คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความสุขของคนในห้อง(แก้ไขแล้ว)
เมื่อไปถึงศาลเจ้า.. เป็นศาลเจ้าฟุรุเดะที่สวยงามเป็นทางขึ้นยาวไปด้านบน (ใครดูฮิกุมาจะรู้ค่ะ)ทุกคนเดินไปจนถึงด้านบนก็เล่นเอาเหนื่อยเพราะเป็นทางยาวมากแต่เพราะความชินก็ไม่ได้เหนื่อยกันซักเท่าไหร่แต่คนที่เหนื่อยน่าจะเป็นฮิมิโกะที่ไม่ชินกับการขึ้นบันไดสูงๆ แถมไม่เคยออกไปเดินนอกบ้านเลยสักครั้งเลยเหนื่อยแทบเป็นลมซึ่งงผิดกับซากุโระที่เป็นผู้ชายแข็งแรงเพราะเปนคนรับใช้งานจึงหนักจึงชินกับการเดินแบบนี้แล้ว
ฮิมิโกะเช็ดเหงื่อและดื่มน้ำราวกับนักกีฬาเป็นผ้าที่ซากุโระเอามาให้เธอเช็ดเหงื่อไปด้วยและมองที่ศาลเจ้า
“... ช่างเป็นศาลเจ้าที่ดูสวยจัง...” เธอพูดขึ้นอย่างชื่นชมจากใจจริงเพราะเธอไม่เคยได้เห็นอะไรแบบนั้ยซักเท่าไหร่
“ครับ”
“เธอคิดว่ายังไงดีล่ะ ซากุโระ” ฮิมิโกะยิ้มแล้วจึงถามความในใจทั้งๆที่ยังเหนื่อยอยู่นิดหน่อย และขาที่ยังบวมแดงทำให้เธอปวดจนเหงื่อออกมากแต่เธอก็เก็บงำไม่บอกซากุโระทั้งๆที่มันปวดขึ้นอีกแล้ว
“ที่ประเทศของพวกเราไม่มีศาลเจ้าแบบนี้หรอกนะครับ”
“อืม ลุงว่าอิตาลี่ก็น่าสนุกดีแต่ลุงชอบอีแบบนี้มากกว่านะ” มิองแทรกขึ้นบ้างแล้ววากุโระจึงถามขึ้นอย่างสงสัย
“คุณมิองเคยไปอิตาลี่หรือครับ?” ซากุโระแหงนมองที่มิอง แล้วมิองก็ส่ายหน้าแล้วพูดแก้อาย
“ลุงไม่เคยไปซะหน่อย -3- แต่ลุงเคยเห็นในรูป”
“ขอรับ....”
แล้วฮิมิโกะก็มองศาลเจ้าและเหลือบมองไปเห็นห้องอะไรซักอย่างจึงคิดจะถามริกะแต่ว่าเรนะกลับขัดขึ้นมาเสียก่อน
“นี้ ทุกคนหิวกันไหม หิวกันไหม?” เรนะถามอย่างยิ้มๆทำให้เคอิจิและทุกๆคนที่ลืมความหิวไปกลับนึกได้ขึ้นมาอีกครั้ง
“อ้ะ ตั้งแต่ออกจากแองเจิ้ลมอร์ทก็หิวอีกแล้วล่ะ” เคอิจิลูบท้องด้วยความหิว แล้วจู่ๆเรนะก็วางกระป๋าใบใหญ่ลงแล้วหยิบอะไรบางอย่างขึ้น
“งั้น แทนแท่น! ข้าวกล่องที่เรนะทำมาล่ะ” เป็นกล่องข้าวหลายๆใบที่เธอทำมาพร่อมกับห่อใส่ผ้าไว้เรียบร้อยเล่นเอาเคอิจิเหวอ
“ระ เรนะ!! ผู้มีกระเป๋าดั่งโดราเอม่อน นะนี่ เธอเอาของแบบนั้นมาซะเยอะแยะเลยเหรอ!!!”เคอิจิตกใจ แล้วริกะก็ยิ้ม
“น่ากินจังเลยนะค่ะ นิป้า”
แล้วฮมิโกะก็มองแล้วก็ยิ้มบ้างกับความน่ารักของเรนะและเอ่ยปากชมเรนะบ้างด้วยความสุภาพ
“ว้าว คะคุณเรนะทำอาหารเก่งจัง” พลางบีบกล่องอะไรซักอย่างไว้ข้างหลัง เป็นกล่องขาวๆคล้ายกล่องข้าว
ซากุโระเหลือบมองไปข้างหลังของฮิมิโกะซึ่งเธอบีบกล่องเบาๆอยู่อย่างสงสัยและถามเรียกเธออย่างสุภาพ
“คุณหนูครับ..”
“อะไรเหรอซากุโระคุง” ฮิมิโกะรีบหันขวัอย่างตกใจที่จู่ๆซากุโระก็เรียกเธอพร้อมหน้าแดงๆ
“ไม่มีอะไรครับ ว่าแต่ในมือคุณหนู....” เมื่อฮิมิดกะได้ยินดังนั้นก็หน้าแดง ดัง ปุ่งแล้วก็ตอบแบบอายๆ
“อะ...อะ..เอ่อ ...กล่องข้าวน่ะ กล่องข้าว”
“ครับ...” ฮิมิโกะก้มหน้าลงเพราะดูเหมือนว่าซากุโระจะไม่ถามเธอแล้วๆเธอก็บ่นพึมพัมหวังว่าซากุโระจะไม่ได้ยิน
“กล่องข้าวที่ทำมาให้น่ะสิ ตาบ้า” เมื่อบ่นพึมพัมขณะก้มหน้าลงเพราะคิดว่าซากุโระคงไม่ได้ยินแต่ที่ไหนได้วุโระกลับหันมาทางฮิมิโกะแล้วถามเธออีกรอบเสียด้วย
“คุณหนูครับ เอาเวลาที่ไหนไปทำล่ะครับ? ผมยังไม่เห็นเลยนะครับตั้งแต่ตื่นเช้ามา ก็มานั่งรับประทานอาหารเช้า แล้วก็ออกมาพร้อมๆกับทุกคนนี้ครับ”
“คือว่า ฉัน มาทำตอนตี 5” ฮิมิโกะบอกไปปัดๆเพราะคิดว่าคงไม่ถามแล้วแต่ซากุโระยิ่งยิงคำถามไปที่เธออีก
“ตี 5? รู้สึกเหมือนกระผมตื่นเวลานั้นพอดีนะครับแล้วห้องครัวมันห่างจากห้องนอนคุณหนูตั้งไกล คุณหนูใช้ปาฏิหาริย์อะไรถึงได้กลับมาที่ห้องก่อน 7 โมงได้” ยิ่งทำให้เธออ้ำอึ้งๆก่อนจะตอบออกไปแบบปัดๆ
“ปฎิหารย์ของฮานิวมั้ง...”
“มี๊~ ทำไมต้องเป็นฮานิวด้วยล่ะค่ะ?” ริกะถามอย่างสงสัยและมองฮิมิโกะ เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีก็เลยตอบความจริงไปอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่รู้ค่ะ .. ฉันตื่นมาตอนตี1ยั้นตี3.เลยน่ะค่ะ” เธอไม่อยากโกหกสาวน้อยมิโกะอย่างริกะจังซากุโระถึงกลับเกิดอาการเป็นห่วงขึ้นมาอีกครั้ง
“คะ คุณหนู...” ฮิมิโกะหน้าแดงด้วยความอายปนโกรธนิดๆที่ดันไม่สามารถปกปิดจนทำให้ซากุโระต้องมานั่งเป็นห่วงอีกรอบ เลยตะโกนตอบอย่างหน้าแดงฉ่า
“ก็ฉันโกหกไม่อยากให้นายห่วงนี่นา”
“ครับ แต่ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ มันอันตราย” ฮิมิโกะทำหน้าบึ้งใส่ซากุโระซึ่งทุกคนก็นึกขำในท่าทีฉุนเฉียวรวดเร็วและน่ารักแบบนี้ของเธอ แล้วจู่ๆฮิมิโกะก็ยื่นกล่องข้าวให้ซากุโระอย่างเขินๆ
“อะอืม เอ้านี่ไม่อร่อยหรอกมั้ง ฉันทำนานถึง 3 ช.มเลยนะ”
“ห หะ กระผมหรอขอรับ?”
“ก็ใช่สิ ฉันให้”
“จะดีหรือขอรับ?” ฮิมิโกะเริ่มรู้สึกรำคาญกับการถามจู้จี้ของซากุโระเต็มที แล้วก็ประชดอย่างขึ้นเสียงไปด้วย
“กะ...ก็ฉันทำมาให้นี่ อ๋อนายไม่อยากกินใช่ไหมจะได้เทให้สุนัขกินเลย” แล้วทำท่าเหมือนจะเททิ้งแต่ซากุโระก็ขอรับไว้
“อย่านะขอรับ! ทานก็ทานขอรับ...” แล้วซากุโระก็รับมาทานไว้อย่างเกรงใจคุณหนูฮิมิโกะยิ้มอย่างยินดี แล้วฮานิวก็แทรกขึ้นมาบ้าง
“อาอูววว เหมือนโลกส่วนตัวเลยนะค่ะ”
“ดี -3- งั้นฉันขอทานของซากุโระ..” พูดแบบเด็กซนและพลางชี้ไปที่ข้าวกล่องของซากุโระบ้าง
“ฮะๆ เหมือนพวกลุงจะ ก.ข.ค” มิองพูดๆขำๆในขณะที่ฮิมิโกะและซากุโระกำลังอยู่ในช่วงบรรยากาศแบบนั้นอยู่
“ของกระผมก็แค่ปลาแซลม่อนตุ๋นเองนะขอรับ” ซากุโระพูดอย่างเป็นห่วงเพราะของตัวเองก็ไม่ได้น่ากินเสียเท่าไหร่นัก แต่ว่าฮิมิโกะไม่ยอมแพ้ ดื้อดึงจะเอาชนะให้ได้และยังพูดเถียงต่อไป
“ฉันจะกิน จะทำไมล่ะ” ฮิมิโกะยิ่งดื้อดึงก็ยิ่งทำให้ซากุโระยิ่งลำบากใจหลบตาฮิมิโกะแล้วก้มหน้าลง
“มันจะดีหรือขอรับ มันเป็นแค่เศษที่คุณหนูเหลือจากเมื่อวานเองนะขอรับ” ฮิมิโกะได้ยินดังนั้นก็จริงแต่ก็ไม่ใส่ใจพยายามจะเอาชนะให้ได้เช่นกัน
“หนวกหูน่าจะเอาอะไรกับฉันมากเล่า”
“ก็เพราะว่าคุณหนูคือคุณหนูยังไงล่ะครับ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาล่ะก็ มันจะไม่ดีนะครับ” คุณหนูงั้นเหรอ เธอเห็นฉันเป็นเพียงแค่คุณหนูเองเหรอซากุโระ-เธอคิดแล้วกไปนั่งทานอาหารหางๆซากุโระนิดหน่อยแล้วเคอิจิก็ใช้ตะเกียบคีบลูกชิ้นจากกล่องข้าวข้างๆเรนะ
“เรนะฉันขอลูกชิ้นเธอนะ....”
“ซาโตโกะวันนี้ทำผัดผักมาหรอค่ะ ขอทานหน่อยได้ไหมค่ะ มี๊” ริกะเองก็ขอชิมอาหารของซาโตโกะบ้าง
“อ้ะ เอาสิคะ”
“เคย์อิจิคุง อันนี้ของมี๊จังต่างหากล่ะ” เรนะบอกอย่างขำๆเมื่อเคอิจิหยิบของมิองแทนที่จะเป็นของเรนะ เคอิจิหน้าแดงระเรื่อด้วยความอาย
“อ้าวงั้นหรอกเหรอ”
“ของเคย์อิจิคุงอันนั้นต่างหากล่ะจ่ะ ล่ะจ่ะ” แล้วชี้ไปทางข้าวกล่องที่ทำมาให้เคอิจิ ทางด้านขวานั้นเอง
“อาอูอาอูอาอู ริกะ มันเผ็ดนะค่ะ!” ฮานิวที่ไม่ชอบของเผ็ดเพราะริกะดันกินกิมจิเข้าไปซะงั้น ฮานิวถึงกลับกลิ้งไปกลิ้งมาเล่นเอาทุกคนขำในท่าทีที่ถูกแกล้งของฮานิว(แนะนำคนที่ไม่เคยอ่านประสาทสัมผัสและการรับรู้ของฮานิวจะได้ผลมาจากริกะ)
“ฮะ ฮะ เคจังเอาของลุงไปซะแล้ว” มิองแซวเคอิจิที่หยิบของเธอไป ทำเอาเคอิจิยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่
“ทุกคนมีความสุขจังเลยนะคะ” ฮิมิโกะ พูดด้วยหน้าตาแจ่มใสและยิ้มแย้มมากกว่าใบหน้าโกรธแบบเด็กเมื่อกี๊มากขึ้น
“นั้นสิครับ” ซากุโระพูดด้วยน้ำเสียงเห็นด้วยกับภาพที่อยู่ตรงหน้า แล้วชิองเองที่เลิกงานเป็นสาวเสริฟก็เดินมาที่วงงานเลี้ยงที่กำลังสนุกสนานแล้วมิองเองก็ลุกมาต้อนรับน้องสาว ชิองพูดแกมงอลๆ
“อ้าวทุกคน มาปิกนิกกันไม่บอกฉันเลยนะค่ะ” ชิองทำหน้างอลที่ไม่มีใครไปบอกว่าจะมาปิกนิกมิองตบไหล่น้องสาวเบาๆพลางพูดแกมหัวเราะ
“ฮะๆ ชิองไม่อยู่เองนะลุงเสียใจกับชิองมากๆ”
“พี่นี้ล่ะก็” ชิองพูดท้าวสะเอวแบบมีน้ำโหของผู้ญิ้งผู้หญิงแบบน่ารัก ซึ่งมิองก็ขำเธออีกครั้งแล้วเซวเธอต่อ
“เอาสิมากินด้วยกันเถอะ ซาโตชิคุงรออยู่นะ ฮ่าๆ”
“แหม พี่ล่ะก็” คราวนี้ชิองทำท่าทางเปลี่ยนไปกลายเป็นเขินอายแทนเสียซะงั้น แล้วมิองก็หันไปถามริกะบ้าง
“หนูริกะฝึกการแสดงลอยนุ่นแล้วรึยัง” เป็นคำถามที่ดูเป็นห่วงเป็นใยมากกว่าทักท้วงเสียอีก ของมิอง
“ก็ดีมากแล้วล่ะค่ะ พรุ่งนี้ต้องรำได้สบายๆอยู่แล้วล่ะค่ะ” ริกะพูดยิ้มๆ แล้วฮิมิโกะก็เกิดอาการสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินชื่อการแสดงอะไรแบบนั้นมาก่อน
“ลอยนุ่น คืออะไรเหรอคะ” ฮิมิโกะถามขึ้นเพื่อลดความสงสัยเรนะตอบคำถามฮิมิโกะอย่างรวดเร็วฮิมิโกะมองเรนะ
“ก็เทศกาลขอบพระคุณท่านโอยาชิโร่ไงล่ะ” เรนะตอบฮมิโกะมองเธออีกครั้งและดูเหมือนว่าฮิมิโกะจะเป็นคนที่ชอบในตัวท่านโอยาชิโระรึปล่าวนะถึงได้ตอบขึ้นมากะทันหันแต่ฮิมิโกะก็ตอบเงยหน้ามองท้องฟ้า
“งั้นเหรอคะ” เธอเองก็คิดว่าคงไม่มีทีท่าจะสนุกเท่าไหร่สำหรับงานนี้ถ้าหากไม่มีเพื่อนไปแต่มิองก็สนับสนุนให้ความสนุกสนานเหมือนเคอิจิอย่างทุกครั้ง
“แล้วพรุ่งนี้พวกลุงจะไปตามร้านขายของเพื่อแข่งขันกิจกรรมกันด้วยล่ะนะ” เธอลุกโผขึ้นมาทันทีแล้วซากุโระยังสนับสนุนอธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อย
“กระผมได้ยินมาว่า งานเทศกาลนั้นเหมือนงานวัดของประเทศญี่ปุ่นเลยนะครับคุณหนู”
“ว้าวน่าสนุกจัง ซากุโระว่างอยู่แล้วนี่เนอะก็อยู่กัน2คนพุ่งนี้ต้องไปกับเรานะ”
“จะมีของพื้นเมืองน่าสนใจๆเยอะแยะสำหรับคนอยากรู้อยากเห็นอย่างคุณหนูเลยล่ะขอรับ..” ฮิมิโกะตื่นเต้นและดีใจอยากให้ถึงเทศกาลลอยนุ่นแทบขาดใจ
“ฮื่อ... อยากให้พรุ่งนี้เร็วๆจังเลย”
“ขอรับ ด้วยความเต็มใจนะขอรับ” ซากุโระตอบรับด้วยความเต็มใจฮิมิโกะมองที่คลังเก็บของนั่นอีกครั้งอย่างสนอกสนใจและอยากรู้อยากเห็น แล้วหันไปมองหน้าริกะอีกครั้งก่อนจะตั้งใจถามริกะ
“นี่ๆ ข้างในนั้นน่ะ มีอะไรงั้นเหรอ” เธอมองที่คลังอย่างสนอกสนใจอีกครั้งแล้วริกะก็ตอบพร้อมรอยยิ้ม
“ก็ห้องเก็บอุปกรณ์น่ะค่ะ”
“งั้นเหรอคะ แต่รู้สึกเหมือนมีอะไรมากกว่านั้นแต่คงคิดไปเอง..” ฮิมิโกะมองอีกครั้งราวกับว่ามีผีสิงคลังยังไงยังงั้น
“มี๊ มันมีแต่ของน่ากลัวเฉยๆล่ะค่ะ ไม่มีอะไรมาก ใช่ไหมฮานิว?”
“อาอู~~”
“อืม เราไม่อยากเห็นเท่าไรหรอกคะ ฮะๆ” ทั้งๆที่จริงแล้วเธอเองก็อยากเห็นใจจะขาด ‘ของน่ากลัวอย่างงั้นเหรอ’เธอคิดแล้วมองมันอีกครั้งราวกับอยากเห็นมันมากแต่ตัดใจแล้วริกะก็ยิ้มตอบอีกครั้ง
“มี๊ ดีแล้วล่ะค่ะ”
“ดีแล้วอะไรเหรอคะ” ยิ่งทำให้เธอสับสนมากขึ้นเมื่อเธอพูดแบบนั้นราวกับมันมีอะไรที่ลับลมคมในเสียขนาดนั้น
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“ทุกคน ริกะจะต้องซ้อมแล้วนะ” มิองพูดขึ้น ริกะก็เตรียมตัวลุกและพูดด้วยรอยยิ้มกับฮิมิโกะ เธอเองก็เป็นเด็กที่น่ารัก ใจดีและอ่อนโยนมากจริงๆ
“อะ ต้องไปเตรียมตัวแล้วสิ มี๊” แล้วเธอก็ลุกขึ้นซึ่งฮิมิโกะก็มองตามเธอแล้วถามเธออีกครั้งก่อนจะไป
“ไปเตรียมตัวซ้อมเหรอคะ”
“มี๊ ค่ะ~~”
“พรุ่งนี้เราจะรอดูค่ะ กลับกันเถอะซากุโระคุง” แล้วหันไปมองที่ซากุโระและเดินนำหน้าซากุโระไปแล้วซากุโระก้ตอบรับพลางเดินตามฮิมิโกะ
“ครับคุณหนู”
พอถึงหน้าบ้านได้ซักพักฮิมิโกะก็ทรุดตัวลงนั่งเสียตรงนั้นแล้วจับที่เท้าของตัวเองที่บวมแดงขึ้น ซากุโระตกใจแล้วไปประคองตัวฮิมิโกะไว้ แล้วฮิมิโกะก็ทำหน้าเจ็บปวดอยู่แล้วก็ฝืนยิ้มนิดหน่อย
“คุณหนู เป็นอะไรไปครับ” ซากุโระประคองตัวฮิมิโกะให้ลุกขึ้นพลางถามอาการเธอแล้วฮิมิโกะก็ตอบไปอย่างปวดแผลเอาการ
“เท้ายังไม่หายดีเท่าไหร่” มือซึ่งกำลังกุมแผลบวมที่พันผ้าไว้ แล้วซากุโระก็ประคองตัวเธอขึ้นชั้นบน
“อะ ขอบคุณนะ” แล้วเมื่อถึงห้องเธอก็นั่งมองประตูอย่างไม่มีอะรทำและตั้งหน้าตั้งตารอซากุโระอยู่เนิ่นนานและแผลที่บวมก็เริ่มจะเบาบางลงบ้างแล้วถึงแม้จะปวดๆอยู่บ้างเล็กน้อยแล้วซากุโระก็เปิดประตูเรียกฮิมิโกะให้ไปอาบน้ำ
“คุณหนูครับ น้ำอุ่นได้ที่แล้ว ได้เวลาอาบน้ำแล้วขอรับ” แล้วเธอก็เดินออกมาพ้อมถือผ้าขนหนูไว้ในมือ
“อื้ม ไม่ต้องมาแอบดูนะ..” เธอพูดเล่นๆแบบตรงไปตรงมาซากุโระทำท่าทางสงสัยและตอบกลับด้วยทีท่าที่สงบ
“กระผมเคยทำแบบนั้นด้วยหรือครับ เมื่อวานก็ไม่อาบน้ำนะครับ วันนี้ยังไงก็อาบให้สะอาดล่ะ” แล้วซากุโระก็เดินไปจัดที่นอนของฮิมิโกะให้เรียบร้อยจนพอที่เธอจะนอนได้อย่างสบายและฮิมิโกะก็วิ่งไปด้วยอาการหน้าแดงๆ ซากุโระมองตามแล้วยิ้มน้อยๆ
ในขณะที่ซากุโระกำลังจัดที่นอนซึ่งเธอก็อาบน้ำอยู่เป็นห้องน้ำหรูตรงที่วางสบู่ก็เป็นขอบสีทองงามสะอาด ฝักปัวก็เป็นของถอดลายแบบอิตาลี พื้นห้องน้ำเป็นพื้นลายหินเทาๆ อ่างน้ำก็เป็นอ่างแบบแฟนซีที่ชโลมด้วยทองคำทั้งชุด ซึ่งเป็นห้องน้ำที่มีชักโครกเป็นสีทอง แทบทั้งหมดจะกลายเป็นห้องน้ำสีทองที่แสนหรุกว่าเด็กวัยรุ่นเธอจะต้องใช้เสียอีก และเธอเองก็นอนแช่น้ำอุ่นๆเหมือนเด็กธรรมดาๆที่ทำกันโดยไม่เอากลีบกุหลาบมาโรยตามน้ำอุ่นๆให้น่ารำคาญ
“ถ้าพรุ่งนี้เป็นวันที่แสนสนุกได้ก็ดีน่ะสินะ” เธอบ่นพึมพำกับตัวเองและสร้างเพื่อนที่ไม่มีตัวตนเล่นน้ำกับเธอเอง ซึ่งก็เล่นๆตามภาษาเด็กวัยรุ่นอายุ14-15
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอก็ขอให้ซากุโระมานั่งข้างๆเธอ เพราะว่ากลัวหรือเหงาก็ไม่ทราบซึ่งเธอตอนนี้ใส่ชุดนอนแบบกระโปรงยาวคลุมเข่าดูเรียบร้อย ซากุโระมองที่ฮิมิโกะแล้วก็เปิดบทสนทนาเพื่อไม่ให้บรรยากาศตรึงเครียดเกินไป
“นี้ คุณหนูครับ...” ฮิมิโกะซึ่งกำลังนั่งกอดหมอนก้มหน้าคล้ายจะหลับก็เงิยหน้ามองผู้เปิดบทสนทนาตามมารยาท
“หืม..”
“วันนี้สนุกไหมครับ?” ซากุโระถามอย่างสุภาพ ฮิมิโกะก็ยิ้มแล้วตอบความสนุกสนานของวันนี้
“สนุกสิ ทุกๆคนร่าเริงกันมากๆ พรุ่งนี้ต้องสนุกแน่ๆเลย”
“ครับ ถ้าคุณหนูสนุก ผมก็ดีใจครับ” แล้วฮิมิโกะก็ย้อนถามเขาบ้าง
“แล้ว ซากุโระล่ะ สนุกไหม”
“ครับ สนุกมากครับ”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ ถ้าซากุโระสนุกฉันก็ดีใจ” เป็นประโยคเดียวกับที่เขาตอบเธอไปเมื่อกี๊แม้จะไม่เหมือนมากนักก็ตามทีเขามองหน้าคุณหนูแล้วก้มหน้าลงอย่างอายๆ แล้วตอบแบบเขินๆเมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของคุณหนูแล้ว
“ครับคุณหนู...”
ความคิดเห็น