คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : บทที่ 20 กว่าจะรู้ใจตัวเอง
บทที่ 20 กว่าจะรู้ใจตัวเอง
“มีน ไม่สบายรึเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย” ทินกรถามขึ้นเมื่อขับรถมาส่งมีนาถึงอพาร์ตเม้นท์
“มีไข้รึป่าว” ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมมือมาวัดไข้ที่หน้าผากของหญิงสาว
“มีนไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ แค่มึนๆ นิดหน่อยน่ะค่ะ” มีนาตอบ
“ถ้ายังงั้นมีนขึ้นห้องไปทานยาแล้วนอนเยอะๆ นะครับ ไม่ต้องทำงานแล้วนะครับ ผมรู้ว่ามีนชอบเอางานกลับมาทำแล้วก็นอนดึกๆ ถึงไม่สบายแบบนี้” ชายหนุ่มสั่งแกมบ่นด้วยความเป็นห่วง
“เจ้าค่ะ” มีนายังมีอารมณ์ล้อชายหนุ่มทั้งๆ ที่ตัวเองหน้าซีดเซียวมาก แล้วเมื่อเธอลงจากรถเธอก็รู้สึกโลกหมุนติ้ว ก่อนจะได้ยินเสียงเรียกชื่อ “มีน” เหมือนดังมาจากที่ไกลๆ แล้วความรู้สึกสุดท้ายก็มืดดับลง
มีนาเริ่มรู้สึกตัวเมื่อมีผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเธออย่างนุ่มนวล แล้วก็เห็นหน้าทินกรแบบพร่ามัว ก่อนจะเริ่มระลึกได้ว่าเมื่อสักครู่ตอนที่เธอลงจากรถของทินกรแล้วหลังจากนั้นก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
“มีนตื่นแล้วเหรอครับ” ทินกรยิ้มอย่างให้กำลังใจ “มีนเป็นลมไปเมื่อกี้ จำได้มั้ยครับ ผมต้องอุ้มมีนขึ้นมาบนห้องเนี่ยแหละ”
มีนาปรับสายตาให้สามารถมองเห็นชัดเจนขึ้น แล้วเธอก็เห็นว่าเธอนอนอยู่ในห้องของอพาร์ตเม้นท์ของเธอนั่นเอง
“มีนทานยาก่อนนะครับ แล้วนอนพักซักหน่อยนะครับ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนมีนเอง” ชายหนุ่มส่งยาและแก้วน้ำให้มีนา
“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณเล็กกลับบ้านไปเถอะค่ะ มีนดูแลตัวเองได้” มีนารีบปฎิเสธทันที เนื่องจากความไม่เหมาะสมที่เธอและเขาจะอยู่ตามลำพังสองต่อสองแบบนี้
“ไม่ได้ ยังไงผมก็ไม่ปล่อยให้มีนอยู่คนเดียวทั้งๆ ที่ไม่สบายแบบนี้หรอก” ชายหนุ่มไม่ยอมเช่นเดียวกัน
“มีนไม่ต้องกลัวว่าผมจะทำอะไรมีนหรอกครับ” ชายหนุ่มพูดขึ้นเหมือนรู้ใจคนตัวเล็ก “ผมไม่ชอบรังแกคนป่วย เอาไว้รอมีนสบายดีก่อนละไม่แน่” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูมีนาด้วยสายตาเป็นประกาย เล่นเอาคนป่วยหน้าแดงซ่าน ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะพิษไข้ หรือเพราะความเขินอาย หลังจากนั้นชายหนุ่มก็นั่งกุมมือมีนาจนกระทั่งเธอหลับไปในที่สุด
เช้าขึ้นมามีนาก็ได้ทินกรเป็นพ่อครัวทำอาหารให้ทาน แล้วยังเป็นบุรุษพยาบาลประจำตัวคอยบังคับให้เธอทานยา ทั้งยังพยายามจะเช็ดตัวให้มีนาอีกด้วย แต่มีหรือที่มีนาจะยอม ชายหนุ่มจึงทำได้แค่วางผ้าชุบน้ำบนหน้าผากของมีนาเพื่อลดไข้เท่านั้น จนกระทั่งไข้ของมีนาลดลงในที่สุด
“มีนดีขึ้นแล้วค่ะ คุณเล็กกลับบ้านได้แล้วล่ะค่ะ” มีนาพยายามเกลี้ยกล่อมชายหนุ่มอีกครั้ง หลังจากที่เขาดึงดันจะอยู่เป็นเพื่อนเธออีกหนึ่งคืนให้ได้
“แล้วพรุ่งนี้เช้าคุณต้องไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวงานแต่งพี่พายกับพี่กอล์ฟ คุณต้องตื่นแต่เช้านะคะ มาดูแลมีนทั้งคืน พรุ่งนี้จะตื่นไหวได้ยังไงคะ”
“ก็ได้ครับ แต่ผมว่าพรุ่งนี้มีนไม่ต้องไปร่วมงานช่วงเช้าก็ได้ เดี๋ยวผมบอกพายให้เองว่าคุณไม่ค่อยสบาย แล้วตอนเย็นๆ ผมค่อยมารับมีนไปงานเลี้ยงที่โรงแรมนะครับ”
“ถ้างั้นมีนพักผ่อนได้แล้วครับ ผมจะรอจนมีนหลับแล้วผมถึงจะกลับ” ทินกรยังคงเป็นห่วง
“ค่ะ” มีนารับคำแล้วยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างอ่อนแรงก่อนจะหลับลงไปด้วยฤทธิ์ยาอีกครั้ง
“วันนี้มีนสวยมากเลยครับ” ทินกรเอ่ยชมทันทีที่มีนาลงมาพบเขาด้านล่างเพื่อไปงานเลี้ยงวันแต่งงานของพี่สาวของพีรพัฒน์
วันนี้มีนาใส่ชุดราตรีสีน้ำเงินเปลือยไหล่ข้างหนึ่งชายกระโปรงบานสั้นเท่าเข่าดูแล้วน่ารักแต่ก็แอบเซ็กซี่เล็กน้อย เข้าชุดกับกระเป๋าถือสีเงินระยิบระยับและต่างหูเพชรเม็ดเล็ก และวันนี้หญิงสาวก็ใส่สร้อยข้อมือเพชรที่ทินกรเคยให้เป็นของขวัญวันเกิดมาด้วย
...
“เชิญเลยครับเจ้าหญิง” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับโค้งให้หญิงสาวอย่างหยอกล้อขณะเปิดประตูรถให้หญิงสาวลงเมื่อถึงโรงแรมที่จัดเลี้ยงแล้ว
เมื่อเข้าไปถึงบริเวณหน้าห้องจัดเลี้ยงทินกรและมีนาก็ได้เข้าไปเขียนคำอวยพรให้คู่บ่าวสาว พร้อมกับถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก ก่อนที่จะเข้าไปร่วมโต๊ะกับเพื่อนๆ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทินกร ซึ่งก็เป็นเพื่อนของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวด้วย เนื่องจากพี่พายและพี่กอล์ฟและทินกรเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนคณะเดียวกัน
“เฮ้ย เล็กพรากผู้เยาว์มันผิดกฎหมายนะ แกก็น่าจะรู้นี่นา” คุณต้นเพื่อนคนหนึ่งของทินกรเอ่ยล้อขึ้นมาทันทีที่ชายหนุ่มพามีนามาร่วมโต๊ะและแนะนำให้ทุกคนรู้จักมีนา ถึงแม้เขาจะไม่ได้บอกว่าเธอเป็นแฟนของเขา แต่ท่าทางประคับประคองและดูแลอย่างทะนุถนอมของเขาก็ทำให้เพื่อนๆ ทุกคนในโต๊ะเข้าใจอย่างนั้น เพราะมีนาเป็นผู้หญิงตัวเล็กอีกทั้งหน้าตายังดูอ่อนกว่าวัยทำให้หลายๆ คนเข้าใจว่าเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ
“แกก็พูดเกินไป มีนเค้าอายุ 24 แล้ว แต่น่ารักแบบนี้ต่อให้โดนจับข้อหาพรากผู้เยาว์ ข้าก็ยอมเว้ย” ทินกรตอบกลับทันที ส่งผลให้มีนารีบหยิกแขนของเขาที่อยู่ด้านล่างของโต๊ะทันทีเพื่อให้เขาหยุดพูดจาเข้าตัวเธอได้แล้ว
“โอ้ย” เสียงทินกรอุทานขึ้นมาจนเพื่อนๆ สงสัย เขาจึงรีบแก้ตัวว่า “ทำไมโรงแรมนี้มียุงด้วยเนี่ย กัดเจ็บจริงๆ”
“แหม ยุงที่นี่ท่าทางจะน่ารักด้วยนะ ไอ้เล็กมันถึงยอมให้กัดแบบนี้ ฮ่าๆๆ” คุณต้นผู้ช่างสังเกตสัพยอก จนทำให้เพื่อนๆ ในโต๊ะเข้าใจทันทีว่าทินกรโดนยุงชื่อมีนากัดนี่เอง
‘น่าแปลก ทำไมพีทมาคนเดียว แล้วแป้งไม่มาด้วยเหรอ’ มีนานึกสงสัยเมื่อมองไปเห็นพีรพัฒน์ซึ่งนั่งอยู่โต๊ะกลางสำหรับญาติของคู่บ่าวสาวและเธอสังเกตเห็นว่าพีรพัฒน์มองมาที่เธออยู่บ่อยครั้ง
“เอาละครับสาวๆ พร้อมรึยังครับ” เสียงพิธีกรบนเวทีเอ่ยถามบรรดาสาวโสดที่มายืนรอรับดอกไม้เจ้าสาวกันอย่างคึกคักเพื่อโอกาสที่จะได้เป็นเจ้าสาวคนถัดไปตามความเชื่อ หนึ่งในนั้นก็รวมถึงมีนาด้วยทั้งๆ ที่เธอก็ไม่ได้อยากรับดอกไม้ แต่ก็ออกมาเพราะเพื่อนของทินกรชื่อคุณนิดชวนเธอออกมาด้วยกัน
“หนึ่ง...สอง...สาม...” สิ้นเสียงนับ ช่อดอกกุหลาบสีขาวก็ลอยละล่องลงมายังกลุ่มสาวๆ แต่แล้วมันก็ลอยมาอยู่ในมือของมีนาแบบที่เธอเองก็ยังไม่ทันตั้งตัว
...
“เฮ้ยเล็ก น้องมีนเค้าได้ดอกไม้ว่ะ จะมีข่าวดีกันเมื่อไร” คุณต้นเอ่ยแซวทันทีที่มีนาเดินถือช่อดอกไม้เจ้าสาวกลับมาที่โต๊ะ
“ข้าพร้อมมานานแล้วเว้ย รอมีนอยู่เนี่ยแหละว่าเมื่อไหร่จะตกลงซะที” ชายหนุ่มเอ่ยติดตลกแต่ก็แฝงความนัยมายังมีนาด้วยเช่นกัน มีนารู้สึกเขินอายเมื่อตกเป็นประเด็นของกลุ่มเพื่อนทินกรไม่เลิก
“อุ้ย พีท” มีนาอุทานอย่างตกใจเมื่อเธอพบพีรพัฒน์ยืนดักรอเธออยู่หน้าห้องน้ำหญิง หลังจากที่เธอขอตัวจากทินกรและกลุ่มเพื่อนของเขาออกมาเข้าห้องน้ำเมื่อสักครู่
“มีน เรามีอะไรอยากคุยด้วยน่ะ” พีรพัฒน์พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังจนมีนาเองยังตกใจ “มีน เรากับแป้งเลิกกันแล้วนะ”
“เราเสียใจด้วยนะพีท” มีนาอึ้งไปพักใหญ่ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรที่ดีกว่านี้
“แล้วพีทมาบอกเราทำไมเหรอ” มีนาถามต่อด้วยความไม่เข้าใจ
“เราบอกมีนก็เพราะว่าตอนนี้เราไม่มีใครแล้ว เรากับมีนคบกันได้แล้วนะ”
“พีท เราไม่เข้าใจ พีทหมายความว่ายังไง”
“มีนเรารักมีนนะ รักมานานแล้ว แต่เราก็ไม่รู้ใจตัวเอง เราคิดว่าเราผูกพันกันแบบเพื่อน พอแป้งกลับมาขอคืนดีเราเลยกลับไปคบกับแป้ง แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเรารักมีน ไม่ได้รักแป้ง แล้วเราก็รู้นะว่ามีนก็รักเราเหมือนกันจริงมั้ย เราเป็นแฟนกันนะมีน” พีรพัฒน์พูดต่ออย่างมีความหวัง
‘พีทขอเราเป็นแฟนเหรอ’ มีนามึนงงและสับสนกับสิ่งที่ได้ยิน ‘นี่เราควรจะดีใจสิ เรารักพีทไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมเราไม่ดีใจเลยล่ะ หรือว่า...’
มีนาคงจะเงียบไปนานจนพีรพัฒน์ต้องถามซ้ำเพื่อให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์
“นะมีน เราเป็นแฟนกันนะ”
“พีท เราขอโทษนะ เราเป็นแฟนกับพีทไม่ได้หรอก” มีนาหาคำตอบให้ตัวเองได้ในที่สุด
“ทำไมล่ะ” เสียงของพีรพัฒน์แสดงถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน
“เรายอมรับว่าเราเคยรักพีท แต่ตอนนี้เราคิดว่ามันไม่ใช่แล้ว” มีนาเอ่ยอย่างพยายามรักษาน้ำใจพีรพัฒน์มากที่สุด
“มีนรักพี่เล็กเหรอ” พีรพัฒน์เอ่ยขึ้นอย่างเริ่มเข้าใจอะไรขึ้นแล้ว
“ใช่พีท เราก็เพิ่งรู้ใจตัวเองตอนนี้เหมือนกัน”
หลังจากนั้นทั้งคู่ต่างก็ยืนนิ่งเงียบไปนานจนกระทั่งพีรพัฒน์ทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน
“เราเข้าใจแล้วมีน แต่เรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่มั้ย”
“อืม แน่นอนพีท” แล้วทั้งคู่ต่างก็ยิ้มให้กันในมิตรภาพของความเป็นเพื่อนอย่างแท้จริง
“เรากลับเข้าไปในงานกันเถอะพีท” มีนาเอ่ยชวนแล้วกำลังจะหันตัวกลับแต่...
“อุ้ย” มีนาสะดุดรองเท้าส้นสูง 5 นิ้วของเธอจนเกือบจะล้ม ดีที่พีรพัฒน์ช่วยประคองรั้งร่างของเธอเอาไว้ได้ มิฉะนั้นเธอคงได้ล้มพับไปบนพื้นเรียบร้อยแล้ว
“เดินดีๆ สิมีน ซุ่มซ่ามเหมือนเดิมเลยนะ ฮ่าๆๆ” พีรพัฒน์แซวมีนา
ความคิดเห็น