ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic2PM] Bad Blood Guyz [TK-CH-SW]

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.21K
      10
      22 เม.ย. 55

    Intro…
     
     
                   “เชียสสสสส วู้ว”


                    เสียงแก้วกระทบกันดังลั่นร้านอาหาร และตามมาด้วยการส่งเสียงอย่างไร้มารยาทของผู้ชายสามคน

                    “ฮู้ววววๆๆๆ”

                    “ฮิ้ววววววววว”

                    “กรู๊กกกกกกก”


                    สองหนุ่มที่เหลือต่างหันควับมามองหน้าพี่ชายเตี้ยที่ส่งเสียงแปลกๆ


                    “มันเข้ากับบรรยากาศป้ะฮยอง เด๋วปั๊ด”

                    “ถ้าแกจะขมเหงฉันขนาดนี้ แกจะเรียกฉันว่าฮยองทำซากอะไรวะ?”

                    “ไม่เรียกก็ได้หรอ??”

                    ชายอีกคนหันมาถามอย่างสนใจ

                    “แล้วแต่มารยาทของพวกแก”

                    “ถ้าจะตอบแบบเน้... -*- ก็คงต้องจำใจเรียก”

                    “ทายดิ๊นี่เรามาฉลองครบรอบกี่ของเรา3คน?”

                    “ให้ทายหรอ? ฮยองลืมก็ว่ามาเถ๊อะ เนอะเฮียเนอะ”


                    ชายร่างใหญ่อายุน้อยสุดหันไปถามพี่ชายอีกคน


                    “คงงั้นแหละ แก่ก็แก่ ตัวก็สั้น ความจำคงน้อย”

                    “ไอเด็กพวกนี้ ฉันเป็นพี่พวกแกนะโว้ย ด่าไม่เกรงใจอายุฉันเลย แล้วจะบอกให้นะ ฉันจำได้โว่ย”

                    “จริงง่ะ? งั้นกี่ปีอ่ะ”

                    “เออ กี่ปีฮยอง”

                    “ก็ฉันทายพวกแกไงเล่า!”

                    “ผมมีคำตอบในใจแล้วไม่รู้จะถูกป่าว ฮยองเฉลยเลยอ่ะ”

                    “เอ่อ...พอฉันเฉลยแล้วแกอาจจะบอกว่าแกทายถูกยังไงก็ได้ เพราะฉันไม่รู้ว่าใจแกทายว่าอะไร”

                    “เออ งั้นผมจะเขียนคำตอบใส่ทิชชู่ เฮียขอทิชชู่!”

                    “จัดไปน้องรัก”

                    พี่ชายคนกลางส่งทิชชู่ให้น้องเล็กอย่างสะใจ ว่าชายแก่หมดทางแถ

                    “ไม่มีปากกาอ่ะ”

                    “เอาปลายซ่อมจิ้มซอสสปาเก็ตตี้แล้วเขียนเลย”


                    พี่ชายคนกลางส่งซ่อมที่จิ้มซอสแล้วให้และมองดูน้องเขียนคำตอบอย่างสะใจ แต่ในขณะที่สองคนนี้กำลังสนุกกับการเขียนคำตอบ ก็ยังมีชายคนนึงที่ยังมีสีหน้าที่เคร่งเครียดและครุ่นคิดอย่างหนักว่ากี่ปี เพราะว่าเค้าไม่เคยจำได้เลยซักปีที่มาฉลอง


                    “โอเค เสร็จละ เฉลยมาเลย”

                    “12ปี!!”

                    “ฮย๊อง ผมอายุเท่าไหร่ฮะ ถึงจะได้ไปทำเรื่องแบบนั้นตั้ง9ขวบอ่ะฮะ”

                    “อ้าว ก็ 2011 ลบ 1999 มันไม่ได้ 12 หรอวะ?”

                    “ก็ใช่ แต่ไม่ใช่ตรงปี 1999 ไงเล่า”

                    “อ้าว แล้วปีนั้นมันมีความสำคัญอะไรอ่ะ ฉันถึงไปนึกถึงมันได้เนี่ย”

                    “ปีที่เราแพลนว่าจะมาร่วมมือกัน และก็เป็นปีพ่อผมตายไงฮยอง”

                    “อ๋ออออ โซรี่”

                    “ฮยองนี่ไม่เคยจำได้เลยอ่ะ พวกเราไม่มีความสำคัญต่อกันเลยหรือไง”

                    “ก็ฉันจำปีที่เรามีแพลนว่าจะร่วมกันได้นี่นา”

                    “จำได้ที่ไหน ผมเป็นคนบอกเอง”

                    “โอเค แอมซอรี่แล้วตกลงนี่กี่ปีแล้วอ่า”

                    “5ปีแล้ว กี่ศพแล้วก็ไม่รู้เนอะ”

                    “พวกนั้นก็ไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่ ตายไปก็ดีแล้ว จะได้ไม่หนักแผ่นดิน”


                    ชายอายุมากสุดเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้านิ่งๆ ก่อนที่ทุกคนจะนิ่งและคิดตาม ใช่พวกเค้าไม่ได้ฆ่าทุกคนที่มีคนจ้าง เค้าเลือกฝ่ายด้วย และถ้าผู้ว่าจ้างคนไหนไม่ถูกใจผู้ถูกจ้างอย่างพวกเค้า คนที่เดินเข้ามาจ้างนั่นแหละที่จะโดนฆ่าเพื่อปิดปากและความสะใจส่วนตัวซะเอง คนเลวจ้างไปฆ่าคนเลวมันก็ไม่แปลก แต่ถ้าคนเลวจ้างไปฆ่าคนดีนี่มันจะเลวเกินจะรับได้แล้ว ฉะนั้นคนกลุ่มนั้นควรจะตายก่อนใครเลย

                    เอ้อ มีใครบอกไปยังว่าผู้ชายสามคนที่เสียงดัง ไร้มารยาท ไร้สาระ ซกมก ทำตัวเป็นเด็กๆพวกนี้เป็นนักฆ่าที่ตำรวจตั้งฆ่าหัวไว้สูงที่สุดในเกาหลีแล้ว การเป็นนักฆ่าของพวกเค้าเป็นมรดกตกทอดมารุ่นต่อรุ่น เพราะฉะนั้นพวกตำรวจเองก็ทำงานหนักมารุ่นต่อรุ่นมากกว่า 20 ปี แล้วหรืออาจจะมากกว่านั้น หนักจนเบื่อและเอือมและเริ่มปล่อยให้พวกเค้าฆ่าใครก็ฆ่าไปเถอะ แต่ถ้าจับได้ล่ะก็... แต่คิดว่าจะจับได้งั้นเหรอ 20 กว่าปีแล้วนะ ถ้าจับได้คงได้ไปนานแล้ว ผ่านมาก็หลายรุ่น วิธีการฆ่าก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามแต่รุ่น อย่างรุ่นนี้เค้าจะลงมือกันตอนช่วงบ่ายสองเพราะเป็นช่วงที่ผู้คนทำงานบ้าง คุยธุระ นัดพบกันบ้าง เดินทางบ้าง มันทำให้สะดวกเวลาลงมือ พอทำช่วงนี้บ่อยๆเข้ามันก็กลายเป็นนักฆ่าบ่ายสองซะงั้น ทั้งๆที่ลงมือเวลาอื่นก็เป็นนะ

                    พวกเค้าสามคนไม่ใช่พี่น้องกันแต่อย่างไร แต่ที่มารวมกันได้เนื่องจากตระกูลของพวกเค้าเป็นตระกูลที่ต้องรวมกันเพื่อสืบทอดความเป็นนักฆ่าของพวกเค้าเป็นรุ่นๆ โดยต้นตระกูลของพวกเค้าเป็นเพื่อนรักกัน และรักกันมาตลอด 1ในลูกหลานของตระกูลพวกเค้าจะถูกส่งมารวมกันเป็นนักฆ่าเป็นรุ่นๆ

                    แต่ดูเหมือนว่ารุ่นของพวกเค้าอาจจะต้องเป็นรุ่นสุดท้ายแล้วล่ะ เพราะพ่อของน้องคนเล็กไม่อยากให้ลูกหลานต้องเสี่ยงอีกแล้ว กฎหมายก็เข้มข้นขึ้นทุกวันไม่เหมือนเมื่อก่อน แล้วยิ่งเวลาผ่านไปนานสักวันตำรวจก็รู้จนได้ และยิ่งเค้าฆ่าคนมาขึ้นเท่าไหร่ ศัตรูเค้าก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวันๆ จนไม่อยากให้ลูกชายเป็นแล้วเหมือนกัน แต่เมื่อเค้าต้องเป็นรุ่นสุดท้ายแล้ว เค้าก็ต้องทำอย่างเต็มที่ แม้จะขัดความต้องการของพ่อเค้าที่สั่งไว้ก่อนจะจากไปก็ตาม

                    ส่วนครอบครัวของพี่ชายคนกลางก็ดูเหมือนจะมีปัญหาเหมือนกัน และดูเหมือนปัญหานั้นจะใหญ่พอสมควร เนื่องจากจะมีลูกหลาน 1 คนในตระกูลเท่านั้นที่จะรับรู้และเป็นผู้สืบทอด ทำให้น้องชายของเค้าไม่รู้เรื่องเหล่านี้ และเลือกที่จะเป็นตำรวจ ไม่เพียงเท่านั้น ไอน้องคนเล็กของนักฆ่ากลุ่มนี้ยังหลงรักตำรวจคนนี้ด้วย แถมน้องชายเค้าคนนี้มีอุดมการณ์สูงซะด้วย ถ้าเค้ารู้เรื่องนี้ขึ้นมา ทุกอย่างก็คงจบ

                    ส่วนพี่ชายคนโตดูเหมือนจะมีปัญหาน้อยที่สุดแล้ว แต่ก็ยังมีอยู่ตรงที่ว่าเค้าเป็นคนที่ถูกส่งมาจากอเมริกา เค้าอาจจะไม่แฮปปี้เท่าไหร่ที่อยู่ที่นี่ ภาษาเค้าก็อาจจะพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องบ้างบางครั้ง อาหารก็ไม่ค่อยโอเคสำหรับเค้า และเค้ายังมีความรู้สึกอยากกลับอเมริกาอยู่ตลอดเวลา แต่เค้าก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบค่อนข้างสูง และพร้อมจะเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่างในกลุ่มของพวกเค้าอย่างเต็มที่ เพื่อให้รุ่นสุดท้ายอย่างพวกเค้าสงบและปลอดภัย
     


     
    ......................................................................................
     



                    “ครับ ตอนนี้ผมอยู่อเมริกาแล้วครับ”

                    (อือ หาตัวให้เจอนะ อย่าพึ่งทำอะไร ส่งมาให้ฉัน)

                    “ท่านครับ แต่ผมรับจ้างฆ่า ถ้าให้ทำอย่างอื่นผมคงไม่...”

                    (จุ๊ๆ อย่าพึ่งปฏิเสธสิ นั่นน่ะ คนที่แทคเกลียดที่สุดเลยนะ นายรักเค้าไม่ใช่หรอ ช่วยฉันไม่ได้หรือไง)

                    “แล้วทำไมไม่จ้างคนอื่นล่ะครับ? ในเมื่อผมคงทำให้ท่านไม่ได้ ถ้าเจอแล้วฆ่าเลยคงไม่ยากเท่ากลับไว้เป็นๆแล้วส่งไปให้ท่าน”

                    (ฉันไม่ได้ให้นายทำฟรีซักหน่อย เอางี้ ถ้านายหาตัวเค้าเจอ ฉันให้นายกลับมาคบกับแทคอีกครั้งก็ได้ ฉันรู้ว่าพวกนายมีฝีมือด้านการสืบการค้น แค่ลูกค้ายื่นชื่อออเดอร์ให้นายก็จัดการได้แล้ว แทบไม่ต้องให้อะไรเพิ่มเลย พวกนายก็จัดการได้ไม่มีพลาด กะไอแค่หาคนแต่ยังไม่ต้องฆ่า มันคงไม่ยากเกินไปหรอกน่า)

                    “ถ้าผมหาเจอท่านจะให้ผมกลับไปจริงๆเหรอครับ?”

                    (ใช่ อย่างน้อยฉันก็ได้เห็นสิ่งที่นายเสียสละไปหลายอย่าง ถ้านายทำเรื่องนี้สำเร็จอีกสักเรื่อง ฉันก็ยินดีที่จะให้นายมาร่วมบ้านกับฉัน)

                    “ครับ ถ้าเค้ายังอยู่ที่นี่ ท่านรอรับตัวได้เลย”

                    (แล้วถ้าไม่อยู่ล่ะ นายจะสืบต่อได้มั้ยว่าเค้าไปอยู่ไหน)

                    “ผมจะพยายามแล้วกัน เท่านี้นะครับ”

                    (อือ)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×