คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1 [เพิ่มเติมจากเมื่อวาน]
เด็กสาวผมสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองดูท้องฟ้าด้วยความเหม่อลอย ซึ่งเธอนั่งอย่างนี้ร่วม 10 นาทีได้แล้วหลังจากออดพักกลางวัน
“นี่เคียวโกะ เมื่อไรเธอจะลุกออกจากที่ซะทียะ” คุโรราวะ ฮานะ เพื่อนสนิทของเด็กสาวเอ่ยขึ้นมาอย่างหงุดหงิด แต่คำตอบที่ได้รับจากเพื่อนสาวก็คือ
“...”
ความเงียบเท่านั้น
คิ้วเรียวๆ ของผู้ที่ยืนเท้าสะเอวอยู่กระตุกขึ้นเล็กน้อย เธอบอกกับตัวเองให้ใจเย็นๆ ก่อนจะหันไปเรียกเพื่อนสาวอีกที
“เคียวโกะ ไปกินข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้วนะ” เธอลองปรับเสียงให้นุ่มลง เผื่อว่าคนที่เหม่อลอยจะหันมาคุยกับเธอบ้าง แต่คำตอบที่ได้รับก็คือ
“...”
ความเงียบเหมือนเดิม
ผึง!
เหมือนมีเส้นอะไรขาดที่สมองของสาวผมยาวดำ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะ...
“ซาซางาวะ เคียวโกะ เธอได้ยินที่ฉันพูดมั้ยยะ!!”
ตะโกนออกมาชนิดที่ว่า โรงเรียนแทบพังเลยทีเดียว แต่มันก็ได้ผล เพราะร่างเล็กที่นั่งอยู่สะดุ้งด้วยความตกใจ
“อะ.. อะไรกันฮานะ ฉันอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่เห็นต้องตะโกนซะดังลั่นขนาดนั้นเลยนี่” เสียงหวานๆ ที่ดังออกมาจากปากสีชมพูเอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจปนแสบแก้วหู
“ก็จะให้ฉันทำยังไงล่ะ ก็ในเมื่อเรียกเธอเป็นรอบที่ร้อยกว่า เธอก็ยังไม่ยอมหันนี่” ร่างบางที่ยืนอยู่เปลี่ยนจากเท้าสะเอว มาเป็นกอดอกแล้วหันมองไปทางอื่น เพื่อให้คนที่นั่งอยู่รู้ว่า เธองอนแล้ว
“ขะ.. ขอโทษจ้ะ พอดีฉันเหม่อไปหน่อย” เด็กสาวผมน้ำตาลได้แต่ก้มหัวขอโทษเพื่อนด้วยความรู้สึกผิด ดวงตาเรียวปลายตามองเพื่อนสาวแล้วถอนหายใจ ก่อนจะนั่งลงกับเก้าอี้
“เฮ้อ ช่างเถอะ ไหนเธอลองเล่ามาซิ ว่าทำไมถึงเหม่อลอยขนาดนั้น” เธอพูดด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง พร้อมกับมองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้า
“ปะ.. เปล่านี่” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเสมองไปทางอื่น ดวงตาเรียวเล็กหรี่ตาลงด้วยความสงสัยในท่าทีประหลาดๆ ของเพื่อนสาว
“บ๊ะ ช่างเถอะ ไปกินข้าวกันได้แล้ว” เธอลุกขึ้นแล้วเดินนำหน้าไปยังโรงอาหารเพราะรู้ดีว่ายังไงยัยเพื่อนตัวดีของเธอคงไม่บอกเหตุผลให้เธอฟังอยู่แล้ว
ร่างเล็กที่นั่งอยู่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ก่อนจะรีบลุกขึ้นตามเพื่อนไปอย่างรวดเร็ว พลางคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชั่วโมงโฮมรูม
และพอคิดถึงทีไร ก็ต้องนึกถึงนัยน์ตาสีแดง...
นัยน์ตาที่น่าหลงใหล...
พลันเมื่อคิดถึงใบหน้าของเจ้าของนัยน์ตาสีแดงทีไร หัวใจก็เต้นเร็วเกินจังหวะทุกที
มือบางยกขึ้นมาปิดหน้าที่แดงระเรื่อของเธอ พลางคิดถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขา
ความรู้สึกเช่นนี้ มันคืออะไรกันนะ?
ดวงตาสีแดงจับจ้องไปที่ร่างบางที่กำลังวิ่งตามเพื่อนของเธอไปอย่างเงียบๆ จนเมื่อร่างบางลับสายตาไป เขาก็ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ไปไหน
“สนใจเธอคนนั้นหรือ? ถึงได้มองนานซะขนาดนั้นน่ะ” เสียงลึกลับดังออกมาจากหลังกำแพง เผยให้เห็นหญิงสาวหุ่นดี ซึ่งเธอใส่ชุดโรงเรียนชิม่อนเดียวกับเขา เธอเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ เด็กหนุ่ม
“อาเดลไฮท์” เอ็นมะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะหันหน้าไปทางเดิม “ก็ไม่เห็นจะแปลกที่จะสนใจนี่ เพราะเธอเป็นคนที่วองโกเล่รุ่นที่10 หลงรัก และก็ยังเป็น ‘เครืองมือ’ ชิ้นสำคัญในการล้างแค้นของเรา”
“นั่นสินะ” เด็กสาวพูด พร้อมกับหัวเราะในลำคอก่อนจะเดินไปทางห้องกรรมการรักษาระเบียบ
“ฉันมีธุระที่จะต้องไปจัดการ นายเองก็รีบลงมือซะล่ะ เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึงพิธีสืบทอดแล้ว” อสเดลไฮท์ว่าเสร็จก็หันหลังไปทันที เด็กหนุ่มได้แต่มองตามหลังไป และเดินไปคนละทางที่อาเฮลไดท์เดิน พลางนึกถึงใบหน้าของเด็กสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องมือในการล้างแค้นของเขา ก่อนจะกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างน่ากลัว...
ซาซางาวะ เคียวโกะ ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจ แต่ก็เป็นได้แค่เครื่องมือฉันล่ะนะ
โดยหารู้ไม่ ว่าเขาจะตกหลุมรักเครืองมือชิ้นนั้นเอง...
“เฮ้อ~ น่าเบื่อจัง” เสียงหวานเอ่ยขึ้นมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะนั่งลงกับที่ประจำของเธอซึ่งติดกับโรงยิม เป็นที่เงียบๆ แห่งหนึ่ง
“ทำไมฮานะต้องโดนเรียกตัวตอนนี้ด้วยนะ” มือบางเปิดฝากล่องข้าวออก และนึกถึงตอนที่เพื่อนสาวของตนโดนเรียกตัวไปช่วยงานที่ห้องสมุด
‘ขอโทษนะเคียวโกะ ไว้เสร็จแล้วเดี๋ยวฉันจะตามไป ไม่ต้องตามมานะ’
“พอจะช่วยก็ไม่ให้ไปอีก อะไรของเขากันนะ” เธอว่าและคีบไส้กรอกปลาหมึกใส่ปาก ก่อนจะคิดได้ว่าเธออยู่คนเดียวท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ ดวงตากลมโตกวาดสายตาไปรอบๆ อย่างหวาดๆ
“ระ รีบกินให้เสร็จดีกว่า” ร่างบางพยายามพูดกับตัวเองเพื่อไม่ให้มันเงียบเกินไป และในขณะที่รีบยัดข้าวไปนั้นก็ได้ยินเสียง…
แซ่กๆๆๆๆ
ร่างเล็กสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ก่อนจะหันไปมองข้างหลังซึ่งเป็นที่มาของเสียงที่เกิดขึ้น แต่เมื่อหันไปก็พบแต่พุ่มไม้เตี้ยๆ แค่นั้น
เคียวโกะลุกขึ้นยืนพร้อมกับกอดกล่องข้าวไว้แน่น เธอกลืนน้ำลายและตัดสินใจส่งเสียงสั่นๆ ของเธอออกไปด้วยความหวาดกลั่ว
“คะ.. ใครน่ะ” เธอถามเสียงปริศนา แต่คำตอบที่ได้รับคือความเงียบ ก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเมือพุ่มไม้ตรงนั้นเริ่มขยับอีกรอบ
เด็กสาวรวบรวมความกล้าและเดินไปตรงพุ่มไม้ เพื่อที่จะดูว่าเป็นใครกันที่มาทำให้เธอตกใจ หรือไม่ก็อาจจะเป็นอย่างอื่นที่ทำให้เธอกลัวจนตัวสั่นก็ได้
เธอหลับตาพลางกำมือแน่น ก่อนจะชะโงกไปดูความระทึกใจ แต่สิ่งที่เห็นกลับมีร่างๆ หนึ่ง นอนราบกับพื้นหญ้าอยู่ เธอเอียงคอด้วยความสงสัยก่อนจะตัดสินใจเรียกชื่อคนที่นอนอยู่กับพื้น
“เอ็นมะคุง?”
เด็กสาวเริ่มนั่งลงกับพื้นหญ้าบ้าง แล้วนั่งมองเอ็นมะกินข้าวกล่องของเธออย่างเอร็ดอร่อย เธอจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มในความน่ารักของเขา ก่อนจะส่งน้ำให้กับคนทีกำลังไออย่างเอาเป็นเอาตาย เนื่องจากข้าวติดคอ
____________________________________________________
มาเพิ่มตอนนี้เล็กน้อย เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังลงตอนนี้ไม่จบนี่นา ฮ่าๆๆๆ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ
ขอบคุณคุณกิ่งมากนะคะ ที่มาเม้นให้กำลังใจ พออ่านเม้นของคุณแล้วมีแรงฮึดแต่งต่อทันทีเลยค่ะ! ขอบคุณมากจริงๆ ขอบคุณคุณแมลงสาบ99 ด้วยนะคะ จะพยายามต่อไปค่ะ!
ข้อชี้แจงไรนิดนึง คือเนื้อหาเรื่องนี้จะคล้ายๆ กับต้นฉบับอยู่เล็กน้อย แต่ไม่เหมือนเด๊ะหรอกค่ะ เพราะเนื้อหาเรามันแนวรัก จะไม่มันส์เหมือนต้นฉบับจริง แต่ก็อยากให้อ่านแล้วเม้นบ้าง เพราะอยากรู้ความผิดพลาดของตัวเอง
ความคิดเห็น