”


                    “...”


                    เจย์ไม่ตอบอะไรแต่ยืนมองหน้าจินยองเป็นการตอบรับแบบไม่มีทางเลือก


                    “ฉันยังไม่แน่ใจว่าฉันจะว่างวันไหน แล้วถ้าจะไปวันไหนฉันจะไปรับนายถึงหน้าบ้านเลยแล้วกัน ไปพร้อมฉัน ขึ้นเครื่องไฟลท์เดียวกับฉัน เข้าบ้านพร้อมฉัน ลงรถพร้อมฉัน เดินตามฉัน แล้วก็ทักทายแทคกับฉัน นายอยากจะพูดจะคุยอะไรกันก็เชิญ”


                    “ครับ ผมไปได้แล้วหรือยัง?”


                    “เชิญ”


                    จินยองว่าพลางผายมือไปที่ประตูด้วยใบหน้าเชิดๆ ส่วนเจย์ก็เดินแหวกและผลักขี้ข้าน่าถีบพวกนี้กระจายด้วยความโมโห

     

     



     

                    “อย่าให้ฉันคิดสูตรระเบิดของฉันเสร็จล่ะคุณอดีตพ่อตา ไอบริษัทเรียลสเตทของแกได้ลองเป็นที่แรกแน่”


                    เจย์เงยหน้าขึ้นบอกกับตึกฝั่งตรงข้ามถนนกับที่ตนยืนอยู่ที่ตั้งสูงสง่าตรงหน้าพร้อมกับยกยิ้มมุมปากให้ ถ้าไม่ใช่ว่าเป็นอดีตพ่อตานี่ระเบิดอะไรเจย์ก็เอามาปาได้ทั้งนั้น แต่นี่ในฐานะที่เป็นแขกคนสำคัญ ระเบิดมันก็ต้องชนิดพิเศษกันหน่อย ประมาณว่า ถ้าวางชั้น1 อีก30กว่าชั้นด้านบนก็จะถล่มลงมากองรวมกันที่ชั้น1ประมาณนั้นแหละ


     

     

     

    .........................................................




     

                    ร่างเล็กเดินกลับเข้าห้องพักย่านบอสตันและทิ้งความหยาบไว้เพียงต่อหน้าคนอื่นให้ดูน่าเกรงขาม แต่ต่อหน้ารูปแทคที่ถือและจ้องมองอยู่ตรงหน้าก็ได้แต่น้ำตาคลอๆอยู่เจย์กำลังอ่อนโยน และอ่อนไหวสุดๆ


                    เจย์ไม่เคยลืมแทคได้เลยสักครั้ง ยังไม่มีใครและไม่คิดจะหาใหม่ด้วย ส่วนไอที่ทำงานให้พ่อแทคอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อจะได้กลับไปหาแทคและได้อยู่ด้วยกันแบบปกติไม่มีใครมาขัด แต่ทุกอย่างมันก็จบลงแล้ว นอกจากงานไม่มีทางสำเร็จแล้วแทคยังมีคนใหม่อีก เจย์คงไม่กล้าไปเจอหน้า ไปทำลายความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของแทคหรอก แทคกำลังมีความสุข ยังไงเจย์ก็ไม่อยากทำลายความสุขของคนที่เจย์รักอยู่แล้ว


                    แต่พ่อแทคกลับไม่ยอมปล่อยแฮะ แถมยังมาใช้เจย์เป็นเครื่องมืออีก และถ้าคิดไปคิดมาถ้าเจย์ไปทำลายพวกเค้าสำเร็จ เจย์เองก็คงสานต่อความสัมพันธ์กับแทคไม่ได้เพราะพ่อแทคไม่ให้แน่ๆ เพราะข้ออ้างที่ว่างานไม่สำเร็จ และสุดท้ายคนที่จะมาเสียบได้สบายๆก็คือเจซซิก้า


                    “โถ่เว้ย ฉันอยากจะเลิกยุ่งกับพวกนายจริงๆเลยแทคยอน ฉันไม่อยากยุ่งกับพ่อนาย แล้วฉันก็อยากลืมๆนายให้ได้สักที ก็ไหนทำท่าจะเป็นจะตายตอนฉันทิ้งไง แต่ทำไมนายเป็นฝ่ายมีคนอื่นก่อนล่ะแทคยอน”


                    เจย์ว่าพลางไล้นิ้วโป้งเรียวไปตามรูปของแทคยอน ก่อนที่หยดน้ำใสๆจะไหลออกมาจากดวงตาและหยดใส่กรอบกระจกรูปนั้น


                    “อย่าทำฉันเจ็บให้มันมากนักนะแทคยอน ฮึก... นายอยากตายหรือไง?”


                    พูดแล้วก็อยากปารูปแทคให้กระแทกกับผนังห้องให้มันแตกกระจายไปเลยจริงๆ แต่ก็ทำได้เพียงข่มอารมณ์ไว้แล้วกระแทกวางรูปนั้นลงบนโต๊ะหัวเตียงเหมือนเดิม


                    “see u soon Oktaecyeon
















     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ....................................................................................................

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     





                    “เฮ้ยหมวด นี่มันจะเยอะไปแล้วนะ อะไรของหมวดเนี่ย ไหนบอกมันหายไปแล้วไง”


                    “ก็ผมบอกว่ามันกลับมาแล้วไงเล่า”


                    “มันไปโกรธใครมาป่าววะ? สามสี่เดือนกว่าที่ผ่านมานี้รวมแล้วเกือบ300ศพเลยนะ ไม่มีที่ลงหรือไง ลำบากตำรวจจริงเว้ย”


                    จุนโฮเอาแต่บ่นๆๆ เดินข้ามศพ แล้วหมุนตัวไปมาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ ไอปืนกับดาบนี่ก็เฉลี่ยเหลือวันละศพหรือสองสามวันศพไปแล้ว แต่ไอคนที่เล่นวิธีมือป่าวนี่สิ ทำงานวัน เว้นสี่วันถึงเจ็ดวัน แต่มาทีนี่ครั้งละสามถึงหกศพ เพลียเว้ยยยย


                    “มีงานให้ทำก็ทำไปเถอะผู้กอง”


                    “อย่ามาเลียนแบบคำพูดผมน่า แล้วนี่มันเยอะขนาดนี้ผมใช้หมวดทำคนเดียวก็ไม่ได้ เหนื่อยเว้ยยยย!!


                    จุนโฮสบถแล้วยืนกอดอกจ้องศพเขม็ง ถ้าฟื้นขึ้นมานี่จุนโฮจะยอมกราบเท้าเลย เพราะคงจะมีพยานปากสำคัญแล้วไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้อีกแล้ว แล้วคงจะปิดคดีได้เลย ใครก็ได้ส่งตัวช่วยมาช่วยที!!


     

     

     

    ......................................................................................................................

     

     

     

     

                    “ตั้งใจเรียนนะบวม”


                    “เฮียอ้า! ทำไมต้องเรียกผมว่าบวมด้วยเล่า”


                    “แล้วนายไม่บวมหรือไง?”


                    “ก็ใช่ แต่อย่าตอกย้ำได้มั้ยเล่า”


                    “เออ ตั้งใจเรียนนะอูด้ง”


                    “คร้าบบบ”


                    มือหนาอดที่จะขยี้หัวทุยๆที่ยืนหัวโด่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ พอขยี้จนหัวยุ่งเด็กตรงหน้าก็ยู่หน้าใส่คนที่ทำเค้าผมเสียทรงหมดเลย


                    จุนซูแอบไปรับอูยองตรงหน้าปากซอยแล้วมาส่งถึงในม.มาได้สี่ห้าครั้งแล้ว วันนี้ก็เช่นเคย แม้ที่นี่จะเข้าไปด้านในได้ยาก เนื่องจากที่นี่ต้องรักษาความปลอดภัยให้มากๆเพราะเด็กข้างในไม่ใช่บุคคลน่าไว้วางใจสักเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่เป็นอดีตศิษย์คู่รักคู่แค้นกับอาจารย์หลายท่าน รวมทั้งยามหน้าม.ด้วย จุนซูเลยผ่านเข้ามาที่นี่ได้แบบชิวๆ


                    “โอ๊ย เฮียผมมันยุ่ง เสียทรงหมด ไม่หล่อเลย”


                    เด็กน้อยว่าพลางสลัดหัวเป็นลูกหมาให้ผมเข้าทรงแล้วเอามือเซตผมตัวเอง


                    “ไม่เห็นต้องหล่อเลย เฮียชอบเด็กน่ารัก”


                    “ฮึ?”


                    อูยองไม่เข้าใจที่เฮียแกพูดซักเท่าไหร่ เพราะสไตล์การพูดของแกดูแปลกๆไป จะอะไรซะอีกล่ะ ไอชานมันเทรนมาให้พูดแบบนี้


                    “นายน่ะ น่ารักจะตายอูด้ง


                    “บ้า ผมออกจะหล่อ”


                    “เฮอะ ไม่เห็นจะหล่อเลย ถ้านายหล่อฉันคงไม่ชอบนายแบบ...” ตอนนี้หรอก


                    ยังไม่ทันจะได้พูดจบก็มีเด็กที่ไหนไม่รู้วิ่งผ่ากลางวงของพวกเค้าทั้งสอง ทุกอย่างที่อุตส่าเตรี๊ยมมาต้องหยุดลงชั่วคราว เพราะไอเด็กเปรตของม.นี้


                    “เฮ้ย! โทษนะคุณพ่อ หลบหน่อย


                    “โอ๊ย!! ไอเปรต ไอเด็กเวร ไอตะไลเอ๊ย”


                    จุนซูแทบจะหยิบปืนขึ้นมาไล่ยิงไอเด็กเปรตที่วิ่งผ่านเหมือนกำลังวิ่งหนีใครในช่วงเวลาสำคัญที่จุนซูกำลังจะบอกอะไรกับอูยอง แล้วก็วิ่งชนเค้าด้วย และที่สำคัญมันเรียกจุนซูว่าพ่อ ถ้าไม่ติดว่าที่นี่คือมหาลัยและคนเยอะไอเด็กเวรนั่นไม่รอดแน่


                    “โทษทีเฮีย นั่นเพื่อนผมเอง มันไม่เคยเห็นพ่อผมมันคงคิดว่าเฮียเป็นพ่อผมมั้ง?”


                    “โห่ ไอตาถั่ว เวรเอ๊ย”


                    “เฮ้ย! ลุง หลบดิ๊!


                    เพียงไม่กี่วิต่อมาก็มีเด็กผู้ชายอีกคนวิ่งตาม รอบนี้น่ายิงทิ้งกว่าเดิมอีก ไอเด็กเปรตมันเรียกเค้าว่าลุง

     

     

                    “อ้าว นั่นจุนซูใช่มั้ยน่ะ?”


                    อาจารย์ที่เดินผ่านมาว่าพลางขยับแว่นแล้วเดินเข้ามาใกล้กว่าเดิม พร้อมกับจ้องหน้าจุนซูยกใหญ่


                    “ครับ อาจารย์จำผมได้หรอ?”


                    “เออ ไอนี่มันโตแล้วก็หน้าตาดีใช้ได้ เกือบจำไม่ได้แน่ะ แล้วนี่แต่งงานมีลูกแล้วหรือไง? ไวจริงๆเลยนะ ทำใครเค้าท้องหรือไง?”


                    “ครับ?”


                    จุนซูได้แต่ทำหน้างงกับสิ่งที่อาจารย์พูดแล้วมองหน้าอูยอง


                    “ก็มาส่งลูกไม่ใช่หรือไง หรือว่าหลานล่ะ?”


                    อาจารย์แกไม่ได้แกล้งถามหรือว่ากวนหรอก ที่พูดน่ะ คิดอย่างนั้นจริงๆ ก็ที่นี่เข้าได้แต่ผู้ปกครองเท่านั้นนี่นา


                    “อาจารย์~~~~~~~~~~!! ไอเด็กนี่มันเด็กโผมมมมมมมม มันลูกหรือหลานผมที่ไหนเล่า”


                    จุนซูว่าพลางเดินไปกอดอาจารย์ที่ออกจะมีอายุสักหน่อยแล้วหอมแก้มอาจารย์เบาๆ สิ่งที่อูยองอยากถามก็คือ อิจฉาอาจารย์ได้มั้ย?


                    “นี่ ปล่อยฉันนะเจ้าเด็กเปรต”


                    อาจารย์รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูกก็อยู่ๆเจ้าลูกศิษย์หน้าตาดีกว่าตอนที่เคยสอนก็เข้ามากอดแล้วหอมแก้ม เหตุการณ์แบบนี้มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนี่นา


                    “อาจารย์ ผมไปฝึกงานกับเฮียเค้านี่แหละ ยังไงอย่าลืมให้คะแนนพิสวาสผมเยอะๆนะ”


                    “ฉันอยากจะปรับตกเลยด้วยซ้ำ จางอูยอง คิดยังไงไปฝึกงานกับคนไม่เอาไหน ชอบโดดเรียนอย่างเจ้านี่ แล้วนายจะได้อะไร”


                    “ผมก็ว่าอย่างนั้น”


                    จุนซูเอ่ยเสริมจนอูยองเริ่มเห็นรางไม่ดีอยู่รำไร นี่เลือกคนผิดจริงๆหรอ


                    “ไม่เป็นไรหรอก ผมแค่จะเอาชื่อบริษัทเฮียเฉยๆ แค่ผมไปสมัครงานแล้วมีประสบการณ์จากบริษัทเฮีย แค่นี้เค้าก็รับแล้ว เกรดห่วยแตกของผมยังไงก็ไม่สำคัญ”


                    “สำคัญสิอูยอง ทำไมนายคิดอย่างนั้น ถ้าเค้าให้ทำงานจริงๆนายจะทำได้หรือไง? แล้วจุนซู ทำไมไม่บอกรุ่นน้องนายว่าไม่ให้คิดอย่างนั้น”


                    “ก็ผมอยากให้เค้าอยู่ด้วยนี่นา”


                    “เดี๋ยวเถอะ ถ้าหลานนายเอาตัวไม่รอดขึ้นมาอย่ามาโทษอาจารย์แล้วกัน”


                    “โอ๊ย อาจารย์ เด็กนี่มันไม่ใช่หลานผมนะ โหยผมกลับดีกว่า”


                    “ขับรถดีๆนะครับคุณลุง บาย~


                    “เดี๋ยวจะโดนเจ้าเด็กบ้า อาจารย์ครับ ลาแล้วครับ”


                    จุนซูโค้งให้อาจารย์ด้วยอาการเคารพแล้วลากลับ ระหว่างทางที่เดินกลับไปที่จอดรถก็ทำให้นึกถึงวันเก่าๆเหมือนกันแฮะ ที่นี่ยังรับเด็กโหลยโท่ยเหมือนเดิม ที่นี่ยังมีเด็กแย่ๆเหมือนเดิม แต่อาจารย์ที่นี่ก็ดูดุและท่าทางจะเข้มข้นเหมือนเดิมด้วย


                    ทางเดินกลับไปที่จอดรถยาวพอสมควร เลยทำให้รับรู้ได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวตามเค้ามา พอขายาวแกล้งหยุดเดิน ความเคลื่อนไหวนั้นก็หยุดตามไปด้วย เลยยิ่งทำให้จุนซูแน่ใจยิ่งขึ้นและเดินออกไปในที่ที่ปลอดคนหน่อย ซึ่งจุนซูก็รู้ดีว่าที่นี่มีตรงไหนที่ดูเปลี่ยวๆ


                    แก่ก


                    จุนซูลั่นไกปืนแล้วเล็งไปที่สิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวตามเค้ามาที่ดูเหมือนกำลังหลบอยู่


                    “ออกมา”


                    จุนซูเอ่ยเสียงเรียบและเย็น ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปหาสิ่งนั้นและใกล้เข้าไปเรื่อยๆ


                    “ฉันให้โอกาสแกออกมาแล้วนะ 3 2…


                    “เฮ้ย! เฮียใจเย็น”


                    ชานซองเดินชูมือทั้งสองข้างออกมาจากมุมตึกตรงหน้าของจุนซูแล้วทำหน้าทะเล้นใส่


                    “ไม่ใช่แก ไอชาน”


                    “รู้”


                    ชานเลิกเล่นแล้วเดินไปลากคอชายคนหนึ่งออกมาจากหลังพุ่มไม้แล้วลากมาหาพี่ชาย


                    “แกเป็นใคร”


                    จุนซูพยายามเอ่ยถามด้วยความใจเย็น แต่เมื่อถูกเงียบใส่เลยทำให้จุนซูอดที่จะยกปลายกระบอกปืนขึ้นไปกดแน่นบนกะโหลกผู้ชายคนนี้ไม่ได้


                    “เฮ่ยยยยย เฮีย ใจเย็น ถ้ามันตายแล้วเราจะถามใคร”


                    “แล้วคิดว่ามันจะพูดหรือไง ยิงทิ้งไปเลยดีกว่า เสียเวลา”


                    “เฮ้ย! เดี๋ยวดิ”


                    ชานซองเริ่มค้นตัวผู้ชายคนนี้โดยมีจุนซูจ่อปืนเอาไว้ ทำให้มันนิ่งให้ชานค้น สิ่งที่ชานหาคือบัตรหรืออะไรสักอย่างที่จะบ่งบอกว่าเค้าเป็นใครแต่ก็ไม่พบสักอย่าง เจอแต่เพียงโทรศัพท์


                    “รหัสอะไร?”


                    ชายคนนั้นเอาแต่เงียบและก้มหน้าจนน่ารำคาญ จุนซูเลยยัดปืนใส่มือชานให้ชานจ่อหัวชายคนนั้นแทนตนแล้วเอาโทรศัพท์มาจากมือชาน


                    “ไปถามมันให้ได้อะไร ฉันเป็นใคร โทรศัพท์เครื่องแค่นี้คิดว่าฉันแก้ไม่เป็นหรือไง?”


                    “เออว่ะ”


                    จุนซูพยายามทำอะไรกับโทรศัพท์สักพักแต่ก็เข้ารหัสไม่ได้


                    “ไม่ใช่เล่นๆนี่ ระบบแบบนี้ไม่ใช่บุคคลธรรมดาล่ะสิ”


                    จุนซูหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเสียบเข้าโทรศัพท์ ซึ่งก็สำเร็จผลโดยไม่ยาก ถ้าเป็นเรื่องระบบอิเล็กทรอนิกส์ล่ะก็ ระดับคิมจุนซูไม่เคยหน้าแตก


                    “ไงเฮีย เป็นไงบ้าง? ในนั้นมีไรป่าว?”


                    “ไม่มีเบอร์โทรเข้าโทรออกเลย เฮ้ย! มีรูปแกด้วยไอชาน แต่ไม่เห็นมีรูปฉันเลยซักรูป มันตามใครกันแน่วะ?”


                    “ผมอ่ะเดินตามเฮียมา แต่ไอเนี่ย มันเดินตามเฮียหรือตามผมกันแน่ผมไม่รู้ ว่าไง?”


                    ชานซองหันไปถามชายที่เอาแต่เงียบ และกำลังหลับตาเหมือนคนพร้อมจะตาย ยอมตายแต่ไม่ยอมพูดอะไรสินะ


                    “โอเค ไม่พูดใช่มั้ย? ก็ได้ก็ได้ แกนี่มันน่ารำคาญจริงๆเลยว่ะ”


                    การเงียบของผู้ชายคนนี้สร้างโทสะให้จุนซุได้ไม่น้อยแล้วจุนซูเองก็หมดความอดทนแล้วด้วย


                    ฟิ่ว


                    จุนซูยิงทิ้งอย่างรำคาญก่อนจะเก็บปืนเข้าที่เดิมแล้วเดินกอดคอชานให้เดินออกไปจากที่เกิดเหตุ มุมนี้ทั้งคู่รู้ดีว่าไม่มีกล้องแล้วก็ไม่ค่อยมีคนผ่านอยู่แล้ว


                    “มุมนี้ยังไม่มีกล้องเหมือนเดิมใช่มั้ยไอชาน”


                    “อื้ม แต่ตอนเราเดินเข้ามาผมว่ากล้องตรงทางเดินจับภาพเราได้แน่”


                    “ฉันก็ว่างั้นแหละ งั้นเราไปเยี่ยมลุงยามในห้องควบคุมกล้องดีกว่า”


                    ทั้งคู่เร่งฝีเท้าไปจนถึงในเวลาอันรวดเร็ว และชานเองก็จู่โจมคุณลุงยามแค่ให้สลบแล้วเปิดทางให้จุนซูเข้าไปจัดการลบข้อมูลของพวกเค้าทิ้งซะ

     
     

                    “เรียบร้อยแล้วไอชาน แล้วลุงแกตื่นมาต้องหายใจได้ด้วยนะเว่ย!


                    “รู้น่า~


                    ชานว่าพลางวางร่างไร้สติของคุณลุงลงบนเก้าอี้ให้เหมือนเดิม หวังว่าแกจะตื่นนะ นี่ก็เบามือสุดๆแล้ว


     

                    “แล้วนี่ศพจะทิ้งไว้อย่างนั้นเลยหรอ?”


                    จุนซูว่าเสียงเบาในระหว่างเดินออกจากห้องลุงยาม ทั้งสองยังก้าวยาวฉับๆไม่หยุด และพยายามเดินไปให้ไกลจากจุดเกิดเหตุทั้งสองแห่งให้มากๆ


                    “พูดอย่างกับเฮียเคยช่วยตำรวจเอาศพไปทิ้งอย่างนั้นแหละ”


                    “สงสารไอตี๋มัน ป่านนี้มันคงทำงานจนหัวปั่น ฮยองนี่ก็ไม่รู้ไปโมโหใครมาเนอะ เล่นมาครั้งละ3-4ศพอย่างนี้น้องฉันก็ตายอ่ะดิ แถมลูกค้าใกล้จะหมดสต๊อกแล้วด้วย”


                    “ช่ายยยย ฮยองแกเล่นกวาดเรียบอย่างนั้นแล้วเราจะเอางานที่ไหนทำ?”


                    “ไม่ชอบหรือไง? เงินเค้าก็ไม่มาเอาด้วย เราสองคนคนละครึ่งเลยนะเว่ย”


                    “เยอะไป ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร”


                    “เอ๊า ไอบ้า ถ้างั้นก็ซื้อบ้านให้น้องฉันดิ”


                    “อื้มมมมม... ผมไปเรียนก่อนนะ บ่ายนี้ผมไม่โดดละ มีงานมาให้ทำแต่เช้าเลย”


                    “เออ โชคดี”





                    ทั้งสองแยกจากกันและกลับไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ แต่ทั้งสองก็ไม่ได้หยุดคิดเรื่องผู้ชายคนนั้นเลย มันเป็นใครแล้วมันต้องการอะไรจากเค้าสองคน ในเมื่อลูกค้าก็รู้จักพวกเค้าทั้งสามคนดี ศัตรูก็รู้จักกันทั้งนั้น ส่วนตำรวจหรือนักสืบน่ะเหรอ?... อันนี้ก็น่าคิด

     




     

     

    โหยยย เจย์ที่รักยิ่งโดนป๊าแทคบังคับมาแล้วคุณนี่จะเป็นยังไงอ้า~ 
    หลายคนอาจจะงงพาสเจย์จบแล้วจุนโฮมาไง อะไรคือ2-3เดือน?
    คือหลังจากพี่เจย์แกเครียดเรื่องป๊าแทคจะให้กลับมาเจอแทคแกก็มาลงกับการฆ่าคน ฮึ้ย!
    มันคือฟิค ท่องไว้ นี่คือฟิค~ โหดร้ายอ่ะ T^T

     แล้วใครตามพวกเค้ากันแน่ ฝากติดตามนะจ๊ะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×