ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูและคนรับใช้(แก้ไขแล้ว)
"เราไม่ชอบที่ซากุโระทำเหมือนเราเป็นคุณหนูเลย" ฮิมิโกะบ่นถึงเรื่องเมื่อกี๊เพราะความจุ้นจ้านของซากุโระที่ชอบทำเป็นห่วงกับเรื่องเล็กๆ แต่ฮานิวก็เสริม
"อาอูวว ก็ถ้าเป็นคนรับใช้ก็ต้องรักเจ้านายเป็นธรรมดาแหล่ะค้า" ฮิมิโกะมองฮานิวแล้วก็ยิ้มใสๆ เพราะฮานิวเองก็พูดจริงๆนี่นะ และทำให้ธอหายหงุดหงิดได้ไปหน่อยนึงแม้จะเป็นอารมณ์หงุดหงิดไร้สาระและเอาแต่ใจก็ตามที
"งั้นเหรอ นั่นสินะ จริงๆเราหนีแม่มานะ" ฮิมิโกะพูดขึ้นมาลอยๆ ทำให้รู้สึกกับว่าเหมือนใครบางคนจังเลย แล้วริกะก็ยิ้ม
"เหมือนคุณชิองเลยสินะค่ะว่าแต่ วันนี้ชิองก็กลับบ้านกับซาโตชิอีกแล้วล่ะสิ.." ริกะพูดพลางมิงไปด้านหน้า ฮิมิโกะมองไปที่ชิอง ซาโตโกะและซาโตชิ แล้วก็เริ่มสนทนาขึ้นมาบ้าง
"เค้าสนิทกันจังนะคะ"
"มี๊ สนิทกันจนน่าอิจฉาเลยล่ะค่ะ" ริกะยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ทำให้รู้สึกว่าฮิมิโกะถูกชะตากับเธอเสียแล้ว และอยากจะคุยด้วยต่อแต่ว่ากับถึงบ้านตัวเองซะแล้วเสียนี่ ทำให้เธอไม่มีโอกาสได้คุยต่อ จึงทำให้เธอเสียดายอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
"ฮะๆ อ้ะถึงบ้านแล้วค่ะ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ" ฮิมิโกะขอบคุณกับริกะที่ยอมใส่ชุดแมวมาแม้โดนเกมลงทันก็เถอะ แล้วริกะก็กล่าวลาพร้อมโบกไม้โบกมือบ้าง
"ค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะค่ะ มี๊"ระหว่างที่ทั้งสองคนจะเดินกลับ ฮานิวก็นึกสงสัยแล้วหันไปมองบ้านหลังนั้นอีกทีแล้วก็ถอนหายใจ...
ฮิมิโกะมองไปที่ฮานิวและริกะอย่างยิ้มๆและสงสัยในตัวเธอบางอย่างแล้วจึงเดินเข้าบ้านไปและได้พบกับใครคนหนึ่ง
"กลับมาแล้วค่ะ เอ้ะ ซากุโระ" ซากุโระยืนรออย่างนิ่งๆ แล้วจึงเริ่มถามคำสั้นๆ ฮิมิโกะที่กำลังสาละวนกับการถอดรองเท้า
"คุณหนูครับ" ไม่ใช่คำถามแต่เป็นการเรียกมากกว่าเจ้าของสรรพนามที่กำลังถอดรองเท้าเสร็จหันไปมองและเอ่ยมาลอยๆนิดนึง
"หืม"
"เปล่าครับ ไม่มีอะไร" ซากุโระตอบแล้วฝืนยิ้ม ทำเอาฮิมิโกะไม่สบอารมณ์ซักเท่าไหร่แล้วถือกระเป๋าเข้าบ้าน แล้วซากุโระก็เริ่มถามอีก
"คุณหนูคงจะเหนื่อย ไปพักผ่อนเถอะครับ" คราวนี้เธอไม่ได้ตอบอีกแต่กลับมองหน้าซากุโระแทน
"หน้าผมมีอะไรหรือครับ?" ฮิมิโกะทำสายตาเนือยๆใส่แล้วย้อนถามไม่สิถากถางเขากลับบ้าง
"เธอต่างหากที่เหนื่อย.." ซากุโระอึ้งนิดหน่อยแล้วตอบปฐิเสธอย่างสุภาพ
"ไม่ใช่หรอกขอรับ.." คราวนี้ดูเหมือนฮิมิโกะดูไม่ค่อยพอใจกับคำตอบแบบนี้มากนักเลยเถียงกลับ แต่ซากุโระก็ขัดมาก่อน
"กระผมสบายดี" เมื่อฮิมิโกะได้ยินดังนั้นก็คิดจะตอบเขากลับแบบเดิมอีกเช่นเคยไม่สิต้องเถียงไปแล้ว
"โกหก.."
"ไม่ได้โกหกนะครับ ผมสบายดีจริงๆ" ซากุโระตอบแบบตะกุกตะกักและหลบหน้าฮิมิโกะแต่ฮิมิโกะยิ่งไม่ชอบใจมากขึ้นและยิ่งเถียงหนักเข้าไปอีก
"ฉันบอกว่าโกหกก็คือโกหก หัดทำตัวสบายๆบ้างได้ไหม!!"
"ไม่ได้หรอกครับ ก็กระผมเป็นแค่คนรับใช้นะครับ" ซากุโระตอบอย่างนุ่มนวลยิ่งทำให้เธอเหนื่อยใจมาก
"ขอบใจที่เป็นหว่งฉันขึ้นไปเองได้" ฮิมิโกะส่ายหน้าพลางตอบแล้วเดินปึงปังขึ้นไปซากุโระตอบรับเสียงสั่น
"คะ..ครับ"
ขณะที่ฮิมิโกะที่เดินสาวเท้าขึ้นไปตึงตัง จู่ๆก็ล้มเสียงตรงบันไดซากุโระเป็นห่วงรีบวิ่งขึ้นไปดูอาการทันที
"คะ คุณหนู เป็นอย่างไรบ้างครับ?" ฮมิโกะหน้าซีดรีบจับเท้าอย่างทรมารและที่เท้านั้นบวมแดงเอาพอการแม้ไม่สาหัสแต่ก็เจ็บ ซากุโระพยุงตัวฮิมิโกะขึ้น
"คุณหนู อย่าฝืนเลยครับ เดี่ยวผมพาไปส่งที่ห้องเอง" ฮิมิโกะถึงกับอายและหน้าแดงขึ้นแล้วปัดมืออกพร้อมทั้งยังมองหน้าซากุโระ
“อะไรแค่นี้เองนี่นาก็แค่บวมเอง” จริงๆเธอก็เจ็บน่าดูแต่ปฐิเสธเพราะความอายและเธอเองก้ไม่ค่อยให้วากุโระพาขึ้นห้องเสียด้วย แต่ด้วยความเป็นห่วงของซากุโระจึงคัดค้านและต้องพาฮิมิโกะไปส่งที่ห้องด้วยเหตุผล
"ไม่ได้นะครับ ถ้าคุณหนูไปทั้งแบบนี้ล่ะก็ อาการมันจะหนักขึ้นนะครับ" เมื่อฮิมิโกะได้ยินอย่างนั้นก็ยอมให้วากุโระพาไปส่งแต่โดยดี
"กะ..ก็ได้ ..."
หลังจากนั้นซากุโระก็พามาถึงห้อง ซึ่งทำให้ฮิมิโกะเริ่มหายเกลียดวากุโระมากขึ้นและยังหน้าแดงอีกด้วย แล้วซากุโระก็ส่งตัวฮิมิโกะลงบนเตียงอย่างเบาๆ(ไม่ได้โยนให้ไปบนเตียงอย่างงั้นนะ)
"ถึงแล้วครับ" แล้วซากุโระก็หันหลังเดินออกไปจากห้องนอนแต่ดูเหมือนว่าฮิมิโกะจะไม่ยอม
"จะไปแล้วเหรอ”
"ถึงเวลาที่คุณหนูต้องพักผ่อนแล้วครับ" ซากุโระตอบแต่ก่อนที่จะเดินออกไปฮิมิโกะก็รีบค้านขึ้นมาอีก ราวกับ่วาอยากให้ซากุโระอยู่ด้วย
"ไม่เอา อยู่เป็นเพื่อนกันไม่ได้เหรอ ฉันกลัวนะ" ฮิมิโกะขอร้องและตัวสั่นๆนิดหน่อยไม่รู้ว่ากลัวจริงหรืออายกันแน่
"ตะ แต่ว่า..."
"นี่เป็นคำสั่ง" เธอขึ้นเสียงทันทีทำให้ซากุโระตกใจและยอมทำตามเธอโดยดี
"คะ ค ครับ..." ซากุโระเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆเตียงแล้วเธอก็มองที่ซากุโระอย่างอายๆแล้วหาเรื่องคุยให้ดูไม่น่าเบื่อซักเท่าไหร่
"ที่นี่สงบสุขกว่าที่อิตาลี่จริงๆนะ"
"ครับ" ซากุโระมองออกไปนอกหน้าต่าง..."สงบสุขมาก" แล้วฮิมิโกะก็เหมือนนึกอะไรได้แล้วโพล่งขึ้นมาทำหน้าเหมือนได้เรื่องสนุกหรือเหมือนเด็กๆที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่อย่างไรอย่างนั้นเลย
"จริงสิซากุโระคุง!!"
"ครับ ??” ซากุโระมองเธออย่างสงสัย แล้วฮิมิโกะพูดแบบสนุกสนานและทำหน้ายิ้มๆ แล้วจึงบอกความต้องการของตัวเอง
"ฉันอยากทำอาหารเองจัง" ซากุโระยิ้ม เพราะบางทีเวลาทำหน้าแบบนี้เธอก็ดูน่ารักไปอีกแบบแล้วซากุโระก็ตอบกลับบ้าง
"งั้นวันพรุ่งนี้ที่เป็นวันหยุด ผมจะสอนให้นะครับ" ฮิมิโกะดีใจแล้วเริ่มพูดต่อถึงเขาและเพื่อนๆ
"ฮื่อ!!! อยากให้ซากุโระคุงไปรู้จักมิอง ชิอง ริกะจัง และก็ทุกๆคนจัง" เธอพูดแบบเป็นเรื่องสนุกและต้องการที่จะให้วากุโระได้พบเพื่อนๆอย่างใจจริงเขารีบตอบกลับอย่างตะกุกตะกักเพราะฐานะตนเองไม่เหมือนกับเธอ
"ตะ แต่ว่า...กระผมเป็นแค่คนรับใช้นะครับ" แล้วเธอก็ตะโกนตอบกลับราวกลับว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่พูดอย่างมั่นใจ
"ไม่ใช่ซักหน่อยเธอเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดตะหาก!!!"
"คุณหนู..." ซากุโระก้มหน้าลงเพราะไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเขามาก่อนหรือพูดแล้วแต่ลืมว่าใครได้พูดกับเขา แต่เขากลับดีใจที่ฮิมิโกะพูดแบบนี้ทั้งๆที่เธอนั้นสูงส่งกว่าเขามาก ฮิมิโกะยิ้มและดีใจที่พูดออกไป
"ฮิๆ "
มิ้ง มิ้ง มิ้ง เมื่อเวลายามเช้า ฮิมิโกะซึ่งกำลังหลับอยู่ก็ถูกปลุกด้วยเสียงของจั๊กจั่น แสงของแสงแดดที่ส่องมาพร้อมกับ
“คุณหนูครับ ตื่นได้แล้วครับ” เสียงเคาะประตูของซากุโระ แล้วเมื่อเธอเดินมาเปิดประตุ (ในสภาพชุดนอนนประโปรงสั้น) แล้วเธอก็ต้องตกใจโดยลืมสภาพของตัวเองและสภาพครอบครัวที่เป็นอยู่ในตอนนี้กลับเข้ามาในหัวทันที
“หาว!!! อ้ะ!!! ซากุโระคุง!! จริงสิๆ ในบ้านนี้มีแค่เรา 2 คนนี่นาว้าย!!! อย่าเข้ามานะ” แลเวเธอก็ดยนของออกไปไม่ว่าจะหมอน โคมไฟ หรือนาฬิกา (ทำไมไม่เตะเลยล่ะ) เปรี้ยง!!!
“ขออภัยขอรับ!” ซากุโระรีบปิดประตูไม่ให้โดนของเข้าฟาดที่หน้า แล้วก้ไม่ลืมที่จะกล่าวขอโทษ แล้วฮิมิโกะแต่งตัวแล้วจึงเดินลงมาอย่างง่วงๆทั้งๆที่แต่งตัวจนสะอาดเสร็ขสรรพ แล้วจึงมานั่งทานอาหาร
“อาหารเช้าวันนี้ เป็นขนมปังกระเทียมกับนมสดครับ” เอ๋ อาหารแบบนี้เหรอ เฮ้อ สู้อาหารของเรนะไม่ได้หรอก-เธอคิดแล้วก็บ่นออกมาตามความคิดแม้จะไม่เหมือนกับคำที่คิดมากและสั้นกว่าด้วย
“อา.. มีแต่ของแบบนี้ไม่น่าทานเท่าไรเลยแฮะ” ฮิมิโกะบ่นแล้วถือช้อนเตรียมทานอาหารอย่างเชื่องช้าและเบื่อ
“แต่ว่ามันดีต่อสุขภาพของคุณหนูนะครับ แล้วนายหญิงเองก็ต้องการให้คุณหนูมีสุขภาพแข็งแรงนะครับ”
“น่าเบื่อ!!! เอ้ากินก็กิน !!!” แล้วฮิมิโกะก็เริ่มจิ้มขนมปังที่หั่นแล้วแรงๆแล้วหยิบมาทานทีละนิดอย่างน่าเบื่อหน่าย (น่าอิจฉานะผู้แต่ง virgolia อย่างเราได้กินแค่อะไรเอง ขนมปังประกบนมกับโอวันติน ฮา..)
“ถ้าคุณหนูทานหมด ผมก็จะทำพุดดิ้งให้ทานนะครับ
แต่ถ้าทานไม่หมด ก็อดนะครับ”เมื่อฮิมิโกะได้ยินชื่อเมนูโปรดเธอถึงกลับรีบรับประทานอาหารของเธอโดยเร็ว
“ห้ะ!!! พุดดิ้งงั้นฉันจะทานให้หมดเลย” แล้วฮิมิโกะก็รีบทานแต่ไม่ถึงกลับมูมมามมากนักแต่เป็นภาพที่ทำให้วากุโระถึงกลับยิ้มทันที
กิ๊งก่อง
ฮิมิโกะที่กำลังทานอาหารเสร็จก็เตรียมที่จะลุกไปเปิดประตูทันที ขณะที่มีขนมปังคาปากอยู่ชิ้นนึง
“อ้ะ ใครมาน่ะ” ซากุโระบอกให้เธอทานอาหารไปก่อนแล้วฮิมิโกะก็นั่งลงแล้วซากุโระก็เดินออกไปแทน
“เดี๋ยวกระผมจะไปเปิดประตูให้เองนะครับ”
“อื้ม...” เมื่อเปิดประตูก็ไม่ใช่ใครที่ไหนซึ่งก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นร่วมชมรมขิงเธอนั่นเองนั่นก็คือริกะและฮานิวกับคนอื่นๆ
“ฮิมิโกะจัง อรุณสวัสดิ์”
“อ้ะ!!! ริกะจัง ทุกคน” แล้วฮิมิโกะก็เดินออกมาโดยไม่สนใจที่จะรอกินพุดดิ้งต่อ(ติดเพื่อนพูดง่ายๆ
“ว้าว บ้านน่าอยู่จังเลยนะค่ะ” ริกะเอ่ยอย่างสนใจเพราะภายในบ้านเมไปด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูๆ แถมรูปปั้นก็มีพร้อมเพดานก็เป็นไม้ที่สวยสดงดงาม (ไม่รู้อีหนูคนนี้แอบสร้างไว้เมื่อไหร่กัน)โคมไฟสีประดับด้วยลวดลาย
“โห สมเป็นบ้านคุณหนูยังกะบ้านอิตาลี่แหนะ” เคอิจิมองดูบ้านและตะลึงกับความงามที่ดึงดูดสายตาผู้คน แถมบ้านยังสวยกว่าบ้านของเขี่ดูใหญ่และสะอาดแต่ที่นี่กลับใหญ่และอลังการมากกว่าแต่อยู่ในบ้านแค่ 2 คน
“อุ้ย รูปปั้นตัวนั้นน่ารัก จะเอากลับบ้าน~~~” เรนะเริ่มออกอาการจะเอากลับบ้านเมื่อเห็นรูปปั้นคิวปิดน้อย
“คะ คือว่า....” ซากุโระเริ่มทักทายบ้าง เคอิจิซึ่งกำลังติดใจบ้านอยู่ก็เริ่มทักทายเขาบ้างแล้ว (ก็มันสวยนี่นะ)
“เหนายคือซากุโระเหรอ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันมาเอะบาระ เคอิจิ”
“ครับ กระผมซากุโระ มิราอิ เป็นพ่อบ้านของคุณหนูครับ ทุกคนจะรับน้ำชาไหมครับ?” ซึ่งก็ถือเป็นมารยาทอย่างนึงสำหรับแขกผู้มาเยือนแต่เคอิจิกลับบอกปัดเพราะมีที่ๆจะไปอยู่แล้วจึงไม่สนใจรับน้ำชา
“โฮ่ย ไม่ต้องหรอก พวกเรามาชวนไปเที่ยวในโอโคโนมิยะกันน่ะ”
“คะ ครับ..งั้นอาหารเที่ยง กระผมคงไม่ต้องเตรียมแล้วสินะครับ” ซากุโระหัวเราะแห้งๆ แล้วมิองก็เสริมบ้างแล้ว
“โอ้ พวกเราจะไปทำกิจกรรมชมรมส่วนนาย” มิองชี้ไปที่ซากุโระ ซากุโระงงเล็กน้อยแล้วออกอาการตอบกลับ
“ครับ?
“เป็นสมาชิกชมรมแล้วนะ” มิองยิ้มและเก็บมือที่ชี้ออกไปเมื่อครู่ ซากุโระซึ่งงงงวยกับสถาณาร์ณอยู่ถึงกับถาม
“คนอย่างกระผมเนี่ยนะ ขอรับ?”
“คนอย่างนายนั่นแหละ”
“โฮะๆๆๆ ยังไงก็สู้ดิฉันไม่ได้แน่นอนค่ะ” ซาโตโกะ ที่เงียบอยู่นานก็เริ่มเอ่ยบ้างริกะเองก็ยิ้มแล้วบอก
“พูดง่ายๆก็คือเล่นเกมส์กัยทุกคนไงคะ”
“ขะ ขอรับ....”
“เราดีใจมากนะที่ซากุโระคุงได้เป็นส่วนรวม” ฮิมิโกะแทรมาจากข้างหลังแล้วยิ้มอย่างยินดีที่ได้พาซากุโระไปด้วย
“คุณหนู” ซากุโระหน้าแดงระเรื่อแล้วฮิมิโกะก็ยิ้มในอาการของเพ่อนร่วมชมรมมากกว่าคนรับใช้
เมื่อถึงโอโคโนมิยะ เป็นที่ๆธรรมดาๆที่นึง เหมือนในเมืองทั่วๆไปแต่คุณหนุที่ไม่เคยออกมาที่แบบนี้กลับมองว่าเป้นที่ๆวิเศษมากกว่าคนอื่นๆมองเสียอีก (เพราะวันๆ ฮิมิโกะเอาแต่หมกอยู่กับบ้านในตอนเด็กๆแม่ไม่ได้พาออกไปไหนจึงดูเป็นเรื่องที่ตื่นเต้น)
“ว้าย!!! เป็นที่ๆวิเศษจัง”
“คะ ครับ วิเศษมากครับ” ซากุโระทำหน้ายิ้ม แต่ว่ามือไม้ถือแต่ของที่ฮิมิโกะซื้อแทบทั้งหมด
“เหะๆ คุณหนูได้พบกับสิ่งวิเศษเหลือล้นเลยเนอะ” มิองชอบใจในอาการตื่นเต้นของฮิมิโกะ
“อาอูววว เราอยากไปแองเจิ้ลมอร์ทจังค่ะ” ฮานิวก็เริ่มออกความเห็นทั้งๆที่เงียบไปนานสองนาน(คงเพราะอยากกินชูครีมสินะ นิป้า~)
“โฮ่ย ไปกันเหอะ !!” ทุกคนพูดพร้อมกันยกเว้นซากุโระ เมื่อมาถึงแองเจิ้ลมอร์ท และเมดที่มาต้อนรับนั้นก็คือชิอง
“ยินดีต้อนรับค้า”
“ว้าย คุณชิอง” ฮิมิโกะ ตกใจที่ได้พบชิองภายในชุดเมด แล้วมิองก็พาไปนั่งทานเค้ก ขนมหวานแล้วก็เริ่มกิจกรรมชมรม
“เอาล่ะนะชิองคงไม่ว่าง แต่เราก็จะทำกิจกรรมชมรมล่ะ”
“คนๆนี้ ทำไมหน้าเหมือนคุณมิองเลยล่ะครับ?” ซากุโระถามด้วยอาการงงกับความเหมือนทุกส่วนของมิอง
“เพราะเป็นฝาแฝดของลุงน่ะสิ เอาล่ะ กิจกรรมชมรมคือเราจะมาแข่งกันกินเค้กล่ะ ใครหมดก่อนก็ชนะ แน่นอนว่า 3 ถ้วย!!!”
“มี๊ แต่เราว่า เราคงกินไม่หมดหรอกนะค่ะ” ริกะพูดยิ้มๆแล้วฮานิวก็เสริมขึ้นมาบ้าง เพราะความอยากกินล่ะมั้ง
“อาอูวว เดี่ยวเราช่วยริกะก็ได้ค่ะ.
“ฮ๊า!!! 3 ถ้วยเหรอคะ!!!~” ฮิมิโกะถึงกลับเปล่งเสียงตกใจขึ้นมาบ้าง 3 ถ้วยนี่เธอคงคิดว่าขนาดใหญ่ทั้งแผงแหง
“เอ่อ.. คือมันคงมากเกินไปล่ะมั้งครับ...” ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ซากุโระก็เข้าใจว่าเป็นแบบนั้นเหมือนกัน
“ปล่าวน๊า 3 ถ้วยเล็กเอง...” มิองแก้ความเข้าใจผิดให้ทุกคนๆจึงยอมลงแข่งด้วย ขนาดถ้วยมันก็แค่แก้วนึง 2 แก้วนั่นล่ะ
“คะ ครับ”
ในขณะที่เริ่มกิจกรรมชมรมกันมาแทบนานแล้ว และคนที่ได้ทีหนึ่งนั้นดูเหมือนจะเป็นมิองเหมือนเดิม
“ฮาา~ เราสู้มิองไม่ได้เลย คุณมิองกินเร็วจัง” ฮิมิโกะพูดอย่างน่าเสียดายเพราะฮิมิโกะเพิ่งจะได้มากินถ้วยที่ 3
“ตะ แต่ว่ากระผมกินได้แค่ครึ่งถ้วยอยู่เลยนะครับ...”
“มี๊ คุณซากุโระคงจะแพ้แล้วล่ะค่ะ นิปา~” ริกะก็แสดงชัยชนะขึ้นมาบ้าง บางคนกินหมดไป 1 ถ้วยบ้าง 2 ถ้วยบ้างแต่คนที่จะชนะจะเป็นมิองนะ
“อืม.. ฮะๆๆๆๆ ลุงชนะ”
“เกมลงทัณฑ์ๆๆๆ” ทุกคนพูดเสียงพร้อมกันยกเว้นฮิมิโกะเพราะเธอคงไม่อยากเห็นซากุโระโดนให้เป็นตัวอะไรหรอกนะ
“เอ??? สำหรับซากุโระคุง ตอนนี้อยู่แองเจิลมอร์ทพอดี ใส่ชุดเมดไปเล๊ย..” มิองเสริมแล้ววากุโระก็รีบปฐิเสธ
“อย่านะขอรับ! ...มะ ไม่ได้นะขอรับ~” แต่ก็โดนจับใส่ไปแล้ว เมื่อฮิมิโกะเห็นถึงกลับกุมขมับแล้วทำเป็นไม่รู้จักแล้วมองไปที่ซากุโระ 2-3 รอบแล้วหันไปทางหนาต่างอย่างอายๆ ชุดแองเจิ้ลมอร์ทมันเสียชายไปเลยนะนั้น แง-เธอคิดในใจ แล้วซากุโระก็หันมามอง
“คะ คุณหนู...”
“เรนะ...จะเอากลับบ้านนนนนนน” เรนะเริ่มออกอาการจาเอากลับบ้านนนอีกแล้วซึ่งริกะก็ตบมือครั้งนึงแล้วเสริมให้
“น่ารักจังนะคะ นิปา~” ซึ่งฮิมิโกะก็ยกมือขอโทษซากุโระ และ รู้สึกขายหน้าแทนเอามากๆแต่มันก็ช่วยไม่ได้เสียจริงๆ
“ขะ ขอโทษนะ ฉันจะทำเป็นไม่เห็นก็แล้วกัน” วากุโระนิ่งอึ้งไปนิดนึง แล้วก้มลงโดยไม่สนใจเรนะซึ่งกำลังออกอาการเอากลับบ้านอยู่
....
“น่าขายหน้าที่สุดเลยครับ...” ฮิมิโกะ ถึงกลับหน้าแดงแป้ดเลย แล้วริกะก็เริ่มทักถึงสถาณที่ต่อไป
“มี๊ จะไปไหนกันต่อล่ะค่ะ?” มิองเมื่อได้ยินดังนั้น ก็ทำท่าครุ่นคริดนิดหน่อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพดาน
“นั่นสินะ ไปไหนดีล่ะ ลุงก็คิดไม่ออก” ทั้งหมดไม่ได้ตอบอะไรเพราะม่รู้จะไปไหนดีเหมือนกันแล้วก้ไม่ได้คิดกันมาก่อนด้วย เมื่อฮานิวคิดได้ก็ออกความเห็นกับมิองและทุกๆคนและเป็นสถาณที่ในฮินามิซาวะนี่เอง
“อาอูวว ไปศาลเจ้าฟุรุเดะไหมล่ะค่ะ?”
“ไปสิๆ” ฮิมิโกะออกความเห็นทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ซากุโระมองที่ฮิมิโกะแล้วถามอย่างอายๆ
“คุณหนู จะให้ผมแต่งตัวแบบนี้เนี่ยนะครับ?” เมื่อฮิมิโกะนึกได้ ถ้าวากุโระแต่งตัวแบบนี้ไปเดินในฮินามิซาวะก็เครียดแน่ๆเลย เพราะแค่แองเจิ่ลมอร์ทก็ทำให้ขายหน้ามากแล้วถ้าเดินออกไปที่นี่สภาพนี้มันจะแย่ยิ่งกว่านี้ ฮิมิโกะก็สั่ง
“เปลี่ยนชุดก่อนเถอะ”
“ขอรับ...ขอบพระคุณมากขอรับ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น