ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic reborn 0095] Parallel non-day meet

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่4 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 11 ส.ค. 53


     

                       "สวัสดีจ้ะฮานะ วันนี้อากาศดีจังเลยเนอะ" เด็กสาวหน้าตาดีกล่าวทักทายเพื่อนสาว พร้อมกับส่งยิ้มอย่างสดใสไปให้
                              ฮานะละสายตาจากหนังสือที่ตัวเองอ่านอยู่ก่อนจะหรี่ตาทันทีเมื่อเห็นสี หน้าที่กระดี้กระด้ากว่าทุกวันของเคียวโกะ เธอจึงปิดหนังสือที่ตัวเองอ่านค้างไว้ และหันมายิงคำถามใส่คนตรงหน้าอย่างทันควัน
                       "
    ไปทำอะไรมายะ"
                       "
    เอ๋?" เอียงคอด้วยความสงสัย
                       "
    หมายถึงอะไรเหรอจ้ะ"
                              "ฉันหมายความว่า เธอไปทำอะไร ทำไมหน้าเธอถึงได้เบิกบาน~ ซะขนาดนั้นน่ะ" สาวผมดำเน้นไปที่คำว่า 'เบิกบาน'
                              เคียวโกะสะดุ้งอย่างตกใจที่เพื่อนสาวมองเธอออก และรีบยกมือบางมาปิดหน้าตัวเองอย่างอัตโนมัติ
                                "น่ะ... นี่ฉันแสดงออกทางสีหน้าขนาดนั้นเลยเหรอ..."
                                "ก็ใช่น่ะสิ แล้วนี่เธอจะบอกได้ยัง ว่าดีใจเรื่องอะไรมา" ฮานะถามซ้ำอีกที เมื่อเห็นปฎิกิริยาของคนตรงหน้า
                                "มะ... ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ" เคียวโกะพยายามไม่สบตากับคน เลยเบนสายตาไปทางประตูห้อง ซึ่งก็เป็นจังหวะที่เอนมะเดินเข้าห้องเรียนพอดี เด็กสาวเบิกตากว้างทันทีที่เห็นเด็กหนุ่ม ก่อนสมองจะประมวลภาพไปยังเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

                                 

                                  ใบหน้าของเด็กหนุ่มโน้มเข้าหาเด็กสาวก่อนจะนำริมฝีปากบางของเขาไปประทับไว้ ที่ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของเด็กสาวเบาๆ

     

                                 กรี๊ด!!!”

                                 แย้ก!!” มือ บางเผลอทำหนังสือหลุดออกจากมือ และหันไปมองเคียวโกะที่ส่งเสียงพิลึกๆ ออกมา ด้วยความประหลาดใจ เพราะเธอไม่เคยเห็นเพื่อนสาวของตนเป็นอย่างนี้มาก่อน
                                 "เฮ้ เธอไหวแน่นะเคียวโกะ" เธอถามเด็กสาวที่เอามือมาปิดหน้าของตัวเองอยู่ แต่เมื่อสังเกตดีๆ เหมือนสายตาของเคียวโกะจะมองไปที่เด็กใหม่ผมแดง และถ้าเกิดเธอไม่ได้มองผิดไปล่ะก็... เหมือนเคียวโกะจะหน้าแดงเพราะหมอนี่ด้วย!
                                 "เอ่อ... อรุณสวัสดิ์จ้ะเอนมะคุง" เสียงหวานของเคียวโกะทำให้ฮานะหลุดออกมาจากการตั้งสมมุติฐานของตน เธอหันไปมองภาพตรงหน้าที่มีเคียวโกะก้มลงมองพื้นอย่างเขินๆ และเอนมะที่กำลังมองเพื่อนสาวของเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ และเดินไปที่นั่งของตัวเอง ฮานะเบนสายตาไปที่เคียวโกะอีกรอบ ซึ่งตอนนี้เพื่อนของเธอ....

                                  
    กำลังมองไปที่เอนมะราวกับเด็กสาวที่กำลังมีฤดูใบไม้ผลิ

                                  ฮานะนั่งนิ่งมองไปที่เคียวโกะที่กำลังมองทอดไปที่เอนมะอย่างไม่ไหวติ่งกับ สิ่งใดๆ ก่อนจะดึงแขนเรียวบางของเคียวโกะให้มานั่งด้วย
                                 "อ๊ะ!" เคียวโกะร้องอย่างตกใจ และหันไปสบตาก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นสายตาคาดคั้นอันน่ากลัวของฮานะ
    เวรกรรม ฉันจะโดนอะไรมั้ยเนี้ย...
                                 "นี่เคียวโกะ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะว่าเธอกำลังหลงรักเด็กใหม่ที่ชื่อเอนมะใช่มั้ย?" ฮานะว่าและมองไปที่เคียวโกะอย่างจริงจัง ซึ่งไม่ต้องรอคำตอบจากเคียวโกะเธอก็พอรู้
                                  เพราะใบหน้าที่แดงระเรื่อนั่นเป็นตัวบอกดีอยู่แล้ว...
                                  "ฉะ... ฉัน..." เคียวโกะก้มหน้างุดเพราะไม่รู้จะบอกกับเพื่อนสาวของเธออย่างไรดี ในขณะที่เธอกำลังตัดสินใจอยู่ก็มีมือบางมาลูบหัวของเธอ ทำให้เคียวโกะเงยหน้าขึ้นแล้วก็พบว่าเป็นฮานะนั่นเอง คนลูบหัวมองไปที่เธอก่อนจะมองไปทางอื่นและพูดอย่างเสียไม่ได้
                                   "เอาเถอะ ฉันจะไม่คะยั้นคะยอถามอะไรก็แล้วกัน ถึงแม้ว่าอยากจะรู้ก็เถอะ" ใบหน้าหวานยิ้มออกมาก่อนจะกระโดดกอดฮานะ และกล่าวด้วยเสียงเบาๆ
                                   "ขอบใจจ้ะ ฮานะ..."


                                   พักกลางวัน
                                   ด้านข้างโรงยิม ที่ประจำของเคียวโกะ
                                   ร่างบางสอดส่องคนที่เธอตามหา แต่ก็ไม่พบ เธอจึงได้แต่ถอนหายใจและนั่งลงกับพื้นก่อนจะมองไปที่ข้าวกล่องสองกล่องที่ เธออุตส่าห์ตื่นขึ้นมาทำแต่เช้า เพื่อหวังว่าจะให้เขาคนนั้นได้ทานอาหารฝีมือเธอ แต่ทว่าเขาดันไม่มาเสียนี่
                                   เคียวโกะถอนหายใจอีกรอบ
    นี่เราจะไปหวังอะไรกับคำพูดของเขามากมายกันนะ ที่ตอนนั้นเขาพูดมาอาจจะพูดไปงั้นก็ได้  เธอ คิดกับตัวเองอย่างเศร้าๆ ก่อนจะลงมือจัดการข้าวกล่องของตัวเอง แต่เมื่อทานไปได้สักสองสามคำ ก็มีร่างๆ นึงเดินมาหาเธอ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นคนที่เธอตามหาอยู่...
                                   "ไง" เอนมะกล่าวทักทายพลางนั่งลงข้างๆ เคียวโกะ ร่างบางมองไปที่เอนมะอย่างไม่เชื่อสายตาว่าเขาจะมาจริงๆ
                                   "เอ่อ... จ้ะ" เธอว่า ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานเพื่อซ่อนใบหน้าที่ดีใจจนเก็บไว้ไม่อยู่ของเธอไม่ให้เอนมะเห็น

                                    โครก~
                                    เสียงท้องร้องราวกับปีศาจที่กำลังร้องดังขึ้นอย่างไม่เกรงใจเจ้าของ เคียวโกะแอบหันไปขำทางอื่นเบาๆ ไม่ให้คนที่กำลังนั่งท้องร้องอยู่ได้ยิน
                                    "คิกๆ" คนผมแดงหันไปตามต้นเสียงหัวเราะ พลางจ้องเคียวโกะแบบอายๆ ปนค้อนนิดๆ ร่างเล็กที่เพิ่งหันมา เมื่อเห็นท่าทางของคนข้างๆ ก็รีบหันกลับไปพร้อมกับก๊ากแตกในที่สุด
                                     "ฮ่าๆๆๆๆ"
                                         
                                    
    หมดกัน ภาพพจน์สุดเรียบร้อย...

                                    เคียวโกะขำจนน้ำตาเล็ดออกมา แต่เธอก็ยังไม่ยอมหยุดหัวเราะ ซึ่งเธอขำอยู่อย่างนี้อยู่ราวเกือบ10นาที กว่าเธอจะยอมสงบลง แต่เมื่อเธอหันไปเจอหน้าเอนมะ ไอ้ที่ว่ามันจะสงบก็เริ่มหลุดออกมาอีกรอบ เอนมะอายจนทนไม่ไหวเลยสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง
                                   "ฮะๆๆ เอ่อ ฉะ... ฉันขอโทษจ้ะเอนมะคุง คิก~" เมื่อเคียวโกะเห็นว่าเอนมะเริ่มงอนจึงหันมาง้อ แต่ก็ยังมิวายหลุดปากขำออกมา
                                   "..." นิ่ง ไม่สนใจ
    เชอะ!
                                   "ฉันขอโทษจริงๆ นะจ้ะเอนมะคุง คือพอดีฉันไม่เคยได้ยินเสียงท้องร้องใครดังขนาดนี้มาก่อน ขนาดพี่ชายฉันยังไม่ถึงขนาดนี้เลย คิก..."  เคียวโกะว่าพลางหัวเราะคิกคัก แต่เมื่อเห็นคนข้างๆ ไม่ขำไปกับเธอด้วย
                                   ใครจะไปขำกันเล่า ขนาดเสียงท้องร้องพี่ชายของเธอยังสู้ฉันไม่ได้เลยนี่หว่า...
                                   
    ว่าแต่นายงอนเคียวโกะเพราะเรื่องแค่นี้เนี้ยนะ!
                                          
                                   "เพื่อเป็นการไถ่โทษ ฉันยกข้าวกล่องให้เอนมะคุงแล้วกัน" เคียวโกะว่าพลางยื่นข้าวกล่องอีกกล่องไปให้เอนมะ นัยน์ตาสีแดงมองเธออย่างงงๆ ก่อนจะยิ้มออกมา
                                   "นี่เธออุตส่าห์ตื่นขึ้นมา เพื่อทำให้ฉันเลยเหรอ" ว่าเสร็จก็หยิบข้าวกล่องมาและเริ่มลงมือทานทันที ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีเล็กน้อยเมื่อถูกแทงใจดำ
                                   "ปะ.. เปล่าซะหน่อย" เคียวโกะตอบพร้อมกับก้มลงกินต่อ เอนมะยิ้มบางๆ ก่อนจะนั่งกินของตัวเองบ้าง
                                    ทั้งคู่นั่งกินเงียบๆ ไปสักพักจนเมื่อเริ่มอิ่มพวกเจาก็ปิดฝากล่องข้าว เอนมะส่งข้าวกล่องเปล่าไปให้เคียวโกะ มือบางรับก่อนจะสังเกตเห็นตรงมุมปากของเอนมะ
                                    "ข้าวติดน่ะจ้ะ" เด็กสาวว่าพลางเอื้อมมือไปเช็ด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าทำเรื่องน่าอายไปซะแล้ว...
                                    "ขะ ขอโทษจ้ะ!" เธอว่าและชักมือกลับแต่มือหนากลับรั้งมือบางไว้ ก่อนจะโน้มตัวลงมาแล้วเลียข้าวที่ติดอยู่กับนิ้วเรียวของเคียวโกะ คนตัวเล็กตกใจเมื่อถูกสัมผัสจากอีกฝ่าย เธอมองเอนมะด้วยแววตกตระหนื่น แต่ก็ไม่ได้รังเกียจกับสัมผัสนั่น...
                                    นัยน์ตาสีแดงค่อยๆ เงยขึ้นมาและตรึงนัยน์ตาสีน้ำตาลไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหน ทั้งสองได้แต่จ้องตากันไปมา จนเมื่อฝ่ายชายเอ่ยปากพูดออกมาด้วยประโยคที่น่าตกตะลึง
                                   "ฉันชอบเธอ"
                                   "!"
                                  "คบกับฉันได้มั้ย"

                                  ร่างบางได้แต่อึ้งกับคำพูดของคนตรงหน้าจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่คิดในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า
                                  เอนมะคุง ชอบ... เรา?
                                  ความฝัน... ต้องเป็นความฝันแน่ๆ!


                                  "เอ่อ! คือ... ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เธอรู้สึกไม่ดีหรอกนะ แค่... พูดไปตามความรู้สึกน่ะ" เขาพูดด้วยสีหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อ เอนมะปิดใบหน้าแดงๆ ของตัวเองด้วยการก้มมองกับพื้น
                                  "ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ"
                                  "วันนี้... ฉันขอตัวก่อนนะ" เอนมะว่าพลางลุกขึ้นยืนเตรียมที่จะเดินกลับ แต่ก็ถูกมือบางดึงไว้ไม่ให้เขาไปไหน ร่างที่ยืนอยู่หันไปมองเคียวโกะที่กำลังมองเขาด้วยใบหน้าอันแดงก่ำ
                                  "ฉะ... ฉันไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับเอนมะคุงหรอกนะจ้ะ แต่ที่ฉันไม่ได้โต้ตอบอะไรไป เป็นเพราะ...เด็กหนุ่มรอฟังประโยคต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ ว่าเธอคนนั้นจะพูดอะไร

                                   ฉันเขินน่ะ...  เคียวโกะตอบอย่างอ้อมแอ้ม ทำให้เอนมะยิ้มออกมากับคำตอบ แต่เหมือนยังไม่น่าพอใจสำหรับเขา จึงนั่งลงตรงข้างหน้าของเด็กสาว และเธอด้วยน้ำเสียงหงอยๆ

                                   ทำไมถึงเขินล่ะ เพราะถูกไอ้ห่วยอย่างฉันสารภาพรักเหรอ เคียวโกะมองหน้าเอนมะอย่างตกใจ ก่อนจะปฏิเสธเสียงแข็ง

                                    ไม่ใช่นะจ้ะ! ฉันไม่เคยคิดว่าเอนมะคุงเป็นไอ้ห่วยเลยนะ

                                    ....

                                   อย่างตอนที่ฉันตกอยู่ในอันตราย เธอก็ยังช่วยฉันไว้ไม่ใช่เหรอ แถมตอนที่วิ่งหนีพวกนั้น  เธอก็ยังเสียสละเสื้อนอกของเธอมาให้ฉันใส่อีก เอนมะคุงน่ะ เท่จะตาย เอนมะมองร่างเล็กอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า จะมีคนชมเขา...

      

                                       ครั้งแรก... ที่มีคนชมเราว่าเท่...

                                       นี่เธอ... คิดอย่างนั้นจริงๆ น่ะเหรอ เคียวโกะ...

     

                                      เอ่อ... เพราะงั้น อย่าบอกตัวเองว่าห่วยอีกเลยนะจ้ะ เอนมะคุงน่ะ เท่ออกเคียวโกะว่าพร้อมกับส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นมาให้ เอนมะนิ่งไป ก่อนจะขยับเข้าหาเคียวโกะ และเลื่อนใบหน้าไปกระซิบที่ใบหูของเคียวโกะเบาๆ ว่า

                                      ขอบคุณนะ...ว่าเสร็จก็หอมเข้าที่แก้มนุ่มนิ่มของคนตัวเล็กเบาๆ ร่างบางสะดุ้ง ก่อนจะยกมือขึ้นมาแตะตรงที่โดนกระทำเมื่อกี้ เอนมะยิ้มบางๆ กับใบหน้าแดงจัดของเคียวโกะ ก่อนจะถามไล่ต้อนให้หน้าของเธอแดงขึ้นไปอีก

                                      แล้ว... เธอชอบฉันมั้ย 

                                      เอ่อ....

                                      ไม่อยาก... คบกับฉันเหรอ...เอนมะพูดด้วยสีหน้าจ๋อยๆ ทำให้เคียวโกะรีบปฏิเสธทันควัน

                                      ไม่นะ! ฉันอยากคบกับเอนมะคุง เพราะว่าฉัน.... ชอบ... เอนมะคุง... มาก เคียวโกะพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเรื่อยๆ เอนมะยิ้มกับท่าทางน่ารักของคนตรงหน้า

                                      งั้น... คบกับฉันนะ?ร่างเล็กไม่ตอบ แต่พยักหน้าหงึกหงักอย่างเร็วๆ เอนมะยิ้มกว้าง เอ่อ ขอกอดหน่อยได้มั้ย

                                      ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีอีกรอบ เธอไม่ตอบ หากแต่ไม่ปฏิเสธคำขอ เอนมะยิ้มเล็กๆ ก่อนจะสวมกอดเด็กสาวเบาๆ และโอบรัดให้ร่างทั้งสองใกล้ชิดขึ้นกว่าเดิม ร่างบางกอดตอบ และยิ้มกว้างกับตัวอย่างดีใจ ที่รักครั้งนี้ของเธอสมหวัง แต่เธอจะรู้ไหมว่า....

                                       คนที่กำลังกอดเธออยู่ จะยิ้มชั่วร้ายให้กับความสำเร็จกับแผนตัวเอง...

    _______________________________
    จบไปอีกตอนแล้วนะคะ เฮ้อ~ กว่าจะเขียนออกมาได้นี่ยากจริงๆ ทำไมการเล่าเรื่องมันยากงี้น้า
    มีความคิดเห็นอย่างไรกับตอนนี้ก็บอกกันนะคะ อยากจะรู้ว่าคุณผู้อ่านรู้สึกยังไงกับเอนมะบ้าง แหะๆ แต่คงมีคนเกลียดไปแล้วแน่ๆ แง อย่าเพิ่งเกลียดเอนมะน้อยๆ ของพวกเราเลยนะคะ เดี๋ยวต่อไปคุณก็จะรู้ว่าเอนมะไม่ได้เลวอย่างน้านน
    ขอบคุณทุกคอมเม้นมากนะคะ ที่ถึงแม้จะมีน้อยก็เถอะ แต่ช่วยเรียกกำลังใจที่มีอยู่น้อยนิดของฉันให้ฮึดสู้แต่งต่อได้
    ขอบคุณน้องพลอยนะจ้ะ ที่มาสับฟิคพี่
    ขอบคุณคุณแมลงสาบ99 ที่คอยเม้นให้กำลังใจอยู่เสมอ
    ขอบคุณคุณ nutsu26 มากนะคะ ที่บอกว่าฟิคเรื่องนี้สนุก แถมยังบอกว่าจะติดตามอีก ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
    เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป โปรดติดตามอ่านกันด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×