ลำดับตอนที่ #23
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : บทที่ 22 กลับมาเป็นฉันคนเก่า
บทที่ 22 กลับมาเป็นฉันคนเก่า
“ฮัลโหล พี่พายเหรอคะ...นี่มีนเองนะคะ...มีนมีเรื่องอยากจะถามพี่พายหน่อยน่ะค่ะ”
หลังจากที่มีนาครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกศกาญจน์บอกเธอเมื่อคืน เธอก็ตัดสินใจที่จะบอกความในใจของเธอกับทินกร ถึงแม้เขาจะต้องจากเธอไปไกลก็ตาม มีนาจึงโทรศัพท์ไปถามวันและเวลาเดินทางของทินกรจากพี่พาย พี่สาวของพีรพัฒน์ซึ่งก็เป็นเพื่อนสนิทของทินกร เธอจึงมั่นใจว่าพี่พายต้องรู้อย่างแน่นอน
‘เล็กเขาจะขึ้นเครื่องวันจันทร์ตอนตีหนึ่งน่ะ’ มีนานึกทบทวนถึงคำตอบของพี่พาย
‘ก็วันมะรืนนี้เองน่ะสิ เราจะทำยังไงดีน้า หรือว่าเราจะไปส่งเขาที่สนามบินดี แล้วเราก็ถือโอกาสบอกเค้า’
‘ดีเหมือนกัน เราออกไปหาซื้ออะไรเล็กๆ น้อยๆ ไปให้เค้าด้วยดีกว่า’ มีนายังคงคิดแผนการต่อไป
ในที่สุดมีนาก็เลือกซื้อผ้าพันคอสีสวยได้หนึ่งผืน โดยตั้งใจว่าเมื่อเขานำมาใช้จะได้ระลึกถึงเธอบ้างเวลาที่ไปอยู่ต่างประเทศแล้ว
‘เสียดายจัง เราคิดได้ช้าไป ไม่อย่างนั้นจะลงมือถักผ้าพันคอให้คุณเล็กเองเลย’ มีนาคิดเสียดาย
ระหว่างที่มีนากำลังรอพนักงานห่อของขวัญให้เธออยู่นั้น เธอก็บังเอิญหันไปเห็นทินกรอยู่ในแผนกขายเสื้อผ้าสุภาพบุรุษนั้นเช่นกัน หากแต่เขาไม่ได้อยู่คนเดียว ภาพที่มีนาเห็นคือเขากำลังเลือกซื้อเสื้อเชิ้ตอยู่กับสาวสวยคนหนึ่ง เธอคนนั้นหยิบเสื้อตัวนั้นตัวนี้มาลองทาบตัวชายหนุ่มอย่างสนิทสนม มีนารับกล่องของขวัญที่ห่อเสร็จพอดีแล้วรีบหลบไปอีกทางทันที
‘รู้มั้ยว่าน้าเล็กน่ะมีผู้หญิงมาชอบเยอะแยะ แต่ละคนสวยๆ หุ่นดีๆ ทั้งนั้น น้าเล็กยังไม่ชอบใครเลย แล้วอย่างป้าน่ะไม่สวยแถมเตี้ยอีกตะหาก หมดหวังแน่ๆ’ เสียงของน้องธีในวันนั้นก้องเข้ามาในหัวของมีนา
“คุณเล็กคงจะตาสว่างแล้วสินะ ว่ามาเสียเวลากับคนอย่างมีนอยู่ทำไมตั้งนาน” มีนาพูดประชดตัวเองก่อนจะเก็บกล่องของขวัญนั้นเข้าตู้เสื้อผ้าแล้วไม่เคยหยิบมันออกมาอีกเลย
หลังจากวันนั้นมีนาก็พยายามตัดใจจากทินกร เธอไม่ได้ไปส่งเขาที่สนามบินอย่างที่ตั้งใจไว้ และเธอก็พยายามกลับไปเป็นคนเดิมก่อนที่จะมีทินกรเข้ามาในชีวิต พยายามทำเหมือนเขาและเธอไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่สุดท้ายเธอก็ยังอดคิดถึงเขาไม่ได้ เธอได้แต่ระบายความเสียใจลงไปในไดอารี่ที่รักของเธอวันแล้ววันเล่า
จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี
30 ธันวาคม 2553
สวัสดีค่ะ คุณไดอารี่
เร็วจังเลยนะคะ จะสิ้นปีอีกแล้ว แหมแต่ปีนี้มีนต้องไปทำงานวันสิ้นปีด้วยสิคะ เซ็งชะมัดเลย
“โอ้ยยยยย เหนื่อยจังเลย กว่าจะนับเสร็จ นี่มันวันหยุดนะ ทำไมชั้นต้องมานับสต็อคด้วยเนี่ย” เสียงพี่เจี๊ยบจอมแก่นบ่นยืดยาวขณะกำลังนั่งรถตู้ของบริษัทกลับกรุงเทพ
วันนี้เป็นวันสิ้นปี 31 ธันวาคม 2553 มีนาและพี่เจี๊ยบถูกจัดตารางให้มานับสต็อคสิ้นปีให้กับบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งตั้งโรงงานอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
“โธ่ พี่เจี๊ยบคะ นับเสร็จแล้วไม่ต้องบ่นแล้วล่ะค่ะ” มีนาปลอบใจ
“ดูสิ ปีใหม่ปีนี้พี่เลยต้องอยู่บ้านคนเดียวเลย เพราะว่าต้องมานับสต็อคเนี่ย แต่ที่บ้านพี่นะเค้าไปเที่ยวเชียงใหม่กันหมดแล้ว”
“แล้วทำไมพี่เจี๊ยบไม่ตามไปล่ะคะ”
“ไม่ล่ะ อีกสองวันเค้าก็กลับกันแล้ว พี่ขี้เกียจตามไปให้เหนื่อย”
“ถ้างั้นคืนนี้เราไปเคาท์ดาวน์ที่เซ็นทรัลเวิลด์กันมั้ยคะ” มีนาชวน
“น้องมีนจะไปเหรอ”
“ค่ะ มีนจะไปกับพีทน่ะค่ะ พี่เจี๊ยบไปด้วยกันสิคะ จะได้ไม่ต้องเหงาอยู่ที่บ้าน”
“ว้าย น้องพีทสุดหล่อไปด้วยเหรอเนี่ย ไปๆ พี่ไปด้วย” พี่เจี๊ยบส่งเสียงตื่นเต้นทันทีเมื่อรู้ว่าหนุ่มหล่อรุ่นน้องก็ไปด้วย
พีรพัฒน์กับมีนากลับมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเดิม ทั้งคู่ยังคงสนิทสนมกันเหมือนเดิมหรืออาจจะมากขึ้นด้วยซ้ำ ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำ และมีนาเองก็เคยแนะนำพีรพัฒน์ให้รู้จักกับพี่และน้องในทีมตอนที่พีรพัฒน์มานั่งรอเธอในวันที่ทั้งคู่มีนัดกัน
“นี่น้องมีน ตกลงน้องมีนกับน้องพีทไม่ใช่แฟนกันจริงๆ เหรอ” พี่เจี๊ยบถามคำถามนี้เป็นครั้งที่เท่าไรมีนาก็จำไม่ได้
“ก็มีนบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าเป็นเพื่อนกัน”
“ถ้างั้นพี่ขอนะ” พี่เจี๊ยบเอ่ยติดตลกเช่นเคย
“พี่เจี๊ยบต้องไปขอนายพีทเค้าเองค่ะ ขอมีน มีนก็ไม่รู้จะตอบยังไง ฮ่าๆ”
“5 4 3 2 1 สวัสดีปีใหม่ เฮ
” เสียงนับถอยหลังตามด้วยเสียงอวยพรวันปีใหม่ทำให้ทุกคนในบริเวณลานกว้างแห่งนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข และความหวังกับการเริ่มต้นสิ่งดีๆ ในปีต่อไป
“มีนครับ” เสียงเรียกชื่อของเธอทำให้มีนาต้องหันไปมองหาต้นเสียง
“อ้าว นนท์” มีนาเอ่ยทักชายหนุ่ม เพื่อนใหม่ของเธอซึ่งมิ้นท์เพื่อนสนิทที่ออฟฟิศของเธอแนะนำให้รู้จักตอนที่ไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาด้วยกันเมื่อสัปดาห์ก่อน ตอนแรกมีนาคิดว่าจะไปกับมิ้นท์แค่สองคน แต่มิ้นท์กลับบอกว่ามีเพื่อนอีกคนอยากจะไปด้วยซึ่งก็คือนนท์นั่นเอง
“บังเอิญจัง มีนมาคนเดียวเหรอครับ ไปทานข้าวกันมั้ย” นนท์ชวนทันที
“เอ่อ มีนนัดเพื่อนไว้น่ะค่ะ เดี๋ยวก็คงมา”
“มีน” เสียงพีรพัฒน์ร้องเรียกพร้อมกับเดินมายืนข้างๆ มีนา
“อ้าว พีทมาพอดีเลย เอ่องั้นมีนขอตัวก่อนนะคะ” มีนาหันมาขอตัวจากเพื่อนใหม่ แล้วดึงพีรพัฒน์เดินไปทันที
“คนเมื่อกี้ใครน่ะมีน” พีรพัฒน์ถามขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามานั่งในร้านอาหารแห่งหนึ่งและสั่งอาหารกันเรียบร้อยแล้ว
“เค้าชื่อนนท์ เป็นเพื่อนของมินท์ เพื่อนเราที่ออฟฟิศน่ะ” มีนาอธิบาย
“เค้าจะจีบมีนเหรอ” พีรพัฒน์ถามอย่างพอจะดูออก เมื่อชายหนุ่มที่ชื่อนนท์คนนั้นมีสีหน้าสลดลงไปทันทีเมื่อเห็นพีรพัฒน์เข้ามายืนเคียงข้างมีนาอย่างสนิทสนมเมื่อสักครู่
“ไม่หรอก” มีนาบอกปัดไป ทั้งๆ ที่ความจริงเธอก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน นึกถึงวันที่ไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาวันนั้น เธอรู้สึกว่านนท์คอยเอาอกเอาใจเธอเป็นพิเศษ อีกทั้งยังขอเบอร์โทรศัพท์และ e-mail address ของเธอไปอีกด้วยโดยอ้างว่าจะส่งรูปถ่ายไปให้เธอเพราะวันนั้นนนท์ซึ่งชอบเล่นกล้องเป็นงานอดิเรก อาสาเป็นตากล้องถ่ายรูปให้กับมีนาและมิ้นท์ทั้งวัน เชื่อว่าเขาคงถ่ายรูปของทั้งสองสาวได้หลายร้อยรูปเลยทีเดียว
หลังจากกลับจากตลาดน้ำในวันนั้น นนท์ก็โทรศัพท์มาหามีนาสองสามครั้ง แต่มีนาก็คุยด้วยเพียงครู่เดียวแล้วหาเรื่องวางหูไป จริงๆ แล้วเธอเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรชายหนุ่มผู้นั้น แต่เธอแค่ไม่อยากให้ความหวังกับเขาเพราะเธอรู้ว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจให้ใครในเวลานี้ เพราะเธอยังมีทินกรอยู่เต็มหัวใจ
“มีน ได้ยินข่าวพี่เล็กบ้างมั้ย” พีรพัฒน์ถามขึ้น
“ข่าวอะไรเหรอ” มีนาย้อนถามเสียงเรียบ ทั้งๆ ที่ใจเริ่มเต้นแรงเพียงแค่ได้ยินชื่อของทินกร ‘ข่าวอะไรกัน หรือคุณเล็กกำลังจะแต่งงาน’
“พี่พายบอกว่า เดือนหน้าพี่เล็กเค้าจะกลับมาเมืองไทย จะอยู่ที่นี่สองสามอาทิตย์น่ะ”
“เหรอ เราไม่รู้หรอก ก็เราไม่ได้ติดต่อกับเค้านี่นา” มีนายังคงพยายามทำเหมือนไม่ใส่ใจกับความเคลื่อนไหวของชายหนุ่มคนนั้นต่อไป
‘ใช่สิ เราจะไปรู้เรื่องของเค้าได้ยังไง เค้าไม่เคยจะติดต่อเราเลยนี่นา อีเมลเราก็มีก็ไม่เคยจะคิดจะเมลมาหา แม้แต่ตอนเค้าจะไปเค้ายังไม่โทรมาลาเราซักคำ’ มีนาคิดอย่างน้อยใจ
“มีนยังรักพี่เล็กอยู่รึป่าว” พีรพัฒน์โพล่งคำถามออกมาจนมีนาตั้งตัวไม่ติด
“ถามอะไรน่ะพีท”
“เรารู้นะว่ามีนยังรักพี่เล็กอยู่ มีนถึงไม่เคยเปิดใจให้ใครเลยเกือบสองปีนี้” พีรพัฒน์พูดแทงใจดำ
“ทำไมล่ะมีน ทำไมมีนยังรักเค้าทำไมมีนถึงไม่บอกเค้าไปล่ะ มีนโทรไปหาเค้าก็ได้ เมลไปก็ได้ โลกเราเดี๋ยวนี้มันแคบนิดเดียวนะมีน แค่เค้าไปอังกฤษแค่นี้มันไม่ได้ทำให้ต้องตัดขาดกันนะ”
“ใช่พีท แต่คนที่ตัดขาดน่ะคือคุณเล็กนะ ไม่ใช่เรา เค้าเป็นคนเดินออกไปจากชีวิตเราเอง เค้าเองก็มีทั้งเบอร์โทรทั้งเมลของเรา เค้าก็ไม่เคยโทรหรือเมลมาเลย แม้แต่ตอนที่เค้าจะไป เราขอไปส่งเค้า เค้ายังปฏิเสธเราเลย แล้วจะให้เราติดต่อไปหาเค้าทำไมล่ะพีท” มีนาตอบโต้อย่างอัดอั้นตันใจ
“แล้วคุณเล็กเค้าก็ไม่ได้รักเราหรอก เรารู้” มีนาพูดต่อเสียงเบา
“ไม่จริงหรอก มีนไม่รู้อะไร” พีรพัฒน์รีบแก้ตัวแทน
“พีทนั่นแหละไม่รู้อะไร เราเลิกพูดถึงเค้าเถอะพีท ทำไมเราต้องมาเถียงกันเรื่องนี้ด้วย” มีนาตัดบทอย่างไม่อยากรับฟังอะไรทั้งสิ้น
‘คนที่รักเราคงไม่ทิ้งเราไปอย่างไม่ไยดี แล้วก็หันไปควงคนใหม่ภายในเวลาไม่กี่วันหรอก’ มีนาคิดในใจอย่างเจ็บปวด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น