คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #31 : MALINWORLD ♦ | I WANNA FIX YOU
I
WANNA FIX YOU
KAI
x SEHUN
STORY BY MALINWORLD
มีคนเคยบอกว่าวันดี ๆ
จะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ตอนตื่น
แต่ดูเหมือนว่ามันจะใช้ไม่ได้สำหรับเช้านี้ของ ‘โอ เซฮุน’
ความร้อนที่แผ่กระจายไปทั่วทั้งห้องทำให้คนตกหลับอยู่ต้องตื่นจากฝัน
นัยน์ตากระพริบช้า ๆ ก่อนจะถีบผ้าห่มออกอย่างขัดใจ
เด็กหนุ่มรู้สึกได้ถึงความเหนียวเหนอะหนะตามตัว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เปิดแอร์ก่อนนอน
พอหันไปทางหน้าต่างก็เห็นว่ามันถูกเปิดทิ้งไว้
แต่ลมที่พัดเข้ามามันก็ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกเย็นขึ้นเลยสักนิดเดียว
โอเซฮุนถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าทั้งที่เพิ่งจะลืมตาตื่นจากฝัน
อาการหนักอึ้งไปทั้งตัวราวกับว่ามียักษ์มานอนทับนี่มันคืออะไรกัน อ๋อใช่...
เมื่อคืนเขาไปดื่มเหล้าจนเมาเหมือนหมาข้างถนนไงล่ะ
ให้ตายเถอะ อารมณ์ไม่ดีแล้ว
ปล่อยให้ร่างอันผุพังนอนคว่ำบนเตียงอยู่ชั่วอึดใจ
ก่อนจะเพ่งสายตาไปยังผนังห้องสีครีมที่ดูเหมือนว่ามันจะเอนเอียงไปทางน้ำตาลเพราะคราบสกปรกบางอย่างซึ่งเขาก็ไม่ได้มีความพยายามมากพอที่จะเคาะสมองให้ใช้ความคิดตอนที่ปวดหัวตุบ
ๆ ว่าไอ้รอยนั่นเกิดขึ้นเพราะอะไร
ที่นี่ไม่ใช่ห้องของเขา
อาการเหนียวตัวเป็นสัญญาณเตือนให้รีบลุกไปอาบน้ำถ้าไม่อยากหงุดหงิดนานไปกว่านี้
เซฮุนยันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะเบิกตาอย่างตกใจทันทีที่เห็นว่าสภาพของเขาตอนนี้มันล้อนจ้อนเปลือยเปล่าแทนที่จะใส่ชุดนอนตัวเก่งที่คนสำคัญซื้อให้
เวรแล้วไง จริงอยู่ที่เมื่อคืนโอเซฮุนเมามากแต่ก็ใช่ว่าจะเรื้อนหนักจนจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เด็กหนุ่มนั่งนิ่งแล้วสั่งการให้สมองช่วยฟื้นความทรงจำ แต่ยังไม่ทันไรอยู่ ๆ
ก็มีภาพผู้ชายคนหนึ่งนั่งเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาหวานเยิ้มในระยะใกล้
เซฮุนจำได้ว่าโครงหน้าคนนั้นค่อนข้างดีแล้วก็รู้สึกคุ้นแปลก ๆ คิ้วหนา จมูกโด่ง รูปปากนี่เห็นไม่ชัดเพราะเจ้าตัวกัดปากล่างเอาไว้
แล้วภาพมันก็สั่นมากด้วย เดี๋ยวโยกขึ้นโยกลงเหมือนกำลังอยู่บนเครื่องเล่น
แล้วก็เสียงแปลก ๆ บางอย่าง
บางอย่างที่...
‘อะ... อา... เบาหน่อย
แรงมากเดี๋ยวหักกันพอดี... อืม...’
เดี๋ยว
ภาพสั่น โยกขึ้น โยกลง กับเสียงครางนั่นมัน...
เด็กหนุ่มถึงกับตาเหลือกเมื่อภาพนั้นเริ่มชัดขึ้น
นัยน์ตาเรียวกลอกมองไปรอบข้างก่อนจะเห็นสภาพห้องอันเละเทะที่คิดว่าคงไม่ได้รับการทำความสะอาดมานานมาก
ไหนจะขี้บุหรี่ที่อัดแน่นอยู่เต็มขวดเบียร์บนโต๊ะ ซากถ้วยรามยอนสำเร็จรูปที่ซ้อนทับกันสูงชนิดว่าถ้าเรียงดี
ๆ คงเอาไปสู้กับหอไอเฟลได้ไม่ยาก
ในห้องมีเพียงแค่พัดลมเก่า ๆ
หนึ่งตัวที่กระตุกส่ายไปมาอย่างน่าสงสาร เซฮุนเสยผมขึ้นแล้วตั้งสติ สมองมันเอาแต่ถามว่า
‘แกนอนกับผู้ชายที่ไม่ใช่แฟนไปแล้วใช่ไหม’
แต่พอนั่งคิดดี ๆ
ภาพนั้นมันก็เรือนรางเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น แต่ไอ้ความรู้สึกดี ๆ
ที่เกิดขึ้นนี่ไม่แน่ใจว่าเป็นผลพวงจากความฝันหรือเพราะมันเกิดขึ้นจริงกันแน่
“ต้องฝันแน่ ๆ”
“คงงั้น”
เด็กหนุ่มหันไปตามต้นเสียงที่ดังมาจากด้านขวามือ ก่อนจะเบิกตากว้างยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นผู้ชายผิวแทนในชุดช่างซ่อมรถสีกรมท่ายืนพิงกรอบประตูอยู่พร้อมขวดน้ำเปล่าในมือ
นั่นเขาเรียกว่าชุดอะไรนะ ชุดหมีใช่ไหม?
“เป็นฝันที่แฟนตาซีสี่มิติด้วย” ชายคนนั้นยังคงเคี้ยวอะไรอยู่ในปากแล้วกระดกน้ำตามเสียอึกใหญ่
เซฮุนไม่แน่ใจว่ามันมีเหตุผลอะไรในโลกที่ทำให้เขาต้องมานั่งทำหน้าซื่อบื้อมองผู้ชายในชุดช่างซ่อมรถดื่มน้ำเหมือนคนตายอดตายแล้วปิดท้ายด้วยการเรอออกมาเสียงดังขนาดนั้น
“คุณช่างซ่อมรถ” หลังจากเรียกสติกลับมาจนครบแล้วโอเซฮุนก็สำเหนียกได้ว่าคนที่ฝันถึงก็คือผู้ชายมอม
ๆ คนนั้น ช่างซ่อมรถที่ไปช่วยเขาไว้เมื่อคืนในตอนตกที่นั่งลำบากสุด ๆ
โอเค เข้าใจแล้ว สาเหตุที่ฝันถึงคงเพราะเห็นหน้าก่อนน็อกไปแน่
ๆ
“จำได้ด้วย?”
“จำได้สิ ก็ผมเป็นคนโทรตามคุณไปช่วยดูรถ” พอรู้ตัวว่าอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เด็กหนุ่มก็ค่อย ๆ
เอื้อมไปดึงผ้าห่มที่เพิ่งถีบออกมาคลุมช่วงล่างเอาไว้ เซฮุนเห็นว่าช่างซ่อมรถนั่นยิ้มขำกับท่าทางของเขา
“ก็ดี จะได้ไม่มีใครตึงใส่จนมองหน้ากันไม่ติดเพราะใครคนหนึ่งแกล้งตายว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดอะไรขึ้น
พอดีว่าไม่อยากอึดอัดกับคนแปลกหน้าน่ะ” ผู้ชายคนนั้นยิ้มแหยกวนประสาท
เซฮุนขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจพร้อมมองไปยังอีกฝ่ายเพื่อขอคำอธิบายเพิ่มเติม
“หมายความว่า...?”
“เมาแล้วคึกนะเรา” มือที่ถือขวดน้ำชี้นิ้วมายังเขาพร้อมสายตาแปลก ๆ ที่จะว่าแซวก็ไม่ใช่ จะว่าโลมเลียก็ไม่ถูก
เซฮุนทำหน้าเหวอแล้วหลุบสายตาลง คำพูดของผู้ชายคนนั้นฟังแล้วทำให้รู้สึกถึงหายนะแปลก
ๆ “เสื้อผ้าในตู้ อยากใส่ตัวไหนก็เลือกเอา รถคุณผมจัดการให้เรียบร้อยแล้ว”
“เดี๋ยว”
ช่างซ่อมรถนั่นไม่ได้นึกอยากหยุดฝีเท้าเพราะเสียงของเขาเลยสักนิด
เซฮุนนั่งนิ่งเป็นไอ้โง่อยู่ตรงนั้นเกือบนาที ก่อนจะกลอกตาไปทางตู้เสื้อผ้าแล้วหอบผ้าห่มปิดบังส่วนล่างไว้เพื่อหาชุดใส่
แต่พอเปิดออกสิ่งแรกที่ทำให้ตกใจนั้นไม่ใช่ความไร้รสนิยมของผู้ชายคนนั้น
แต่มันกลับเป็นเสื้อผ้าไม่รู้กี่สิบตัวกองทับเอาไว้เหมือนเตรียมพร้อมซัก
เด็กหนุ่มคว้าเอาเสื้อยืดสีขาวขึ้นมาระดับใบหน้า
สาบานให้ตายเลยว่าชีวิตนี้โอเซฮุนยังไม่เคยจับเสื้อยับ ๆ
แบบนี้ขึ้นมาใส่เลยสักครั้งเดียว ที่บ้านเขามีคนคอยซักคอยรีดแล้วแขวนใส่ตู้เสื้อผ้าให้อย่างดิบดี
แล้วนี่มันคือ...
คนตัวผอมไม่มีเวลากับตรงนี้มากนักเมื่อในหัวของเขามีแต่คำถามอยู่เต็มไปหมด
ซึ่งคนที่จะไขข้อสงสัยได้ก็มีแค่ช่างซ่อมรถคนนั้น เด็กหนุ่มใส่เสื้อผ้าอย่างลวก ๆ
แล้วพาตัวเองเดินลงไปข้างล่าง ระหว่างทางก็เอาแต่บอกตัวเองว่าภาพในความคิดที่เด่นชัดขึ้นทุกวินาทีในตอนนี้มันคงเป็นความฝัน
ซึ่งมันดูเหมือนเป็นการหลอกตัวเอง
สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือกลิ่นน้ำมันเครื่องกับเสียงอุปกรณ์ต่าง
ๆ ที่ช่างซ่อมรถในชุดหมีต่างแยกกันทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ตามจุดต่าง ๆ
บางคนจัดการซ่อมที่หน้ากระโปรงรถ บางคนซ่อมแซมรอยบุบที่เกิดจากอุบัติเหตุเล็ก ๆ
เสียงพูดคุยกลั้วหัวเราะของช่างแต่ละคนนั้นสร้างความแปลกใหม่ให้กับเขา
คนที่เคยแวะเวียนเข้ามาในสถานที่แบบนี้เพียงแค่ครั้งเดียวตอนรถแฟนเก่าเสียเมื่อคราวนั้น
แฟนเก่าที่เพิ่งเลิกกันไปเมื่อคืน
“พี่จงอิน ลูกค้าวีไอพีตื่นแล้วพี่” เสียงของเด็กวัยรุ่นที่ดูแล้วอายุไม่น่าจะเกินยี่สิบตะโกนบอก
ตอนนั้นเซฮุนถึงได้ตกเป็นเป้าสายตาของช่างซ่อมรถในชุดหมีเกือบเจ็ดคน
เขายิ้มแหยเป็นการทักทายซึ่งไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร แต่ยืนเก้อแค่ครู่เดียวใครอีกคนก็สไลด์ตัวเองออกมาจากใต้ท้องรถ
“นึกว่าจะนอนจนถึงพรุ่งนี้ซะอีก” เซฮุนอยากเอาไม้จิ้มฟันที่ผู้ชายคนนั้นคาบไว้ออกมาทิ่มปากนั่นแรง ๆ สักทีเหลือเกิน
“นอนไม่ไหวหรอก ห้องร้อนขนาดนั้น”
“ฮ่า ๆๆ”
เสียงหัวเราะของเด็กในอู่ซ่อมรถดังขึ้นมาพร้อมกันนั้นไม่น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับคนแปลกหน้าที่นี่ซึ่งสวมชุดคนอื่นอยู่บนร่าง
เขาเห็นว่าเจ้าของผิวสีแทนแค่นยิ้มก่อนจะเคี้ยวไม้จิ้มฟัน ให้ตายเถอะ
ถ้าผู้ชายคนนั้นหันมาตอกกลับด้วยคำว่า ‘อยากเย็นก็บอกพ่อน้องมาติดแอร์เองสิครับ’ เรื่องนี้คงจบไม่สวยแน่ ๆ
“หรือความจริงแล้วความร้อนมันอาจจะไม่ได้มาจากห้องผม” ชายหนุ่มชุดหมีสีกรมท่ายันตัวลุกขึ้นแล้วตรงมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวผอมพร้อมนิ้วชี้ที่แตะลงกลางอกเขา
“แต่มันออกมาจากตัวคุณ”
“เอาแล้วโว้ย!!!”
“กูจะอ้วก!!!”
ในทีแรกเซฮุนคิดว่าเขาคงสร้างความอับอายให้กับช่างซ่อมรถคนนี้ด้วยประโยคก่อนหน้า
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่อย่างนั้นเมื่อตอนนี้คนที่กำลังได้รับผลกระทบเรื่องความอับอายทั้งหมดคือตัวเขาเอง
ชั่วอึดใจเลยทีเดียวกว่าเสียงหัวเราะของเด็กในอู่ซ่อมรถจะเงียบไป
เด็กหนุ่มหลับตาแน่นพลางถอนหายใจกับความบ้าบอที่เกิดขึ้นในวินาทีนี้
จะให้กลับบ้านเลยมันก็ได้ แต่ไอ้ความคาใจที่เกิดขึ้นเขาก็ยังต้องการคำตอบอยู่
“ว่าไงหนู
ทำหน้าเหมือนคนเกิดมาเพื่อเป็นประโยคคำถาม”
“ผมขอเวลาคุณสิบนาที” เซฮุนมองคนตรงหน้าที่เบ้ปากเล็กน้อยเหมือนกับว่าไม่อยากตกลง
“สองนาที”
“เจ็ดก็ได้”
“สอง”
“งั้นสาม”
“สอง...”
ช่างซ่อมรถใจโหดกดเสียงลงต่ำพร้อมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่า ‘จะเอาไม่เอา?’ เซฮุนถอนหายใจหนัก ๆ พยายามสงบสติอารมณ์ เขาไม่ใช่คนขี้โมโหเลยสักนิด
แต่ผู้ชายคนนี้ก็กวนประสาทเกินไป
“เมื่อคืนผมนอนกับคุณเหรอ” เสียงนี้เบาหวิวเพราะอยากให้ได้ยินกันแค่สองคน ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วก็ถามออกไปตรง
ๆ เลยคงดีกว่าเก็บความสงสัยเอาไว้ ถึงจะดูมึน ๆ งง ๆ เพราะพิษเหล้า
แต่โอเซฮุนก็ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมีอะไรกับคนแปลกหน้าได้
“กว่าจะลงได้ก็ตีสี่เลยล่ะ” ต้องพูดถึงสีหน้าเจ้าของผิวแทนนี้ไหมว่ามันกวนประสาทเขาแค่ไหน
“อะไรคือกว่าจะลงได้” เด็กหนุ่มถามเสียงแผ่วอย่างไม่มั่นใจ พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ซีเรียสที่จะพูดเรื่องนี้เขาเลยคิดว่ามันน่าอายขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“คุณไง กว่าจะลงจากตัวผมได้” ช่างซ่อมรถหนุ่มยิ้มขำก่อนจะเดินกลับไปที่รถยนต์สีดำที่เปิดกระโปรงรถทิ้งไว้
ผู้ชายที่ชื่อ ‘จงอิน’
พยักหน้าเป็นเชิงบอกให้ลูกน้องไปทำอย่างอื่นส่วนเจ้าตัวจะรับหน้าที่นั้นต่อเอง
เซฮุนเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างหัวเสียแล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างรถ
แน่นอนว่าเขารักษาระยะห่างระหว่างผู้ชายคนนี้เอาไว้ได้ดีที่สุดเลยล่ะ
“คุณ”
“รถอยู่ทางนั้น” คนเป็นช่างซ่อมรถไม่ได้สนใจเงยหน้าขึ้นมาถามว่า ‘มีอะไรอีกครับคุณลูกค้า?’ เลยสักนิด ผู้ชายคนนี้เพียงแค่เบือนหน้าไปอีกทางเพื่อบอกพิกัดเป้าหมายที่จอดรถของเขาเท่านั้น
“ผมยังไม่กลับตอนนี้ มาคุยกันให้เคลียร์ก่อน”
“สิ่งเดียวที่ผมต้องเคลียร์กับคุณคือค่าเสียหายทั้งหมดที่เกี่ยวกับรถ
ส่วนค่าถุงยางนั่นผมไม่คิด”
“เฮ้
นี่คุณพูดเรื่องนั้นออกมาเหมือนมันเป็นเรื่องง่าย ๆ ได้ไง คือ...
เมื่อคืนผมโทรตามคุณให้ไปช่วยเพราะรถเสียถูกไหม แล้วอยู่ ๆ เราก็นอนด้วยกัน
พอตื่นมาคุณก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วบอกให้ผมจ่ายค่าซ่อมรถ
พอหลังจากนั้นคือจบงั้นเหรอ?” เซฮุนเลิกคิ้วมอง
แบมือทั้งสองข้างออกพร้อมยกไหล่ขึ้น
“อะไรคืออยู่ ๆ
เราก็นอนด้วยกันในเมื่อคุณเป็นคนรูดซิปกางเกงผมลงแล้วใช้ปากแดง ๆ นี่จัดการจนมันเสร็จไปรอบนึง?” เจ้าของผิวสีแทนกดเสียงลงต่ำแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเด็กหนุ่มต้องยืนทื่อเป็นก้อนหินอีกครั้ง
ไหนจะสายตาที่หลุบลงมองริมฝีปากเขานั่นอีก
ไม่จริงน่า...
“ผมเป็นฝ่ายเริ่มเหรอ”
“ขอโทษถ้ามันทำให้คุณอายกับคำตอบที่ผิดคาด
แต่ผมไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น” ช่างซ่อมรถหนุ่มเท้ามือลงกับกระโปรงรถอีกครั้งเพื่อดูอาการเครื่องยนต์ที่เพิ่งถูกส่งเข้ามาเมื่อชั่วโมงที่แล้ว
“แต่เมื่อคืนก็แฮปปี้ดีนะ นอนกับผู้ชายแล้วรู้สึกเหมือนถูกเปิดโลกไปอีกแบบ”
ทำไมพูดออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย...
“คุณจงอิน” ดูถือวิสาสะและอาจถูกย้อนถามกลับว่า
‘คุณรู้ชื่อผมได้ยังไง?’
แต่เซฮุนคิดว่าผู้ชายคนนี้คงไม่โง่หลังจากนึกขึ้นได้ว่าลูกน้องในอู่ตะโกนชื่อตัวเองซะขนาดนั้น
“ว่าไงคุณเซฮุน” ประโยคนี้คล้ายประชด
เซฮุนจำไม่ได้แล้วว่าเขาหงุดหงิดเพราะผู้ชายคนนี้ไปแล้วกี่ครั้งภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
และตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเขาเองเสียแล้วที่ต้องการคำตอบว่า “คุณรู้ชื่อผมได้ยังไง”
“ผมถามตอนที่เรากำลัง... อ่า”
เจ้าของผิวสีแทนกัดริมฝีปากล่างขณะมองมายังเขาด้วยแววตาหยาดเยิ้มก่อนจะโยกจะโพกใส่กระโปรงรถอย่างคนทะลึ่ง
เซฮุนถลึงตามอง ผู้ชายคนนี้จะทะลึ่งเกินไปแล้ว “ทำไมทำหน้าแบบนั้น
คุณก็ดูมีความสุขดีออกตอนที่ได้ยินชื่อตัวเอง”
“คุณ?”
“เซฮุนนา...”
ใบหน้าคมติดยิ้มทะเล้นยื่นเข้ามาใกล้จนเด็กหนุ่มต้องเอนตัวถอยหลังเล็กน้อย
มันเป็นเรื่องบ้าบอคอแตกที่เกิดขึ้นในเดือนนี้ เมาเหมือนหมา
รถเสีย ตัดภาพมาอีกทีก็รู้ตัวว่าเพิ่งได้กับช่างซ่อมรถที่เพิ่งรู้ชื่อเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว
เซฮุนยืนมองอีกฝ่ายจัดการเครื่องยนต์ด้วยสีหน้าจริงจัง เขาจะไม่ยอมพูดเด็ดขาดว่าผู้ชายคนนั้นดูดีเวลาไม่กวนประสาท
“ต่อไปเวลารถเสียอีกก็ให้เช็กแบตเตอรี่ก่อน
เวลามีปัญหาจะได้ไม่ลั่นกวนชาวบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ”
จงอินหันไปทางคนที่ยืนขมวดคิ้วอยู่ห่างจากตรงนี้ราว ๆ สองช่วงแขน “มันเป็นตัวจ่ายไฟ ถ้ารถสตาร์ทไม่ติดให้ดูก่อนว่ามันมีประจุไฟครบหรือเปล่า
กำลังโวลท์ของมันอยู่ที่สิบเอ็ดถึงสิบสามจุดห้าโวลท์
ถ้ารถมีประจุไฟไม่พอมันก็จะสตาร์ทไม่ติด งงไหม?”
“งง”
“เออ งั้นจบ”
ช่างซ่อมรถหนุ่มส่ายหน้าอย่างเอือม ๆ
ตั้งแต่เรียนสายนี้มาเขาก็พอจะทำใจแล้วว่าผู้ชายทุกคนบนโลกคงไม่ได้มีความรู้เรื่องซ่อมรถเบื้องต้นไปเสียทุกคน
ถ้าบอกว่าฝาสูบโก่งนี่จะรู้ไหมว่ามันคือส่วนไหน
“ออฟฟิศอยู่ตรงนั้น” ชายหนุ่มผิวแทนหันไปทางห้องแอร์เล็ก ๆ ที่มีชายหนุ่มหน้าตาคล้ายกับเขานั่งก้มหน้าก้มตาวุ่นอยู่กับบัญชี
“ของใช้ส่วนตัวของคุณอยู่กับน้องชายผม แล้วก็ไม่ต้องกลัวนะว่าจะมีคนขโมยเงินไป
เพราะมันมีน้อยจนไม่มีใครอยากหยิบ”
“คุณค้นดูกระเป๋าเงินผมเหรอ”
“ถ้าไม่ดูแล้วจะรู้ไหมว่าคุณเป็นลูกเต้าเหล่าใคร
บ้านอยู่ที่ไหน เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะได้ส่งกลับภูมิลำเนาถูก”
ทั้งคู่สบตากัน เซฮุนไม่ได้ซีเรียสเรื่องถูกค้นของใช้ส่วนตัว เพราะจุดเริ่มต้นมันเป็นเพราะเขาปล่อยตัวให้ตกอยู่ในสภาพนั้นเอง
ถ้าเป็นคนอื่นอาจถูกปล้นรถ ปล้นเงินไปหมดแล้วด้วยซ้ำ
“หน้าคุณกับเขาเหมือนกันเลย”
“พ่อแม่เดียวกันจะให้เหมือนคนข้างบ้านเหรอ” เซฮุนยืนนิ่ง นี่ชวนคุยไม่ได้เลยใช่ไหม จ้องจะสวนกลับอยู่เรื่อยเลย “รูดการ์ดแล้วก็กลับบ้านไปหาสิ่งดี ๆ ทำซะ อกหักแล้วเมาปลิ้นคนเดียวเมื่อคืนไม่แหกโค้งก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“ผมเล่าให้คุณฟังด้วยเหรอว่าอกหัก?”
“ไม่ได้เล่า แต่การที่คุณพึมพำตลอดทั้งทางว่า
‘อยากเลิกก็บอกตรง ๆ สิไม่ใช่แอบไปคบคนอื่น
พอมารู้ทีหลังแล้วมันเจ็บนะเว้ย!’ แค่นั้นก็ดูออกแล้ว” จงอินแกล้งเลียนเสียงยานคางเหมือนคนเมา ตอนนั้นเซฮุนถึงได้รู้ว่าเมื่อคืนเขาคงทำเรื่องน่าอับอายไปเยอะพอสมควร
เด็กหนุ่มไม่ได้ถามทำอะไรอีก
เขาเพียงแค่เดินเข้าไปในออฟฟิศเพื่อติดต่อชำระค่าเสียหาย ซึ่งในใบเสร็จก็ถูกกว่าที่คิดเอาไว้มาก
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ถามคนที่กำลังยุ่งกับเครื่องยนต์ว่าทำไมถึงให้จ่ายแค่นี้
เพราะสิ่งที่เซฮุนทำก็แค่เดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ รถคนนั้น
รอผู้ชายผิวสีแทนเงยหน้าขึ้นมาเพื่อบอกว่า...
‘ขอบคุณ’
--------------------------------------
I WANNA FIX YOU
M A L I N W O R L D
--------------------------------------
เด็กหนุ่มวัยยี่สิบเอ็ดเดินเหม่อเข้าไปในบ้าน
เซฮุนไม่ได้สนใจหันไปตอบแม่บ้านที่ถามถึงชุดยับ ๆ บนตัวเขา
คนตัวผอมทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปไกล
เคยเห็นใครต่อใครบอกว่าเวลาอกหักห้ามอยู่คนเดียว
ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องจริง เมื่อตอนนี้ความรู้สึกแย่ ๆ
กำลังประดีประดังเข้ามาอีกครั้ง
ได้แต่กัดริมฝีปากล่างเพื่อหวังให้ความเจ็บตรงหัวใจแบ่งมาตรงนี้บ้าง
แต่มันกลับไม่ช่วยอะไรเลยสักนิด เซฮุนเอาแขนก่ายหน้าผาก
ความเจ็บปวดจากการถูกหักหลังเป็นเหมือนความจริงที่ต้องตื่นขึ้นมาพบเจอเมื่อสร่างเมา
ถ้าตอนนี้เป็นช่วงเปิดเทอมก็คงดี อย่างน้อยก็ได้เจอเพื่อนที่มหาลัยให้พวกมันด่าเตือนสติ
แต่ตอนนี้ใคร ๆ ก็ไปเที่ยวต่างประเทศแล้วอัพรูปลงอินสตาแกรม
ทุกคนบนโลกมีความสุขยกเว้นโอเซฮุน
‘รูดการ์ดแล้วก็กลับบ้านไปหาสิ่งดี
ๆ ทำซะ อกหักแล้วเมาปลิ้นคนเดียวเมื่อคืนไม่แหกโค้งก็ดีแค่ไหนแล้ว’
เสียงของผู้ชายคนนั้นยังคงก้องอยู่ในหัว
ถึงจะไม่ได้แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยแถมยังติดเอือมระอานิด ๆ แต่มันก็ทำให้เขาฮึดสู้ลุกขึ้นเดินไปหยุดอยู่ข้างลู่วิ่งออกกำลังกาย
แล้วใช้เวลาอยู่กับมันนานเป็นชั่วโมงจนเหงื่อโชก หลังจากนั้นก็แช่น้ำอยู่ในอ่างอีกเป็นชั่วโมงก่อนจะเดินออกมาในสภาพเหมือนร่างที่มีแค่กายหยาบ
สองขาหยุดชะงัก สายตาจับจ้องอยู่กับชุดกรัง ๆ บนพื้นที่เขาใส่ออกมาจากอู่ซ่อมรถก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู
“...”
--------------------------------------
I WANNA FIX YOU
M A L I N W O R L D
--------------------------------------
สามทุ่มเป็นเวลาปิดอู่แล้วแต่คนที่เพิ่งพักจากการทำงานยังต้องเดินไปเลื่อนบานประตูม้วนขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกดกริ่ง
ไม่บ่อยนักที่จะมีคนมารบกวนเขาเวลานี้ แม้แต่น้องชายที่ชอบนอนบ้านมากกว่าห้องกรัง
ๆ ในอู่ และลูกน้องซึ่งมักจะโทรมามากกว่าถ้าเป็นเรื่องเงิน
ชายหนุ่มไม่ได้แปลกใจเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือลูกค้าวีไอพีที่เขาดูแลเกินหน้าที่ไปเมื่อคืน
จงอินปล่อยมือออกจากบานเหล็กม้วนแล้วค้ำมือไว้กับกรอบประตู เขาเห็นว่าเจ้าของใบหน้าขาวนั้นตาแดงก่ำเหมือนคนเพิ่งผ่านการร้องไห้มาหมาด
ๆ ถ้าเดาไม่ผิด... ถุงกระดาษในมือลูกผู้ดีมีเงินอย่างโอเซฮุนคงมีเสื้อผ้าของเขาที่ใส่กลับไปเมื่อบ่ายนี้
“ไง”
คนตัวผอมไม่ได้เอ่ยทักทายกลับ
ริมฝีปากที่สั่นเครือกับสีหน้าที่เหมือนว่าพยายามทำให้เป็นปกตินั้นใช่ว่าเขาจะดูไม่ออก
ตอนอกหักเป็นยังไงคิมจงอินพอจะจำความรู้สึกนั้นได้บ้างแม้ว่าจะผ่านมานานแล้ว
แต่การที่เด็กนี่มายืนจ้องหน้าเขาแล้วทำท่าเหมือนจะปล่อยโฮออกมานี่มัน...
“เพิ่งซ่อมไปนี่เสียอีกแล้วเหรอ?”
เซฮุนไม่ได้ตอบคำถาม
เขาเพียงแค่ยืนนิ่งแล้วปล่อยให้ความเงียบตามละแวกนี้ครอบงำ เจ้าของผิวสีแทนในชุดเสื้อแขนกุดสีดำกับกางเกงนอนขายาวเดินเข้าหาอีกฝ่ายแค่ก้าวเดียว
จากตรงนี้เขาสามารถได้กลิ่นหอมจากตัวอีกฝ่ายได้ ไม่เหมือนเมื่อคืนที่มีแต่กลิ่นเหล้าอบอวลไปหมด
“แบบนี้เขาเรียกแพ้กลางคืน”
“กลางวันผมก็แพ้ถ้าอยู่คนเดียว”
“ก็เลยมาที่นี่?”
“ขอโทษ แต่ผมคิดอะไรไม่ออก” เซฮุนไม่ปฏิเสธความจริง เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย
ถ้าจงอินไล่เขากลับไปแล้วเลื่อนประตูม้วนลงคงได้ร้องไห้มันตรงนี้แน่ ๆ “ถ้าผมมาซ่อมรถ คุณก็จะให้ผมอยู่ด้วยสักชั่วโมงนึงใช่ไหม?”
เขาเหมือนคนโง่ที่ไร้ทางออกเลยต้องพึ่งวิธีนี้
ซึ่งถ้าช่างซ่อมรถที่มีความสัมพันธ์กันแค่ช่วงข้ามคืนจะปฏิเสธแล้วปิดประตูใส่ก็คงไม่แปลก
จงอินไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นตั้งแต่แรก การที่อีกฝ่ายยังอยู่คุยด้วยโดยไม่นึกเหยียดก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว
“ชั่วโมงเดียวจะพอหรือไง?”
“...”
จงอินขยับเข้าใกล้อีกหนึ่งก้าว
เซฮุนไม่ได้ถอยหนีเมื่อในวินาทีนี้เขาเป็นคนเลือกเองว่าต้องการอยู่ที่นี่
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย
แววตาคมคู่นั้นไม่ได้ส่อแววรำคาญเหมือนเมื่อตอนกลางวันที่พร้อมจะกำหนดเวลาบทสนทนาได้เสมอถ้าเป็นเรื่องที่ไม่สนใจ
“อยากให้ผมซ่อมอะไรล่ะ” ชายหนุ่มเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้เจ้าของดวงตาแดงก่ำที่ดูเหมือนว่าต้องการความช่วยเหลือจากเขา
“รถ... หรือว่าความรู้สึกของคุณ?”
--------------------------------------
I
WANNA FIX YOU
M A L I N W O R L D
--------------------------------------
ไม่รู้ว่าจะถูกใจกันไหม
ยังไงก็ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
สครีมติดแท็ก #ohyeskaihun
ได้เลยน้า
เริ้บ
ความคิดเห็น