คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : kokeun ♦ | Fire Trap
BGM: DEV - Kiss It ft. Sage The Gemini (จริง ๆ เป็นเพลงที่เปิดฟังตอนเขียนค่ะ แหะ ๆ)
「 Fire Trap 」
Story by
kokeun
- - - - - -
-
บนโลกนี้มีอาชีพต่าง ๆ
เป็นร้อยเป็นพันอาชีพ ต่างถิ่นฐานให้ความสำคัญในอาชีพต่างกัน แต่ถ้าพูดถึงฮีโร่แล้วล่ะก็ที่นี่ยกให้
‘นักผจญเพลิง’ เป็นอาชีพที่มีเกียรติและน่ายกย่องเป็นอันดับต้น
ๆ ของประเทศ
U.S.A. – Illinois – Chicago.
“นี่เรียกว่าสัญญาณเตือนภัย” ร่างโปร่งในชุดกึ่ง Station Gear* กึ่ง Bunker Gear** นิ้วเรียวจับที่อุปกรณ์สี่เหลี่ยมสีดำที่ห้อยอยู่ตรงไหล่ขวา
กวาดตามองเด็กวัย 8-10 ขวบที่สวมหมวกนิรภัยจ้องมาที่เขาอย่างอยากรู้อยากเห็น
โอเซฮุน แอบสบถอยู่ในใจหลายครั้งกับการที่จะต้องมายืนบรรยายให้กับคณะทัวร์จากโรงเรียนในเมือง
พลางเหลือบมองไปยังคนที่สั่งให้เขามาทำอะไรบ้า ๆ แบบนี้ ท่าทางไม่เดือดร้อนแถมยังดูชอบใจกับสภาพพี่เลี้ยงเด็กของเขาในตอนนี้ซะเหลือเกิน
“ไอ้นี่น่ะถือเป็นอุปกรณ์สำคัญมากเลยล่ะ”
เซฮุนพูดต่อพยายามไม่สนใจเสียงหัวเราะจากคนในทีมที่ท่าทางจงใจจะมานั่งดูการบรรยายของเขาโดยเฉพาะเพราะถ้าเป็นปกติเวลานี้น่ะหรอขลุกกันอยู่แต่ในครัวนั่นแหละอย่าหวังว่าจะได้เห็นนั่งโชว์เบ้าหน้ากันพร้อมเพรียงแบบนี้
“ถ้านักดับเพลิงไม่ขยับตัว ภายใน 18 วินาที
ไอ้เครื่องนี้ก็จะดังเตือนจนกว่าเขาจะเคลื่อนไหว”
“ทำไมต้องทำแบบนั้นครับ”
เด็กชายคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม เซฮุนยกยิ้มก่อนจะเคาะมือลงไปบนหมวกนิรภัยที่เด็กชายคนนั้นสวม
“เพราะเวลานักดับเพลิงได้รับบาดเจ็บหรือติดกับ
เราจะรู้ได้ว่าควรหาเขาที่ไหนไงล่ะ”
พูดไปก็เปิดสัญญาณเตือนให้ฟังเป็นตัวอย่างดังจนเด็ก ๆ ยกมือขึ้นมาปิดหู
รวมทั้งคนในทีมที่ส่งเสียงบอกว่ามันดังเกินไป
สมน้ำหน้าแล้วล่ะ
“สถานีกับเพลิงแห่งนี้พิเศษตรงที่มีหน่วยกู้ภัยด้วย
หน่วยกู้ภัย 3 เป็นที่สุดของเมืองนี้ ที่ชำนาญงานกู้ภัยทุก ๆ ด้าน
การช่วยเหลือทั้งทางน้ำ และการค้นหาก็ทำได้ เป็นหน่วยที่แข็งแกร่งที่สุดและแน่นอนฉันก็เป็นหนึ่งในสมาชิกหน่วยกู้ภัย
3 เหมือนกัน” เซฮุนตบอกอย่างภาคภูมิใจต่อหน้าเด็ก ๆ
ที่ตาเป็นประกายอย่างชื่นชมแต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา
“พึ่งเข้ามาได้เดือนกว่า
ยืดหน้ายืดตาแบบนี้ไม่อายเด็กมันก็อายพวกฉันที่นั่งอยู่บ้าง” คิมจงอิน หรือ
หัวหน้าคิม หัวหน้าหน่วยกู้ภัยคนเก่งที่เซฮุนแอบพ่วงตำแหน่งปากหมาดีเด่นให้อย่างลับ
ๆ ไม่รู้ว่าหัวหน้าคิมนี่จะมีปัญหาอะไรกับเขามากหรือเปล่า
อาจจะเป็นเพราะจบจากโรงเรียนฝึกกู้ภัยที่เดียวกัน
เซฮุนคิดว่าตัวเองกำลังโดนรับน้องโดยการโดนมอบหมายหน้าที่ง่อย ๆ
มาตลอดตั้งแต่ก้าวเข้ามาอยู่ที่นี่วันแรก
ให้ตายเถอะ
เขานักเรียนตำรวจกู้ภัยที่จบมาได้ในฐานะคะแนนเป็นอันดับที่ 2 ของระดับชั้นเชียวนะเว้ย!
“อย่าลืมบอกเด็ก ๆ
เกี่ยวกับคติของหน่วยกู้ภัยด้วยล่ะ ไปถึงก่อน
ออกเป็นคนสุดท้าย แต่เอ...”
จงอินนิ้วขึ้นลูบปลายคางทำเหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่าง
“นายออกเป็นคนแรกตลอดเลยนี่นา...”
สาบานได้ว่าตอนนี้เซฮุนกำลังโกรธจนรู้สึกมีเสียงเปรี๊ยะดังอยู่ในหัว
ตาเรียวมองไปยังคนที่ส่งรอยยิ้มกวนประสาทมาให้แต่บอกได้เลยว่าเวลานี้เขาไม่ตลกด้วย
ไม่ในใจจะท่องว่าใจเย็น ๆ แต่ขามันก็ก้าวตรงออกไปหาเป้าหมายโดยไม่สนใจเด็ก ๆ
ที่ยังคงมองตามมาเป็นตาเดียว ไม่สนเสียงคนในทีมที่เอาแต่พูดว่าโอเซฮุนของขึ้นอีกแล้ว
ในหัวของเซฮุนตอนนี้มีเพียงความคิดที่ว่าเขาต้องได้ต่อยปากไอ้หัวหน้านี่สักหมัดถึงจะลบล้างความโกรธนี้ได้แต่ไม่ทันที่จะก้าวไปถึงร่างที่นั่งเลิกคิ้วอยู่บนเก้าอี้คงจะตกใจกับท่าทางของเขาอยู่พอตัวเสียงสัญญาณเตือนก็ดังขึ้นซะก่อน
ตื้ด ตื้ด ~
‘เกิดเหตุเพลิงไหม้ บ้านเลขที่556
ถนนคลากส์’
‘เรียกสถานี 58 รถดับเพลิงหมายเลข 88 รถพยาบาลหมายเลข 68’
เป็นจงอินที่ไหวตัวหยิบชุด Bunker Gear ขึ้นมาหอบไว้ที่แขนอย่างรวดเร็ว
ก้าวขายาว ๆ มาเลื่อนหมวกนิรภัยเซฮุนที่ยืนอยู่ห่างไม่ถึงสามก้าวให้บังไปถึงสันจมูก
“จำให้ขึ้นใจสิ ไปถึงก่อน ออกเป็นคนสุดท้าย”
ร่างโปร่งถอดหมวกนิรภัยออกอย่างหัวเสียมองแผ่นหลังของหัวหน้าคิมที่เดินไปหยุดอยู่ที่ประตูรถดับเพลิงแล้วหันมาส่งเสียงเรียกให้คนในทีมที่วิ่งวุ่นกับการหยิบจับอุปกรณ์และชุด
Bunker Gear
“เร็วเข้า!”
ตอนนี้เซฮุนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากสูดหายใจเข้าลึก
ๆ บอกเด็ก ๆ ให้รอคนบรรยายจากหน่วย 2 อยู่กับที่
แล้วออกวิ่งไปยังรถดับเพลิงหมายเลข 88 ที่เปิดอ้ารอพร้อมกับหัวหน้าคิมที่มองเขาอยู่ไม่วางตา
.
เสียงไซเรนดังระงมไปทั่วพื้นที่ทีมกู้ภัยทยอยลงจากรถด้วยความเร่งรีบ
บ้านเดี่ยวสองชั้นที่ไฟกำลังประทุที่ชั้นล่างแสงสีส้มของเปลวเพลิงบ่งบอกได้ว่าถ้าไม่รีบมันอาจจะไม่หยุดแค่นั้น
ควันสีขาวโขมงไปทั่วบริเวณรอบบ้าน
จงอินหันไปสั่งให้คนในทีมคนหนึ่งไปกันชาวบ้านที่มุงดูอยู่ออกไปให้พ้นเขตอันตราย แว่วได้ยินเสียงหัวหน้าทีมย่อยสั่งการเรื่องต่อท่อ
เขาตรงไปหาผู้หญิงผมยาวกระเซอะกระเซิงที่ยืนอยู่หน้าบ้านด้วยสีหน้าร้อนรน
“น้องสาว ฉันยังอยู่ในห้องนอนชั้นบน”
เธอบอกพร้อมกับดวงตาแดงก่ำ “เธอลงมาไม่ได้”
“บนนั้นใช่ไหม”
ร่างหนาชี้ไปที่ชั้นสองทางด้านซ้าย
หญิงสาวพยักหน้ารับเขาไม่พูดอะไรต่อนอกจากบอกให้เธอไปที่หน่วยพยาบาลเพราะเธอเริ่มมีเลือดไหลที่หน้าผาก
“มีคนติดอยู่ด้านบน
เอาบันใดยาวมา ฉันกับจอห์นจะขึ้นไปช่วยพาออกมา
ครั้งสุดท้ายเธออยู่ในห้องนอนแต่ถ้าไม่มีก็คงเป็นที่บันใดหรือห้องโถงสักที่” จงอินหันไปสั่งที่รถก่อนจะหันกลับมาสั่งคนในทีมที่ยืนสวมอุปกรณ์รอคำสั่งอยู่ใกล้
ๆ รวมทั้งเซฮุนด้วยเช่นกัน
“ส่วนเท็ดเข้าไปทางหน้าบ้าน
ดูว่าเพลิงไหม้ไปถึงไหนแล้วเลี่ยงจุดเสี่ยงระเบิดหาช่องระบายลม”
พูดจบทุกคนก็แยกย้ายไปจัดการส่วนของตน
ร่างหนาเดินไปจัดการอุปกรณ์ที่รถอีกครั้งระหว่างรอพาดบันใดยาวกับหน้าต่างชั้นสอง ทำทีเป็นไม่สนใจคนที่เดินตามมาแถมยังเรียกชื่อเขาห้วน ๆ ซะจนตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาบ้างแล้ว
“เฮ้! แล้วหน้าที่ผมล่ะ! หัวหน้า! เฮลโหล คิมจงอิน!”
เห็นว่าอีกฝ่ายแกล้งเมินเซฮุนก็จะเรียกอยู่แบบนี้ไม่ด่าคำหยาบออกมาก็ถือว่าเขามีความอดทนมากโขเลยทีเดียว
เดินเข้าไปประชิดตัวร่างหนาที่เอาแต่ง่วนกับอุปกรณ์แล้วก็ต้องชะงักเมื่ออีกคนหันกลับมากะทันหันเราใกล้กันจนเซฮุนเห็นรอยแผลที่หัวคิ้วของอีกฝ่าย
“ส่วนนายน่ะ
ไประบายควันที่ด้านหลัง รู้ใช่ไหมต้องทำยังไง”
ว่าเสียงเรียบพร้อมกับขวานซอมซ่อสีแดงที่ปะทะเข้ากับอกจนต้องรีบจับไว้เพราะกลัวมันจะเฉาะหน้าเอา
“หน้าที่กะโหลกกะลาแบบนี้อีกแล้วหรอวะ”
เซฮุนพึมพำอย่างหัวเสียมองแผ่นหลังอีกฝ่ายที่เดินจากไปแล้วแน่นอนว่าไม่ใช่แววตาที่รักใคร่ชื่นชมเพราะในหัวของเซฮุนกำลังกลั่นกรองคำหยาบคายที่ทั้งชีวิตนี้จะนึกออกแต่ยังไม่ทันหมด
จอห์นที่ยืนอยู่หน้าบันใดก็ตะโกนมา
“เร็วเข้าเด็กใหม่ อย่ามัวแต่ยืนอู้เสียการเสียงาน!”
ได้ยินดังนั้นเด็กใหม่อย่างเซฮุนก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินหัวเสียหายไปที่หลังบ้านโดยไม่รู้ตัวเลยว่าหัวหน้าคิมมองการกระทำนั้นอย่างชอบใจทีเดียว
ร่างหนาปีนบันใดขึ้นไปที่ชั้นสองมองรอดหน้าต่างใสเข้าไปด้านในซึ่งเป็นห้องนอนสีขาวโล่ง
ดูเหมือนเพลิงไหม้จะยังลามมาไม่ถึงเพราะภายในห้องยังปกติมีแค่ควันจาง ๆ เท่านั้น
มือกร้านยื่นไปขอแชลงจากจอห์นที่อยู่ด้านหลังเขาใช้มันทุบกระจกจนแตกกระจายจนจอห์นต้องปรามว่าให้เบาหน่อย
จงอินหันไปยกยิ้มเมื่อเปิดหน้าต่างเข้าไปได้ดึงหน้ากากกันควันลงมาปิดหน้าก่อนจะส่งสัญญาณให้เข้าไปด้านใน
“เท็ดข้างล่างเป็นไงบ้าง”
จงอินกรอกเสียงผ่านวิทยุสื่อสารสำรวจห้องนอนที่ปกติดีแต่ไร้วี่แววผู้คน เท็ดตอบกลับมาด้วยคำตอบที่ไม่น่าชื่นใจนักแม้จะเจอช่องระบายลมแต่กลุ่มควันและเพลิงไหม้ก็ลุกลามอย่างรวดเร็ว
แน่นอน...พวกเขาต้องรีบแล้ว
เขาส่งสัญญาณบอกจอห์นให้เปิดประตูไปหาผู้ที่ติดอยู่เพราะภายในห้องไม่หลงเหลือใครแล้ว
ย่อตัวลงต่ำเมื่อกลุ่มควันจำนวนหนึ่งลอยอยู่ด้านบนตลอดทางเดิน หันสั่งให้จอห์นไปดูตามห้องต่าง ๆ
ด้านบนส่วนเขาเดินไปทางบันใดที่ดูเหมือนเปลวไฟสีส้มกำลังกลืนกินเข้ามาทุกที
“นี่ตำรวจดับเพลิง! มีใครอยู่ในนี้บ้าง! ตอบด้วย!” กวาดสายตาไปรอบ ๆ
เบื้องหลังควันสีขาวและแสงสลัวจากเปลวไฟด้านล่าง รู้สึกถึงเหงื่อที่ไหลจากใบหน้าภายใต้กรอบหน้ากากกันควันนั้น
ส่องไฟฉายไปรอบ ๆ ก็พบบางอย่าง
ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนอนสลบอยู่ที่บันใด
จงอินรีบเข้าไปจับที่ใบหน้าของเธอตบเบา ๆ
เพื่อเรียกสติปากก็เรียก ‘คุณ ๆ’ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเธอจะตื่นขึ้นมาเขาจึงหันไปจับชีพจรที่คอก่อนจะโล่งใจเมื่อมันบ่งบอกว่าเธอยังชีวิตอยู่
“อ๊ากกก” เสียงร้องจากด้านล่างเรียกความสนใจของหัวหน้าทีมเขาเอ่ยคำว่า
เท็ด ออกมาเบา ๆ ก่อนจะวิทยุสื่อสารให้จอห์นมารับตัวผู้หญิงคนนี้ออกไปก่อน
“เท็ด! เกิดอะไรขึ้นตอบด้วย!”
“คานหลนลงมาทับแขนฉันว่ะ อยู่ที่ห้องโถง ช่วยที”
น้ำเสียงเจ็บปวดของเท็ดทำเอาหน้าหัวหน้าทีมเครียดขึ้นมาทันที
จอห์นมีสีหน้าไม่ต่างกันในอ้อมแขนมีหญิงสาวหมดสติอยู่
“นายพาเธอออกไปก่อนส่งให้ถึงมือหน่วยพยาบาลเดี๋ยวฉันจะลงไปช่วยเท็ด
ถ้ามีอะไรจะติดต่อไป” จอห์นพยักหน้ารับก่อนจะวิ่งกลับไปทางห้องนอนที่เขาเข้ามาก่อนหน้า
ไม่รอให้เวลาผ่านไปนานร่างหนามองไปยังด้านล่างที่เต็มไปด้วยเศษซากของเฟอร์นิเจอร์เปลวไฟสีส้มเหลืองร้อนระอุจนต้องหรี่ตา
บันใดทางลงตอนนี้ที่ไม่สามารถใช้ได้เพราะมันโดนไฟเผากว่าครึ่ง หัวหน้าคิมมองลงไปด้านล่างเพื่อหาทางลงไปก็เห็นโต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่พอดีกับราวบันใดและยังไม่โดนไฟไหม้เขาหยิบเชือกกู้ภัยขึ้นมาพันเข้ากับลูกกรงราวบันใดลองดึง
ๆ ดูเพื่อสำรวจความแข็งแรงขายาวก้าวข้ามมาอีกฝั่งก่อนจะค่อย ๆ โรยตัวลงไปช้า ๆ
เมื่อเท้าแตะลงบนโต๊ะก็ปลดเชือกออกแล้วส่องไฟฉายไปรอบ ๆ ก็พบร่างของเพื่อนในหน่วยที่นอนอยู่กับพื้นพยายามจะดันแผ่นไม้ใหญ่ที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทับแค่แขนแต่ทับไปทั้งฝั่งซ้าย
“นายโอเคนะ”
จงอินถอดหน้ากากกันควันออกเพื่อจะได้คุยกับอีกฝ่ายถนัด ๆ เท็ดที่ดูเหนื่อยหอบแต่ก็ยังทำหน้ากวนประสาทส่งมาให้
“ช้าแบบนี้ฉันอาจจะกลายเป็นคนพิการ” คำตอบของเท็ดทำให้ความตึงเครียดเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เบาบางลง
มือหนาดันหน้ากากกันควันของเพื่อนให้ปิดลงดังเดิม
ก่อนจะลุกขึ้นไปใช้กำลังทั้งหมดกับท่อนคานใหญ่จนมันพ้นร่างสูงใหญ่ของเท็ด
จงอินย้ายตัวออกมาพยุงเพื่อนให้ยืนขึ้นอย่างทุลักทุเลนิดหน่อยเพราะร่างด้านซ้ายของเท็ดคงอ่อนแรงและเจ็บ
มองไปรอบ ๆ ทางด้านบนที่โดนไฟกลืนไปทีละนิด
ก่อนจะรีบพาร่างของทั้งเขาทั้งเพื่อนออกไปทางประตูที่ก่อนหน้านี้เท็ดคงเคลียร์ไว้ตั้งแต่ตอนเข้ามาทำให้มันไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรนัก
แสงอาทิตย์สีส้มภายนอกบ่งบอกว่าเป็นเวลาเย็นแล้ว
จงอินโล่งใจขึ้นมานิดหน่อยที่งานกู้ภัยของเขาสำเร็จไปอีกครั้ง หน่วยพยาบาลเข้ามารับตัวเท็ดให้นอนลงที่เตียงผู้ป่วย
ไม่ทันที่เขาจะได้หันไปถามไถ่อะไรเพื่อน ร่างของเขาก็ถูกกระชากอย่างรุนแรงก่อนที่จะ
พลั่ก!!
หน้าของเขาสะบัดไปทางซ้ายเพราะหมัดขวา
มึนจนต้องสั่นหัวเรียกสติ ในหัวมีแต่คำว่า นี่มันบ้าอะไรวะ
ก่อนที่จะโดนกระชากคอเสื้อให้หันกลับไปอย่างทันอกทันใจ
ใบหน้าที่คุ้นเคยพร้อมกับแววตาโกรธเกรี้ยวที่ส่งมาและแน่นอนตอนนี้เขาก็โกรธขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
ทั้งคู่จ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใครจนเหมือนกำลังเล่นเกมส์ที่ใครกระพริบตาก่อนแพ้
จงอินยกมือขึ้นห้ามเพื่อนที่ทำท่าจะเข้ามาแยกเขาทั้งคู่ออกจากกัน
“นายเป็นบ้าอะไรเซฮุน!”
ขึ้นเสียงออกไปด้วยความโมโหความชาที่ข้างแก้มเมื่อครู่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บ
รสชาติคาว ๆ ที่รู้สึกในโพรงปากคงจะเป็นเลือด
“แค่คุณให้ผมเข้าไป! ถ้าคุณให้ผมเข้าไปกับเท็ด! มันก็จะไม่เป็นแบบนี้ทุกคนจะไม่เป็นอันตรายเราจะใช้เวลาไม่นานเลยในการดับไฟ!”
เซฮุนกัดฟันระงับความโกรธเขย่าคอเสื้อหัวหน้าอย่างเหลืออดไม่ได้เกรงกลัวว่าอีกฝ่ายอาจจะสั่งปลดเขาได้เมื่อกลับไปถึงสถานี
“คุณมันหัวหน้าเฮงซวย!”
เซฮุนสบถเมื่ออีกฝ่ายยังคงเงียบ ใบหน้าขึงขังของคนตรงหน้าเมื่อครู่เปลี่ยนไปเป็นใบหน้าแปลก
ๆ ที่มันยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากจะเสยหมัดเข้าที่ปลายคาง
จงอินคลายสีหน้าลงเมื่อรู้ถึงเหตุผลความโกรธของอีกฝ่าย
คำว่างี่เง่าผุดเข้ามาในหัวเป็นคำแรก แต่มันคงเริ่มต้นมาตั้งแต่ตอนนี้ที่อีกฝ่ายโดนเขาแหย่ที่สถานีและมันเป็นธรรมดาของเด็กตรงหน้าที่มักจะเก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่นัก
แต่ก็ยอมรับว่ามันเป็นความผิดของเขาอย่างไม่มีข้อแก้ตัว
แต่กับเด็กน้อยที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ โอเซฮุน
มือหนาค่อย ๆ
แกะมืออีกคนที่ขยำอยู่ที่คอเสื้อของเขา ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเมื่อเห็นโหนกแก้มที่ปกติแต่งแต้มไปด้วยรอยกระอยู่ประปรายตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยเขม่าสีดำจากควันไฟซึ่งมันเข้ากับได้ดีกับผิวสีขาวนั่น
“ตอนนี้ไฟกำลังไหม้ในใจนาย”
ปรอทความโกรธเมื่อครู่ลดลงมาอยู่ในระดับปกติแล้วมันก็เปลี่ยนมาเป็นความขบขันในที่สุดและไอ้ความรู้สึกอยากแกล้งนี่อีก
จงอินถอดถุงมือสภาพเขรอะออกช้า ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ
ร่างโปร่งที่ยังยืนหัวเสียไม่พอใจและท่าทางจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
จงอินโน้มหน้าเข้าไปใกล้ ๆ จนเห็นใบหูขาวชัดเจน แว่วได้ยินเสียงลมหายใจรุนแรงของอีกคน
“เราเป็นนักดับเพลิง
แต่นายยังไม่รู้จักวิธีการดับไฟในตัวเองเลย...หรือต้องให้ฉันสอนล่ะ?”
จงอินสาบานได้...ว่าประโยคที่เขาเอ่ยออกไปไม่ได้ต้องการที่จะโดนอีกหมัด
________________________
FIRE TRAP
TRAILER
_________________________________________
ชอบหรือไม่อย่างไร ช่วยคอมเม้นหรือติดแท็กบอกด้วยนะคะ
♡
หมายเหตุ
* ชุดหมีหรือชุดยูนิฟอร์มทั่วไปของประเทศนั้น
ๆ พร้อมรองเท้านิรภัย
** ชุดทนไฟ
ทนความร้อน มีหมวก ชุดถังออกซิเจนต่าง ๆ หน้ากากกันควัน หมวกนิรภัย
และรองเท้านิรภัย
Reference : Chicago Fire
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
ความคิดเห็น