คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 15 กุญแจเป็นเหตุ
บทที่ 15 กุญแจเป็นเหตุ
“แย่แล้ว ลืมกุญแจห้องอีกแล้ว” มีนารู้ตัวเมื่อชายหนุ่มขับรถมาใกล้ถึงหน้าอพาร์ตเม้นท์ที่เธออยู่แล้ว
“แล้วทำไงดีล่ะ” ทินกรถามอย่างเป็นห่วง
“ตอนนี้ดึกแล้ว สำนักงานคงปิดแล้ว มีนคงขอยืมกุญแจสำรองไม่ได้ อ่อ เดี๋ยวมีนไปขอนอนห้องเพื่อนก็ได้ค่ะ” แล้วหญิงสาวก็นึกขึ้นได้ว่าเธอควรไปนอนกับเพื่อนคนหนึ่งเพราะเธอก็เช่าอพาร์ตเม้นท์อยู่คนเดียวเช่นกัน เธอไม่อยากไปอยู่กับเพื่อนที่อยู่บ้านกับพ่อแม่เพราะเธอเกรงใจผู้ใหญ่
“ฮัลโหลผึ้งเหรอ” มีนาโทรศัพท์หาเพื่อนคนนั้นทันที
“นี่มีนเองนะ...จ๊ะ...มีเรื่องรบกวนหน่อย...คืนนี้จะขอไปนอนด้วยได้ป่าว เราลืมกุญแจห้อง...อ้าวอยู่เสม็ดเหรอ...กลับพรุ่งนี้เลยเหรอ...จ๊ะๆ ไม่เป็นไร...ขอบคุณมากนะ... เท่านี้นะ บ้ายบาย” มีนาผิดหวัง
“มีนไปนอนบ้านผมก่อนมั้ย” ทินกรเสนอ
“เอ่อ ไม่ดีหรอกค่ะ” มีนาปฏิเสธทันที ‘เราเป็นผู้หญิงจะไปนอนบ้านผู้ชายได้ไงกัน แม่รู้โดนตีตายเลย ถึงคิดแค่เป็นพี่เป็นน้องกันก็เหอะ’
“ผมไม่ได้อยู่บ้านคนเดียวนะ พ่อกับแม่ผมก็อยู่ เดี๋ยวผมอธิบายให้ท่านฟังเอง แล้วมีนก็นอนห้องเดียวกับน้องธีก็ได้” ทินกรรีบอธิบาย
‘จะดีเหรอ แต่นี่มันก็มืดแล้วไม่งั้นเราจะไปอยู่ที่ไหนได้ล่ะ’ มีนาลังเล แต่สุดท้ายความง่วงก็ชนะ
“ถ้างั้นมีนรบกวนหน่อยนะคะ” มีนาตอบรับในที่สุด
“แม่หนูเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันจ๊ะ” คุณเพียงเพ็ญแม่ของทินกรถามขึ้นทันทีเมื่อชายหนุ่มอธิบายว่าจะขอให้มีนามานอนที่บ้าน มีนาหน้าซีดเวลานี้เธอไม่อยากนอนที่นี่แล้วรู้สึกอยากกลับไปนั่งตากยุงที่ล็อบบี้อพาร์ตเม้นท์ตัวเองแทนมากกว่า
‘ตายแล้ว ภาพพจน์ของมีนาเสียหายหมด ดูสิแม่เค้าซักเราขนาดนี้ สงสัยจะหวงลูกชายมาก’
“แม่ครับ” ทินกรขัดขึ้นแล้วหันไปมองหญิงสาวอย่างเป็นกังวล
“คุณไปถามอะไรอย่างนั้น” คุณทศพลพ่อของทินกรปรามเบาๆ
“เอ่อ คุณพ่อหนูเสียแล้ว มีแต่คุณแม่คนเดียวค่ะ ท่านช่วยกิจการโรงสีของคุณตาคุณยายอยู่ที่พิษณุโลกค่ะ”
“เอ๊ะ โรงสีที่พิษณุโลกเหรอ
แม่ของหนูชื่ออะไรกัน” คุณเพียงเพ็ญซักต่อ
“แม่ของหนูชื่อพิจิตราค่ะ พิจิตรา ภักดีวงศ์ นามสกุลเดิม เชี่ยวชาญวานิชค่ะ” มีนาตอบกลับไปแบบเกร็งๆ
“โธ่ ลูกของน้องพิจิตราเองเหรอเนี่ย แหมโลกกลมจริงๆ เลย” คุณเพียงเพ็ญพูดต่อ “น้องพิจิตราที่เป็นรุ่นน้องที่คณะชั้นไงคะ ตอนชั้นอยู่ปี 4 เธอเพิ่งเข้ามาปี 1” คุณเพียงเพ็ญหันมาอธิบายให้สามีฟัง
“ถ้างั้นก็ตามสบายเลยนะหนูมีน แหม คนกันเองแท้ๆ ไปๆ เดี๋ยวป้าพาไปดูห้องเอง” ว่าแล้วคุณเพียงเพ็ญก็โอบไหล่พาหญิงสาวเดินไปทางบันได หญิงสาวหันมาสบตาทินกรแบบงงๆ แต่อย่างน้อยก็รู้สึกดีที่คุณแม่ของทินกรเมตตาเธอไม่เหมือนเมื่อสักครู่
“น้องธีทำไมยังไม่นอนอีกล่ะครับ” มีนาหาวหวอด เธออยากนอนเต็มทีแต่ยังนอนไม่ได้เพราะเด็กน้อยไม่มีทีท่าว่าจะหลับซักที
“น้องธีอยากฟังนิทาน ปกติแม่ต้องมาเล่านิทานให้ฟังทุกคืน น้ามีนเล่าให้ธีฟังหน่อย”
หลังจากกลับมาถึงบ้านชายหนุ่ม น้องธีก็ดูมีท่าทีที่ดีกับเธอมากขึ้น ไม่พูดจาไม่น่ารักอีก มีนาจึงรู้สึกดีขึ้น
“เดี๋ยวน้ามีนเล่าเรื่องซินเดอเรลล่าให้ฟัง” มีนาบอก
“ฟังจนเบื่อแล้ว” น้องธีปฏิเสธ
“งั้น สโนไวท์”
“ฟังบ่อยกว่าเรื่องเมื่อกี้อีก”
“งั้น เจ้าหญิงนิทราละกัน ต้องยังไม่เคยฟังแน่ๆ”
“ไม่เอาอ่ะ เรื่องนี้น้องธีก็ฟังแล้ว”
‘อ่าว แย่ละ รู้จักอยู่แค่สามเรื่องนี้เอง’ มีนาหมดหนทาง
“แต่น้ามีนรู้จักแค่สามเรื่องเองนะคะ งั้นน้ามีนร้องเพลงให้ฟังแทนดีมั้ย” มีนาเสนอ เด็กน้อยพยักหน้า
อุ่นใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม
อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกอง
รักเจ้าจึงปลูก รักลูกแม่ย่อมห่วงใย
ไม่อยากจากไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน
ให้กายเราใกล้กัน ให้ดวงตาใกล้ตา
ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน
ในที่สุดน้องธีก็ซุกหน้าเข้าหาอ้อมอกของมีนาแล้วหลับไปในที่สุด
‘ยังร้องไม่ทันจบเพลงก็หลับซะละ เวลานอนก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย’ มีนายิ้มอย่างเอ็นดูแล้วเอื้อมมือไปปิดไฟแล้วหันมาโอบกอดน้องธีและหลับไปเช่นเดียวกัน
...
“คุณเล็ก มีนขอบคุณนะคะ ที่เมื่อคืนให้มีนไปนอนบ้าน” มีนาพูดขึ้นเมื่อทินกรมาส่งเธอถึงอพาร์ตเม้นท์ในตอนเช้าแล้วรอจนกระทั่งมีนาไปขอยืมกุญแจสำรองจากสำนักงานอพาร์ตเม้นท์มาได้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” ทินกรยิ้มรับ
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ไม่ลำบากแบบนี้หรอกค่ะ มีนเอากุญแจสำรองฝากห้องพีทไว้ ถ้าลืมก็ไปเคาะห้องพีทได้เลย” มีนาบ่นต่อไปเรื่อย มีนารู้ว่าทินกรรู้จักพีรพัฒน์ เพราะทินกรเป็นเพื่อนพี่พาย และพี่พายเองก็เคยบอกเขาว่าเธอกับพีรพัฒน์เป็นอดีตเพื่อนบ้านกัน
“ถ้างั้นมีนฝากกุญแจสำรองไว้กับผมมั้ย เผื่อวันไหนลืมอีกผมจะได้ขับรถเอามาให้” ทินกรเสนอ
“อุ้ย อย่าเลยค่ะ มีนเกรงใจ”
“ไม่เป็นไรหรอก บ้านผมก็อยู่แค่ซอยถัดไปแค่นี้เอง ฝากไว้เถอะ แล้วมีนก็คงไม่ได้ลืมกุญแจทุกวันหรอกจริงมั้ย”
“ก็จริง งั้นมีนขึ้นไปเอาลงมาให้นะคะ” มีนาตอบตกลงในที่สุด
14 ธันวาคม 2551
สวัสดีค่ะคุณไดอารี่
คุณเล็กนี่น่ารักนะคะ ใจดี เหมือนพี่สิงห์เลยค่ะ
“พี่ว่ามันยังไงๆ นะน้องมีน คุณทินไปส่งมีนทุกวันแบบนี้ แถมเสาร์อาทิตย์ก็ยังนัดเจอกันอีก” พี่เจี๊ยบพูดขึ้นขณะที่มีนาไปทำงานในวันถัดไปแล้วเอารูปที่เธอถ่ายที่สวนสนุกมาอวดพี่ๆ น้องๆ ในทีม
“พี่ว่าคุณทินต้องคิดจะจีบน้องมีนแน่ๆ” พี่เจี๊ยบยังคงพูดต่อ
“ไม่หรอกค่ะ เค้าไม่เคยแสดงท่าทีอะไรเลย แล้ววันก่อนเค้าก็แค่ชวนมีนไปเที่ยวเป็นเพื่อนหลานเค้าแค่นั้นเอง”
“ไม่แน่หรอก น้องมีนอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้นะ”
“จริงๆ ค่ะ แล้วมีนจะบอกให้นะคะว่าเวลามีนอยู่กับเค้าน่ะ มีนทำอะไรเปิ่นๆ ตั้งหลายอย่าง แถมวันนั้นยังไปทำหลานเค้าหกล้มเป็นแผลอีก เค้าคงไม่ชอบมีนหรอกค่ะ”
“อาจจะเหมือนซีรี่ย์เกาหลีก็ได้นะคะพี่มีน ประมาณคุณชายมาดเนี้ยบกับแม่สาวจอมเปิ่นอะไรเงี้ย” น้องอ้อพูดขึ้นมาบ้าง
“555 จริงๆ พี่เห็นด้วย” พี่เจี๊ยบรีบสนับสนุน
“งานเสร็จกันหมดแล้วเหรอจ๊ะสาวๆ เดี๋ยวพี่ก็สั่งงานเพิ่มหรอก” เสียงสุดท้ายเป็นเสียงของพี่ก้อยที่เริ่มเห็นว่าวงสนทนาจะเริ่มบานปลายขึ้นทุกที
“ไปทำงานแล้วคร่า
” ว่าแล้วสามสาวก็สลายตัวไปคนละทิศละทางเพื่อไปขอเอกสารจากลูกค้ามาตรวจสอบต่อไป
‘คุณเล็กจะชอบเราจริงๆ เหรอ ไม่หรอกมั้ง’ มีนาเองก็เริ่มไม่แน่ใจ
และแล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่มีนาจะไปตรวจสอบบัญชีที่บริษัททินกร แล้ววันนี้ทินกรก็มาส่งเธอที่อพาร์ตเม้นท์เช่นเดิม
“เดี๋ยวอาทิตย์หน้ามีนก็ไปทำงานที่บริษัทอื่นแล้วคงไม่ได้ติดรถคุณเล็กกลับอีก ยังไงขอบคุณคุณเล็กมากนะคะ ที่สามอาทิตย์นี้มาส่งมีนทุกวันเลย”
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงบ้านเราก็ทางเดียวกัน” ทินกรยิ้มรับแล้วขับรถจากไป
ความคิดเห็น