คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 เจ้านายใหม่ หัวใจว้าวุ่น
บทที่ 5 เจ้านายใหม่ หัวใจว้าวุ่น
“เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันมั้ยนะ เฮ้อออ” เกศกาญจน์รำพึงกับตัวเองขณะที่กวาดตาดูจดหมายแจ้งการโยกย้ายตำแหน่งอย่างเป็นทางการที่ถูกส่งมาจากฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของสำนักงานใหญ่เป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ได้
ถึงแม้จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่จดหมายนี้ก็ทำให้เธอเปลี่ยนใจไม่อยากไปรับตำแหน่งใหม่ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงเทพตามที่เธอได้ตกลงกับหัวหน้าไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ก็แน่ล่ะนั่นมันก่อนที่เธอจะรู้ว่าเจ้านายใหม่ของเธอคือเขา
...
“สวัสดีค่ะ ดิฉันเกศกาญจน์เพิ่งย้ายมาจากสำนักงานที่ระยอง มาทำงานที่นี่วันนี้วันแรกค่ะ” เกศกาญจน์ วิศวกรสาวรายงานตัวต่อหน้าเจ้านายคนใหม่ของเธอที่ยังคงก้มหน้าอ่านเอกสารสำคัญในมือ และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาเธอก็พบว่าเขาไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย...
คืนวันรับน้องใหม่คณะวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อ 12 ปีที่แล้ว
จากวันนั้น เพื่อนขวัญเคยร่วมกัน ขับขานรวมจิตใจ
สู่วันนี้พี่น้องร่วมฝ่าภัย จากใจถึงทุกคน
ด้วยความรักเปี่ยมล้นบนเส้นทาง สว่างไสวในศรัทธา
ร่วมกันสร้างพรุ่งนี้ของประชา ที่สดใสให้เป็นจริง
ชีวิตเธอมีคุณค่า ปวงประชาเฝ้ารออยู่ รอเธอเป็นผู้ก้าวไป
ดังมวลไม้ที่งอกงาม ยามถึงคราชูช่อใหม่ ไปเถิดจงไปทั่วแดน
อยากให้เธอเป็นเทียนเล่มน้อย ที่ส่องแสงสู่หนทางมืดมน
เทียนสว่างไสวอยู่ในใจผู้คน ตราบจนนิรันดร
“เอาละครับขอให้น้องใหม่ทุกคนเปิดผ้าปิดตาได้แล้วครับ”
เสียงพี่ก้องประธานรุ่นปีสี่ประกาศให้น้องใหม่ปีหนึ่งทุกคนเปิดผ้าปิดตาหลังจากที่พวกน้องปีหนึ่งต้องปิดตาตั้งแต่ช่วงเย็นเพื่อเล่นกิจกรรมฐานต่างๆ ที่พี่ปีสี่จัดขึ้นเพื่อรับน้องเพื่อให้น้องๆ ได้รู้จักความสามัคคีและฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกันจนกระทั่งถึงพิธีสำคัญที่สุดในช่วงกลางคืน นั่นคือพิธีบายศรีสู่ขวัญให้น้องใหม่นั่นเอง
ทันทีที่เกศกาญจน์เปิดผ้าปิดตา เธอก็ตกตะลึงเลยทีเดียวเมื่อพบกับรุ่นพี่ปีสี่คนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเธอ โชคดีที่ขณะนั้นมีเพียงแสงเทียนสลัวเท่านั้น ทำให้เขาไม่สามารถเห็นหน้าเธอที่ตอนนี้แดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้ว
เกศกาญจน์ยังคงนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก แต่เธอก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ แอบเหลือบตาลงมองป้ายชื่อที่แขวนคอเขาไว้อย่างเนียนๆ ทันที
‘พี่เดย์ ปี 4’
“น้องครับ น้องเกศ” เสียงเรียกชื่อของผู้ชายตรงหน้าทำให้เกศกาญจน์รู้สึกตัวตื่นจากภวังค์ทันที
“เอ่อ ค่ะๆ ว่าไงคะพี่”
“เค้าให้ผูกข้อมือแล้วครับ ยื่นมือมาให้พี่สิ” เกศกาญจน์ยื่นมือขวาให้เขาทันที
“ขอให้น้องเกศมีความสุขกับชีวิตตลอดสี่ปีที่นี่นะครับ และพี่อยากให้น้องตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ดีๆ จากที่นี่ออกไปสร้างประโยชน์ให้กับสังคมในวันข้างหน้า โชคดีครับ” รุ่นพี่สุดหล่ออวยพรด้วยเสียงนุ่มทุ้ม ขณะที่ก้มหน้าก้มตาตั้งใจผูกสายสิญจน์สีขาวเข้าที่ข้อมือของน้องใหม่ที่หน้าตาเลอะเทอะไปด้วยแป้งและสีสันต่างๆ ละเลงจนไม่เหลือเค้าความสวยหวานให้เห็น
“ขอบคุณค่ะ”
“ถ้าผูกข้อมือเสร็จแล้วขอให้น้องทุกคนเดินวนไปทางขวามือของตัวเองเรื่อยๆ นะครับ จะได้ให้พี่ผูกให้ครบทุกคน” เสียงของพี่ก้องประกาศอีกครั้ง เกศกาญจน์รู้สึกเสียดายทันทีเมื่อเธอมีโอกาสได้อยู่ใกล้กับรุ่นพี่คนนั้นเพียงแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้น
หลังจากนั้นเกศกาญจน์ก็เดินวนไปเรื่อยให้รุ่นพี่ปีสี่ทุกคนได้ผูกข้อมือให้เธอจนครบทุกคนแน่นอนว่าสายสิญจน์ของรุ่นพี่คนอื่นๆ ถูกผูกที่มือซ้ายของเธอทั้งหมด
‘ผูกไว้มือเดียวกันหมด ก็จำไม่ได้พอดีว่าเส้นไหนพี่เดย์ผูกให้’ เกศกาญจน์คิดอย่างภูมิใจในความฉลาดของตัวเองเมื่อเธอกลับมาถึงบ้านแล้วเอาแต่นั่งมองสายสิญจน์เส้นเดียวที่ได้ผูกที่ข้อมือขวาของเธอ
“นี่ๆ พวกเรา รู้จักพี่เดย์ ปีสี่รึป่าว” เสียงกลุ่มเพื่อนที่นั่งเรียนอยู่ด้านหลังเกศกาญจน์คุยกันถึงชายหนุ่มที่เธอตกหลุมรัก ทำให้เกศกาญจน์ต้องแอบฟังทันที
“ที่หล่อๆ น่ะเหรอ”
“ใช่ๆ แต่พี่เค้าไม่ได้มีดีแค่หล่ออย่างเดียวนะ ชั้นรู้มาว่าพี่เค้าน่ะ perfect ทุกอย่างเลย ทั้งเรียนเก่ง เกรดพี่เค้าตอนนี้นะได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งชัวร์ๆ แถมเป็นนักบาสมหาลัยอีกด้วย บ้านก็รวย แต่เสียอยู่อย่างเดียว...” เสียงใครคนหนึ่งในกลุ่มนั้นลากเสียงยาวจนเกศกาญจน์ที่แอบฟังอยู่ลุ้นตามไปด้วย
“พี่เค้าเจ้าชู้มากกกกกก”
“จริงเหรอ”
“อือ ก็ได้ยินมาว่าพี่เค้านะเปลี่ยนแฟนบ่อยจะตาย แถมแต่ละคนที่เค้าคบนะก็ระดับดาวคณะทั้งนั้น ล่าสุดพี่เค้าก็เพิ่งควงกับพี่ปีสองที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์คณะวิทยาน่ะ”
“โห เซ็งเลย รสนิยมเริ่ดขนาดนั้น พวกเราคงไม่มีหวังหรอก”
“แต่ไม่แน่นะ ควงคนสวยๆ เบื่ออาจจะอยากเปลี่ยนแนวมาควงคนสวยแบบแปลกๆ แบบพวกเราบ้างก็ได้นะ ฮ่าๆๆ” กลุ่มเม้าท์ด้านหลังเกศกาญจน์เงียบเสียงลงทันทีเมื่ออาจารย์เดินเข้าห้องมา
‘พี่เค้าเจ้าชู้งั้นเหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลย’ เกศกาญจน์เอาแต่ครุ่นคิดย้อนไปย้อนมาเกี่ยวกับเรื่องของเขา หลังจากเปิดเทอมเธอก็ได้แต่แอบสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับรุ่นพี่ที่เป็นรักแรกพบของเธอโดยไม่บอกใคร ซึ่งก็หาข้อมูลได้ไม่ยากเพราะเขาเป็นคนดังและ เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ ทั้งคณะ ทำให้เธอได้รู้จักชื่อจริงของเขา ‘รัฐเศรษฐ์ รัฐกิตติกานต์กุล’
“เกศๆ เหม่ออะไรน่ะ ทำไมไม่จดเลกเชอร์ล่ะ” เสียงพริกเพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกับเกศกาญจน์สะกิดเตือน
“จ๊ะๆ”
...
“เกศอ่านอะไรน่ะ”
“อยากสมัครเชียร์ลีดเดอร์เหรอ” เสียงพริกถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนรักยืนมองป้ายประกาศตาไม่กระพริบ
“เปล่าหรอก อ่านเฉยๆ น่ะ”
“แต่หวานว่าเกศลองดูหน่อยก็ดีนะ เกศสวยออกอย่างนี้น่ะได้แน่เลย” น้ำหวานเพื่อนสนิทอีกคนของเกศกาญจน์ที่นิสัยอ่อนหวานสมชื่อสนับสนุน
“แต่ว่าเชียร์ลีดเดอร์น่ะเค้าไม่ได้คัดแต่หน้าตานะ เราเต้นไม่เป็นหรอก”
“น่าเกศ ลองดูหน่อย ถ้าเกศได้เป็นลีดเราจะได้ยืดไปด้วยไง” พริกยุทันที
“ระวังงงงงงงงงงงง”
“ว้ายยยยยยยยยย”
โครมมมมมมมมม
เสียงสุดท้ายคือเสียงของชายหนุ่มนักบาสที่วิ่งไล่ตามลูกบาสออกมานอกสนามจนชนกับเชียร์ลีดเดอร์ของคณะที่หลบไม่ทันอย่างจัง แต่เท่านั้นคงไม่ทำให้ผู้คนบนแสตนด์เชียร์ตกตะลึงเท่ากับที่เห็นว่าคาสโนว่าหนุ่มหล่อนักบาสของคณะวิศวกรรมศาสตร์ล้มทับเชียร์ลีดเดอร์คนสวยคณะเดียวกันแล้วปากของทั้งคู่ก็ประกบกันอย่างบังเอิญ
เกศกาญจน์นิ่งอึ้งตาโตเมื่อเห็นหน้าคนตรงหน้าชัดๆ
‘พี่เดย์’
หญิงสาวและชายหนุ่มต่างสบตากันนิ่งราวกับโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ แล้วชายหนุ่มก็เป็นฝ่ายรู้สึกตัวก่อนเขารีบลุกขึ้นยืน และพยายามช่วยดึงเธอให้ลุกขึ้น แต่หญิงสาวขาแพลงไปเสียแล้ว แพทย์สนามที่ปกติมีหน้าที่รักษานักกีฬาแต่วันนี้ต้องมาดูแลอาการให้เชียร์ลีดเดอร์คนสวยแทน และแพทย์ก็ลงความเห็นให้เกศกาญจน์ต้องเข้าไปปฐมพยาบาลด้านหลังและไม่สามารถออกมาปฏิบัติหน้าที่นำเชียร์ต่อไปได้อีก
‘ไม่ต้องออกไปหน้าแสตนด์ก็ดีเหมือนกัน อายจะแย่ แค่นี้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว’ เกศกาญจน์ยังคงตกใจและหน้าแดงอยู่ไม่หาย
เหตุการณ์เมื่อวันแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลประเพณีของคณะวิศวกรรมศาสตร์ของสองมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทำให้เกศกาญจน์และรัฐเศรษฐ์กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วทั้งคณะภายในเวลาอันรวดเร็วแล้วยังลุกลามไปจนถึงคณะอื่นๆ อีกด้วย
“พี่เดย์คะ มันหมายความว่ายังไงคะ” แจนเชียร์ลีดเดอร์คนสวยของคณะวิทยาศาสตร์คู่ควงคนล่าสุดของรัฐเศรษฐ์ตามมาโวยวายกับชายหนุ่มถึงคณะ โดยไม่สนใจว่าชายหนุ่มนั่งอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหญ่
“เรื่องอะไรอีกล่ะแจน”
“ก็เรื่องที่พี่กับยัยเด็กปีหนึ่งนั่นจูบกันวันงานบาสน่ะสิคะ” เสียงตะวาดแว้ดของแจนทำให้เกศกาญจน์และน้ำหวานเพื่อนรักที่บังเอิญเดินผ่านมาบริเวณนั้นต้องหาที่หลบมุมเพื่อแอบฟังทันที
“แจนก็ได้ยินแล้วนี่ว่ามันเป็นอุบัติเหตุน่ะ แจนได้ยินมาไม่หมดหรือไม่สนใจจะฟังกันแน่ ถึงมาหาเรื่องพี่ถึงนี่” ชายหนุ่มเริ่มเอือมระอา
“แล้วพี่เดย์แน่ใจนะคะว่าไม่มีอะไรมากกว่านั้นน่ะ พี่เดย์แอบไปสานต่อกับมันรึป่าว”
“ไม่เอาน่าแจน พี่จะไปสานต่อกับเค้าทำไม”
“แน่ใจนะคะ”
“แน่ใจสิ แล้วเด็กนั่นน่ะพี่ไม่สนใจหรอก หุ่นเก้งก้างยังกับเสาไฟฟ้า สวยก็ไม่สวยไม่รู้ได้เป็นลีดได้ไง แถมยังได้เป็นดาวคณะอีก สงสัยปีหนึ่งรุ่นนี้จะไม่มีใครหน้าตาดีแล้วจริงๆ”
เพียงเท่านี้ก็ทำให้เกศกาญจน์ซึ่งเป็นทั้งเชียร์ลีดเดอร์และดาวคณะที่เขากำลังวิพากษ์วิจารณ์ถึงกับทนไม่ไหวต้องออกไปประจัญหน้ากับชายหญิงคู่นั้นและเพื่อนกลุ่มใหญ่ของรัฐเศรษฐ์ทันที
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าการที่หนูได้รับเลือกเป็นลีดแล้วก็เป็นดาวคณะเนี่ยมันไปหนักส่วนไหนของพี่เหรอคะ” เกศกาญจน์เล่นงานชายหนุ่มทันที
“มันก็ไม่หนักอะไรหรอก แค่เห็นแล้วมันหงุดหงิด ทนไม่ได้” ชายหนุ่มยิ้มยั่วโมโห
“เฮ้ย เดย์” เสียงพี่โจเพื่อนรักของเขาปรามทันทีเมื่อเห็นว่าเรื่องราวจะเริ่มลุกลาม
“เกศไปเถอะ” น้ำหวานสะกิดเตือนเกศกาญจน์
“ไม่”
“นะเกศ ไปเถอะ อย่ามีเรื่องเลย หวานขอนะ” น้ำหวานพยายามออกแรงดึงเพื่อนรักออกไปจากตรงนั้นให้ได้
“ก็ได้ แล้วจำไว้เลยนะอย่ามาพูดถึงผู้หญิงลับหลังแบบนี้อีก มันทุเรศ” เกศกาญจน์ชี้หน้าชายหนุ่ม
“พี่ก็เหมือนกันนะคะ อย่ามากล่าวหาหนูแบบนี้อีก คนอย่างหนูไม่สนใจผู้ชายอย่างพี่เดนของพี่หรอกค่ะ” ประโยคนี้เธอหันมาทิ้งท้ายกับแจนแล้วเดินจากไปอย่างสง่างามราวกับนางหงส์
‘เดนงั้นเหรอ’ ชายหนุ่มสะอึกกับชื่อเล่นใหม่ที่รุ่นน้องคนสวยตั้งให้
“พี่เดย์ดูสิคะ ยัยเด็กนั่นมันเรียกพี่ว่าพี่เดนน่ะ” แจนยังโวยวายไม่เลิก
“แจน พี่ว่าเราเลิกกันเถอะ” รัฐเศรษฐ์กล่าวเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินหนีแฟนสาวขี้วีนคนนั้นจากไปทันที
...
“พอกันที ชั้นเกลียดนายที่สุด” เกศกาญจน์เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่รูปถ่ายใบหนึ่งและทิ้งเจ้าสิ่งนั้นลงถังขยะไปทันที รูปถ่ายที่ว่านี้พริกตั้งใจถ่ายภาพเธอขณะที่กำลังซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ แต่กลับมีชายหนุ่มที่เธอแอบปลื้มติดเข้ามาในรูปอย่างบังเอิญ ขณะนั้นเขากำลังซ้อมบาสอยู่กับทีมและเป็นจังหวะที่เขาหันหน้าเข้าหากล้องของพริกพอดี
หลังจากผ่านไปเกือบเดือนเรื่องราวของเกศกาญจน์และรัฐเศรษฐ์ก็ค่อยๆ ซาลงไป เพราะใกล้เวลาสอบปลายภาคเทอมที่สองของปีการศึกษานั้น ทุกคนจึงมุ่งมั่นตั้งใจอ่านหนังสือสอบกันจนไม่มีใครมีเวลามาสนใจเรื่องของใครได้อีก
เปิดเทอมใหม่ตอนปีสองเกศกาญจน์ก็ให้สงสัยถึงความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนรัก เมื่อน้ำหวานดูสดชื่นและสดใสเป็นพิเศษ แถมในวันพระราชทานปริญญาบัตรเธอยังมีท่าทางตื่นเต้นราวกับจะรับปริญญาเสียเอง แต่เกศกาญจน์ก็ไม่ต้องสงสัยนานเมื่อเห็นภาพน้ำหวานหอบเอาดอกไม้ช่อใหญ่ไปให้พี่โจเพื่อนสนิทของรัฐเศรษฐ์ ซึ่งรุ่นพี่คนนั้นก็รีบพาน้ำหวานไปแนะนำให้รู้จักกับพ่อและแม่ของเขาทันที
“สองคนนั้นไปเป็นแฟนกันตอนไหนน่ะ” เกศกาญจน์พึมพำถามกับเพื่อนรักอีกคน ซึ่งพริกก็ส่ายหัวทันทีเหมือนกัน
“เกศๆ มาถ่ายรูปคู่หวานกับพี่โจให้หน่อยสิ” น้ำหวานเรียกเพื่อน
“ได้ๆ” ทันทีที่เกศกาญจน์เล็งกล้องขึ้นมาก็มีมือที่สามเข้ามาร่วมเฟรม รัฐเศรษฐ์นั่นเอง
“ถ่ายด้วยคนดิ”
“พี่ไม่ได้ยินเหรอคะว่าเพื่อนหนูกับเพื่อนพี่เค้าจะถ่ายรูปคู่น่ะค่ะ เข้าใจคำว่ารูปคู่มั้ยคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกเกศ ถ่ายสามคนก็ได้ พี่เดย์ถ่ายด้วยกันนะคะ” น้ำหวานไกล่เกลี่ยทำให้เกศกาญจน์ต้องยอมยกกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์อย่างเสียไม่ได้
หลังจากวันนั้นเกศกาญจน์และรัฐเศรษฐ์ก็ไม่เคยได้พบกันอีกเลย แต่เกศกาญจน์ก็ยังมีโอกาสได้เห็นใบหน้าของเขาอยู่เสมอ จากรูปถ่ายสามคนของพี่โจ น้ำหวานและชายหนุ่มในวันรับพระราชทานปริญญาบัตรวันนั้นที่เธอแอบอัดเก็บไว้เองอีกหนึ่งใบ
_____________________________________
ช่วงนี้โพสบ้างไม่โพสบ้างไม่ต่อเนื่องเหมือนเดิม เพราะผู้เขียนงานเข้าอย่างหนัก ทั้งงานราษฎร์งานหลวง ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ แต่ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะคะ ขอให้ช่วยติดตามเอาใจช่วยกันไปจนจบเรื่องนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
@พิมพ์ใจ
ความคิดเห็น