คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SF : One step closer (Jaehyun x Taeyong)
ถ้าถามว่าความรู้สึกตอนนี้มันต่างจากเมื่อวาน เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หรือ 3 เดือนก่อนบ้างมั้ย
ก็คงพูดได้แค่ว่า มีแต่มากขึ้นละมั้ง
แทยงไม่รู้ว่าระยะเวลาแค่ไหน ที่คนเราสามารถแอบมองคนๆนึงโดยที่ไม่ทำอะไรมากไปกว่ามอง ไม่เคยคุย ไม่เคยแม้แต่จะมองหน้าเกิน ห้าวินาทีด้วยซ้ำไป
เค้าสงสัยตัวเอง แต่เพราะเป็นคนที่ไม่คิดจะทำอะไรมากไปกว่าการแอบมอง ทุกวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนก็คือ เพื่อนร่วมโลก เจ้าของร้านกับลูกค้า และคนคุ้นหน้ากันเท่านั้น
......
...........
...............
วันนี้เป็นวันที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ตัวแทยงเองก็ไม่ได้นับ เพราะถ้าจะใช้นิ้วนับก็คงต้องใช้นิ้วของคนอีกเป็นร้อยคนถึงจะพอ
คนที่กินกาแฟแก้วละวันตั้งแต่เริ่มทำงาน แต่ปัจจุบันเป็นวันละสองแก้ว วันปกติที่กินข้าวเสร็จก็ขึ้นตึก ใช้เวลาที่เหลือพักผ่อนดูทีวีในห้องพักทานข้าวมาตลอด แต่ทุกวันนี้มันมีความหมายขึ้นมา...
เพราะการได้เห็นหน้าเจ้าของร้านกาแฟคนนั้น แจฮยอน
อย่าคิดว่าเค้าจะกล้าถามชื่อจากคนอื่น แต่เป็นเพราะป้ายชื่อสีเขียวตัวหนังสือสีขาวที่ติดอยู่บนผ้ากันเปื้อนของเค้าต่างหาก
แจฮยอนเป็นเจ้าของร้านกาแฟใต้ตึกที่แทยงทำงานอยู่ ที่มีลูกน้องอยู่สองคน แต่พอคนนึงลาออกไป ก็กลายเป็นเจ้าของร้านมายืนเป็นทั้งบาริสต้า พนักงานเสริฟ์ และพนักงานแคชเชียร์อยู่จนปัจจุบัน ผ่านมากี่เดือนแล้วเค้าก็จำไม่ได้เหมือนกัน เพราะการที่ได้เห็นหน้าทุกวัน ทำให้เค้าลืมวันลืมเวลาไปเลย
แจฮยอนที่น่ารักกับทุกคนไม่เว้นแม้แต่พนักงานในร้านของตัวเอง เค้าพูดเพราะและมีรอยยิ้มติดที่ใบหน้าเสมอ ถึงแม้บางวันเค้าจะดูง่วงนอน ตาปรือเหมือนจะหลับมายืนรับออเดอร์ แต่ท่าทางพวกนั้นกลับทำให้เค้าน่ารักเหลือเกินในสายตาแทยง และทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น แทยงก็ได้แต่ยิ้มและคราง ฮรือ อยู่ในใจ ได้แต่คิดว่าถ้าได้เป็นคนที่แจฮยอน ทิ้งหัวลงบนตักเวลาที่เค้าเพลีย พร้อมกับเอ่ยคำว่า เหนื่อยจัง แต่ก็ยังยิ้มให้ มันจะมีความสุขแค่ไหนนะ.... ตอนนี้แทยงอยากเอานิ้วมือจิ้มที่แก้มที่บุ๋มลงไปเวลาแจฮยอนมีรอยยิ้มดูจัง เฮ้อ
เอาละ กลับมาสู่โลกแห่งความจริงก่อน แทยงคิด แจฮยอนไม่ใช่ตัวละครตามเวบนิยายทั้งหลายแหล่ที่เค้าเคยเห็นผู้หญิงอ่าน แทยงคิดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแจฮยอนคนนั้นเป็นผู้ชายที่ดูดีที่สุดในสายตาของเค้า
ลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง ทำให้เค้าดูดีเหลือเกินในสายตาแทยง
“ลาเต้ ร้อน หวานน้อย เทค อเวย์เหมือนเดิมนะครับ” แจฮยอนถามเหมือนเดิมทุกวันด้วยน้ำเสียงที่คนฟังรับรู้ได้ว่าเค้ากำลังอารมณ์ดี และบนใบหน้าที่มาพร้อมกับลักยิ้มบนแก้มทั้งสองข้างของเค้า ทุกคนอาจจะคิดว่าแทยงเป็นบ้า แต่อยากจะให้เชื่อว่าแจฮยอนเป็นคนที่พูดจาน่าฟังที่สุดในโลกเท่าที่เคยได้ยินมาเลย จนทำให้คนฟังแบบแทยง ได้แต่ต้องกลั้นยิ้มเก็บอารมณ์ตัวเองไว้ ไม่อย่างนั้นก็คงจะหลุดทำท่าทางแปลกๆออกไปแน่ๆ
ใช่.... แทยงชอบแจฮยอน แล้วทุกวันนี้ที่ทำได้ก็คือแอบมอง และก็อีกนั่นแหละ ว่าไม่กล้าแม้แต่จะชวนคุยก่อนด้วยซ้ำ มีแต่แจฮยอนที่ถามคำถามเดิมกลับมาทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์ที่เจอหน้ากันมา
และแทยงที่ได้แต่พยักหน้า เพราะเขินเค้าเกินกว่าจะส่งเสียงตอบรับอะไรออกไป
แทยงเรียกตัวเองว่า คนอาการหนัก เพราะถ้าเป็นวันสุดสัปดาห์ที่ไม่ต้องทำงาน ร้านกาแฟใต้ตึกนี้ก็จะปิด และจะไม่ได้ยินเสียงไม่ได้เจอแจฮยอน 2 วัน แล้วถ้าช่วงไหนเป็นวันหยุดยาวติดกัน แทยงก็อดคิดถึงเสียงรับออเดอร์กับรอยยิ้มของเจ้าของร้านกาแฟเป็นพิเศษไม่ได้
แทยงขยับไปยืนด้านข้างเพื่อรอรับกาแฟ ในขณะเดียวกันสิ่งที่เค้าทำอยู่ทุกวันก็คือ อดที่จะมองท่าทางในการชงกาแฟของบาริสต้าที่ควบตำแหน่งเจ้าของร้านไม่ได้ เวลาเอื้อมมือไปทางซ้ายกดเครื่องทำกาแฟคั่วบด ก้าวไปเปิดตู้เย็นหยิบนมออกมาวางบนเค้าว์เตอร์ หรือว่าจะเป็นเวลาที่เค้ากำลังตั้งใจตีฟองนมนั้น มันดูดีไปหมด
แจฮยอนเป็นคนที่ดูดีมาก ผู้ชายสูงร้อยแปดสิบกว่า ผมสีน้ำตาลอ่อน ผิวขาวเหมือนไข่ต้มที่ปลอกเปลือกแล้ว และในขณะเดียวกัน ก็มีรอยยิ้มที่อบอุ่น พร้อมกับลักยิ้มที่น่ารักที่สุดในโลก
เค้าหยุดเวลาของผมไว้ที่ 12 นาฬิกา 58 นาที ในวันนี้
....
.........
..............
....................
อีกวันที่มาถึง ชีวิตน่าเบื่อของแทยงก็ไม่ได้แย่มากนัก เค้าที่กำลังยืนอยู่หน้าเค้าว์เตอร์ร้านกาแฟใต้ตึก ตรงหน้าคือเจ้าของร้านคนเดิมที่ยืนรับออเดอร์อยู่
“วันนี้เหมือนเดิมนะครับ” แจฮยอนถามผมด้วยน้ำเสียงอันสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ และรอยยิ้มที่สว่างสดใสเหมือนเดิมทุกครั้ง บางทีแทยงก็สงสัยนะว่าเค้าเคยมีเรื่องทุกข์ใจอะไรบ้างไหม ทำไมถึงได้ดูมีความสุขตลอดเวลา แต่อย่างว่ามนุษย์เราทุกคนก็คงจะเลือกแสดงออกแต่ท่าทางด้านบวกออกมากันทั้งนั้น แล้วอีกอย่างก็เป็นถึงเจ้าของร้านกาแฟ จะให้ทำหน้าบึ้งก็คงจะไม่เหมาะ
ก็เพราะว่าเป็นห่วงนั่นแหละ ถึงได้คิดอะไรแบบนี้เกี่ยวกับเค้า แต่ก็ได้แต่คิดในใจ เพราะแค่ให้มองหน้าแจฮยอนเกินห้าวินาทีก็ยังไม่เคยทำเลย ถ้าจะเรียกว่าแทยงคนป๊อดก็เหมาะที่สุดแล้ว
เพื่อนของแทยงเคยพูดว่า “ถ้านายไม่ขี้อายขนาดนี้ ก็คงจะได้เป็นเดือนคณะไปแล้ว มนุษยสัมพันธ์ติดลบ ทั้งๆที่คนแอบชอบเยอะ แต่เพราะวันๆเอาแต่เดินก้มหน้า ปฎิเสธทุกคนที่เข้ามาหา ไม่คุยกับใคร นายถึงโสดมาจนถึงทุกวันนี้ไง”
ใช่.... แทยงไม่เคยมีแฟนเลยสักคน บอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ เพราะพี่ในออฟฟิสเดียวกันก็บอกว่า ผมโกหก แต่ใครกันจะโกหกเรื่องแบบนี้ การไม่เคยมีแฟน ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าสักหน่อย เพราะคนเราก็ต้องเลือกคนที่ทำให้เรามีความสุข และก็คงจะไม่ดี ถ้าเกิดเราต้องเสียใจเลือกคบกับคนที่ไม่ได้ชอบ มันก็เลยไม่ได้แย่นักเท่าไหร่
คนที่แอบชอบล่าสุดก็คือ เพื่อนร่วมคลาสตอนปีสอง คนที่มีรอยยิ้มสดใสเหมือนแจฮยอน เวลานึกถึงคนที่ชอบ ความรู้สึกก็คงจะเหมือนนอนอยู่ใต้ท้องฟ้ามีเมฆสีขาวลอยอยู่ ตัวเราที่นอนอยู่บนทุ่งหญ้าสีเขียว ที่เมื่อลมเย็นที่พัดมาสัมผัสและเหมือนจะโอบเราลอยขึ้นไปบนฟ้าได้ แค่คิดถึงก็สุขใจ แทยงคิดว่าตัวเองเป็นคนตกหลุมรักคนอื่นได้เพราะรอยยิ้ม ถ้าใครสักคนที่ทำให้เราหยุดมองเพราะรอยยิ้มของเค้า วันแย่ๆที่นึกถึงก็คงจะมีแรงฮึดและกำลังใจที่จะสู้ต่อขึ้นมา นั่นก็คือ พลังในการใช้ชีวิตในแต่ละวันแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ยิ้มให้เรา แต่เพราะเค้าคือคนที่เราชอบ ใจก็จะเต้นแรง และเผลอยิ้มตามออกมาไม่ได้ ถึงแม้บางครั้งมันจะทำให้ตัวเองดูเหมือนคนบ้า แต่ทุกคนก็คงไม่ปฎิเสธว่า การใช้ชีวิตบนโลกใบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมละ แต่เพราะมีรอยยิ้มของแจฮยอนเป็นกำลังใจอยุ่ ทุกวันนี้ก็เลยไม่ได้แย่นัก
ตอนนี้ก็บ่ายกว่าๆแล้ว คนส่วนมากก็ขึ้นไปทำงานที่รออยู่ ตอนนี้ก็เลยมีลูกค้าแค่โต๊ะเดียวที่ยังนั่งอยู่ตรงมุมซ้ายของร้าน
มันอาจจะดูแปลก แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมก็ขี้อายและไม่กล้ามองหน้าเค้าเกินกว่าระยะเวลาที่ยืนสั่งกาแฟอยู่หน้าเค้าวเตอร์นั่นแหละ
วันนี้จะขอลองคุยกับเค้าให้มากขึ้นอีกหน่อย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แทยงคิดอยากทำความรู้จักกับเจ้าของร้านกาแฟ แต่ก็เพราะว่าชอบเค้ามากไปหน่อย ตัวเองก็เลยเหมือนจะควบคุมไม่ได้ตลอดเวลาอยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย
“วันนี้..... ทานที่นี่แทนครับ” แทยงคิดว่าการสบตาแจฮยอนเกินกว่าห้านาทีจะทำให้เค้าขาดอากาศหายใจไหม เอาจริงๆก็ไม่แน่ใจเพราะไม่เคยลองแล้วก็ไม่คิดจะลองด้วย
“ได้เลยครับ เดี๋ยวกาแฟไปเสริฟ์ให้ที่โต๊ะนะครับ”
แทยงได้แต่รีบก้มหน้าควักเงินในกระเป๋ายื่นส่งให้ ได้ยินเสียงตอบกลับมาว่า “ขอบคุณครับ” แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เค้าหมุนตัวเดินเร็วๆไปหาที่นั่ง แล้วก็ได้แต่ลอบยิ้มกับตัวเอง ความคิดตีกันวุ่นวายไปหมด ควรจะเริ่มชวนเค้าคุยยังไงดีนะ ให้ดูไม่น่าสงสัย คนที่มากินกาแฟร้านเค้าทุกวันติดกันหลายเดือนแบบนี้ ถ้าไม่ใช่คนที่ติดใจรสชาติของกาแฟก็คงติดอะไรสักอย่างที่ร้านกาแฟนี่ละ
“ลาเต้ร้อนได้แล้วค่ะ” พนักงานผู้หญิงเป็นคนเดินเอาแก้วกาแฟมาเสริฟ์และวางไว้ตรงหน้า หน้าตาของกาแฟถ้วยนี่น่าดื่มเหมือนทุกวัน แล้วแทยงก็คงจะดื่มจนหยดสุดท้ายเหมือนทุกทีเช่นเดิม
กาแฟที่มีคนที่เราชอบชงให้ รสชาติจะดีเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นไหม แต่แทยงดื่มไปยิ้มไปตลอดเลย
“สวัสดีครับคุณลูกค้า” แทยงได้ยินเสียงทักทายอยู่ใกล้ตัว จนทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมอง
ใช่....
แจฮยอนคนที่เค้าแอบมองมาหลายเดือน ตอนนี้กำลังเดินเข้ามาทักทายแทยงก่อน พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ตรงข้ามแล้วนั่งลง เค้าจับผ้ากันเปื้อนที่หมือนจะไปเกี่ยวกับที่พักแขนพร้อมกับเงยหน้ามองมาทางผม ที่กำลังอึ้งและมองเค้าไม่วางสายตาอยู่
แจฮยอน...
“ครับ” ผมได้แต่อ้อมแอ้มตอบรับคำทักเค้ากลับไป ก็รู้ว่าเสียมารยาทแต่แทยงยังทำใจมองหน้าแจฮยอนให้นานกว่านี้ไม่ได้จริงๆ
จะหาว่าเค้าพูดเกินจริงก็ได้ เพราะถ้าเป็นคนอื่นที่มีแจฮยอนมานั่งอยู่ตรงหน้า เชื่อว่าก็คงเป็นเหมือนเค้า ที่ตอนนี้หน้าร้อนยิ่งกว่าน้ำที่กำลังเดือดสะอีก แทยงใจเต้นแรงจนเหมือนจะหลุดออกมาข้างแก้วกาแฟที่วางอยู่ตรงหน้าอยู่แล้ว
“วันนี้มานั่งดื่มที่ร้านด้วย ปกติคุณซื้อขึ้นไปกินบนตึกตลอดเลย” น้ำเสียงของแจฮยอนที่พูดออกมาใกล้ๆ ระยะไม่เกินก้าวแบบนี้ บทสนทนาที่ต่างออกไป ทำให้แทยงรู้สึกตื่นเต้นเกินกว่าจะตัวเองจะคิดถึง
บทสนทนาที่ทำให้ใจเค้าเต้นแรงกว่าเดิม แจฮยอนจำเค้าได้ มันคงจะไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไรนัก ถ้าคำพูดพวกนี้ไม่ได้มาจากแจฮยอนคนที่เค้าชอบ
“ก็... วันนี้ตอนบ่ายผมว่างก็เลยคิดว่าอยากจะลองนั่งที่นี่ดูบ้าง....” แทยงไม่รู้ว่าเสียงที่เปล่งออกไปนั้น ฟังดูตลกหรือเปล่า แต่รอยยิ้มเอ็นดูเค้าที่แจฮยอนมอบกลับมาให้นั้น มันทำให้เค้ารู้สึกหน้าร้อนกว่าเดิม จนอีกนิดคิดว่าอาจจะระเบิดแล้วก็ได้
“อ่อ โดดงานนี่เอง” แจฮยอนพูดกลั้วเสียงหัวเราะ หยอกล้อเหมือนรู้จักกันมานาน ทั้งๆที่นี่มันคือการพูดคุยกันครั้งแรกของเรา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เป็นการทำความรุ้จักใครสักคนที่รู้สึกดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้
“ไม่ใช่นะ แค่...จริงๆวันนี้ลาตอนบ่ายเพราะคืนนี้ต้องบินไปเมืองนอก” พอทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นได้แล้ว แทยงก็อยากจะพยายามมากขึ้นอีกนิด เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับคนๆนี้มากขึ้นอีกหน่อย เค้าไม่จำเป็นจะต้องมานั่งอธิบายเรื่องส่วนตัวอะไรพวกนี้ให้ฟังเลยแม้แต่น้อย แต่ในใจกับคิดว่า อยากจะบอกเพราะเค้าจะไม่ได้มาเป็นลูกค้าร้านกาแฟอีกหลายวัน
ความรักนี่มันตลกดีนะ ทำให้กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ และไม่คิดจะทำมาก่อน
“อย่างนี้นี่เอง”
“......” แทยงได้แต่นั่งก้มหน้า ถือถ้วยกาแฟด้วยมือทั้งสองข้างให้ความอุ่นเพราะข้างนอกหนาวมากจริงๆ พยากรณ์อากาศในทีวีเมื่อเช้าบอกว่า ช่วงบ่ายนี้หิมะจะตก เค้าควรจะรีบกลับบ้านไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวบินไปอังกฤษคืนนี้สิ
“เจอกันทุกวันยังไม่รู้จักชื่อเลย ผมแจฮยอนครับ” ท่านั่งที่ดูสบายๆของเค้า ทำให้แทยงต้องก้มหน้าเพราะมันช่างดูดีจนไม่กล้าจะมองตรงๆ เค้าสงสัยว่าตัวเองกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่นะ แจฮยอนถึงกำลังยิ้มเต็มแก้มแบบนั้นให้เค้า
“ลีแทยง...” เค้าเห็นป้ายชื่อผมที่เพิ่งถอดออกจากคอตัวเองไปเมื่อกี้
น้ำเสียงของแจฮยอนที่เรียกชื่อผมนั้น ทำให้แทยงรู้สึกเขินมากกว่าเดิม ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนที่ชอบ มาเรียกชื่อเราด้วยโทนเสียงของเค้าที่เราชอบฟังที่สุด มันจะเป็นแบบนี้
วันนี้รู้แล้ว รู้สึกดีมาก รู้สึกดีที่สุดเลย
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” แจฮยอนที่กำลังมองตรงมาที่แทยงคนเดียว พร้อมกับรอยยิ้มที่สว่างไสว ผู้ชายที่มีลักยิ้มที่ดูดีที่สุดเท่าที่เค้าเคยพบเจอ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะแจฮยอน”
ถึงแม้จะเป็นการทำความรู้จักธรรมดาๆในวันนี้ แต่คนที่ไม่เคยกล้าแม้แต่จะทำความรู้จักกับใครก่อนแบบเค้า ตอนนี้ได้ก้าวไปข้างหน้าได้อีกก้าวนึงแล้ว ถึงแม้จะเป็นเพียงก้าวเล็กๆ แต่มันคือเรื่องที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของคนขี้อายแบบเค้า เชื่อว่าในอีกไม่ช้าแทยงคนนี้ก็คงจะเริ่มมองตาแจฮยอนได้มากกว่าห้าวินาทีแน่ๆ
Little by little, one travels far. – J.R.R Tolkein
......................................................................................................................
Ohwonderwhy loves Jaeyong
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน
หวังว่าคงชอบและทำให้ยิ้มได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ
ความคิดเห็น