คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 10 ดูตัว
บทที่ 10 ดูตัว
“เซอร์ไพรซ์.....”
“คุณแม่!!” เกศกาญจน์อุทานอย่างตกใจเมื่อเปิดประตูคอนโดแล้วพบหน้าคุณขวัญใจแม่ของเธอ
“คุณแม่มาได้ยังไงคะ”
“ก็แม่คิดถึงลูกนี่จ๊ะ หนูไม่กลับไปเยี่ยมแม่หลายเดือนแล้วนะลูก แม่ก็เลยต้องมาหาหนูเอง แล้วหนูจะไม่ให้แม่เข้าห้องเหรอจ๊ะ”
“ค่ะๆ”
...
“ว่ายังไงนะคะแม่” เกศกาญจน์โวยวายเสียงดังเมื่อรู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการมากรุงเทพในครั้งนี้ของคุณขวัญใจ
“แม่จะให้เกศไปดูตัวเนี่ยนะคะ”
“ใช่ลูก ก็แม่เห็นว่าเกศน่ะอายุอานามก็ 30 เข้าไปแล้ว ยังไม่ได้แต่งงานซักที แม่มีลูกสาวอยู่คนเดียวก็อยากจะให้เป็นฝั่งเป็นฝา แม่จะได้หมดห่วง”
“โธ่ แม่คะนี่มันสมัยไหนกันแล้วคะ ผู้หญิงน่ะทำงานเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายหรอกค่ะแม่”
“แต่มันไม่เหมือนกันนะเกศ แม่ว่าแต่งงานมีครอบครัวน่ะดีกว่า แก่ตัวไปก็จะได้มีลูกมีหลานคอยดูแล แล้วแม่ก็อยากจะอุ้มหลานแล้วด้วย ดูสิคุณพิจิตราแม่หนูมีนยังได้เป็นยายแล้วเลย” คุณขวัญใจพยายามกล่อมลูกสาวคนสวย
“แม่คะ แต่เกศมีคนรักอยู่แล้ว แม่ยกเลิกงานดูตัวอะไรนี่ไปเถอะค่ะ” เกศกาญจน์ตัดสินใจโกหก
“จริงเหรอลูก ใครกัน ไม่เห็นพามาแนะนำให้แม่รู้จัก”
“ก็แม่อยู่ตั้งพิษณุโลก เกศจะพาไปแนะนำได้ยังไงล่ะคะ”
“เหรอจ๊ะ งั้นไม่เป็นไร ไหนๆ ตอนนี้แม่ก็ลงมากรุงเทพแล้ว งั้นหนูก็พาคนรักของหนูมาแนะนำให้แม่รู้จักเลยละกัน”
‘เอาแล้วไง’ เกศกาญจน์ลืมคิดถึงผลที่จะตามมาของคำโกหกของเธอ
“เอ่อ...แม่คะ เกศว่าคงไม่สะดวกหรอกค่ะ ตอนนี้ที่ทำงานเค้ายุ่งๆ อยู่น่ะค่ะ เสาร์อาทิตย์เค้าก็ต้องทำงานด้วย”
“เหรอ แต่แค่มาเจอหน้าแม่มากินข้าวด้วยกันแค่นี้มันจะเสียเวลาแค่ไหนเชียว ไม่รู้ล่ะแม่ให้เวลาสองวันลูกต้องพาคนรักมาแนะนำให้แม่รู้จัก ไม่อย่างนั้นวันเสาร์นี้หนูเตรียมไปดูตัวลูกชายเพื่อนแม่ได้เลย”
‘แย่แล้วเรา จะไปหาจากไหนได้ล่ะตอนนี้’
“ดูตัวเหรอเกศ” พริกถามขึ้นมา คืนนี้เกศกาญจน์ยังไม่ยอมกลับบ้านไปพบหน้าแม่ของเธอ เพราะเธอกลัวว่าแม่จะถามถึงคนรักที่ไม่มีตัวตนของเธอขึ้นมา เธอจึงนัดพริกเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของเธอมาดื่มในผับแห่งหนึ่ง
“อือ” เกศกาญจน์พยักหน้าด้วยสีหน้ากลุ้มใจและเริ่มดื่มหนักขึ้น
“เฮ้ยเกศใจเย็นๆ ดื่มมากเดี๋ยวก็เมาหรอก” พริกค้านขึ้นอย่างเป็นห่วงเพื่อน
“แล้วเกศคิดออกรึยังว่าจะหาใครไปแสดงเป็นคนรักน่ะ”
“ก็เพราะคิดไม่ออกไง ถึงได้ชวนพริกมาดื่มแก้เครียดอยู่เนี่ย คนที่เรารู้จักและพอไว้ใจได้ก็มีแฟนกันไปหมดแล้ว เรานึกไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะช่วยเราได้”
“อืม...แล้วชาติล่ะ เกศลองถามชาติดูรึยัง” พริกเอ่ยชื่อเพื่อนสนิทอีกคนที่เรียนร่วมคณะกับพวกเธอ ชาติชาย ซึ่งไม่ได้ชายสมชื่อ
“โห ชาติเนี่ยนะ แอ๊บแมนได้ไม่เคยเกิน 10 นาที ใครเห็นก็รู้หมดละว่าไม่ใช่ผู้ชาย” เกศกาญจน์ปฏิเสธ
“เฮ้อออ” สองสาวถอนหายใจออกมาพร้อมกันอย่างหมดหนทาง
...
“อุ้ย” เสียงอุทานของใครคนหนึ่งทำให้ชายหญิงคู่หนึ่งที่อาศัยมุมมืดหน้าห้องน้ำในผับแห่งนั้นจูบกันอย่างดูดดื่มต้องผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว
“เกศ” ชายหนุ่มคนนั้นตกตะลึงเมื่อเห็นหน้าเธอชัดๆ
“เอ่อ ขอโทษนะคะ ที่ขัดจังหวะ” เกศกาญจน์รีบกลับหลังหันเดินกลับไปทางเดิมทันที เธอยังคงตกใจที่เห็นภาพบาดตาบาดใจนั่น
“เกศ เดี๋ยวก่อน” รัฐเศรษฐ์ตามมารั้งแขนเธอไว้ได้ทันก่อนที่หญิงสาวเดินหนีหายไป
“คุณมาจับชั้นไว้ทำไมคะ”
“คุณเข้าใจผิดนะ คือผมกับเค้าเราไม่ได้เป็นอะไรกันนะ”
“เหรอคะ” เกศกาญจน์ย้อนกลับอย่างด้วยสายตาไม่เชื่อถือเลยซักนิด
‘พูดมาได้ ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่มายืนจูบกันในที่สาธารณะแบบนี้เนี่ยนะ’ หญิงสาวนึกในใจอย่างหมั่นไส้
“คุณไม่ต้องห่วงนะคะ ชั้นไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครในออฟฟิศหรอกค่ะ” หญิงสาวเข้าใจว่าเขาคงกลัวเธอจะนำเรื่องนี้ไปพูดต่อให้เขาเสียภาพพจน์
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้น”
“เดย์ขา คุณไปจับเค้าไว้ทำไมคะ เค้าก็บอกแล้วนี่คะว่าจะไม่บอกใครเรื่องของเราน่ะ” หญิงสาวผู้นั้นเดินตามมาดึงมือของชายหนุ่มที่เกาะเกี่ยวแขนของเกศกาญจน์ไว้อย่างหวงแหน นั่นยิ่งทำให้เธอยิ่งโมโหมากยิ่งขึ้น
“ใช่ ปล่อยชั้นได้แล้วค่ะ ชั้นไม่ชอบอยู่เป็นก้างขวางคอใคร เชิญพวกคุณตามสบายนะคะ” เกศกาญจน์ประชดประชันพร้อมกับสะบัดแขนหลุดจากการเกาะกุมของรัฐเศรษฐ์แล้วรีบเดินกลับไปที่โต๊ะทันที
“กลับกันเถอะพริก” เกศกาญจน์ชวนเพื่อนรักทันทีที่เดินกลับมาถึงโต๊ะ
“อ้าวทำไมล่ะ แล้วเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วเหรอเกศ เร็วจัง”
“ยังไม่ได้เข้าเลย ไปเจอภาพอุจาดตาซะก่อน”
“ไปกันเถอะพริก เราหมดอารมณ์แล้ว” เกศกาญจน์ดึงมือเพื่อนรักเดินออกไปจากตรงนั้นทันที
...
“เกศ นั่นมันพี่เดย์นี่” พริกเอ่ยขึ้นเมื่อเกศกาญจน์กึ่งลากกึ่งจูงเธอมาจนถึงลานจอดรถ เธอชี้ชวนให้เพื่อนดูชายหนุ่มและหญิงสาวที่เดินมาขึ้นรถคันหนึ่งที่จอดไกลออกจากรถเธอไปพอสมควร
“มากับใครน่ะ เอกซ์เป็นบ้าเลย”
“ขึ้นรถเถอะพริก อย่าไปสนใจเค้าเลย”
‘คงจะรีบไปสานต่อกันจากเมื่อกี้น่ะสิ หื่นกามชะมัด’ ประโยคนี้เกศกาญจน์พูดต่อในใจ
“แล้วที่เกศบอกว่าไปทำงานกับพี่เดย์น่ะ เป็นยังไงบ้าง”
“เค้าก็ทำงานเก่งดีน่ะ”
“ไม่ใช่ เราหมายถึงว่าเกศกับพี่เค้าน่ะมีถ่านไฟเก่าคุกันบ้างรึป่าว”
“หมายความว่าไง”
“เอ้า ก็พี่เดย์น่ะเป็นจูบแรกของเกศเลยไม่ใช่เหรอ เราก็นึกว่าได้ไปทำงานด้วยกันแบบนี้ก็จะมีถ่านไฟเก่าคุกรุ่นขึ้นมาซะอีก” พริกเอาเรื่องในอดีตมาล้อเพื่อน
“จูบแรกอะไรกัน มันแค่อุบัติเหตุนะ แล้วเรากับเค้าก็ไม่เคยเป็นอะไรกันซะหน่อยจะเรียกว่าถ่านไฟเก่าได้ไง”
“ฮ่าๆๆ เกศนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ ถ้าพูดถึงเรื่องนี้ทีไรต้องหน้าแดงตลอดเลย”
“เอ๊ะ เราว่าเกศให้พี่เดย์ช่วยก็ได้นะ ไหนๆ ก็ทำงานที่เดียวกันก็ขอให้เขาไปแสดงตัวเป็นคนรักซะเลยสิ” พริกนึกขึ้นมาได้
“ไม่มีทาง ผู้ชายเจ้าชู้แบบนี้นะจะเป็นคนรักจริงๆ หรือคนรักหลอกๆ เราก็ไม่เอาด้วยทั้งนั้นแหละ”
“แล้วเกศจะให้ใครช่วยล่ะ พรุ่งนี้แล้วนะจะหาได้เหรอ”
“เราว่าเรายังพอมีทางล่ะ”
...
“นะพีท ช่วยเราหน่อยไม่ได้เหรอ” เกศกาญจน์ลงทุนลางานในช่วงเช้าเพื่อมาขอร้องพีรพัฒน์ถึงบริษัท
“ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากช่วยนะเกศ แต่ว่าเกศอย่าลืมสิว่าตอนนี้เราเป็นข่าวกับคุณนีน่าอยู่ แม่ของเกศน่ะท่านคงเคยดูข่าวทีวีอยู่บ้างแหละ ถ้าเกิดท่านจำเราได้ แผนก็แตกพอดีน่ะสิ”
“มันก็จริงนะ แต่เกศไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงๆ นี่พีท”
“งั้นเราว่าเกศสารภาพกับแม่ไปตรงๆ เถอะนะ แล้วก็บอกท่านไปว่าเกศไม่อยากไปดูตัวแล้วก็ยังไม่อยากแต่งงานจริงๆ” พีรพัฒน์เสนอทางออก
เกศกาญจน์ไม่เคยคิดอยากแต่งงาน เพราะเหตุผลหลักมาจากที่เธอเห็นความเจ้าชู้ของพ่อเธอ ถึงแม้เธอจะไม่ได้เป็นเด็กมีปัญหาบ้านแตกอย่างที่คนอื่นๆ เป็น แต่ภาพที่คุณแม่เธอต้องคอยไล่ตามคุณพ่อเวลาท่านไปมีเล็กมีน้อยที่ไหนก็ทำให้เธอกลัวและเข็ดขยาดกับความเจ้าชู้ของผู้ชาย
“โอเค ไม่เป็นไรพีท เดี๋ยวเราลองหาทางดูก่อนละกัน ขอบคุณมากนะ” ว่าแล้วเกศกาญจน์ก็หันหลังเดินจากไปและสวนกับเจ๊ทเพื่อนของชายหนุ่มที่มองตามเธอจนเหลียวหลัง
“ใครวะพีท สวยโคตรเลยว่ะ”
“เพื่อนกรูเองชื่อเกศ” พีรพัฒน์ตอบ
“แล้วเค้ามาหามรึงทำไม”
“เค้าจะโดนที่บ้านจับดูตัว เลยมาขอให้กรูไปแสดงตัวเป็นแฟนหน่อย จะได้ไม่ต้องดูตัว แต่กรูช่วยเค้าไม่ได้เพราะว่ากรูมีข่าวกับนีน่าอยู่”
“เฮ้ย จริงเหรอวะ งั้นมรึงแนะนำกรูให้เค้าดิ กรูยินดีช่วย”
“มรึงไม่ต้องเลยไอ้เจ๊ท เจ้าชู้อย่างมรึง กรูไม่ให้มายุ่งกับเพื่อนกรูหรอก”
...
“นั่นไง แม่ว่าแล้วเชียวว่าหนูต้องโกหก”
เกศกาญจน์ยอมสารภาพความจริงหลังจากที่เธอหาใครมาแสดงตัวเป็นคนรักไม่ได้จริงๆ
“แม่คะ เกศไม่อยากไปดูตัวจริงๆ นะคะ”
“ไม่ได้ แม่นัดกับเพื่อนแม่ไว้แล้วด้วย หนูห้ามทำให้แม่เสียผู้ใหญ่เด็ดขาด วันเสาร์นี้หนูเตรียมแต่งตัวให้สวยๆ นะลูก ลูกชายเพื่อนแม่คนนี้นี่ใช้ได้เลยนะ แม่เคยเห็นเค้าแล้ว รูปร่างหน้าตาถือว่าหล่อขั้นเทพ ทั้งฐานะหน้าที่การงานก็ดี เรียกว่าสมบูรณ์แบบ เหมาะที่จะมาเป็นลูกเขยแม่ที่สุด”
“แต่เอ๊ะ แม่ว่าหนูก็น่าจะรู้จักเค้านะ เค้าทำงานที่เดียวกับลูกด้วย”
“ใครคะแม่?”
...
‘นี่แม่เราไปเป็นเพื่อนกับแม่อีตานั่นตั้งแต่เมื่อไร’
“คุณเดย์คะ ชั้นมีเรื่องอยากปรึกษาค่ะ” เกศกาญจน์เดินเข้าห้องทำงานของรัฐเศรษฐ์และปิดประตูตามหลังทันที เป็นครั้งแรกที่เกศกาญจน์เข้ามาพูดคุยกับชายหนุ่มในห้องนี้โดยปิดประตู
“ว่ายังไงครับ”
“คุณรู้เรื่องที่เราต้องไปดูตัวกันวันเสาร์นี้แล้วใช่มั้ย”
“ใช่” ชายหนุ่มวางปากกาแล้วยกมือขึ้นกอดอกมองหญิงสาวอย่างสบายอารมณ์จนน่าหมั่นไส้
“แล้วทำไมคุณไม่ปฏิเสธแม่ของคุณไปฮะ”
“แล้วคุณล่ะทำไมไม่ปฏิเสธ” ชายหนุ่มย้อน
“ชั้นพยายามแล้วแต่คุณแม่ชั้นท่านไม่ฟังเลย”
“ผมก็เหมือนกัน”
“ทำไมคุณไม่บอกแม่คุณไปล่ะว่าคุณมีแฟนแล้ว ท่านจะได้ยกเลิกงานนี้”
“ผมไม่มีแฟน”
“โกหก คุณมีผู้หญิงตั้งเยอะตั้งแยะ จะบอกว่าไม่มีแฟนได้ไง”
“ผมไม่ได้โกหก ผมกับพวกเธอเป็นเพื่อนกันเท่านั้น”
“เชอะเพื่อน พูดมาได้ เพื่อนนอนซิไม่ว่า คำตอบของพวกผู้ชายเจ้าชู้ชัดๆ”
“จะเพื่อนกินหรือเพื่อนนอนคุณไม่ต้องสนใจหรอก แต่ผมว่าคุณล้มเลิกความตั้งใจซะเถอะ ยังไงซะวันเสาร์นี้คุณก็ต้องไปให้ผมดูตัว...” ชายหนุ่มเน้นคำแล้วทอดสายตากรุ้มกริ่มมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวกับกำลังจะดูให้ทั่วตัวเธอจริงๆ
“บ้า” เกศกาญจน์หน้าแดงแล้วรีบเดินกระแทกเท้าออกจากห้องเขาไปทันที
...
“นายอยากจะดูตัวนักใช่มั้ย ก็ได้...” เกศกาญจน์เข่นเขี้ยวพร้อมกับวางแผนในใจ
_________________________________
ขอโทษนะคะ (* /\ *) บทนี้อาจจะมีคำสมัยพ่อขุนรามคำแหงมากไปหน่อยตอนที่พีทกับเจ๊ทคุยกัน
ความคิดเห็น