ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ขึ้นบ้านใหม่
1 เมษายน 2550
สวัสดีค่ะ คุณไดอารี่
วันนี้มีนย้ายมาอยู่อพาร์ตเม้นท์ใหม่เป็นวันแรกค่ะ มีนได้ห้อง 510 ค่ะ มาอยู่คนเดียวแบบนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้นะคะ กลัวเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้เคยอยู่แต่หอมหาลัย มีทั้งรูมเมท ทั้งเพื่อนร่วมหอเยอะแยะ ถ้ามาอยู่ที่นี่คงจะเหงานะคะ แต่ว่าวันนี้มีนเจอเพื่อนบ้านคนนึงแล้วค่ะ เค้าอยู่ห้องตรงข้ามค่ะ ห้อง 511
“เอ้ ห้องอยู่ไหนน้า” มีนามองซ้ายขวาหาห้องพักของตัวเอง
มีนานั่งรถแท็กซี่ขนข้าวของมาจากหอพักของมหาวิทยาลัยซึ่งเธออยู่มาตั้งแต่ปี 1 จนกระทั่งเรียนจบ จนมาถึงอพาร์ตเม้นท์แห่งนี้ หลังจากได้กุญแจห้อง 510 จากเจ้าหน้าที่ ก็รีบขนข้าวของต่างๆ ขึ้นลิฟท์มายังชั้น 5 ของตึก
“อยู่นี่เอง” มีนาเงยหน้ามองเลขที่ห้องหน้าประตูเทียบกับหมายเลขบนพวงกุญแจ ก่อนจะหันมองรอบๆ แล้วไปสะดุดตากับห้องตรงข้าม ซึ่งเปิดประตูไว้ และมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาตั้งสายกีตาร์
“อุ้ย” มีนาอุทานเสียงดังอย่างตกใจ ทำไมน่ะเหรอก็เพราะชายหนุ่มคนนั้นไม่ใส่เสื้อน่ะสิ
เสียงอุทานของเธอทำให้ชายหนุ่มคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองทางมีนาอย่างงงๆ ทำให้มีนายิ่งมองอย่างตื่นตะลึง
‘โห หล่อจังเลย หน้ายังกะ K Pop’ มีนาคิดในใจ และเริ่มรู้สึกตัวจึงกล่าวทักทายเค้าไปเบาๆ
“เอ่ออ สวัสดีค่ะ ชั้นย้ายมาอยู่วันแรกน่ะค่ะ ห้องตรงข้ามนี่อ่ะ”
“ครับ” ตอบสั้นๆ แล้วชายหนุ่มก็ก้มหน้าตั้งสายกีต้าร์ต่อไป
‘แค่นี้เองเหรอ หน้าแตกเลยเรา’ มีนาคิดในใจแล้วได้แต่เก็บของเข้าห้อง และปิดประตูห้อง ข้าวของเธอไม่มีอะไรมากมายมีเพียงเสื้อผ้าและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเท่านั้น ส่วนเครื่องใช้อื่นๆ เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ พี่ชายจะมารับเธอไปซื้อที่ห้างใกล้ๆ แล้วพามาส่งตอนเย็น
‘ชีวิตในกรุงเทพก็งี้แหละ คงจะต่างคนต่างอยู่แบบนี้ เสียดายเห็นหน้าหล่อๆ นึกว่าจะทำความรู้จักไว้ซะหน่อย อิอิ’ นึกในใจอย่างขำๆ แล้วก็รีบนำเสื้อผ้าเก็บเข้าตู้และจัดข้าวของที่นำมาให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อรอเวลาที่พี่ชายจะมารับ
“ฮัลโหลค่ะ พี่สิงห์เหรอคะ มาถึงข้างล่างแล้วเหรอคะ งั้นเดี๋ยวมีนรีบลงไปแล้วนะคะ” มีนาวางสายโทรศัพท์จากพี่ชายแล้วรีบลงไปด้านล่างเพื่อไปซื้อข้าวของเครื่องใช้เพิ่มเติม
“มีน ห้องเป็นไงบ้าง พออยู่ได้ไม๊” สิงหาถามน้องสาวขณะขับรถ
“ก็น่าอยู่ดีนะคะพี่สิงห์ สะอาด และหน้าห้องก็มีกล้องวงจรปิดด้วยค่ะ”
“ดีแล้ว จะได้ปลอดภัย รู้ไม๊ว่าแม่เค้าเป็นห่วง มีนเคยอยู่แต่โรงเรียนหญิง อยู่หอพักมหาลัยก็เป็นหอหญิง ต้องออกมาเช่าอพาร์ตเม้นท์อยู่เองแบบนี้ แม่เค้าก็เป็นห่วงกลัวจะมีใครมาหลอก”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ มีนดูแลตัวเองได้ แถมมีนเนี่ยนะจะโดนหลอก มีแต่จะไปหลอกคนอื่นเค้ามากกว่า หุหุ”
“รู้แล้วล่ะน่า แม่คนเก่ง” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปโยกหัวน้องสาวอย่างเอ็นดูแกมหมั่นไส้
“จริงๆ มีนคิดว่าอยู่แบบนี้น่าจะปลอดภัยกว่าไปเช่าบ้านอยู่นะคะ เพราะเค้าก็มีประตูล็อคป้องกันคนนอกเข้าออก แถมมี รปภ ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย แล้วที่นี่ก็ใกล้บริษัทมีนมากเลย เดินไปกลับก็ยังได้”
“โอเคๆ ลองอยู่ดูไปก่อน พี่ว่าเรารีบไปซื้อของกัน จะได้กลับไปจัดของต่อแล้วรีบนอน พรุ่งนี้ไปทำงานวันแรกอย่าไปสายล่ะ”
“ค่ะ พี่สิงห์”
ครอบครัวของเธอมีเพียงคุณแม่ คือ คุณพิจิตรา ภักดีวงศ์ และพี่ชาย คือ นายแพทย์สิงหา ภักดีวงศ์ หรือพี่สิงห์เท่านั้น เพราะคุณพ่อของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเรียนชั้นประถมเท่านั้น หลังจากนั้นแม่ก็เป็นคนเลี้ยงเธอและพี่ชายด้วยตัวเอง แต่ทั้งสามคนแม่ลูกก็ไม่ได้ลำบากมากนัก เพราะคุณพิจิตรามาจากครอบครัวที่ทำธุรกิจโรงสีที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด ส่วนคุณพ่อของมีนาเป็นทหาร หลังจากที่คุณพ่อเสียชีวิต คุณแม่ก็กลับไปทำช่วยธุรกิจของครอบครัวและได้ส่วนแบ่งจากกงสีมาเลี้ยงดูเธอและพี่ชายจนกระทั่งเรียนจบนั่นเอง
พี่ชายของเธออายุมากกว่าเธอ 6 ปี หลังจากเรียนจบคณะแพทยศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ ก็ไปใช้ทุนอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในจังหวัดทางภาคเหนือ แต่ปัจจุบันเขาได้กลับมาเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลจังหวัดบ้านเกิดของเธอแล้ว
ส่วนตัวเธอเองภายหลังจากเรียนจบ ม. 6 จากโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด เธอก็สอบติดคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีของมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่ชายเธอ แต่แน่นอนว่าภายหลังจากที่พี่ชายเธอจบแล้วนั่นเอง ปีแรกที่เธอเข้ามหาวิทยาลัย ก็เป็นปีเดียวกับที่พี่ชายเธอได้รับพระราชทานปริญญาบัตรพอดี
ตลอดชีวิตของมีนาแทบจะไม่มีเพื่อนผู้ชายเลยซักคนเดียว เพราะตอนอยู่ต่างจังหวัดก็เรียนโรงเรียนหญิงมาตลอด พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เรียนคณะและสาขาที่แทบจะไม่มีผู้ชาย อาจจะมีเพื่อนผู้ชายอยู่บ้างแต่เธอก็รู้จักเพียงผิวเผินเท่านั้นไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษ
‘ขนาดแค่มาอยู่อพาร์ตเม้นท์คนเดียวแบบนี้ ยังเป็นห่วง แล้วถ้าเราจะขอไปเรียนต่อเมืองนอกจะได้หรือเนี่ย เฮ้ออ’ มีนาคิดอย่างอ่อนใจ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น