คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ฮาเดส
ฮาเดส(พลูโต) - พรอสเซอร์ไพน์
(Hades -Proserpine)
ฮาเดส เป็นพี่ชายของมหาเทพซีอุส และเป็นจักรพรรดิแห่งบาดาล หรือยมโลก ดังนั้นฮาเดสจึงมีชื่อเรียกอย่างอื่นอีกว่าเทพโลกันตร์
พระยม หรือเทพแห่งความตาย
ยมโลกหรืออาณาจักรของฮาเดส เป็นดินแดนเร้นลับ ภายใต้พื้นพิภพที่แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ส่องไม่ถึงอาณาจักรแห่งนี้จึงมืดมิด
และทนทางที่จะลงไปก็ลำบากเอาการเพราะต้องเดินทางไปถึงสุดขอบพิภพโดยข้ามมหาสมุทรไป(คนกรีกโบราณเชื่อว่าโลกแบน
และรายล้อมด้วยมหาสมุทร)หรืออีกทางก็เป็นถ้ำแถวทะเลสาบที่มีความลึกมากๆ ถึงจะมีทางสามารถทะลุลงไปถึงนรกทีว่าได้
ทางลงนี้จะนำไปถึงแม่น้ำแอคเคอรอน หรือ อะเซรอน ซึ่งเป็นแม่น้ำแห่งความวิปโยค หรือแม่น้ำแห่งความเจ็บปวด ที่กระแสน้ำ
ในแม่น้ำสายนี้ลึกมากและเป็นสีดำมะเมื่อมแม่น้ำสายนี้จะไหลไปบรรจบกับแม่น้ำโคไซรัสหรือโคซีรุสซึ่งเป็นแม่น้ำแห่งความกำสรวล
หรือแม่น้ำแห่งเสียงคร่ำครวญ เพราะน้ำในแม่น้ำนี้จะมีรสเค็ม เพราะเกิดจากน้ำตาของคนที่ตกนรก แล้วร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
ตรงที่แม่น้ำสองสายนี้บรรจบกัน จะมีคนแจวเรือแก่ผู้หนึ่งชื่อ เครอน หรือ ชารอน คอยรับดวงวิญญาณส่งอีกฝั่งโดยต้องจ่ายค่าจ้าง
เที่ยวละ 1 โอโบล หากวิญญาณไม่มีค่าจ้าง จะต้องนั่งคอยจนถึง 100 ปี ชารอนจึงจะยอมพาข้ามฟาก จากความเชื่อนี้เอง
จึงเกิดธรรมเนียมเอาเงินใส่ปากคนตายก่อนฝัง นอกจากแม่น้ำสองสาย
ยังมีแม่น้ำอีก 3 สาย คือ
1. แม่น้ำสติกซ์ (Styx) แปลว่าแม่น้ำแห่งควาเกลียด เป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์
2. แม่น้ำลีธี หรือ เลเธ แปลว่าแม่น้ำแห่งความลืม เมื่อดวงวิญญาณคนตายได้ดิ่มน้ำแล้วจะลืมความหลัง
3. แม่น้ำเฟลจีธอน หรือ เฟลเกทธอน แม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำไฟ มีเปลวไฟลุกไหม้โชติช่วงอยู่บนผิวน้ำ และอยู่ล้อมรอบนรกขุมลึกสุด
คือ ทาร์ทะรัส
ท่านฮาเดสปกครองยมโลกอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย โดยมีเพียงผู้ช่วยกิจการงาน
คราวหนึ่ง มหาเทพจูปิเตอร์ จองจำยักษ์สี่ตนไว้ในถ้ำบนยอดเขาเอตนา แต่บางตำราว่า ยักษ์ที่ถูกจองจำมีเพียงตนเดียว
แต่ไม่ว่าจะเป็นยักษ์สี่ตนหรือตนเดียวก็ตาม เมื่อถูกขังก็ไม่ยอมอยู่นิ่งพยายามด้นรนเพื่อที่จะให้ตนเองหลุดพ้นจึงทำให้พสุธาสะเทือน
และยังไหวไปถึงอาณาจักรของเทพฮาเดสด้วย ทำให้เทพฮาเดสเกรงว่าจะทำให้อาณาจักรของพระองค์เกิดรอยแตกร้าวจึงทรงขับ
ราชรถเทียมด้วยม้าไฟ 4 ตัว ขึ้นมาบนพื้นโลกเพื่อสำรวจดู พอดีเทวีวีนัสเห็นก็บัญชาให้กามเทพ (คิวปิด) โอรสของพระนาง
ยิงศรเสน่หาไปปักอกเทพแห่งโลกันตร์ ด้วยพิษของศร ยังผลให้เทพแห่งโลกันตร์ หลงรักคนแรกที่พระองค์เห็นซึ่งเทพธิดาที่
เทพฮาเดสเห็นเป็นคนแรกคือ เทวีพรอสเซอร์ไพน์ที่กำลังเก็บดอกไม้อยู่กับบรรดาเพื่อนๆเทวีพรอสเซอร์ไพน์หรือ เพอร์ซีโฟเน่
เป็นเทวีแห่งฤดูใบไม้ผลิ และเป็นธิดาของเทวีซีรีส หรือ เซเรส หรือ ดีมิเตอร์ เทวีแห่งธัญญาหาร กับ จอมเทพจูปิเตอร์
์ดังนั้นเทวีพรอสเซอร์ไพน์ จึงมีศักดิ์เป็นหลานสาวของเทพฮาเดส
เทพฮาเดสกำลังตามืดบอดเพราะความรักตรงเข้าฉุดพรอสเซอร์ไพน์บังคับให้นางขึ้นราชรถพาไปบาดาลก่อนที่ราชรถจะลับหายไป
จากพื้นผิวโลก เทวีพรอสเซอร์ไพน์ได้แก้สายรัดองค์ขว้างลงในแม่น้ำไซเอนี พร้อมกับร้องบอกให้นางอัปสรประจำแม่น้ำ ช่วยนำไป
ถวายเทวีซีรีสพระมารดา เทวีซีรีสได้ยินเสียงร้องของธิดาก็ใจหายแต่ไม่ว่าจะเที่ยวตามหาก็ไม่พบ จนกระทั่งได้เดินทางมาถึง
แม่น้ำไซเอนีและถามเหล่านางอัปสรประจำแม่น้ำ แต่เหล่านางอัปสรเกรงกลัวอำนาจของเทพฮาเดสจึงไม่กล้าบอกอะไร เพียงแต่พัด
เอาสายรัดองค์ของเทวีพรอสเซอร์ไพน์มายังริมฝั่งที่นางค่ำครวญอยู่ได้เห็นข้าวของยิ่งทำให้เศร้าโศกหนักดังนั้นนางอัปสรอาเรธุซ่า
แห่งสายน้ำพุ จึงบอกต่อเทวีว่า "ข้าวพวยพุ่งจากใต้ปฐพี สายน้ำของข้าไหลซอกซอนผ่านมาจากดินแดนของเทพเจ้าฮาเดส ณที่นั้น
ข้าได้เห็นเทวีพรอสเซอร์ไน์ ธิดาของท่านนั่งอยู่บนบัลลังก์หินอ่อนสีดำ เคียงคู่เทพฮาเดสเป็นราชินีแห่งแดนโลกันตร์"
ได้ยินดังนั้นพระนางนึงร้องเรียนต่อเทพจูปิเตอร์ให้ช่วย จอมเทพ จึงส่งเฮอร์มีส (เมอร์คิวรี) เป็นทูตไปเจรจาโดยมีเงื่อนไขว่า
ถ้าเทวีพรอสเซอร์ไพน์ไม่ได้เสวยอะไรทีเป็นของยมโลก เทพฮาเดสต้องส่งนางคืน แต่เนื่องจากเทวีได้เสวยอาหารทิพย์เม็ดเล็กๆ ไป
6 เม็ด ผลการเจรจาจึงเป็นอันตกลงว่า ในเวลา 1 ปี เทวีพรอสเซอร์ไพน์จะกลับมาอยู่กับพระมารดา 6 เดือน
และกลับลงไปอยู่กับเทพฮาเดสในยมกโลก 6 เดือนแล้ว เฮอร์มีสก็พาเทวีกลับมาหาพระมารดา และยามที่เทวีแห่งธัญญาหารยินดี
พืชและพื้นดินที่เคยอับเฉาก็กลับคืนสู่ความเขียวขจี ต้อนรับเทวีพรอสเซอร์ไพน์เทวีแห่งฤดูใบไม้ผลิ
และพอถึงเวลาที่เทวีพรอสเซอร์ไพน์จะต้องกลับลงไปในยมโลก พระมารดาก็จะเก็บตัวอยู่อย่างเงียบๆ ทำให้ใบไม้กลายเป็นสีเหลือง
ร่วงหล่นลงจากต้น พื้นพสุธาที่เคยเขียวขจี เปลี่ยนเป็นอับเฮา นั่นย่อมหมายถึงฤดูแล้งและฤดูหนาวกำลังย่างกรายเข้ามาถึง
ความคิดเห็น