ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Higurashi Himiko koro ni kai

    ลำดับตอนที่ #2 : ความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูและคนรับใช้(แก้ไขแล้ว)

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ย. 52


    "เราไม่ชอบที่ซากุโระทำเหมือนเราเป็นคุณหนูเลย" ฮิมิโกะบ่นถึงเรื่องเมื่อกี๊เพราะความจุ้นจ้านของซากุโระที่ชอบทำเป็นห่วงกับเรื่องเล็กๆ แต่ฮานิวก็เสริม
    "อาอูวว ก็ถ้าเป็นคนรับใช้ก็ต้องรักเจ้านายเป็นธรรมดาแหล่ะค้า" ฮิมิโกะมองฮานิวแล้วก็ยิ้มใสๆ เพราะฮานิวเองก็พูดจริงๆนี่นะ และทำให้ธอหายหงุดหงิดได้ไปหน่อยนึงแม้จะเป็นอารมณ์หงุดหงิดไร้สาระและเอาแต่ใจก็ตามที
    "งั้นเหรอ นั่นสินะ จริงๆเราหนีแม่มานะ" ฮิมิโกะพูดขึ้นมาลอยๆ ทำให้รู้สึกกับว่าเหมือนใครบางคนจังเลย แล้วริกะก็ยิ้ม
    "เหมือนคุณชิองเลยสินะค่ะว่าแต่ วันนี้ชิองก็กลับบ้านกับซาโตชิอีกแล้วล่ะสิ.." ริกะพูดพลางมิงไปด้านหน้า ฮิมิโกะมองไปที่ชิอง ซาโตโกะและซาโตชิ แล้วก็เริ่มสนทนาขึ้นมาบ้าง
    "เค้าสนิทกันจังนะคะ"
    "มี๊ สนิทกันจนน่าอิจฉาเลยล่ะค่ะ" ริกะยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ทำให้รู้สึกว่าฮิมิโกะถูกชะตากับเธอเสียแล้ว และอยากจะคุยด้วยต่อแต่ว่ากับถึงบ้านตัวเองซะแล้วเสียนี่ ทำให้เธอไม่มีโอกาสได้คุยต่อ จึงทำให้เธอเสียดายอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
    "ฮะๆ อ้ะถึงบ้านแล้วค่ะ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ" ฮิมิโกะขอบคุณกับริกะที่ยอมใส่ชุดแมวมาแม้โดนเกมลงทันก็เถอะ แล้วริกะก็กล่าวลาพร้อมโบกไม้โบกมือบ้าง
    "ค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะค่ะ มี๊"ระหว่างที่ทั้งสองคนจะเดินกลับ ฮานิวก็นึกสงสัยแล้วหันไปมองบ้านหลังนั้นอีกทีแล้วก็ถอนหายใจ...
                    ฮิมิโกะมองไปที่ฮานิวและริกะอย่างยิ้มๆและสงสัยในตัวเธอบางอย่างแล้วจึงเดินเข้าบ้านไปและได้พบกับใครคนหนึ่ง
    "กลับมาแล้วค่ะ เอ้ะ ซากุโระ" ซากุโระยืนรออย่างนิ่งๆ แล้วจึงเริ่มถามคำสั้นๆ ฮิมิโกะที่กำลังสาละวนกับการถอดรองเท้า
    "คุณหนูครับ" ไม่ใช่คำถามแต่เป็นการเรียกมากกว่าเจ้าของสรรพนามที่กำลังถอดรองเท้าเสร็จหันไปมองและเอ่ยมาลอยๆนิดนึง
    "หืม"
    "เปล่าครับ ไม่มีอะไร" ซากุโระตอบแล้วฝืนยิ้ม ทำเอาฮิมิโกะไม่สบอารมณ์ซักเท่าไหร่แล้วถือกระเป๋าเข้าบ้าน แล้วซากุโระก็เริ่มถามอีก
    "คุณหนูคงจะเหนื่อย ไปพักผ่อนเถอะครับ" คราวนี้เธอไม่ได้ตอบอีกแต่กลับมองหน้าซากุโระแทน
    "หน้าผมมีอะไรหรือครับ?" ฮิมิโกะทำสายตาเนือยๆใส่แล้วย้อนถามไม่สิถากถางเขากลับบ้าง
    "เธอต่างหากที่เหนื่อย.." ซากุโระอึ้งนิดหน่อยแล้วตอบปฐิเสธอย่างสุภาพ
    "ไม่ใช่หรอกขอรับ.." คราวนี้ดูเหมือนฮิมิโกะดูไม่ค่อยพอใจกับคำตอบแบบนี้มากนักเลยเถียงกลับ แต่ซากุโระก็ขัดมาก่อน
    "กระผมสบายดี" เมื่อฮิมิโกะได้ยินดังนั้นก็คิดจะตอบเขากลับแบบเดิมอีกเช่นเคยไม่สิต้องเถียงไปแล้ว
    "โกหก.."
    "ไม่ได้โกหกนะครับ ผมสบายดีจริงๆ" ซากุโระตอบแบบตะกุกตะกักและหลบหน้าฮิมิโกะแต่ฮิมิโกะยิ่งไม่ชอบใจมากขึ้นและยิ่งเถียงหนักเข้าไปอีก
    "ฉันบอกว่าโกหกก็คือโกหก หัดทำตัวสบายๆบ้างได้ไหม!!"
    "ไม่ได้หรอกครับ ก็กระผมเป็นแค่คนรับใช้นะครับ" ซากุโระตอบอย่างนุ่มนวลยิ่งทำให้เธอเหนื่อยใจมาก
    "ขอบใจที่เป็นหว่งฉันขึ้นไปเองได้" ฮิมิโกะส่ายหน้าพลางตอบแล้วเดินปึงปังขึ้นไปซากุโระตอบรับเสียงสั่น
    "คะ..ครับ"
                    ขณะที่ฮิมิโกะที่เดินสาวเท้าขึ้นไปตึงตัง จู่ๆก็ล้มเสียงตรงบันไดซากุโระเป็นห่วงรีบวิ่งขึ้นไปดูอาการทันที
    "คะ คุณหนู เป็นอย่างไรบ้างครับ?" ฮมิโกะหน้าซีดรีบจับเท้าอย่างทรมารและที่เท้านั้นบวมแดงเอาพอการแม้ไม่สาหัสแต่ก็เจ็บ ซากุโระพยุงตัวฮิมิโกะขึ้น
    "คุณหนู อย่าฝืนเลยครับ เดี่ยวผมพาไปส่งที่ห้องเอง" ฮิมิโกะถึงกับอายและหน้าแดงขึ้นแล้วปัดมืออกพร้อมทั้งยังมองหน้าซากุโระ
    “อะไรแค่นี้เองนี่นาก็แค่บวมเอง” จริงๆเธอก็เจ็บน่าดูแต่ปฐิเสธเพราะความอายและเธอเองก้ไม่ค่อยให้วากุโระพาขึ้นห้องเสียด้วย แต่ด้วยความเป็นห่วงของซากุโระจึงคัดค้านและต้องพาฮิมิโกะไปส่งที่ห้องด้วยเหตุผล
    "ไม่ได้นะครับ ถ้าคุณหนูไปทั้งแบบนี้ล่ะก็ อาการมันจะหนักขึ้นนะครับ" เมื่อฮิมิโกะได้ยินอย่างนั้นก็ยอมให้วากุโระพาไปส่งแต่โดยดี
    "กะ..ก็ได้ ..."
                    หลังจากนั้นซากุโระก็พามาถึงห้อง ซึ่งทำให้ฮิมิโกะเริ่มหายเกลียดวากุโระมากขึ้นและยังหน้าแดงอีกด้วย แล้วซากุโระก็ส่งตัวฮิมิโกะลงบนเตียงอย่างเบาๆ(ไม่ได้โยนให้ไปบนเตียงอย่างงั้นนะ)
    "ถึงแล้วครับ" แล้วซากุโระก็หันหลังเดินออกไปจากห้องนอนแต่ดูเหมือนว่าฮิมิโกะจะไม่ยอม
    "จะไปแล้วเหรอ
    "ถึงเวลาที่คุณหนูต้องพักผ่อนแล้วครับ" ซากุโระตอบแต่ก่อนที่จะเดินออกไปฮิมิโกะก็รีบค้านขึ้นมาอีก ราวกับ่วาอยากให้ซากุโระอยู่ด้วย
    "ไม่เอา อยู่เป็นเพื่อนกันไม่ได้เหรอ ฉันกลัวนะ" ฮิมิโกะขอร้องและตัวสั่นๆนิดหน่อยไม่รู้ว่ากลัวจริงหรืออายกันแน่
    "ตะ แต่ว่า..."
    "นี่เป็นคำสั่ง" เธอขึ้นเสียงทันทีทำให้ซากุโระตกใจและยอมทำตามเธอโดยดี
    "คะ ค ครับ..." ซากุโระเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆเตียงแล้วเธอก็มองที่ซากุโระอย่างอายๆแล้วหาเรื่องคุยให้ดูไม่น่าเบื่อซักเท่าไหร่
    "ที่นี่สงบสุขกว่าที่อิตาลี่จริงๆนะ"
    "ครับ" ซากุโระมองออกไปนอกหน้าต่าง..."สงบสุขมาก" แล้วฮิมิโกะก็เหมือนนึกอะไรได้แล้วโพล่งขึ้นมาทำหน้าเหมือนได้เรื่องสนุกหรือเหมือนเด็กๆที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่อย่างไรอย่างนั้นเลย
    "จริงสิซากุโระคุง!!"
                    "ครับ ??” ซากุโระมองเธออย่างสงสัย แล้วฮิมิโกะพูดแบบสนุกสนานและทำหน้ายิ้มๆ แล้วจึงบอกความต้องการของตัวเอง
    "ฉันอยากทำอาหารเองจัง" ซากุโระยิ้ม เพราะบางทีเวลาทำหน้าแบบนี้เธอก็ดูน่ารักไปอีกแบบแล้วซากุโระก็ตอบกลับบ้าง
    "งั้นวันพรุ่งนี้ที่เป็นวันหยุด ผมจะสอนให้นะครับ" ฮิมิโกะดีใจแล้วเริ่มพูดต่อถึงเขาและเพื่อนๆ
    "ฮื่อ!!! อยากให้ซากุโระคุงไปรู้จักมิอง ชิอง ริกะจัง และก็ทุกๆคนจัง" เธอพูดแบบเป็นเรื่องสนุกและต้องการที่จะให้วากุโระได้พบเพื่อนๆอย่างใจจริงเขารีบตอบกลับอย่างตะกุกตะกักเพราะฐานะตนเองไม่เหมือนกับเธอ
    "ตะ แต่ว่า...กระผมเป็นแค่คนรับใช้นะครับ" แล้วเธอก็ตะโกนตอบกลับราวกลับว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่พูดอย่างมั่นใจ
    "ไม่ใช่ซักหน่อยเธอเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดตะหาก!!!"
    "คุณหนู..." ซากุโระก้มหน้าลงเพราะไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเขามาก่อนหรือพูดแล้วแต่ลืมว่าใครได้พูดกับเขา แต่เขากลับดีใจที่ฮิมิโกะพูดแบบนี้ทั้งๆที่เธอนั้นสูงส่งกว่าเขามาก ฮิมิโกะยิ้มและดีใจที่พูดออกไป
    "ฮิๆ "
    มิ้ง มิ้ง มิ้ง เมื่อเวลายามเช้า ฮิมิโกะซึ่งกำลังหลับอยู่ก็ถูกปลุกด้วยเสียงของจั๊กจั่น แสงของแสงแดดที่ส่องมาพร้อมกับ
     “คุณหนูครับ ตื่นได้แล้วครับ” เสียงเคาะประตูของซากุโระ แล้วเมื่อเธอเดินมาเปิดประตุ (ในสภาพชุดนอนนประโปรงสั้น) แล้วเธอก็ต้องตกใจโดยลืมสภาพของตัวเองและสภาพครอบครัวที่เป็นอยู่ในตอนนี้กลับเข้ามาในหัวทันที
    “หาว!!! อ้ะ!!! ซากุโระคุง!! จริงสิๆ ในบ้านนี้มีแค่เรา 2 คนนี่นาว้าย!!! อย่าเข้ามานะ” แลเวเธอก็ดยนของออกไปไม่ว่าจะหมอน โคมไฟ หรือนาฬิกา (ทำไมไม่เตะเลยล่ะ) เปรี้ยง!!!
    “ขออภัยขอรับ!” ซากุโระรีบปิดประตูไม่ให้โดนของเข้าฟาดที่หน้า แล้วก้ไม่ลืมที่จะกล่าวขอโทษ แล้วฮิมิโกะแต่งตัวแล้วจึงเดินลงมาอย่างง่วงๆทั้งๆที่แต่งตัวจนสะอาดเสร็ขสรรพ แล้วจึงมานั่งทานอาหาร
    “อาหารเช้าวันนี้ เป็นขนมปังกระเทียมกับนมสดครับ” เอ๋ อาหารแบบนี้เหรอ เฮ้อ สู้อาหารของเรนะไม่ได้หรอก-เธอคิดแล้วก็บ่นออกมาตามความคิดแม้จะไม่เหมือนกับคำที่คิดมากและสั้นกว่าด้วย
    “อา.. มีแต่ของแบบนี้ไม่น่าทานเท่าไรเลยแฮะ” ฮิมิโกะบ่นแล้วถือช้อนเตรียมทานอาหารอย่างเชื่องช้าและเบื่อ
    “แต่ว่ามันดีต่อสุขภาพของคุณหนูนะครับ แล้วนายหญิงเองก็ต้องการให้คุณหนูมีสุขภาพแข็งแรงนะครับ”
    “น่าเบื่อ!!! เอ้ากินก็กิน !!!” แล้วฮิมิโกะก็เริ่มจิ้มขนมปังที่หั่นแล้วแรงๆแล้วหยิบมาทานทีละนิดอย่างน่าเบื่อหน่าย (น่าอิจฉานะผู้แต่ง virgolia อย่างเราได้กินแค่อะไรเอง ขนมปังประกบนมกับโอวันติน ฮา..)
    “ถ้าคุณหนูทานหมด ผมก็จะทำพุดดิ้งให้ทานนะครับ…แต่ถ้าทานไม่หมด ก็อดนะครับ”เมื่อฮิมิโกะได้ยินชื่อเมนูโปรดเธอถึงกลับรีบรับประทานอาหารของเธอโดยเร็ว
    “ห้ะ!!! พุดดิ้งงั้นฉันจะทานให้หมดเลย”  แล้วฮิมิโกะก็รีบทานแต่ไม่ถึงกลับมูมมามมากนักแต่เป็นภาพที่ทำให้วากุโระถึงกลับยิ้มทันที
    กิ๊งก่อง… ฮิมิโกะที่กำลังทานอาหารเสร็จก็เตรียมที่จะลุกไปเปิดประตูทันที ขณะที่มีขนมปังคาปากอยู่ชิ้นนึง
    “อ้ะ ใครมาน่ะ” ซากุโระบอกให้เธอทานอาหารไปก่อนแล้วฮิมิโกะก็นั่งลงแล้วซากุโระก็เดินออกไปแทน
    “เดี๋ยวกระผมจะไปเปิดประตูให้เองนะครับ”
    “อื้ม...” เมื่อเปิดประตูก็ไม่ใช่ใครที่ไหนซึ่งก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นร่วมชมรมขิงเธอนั่นเองนั่นก็คือริกะและฮานิวกับคนอื่นๆ
    “ฮิมิโกะจัง อรุณสวัสดิ์”
    “อ้ะ!!! ริกะจัง ทุกคน” แล้วฮิมิโกะก็เดินออกมาโดยไม่สนใจที่จะรอกินพุดดิ้งต่อ(ติดเพื่อนพูดง่ายๆ
    “ว้าว บ้านน่าอยู่จังเลยนะค่ะ” ริกะเอ่ยอย่างสนใจเพราะภายในบ้านเมไปด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูๆ แถมรูปปั้นก็มีพร้อมเพดานก็เป็นไม้ที่สวยสดงดงาม (ไม่รู้อีหนูคนนี้แอบสร้างไว้เมื่อไหร่กัน)โคมไฟสีประดับด้วยลวดลาย
    “โห สมเป็นบ้านคุณหนูยังกะบ้านอิตาลี่แหนะ” เคอิจิมองดูบ้านและตะลึงกับความงามที่ดึงดูดสายตาผู้คน แถมบ้านยังสวยกว่าบ้านของเขี่ดูใหญ่และสะอาดแต่ที่นี่กลับใหญ่และอลังการมากกว่าแต่อยู่ในบ้านแค่ 2 คน
    “อุ้ย รูปปั้นตัวนั้นน่ารัก จะเอากลับบ้าน~~~” เรนะเริ่มออกอาการจะเอากลับบ้านเมื่อเห็นรูปปั้นคิวปิดน้อย
    “คะ คือว่า....” ซากุโระเริ่มทักทายบ้าง เคอิจิซึ่งกำลังติดใจบ้านอยู่ก็เริ่มทักทายเขาบ้างแล้ว (ก็มันสวยนี่นะ)
    “เหนายคือซากุโระเหรอ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันมาเอะบาระ เคอิจิ”
    “ครับ กระผมซากุโระ มิราอิ เป็นพ่อบ้านของคุณหนูครับ ทุกคนจะรับน้ำชาไหมครับ?” ซึ่งก็ถือเป็นมารยาทอย่างนึงสำหรับแขกผู้มาเยือนแต่เคอิจิกลับบอกปัดเพราะมีที่ๆจะไปอยู่แล้วจึงไม่สนใจรับน้ำชา
    “โฮ่ย ไม่ต้องหรอก พวกเรามาชวนไปเที่ยวในโอโคโนมิยะกันน่ะ”
    “คะ ครับ..งั้นอาหารเที่ยง กระผมคงไม่ต้องเตรียมแล้วสินะครับ” ซากุโระหัวเราะแห้งๆ แล้วมิองก็เสริมบ้างแล้ว
    “โอ้ พวกเราจะไปทำกิจกรรมชมรมส่วนนาย” มิองชี้ไปที่ซากุโระ ซากุโระงงเล็กน้อยแล้วออกอาการตอบกลับ
    “ครับ?
    “เป็นสมาชิกชมรมแล้วนะ” มิองยิ้มและเก็บมือที่ชี้ออกไปเมื่อครู่ ซากุโระซึ่งงงงวยกับสถาณาร์ณอยู่ถึงกับถาม
    “คนอย่างกระผมเนี่ยนะ ขอรับ?”
    “คนอย่างนายนั่นแหละ”  
    “โฮะๆๆๆ ยังไงก็สู้ดิฉันไม่ได้แน่นอนค่ะ” ซาโตโกะ ที่เงียบอยู่นานก็เริ่มเอ่ยบ้างริกะเองก็ยิ้มแล้วบอก
    “พูดง่ายๆก็คือเล่นเกมส์กัยทุกคนไงคะ”
    “ขะ ขอรับ....”
    “เราดีใจมากนะที่ซากุโระคุงได้เป็นส่วนรวม” ฮิมิโกะแทรมาจากข้างหลังแล้วยิ้มอย่างยินดีที่ได้พาซากุโระไปด้วย
    “คุณหนู” ซากุโระหน้าแดงระเรื่อแล้วฮิมิโกะก็ยิ้มในอาการของเพ่อนร่วมชมรมมากกว่าคนรับใช้
    เมื่อถึงโอโคโนมิยะ เป็นที่ๆธรรมดาๆที่นึง เหมือนในเมืองทั่วๆไปแต่คุณหนุที่ไม่เคยออกมาที่แบบนี้กลับมองว่าเป้นที่ๆวิเศษมากกว่าคนอื่นๆมองเสียอีก (เพราะวันๆ ฮิมิโกะเอาแต่หมกอยู่กับบ้านในตอนเด็กๆแม่ไม่ได้พาออกไปไหนจึงดูเป็นเรื่องที่ตื่นเต้น)
    “ว้าย!!! เป็นที่ๆวิเศษจัง”
    “คะ ครับ วิเศษมากครับ” ซากุโระทำหน้ายิ้ม แต่ว่ามือไม้ถือแต่ของที่ฮิมิโกะซื้อแทบทั้งหมด
    “เหะๆ คุณหนูได้พบกับสิ่งวิเศษเหลือล้นเลยเนอะ” มิองชอบใจในอาการตื่นเต้นของฮิมิโกะ
    “อาอูววว เราอยากไปแองเจิ้ลมอร์ทจังค่ะ” ฮานิวก็เริ่มออกความเห็นทั้งๆที่เงียบไปนานสองนาน(คงเพราะอยากกินชูครีมสินะ นิป้า~)
    “โฮ่ย ไปกันเหอะ !!” ทุกคนพูดพร้อมกันยกเว้นซากุโระ เมื่อมาถึงแองเจิ้ลมอร์ท และเมดที่มาต้อนรับนั้นก็คือชิอง
    “ยินดีต้อนรับค้า”
    “ว้าย คุณชิอง” ฮิมิโกะ ตกใจที่ได้พบชิองภายในชุดเมด แล้วมิองก็พาไปนั่งทานเค้ก ขนมหวานแล้วก็เริ่มกิจกรรมชมรม
    “เอาล่ะนะชิองคงไม่ว่าง แต่เราก็จะทำกิจกรรมชมรมล่ะ”
    “คนๆนี้ ทำไมหน้าเหมือนคุณมิองเลยล่ะครับ?” ซากุโระถามด้วยอาการงงกับความเหมือนทุกส่วนของมิอง
    “เพราะเป็นฝาแฝดของลุงน่ะสิ เอาล่ะ กิจกรรมชมรมคือเราจะมาแข่งกันกินเค้กล่ะ ใครหมดก่อนก็ชนะ แน่นอนว่า 3 ถ้วย!!!”
    “มี๊ แต่เราว่า เราคงกินไม่หมดหรอกนะค่ะ” ริกะพูดยิ้มๆแล้วฮานิวก็เสริมขึ้นมาบ้าง เพราะความอยากกินล่ะมั้ง
    “อาอูวว เดี่ยวเราช่วยริกะก็ได้ค่ะ.
    “ฮ๊า!!! 3 ถ้วยเหรอคะ!!!~” ฮิมิโกะถึงกลับเปล่งเสียงตกใจขึ้นมาบ้าง 3 ถ้วยนี่เธอคงคิดว่าขนาดใหญ่ทั้งแผงแหง
    “เอ่อ.. คือมันคงมากเกินไปล่ะมั้งครับ...” ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ซากุโระก็เข้าใจว่าเป็นแบบนั้นเหมือนกัน
    “ปล่าวน๊า 3 ถ้วยเล็กเอง...” มิองแก้ความเข้าใจผิดให้ทุกคนๆจึงยอมลงแข่งด้วย ขนาดถ้วยมันก็แค่แก้วนึง 2 แก้วนั่นล่ะ
    “คะ ครับ”
                    ในขณะที่เริ่มกิจกรรมชมรมกันมาแทบนานแล้ว และคนที่ได้ทีหนึ่งนั้นดูเหมือนจะเป็นมิองเหมือนเดิม
    “ฮาา~ เราสู้มิองไม่ได้เลย คุณมิองกินเร็วจัง” ฮิมิโกะพูดอย่างน่าเสียดายเพราะฮิมิโกะเพิ่งจะได้มากินถ้วยที่ 3
    “ตะ แต่ว่ากระผมกินได้แค่ครึ่งถ้วยอยู่เลยนะครับ...”
    “มี๊ คุณซากุโระคงจะแพ้แล้วล่ะค่ะ นิปา~” ริกะก็แสดงชัยชนะขึ้นมาบ้าง บางคนกินหมดไป 1 ถ้วยบ้าง 2 ถ้วยบ้างแต่คนที่จะชนะจะเป็นมิองนะ
                    “อืม.. ฮะๆๆๆๆ ลุงชนะ”
    “เกมลงทัณฑ์ๆๆๆ” ทุกคนพูดเสียงพร้อมกันยกเว้นฮิมิโกะเพราะเธอคงไม่อยากเห็นซากุโระโดนให้เป็นตัวอะไรหรอกนะ
    “เอ??? สำหรับซากุโระคุง ตอนนี้อยู่แองเจิลมอร์ทพอดี ใส่ชุดเมดไปเล๊ย..” มิองเสริมแล้ววากุโระก็รีบปฐิเสธ
    “อย่านะขอรับ! ...มะ ไม่ได้นะขอรับ~” แต่ก็โดนจับใส่ไปแล้ว เมื่อฮิมิโกะเห็นถึงกลับกุมขมับแล้วทำเป็นไม่รู้จักแล้วมองไปที่ซากุโระ 2-3 รอบแล้วหันไปทางหนาต่างอย่างอายๆ ชุดแองเจิ้ลมอร์ทมันเสียชายไปเลยนะนั้น แง-เธอคิดในใจ แล้วซากุโระก็หันมามอง
    “คะ คุณหนู...”
    “เรนะ...จะเอากลับบ้านนนนนนน” เรนะเริ่มออกอาการจาเอากลับบ้านนนอีกแล้วซึ่งริกะก็ตบมือครั้งนึงแล้วเสริมให้
    “น่ารักจังนะคะ นิปา~” ซึ่งฮิมิโกะก็ยกมือขอโทษซากุโระ และ รู้สึกขายหน้าแทนเอามากๆแต่มันก็ช่วยไม่ได้เสียจริงๆ
    “ขะ ขอโทษนะ ฉันจะทำเป็นไม่เห็นก็แล้วกัน” วากุโระนิ่งอึ้งไปนิดนึง แล้วก้มลงโดยไม่สนใจเรนะซึ่งกำลังออกอาการเอากลับบ้านอยู่
    ....
    “น่าขายหน้าที่สุดเลยครับ...” ฮิมิโกะ ถึงกลับหน้าแดงแป้ดเลย แล้วริกะก็เริ่มทักถึงสถาณที่ต่อไป
    “มี๊ จะไปไหนกันต่อล่ะค่ะ?” มิองเมื่อได้ยินดังนั้น ก็ทำท่าครุ่นคริดนิดหน่อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพดาน
    “นั่นสินะ ไปไหนดีล่ะ ลุงก็คิดไม่ออก” ทั้งหมดไม่ได้ตอบอะไรเพราะม่รู้จะไปไหนดีเหมือนกันแล้วก้ไม่ได้คิดกันมาก่อนด้วย เมื่อฮานิวคิดได้ก็ออกความเห็นกับมิองและทุกๆคนและเป็นสถาณที่ในฮินามิซาวะนี่เอง
    “อาอูวว ไปศาลเจ้าฟุรุเดะไหมล่ะค่ะ?”
                   “ไปสิๆ” ฮิมิโกะออกความเห็นทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ซากุโระมองที่ฮิมิโกะแล้วถามอย่างอายๆ
     
    “คุณหนู จะให้ผมแต่งตัวแบบนี้เนี่ยนะครับ?” เมื่อฮิมิโกะนึกได้ ถ้าวากุโระแต่งตัวแบบนี้ไปเดินในฮินามิซาวะก็เครียดแน่ๆเลย เพราะแค่แองเจิ่ลมอร์ทก็ทำให้ขายหน้ามากแล้วถ้าเดินออกไปที่นี่สภาพนี้มันจะแย่ยิ่งกว่านี้ ฮิมิโกะก็สั่ง
    “เปลี่ยนชุดก่อนเถอะ”
    “ขอรับ...ขอบพระคุณมากขอรับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×