ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic2PM] Bad Blood Guyz [TK-CH-SW]

    ลำดับตอนที่ #14 : เด็กฝึกงาน

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 55


    เด็กฝึกงาน
     
     
                    “เอาวะ ที่นี่แหละ”
                    เด็กหนุ่มหน้าใสกำลังก้าวขึ้นบันไดหน้าตึกอยางมุ่งมั่น หลังจากเลิกเรียนเค้าก็กำลังจะมาสมัครงานเป็นเด็กฝึกโดยที่เค้าไม่ได้เปิดรับสมัครนี่ จะรับมั้ยว้า?

                    เด็กหนุ่มจินตนาการไว้ว่าตึกใหญ่ขนาดนี้พอเปิดประตูเข้าไปจะต้องมีผู้คนเดินพุพล่าน มีคนเต็มไปหมด ถ้าเค้ามาฝึกงานที่จะต้องทำงานง็อกๆทั้งวันแน่เลย แต่ก็ยอม เพราะประธานบริษัทนี้เป็นนักแต่งเพลงที่เก่งมากกกกกกกกกก แต่งเพลงให้นักร้องคนไหนมากี่เพลงก็ดัง ติดหู และติดอันดับ
    1ของชาร์ตอย่างง่ายดาย มันเหมาะมากที่จะมาฝึกที่นี่ จะได้รู้วิธีการทำงานไง หึหึหึ


                    พั่ก


                    เด็กหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็ถึงกับตะลึง ในบริษัทยังปิดไฟมืดอยู่เลย ไม่มีใครเดินไปเดินมาซักคน แถมมันยังกว้างใหญ่มีหลายห้องมาก แล้วสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าประธานจะไปอยู่รูไหนของตึก เด็กตัวเล็กๆอย่างเด็กหนุ่มคนนี้จะไปตรัสรู้มั้ย?

                    “มาทำไร?”

                    เด็กหนุ่มถึงกับสะดุ้ง อยู่ๆก็มีเสียงถามคำถามห้วนๆโผล่ขึ้นมาในความมืด น่ากลัวบวกหลอนชะมัด

                    “ม...มา สมัครงานค...ครับ”

                    “ไม่ได้เปิดรับสมัครนี่”

                    “โธ่ ท่านครับ ผมอยากมาฝึกงานครับ โดยใช้ความมีชื่อเสียงความยิ่งใหญ่และบารมีของท่าน ถ้าผมออกไปทำงานจริงแล้วบอกว่ามีประสบการณ์ทำงานมาจากบริษัทที่ยิ่งใหญ่ โด่งดัง และมีชื่อเสียงอย่างที่นี่เค้าต้องรับผมแน่เลย ถึงผลการเรียนผมจะห่วยแตกก็ตาม ท่านช่วยผมหน่อยเถอะนะครับ ผมเรียนไม่ค่อยเก่งน่ะครับ อยากให้ท่านช่วยเมตตาผมหน่อยนะครับท่าน ผมอยากให้บารมีของท่านช่วยผมหน่อย นะนะนะนะคร้าบบบบ”

                    เด็กน้อยกำลังเกาะขากางเกงของคนที่เรียกว่าประธานแล้วเอาหัวถูไปมา แต่สักพักขานั้นก็กระชากหนีไปในความมืดแล้วก็...

                    พึบ

                    ไฟในบริษัทกำลังถูกเปิดขึ้นให้สว่างขึ้นเรื่อยๆ สายตาเด็กหนุ่มกำลังปรับแสงแล้วโฟกัสไปที่ท่านประธานที่คิดไว้ว่ามีอายุหน่อย ไม่หล่อ หนังเหี่ยวแต่ไม่ใช่เลย

                    “โอ้ มาย ก้อด”

                    เด็กหนุ่มตะลึงกับใบหน้าทานประธานจนอดที่จะอุทานออกมาไม่ได้ ก็ใบหน้าท่านประธานเรียวๆยาวได้รูปมันรับกับทรงผมที่ถูกเซ็ทมาอย่างดี คิ้วถูกกันให้สวยได้รูปแบบวัยรุ่น ดวงตาที่ขีดด้วยอายลายเนอร์สีดำที่ขอบตาให้ตาคม ดั้งก็โด่ง ปากก็สวย แล้วไหลที่กว้างมากดูแมนและเท่มากนั่นอีก กล้ามเนื้อที่แขนที่โผล่ออกมานอกเสื้อกล้ามสีดำนั่นอีก กางเกงยีนที่ประธานแกใส่โหลดลงมาครึ่งก้นนั่นอีก แต่ขาประธานก็ย้าวยาว เท่ชะมัด ตัวสูงกำลังเท่ได้ที่เลย

                    ให้ตายเถอะ ถ้าประธานจะหล่อขนาดเน้
    !!~ ขอลาตายอย่างสงบ

                    “เป็นไรไอเด็กแก้มเยอะ หน้านายที่บวมๆนั่นผลิตด้วยโปรตีนล้วนๆเลยใช่มั้ยน่ะ?”

                    “นี่
    !!~ ไอประธาน อย่ามาวิจารณ์แก้มผมนะ”

                    เด็กหนุ่มฟื้นแล้ว โอ้โห ว่าอะไรก็ได้ แต่อย่ามาวิพากษ์วิจารณ์แก้มได้มะ? มีแต่คนเค้าชมว่าน่ารัก แต่ไอประธานนี่มากวนตีนหาว่าบวม ชิ
    !

                    “นี่ประธาน ตกลงจะรับผมมะ?”

                    “ฉันไม่รู้จะรับมาทำไรว่ะ”

                    “ผมทำอะไรก็ได้ตึกใหญ่ขนาดนี้งานต้องเยอะแยะแน่เลย”

                    พูดจบเด็กหนุ่มก็มองไปที่พื้นแล้วก็ตะลึง ที่นี่มีหิมะฝุ่นตกด้วยหรอ ฝุ่นหนามากกกกกก พื้นอย่างเดียวไม่พอ โซฟา หรือโต๊ะที่วางของประดับต่างๆฝุ่นทั้งนั้น นี่ยืนคุยกันเข้าไปไง ถ้ามันจะเขอะขนาดเน้
    !

                    “ฮัดชิ่ว
    !!”

                    โอย นี่มันบริษัทขยะชัดๆ ทำไมถึงได้เน่าขนาดนี้

                    “นี่ เข้าห้องฉันไป ที่นี่มันฝุ่นเยอะ”

                    “รู้ด้วยหรอ รู้แล้วทำไมไม่ทำความสะอาดบ้างเล่าฮะ? ฮัดชิ่ว
    !!”

     
                    ร่างสูงจับมือเด็กหนุ่มแล้วลากเข้าห้องๆหนึ่งไป ในห้องความสกปรกก็มีบ้างตามแบบผู้ชายอยู่ ของก็วางเต็มห้องไปหมด นี่สาบานว่านี่คือหลืบที่ท่านประธานใช้ชีวิตอยู่ แต่อย่างน้อยที่นี่ก็ฝุ่นบางกว่าข้างนอกวะ

                    “ถ้าฉันรับนายฉันก็คงรับนายมาทำความสะอาดอ่ะ ทำป้ะ?”

                    “ทำสิครับ แต่ทำความสะอาดครั้งต่อๆไปมันก็คงไม่ได้ใช้เวลานานอะไร ฉะนั้นเวลามันก็จะเหลือ ยังไงท่านช่วยฝึกงาน ฝึกให้ผมแต่งเพลง ฝึกให้ผมใช้ห้องอัดเสียงเป็น ฝึกให้ผมคุมโน่นนี่นั่นเป็น ฝึกผมด้วยนะครับ”

                    “อืม...ก็ได้”

                    “งั้นก็โอเคครับ ผมจะทำงานกับท่าน”

                    “นี่ไอแก้ม อย่าเรียกท่านได้ป้ะ? มันจั๊กจี้หูว่ะ ดูหนังหน้าฉันดิ๊ ไม่ได้แก่ขนาดนั้นซะหน่อย”

                    “แล้วคุณจุนซูจะให้ผมเรียกว่าไรอ่ะ?”

                    “โอ้วววว
    !! รู้จักฉันด้วย?”

                    “ก็บอกแล้วไงว่าผมเห็นความดังของท่าน เอ้ย ของคุณ”

                    “อืม...ประจบเก่งดี งั้นเรียกฉันว่าเฮียแล้วกัน เค้าเรียกฉันอย่างนี้กัน นายก็ตามๆเค้าไปแล้วกัน”

                    “เฮีย
    ~”

                    “อื้ม นายชื่อไร?”

                    “อูยองครับ จางอูยอง”

                    “อูยอง? แก้มบวมเปล่งพองขนาดนี้อูด้งชัดๆเลย”

                    “เอ๊ะ
    ! พูดถึงอูด้งอีกแล้ว ทำไมทุกคนต้องเรียกผมว่าอูด้งวะ?”

                    “แล้วที่บ้านไม่ระจกส่องงั้ย? หน้าบวมขนาดนั้น”

                    “ไม่มีอ่ะ ผมทุบแตกหมด มีอะไรมะ?”

                    “ก็ไม่มี๊
    ~ มีนายก็ดีเหมือนกันแฮะ มีเพื่อนคุยดี งั้นเรามาคุยเรื่องหน้าที่นายกันดีกว่า”

                    “อื้ม”

                    “นายก็ เนี่ย ปัดกวาดเช็ดถู จัดของ”

                    “แค่เนี้ย?”

                    “อืม แล้วก็อยากฝึกอะไรกับฉันก็ทำงานเสร็จแล้วค่อยมาแล้วกัน”

                    “แล้ว...ทำไม มันถึงได้เขอะขนาดนั้นอ่ะ? พนักงานคนอื่นเค้าอยู่กันได้หรอ? แล้ววันนี้เค้าหยุดกันหรอ? ทำไมไม่เห็นมีใครมาเลยอ่ะ? แถมบริษัทยังปิดไฟมืดอีก ผมมาผิดวันหรอ?”

                    “มีใครที่ไหนอ่ะ ฉันอยู่คนเดียว ก็บอกแล้วว่าฉันไม่รู้จะรับคนอื่นมาทำอะไร”

                    “แม้แต่แม่บ้านหรอ?”

                    “อือ ฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนนี่ ฉันมุดหัวอยู่ในห้องนี้”

                    “แล้วสร้างมาให้มันยิ่งใหญ่ทำด๋อยรัยเนี่ยเฮีย สร้างมาให้ฝุ่นเกาะเล่นซะงั้น”

                    “ก็ฉันมีตัง จะทำอะไรก็ได้ นายมีไรมะ?”

                    “หึ แล้วที่นี่มีห้องอะไรเยอะแยะไปหมดอะเฮีย?”

                    ”ก็มีห้องซ้อมเต้น
    3ห้อง ห้องซ้อมดนตรี5ห้อง ฟิตเนส ห้องอัดเสียง ห้องมุดหัวนอน2ห้อง”

                    “แล้วสร้างแล้วไม่ทำอะไรจะสร้างทำไมวะ?”

                    “ก็กะจะให้เค้าเช่า แต่ฉันไม่ชอบคนเยอะ ไม่ชอบคนเดินไปเดินมา ฉันก็เลยไล่กลับหมด”

                    “เออ ดีเนอะ”

                    “เออ นี่ มันมีห้องคอมอยู่ห้องนึง ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง ไม่ต้องเข้าไปทำความสะอาด ไม่ต้องมองเข้าไป ไม่ต้องเดินผ่านเลยได้ยิ่งดี”

                    “คร้าบบบ งั้นเดี๋ยวผมเริ่มทำงานเลยแล้วกัน เห็นแล้วเกะกะลูกตาว่ะ อยู่เข้าไปได้ไง อย่างกับห้องเก็บของ ไม่สิ ห้องเก็บของยังเรียบร้อยและดูดีกว่าห้องเฮียเยอะเลย”

                    “เน่
    !! ไอลูกจ้าง อย่าปากมาก ทำไปเลย”

                    ร่างสูงว่าพลางเดินไปเปิดทีวีแล้วเดินไปหยิบตุ๊กตาแพนด้าตัวใหญ่มานอนกอดพลางเอาขาพาดบนที่วางแขนแล้วกระดิกเท้าดูหนังฆาตกรรมเลือดสาดจอบนโซฟาตัวยาวหน้าทีวีที่มีโต๊ะวางขนมและซากเปลือกขนมกองอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมดแต่มือยาวก็ยังเอื้อมไปหยิบซากขนมกินอยู่เป็นระยะ

                    เอิ่ม...ชิวไปนะครับท่านประธาน ถ้าท่านประธานจะทำตัวขยะขนาดนี้ มันรวยได้ไงวะ?

                    “เออ นี่ เช็ดเมียฉันให้ดีๆล่ะ พึ่งไปถอยมาใหม่เลย เช็ดให้สะอาดนะ”

                    ร่างสูงว่าพลางชี้ไปที่คีย์บอร์ดตัวสวยและดูมีราคา ไม่เหมาะกับความขยะของสภาพแวดล้อมที่นี่เลย

                    “คร้าบบบบ
    ~”

                    “เออ นี่ ไอคอมที่วางอยู่ตรงนั้นน่ะ”

                    “อันนี้หรอ?”

                    อูยองยื่นหน้าไปใกล้ๆคออมสองตัวที่ตั้งคู่กันอยู่

                    “อือ นั่นแหละอย่าไปใกล้ เดี๋ยวมันกัด”

                    “เฮ้ย
    !”

                    เด็กอูยองโดดหลับแทบไม่ทัน ถึงจะรู้ว่าหลอกแต่ก็ตกใจนะเว่ย
    !!

                    “เออ นั่นแหละ อย่าไปยุ่ง มันเขอะยังไงก็ปล่อยมัน”

                    “คร้าบบบบ”

                    “แล้วนี่นึกไงมาสมัครที่นี่ฮะ?”

                    “ก็บอกไปแล้วไง”

                    “แล้วนายเรียนอะไรถึงได้มีความจำเป็นต้องมาฝึกงานที่นี่?”

                    “คือเรื่องมันก็มีอยู่ว่า ภาษาอังกฤษผมห่วยแตก แต่ผมอยากเรียนโพสต์โมเดิร์นมิวสิค ซึ่งวิชาอังกฤษมันก็เป็นวิชาหลักๆอยู่เหมือนกัน มันทำเกรดเฉลี่ยผมแย่ ติด
    F ตาล้อด ผมก็เลยอยากได้ชื่อเสียงของที่นี่ช่วยผมไง อย่างน้อยตอนไปสมัครงานก็ง่ายขึ้น”

                    “แล้วนายเข้าไปได้ไงวะ? ในเมื่อสมองนายไม่ได้เรื่อง”

                    “ก็ผมเรียนซอนฮวา แค่มีตังก็เรียนได้แล้ว เข้าได้แต่จะออกได้หรือป่าวก็อีกเรื่องอ่ะ จริงๆการเรียนการสอนเค้าก็ดีนะ หางานทำก็ไม่ยาก แต่สภาพแวดล้อมเด็กคนอื่นแม่ง...”

                    “นี่ๆๆ พูดให้มันดีๆนะเว่ย เด็กซอนฮวาเป็นไง? ทำไม”

                    “อะไรเล่า
    !? ทำไมต้องโมโหด้วย”

                    เด็กแก้มหยุดถูแล้วเงยหน้ามาเท้าเอวมองเจ้านาย

                    “ฉันก็เด็กซอนฮวา ทำไมวะ? เด็กซอนฮวามันเป็นไง”

                    “ก็เป็นแบบเฮียไง ขยะ
    !!”

                    “เอ๊ะ
    !!! ไอเด็กนี่ แกก็อยู่เหมือนกันนะเว่ย สาขาเดียวกันด้วย เดี๋ยวถีบให้”

                    “เนี่ย เห็นมั้ย เด็กซอนฮวามันอันธพาล”

                    “ชิ
    ! ให้ตายเถอะสาบานว่าฉันเป็นเจ้านาย แล้วฉันก็คนจ้างนายด้วย”

                    “โธ่ ขอโทษก็ได้ ผมไปถูข้างนอกนะ”

                    “เออ เสร็จแล้วเข้ามาด้วย”

                    “คร้าบ”

                    จุนซูที่ตาเอาแต่มองทีวีผลุดลุกขึ้นนั่งอีกครั้งหลังจากที่เด็กด้งออกไปแล้ว พอมองไปรอบๆห้องก็ถึงกับอึ้ง เหมือนวันแรกที่สร้างเสร็จใหม่ๆเลยแฮะ เรียบร้อยจัง หาเมียดีกว่า

                    จุนซูปิดทีวีแล้วนั่งเก้าอี้ที่สะอาดน่านั่งเอามากๆตั้งแต่เอามาตั้งในห้องนี้วันนี้น่านั่งที่สุดเล้ย
    ~ แล้วร่างสูงก็เริ่มบรรเลงเพลงรักอยู่ระรอกใหญ่จนอูยองกลับเข้ามา หยุดฟังเพลงแล้วร้องตามไปเบาๆ เฮียบรรเลงได้หวานเวอร์อ่ะ

                    “นี่ อย่าพึ่งอู้ โซฟาที่ฉันนอนเมื่อกี๊ยังไม่ได้เช็ดเลย”

                    “คร้าบบบบ”

                    อูยองเช็ดสิ่งสุดท้ายจนเสร็จแล้วก็นั่งฟังเพลงที่เฮียบรรเลงต่อไป ผู้ชายคนนี้ดูอบอุ่นจังแฮะ ผู้ชายอบอุ่นแต่ขี้โมโห อันธพาล นี่มันคนละเรื่องกันเลย

                    “นี่เหยิบเซะ จะนั่ง”

                    จุนซูหยุดบรรเลงแล้วมานั่งกระแซะข้างๆอูยองให้เหยิบไป ไอเฮียนี่มันอะไรของมันวะ หวานๆอยู่ดีๆมีกระโชกโฮกฮากใส่อูยองอีกละ ก็เข้าใจว่าตาเฮียนี่เป็นศิลปิน ก็ต้องติสแตกหลายอารมณ์เป็นธรรมดา แต่อูด้งตามไม่ทัน

                    “นี่ๆ ไปหยิบโทรศัพท์มาดิ๊”

                    “ครับ”

                    อูยองเดินไปหยิบโทรศัพท์บ้านไร้สายที่วางอยู่บนโต๊ะที่ปลายนิ้วจุนซูชี้ไป

                    “หยิบขึ้นมาแนบหูนาย”

                    “อื้อ”

                    “กดเบอร์
    32123”

                    “ครับ”

                    “คุย”

                    “เฮ้ย
    !! คุยอะไร????”

                    (สวัสดีค่ะ อาร์เอร่าเรสเทอรอลค่ะ คุณลูกค้าจะรับอะไรคะ)

                    “ก็โทรหาร้านอาหารควรจะคุยเรื่องอะไรเล่า สั่งอะไรก็สั่งไป เอาให้กินกันได้สองคนอ่ะ สั่งมา”

                    “อ..อื้อ ครับเอาสเต็กไก่ สปาร์เก็ตตี้ไก่ซอส ไก่อบน้ำผึ้ง พาสต้าไก่มายองเนส ไก่ทอดแป้งหนาๆด้วยนะครับ”

                    (ค่ะ รายการมีเท่านี้นะคะ ทางร้านจะจัดส่งอีกภายใน
    45นาทีนะคะ ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ)

     
                    “เฮ้ย เฮีย ไรอ่ะ? ยังไม่ได้บอกที่อยู่เลย”

                    “ฉันเป็นลูกค้าประจำอยู่แล้ว แต่อาหารนายนั่นแหละอะไร? ไก่ๆๆๆๆๆ”

                    “ก็เฮียให้ผมคิดเอาเองนี่ ก็ผมชอบไก่เฮียก็ต้องกิน”

                    “เออ เรื่องกินฉันไม่มีปัญหาหรอก”


     
                    ร่างสูงเดินไปเปิดทีวีแล้วดูหนังฆาตกรรมเลือดสาดเรื่องเดิมที่ยังไม่จบต่อระหว่างรออาหาร อูยองจะกลับบ้านก็ยังไม่ให้กลับ เพราะยังทำงานไม่เสร็จ งานที่ว่าก็คือ กินข้าวด้วยกัน

                    “นี่ ลืมบอกงานนายอีกอย่างคือ กินข้าวเป็นเพื่อนฉันทุกวัน”

                    “หืม?”

                    “อือ ตอนเย็นบางวันน้องฉันก็มากินข้าวด้วย แต่ก็นานๆที มันน่าเบื่ออ่ะ”

                    “อ่อ อืม ได้ๆ ว่าแต่เฮียมีน้องด้วยหรอ?”

                    “ก็มีอ่ะ ชื่อจุนโฮ เดี๋ยวนายก็คงได้เจอ”

                    “อ่อ อื้ม”

                    “เมื่อยอ่ะ นวดให้หน่อยดิ”

                    “ฮะ?”

                    “นวดอ่ะ บีบๆ กดๆ ฉันเมื่อย ฉันใช้อะไรก็ทำไปเถอะน่า เดี๋ยวฉันก็เซนต์ผ่านให้เองแหละ”

                    “คร้าบ”

                    อูยองนวดไหล่ไล่ไปขาและไปเรื่อยๆ ชีวิตเด็กฝึกงานแสนรันทด ทำทุกอย่างยกเว้นงานที่ควรจะฝึก อูยองต้องบีบนวดๆไปเรื่อยพร้อมกับเสียงครางตอบรับด้วยความพอใจจากเจ้านาย จนกระทั่งเสียงออดบ่งบอกว่าอาหารมาส่งแล้วดังขึ้น อูยองก็มีหน้าที่ไปรับอาหารมา อยากรู้จริงเลยว่าตอนที่ไม่มีอูยองไอเฮียนี่มันอยู่ยังไงของมัน แค่มาวันแรกก็โดนใช้ทำโน่นนี่นั่นเยอะแยะไปหมด
     



                    “กินข้าวอิ่มผมขอกลับเลยนะครับ นี่ก็ดึกแล้ว”

                    “เดี๋ยวฉันไปส่ง”

                    “ไม่เป็นไรครับ”

                    “เอาน่า
    ~”

                    “ขอบคุณครับ”


     
                    อาหารมื้อนี้ผ่านไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีบทสนทนาอะไรมากมาย อูยองเองก็ยังไม่รู้ว่าเจ้านายเค้าเป็นคนยังไงกันแน่ก็เลยไม่กล้าคุยมาก ส่วนจุนซูก็คนไม่ชอบคุยมากอยู่แล้ว แต่ถ้าได้พูดขึ้นมาก็พูดมากและปากเสียอยู่เหมือนกัน เลยไม่พูดเยอะดีกว่า เดี๋ยวลูกจ้างแสนน่ารักจะอยู่ไม่ได้

                    พอดินเนอร์จบลงจุนซูก็พาเด็กด้งไปที่รถและจะพาไปส่งอย่างที่บอก แต่พอไปถึงอูยองก็ทึ่งกับยืนอึ้ง ลีมูซีนสีชมพูเปิดประทุน โอ้มายก้อดนี่คงจะรวยอยู่นะเนี่ย ลีมูซีนสีชมพูใครเค้าผลิตวะ ถ้าตาเฮียนี่ไม่ไปสั่งทำก็คงไม่มี รวยใช้ได้เว้ย

                    “โฮ่ เฮีย รถเฮียนี่ สวยเนอะ”

                    “ใช่มั้ยล่ะ? สวยอ่ะดิ ขึ้นเลยเดี๋ยวไปส่ง”

                    “คร้าบ”

     
                    พออูยองก้าวขึ้นรถก็นั่งมองไปรอบๆ ทุกอย่างดูมีราคาไปหมด รวยว่ะเฮ้ย

                    “ว๊ากกกกกกกกกกกกกก
    ~!!!”

                    จุนซูออกรถด้วยความแรงเป็นปกติ สร้างความตกใจและเสียขวัญให้อูยองเป็นอันมาก บางทีรถก็แรงไปนะ

                    “อะไร ไม่เคยนั่งรถสปอร์ตงั้ย?”

                    “เคย แต่ไม่เคยนั่งเร็วขนาดนี้”

                    “โธ่ หัดมีสีสันบ้างสิชีวิต ช้าๆเชื่องๆไม่ได้การ บ้านนายไปทางไหน”

                    “เออ มัวแต่ตกใจ ลืมบอก ต้องกลับรถ แล้วตรงไปเรื่อยๆเลย เฮ้ยยยยยยยยยยย”

                    จุนซูหักขึ้นซ้ายทันทีที่ด้งบอกทาง รถแรงมากนะ

                    “บอกช้า เกือบเลยแน่ะ”

                    “โว่วววววววววว
    ~ มันจะเลยเพราะขับเร็วนั่นแหละ”

                    พอขับตรงทุกอย่างก็ปกติ และในรถก็เงียบมากจุนซูเลยหาเรื่องมาชวนคุย

                    “ที่ม.เป็นไงมั่งอ่ะ? ไม่ได้กลับไปอีกเลย”

                    “ก็ดี ปีนี้มีเด็กเข้าใหม่สาขาบริหารปี
    3 3คน หล่อมากกกกกกกกกกก คนนึงชื่อชานซอง สูง หล่อ ล่ำ เท่ชิบ อีกคนชื่อแทคยอน ก็หล่อดี หล่อเข้ม สูง หล่อ แต่ไม่ถูกชะตาเท่าไหร่ เพราะมันชอบควงกับอีกคนที่มาเข้าใหม่เหมือนกัน ชื่อพี่นิคคุณมั้ง ได้ยินเค้าเรียกกันอย่างนี้อ่ะ คนนั้นน่ะผมชอบมากเลย หล่อ น่าร้าก ตัวเล็กกว่าสองคนแรก แต่ก็ตัวใหญ่กว่าผม หน้าตาดีมากกกกกกกกกกกกกกก ผมชอบเค้ามากเลยแต่ท่าทางจะเสร็จไอคนชื่อแทคไปแล้ว แม่ง ควงันร่อนม.ขนาดน้านนน”

                    “หรอ นี่ไอแทคไปอยู่นั่นแล้วหรอ? มีเด็กใหม่ซะด้วย อื้ม”

                    “เฮียรู้จักอ่อ?”

                    “รู้ รู้จักคนชื่อชานดีเลยแหละ ส่วนแทคก็รู้จักเพราะมันเป็นเพื่อนไอชาน”

                    “อ๋อ หรอ แล้วเฮียรู้จักคนที่สามที่แทคควงป้ะ? ผมว่าเค้าน่ารักดีอ่ะ ตอนเปิดเทอมวันแรกเค้าเดินมาพูดอะไรกับผมก็ไม่รู้ ผมก็เอาแต่ยืนนิ่งอึ้ง ตะลึงพูดไม่ออก ฟังไม่รู้เรื่อง เค้าเป็นคนต่างชาติด้วย น่าร๊ากกกกกก”

                    “ไม่รู้อ่ะ”

                    “โห่
    ~เสียดายจัง”

                    “นายบอกว่าคนนั้นน่ารัก นายชอบคนน่ารักหรอ? คนหล่อๆเท่ๆอย่างฉันไม่ชอบหรอ?”

                    “อะไร...ท..ทำไมถึงถามคำถามแบบนั้นเล่า”

                    เขินนะเฟ่ย ไม่ชอบแล้วจะยืนนิ่งอึ้งตอนที่ได้เจอครั้งแรกหรอ? แต่ปากเฮียก็ใช่ว่าจะดี

                    “มีแต่คนชอบฉันทั้งนั้น ฉันก็แปลกใจไง ทำไมนายไม่ชอบฉัน”

                    “ใครบอกเฮียอ่ะว่าผม...เฮ้ย เฮีย เลี้ยวซอยข้างหน้า ว้ากกกกกกกกกกกกกกก
    ~”

                    เลี้ยวแบบนี้อีกแล้ว แล้วพอยิ่งเข้าซอยก็ยิ่งเลี้ยวเยอะ อ้วกจะแตก
    !!!!

                    “ถึงแล้วเฮีย หลังข้างหน้า”

                    เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดด
    !!

                    เสียงล้อเบียดถนนดังลั่นซอยเล่นเอาบ้านอูยองที่ปิดไฟแล้วอยู่ๆก็สว่างขึ้นมา พร้อมกับมีคนเดินออกมา

                    “นี่ มีความเกรงใจกันบ้างสิ ขับรถน่ะ หัดมีมารยาทซะบ้างสิ มันดึกแล้วขับให้เบาๆหน่อยไม่ได้หรือไง นี่อูยอง ลูกมากับไอหล่อนี่หรอ? มากับมันได้ไง แค่การขับรถก็รู้แล้วว่าไม่มีมารยาท แล้วลู...”

                    “ม้าๆๆๆ ใจเย็นเด้ เค้าอุตส่ามาส่งผม เฮีย ขอบคุณนะครับ กลับได้แล้วไป ม้า เข้าบ้านกันเถอะ โอ๋ ม้าๆๆ เดี๋ยวผมนอนกล่อมม้าเข้านอนเอง ยังไงม้าก็หลับได้อยู่แล้ว เข้าบ้านนะม้านะ”

                    “ม้าอูยองหรอ? สวัสดีครับ”

                    จุนซูโดนด่าจนทำตัวไม่ถูกเลยสวัสดีแล้วโค้งให้อย่างเคารพสองทีแบบนอบน้อม

                    “นี่
    !!! ฉันยังไม่ตาย กล้าดียังไงมาก้มให้ฉันสองทีฮะ ไปไกลๆเลยนะ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไอคนไร้มารยาท!!!”

                    “ม้า พอแล้ว เข้าบ้านๆ เฮียก็กลับสิโว่ย จะรอม้าผมเอามีดมาไล่ฟันหรือไง ไปได้แล้ว”

                    “ครับๆ ฝันดีครับม้า”

                    “ใครม้าแก
    !! ฉันมีลูกสาวกับลูกชายแค่สองคน ไปให้พ้นหน้าฉัน”

                    “คร้าบ ไปแล้วๆ”

                    ร่างสูงรีบก้าวขายาวไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างเร็ว ม้าอูยองโหดเป็นบ้าเลย แล้วจะเข้าหายังไงวะ?

     





     
    อู้วววววววว ม้าอูยองโหดจังแฮะ นี่ขนาดยังไม่รู้นะว่าอูยองไปฝึกงานกับผู้ชายคนนี้ ถ้ารู้ล่ะบ้านแตก
    แต่การไปฝึกงานของอูยองที่คิดไว้ว่าจะไปหาความรู้จากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ประธานแต่งเพลงเก่งสัสๆ
    คงจะไม่ค่อยได้ฝึกเท่าไหร่แล้วมั้ง ดูงานที่เฮียแกใช้ทำดิ แต่นี่แค่วันแรกนี่เนอะ
    เอาเถอะๆ มันจะวุ่นวายแค่ไหนต้องติดตามต่อไปนะจ๊ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×