ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Story of Black and White ((เปิดตำนานฝาแฝดพันธ์อัจฉริยะ))

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 โชคชะตาเฮงซวย

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 53


    บทที่ 2   โชคชะตาเฮงซวย
     
     
              “ ~หลั่น ~ ล้า~ สุขใด จะเท่า    ล้วงกระเป๋าแล้ว   เจอตังค์ ~หลั่น ~ ล้า~ ”

              เด็กชายนามว่า ไวท์ ร้องเพลงประจำตัว   อย่างเคยชิน พร้อมกับกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามทางเดินของหมู่บ้าน   มีจุดมุ่งหมายคือ ตลาด กลางหมู่บ้าน

              เห็นไวท์งกๆ อย่างนั้นที่จริงเขาไม่ใช้พวกหน้าเลือดบ้าเงิน หรือพวกเค็มจัด เกลือเรียกพ่อหรอก แต่คนมันต้องกินต้องใช้นี้ และที่เด็กชายเป็นอย่างนี้มันมีสาเหตุหลายประการ ประการแรกที่เด็กชายงก   ก็คือ พ่อของเขาเอง

              ถ้าเทียบกับครอบครัวปกติ  อย่างคนอื่นเขา   ไวท์แทบจะกลายเป็นเด็กน่าสงสารด้วยซ้ำ   พ่อของไวท์ที่เป็นบาทหลวง นั้น ชอบท่องเที่ยวไปสอนหลักศาสนาตามที่ต่างๆ   พร้อมๆ กับกระเตงเลี้ยงไวท์ไปด้วย

              ตอนนั้นไวท์มีความสุขมากเลยละ  ได้ผจญภัยตามที่ต่างๆ   มากมาย   พบปะผู้คนมากหน้าหลายตา   ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ   มากมายอย่าที่เด็กคนอื่นไม่เคยมี   ไม่รู้ มันจะเป็นเรื่องน่าดีใจ   หรือน่าเศร้ากันแน่ เพราะมันทำให้ไวท์กลายเป็นพวกมองหาผลประโยชน์ก่อนหน้าทุกอย่างเสมอมา

              แต่การเดินทางท่องเที่ยวของไวท์ กับพ่อไม่ได้เป็นเส้นตรงผ่านตลอด   มันมักจะมีอุปสรรค์คอยขวางเสมอๆ เลยละ   อย่างต้องหนีตายจากพวกเหยียดศาสนา   เอาตัวรอดจากพวกค้าทาส   อดมื้อกินมื้อ ตามปกติของนักเดินทางไส้แห้ง กระเป๋าตังฉีก   นอนกลางป่า   กินกลางเขา   ตลอดเวลา 10 ปีของชีวิตไวท์   ก็เป็นซะแบบนี้ละ  แล้วจะไม่ให้มีนิสัยขี้งก ติดมาจากพ่อได้ยังไงกันละ

              เมื่อไวท์อายุได้ 10 ขวบ   พ่อเขาก็เริ่มลงหลักปักฐานเป็นครั้งแรกในที่สุดท้ายที่ไวท์ กับพ่อได้ร่วมเดินทางกัน   คือหมู่บ้านแห่งนี้   หมู่บ้านที่ปัจจุบัน   ไวท์ก็ได้วางรากสร้างฐานจนกลายเป็นบ้านของเขาไปแล้ว

              ผ่านมาได้เพียง ปีเดียว  เรื่องน่าเศร้าก็เริ่มเข้ามาในชีวิตไวท์   เป็นเรื่องประหลาดมากๆ   ที่คนแข็งแรงอย่างท่านพ่อของไวท์ที่เคย   ชกต่อย กับพวกหมิ่นศาสนา   เคยแหกคุกพาไวท์หนีจากพวกค้าทาส   เคยอดข้าว 3 วัน  อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร   พ่อไวท์เคยแม้กระทั้งที่อุ้มตัวผมที่หนักกว่า 10 กิโล  เดินจากหมู่บ้านหนึ่งไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง  จะล้มป่วยลงด้วยโรคธรรมดาๆ อย่างไข้หวัด  ที่เป็นเรื้อรัง  รักษายังไงก็ไม่หาย

               แม้ไวท์จะพยายามทำงานมากมายขนาดไหนเพื่อหาเงินรักษาท่าน   ไม่ว่างานอะไรเขารับทำทั้งหมดไม่ว่า เงินมาก หรือน้อย  เขาไม่เคยเกี่ยง   จนไม่มีงานอะไรเหลือในหมู่บ้านอีก   แต่เงินก็ไม่เคยพอสำหรับค่ารักษาท่าน

               ทุกครั้งที่ไวท์กลับบ้านหลังจากการทำงาน   เสียงไอของพ่อที่ลอดออกจากหลังบานประตู   มันแทบจะกลายเป็นใบมีดกรีดแทงลงบนหัวใจเขา   แต่ทุกครั้งๆ ที่หมอออกจากบานประตู บานนั้น  หมอพูดแค่ว่า   พ่อของผมเป็นแค่หวัดธรรมดา ไม่นานก็หาย   แต่ใครละจะไปเชื่อ   ในที่สุดไวท์ก็หยิบหนังสือแพทย์ ขึ้นมาศึกษา ด้วยตนเอง แล้วไล่หมอคนนั้นออกไป

                ไวท์แบ่งเวลาในหนึ่งวันของเขา  ครึ่งหนึ่งไปกับการดูแล รักษาพ่อ   อีกครึ่งไปกับการทำงานหาเงิน   เวลานอนของเขาหายไปกับการอ่านหนังสือแพทย์   อาหาร 3 มื้อต่อวันเป็นของเด็กปกติๆทั่วๆไป  แต่กับไวท์ มันกลายเป็น 1 มื้อต่อวัน บางครั้งก็ 2 วันต่อมื้อ   แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามให้มากเท่าไรมันก็ไม่เป็นผล

              เรื่องราวทั้งหมด ดูเหมือนกับว่าได้ถูกกำหนดไว้ในสิ่งที่มีชื่อเรียกว่า "โชคชะตา"  ไม่ว่าไวท์จะฝืนยังไง  พยายามแค่ไหน ก็เลี่ยงมันไม่ได้

              คำตอบเดียวที่เขาหาได้   ในการตอบโจทย์ปัญหานี้ คือ "สิ้นหวัง"

              “ พ่อขอโทษนะที่ไม่ได้ทำหน้าที่พ่อที่ดีกับลูกต่อได้   พ่อขอโทษที่ไม่ได้ดูแลอะไรลูกเลย   พ่อหวังนะ ว่าซักวันเราจะได้เจอกันอีก  อย่าโทษตัวเองเลย  ลูกไม่ผิดหรอก   พระเจ้าท่านคงอยากได้ตัวพ่อไปรับใช้ข้างกายพระองค์แล้ว   แล้วเจอกันใหม่   ลูกของข้า ไวท์  สตาร์ (White Star)…..”

              นั้นคือคำพูดสุดท้ายของพ่อที่ทิ้งไว้ให้กับเขา ในวันเกิดครบ 12   พ่อก็ได้จากเขาไปท่องเที่ยวในที่ไกลแสนไกลที่ซึ่งเขา ไม่อาจตามไปอยู่ ด้วยได้

              มันช่างเป็นเรื่องน่าเศร้า ยิ่งนัก   พ่อได้ทำหน้าที่พ่อ ที่ดี   ได้ดีที่สุดแล้วสำหรับสายตาไวท์   ดูแลเขามาตลอด 10 ปี   สอนบทเรียนต่างๆ   ให้ทักษะชีวิต ประสบการณ์  มากมายแก่ตัวลูกชาย   แต่เขาที่เป็นลูกกลับมีโอกาสได้ดูแลท่าน ในฐานะลูกที่ดี เพียงแค่ 1 ปี

              หลังจากพ่อของไวท์ตายไป   ความเชื่อทั้งหมดในพระเจ้าที่พ่อเขาคอยพร่ำสอน   และยัดใส่ลงไปในสมองของไวท์   ถูกเขาเองลบเลือนหายไปจนหมดสิ้น

              “ ทำไม ทำไมพระองค์ต้องพรากพ่อ ไปจากตัวข้า ทำไมท่านต้องกำหนดโชคชะตาโง่ๆ แบบนี้   โชคชะตาบ้าๆ ของพระองค์   พ่อข้าเลยต้องตาย   ทำไมกัน ทำไม   โชคชะตาโง่ๆ ของท่านข้าไม่ต้องการ   ต่อไปนี้   ข้าจะเชื่อในการกระทำของตัวข้าเอง ข้าจะขอกำหนดชะตาตัวเอง”

              หลังจากฝังศพพ่อของเขาอย่างเรียบง่าย ไวท์ตะโกนขึ้นไปบนฟากฟ้ายามค้ำคืน   หน้าหลุมศพของพ่อ  โดยหวังเล็กๆ ว่าพระเจ้าที่อยู่บนสวรรค์จะได้ยินคำพูดของเขาบ้าง แค่เท่านั้นเองจริงๆ

              หลังจากนั้นเป็นต้นมาไวท์ก็ยืนหยัดอยู่มาได้โดยพึ่งพาตัวเองมาโดยตลอด   ทำไงได้ละ เขาไม่เหลือใครที่ไหนอีกแล้วนี้   พ่อก็เสียมาได้ปีนึ่งแล้ว   ส่วนแม่ไม่ต้องพูดถึง ผมไม่เคยเห็นหน้าท่านแม่เลย

              พ่อเขาเคยเล่าให้ฟังว่า  แม่ส่งไวท์ให้พ่อเลี้ยง   แล้วหายเข้ากลีบเมฆไป   แต่เมื่อเขาถามว่า พ่อไปรักกับแม่ได้ยังไง

              พ่อกลับตอบว่า   แม่เป็นผู้หญิงที่สวยมาก   สวยที่สุดให้ชีวิตท่านเลย   แค่นั้นละเขาก็ไม่เคยถามอะไรท่านต่อเลย   เหมือนกับว่าคำๆ นั้นเป็นคำตอบของทุกๆ ปัญหา

              จะว่าไปก็น่าตลกดีนะ ไวท์คิดในใจ

    ‘วัน ที่ แม่ส่งผมให้กับพ่อ

    วันที่แม่จากผมไป

    วันที่พ่อเสีย

    วัน ที่ผมเลิกเชื่อในพระเจ้า

    วันที่ทั่วทั้งโลก เหลือตัวผมแค่คนเดียว

              มันจะเป็นวันๆ   เดียวกัน   นั้นคือวันเกิดของผม   เหมือนกับว่าเรื่องแย่ๆ  มันมักจะเกิดขึ้นในวันเกิดผมเสมอๆ

              แต่วันนี้ผมจะทำลายโชคชะตาที่พระเจ้าเป็นคนกำหนด   วันเฮงซวยวันนี้ที่พระเจ้ากำหนดให้ผมต้องสูญเสีย

              วันนี้ละ ผมจะไม่สูญเสียอะไรอีก   วันนี้ละ จะเป็นวันที่ผมจะต้องมีความสุขที่สุด   วันนี้ละผมจะเปลี่ยนวันเฮงซวยให้เป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิต

              ผมจะแสดงให้พระองค์ได้เห็นเอง   ว่า การเล่นตลก ด้วยโชคชะตาของพระองค์  ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ   ต่อเด็กตัวเล็กๆ อย่างผมเลยแม้แต่น้อย....’
     
      ไวท์เดินไปซักพักก็หยุดมองฟ้า สีหน้าเต็มไปด้วยความปวดร้าว พ่อที่อยู่บนนั้นจะกำลังมองดูผมอยู่หรือเปล่าน่า’ เขาสูดหายใจลึกๆ แล้วถอนหายใจออก จากนั้นแววตาเขาก็เปลี่ยนไป แววตาสีฟ้าครามส่งประกายที่เต็มไปด้วยความหวังความมุ่งมั่น ที่หวังจะเอาชนะในโชกชะตาของตัวเอง....

    --------------------------------------จบตอน-------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×