ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : นิยายรัก...จั๊กกะจี้หัวใจ : รัก-หลับ'---------->3
กว่าอินและแนนจะได้ออกจากพัทยาและขับรถกลับเข้ากรุงเทพฯ ก็เกือบห้าโมงเย็น เพราะทั้งคู่ต่างมีความสุขกับการอยู่ด้วยกันจนไม่อยากกลับ
“แนน ไปกินข้าวกับพี่ก่อนกลับบ้านไม่ได้เหรอ” อินออดอ้อนเมื่อใกล้จะถึงจุดหมายที่แนนจะลงจากรถ
“ไม่ได้จริงๆค่ะ แนนก็อยากอยู่กับพี่อินต่อนะคะ แต่วันนี้แนนมีนัดทานข้าวกับที่บ้านจริงๆ พี่นัทโทรมาบอกเมื่อบ่ายว่า พ่อเค้าเกิดอยากออกไปกินข้าวนอกบ้านแบบพร้อมหน้าพร้อมตา แล้วพี่นัทเค้าก็ย้ำมาด้วยค่ะ ว่าห้ามเบี้ยวเด็ดขาด พี่อินอย่าโกรธแนนนะคะ” แนนให้เหตุผลและออดอ้อนคนรัก
“ไม่โกรธหรอกจ๊ะ...........แต่พี่คิดถึง แล้ววันนี้พี่ก็คงกินข้าวไม่ลงในขณะที่แนนอร่อยกับมื้อค่ำ” อินอ้อนกลับทำเสียงละห้อย
“ คิดถึงก็โทรมาสิคะ สี่ทุ่มแนนน่าจะถึงบ้านแล้ว วันนี้แนนเอามือถือพี่อินโทรเข้าเครื่องแนนแล้วนะคะ แต่ยังไม่ได้เมมฯชื่อนะ เก็บไว้ให้พี่อินตั้งชื่อเอง ดูสิจะตั้งชื่อแนนว่าอะไร”
“ก็ต้อง ดาร์ลิ่ง...อยู่แล้วสิ จะให้ตั้งเป็นอะไรได้ แล้วแนนเมมฯเบอร์พี่แล้วหรือยังจ๊ะ ” สาวเท่ห์หันมาหยอดคำหวานพร้อมเลี้ยวรถเข้าหน้าห้างสรรพสินค้าจุดนัดพบของแนนและครอบครัว
“เรื่องอะไร เมมฯก่อนเดี๋ยวเสียฟอร์ม อ๊ะ..ถึงแล้วนี่ แนนไปแล้วนะคะ บายค่ะ..” หญิงสาวพูดและหันมาจุ๊บแก้มโชเฟอร์สุดที่รักก่อนรีบวิ่งหนีลงจากรถไปเพราะความเขิน
“นั่นแน่ะ แอบมาขโมยจูบกันด้วย คอยดูเถอะ วันหลังต้องเอาคืนให้สาสมเลย” อินยิ้มพลางคิดในใจก่อนจะออกรถเมื่อเห็นเด็กสาวคนรักลับตาไป
““แนน ยังไม่นอนอีกเหรอ จะตีสองแล้วนะ ” นัทสาวห้าวมาดเท่ห์ พี่สาวของแนนเคาะประตูเรียก
““ก็กำลังจะนอนแล้วค่ะ” แนนเปิดประตูห้องออกไปตอบน้ำเสียงเนือยๆ
““เป็นอะไรหรือเปล่าแนน ธรรมดาพี่เห็นแนนนอนเร็วออก” พี่สาวสุดหล่อเดินเข้ามาในห้องแล้วนั่งลงที่ปลายเตียง
““เปล่าหรอกค่ะ ก็แนนนอนไม่ค่อยหลับน่ะ แล้วพี่นัทล่ะ มีอะไรหรือเปล่า” แนนฝืนยิ้มตอบ พลางคิดในใจ จะให้หลับได้ยังไงล่ะ ดูสิบอกว่าคิดถึงเรา ป่านนี้ยังไม่ยอมโทรมาเลย จะโทรไปก็กลัวจะเสียฟอร์ม คอยดูนะถ้าพรุ่งนี้แล้วยังไม่โทรมาหาเรานะ เราจะ.......จะ........จะโทรไปหาเองก็ได้ เชอะ!
““ก็พี่เห็นไฟห้องแนนยังเปิดอยู่ พี่ก็เลยว่าจะมาขอยืมมือถือแนนหน่อยนะ”
““อ้าว แล้วมือถือพี่ไปไหนล่ะคะ” น้องสาวทำหน้างง
““ก็พี่ไม่อยากให้โชว์เบอร์พี่ เพราะว่าพี่จะเอาไปโทรเช็คอะไรนิดหน่อยน่ะ” พี่สาวตอบเสียงอ่อน
““อ๋อ ที่ทะเลาะกับแฟนเมื่อวานล่ะสิ จะเอาไปโทรเช็คกับเพื่อนเค้า แล้วก็ไม่อยากใช้เบอร์ตัวเองให้เค้ารู้ใช่ไหมล่ะ แหมฟอร์มจัดจริงๆพี่เรา” เด็กสาวทำหน้าล้อเลียน
““ก็แหมนะ...นิดนึง จริงๆเมื่อตอนกินข้าว พี่ก็เอาของแนนแอบไปโทรมาแล้วล่ะ แต่มันยังไม่ได้เรื่อง ก็เลยจะขอยืมอีกทีน่ะ เอ้าน่า..เดี๋ยวพี่จ่ายค่าโทรศัพท์ให้เดือนนี้ทั้งเดือนเลยอ่ะ”
““เหรอคะ เอาของแนนไปโทรแล้วด้วย ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ยังงี้ต้องออกค่าโทรศัพท์ให้สองเดือนเลย”
““แหมยัยแนน ถึงพี่จะโทรไปเกือบยี่สิบเบอร์ แต่ที่ได้คุยจริงๆแค่ห้านาทีเองมั้ง ได้ทีล่ะมาขูดรีดกันใหญ่เลยนะ”
““เอ๊ะ เดี๋ยวนะ พี่นัทโทรไปเกือบยี่สิบเบอร์เลยเหรอ แล้ว........” แนนตกใจรีบคว้าโทรศัพท์มือถือตัวเองขึ้นมากดไล่ดูเบอร์กับเวลาที่โทรออก แล้วหน้าเสีย
““แนน มีอะไรเหรอ ทำไมต้องทำหน้าตกใจยังงั้นด้วยล่ะ” พี่สาวตัวดีงงกับพฤติกรรมน้องตัวเอง
““ก็เบอร์เพื่อนแนนที่ยังไม่ได้เซฟไว้น่ะ มันรันหายไปแล้วน่ะสิค่ะ” เด็กสาวตอบหน้าละห้อย พลางคิดในใจไม่น่าลืมเมมฯเบอร์พี่อินเลย พี่นัทเอาไปโทรออกเยอะยังงี้ มันก็ไม่อยู่แล้วสิ ยังงี้ก็ต้องรอพี่อินโทรมาอย่างเดียวเลยสิเนี่ย โธ่...ไม่น่าเลยเรา
“ในขณะเดียวกันอินก็ยังคงนอนไม่หลับเช่นกัน เพราะใจมันหงุดหงิด แค้นโชคชะตา และโกรธตัวเองจนนอนไม่หลับ จะอะไรซะอีกล่ะ ก็เมื่อตอนหัวค่ำ ตั้งใจจะส่งข้อความไปออดอ้อนคนรักซะหน่อย แต่ก็พบว่าโทรศัพท์แบตฯหมด ดับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ อารามรีบร้อน ไม่ทันคิดอะไร จึงเปลี่ยนแบตฯก้อนใหม่เพื่อจะเปิดเครื่อง โดยลืมไปว่ายังไม่ได้เมมฯเบอร์แนนไว้เลย พอเปิดเครื่องมาอีกที ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ก็เลยหายไปหมด ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่รอแนนโทรกลับมาหา เอง แล้วนี่ก็ตีสองแล้วด้วย แนนไม่เห็นโทรมาเลย สงสัยจะงอนที่ผิดนัดไม่โทรไปหา แต่ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้ก็คงโทรมาต่อว่าเองล่ะ ถึงตอนนั้นค่อยง้อก็ได้มั้ง เฮ้อ.....คืนนี้เลยอดฟังเสียงหวานๆก่อนนอนเลยเรา
~~~~~วันเวลาผ่านไป ~~~~~
““แนน แม่เรียกให้ลงไปกินข้าวแน่ะ” นัทเคาะเรียกแนนที่หน้าประตูห้อง
““แนนไม่หิวค่ะ กินกันไปเลย” เด็กสาวตอบเสียงเบาจากในห้อง
““แนนเป็นอะไรหรือเปล่า พี่เห็นเราซึมๆมาเกือบเดือนแล้วนะ” นัทยังคงเป็นห่วงน้อง
““ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่นัทไปทานก่อนเถอะค่ะ”
““ถ้าหิวก็ลงมาละกันนะ” ในที่สุดนัทก็ยอมเดินไป
““ค่ะ” หญิงสาวพยายามเค้นเสียงตอบให้เป็นปรกติ แล้วหันกลับมานอนร้องไห้ต่อ ใช่สิ...พรุ่งนี้ก็จะครบเดือนนึงแล้วสินะ เดือนนึงที่ได้พบพี่อิน เดือนนึงที่ได้ไปเที่ยวพัทยากับพี่อิน เดือนนึงที่พี่อิน......... แล้วก็ทิ้งเราไป เสียงพร่ำคำหวานที่ให้แนน จริงๆแล้วมันไม่มีความหมายอะไรเลยใช่ไหม ทำไมพี่อินถึงใจร้ายกับแนนขนาดนี้ ทำไมพี่อินไม่โทรหา ไม่ติดต่อมาบ้างเลย แนนคงเป็นเพียงแค่คนชั่วคราวของพี่คนนึงเท่านั้นเองใช่ไหมคะ..พี่อิน
““เฮ้ย.. อินเป็นอะไรหรือเปล่าวะ หมู่นี้เห็นชอบทำหน้าเศร้า แล้วก็มาทำงานสายทุกวันเลย” เพื่อนสนิทที่ทำงานอินเอ่ยถามขึ้น เมื่อสังเกตเห็นอินมีพฤติกรรมแปลกๆมาร่วมเดือน
““ก็...ยังไงดีล่ะ อกหักมั้ง” อินตอบอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต
““แอบไปมีความรักตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย แล้วทำไมอกหักเร็วจัง”
““ก็ไม่รู้จะบอกยังไงว่ะ คือเค้าเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเราน่ะ เรารักเค้านะ แล้วก็คิดว่าเค้าก็รักเราด้วย แต่ทำไมเค้าไม่โทรมาหาเราซักทีก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยเค้าคงไม่ได้คิดจะจริงจังกับเรามั้ง เราคงคิดไปเองคนเดียว”
““เค้าไม่โทรมา ก็โทรไป หรือไม่ก็ไปหาเค้าสิวะ ไม่เห็นจะยาก” เพื่อนสนิทพูดทำนองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ
““เราทำทุกอย่างแล้ว ตอนนี้เราไม่มีเบอร์เค้าหรอก แต่เราไปตามหาเค้าแล้วนะ ที่เห็นเรามาสายเกือบทุกวันเนี่ย ก็เพราะเราไปในที่ๆเราเคยเจอเค้าตอนแรก ที่เดิม เวลาเดิม ทำมาทุกวันเป็นเดือนแล้วเนี่ยก็ไม่เจอเค้าซะทีเลย ขนาดเราไปเปิดหนังสือรุ่น โทรหาฝ่ายทะเบียนของโรงเรียน โทรหาเพื่อนเค้าที่เรารู้จัก หรือไปเดินหาในห้างที่เราเคยไปส่งเค้าเกือบทุกวัน ก็ไม่ได้เรื่องอะไรเลย เราคงไม่มีทางติดต่อเค้าได้จริงๆน่ะแหละ ” อินอธิบายยาวเหยียดด้วยแววตาหมองหม่น
““เออ...น่าเห็นใจว่ะ แล้วเค้าก็ไม่ติดต่อมาเลยเหรอ” เพื่อนคนดีเริ่มเข้าใจสถานการณ์และเริ่มเป็นห่วง
““เค้ามีเบอร์เรานะ แต่เค้าก็ไม่เคยโทรมาหาเราเลย เค้าคงไม่สนใจอะไรเราหรอก เค้าคงลืมเราไปแล้ว” อินพูดอย่างคนท้อแท้และสิ้นหวัง แนนจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้พี่อินเป็นยังไงบ้าง ทำไมแนนไม่แคร์พี่เลย อย่างน้อยจะโทรมาบอกว่าไม่ได้จริงจังกับพี่หรือลืมพี่ไปแล้วก็ยังดี ดีกว่าปล่อยให้พี่เป็นอย่างนี้
“แนน ไปกินข้าวกับพี่ก่อนกลับบ้านไม่ได้เหรอ” อินออดอ้อนเมื่อใกล้จะถึงจุดหมายที่แนนจะลงจากรถ
“ไม่ได้จริงๆค่ะ แนนก็อยากอยู่กับพี่อินต่อนะคะ แต่วันนี้แนนมีนัดทานข้าวกับที่บ้านจริงๆ พี่นัทโทรมาบอกเมื่อบ่ายว่า พ่อเค้าเกิดอยากออกไปกินข้าวนอกบ้านแบบพร้อมหน้าพร้อมตา แล้วพี่นัทเค้าก็ย้ำมาด้วยค่ะ ว่าห้ามเบี้ยวเด็ดขาด พี่อินอย่าโกรธแนนนะคะ” แนนให้เหตุผลและออดอ้อนคนรัก
“ไม่โกรธหรอกจ๊ะ...........แต่พี่คิดถึง แล้ววันนี้พี่ก็คงกินข้าวไม่ลงในขณะที่แนนอร่อยกับมื้อค่ำ” อินอ้อนกลับทำเสียงละห้อย
“ คิดถึงก็โทรมาสิคะ สี่ทุ่มแนนน่าจะถึงบ้านแล้ว วันนี้แนนเอามือถือพี่อินโทรเข้าเครื่องแนนแล้วนะคะ แต่ยังไม่ได้เมมฯชื่อนะ เก็บไว้ให้พี่อินตั้งชื่อเอง ดูสิจะตั้งชื่อแนนว่าอะไร”
“ก็ต้อง ดาร์ลิ่ง...อยู่แล้วสิ จะให้ตั้งเป็นอะไรได้ แล้วแนนเมมฯเบอร์พี่แล้วหรือยังจ๊ะ ” สาวเท่ห์หันมาหยอดคำหวานพร้อมเลี้ยวรถเข้าหน้าห้างสรรพสินค้าจุดนัดพบของแนนและครอบครัว
“เรื่องอะไร เมมฯก่อนเดี๋ยวเสียฟอร์ม อ๊ะ..ถึงแล้วนี่ แนนไปแล้วนะคะ บายค่ะ..” หญิงสาวพูดและหันมาจุ๊บแก้มโชเฟอร์สุดที่รักก่อนรีบวิ่งหนีลงจากรถไปเพราะความเขิน
“นั่นแน่ะ แอบมาขโมยจูบกันด้วย คอยดูเถอะ วันหลังต้องเอาคืนให้สาสมเลย” อินยิ้มพลางคิดในใจก่อนจะออกรถเมื่อเห็นเด็กสาวคนรักลับตาไป
““แนน ยังไม่นอนอีกเหรอ จะตีสองแล้วนะ ” นัทสาวห้าวมาดเท่ห์ พี่สาวของแนนเคาะประตูเรียก
““ก็กำลังจะนอนแล้วค่ะ” แนนเปิดประตูห้องออกไปตอบน้ำเสียงเนือยๆ
““เป็นอะไรหรือเปล่าแนน ธรรมดาพี่เห็นแนนนอนเร็วออก” พี่สาวสุดหล่อเดินเข้ามาในห้องแล้วนั่งลงที่ปลายเตียง
““เปล่าหรอกค่ะ ก็แนนนอนไม่ค่อยหลับน่ะ แล้วพี่นัทล่ะ มีอะไรหรือเปล่า” แนนฝืนยิ้มตอบ พลางคิดในใจ จะให้หลับได้ยังไงล่ะ ดูสิบอกว่าคิดถึงเรา ป่านนี้ยังไม่ยอมโทรมาเลย จะโทรไปก็กลัวจะเสียฟอร์ม คอยดูนะถ้าพรุ่งนี้แล้วยังไม่โทรมาหาเรานะ เราจะ.......จะ........จะโทรไปหาเองก็ได้ เชอะ!
““ก็พี่เห็นไฟห้องแนนยังเปิดอยู่ พี่ก็เลยว่าจะมาขอยืมมือถือแนนหน่อยนะ”
““อ้าว แล้วมือถือพี่ไปไหนล่ะคะ” น้องสาวทำหน้างง
““ก็พี่ไม่อยากให้โชว์เบอร์พี่ เพราะว่าพี่จะเอาไปโทรเช็คอะไรนิดหน่อยน่ะ” พี่สาวตอบเสียงอ่อน
““อ๋อ ที่ทะเลาะกับแฟนเมื่อวานล่ะสิ จะเอาไปโทรเช็คกับเพื่อนเค้า แล้วก็ไม่อยากใช้เบอร์ตัวเองให้เค้ารู้ใช่ไหมล่ะ แหมฟอร์มจัดจริงๆพี่เรา” เด็กสาวทำหน้าล้อเลียน
““ก็แหมนะ...นิดนึง จริงๆเมื่อตอนกินข้าว พี่ก็เอาของแนนแอบไปโทรมาแล้วล่ะ แต่มันยังไม่ได้เรื่อง ก็เลยจะขอยืมอีกทีน่ะ เอ้าน่า..เดี๋ยวพี่จ่ายค่าโทรศัพท์ให้เดือนนี้ทั้งเดือนเลยอ่ะ”
““เหรอคะ เอาของแนนไปโทรแล้วด้วย ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ยังงี้ต้องออกค่าโทรศัพท์ให้สองเดือนเลย”
““แหมยัยแนน ถึงพี่จะโทรไปเกือบยี่สิบเบอร์ แต่ที่ได้คุยจริงๆแค่ห้านาทีเองมั้ง ได้ทีล่ะมาขูดรีดกันใหญ่เลยนะ”
““เอ๊ะ เดี๋ยวนะ พี่นัทโทรไปเกือบยี่สิบเบอร์เลยเหรอ แล้ว........” แนนตกใจรีบคว้าโทรศัพท์มือถือตัวเองขึ้นมากดไล่ดูเบอร์กับเวลาที่โทรออก แล้วหน้าเสีย
““แนน มีอะไรเหรอ ทำไมต้องทำหน้าตกใจยังงั้นด้วยล่ะ” พี่สาวตัวดีงงกับพฤติกรรมน้องตัวเอง
““ก็เบอร์เพื่อนแนนที่ยังไม่ได้เซฟไว้น่ะ มันรันหายไปแล้วน่ะสิค่ะ” เด็กสาวตอบหน้าละห้อย พลางคิดในใจไม่น่าลืมเมมฯเบอร์พี่อินเลย พี่นัทเอาไปโทรออกเยอะยังงี้ มันก็ไม่อยู่แล้วสิ ยังงี้ก็ต้องรอพี่อินโทรมาอย่างเดียวเลยสิเนี่ย โธ่...ไม่น่าเลยเรา
“ในขณะเดียวกันอินก็ยังคงนอนไม่หลับเช่นกัน เพราะใจมันหงุดหงิด แค้นโชคชะตา และโกรธตัวเองจนนอนไม่หลับ จะอะไรซะอีกล่ะ ก็เมื่อตอนหัวค่ำ ตั้งใจจะส่งข้อความไปออดอ้อนคนรักซะหน่อย แต่ก็พบว่าโทรศัพท์แบตฯหมด ดับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ อารามรีบร้อน ไม่ทันคิดอะไร จึงเปลี่ยนแบตฯก้อนใหม่เพื่อจะเปิดเครื่อง โดยลืมไปว่ายังไม่ได้เมมฯเบอร์แนนไว้เลย พอเปิดเครื่องมาอีกที ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ก็เลยหายไปหมด ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่รอแนนโทรกลับมาหา เอง แล้วนี่ก็ตีสองแล้วด้วย แนนไม่เห็นโทรมาเลย สงสัยจะงอนที่ผิดนัดไม่โทรไปหา แต่ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้ก็คงโทรมาต่อว่าเองล่ะ ถึงตอนนั้นค่อยง้อก็ได้มั้ง เฮ้อ.....คืนนี้เลยอดฟังเสียงหวานๆก่อนนอนเลยเรา
~~~~~วันเวลาผ่านไป ~~~~~
““แนน แม่เรียกให้ลงไปกินข้าวแน่ะ” นัทเคาะเรียกแนนที่หน้าประตูห้อง
““แนนไม่หิวค่ะ กินกันไปเลย” เด็กสาวตอบเสียงเบาจากในห้อง
““แนนเป็นอะไรหรือเปล่า พี่เห็นเราซึมๆมาเกือบเดือนแล้วนะ” นัทยังคงเป็นห่วงน้อง
““ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่นัทไปทานก่อนเถอะค่ะ”
““ถ้าหิวก็ลงมาละกันนะ” ในที่สุดนัทก็ยอมเดินไป
““ค่ะ” หญิงสาวพยายามเค้นเสียงตอบให้เป็นปรกติ แล้วหันกลับมานอนร้องไห้ต่อ ใช่สิ...พรุ่งนี้ก็จะครบเดือนนึงแล้วสินะ เดือนนึงที่ได้พบพี่อิน เดือนนึงที่ได้ไปเที่ยวพัทยากับพี่อิน เดือนนึงที่พี่อิน......... แล้วก็ทิ้งเราไป เสียงพร่ำคำหวานที่ให้แนน จริงๆแล้วมันไม่มีความหมายอะไรเลยใช่ไหม ทำไมพี่อินถึงใจร้ายกับแนนขนาดนี้ ทำไมพี่อินไม่โทรหา ไม่ติดต่อมาบ้างเลย แนนคงเป็นเพียงแค่คนชั่วคราวของพี่คนนึงเท่านั้นเองใช่ไหมคะ..พี่อิน
““เฮ้ย.. อินเป็นอะไรหรือเปล่าวะ หมู่นี้เห็นชอบทำหน้าเศร้า แล้วก็มาทำงานสายทุกวันเลย” เพื่อนสนิทที่ทำงานอินเอ่ยถามขึ้น เมื่อสังเกตเห็นอินมีพฤติกรรมแปลกๆมาร่วมเดือน
““ก็...ยังไงดีล่ะ อกหักมั้ง” อินตอบอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิต
““แอบไปมีความรักตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย แล้วทำไมอกหักเร็วจัง”
““ก็ไม่รู้จะบอกยังไงว่ะ คือเค้าเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเราน่ะ เรารักเค้านะ แล้วก็คิดว่าเค้าก็รักเราด้วย แต่ทำไมเค้าไม่โทรมาหาเราซักทีก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยเค้าคงไม่ได้คิดจะจริงจังกับเรามั้ง เราคงคิดไปเองคนเดียว”
““เค้าไม่โทรมา ก็โทรไป หรือไม่ก็ไปหาเค้าสิวะ ไม่เห็นจะยาก” เพื่อนสนิทพูดทำนองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ
““เราทำทุกอย่างแล้ว ตอนนี้เราไม่มีเบอร์เค้าหรอก แต่เราไปตามหาเค้าแล้วนะ ที่เห็นเรามาสายเกือบทุกวันเนี่ย ก็เพราะเราไปในที่ๆเราเคยเจอเค้าตอนแรก ที่เดิม เวลาเดิม ทำมาทุกวันเป็นเดือนแล้วเนี่ยก็ไม่เจอเค้าซะทีเลย ขนาดเราไปเปิดหนังสือรุ่น โทรหาฝ่ายทะเบียนของโรงเรียน โทรหาเพื่อนเค้าที่เรารู้จัก หรือไปเดินหาในห้างที่เราเคยไปส่งเค้าเกือบทุกวัน ก็ไม่ได้เรื่องอะไรเลย เราคงไม่มีทางติดต่อเค้าได้จริงๆน่ะแหละ ” อินอธิบายยาวเหยียดด้วยแววตาหมองหม่น
““เออ...น่าเห็นใจว่ะ แล้วเค้าก็ไม่ติดต่อมาเลยเหรอ” เพื่อนคนดีเริ่มเข้าใจสถานการณ์และเริ่มเป็นห่วง
““เค้ามีเบอร์เรานะ แต่เค้าก็ไม่เคยโทรมาหาเราเลย เค้าคงไม่สนใจอะไรเราหรอก เค้าคงลืมเราไปแล้ว” อินพูดอย่างคนท้อแท้และสิ้นหวัง แนนจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้พี่อินเป็นยังไงบ้าง ทำไมแนนไม่แคร์พี่เลย อย่างน้อยจะโทรมาบอกว่าไม่ได้จริงจังกับพี่หรือลืมพี่ไปแล้วก็ยังดี ดีกว่าปล่อยให้พี่เป็นอย่างนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น