คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : SF : Someone like you (JAEYONG)
ชั้นที่เห็นเขาเฉิดฉายอยู่บนเวที เขายืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางผู้คนนับพัน และยังดูส่องสว่างที่สุดในสายตาเสมอไม่ว่าจะนานแค่ไหน
ชีวิตคนเราเกิดมาจะมีสักกี่ครั้งกันที่ได้รู้สึกภูมิใจกับการรักใครสักคน ชั้นเข้าใจว่าทุกคนมีความฝัน และมีเส้นทางชีวิตเป็นของตัวเอง แต่เขาจะรู้ไหมว่า การที่เห็นเขามีความสุขก็คือความฝันของชั้นเช่นกัน
ชั้นไม่เคยเข้าใจมาก่อนกับประโยคที่ว่า ถ้าเรารักใครแล้วนั้นแค่เขามีความสุขก็พอแล้ว มันเคยเป็นประโยคที่ช่างเพ้อฝันและไม่น่าจะจริงในความคิดชั้นเอาสะเลย จนกระทั่งสวรรค์นำพาคนๆนึงเข้ามาในชีวิต คนที่ทำให้ทุกวันของชั้นไม่เหมือนเดิม
นายคนนั้นเป็นเด็กแถวบ้านที่เพิ่งย้ายมาใหม่ บ้านเขาอยู่ถัดไป 5 หลัง พ่อของนายนั่นเพิ่งย้ายกลับมาจากการไปทำงานที่ต่างประเทศนานหลายปี การเจอกันครั้งแรกของเราไม่ประทับใจเท่าไรนัก ชั้นที่กำลังขี่จักรยานผ่านหน้าบ้านของนายนั่นเหมือนทุกวัน ก็ดันโดนลูกบาสกระเด้งมาตกใส่หัวจนล้ม นั่นเป็นวันแรกที่เราได้ทำความรู้จักกัน เขามาช่วยชั้นเข็นจักรยานกลับบ้าน เขาแนะนำตัวกับชั้นว่าชื่อเจย์พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า หน้าขาวๆอ้วนๆแบบนั้นที่มีลักยิ้มก็น่าเอ็นดูไม่น้อย ใครจะไปโกรธลง เขาเด็กกว่าชั้น 2 ปี หลังจากวันนั้นชั้นก็ได้เพื่อนใหม่เป็นเด็กผู้ชายจ้ำม้ำน่าหยิก ตัวเราก็ติดกันยิ่งกว่าปลาท่องโก๋ แม่ของชั้นบอกแบบนั้น
เราออกไปขึ่จักรยานและเล่นด้วยกันทุกวัน ชั้นเตะบอลเป็นเพื่อนเขาได้ เหมือนกับที่เขาเล่นโดดหนังยางกับชั้นนั้นแหละ ไม่มีวันไหนที่เราจะไม่เจอกัน ปิดเทอมที่เคยน่าเบื่อของชั้นเปลี่ยนไป เมื่อมีเจ เขาทำให้ทุกวันของชั้นไม่น่าเบื่อและมันค่อนข้างจะดีไม่น้อยเลย ไม่มีวันไหนที่รู้สึกเบือหน่ายเลยสักนิด
เจย์เป็นคนร่าเริง เขามีพลังเหลือล้นในทุกอย่าง บางทีก็สงสัยว่าเขากินอะไรแตกต่างจากชั้นหรือเปล่า หลังจากที่เรารู้จักกันเขาสูงขึ้นจากวันแรกที่ชั้นเจอขึ้นเยอะเลย ชั้นชอบออกไปเล่นกับเขา อยู่กับเขาแล้วสนุก มันเหมือนชีวิตจะไม่รู้จักคำว่า ไม่มีอะไรทำ เลยประมาณนั้น
เขามาเป็นนักเรียนใหม่ในวันเปิดเทอมที่โรงเรียนเดียวกับชั้น เรากลับบ้านด้วยกันทุกวัน กิจกรรมที่เราทำตลอดปีก็ไม่แตกต่างอะไรมากนัก เราเล่นสนุกด้วยกัน กินข้าว ไปเที่ยว หรือแม้แต่จัดวันเกิดก็ยังจะเป็นชั้นกับแม่ที่ช่วยกันทำคุกกี้มะนาวที่เขาชอบให้เป็นของขวัญวันเกิด ชั้นยังจำรอยยิ้มวันนั้นได้ดีเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานว่า เขาดูมีความสุขขนาดไหนตอนได้กินของที่ชอบ เวลาผ่านไปไวเหลือเกิน ใครจะไปคิดว่า 2 ปีแล้วแต่พอมองกลับไปมันเหมือนชั้นเพิ่งเจอเขาเมื่อเดือนก่อนนี่เอง เราทั้งคู่โตขึ้นเยอะ พอเปิดเทอมใหม่ก็ต้องยอมรับว่าเขาทั้งสูงกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน และดูเปลี่ยนไปมาก เขาดูเป็นหนุ่ม ไม่ใช่เจย์ที่เคี้ยวขนมหนุบหนับมาตะโกนเรียกชั้นหน้าบ้านให้ไปตีแบตหน้าบ้านด้วยอีกแล้ว แต่ที่ไม่เปลี่ยนไปก็คือลักยิ้มของเขา เด็กผช จะเริ่มโตตอนไหนกันชั้นก็ไม่แน่ใจแต่เพราะอยู่ด้วยกันทุกวัน ทำทุกอย่างด้วยกันจนเป็นปกติ จนลืมสังเกตว่าเจย์สูงกว่าเขาเยอะแล้วตอนนี้ แล้วเล่นกีฬาทุกอย่าง แถมพูดภาษาอังกฤษคร่องปร๋อ ชั้นลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขาไปอยู่อเมริกามาตั้งหลายปี แล้วเขาก็กลายเป้นหนุ่มป๊อบขอชั้นปีได้ไม่ยาก
วันเวลาของเราสองคนดำเนินไปตามปกติเหมือนทุกวัน จนกระทั่งมีคนๆนึงเข้ามาเปลี่ยนชีวิตจนมันไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป...
วันนั้นเป็นวันที่แดดร้อนจนชั้นตัวชุ่มไปหมดจากการยืนรดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน ฝนคงจะตกในเย็นนี้แหละมั้ง...
เจย์เดินมาบอกชั้นว่า เขาจะไปเป็นนักร้องและคงจะไม่ได้อยู่บ้านสักพัก ชั้นก็ยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้อีกว่า หัวใจเต้นแรงและรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหน ชั้นดีใจไปกับเขาแต่เพราะว่ารู้ว่าในอนาคตระหว่างเราจะต้องเปลี่ยนไปและเจย์จะกลายเป็นคนที่เขาเอื้อมไม่ถึง ถึงแม้จะรู้สึกยังไงแต่ก็ไม่สามารถบอกออกไปได้ รอยยิ้มคือสิ่งเดียวที่ชั้นสามารถให้เขาได้
วันเวลาผ่านไป เขาไม่ได้เจอเจย์มานานเหลือเกิน เขาไม่ค่อยได้มาเรียนนัก ชั้นได้ยินมาว่าเขาจะเรียนที่นี่เป็นเทอมสุดท้าย หอที่เขาอยู่มันไกลจากโรงเรียนเกินไป และอนาคตในวงการของเจย์ดูเหมือนจะไปได้สวย ค่ายของเขาแนะนำให้เขาย้ายไปเรียนที่ใกล้บริษัทจะได้มีเวลามากขึ้น ชั้นไม่แปลกใจเท่าไหร่นักที่ได้ยินเรื่องนี้จากแม่ของตัวเองที่ไปคุยกับแม่ของน้าเจนแม่ของเขา แรกๆการส่งข้อความคุยกันของพวกเรานั้นเป็นเรื่องที่ทำทุกวันตั้งแต่ตื่นนอนยันหัวถึงหมอน แต่เจย์เริ่มไม่ตอบแมสเสจของชั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่แน่ใจนัก 26 มิถุนายน คือวันที่เจย์ไปจากที่นี่ทำไมชั้นรู้สึกเหมือนผ่านมานานนัก ทุกอย่างดูเป็นไปไม่ได้และห่างไกลจัง เขากลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันแล้วหรอ
จนกระทั่งวันนึง ที่เห็นเขากลับบ้านมาพร้อมกับเป้ใบเล็กๆบนหลัง นับๆดูแล้ว เขาไม่ได้เจอเจ้าตัวมานานเหลือเกิน และไม่ได้คุยกันมาเกือบ 3 อาทิตย์หลังจากข้อความสุดท้ายที่ขึ้น อ่านแล้ว แต่ไม่มีข้อความตอบกลับมา
เขาดูสูงขึ้นเยอะเลย และดูโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นไปอีก ทุกอย่างรอบตัวเขาดูเปลี่ยนไป เขาดูหล่อ มีออร่าของคนมีชื่อเสียงหรอ พูดแบบนั้นได้ไหมนะ แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปก็คือรอยยิ้มและลักยิ้มที่น่ารักของเขา สดใสจนดอกไม้ที่รั้วบ้านเหี่ยวเฉาไปหมด ชั้นเคยบอกหรือยังนะว่า ลักยิ้มสองข้างกับตาเป็นขีดของเจย์คือสิ่งที่ชั้นชอบที่สุด ชั้นได้ยินเพื่อนในห้องพูดถึงเขาหลายครั้ง แม้จะยังไม่ได้เป็นนักร้องเต็มตัวแต่ก็มีคนพูดถึงเขาบ้าง เขาค่อนข้างโดดเด่นท่ามกลางคนหลายๆคนที่ฝึกซ้อมด้วยกัน เด็กคนนั้นที่เคยวิ่งตามชั้นโตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วหรอนะ
เราทักทายกันที่หน้าบ้านของเขา เหมือนที่เราเจอกันวันแรก แต่ที่มันไม่เหมือนเดิมคือความรู้สึกของชั้น ชั้นคนที่ชอบเขาและรักเขาไปแล้ว...
บอกว่าจะกลับมานอนบ้านสัก 3 วันเพราะว่าไม่ได้เจอพ่อกับแม่มาสักพัก แล้วยังชวนกันไปกินข้าวเย็นที่บ้านอีกต่างหาก
มื้ออาหารวันนั้นเป็นวันที่ชั้นมีความสุขที่สุดในรอบหลายเดือน เพราะเราได้กินข้าวด้วยกัน และเพราะเขาดูมีความสุขเหลือเกินตอนนี้
เจย์บอกว่า เขาใกล้จะได้เป็นนักร้องแล้ว... ใช่ เขากลับมาบอกข่าวสำคัญกับครอบครัวและทุกคนดีใจที่ได้ยินข่าวดีแบบนี้ แต่มันช่างแตกต่างจากความรู้สึกของชั้นอย่างสิ้นเชิง นี่ชั้นจะต้องยิ้มและแสดงความยินดีเป็นครั้งที่ 2 กับการที่เขาจะต้องห่างไกลจนเหมือนเราอยู่คนละโลก เสียใจแต่พูดไม่ได้ ความรู้สึกใจสลายมันเป็นยังไงชั้นเรียนรู้จากวันนี้
เจย์บอกว่า เขาคงจะไม่ได้ติดต่อใครสักพักเพราะต่อจากนี้คงต้องซ้อมหนักกว่าเดิม ปกติเราก็ไม่ค่อยได้คุยกัน เพราะรู้ว่าเขาเหนื่อยและต้องทุ่มเทกับเส้นทางที่เลือกแล้วมากแค่ไหน เขาเป็นเต็มที่กับสิ่งที่เลือกเสมอ เขาไม่ใช่คนยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ เจย์จะหายไปนานแค่ไหนนะ เป็นเดือนหรือเป็นปี สิ่งที่ชั้นทำได้ต่อจากนี้ มีอะไรนอกจากยืนมองเขาเดินไปบนเส้นทางแห่งดวงดาวที่ห่างไกลนั้นอยู่ตรงนี้ไหมนะ
ตอนนี้ชั้นเป็นนักศึกษามหาลัยปี 2 ในขณะที่เขาเป็นนักร้องชื่อดังของประเทศ มีชื่อเสียง และมีแฟนคลับมากมาย เราคุยกันบ้างผ่านทางข้อความเหมือนที่เคยทำมา ถามสารทุกข์สุขดิบตามเรื่องราว แต่ส่วนมากจะเป็นชั้นที่ส่งข้อความหาเขาก่อนและเขาก็จะตอบบ้างไม่ตอบบ้าง บางทีก็หลายวันกว่าเขาจะตอบกลับมา และใช่เราไม่ได้เจอกันมา 2 ปีแล้ว เรามีชีวิตเป็นของตัวเองและเดินกันไปตามเส้นทางความฝันของตัวเอง
เจย์ที่ยินอยู่บนเวทีใหญ่กับเพื่อนร่วมวงอีก 9 คน ดูเป็นเจย์ที่น่ารักและอ่อนโยนคนเดิมเสมอในสายตาชั้น รอยยิ้มแบบนั้น เสียงหัวเราะที่คุ้นเคย เขาไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ยังเป็นน้องเจย์หมูอ้วนคนเดิมที่กินขนมเก่งและร่าเริงเสียยิ่งกว่าใคร ถึงแม้ตอนนี้เขาจะโตขึ้น เป็นคนมีชื่อเสียง ถึงแม้เขาจะอยู่แสนไกล แต่เขายังคงเป็นที่รักของชั้นเสมอ ชั้นมักขะอวยพรขอให้เขามีความสุขและรอยยิ้มแบบนี้ในทุกวัน ขอให้เขามีพลังกายและพลังใจต่อสู้กับทุกสิ่งและเดินไปบนเส้นทางแห่งความฝันอย่างเข้มแข็ง พี่รักเจย์นะ ไอหมูของพี่
*** I wish nothing but the best for you ***
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Ohwonderwhy loves Jaeyong
เป็นฟิคที่เขียนตอนนั่งเครื่องกลับแล้วไม่อยากดููหนัง อยากนั่งเฉยๆฟังเพลง แล้วก็รันมาที่เพลง Someone like you ของ Adele เลยเกิดเป็น short fic เรื่องนี้
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่า : )
ความคิดเห็น