ร้ายมา...รักตอบ

ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 7 รักโปรโมต

บทที่ 7 รักโปรโมต

“เฮ้ยพีท มาแล้วเหรอ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว มรึงรีบเข้าห้องประชุมด่วนเลย” เสียงเจ็ท หรือ เจษฎา เพื่อนร่วมงานของพีรพัฒน์พูดกับเขาอย่างร้อนรนทันทีที่เห็นเขามาถึงบริษัท

...

“ใครก็ได้ช่วยอธิบายผมทีว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น” เสียงคุณสุรชัย Managing Director ของบริษัทโฆษณาถามอย่างไม่พอใจพร้อมกับโยนหนังสือพิมพ์บันเทิงหลายฉบับลงบนโต๊ะ

พี่ป็อปหัวหน้าทีมครีเอทีฟหน้าซีดและหันมามองพีรพัฒน์ซึ่งยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งไปดู

“เฮ้ย” ภาพและพาดหัวข่าวที่เห็นทำให้เขาต้องร้องอย่างตกใจ เพราะมันคือภาพเขาและชายหนุ่มเลือดร้อนที่ฉุดกระชากลากถูนีน่าในวันนั้นกำลังต่อยกันยกใหญ่โดยมีนีน่าพยายามร้องเรียกคนมาช่วย

‘ศึกชิงนางกลางห้างดัง ไฮโซพันล้านกับหนุ่มหล่อนิรนาม นีน่าจะเลือกใคร’

“พวกคุณปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ลูกค้าของเราเค้าโทรมาต่อว่าผมยกใหญ่” คุณสุรชัยโกรธจัด

“คุณสุรชัยครับผมอธิบายได้นะครับ” พีรพัฒน์ชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นแต่มันก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น

“แล้วยังไง คุณรู้มั้ยว่าไอ้การที่คุณพยายามจะเป็นพระเอกนอกจอเนี่ยมันทำให้บริษัทเสียหายแค่ไหน ลูกค้าไม่พอใจมากเค้าต้องการจะยกเลิกสัญญาโฆษณาที่พวกคุณถ่ายทำไปแล้วทั้งหมด”

“คุณสุรชัยครับ ผมคิดว่าเราพอจะมีทางออกอีกทางนึงนะครับ แต่ว่าคงต้องปรึกษากับทางน้องนีน่าด้วย” พี่ป็อปกล่าวขึ้น

...

“รักโปรโมต!” เสียงนีน่าและพีรพัฒน์อุทานขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย หลังจากที่พี่ป็อปโทรศัพท์ไปเชิญนางเอกสาวและผู้จัดการส่วนตัวของเธอเข้ามาร่วมประชุมหาทางออกของข่าวนี้ด้วยกัน

“หมายความว่ายังไงครับพี่ป็อป” พีรพัฒน์ตั้งคำถาม

“ก็ไม่มีอะไรมาก เราก็แค่อาศัยกระแสจากข่าวนี้ ทำให้การเปิดตัวโฆษณาชุดนี้มันฮือฮามากขึ้น ลองคิดดูสิถ้าเราแถลงข่าวเปิดตัวโฆษณาน้ำหอมชุดใหม่ พร้อมกับเปิดตัวพระเอกนางเอกโฆษณาที่เป็นคู่รักนอกจอ ลองคิดดูว่านักข่าวจะสนใจขนาดไหน คราวนี้หนังสือพิมพ์ก็จะประโคมข่าว ผู้ชมก็จะตั้งหน้าตั้งตารอดูโฆษณาน้ำหอมชุดนี้เพราะอยากเห็นพระเอกตัวจริงของน้องนีน่านางเอกชื่อดัง” พี่ป็อปเสนอความคิดอย่างภาคภูมิใจ

“อืม ก็เข้าท่าดี” คุณสุรชัยเริ่มคล้อยตาม

“แต๋มก็เห็นด้วยนะคะ” พี่แต๋มผู้จัดการส่วนตัวของนีน่าสนับสนุน

“แต่ผมว่าข่าวแบบนี้เราไม่ต้องไปทำอะไรเดี๋ยวมันก็เงียบไปเองแหละครับ” พีรพัฒน์คัดค้าน

“ไม่ได้หรอกค่ะน้องพีท ตอนนี้น้องนีน่าเสียหายมากเลยนะคะ ถึงน้องนีน่าจะมีข่าวเสียๆ หายๆ มาเยอะแต่ก็ไม่เคยมีข่าวเรื่องผู้ชายมาก่อน แล้วนี่ใครๆ ก็รู้ว่านายไฮโซนั่นเจ้าชู้แค่ไหน ถ้าคนเข้าใจผิดคิดว่าน้องนีน่าเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นผู้หญิงของเค้าจะว่ายังไงคะ” พี่แต๋มยังคงหาข้ออ้างมาสนับสนุนต่อไป

“นี่คุณ จะไม่พูดอะไรซักหน่อยเหรอ” พีรพัฒน์หันมาถามนีน่าเผื่อเธอจะช่วยเขาคัดค้าน

“ไม่ล่ะ ชั้นยังไงก็ได้ ว่าไงก็ว่าตามกันอยู่แล้ว”

“นะคะน้องพีท ถือว่าช่วยน้องนีน่าหน่อยแล้วกัน ถ้าเราแก้ไขภาพพจน์ให้น้องนีน่าไม่ได้ เจ้าของแบรนด์เขาจะต้องถอดน้องนีน่าออกจากการเป็นแบรนแอมบาสเดอร์แน่ๆ”

“แต่...” พีรพัฒน์ลังเล ใจหนึ่งเขาก็ไม่อยากตกเป็นคู่รักโปรโมตของนางเอกสาวขี้วีนคนนี้ แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ไม่อยากให้นางเอกสาวต้องสูญเสียรายได้ก้อนใหญ่เพราะเขารู้ว่าเธอยังต้องดูแลครอบครัวอีกสามชีวิต

“เอาล่ะๆ ไม่ต้องพูดแล้ว ผมซื้อความคิดนี้ ผมจะโทรไปอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจเอง ส่วนพวกคุณก็ไปเตรียมตัวแจ้งนักข่าวได้เลยว่าวันจันทร์หน้าเราจะแถลงข่าวเปิดตัวโฆษณาน้ำหอมชุดใหม่ พร้อมกับคู่รักคู่ใหม่ของวงการด้วย งานนี้เอาให้มันดังเป็นพลุแตกไปเลย” คุณสุรชัยสรุป

...

 “พี่แต๋มคะ นีน่ายังไม่ได้จัดการกับพี่เลยนะ ที่วันนั้นบังคับให้นีน่าไปกินข้าวกับอีตาไฮโซบ้ากามนั่นน่ะ” นีน่านึกขึ้นได้ขณะขับรถออกจากออฟฟิศของชายหนุ่ม เธอหันมาเล่นงานต้นเหตุที่แท้จริงของเรื่องวุ่นวายดังกล่าว

“โธ่...นีน่า พี่ขอโทษนะ ก็วันนั้นน่ะเค้าบอกพี่ว่าจะจ้างนีน่าไปโชว์ตัวที่งานอีเว้นท์เปิดตัวสินค้าใหม่ของเค้า เค้าก็บอกว่าอยากจะคุยกับน้องนีน่าเองจะได้รู้ concept งานทั้งหมด พี่ก็อยากให้นีน่าได้งาน” พี่แต๋มพยายามอธิบายยาวยืด

“ช่างมันเถอะค่ะ แต่ว่าต่อไปพี่แต๋มจะรับงานอะไรให้นีน่าช่วยสกรีนให้นีน่าหน่อยละกัน” นีน่ารู้ทันความงกของพี่แต๋มแต่ก็ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดเพราะอย่างไรเสียเธอกับพี่แต๋มก็ยังต้องพึ่งพาอาศัยกันต่อไปอีกนาน

...

“ไม่ทราบว่าน้องนีน่าพอจะเล่าได้มั้ยคะว่าที่ห้างวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น” เหยี่ยวข่าวสาวยิงคำถามทันทีที่นีน่าและพีรพัฒน์จับจูงมือกันมาถึงงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์และพรีเซนเตอร์โฆษณาน้ำหอมชุดใหม่

“เอ่อ วันนั้นแค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยน่ะค่ะ ไม่น่าสนใจหรอก พี่ๆ ไม่อยากรู้เหรอคะว่านีน่ากับคุณพีทรักกันได้ยังไง” นีน่าตอบคำถามแบบกำกวมแล้วเบี่ยงเบนประเด็นทันที พวกนักข่าวสายบันเทิงฮือฮา

“นั่นสิคะ น้องนีน่ากับคุณพีทเจอกันที่ไหนคะ แล้วรักกันตั้งแต่เมื่อไหร่”

พีรพัฒน์ได้แต่หันมองนีน่าตาเขม็งอย่างมึนงงกับคำถามที่เขาไม่ได้เตรียมคำตอบมา นีน่าบีบมือพีรพัฒน์เป็นสัญญาณบอกให้เขาเฉยๆ ไว้ ทั้งหมดขอให้เป็นหน้าที่เธอเอง

“นีน่ากับคุณพีทรู้จักกันนานแล้วค่ะ ตั้งแต่สองปีที่แล้ว ตอนนั้นนีน่ายังเป็นแค่ extra อยู่เลย ส่วนคุณพีทเค้าเป็นครีเอทีฟโฆษณาที่นีน่าได้เข้าไปร่วมแสดงด้วย เราก็เลยได้เจอกันน่ะค่ะ”

“แล้วใครตกหลุมรักใครก่อนครับ” นักข่าวอีกคนถาม

“นีน่าสิคะ ตอนนั้นนีน่าตกหลุมรักคุณพีททันทีเลย”

‘โห อะไรจะลื่นไหลขนาดนี้วะ’ พีรพัฒน์อึ้งกับคำตอบของนีน่า

“เอ่อพี่ๆ คะ ขอโทษนะคะ คือนีน่ากับคุณพีทต้องไปเตรียมตัวขึ้นเวทีแล้วน่ะค่ะ แล้วเอาไว้เราค่อยมาให้สัมภาษณ์ใหม่นะคะ” นีน่าหาทางเลี่ยงพร้อมกับดึงพีรพัฒน์ออกไปด้วยกันทันที

...

“คุณนี่มืออาชีพจริงๆ ตอบคำถามซะยังกับเป็นเรื่องจริงแน่ะ” พีรพัฒน์เอ่ยชมหรือกระแนะกระแหนนีน่าก็ไม่แน่ใจ

“แน่ล่ะก็อยู่วงการมายาแบบนี้มันก็ต้องเรียนรู้ไว้บ้าง”

“น้องนีน่ากับน้องพีทไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วค่ะ” พี่กุ๊กกิ๊กช่างแต่งหน้าเดินมาตามทั้งสองคนไปแต่งตัวแต่งหน้าเพื่อขึ้นแถลงข่าวบนเวที

...

“ฮัลโหลมีน” พีรพัฒน์รับสายโทรศัพท์ขณะที่ตาก็มองภาพข่าวของเขาและนีน่าในรายการข่าวบันเทิงตอนกลางคืนของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง

“แหมๆๆ พีท เห็นยังงี้ร้ายไม่เบานะ แอบคบกับคุณนีน่ามาตั้งสองปีไม่เห็นเล่าให้เราฟังเลย” เสียงมีนาแซวมาตามสาย

“ไม่ใช่ยังงั้นหรอกน่ามีน” พีรพัฒน์แก้ตัวก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง...

“โธ่...น่าเสียดายจัง นึกว่าพีทกับคุณนีน่ารักกันจริงๆ ซะอีก”

“อืม เรากับเค้าเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกก็ตอนถ่ายทำโฆษณาชุดนี้ จะไปรักกันได้ไงตั้งสองปี”

“เหรอ แต่ตอนที่คุณนีน่าเค้าตอบว่าตกหลุมรักพีทมาตั้งสองปีแล้วน่ะ สายตาที่เธอมองพีทเป็นประกายมากเลยนะ เราเห็นแล้วยังเชื่อเลย”

“ก็เค้าเป็นนักแสดงนะ มีนอย่าลืมสิ บทแค่นี้มันไม่ยากหรอก”

“ว่าแต่พีทไม่ได้คิดอะไรกับคุณนีน่าเลยจริงๆ เหรอ เธอน่ะน่ารักออกจะตาย”

“โธ่เอ้ย น่ารักตรงไหน เค้าน่ะขี้วีนจะตายมีนไม่รู้อะไร”

“เฮ้อออ ไม่สนุกเลย ทำไมพีทถึงยุไม่ขึ้นแบบนี้นะ อุ้ยพีท แค่นี้ก่อนนะคุณเล็กกลับมาแล้ว บ้ายบาย” ว่าแล้วสาวเจ้าก็วางสายไป

“สำหรับเราไม่มีใครน่ารักเท่ามีนหรอก” พีรพัฒน์ยังคงพูดใส่มือถือตัวเองทั้งๆ ที่รู้ว่ามีนาไม่ได้อยู่รับฟังแล้ว