คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่6 [100%]
ได้เวลาแล้ว...
เด็ก สาวร่างบางที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าสวนสนุกกำลังกุมหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองด้วย ใจที่เต้นแรง และตื่นเต้นจัดจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง ว่าจะมีเด็กหนุ่มเดินย่องๆ (?) เข้ามาทางด้านหลังเธอ
"สวัสดี..." คนท่าทางลึกลับกล่าวทักทายหลังใบหู ก่อนจะพ่นลมออกไปเบาๆ ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่แกล้งเธอ
"เอนมะ คุง!!" เธอร้องเสียงหลงก่อนจะตีเอนมะด้วยความเขิน จากที่ตอนแรกตีเบาๆ กลายเป็นเริ่มตีหนักเรื่อยๆ จนเป็นรอยแดงๆ เขาจึงเริ่มยกมือยอมแพ้
"ทีหลังมาก็ให้ซุ่มให้เสียงหน่อยสิจ้ะ แล้วก็อย่าแกล้งอีกนะ" เคียวโกะเอ็ดน้อยๆ เอนมะยิ้ม
"ขอโทษนะ ก็เห็นเธอใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยอยากแกล้งนิดหน่อย"
เป็น S สินะ...
ร่างบางถอนหายใจและยิ้มออกมา ก่อนจะดึงแขนคนข้างๆ ให้เดินเข้าไปข้างในสวนสนุก แต่ก็ต้องเอะใจเมื่อเขาไม่ยอมเดินตาม เธอจึงหันไปมองหน้าเล็กน้อย
"เอนมะคุง ไม่เข้าไปเหรอจ้ะ?" เด็กหนุ่มไม่ตอบ ได้แต่ก้มหน้านิ่ง
"เอนมะคุง... โกรธที่ฉันตีเธอเมื่อกี้เหรอจ้ะ?" เธอว่าพร้อมกับน้ำตาที่คลออยู่กับดวงตาคู่สวย ก่อนจะก้มมองพื้น "ขอโทษนะจ้ะ... ที่ทำให้รู้สึกไม่ดี"
ไม่ทันไรก็ทะเลาะกับเขาซะแล้ว...
เดทแรกของเรา คงไปได้ไม่ดีแน่...
เรานี้มันแย่จริงๆ
"ฉันไม่ได้โกรธเธอหรอกนะ" เด็กสาวเงยหน้าขึ้น ซึ่งพอเงยหน้าขึ้นมาปุ๊บ ก็เจอกับใบหน้าที่แดงเป็นมะเขือเทศของคนตรงหน้า
"ฉันแค่คิดว่า... วันนี้เธอน่ารักดี.... น่ะ" เอนมะตอบน้ำเสียงอึกอัก ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีทันทีหลังจากที่ได้ยินที่เขาพูด
วันนี้เคียวโกะใส่ชุดไปรเวทเป็นเสื้อคอวีสีขาวแขนตุ๊กตา กระโปรงสีครีมอมชมพูยาวเหนือเข่ามาเล็กน้อย รองเท้าเป็นรองเท้าบูทยาวสีน้ำตาล สวมเสื้อกั๊กครึ่งตัวสีชมพูตัวโปรด และติดกิ๊บเล็กๆ น่ารักแต่พองาม ซึ่งแค่นี้ก็เรียกเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะกลองดังของชายหลายๆ คนได้แล้ว...
"ขะ... ขอบคุณจ้ะ" ริมฝีปากที่ถูกตกแต่งด้วยลิปกลอสสีกุหลาบเอ่ยขึ้น "วันนี้เอนมะคุง... ก็เท่เหมือนกันนะจ้ะ"
เอนมะใส่ชุดแบบเดิมไม่ต่างจากธรรมดา จะมีที่แปลกหน่อยก็คือไม่ได้สวมชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนชิมอน แต่ก็ยังคงมีเสื้อฮู้ทด้านในและเสื้อนอกสีดำเหมือนเดิม กางเกงเป็นสีน้ำตาลเข้ม มีสายโซ่โยงระยางไว้เป็นเครื่องประดับ พร้อมกับสวมหมวกใบเท่ๆ สีแดงดำ เคียวโกะมองเอนมะที่แตกต่างจากปกติด้วยใจที่เต้นแรง เท่จัง...
เด็กหนุ่มยิ้มนิดๆ เป็นเชิงขอบคุณก่อนจะส่งมือไปให้ร่างบาง
"จะไปกันหรือยังครับ คุณแฟนที่น่ารัก" เขาว่าด้วยเสียงทะเล้น เคียวโกะอึ้งนิดๆ กับคำพูดของเอนมะ ก่อนจะหัวเราะคิกคักและเอื้อมมือไปหาเด็กหนุ่มด้วยความเต็มใจ
"ยินดีจ้ะ!" เธอและเขาเดินเข้าไปข้างในตัวสวนสนุก โดยที่เด็กสาวไม่รู้เลยว่า การที่เธอส่งมือบางของเธอไปให้เขานั้น
จะกลายเป็นการเข้าสู่ความเจ็บปวดที่แสนสาหัส...
"แล้ว... จะไปที่ไหนกันก่อนดีล่ะจ้ะ" เคียวโกะเอียงคอถามคนข้างๆ เอนมะทำท่านึกสักพักก่อนจะตอบ
"ไปบ้านผีสิงมั้ยล่ะ?" ร่างบางยิ้มก่อนจะพยักหน้าตอบรับ สองหนุ่มสาวจึงเดินไปที่จุดหมายแรกทันที
ณ บ้านผีสิงเขาวงกต กดคนไม่ให้ออก...
บ้านผีสิงเขาวงกต กดคนไม่ให้ออก เป็นสถานที่ที่โด่งดังมากเรื่องความน่ากลัวในสวนสนุกแห่งนี้ ซึ่งข้างในตัวบ้านจะเป็นเขาวงกตที่แสนจะซับซ้อน ซึ่งเป็นที่ลือชื่อกันมากว่าใครที่เข้าไปแล้วนั้นจะไม่สามารถออกมาได้อีก ต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ ส่วนที่ออกมาได้นั้นแทบจะมีน้อยมาก บางคนเข้าไปถึงกับเป็นลมในความน่ากลัวของเหล่าผีทั้งหลาย ทางสวนสนุกจึงเขียนในแผ่นประกาศไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ว่า
ใครไม่แน่จริง... อย่าริอาจเข้าไปในดินแดนลึกลับแห่งนี้!
แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องน่าสนุกของคนบางคนซะได้...
"น่าสนุกจังเลยนะจ้ะ บ้านผีสิงเขาวงกต กดคนไม่ให้ออกเนี้ย" เด็กหนุ่มหันขวับไปมองหน้าแฟนสาวด้วยความตกตะลึง ไอ้ที่เขาว่ากันว่าน่ากลัวที่สุดในสวนสนุก คุณเธอก็ยังเห็นเป็นเรื่องสนุกอีกเรอะ!
เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นความแข็งแกร่งของเด็กสาวที่มีนามว่า ซาซางาวะ เคียวโกะ...
"เอนมะคุง ฉันว่าเรารีบเข้าไปกันเถอะจ้ะ ฉันอยากรู้ว่าข้างในจะน่ากลัวมากแค่ไหน" เอนมะตั้งใจจะปฏิเสธไปเพราะกลัวว่าเธอหรือไม่ก็เขาอาจจะกลัวจนเป็นลมขึ้นมา แต่เมื่อเห็นประกายวิบวับในดวงตาของร่างบาง เขาจึงได้แต่พยักหน้ารับอย่างจำใจ...
เคียวโกะยิ้มกว้างก่อนจะขอตัวไปซื้อตั๋วบ้านผีสิงมาให้ เอนมะได้แต่มองตามหลังของคนวิ่งไปอย่างระอาในท่าทางเด็กๆของเธอ
แต่ก็... น่ารักดีแฮะ
"พวกเจ้าแน่ใจแล้วนะ ว่าจะเข้าไปในดินแดนแห่งนี้..." คนสวมชุดคลุมสีดำเอ่ยถามตรงก่อนทางเข้าบ้านผีสิง ก่อนจะสั่นกระดิ่งเบาๆ
"ค่ะ!" เคียวโกะตอบด้วยน้ำเสียงมาดมั่น ในขณะที่เอนมะยืนดูโครงกระดูกที่ยืนขนาบข้างร่างที่ใส่ชุดคลุมสีดำ ก่อนจะโยกตัวเต้นตามจังหวะเพลง
โครงสร้างมันเป็นมายังไงฟะ ถึงขยับได้ด้วยเนี้ย!
"หึๆ ตอบได้ดีนี่ งั้นข้าจะให้พวกเจ้าเข้าไป แต่มีข้อแม้..." เคียวโกะที่เกือบจะร้องเฮลั่น ก็ต้องสะดุดกึกกับคำพูดประโยคสุดท้าย
“ขะ... ข้อแม้อะไรเหรอจ้ะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงกังวล
“หึๆ พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้อแม้ของข้ามันจิ๊บจ๊อยมาก” ชุดคลุมสีดำบอกพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา เอนมะมองหน้าคนชุดดำด้วยสีหน้าวิตกจริต คงไม่ทำอะไรแผลงๆ หรอกนะ
“แล้วสรุปข้อแม้คืออะไรจ้ะ?”
“ข้อแม้ก็คือ... พวกเจ้าจะต้องจับมือกันไปตลอดทาง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามปล่อยมือ มิเช่นนั้น...”
“เจ้าพวกนี้จะไปหลอกหลอนพวกเจ้า!!” โครง กระดูกที่ตอนแรกใส่ก้นดุ๊กดิ๊กไปมา ตอนนี้หันมาแฮ่ใส่เอนมะและเคียวโกะ แต่ไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆ จากทั้งคู่ นอกเสียจากดวงตาที่เป็นประกายวิบวับเสียยิ่งกว่าตอนที่ขอร้องกับเอนมะเสีย อีก...
“โอ้โห! โครงกระดูกขยับได้ สุดยอดเลย~!! กระดูกนี้สร้างยังไงเหรอจ้ะถึงขยับได้” เคียวโกะหันไปถามคนสวมชุดคลุมดำด้วยท่าทางตื่นเต้นสุดๆ คนถูกถามได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ เมื่อถูกตั้งคำถามแบบนี้เป็นครั้งแรก ก็แต่ละคนที่มามัวแต่กลัวจนไม่กล้าพูดอะไรก่อนจะเข้าไป แต่ทำไมเด็กสาวคนนี้ถึงได้สบายอารมณ์ขนาดนี้เนี้ย!
เอนมะส่ายหน้า ก่อนจะมองเคียวโกะที่ท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งได้ของเล่นใหม่ และยิ้มออกมาด้วยใบหน้าอันอ่อนโยน
ภายในของบ้านผีสิงเขาวงกต กดคนไม่ให้ออก
"แฮ่!!"
"ปล่อยฉันออกไปที~!!"
"แค้น... ฉันจะฆ่าแก!!"
"ไปตายซะ! นังผู้หญิงชั่วร้าย!!"
เสียงโหยหวนของเหล่าผีสางหลายตนถูกถ่ายทอดออกมาด้วยความเจ็บปวด และเคียดแค้น ทำให้ผู้ที่เข้ามาเล่นถึงต้องกับอุดหูเอาไว้ เพราะไม่อยากได้ยินกรีดร้องอันแสบแก้วหู บ้างก็หลับหูหลับตาวิ่งชนนู่นชนนี่ไปมาราวกับคนบ้า แต่ทว่าผู้เข้ามาใหม่สองคนกลับไม่เป็นอย่างที่กล่าวมา
"คิกๆ ดูนี่สิเอนมะคุง ตลกจังเลยเนอะ" เคียวโกะชี้ไปที่หน้ากากผีที่เน่าเฟะตรงตามผนังเพื่อติดไว้ให้คนกลัว แต่แม่คุณกลับคิดว่ามันน่าตลก...
สงสัยสมองจะกลับด้านแฮะ...
"อืม"
"ว้าว! ดูนู่นสิเอนมะคุง มีโครงกระดูกกำลังถูกขังอยู่ในลูกกรงแหล่ะ" เอนมะมองไปตามทางที่ร่างบางชี้ แต่ยังไม่ทันที่จะมองดูให้ละเอียด ร่างบางก็ (ลาก) พาไปดูผีตนใหม่
"ดูสิๆ มีผีกระสือด้วยล่ะ" เธอพูดด้วยสีหน้ากระริกกระรี้ ก่อนจะเหลือบมองไปเห็นของดูเล่น (?) อันใหม่ ไม่รอช้าเคียวโกะรีบดึงเอนมะไปดูด้วยกันทันที
"โอ้โห สุดยอดเลย จูออนจังน่ารักจังเลย~" เอนมะมองหุ่นตุ๊กตาจูออนที่กองอยู่กับพื้น ก่อนจะคิดไปว่า มันน่ารักตรงไหนนะ...
"เห~ ตรงนั้นมีอะไรอีกนะ... ว้าย!" เนื่องจากพื้นมันต่างระดับ และตรงบริเวณนั้นมืดมาก ทำให้เธอสะดุดล้มแต่ก็ได้เอนมะช่วยรับไว้ทัน
"... ไม่เป็นไรนะ"
"จะ... จ้ะ ขอบคุณนะ" เธอกล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม ก่อนจะผละตัวออกจากเอนมะเล็กน้อย แต่คนประคองร่างบางกลับไม่ยอมปล่อย
"เอ่อ..." นัยน์ตาสีแดงมองเข้าไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนอย่างไม่ละสายตา จนคนที่อยู่ในอ้อมกอดได้แต่เขินหน้าแดง ก่อนจะทักท้วงอีกรอบ
"อะ... เอนมะคุง ปล่อยฉันเถอะจ้ะ" เอนมะยอมปล่อยเคียวโกะแต่โดยดี และค่อยๆ พยุงเคียวโกะให้ลุกตาม
ทั้งคู่เดินไปตามทางเขาวงกตที่มีสิ่งหลอกหลอนเต็มอยู่มากมายตรงกำแพงทางเดิน แต่คนที่ส่งเสียงตื่นเต้นมาตลอดทางกลับเงียบลง ทำให้ระหว่างทางที่เดินเงียบมาก เอนมะเหลือบมองเด็กสาวข้างตัวเล็กน้อย ก่อนจะเอามืออีกข้างหยิกแก้มเคียวโกะ คนถูกหยิกแก้มหันมามองเอนมะด้วยความตกใจ
"มะ... มีอะไรเหรอจ้ะเอนมะคุง"
"... ก็เห็นเธอไม่พูดอะไร เลยนึกว่าเธอเดินหลับเหมือนโรโบคอปซะอีก" เคียวโกะมองเอนมะที่กำลังมองเธอมา ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
"คิกๆ แล้วโรโบคอปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะจ้ะ"
"เอ่อก็... เกี่ยว... นิดนึง... มั้ง" เคียวโกะยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะกระชับมือของทั้งสองคนให้แน่นยิ่งขึ้น
เป็นห่วงสินะจ้ะ...
"ฉันไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะ เอนมะคุงไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ" เด็กหนุ่มยิ้มมุมปาก และพาเคียวโกะเดินต่อไปข้างหน้า จนเมื่อมาถึงประตูสามบาน ซึ่งแต่ละบานลักษณะภายนอกเหมือนกันเป๊ะ แต่ข้อความตัวอักษรที่แปะไว้อยู่ตรงบานประตูกลับไม่เหมือนกัน โดยที่บานแรกได้เขียนไว้ว่า
'ปากทางเข้าสู่หายนะ'
เอนมะรีบเบนสายตาไปมองประตูบานอื่นทันทีที่เห็นชื่อ แค่เห็นชื่อ... ก็รู้แล้วเฟ้ยว่าไม่ดี! แต่เมื่อเจอะกับชื่ออีกสองบานประตู เขาถึงกับเอามือกุมขมับ
ใครเป็นคนคิดชื่อ แต่ละอันถึงได้น่าเข้าเช่นนี้!
ซึ่งบานที่สอง ได้เขียนเอาไว้ว่า
'ปากทางเข้าสู่มรณภาพ'
และบานสุดท้าย...
'ปากทางเข้าสู่มิตรสหายเหล่าผีสางอันเน่าเฟะ และคุณก็... เละ'
เอนมะมองดูชื่อที่ปรากฏแก่สายตาเขาอย่างเหนื่อยหน่าย เพราะตัดสินใจยากเหลือเกินว่าจะเลือกบานไหน เพราะแต่ละบาน ชื่อดีๆ กันทั้งนั้น!
ประชดน่ะ...
"เอนมะคุงๆ" เขาหันไปตามเสียงหวานที่เรียก ก่อนจะผงะเมื่อเห็นสายตาวิ้งๆ วับๆ ของเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาอ่อน ที่กำลังมองไปทางประตูบานที่สามราวกับอยากจะเข้าเสียเต็มแก่
"... แน่ใจเหรอ ว่าจะเข้าประตูนี้" เขาถามด้วยเสียงปลงๆ เพราะรู้ว่ายังไงเธอก็ต้องตอบกลับมาว่า...
"จ้ะ! แน่ใจสุดๆ"
ซึ่งก็ไม่ผิดอย่างที่เขานึกไว้...
"อืม... งั้นก็เข้าไปกันเถอะ" เอนมะว่าก่อนจะกระชับมือเคียวโกะให้แน่นขึ้น และยกมือขึ้นเพื่อที่จะเปิดประตู
แอ๊ด....
เสียงเปิดประตูเก่าๆ บานใหญ่ดังขึ้น ทั้งสองคนจึงเดินเข้าไปในห้อง ซึ่งทันทีที่ก้าวขาเข้าไปนั้น...
ร่างทั้งสองก็ได้ตกลงสู่หลุมดำอันมืดมิด!
"กรี๊ด!!!"
"ว้าก!!"
______________________
เป็นไงบ้างคะ สำหรับตอนนี้ รู้สึกว่ายิ่งแต่งมากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกว่า... สำนวนมันจะเริ่มถดถอยลงไปเรื่อยๆ
จากที่มันไม่ดี มันก็จะไม่ดีสุดๆ!! โอย ตายๆ ทำไมยิ่งเขียนยิ่งห่วงลงนะ?
ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเท่าไร ซึ่งเป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ รอเก็บไว้ชมตอนหน้าแล้วกันนะคะ
เอ่อ อยากจะบอกไว้เลยว่า ตอนเดทนี่จะมีสักประมาณสองหรือสามตอน หรือไม่ก็มากกว่านั้นค่ะ
เพราะแต่งไม่เก่ง เลยจบช้า ขอโทษจริงๆ ค่ะ (ร้องไห้)
ติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะคะ (ยิ้มหวาน)
ความคิดเห็น