ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic reborn 0095] Parallel non-day meet

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่10 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 53


    ����������� อีก 3 วัน จะถึงวันพิธี

    ������������เคียวโกะ ทางนี้!” ร่างบางหันไปหาคนที่ส่งเสียงเรียกเธอ แล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เจอกับคนที่เธอได้นัดไว้สักที

    ����������� สวัสดีจ้ะฮานะ ขอโทษนะจ้ะที่ให้รอ

    ��������� ไม่เป็นไร แล้วนี่เธอนัดฉันออกมาทำไมเหรอฮานะถามเพื่อนสาวที่อยู่ดีๆ เมื่อวานก็โทรมาหาเธอช่วงหัวค่ำ แต่ตอนนั้นเธอก็ไม่ว่างมากนักเลยไม่ได้ถามหลายระเอียด แต่ก็บอกไปว่าจะไปแน่นอน เคียวโกะอ้ำอึ้งอยู่สักพัก

    ���������� ก็... ฉันอยาดจะให้ฮานะมาช่วยเลือกน่ะจ้ะ ว่าผู้ชายเขาชอบเสื้อผ้ากันแบบไหน

    ���������� แบบของเสื้อผ้าน่ะเหรอ? แล้วทำไมต้องเป็นผู้ชายด้วยล่ะ?เธอถามด้วยความสงสัย

    �������� � อ้า... เอ่อ คือ... คือฉันจะซื้อไปให้พี่ชายน่ะจ้ะ! เลยถามดู

    ���������� ปกติเธอก็ซื้อให้รุ่นพี่ซาซางาวะโดยไม่ถามฉันอยู่แล้วนี่ แล้วทำไมคราวนี้ถึงมาถามล่ะ

    ����������� อ่า... ฉัน... ฉันอยากลองเปลี่ยนแบบดูน่ะ เลยไม่รู้จะเอาแบบไหนดีฮานะมองเคียวโกะอย่างจับผิด สายตาเหลือบมองไปที่โทรศัพท์ของเพื่อนสาว ก่อนจะหยิบมันออกมาอย่างรวดเร็ว โดยที่ยังไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าของ...

    ���������� ว้าย! ฮานะ! จะทำอะไรน่ะร่างเล็กรีบแย่งโทรศัพท์ของเธอคืน แต่เพื่อนสาวของเธอกลับชูมันสูงๆ ไม่ให้เธอหยิบได้ นิ้วเรียวกดปุ่มรายการที่เธอต้องการหา แล้วก็เจอสิ่งที่เธอพบ

    ���������������������

    ����� ����� โคซาโตะ เอนมะ 08x-xxxxxxx

    ��������� เบอร์โทรศัพท์พร้อมอีเมลแอดเดรสของเด็กใหม่ เธอกดปุ่มข้อความเข้าของเคียวโกะ ซึ่งมีข้อความที่เพื่อนของเธอได้ส่งแล้วเขาคนนั้นตอบกลับมาอยู่ ริมฝีปากเหยียดยิ้มบางๆ เคียวโกะหน้าซีดเพราะถูกเพื่อนสาวของเธอจับไต๋ได้แล้ว

    ����������� เอาล่ะ ไหนบอกฉันมาซิ ว่าเธอจะซื้อไปให้ใครกันแน่คนผมยาวถามพร้อมกับยิ้มเหี้ยมไปให้คนตรงหน้าอย่างกดดัน

    ����������� น่ะ... น่ากลัว!

    ����������� เอ่อ... คือ...

    ����������� ว่าไงจ๊ะ เคียวโกะจังเสียงหวานๆ ที่ออกมาจากปากบางๆ ของฮานะ ไม่เข้ากับบรรยากาศมาคุที่อยู่ด้านหลังของเธอเลยแม้แต่น้อย

    ����������� ขะ... ขอโทษนะจ้ะ! คือฉันตั้งใจจะซื้อไปให้เอนมะคุง แต่ไม่รู้ว่าผู้ชายทั่วๆ ไปเขาชอบแบบไหนกัน เลยอยากให้ฮานะมาช่วยน่ะจ้ะเคียวโกะว่าพลางก้มหัวขอโทษอย่างสุดโต่ง รนให้คนถูกก้มหัวให้อย่างฮานะต้องรีบออกปาก

    ����������� เอ้อ ช่างเถอะ ฉันไม่ถือสา ไม่ต้องก้มหัวแล้ว!” ฮานะรีบบอกเพราะดูท่าทางว่าร่างบางที่ก้มหัวให้เธออยู่จะเปลี่ยนท่ากลายเป็นกราบแทบเท้าเธอแทน

    ����������� ขอบคุณจ้ะฮานะ!” เคียวโกะพูดขอบคุณอย่างดีใจจนน้ำตาเล็ด อะไรจะขนาดน้าน~

    ����������� เฮ้อ! งั้นเราไปเลือกซื้อกันเถอะคนผมยาวว่า พลางก้าวเท้าเดินนำไป แต่เธอดันหยุดกะทันหันเสียอย่างนั้น

    ����������� เอ่อ มีอะไรเหรอ

    ��������� � ก่อนที่เราจะเลือกซื้อของกัน เธอตอบคำถามฉันมาก่อนซิ ว่าเธอคบกับเจ้าเด็กใหม่ตอนไหนไม่พูดเปล่า มือก็เท้าเอวอย่างหาเรื่อง เตรียมที่จะเค้นหาคำตอบอีกรอบ เคียวโกะที่กำลังหนักใจก็แทบจะดีใจจนตัวลอยที่มีโทรศัพท์โทรเข้ามาหาเธอได้ทันเวลาพอดี

    ����������� อ้าเอ่อ ฉันรับโทรศัพท์ก่อนนะร่างบางว่าพลางคว้าโทรศัพท์มือถือของเธอ แล้วรีบรับอย่างไม่รอช้า ฮานะทำเสียงจิ๊จ๊ะอยู่ในใจ แต่ก็ขัดอะไรไม่ได้

    ������������(ฮัลโหล นั่นใช่ซาซางาวะหรือเปล่าครับ) เสียงปลายสายที่ไม่ค่อยคุ้นหูเธอเท่าไรนัก เคียวโกะขมวดคิ้วอย่างข้องใจ แต่ก็ตอบเสียงปริศนานั่นกลับไป

    �����������อ่อใช่ค่ะ แล้วไม่ทราบว่านั่นใครคะ

    ����������� (เฮ้อ~ ดีจังที่โทรถูก ฉันยามาโมโตะเองนะ)เขาแนะนำตัวเองอย่างร่าเริง แต่ทว่าคนฟังกลับมึนงงยิ่งกว่าเดิม

    ����������� ยามาโมโตะคุง? มีธุระอะไรเหรอจ้ะฮานะที่ได้ยินเสียงเพื่อนสนิทเรียกชื่อเพื่อนร่วมห้องหนึ่งในสองคนที่เธอสุดแสนจะเหม็นขี้หน้าก็รีบเอาหูมาแนบกับมือถือของเคียวโกะทันที หมอนี่โทรมาทำไมกันนะ หรือว่าจะคิดอะไรกับยัยนี่ ที่สำคัญกว่านั้น... หมอนี่มีเบอร์ของเคียวโกะได้ยังไงกัน? เธอคิดโดยที่ไม่สนใจสายตาระอาที่เคียวโกะส่งมาให้เลยแม้แต่น้อย ร่างบางถอนหายใจอย่างปลงๆ

    ����������� “(คืองี้นะ เพื่อนในชมรมฉันน่ะ เขาเป็นคนขี้อาย แต่คนไม่พอที่จะสวมชุดผักน่ะ เลยอยากให้เธอมาช่วยหน่อย)

    ����������� เอ๋??เธอส่งเสียงร้องออกมาด้วยความงงสุดขีด พร้อมกับใบหน้าที่แสดงถึงเครื่องหมายคำถามอยู่เต็มหน้า เมื่อกี้ยามาโมโตะคุงพูดว่าอะไรนะ? เพื่อนในชมรมของยามาโมโตะคุงเป็นคนขี้อาย แล้วเกี่ยวอะไรกับคนไม่พอล่ะ? หรือว่าเขาจะชวนเราไปเล่นเบสบอล? ไม่ๆ เราเล่นเป็นซะที่ไหนล่ะ แต่เมื่อกี้เขาบอกเราว่าชุดผักอะไรสักอย่างนี่นา...

    �������� �� โอ๊ย! ปวดหัว! นี่เขาพูดอะไรของเขาเนี้ย~! ฟังแล้วไม่รู้เรื่องเลย

    ����������� “(ฮัลโหลๆ ยังอยู่หรือเปล่าน่ะซาซางาวะ ทำไมเงียบไปล่ะ หรือว่าเธอฟังที่ฉันพูดไม่รู้เรื่อง? งั้นเดี๋ยวฉันพูดให้ฟังใหม่นะ ก็คือว่า...)”

    ����������� “(มานี่ ฉันคุยเอง)” ในระหว่างที่เธอกำลังสับสนก็มีเสียงเล็กๆ พูดแทรกขึ้นมาเหมือนจะขอคุยกับเคียวโกะเอง ดีจ้า เคียวโกะ

    ����������� เสียงนั่น... รีบอร์นคุงเหรอจ้ะ?เคียวโกะเรียกชื่อของปลายสายที่กำลังคุยกับเธอออกมาอย่างชัดเจน เสียงเล็กๆ เหมือนเด็ก แต่ก็ออกมาดเข้มนิดนึง แถมยังพูดคำว่า ดีจ้าอีก เป็นใครไม่ได้นอกจากรีบอร์นคุง!

    ����������� อือ ใช่แล้วล่ะ คือเพื่อนในชมรมของยามาโมโตะเขาไม่ค่อยกล้าที่จะเล่นน่ะ เพราะอายมากเวลาเล่นต่อหน้าคนเยอะๆ แล้วถ้าเกิดอยากจะให้หายเขินก็ต้องจินตนาการถึงผักใช่มั้ยล่ะ? แต่มันดูไม่สมจริงมากพอ ฉันเลยขอร้องให้ฮารุเอาชุดคอสตูมผักมา แล้วมันต้องใช้คนเยอะๆ แต่คนมันไม่พอน่ะ เลยอยากจะให้เธอมาช่วยหน่อยน่ะเสียงพล่ามยาวยืดที่เล่าเอาคนฟังเหนื่อยแทนคนพูดจริงๆ นี่ถ้าเกิดไม่ใช่เด็กน้อยที่เป็นถึงนักฆ่าอันดับหนึ่ง คงชักไปเป็นที่เรียบร้อยเนื่องจากหายใจไม่ทัน

    �������� � � ใส่ชุดคอสตูมผักเนี้ยนะ ติ๊งต๊องชะมัด เธอไม่ต้องไป...ฮานะที่เอาหูแนบกับโทรศัพท์ จึงได้ยินบทสนทนาทั้งหมด เธอบอกกับเพื่อนสาวว่าเรื่องนั้นมันเป็นเรื่องเด็กๆ อย่าไปสนใจ แต่พอเห็นประกายวิ้งๆ ในดวงตาของเคียวโกะ เธอก็พูดอะไรไม่ออก...

    ������������ นิสัยที่ชอบเห็นทุกอย่างเป็นเรื่องสนุกนี่ เมื่อไรจะแก้ให้หายสักทียะ!

    �������� �� โอเคจ้ะ! แล้วไว้เดี๋ยวฉันจะรีบไปนะจ้ะ!” สิ้นสุดประโยคนี้เล่นเอาฮานะกุมขมับเลยทีเดียว เฮ้อ กะแล้วไว้ไม่มีผิดเล้ย~

    ����������� เอ่อ ฮานะ คือว่า...

    ����������� ฉันรู้แล้วย่ะ จะไปไหนก็ไปเธอว่าพลางโบกมือไล่เพื่อนสาวตัวดีของเธอ เคียวโกะหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะบอกลาฮานะ แล้วรีบวิ่งไปทันที ฮานะมองร่างของเคียวโกะที่กำลังวิ่งไปอย่างเหนื่อยหน่าย

    ���������� หวังว่าสักวันเธอจะบอกฉันนะ

    ����������� เคียวโกะวิ่งไปได้สักพัก สายตาก็บังเอิญไปเจอกับเสื้อผ้าตัวนึงเข้าที่โชว์ไว้หน้าร้านๆ หนึ่งเธอหยุดวิ่งแล้วเดินเข้าไปดูเสื้อตัวนั้นใกล้ๆ ในร้าน เสื้อตัวนี้ไม่ได้หรูหราหรือดูน่าสะดุดตาอะไรเลย แต่เธอกลับสนใจมัน เด็กสาวลองจับเนื้อผ้าดู แล้วลองเอามาทาบตัว อืม... ตัวใหญ่กว่าเรานิดนึง เขาน่าจะใส่ได้นะ เธอคิด ก่อนจะสำรวจอีกรอบ ซึ่งทุกอย่างดูโอเคในสายตาเธอ แต่ไม่รู้ว่าคนที่เธอจะให้เขาจะชอบหรือเปล่าเนี้ยสิ เด็กสาวคิดอย่างชั่งใจ

    ����������� ว้าย! สายป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย ต้องรีบแล้วเคียวโกะมองดูนาฬิกา แล้วรีบเอาเสื้อกลับไปไว้ที่เดิม และเดินออกไปจากร้านโดยไม่ลืมที่จะเหลียวมองดูเสื้อตัวนั้น...

    ��������

    ����������� ฮาฮิ! นั่นเคียวโกะจังนี่ เคียวโกะจังคะ! ยาฮู่ว~!” เสียงหวานๆ ส่งเสียงเรียกจากด้านหลังของเคียวโกะ เธอหันไปก็พบกับคนที่เธอคุ้นหน้าคุ้นตาดี

    ��������� � สวัสดีจ้ะฮารุจัง แล้วอะไรอยู่ข้างหลังของฮารุจังเหรอจ้ะเคียวโกะมองฮารุที่กำลังลากกระเป๋าใบโตๆ อย่างทุลักทุเลจนเธอต้องไปช่วยลาก

    ����������� พวกชุดคอสตูมผักน่ะค่ะ! ฮารุขนมาเพียบเลย! แต่ดูท่าทางว่าจะเยอะเกินไปหน่อย แหะๆ เลยยังไม่ถึงโรงเรียนนามิโมริสักทีอ่ะฮารุว่าพลางออกแรงดึง

    ����������� เอ๋? อย่ามาบอกนะว่าฮารุจังขนมาตั้งแต่ยี่สิบนาทีที่แล้วน่ะ?

    ����������� ฮาฮิ ใช่แล้วล่ะค่ะ

    ������������ เคียวโกะที่ได้ยินฮารุพูดอย่างนั้นก็ปวดแขนแทนเธอทันที นี่เดินมาตั้งนานแต่ยังไม่ถึงที่นัดพบอีก ทั้งที่มันห่างกันไม่ถึง 100 เมตรเลยด้วยซ้ำ

    ����������� อ้าวนั่น ซาซางาวะกับมิอุระไม่ใช่เหรอ

    ����������� ยามาโมโตะคุงเคียวโกะเรียกชื่อผู้มาใหม่อย่างตกใจ ส่วนฮารุก็ก้มหัวสวัสดียามาโมโตะ

    ����������� สวัสดีค่ะคุณยามาโมโตะ กำลังจะไปไหนเหรอคะ

    ����������� อ้อ เปล่าหรอก ฉันแค่สงสัยว่าทำไมเธอมาช้าจัง เลยออกมาเดินหาดู อันที่จริง ถ้าเกิดมันหนักซะขนาดนั้นก็โทรเรียกฉันมาก็ได้นี่ยามาโมโตะว่า สายตาก็เหลือบมองด้านหลังของทั้งสองสาวอย่างเข้าใจดีว่าทำไมพวกเธอถึงมาช้ากัน

    ��������� � ฮาฮิ! จริงสิ ฮารุลืมไปเลยฮารุเอามือบ้องปากอย่างลืมตัว ก่อนจะขอโทษยามาโมโตะที่ทำให้เสียเวลา รวมไปถึงเคียวโกะด้วย

    ��������� � ฮ่าๆ ไม่ต้องขอโทษหรอก งั้นเดี๋ยวฉันลากไปแทนนะคนตัวสูงไม่ว่าเปล่า มือก็จับสายประเป๋าใส่ชุดคอสตูม ก่อนจะออกตัววิ่งไปอย่างรวดเร็ว!

    ��������� � ฮาฮิ! สุดยอดเลยค่ะคุณยามาโมโตะ!” เด็กสาวผมดำส่งสายตานับถือไปให้ยามาโมโตะ ส่วนเคียวโกะก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ ตามน้ำไป แล้วก็เดินไปกับฮารุตามยามาโมโตะไป...

    ����������� มากันแล้วเหรอรีบอร์นออกมารับอยู่หน้าประตูทางเข้า ก่อนจะเดินนำทั้งสามคนไปหาพวกสึนะ

    ��������� � ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันมิอุระ ฮารุ จากโรงเรียนมัธยมมิโดริค่ะ!” เด็กสาวว่าพลางก้มหัวทักทายทุกคนอีกครั้ง แล้วเดินไปใกล้ๆ สึนะก่อนจะเอามือคล้องแขนสึนะด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อ ขอบคุณที่คอยดูแล สึนะโยชิคุงของเราด้วยนะคะ

    ����������� เย้ย! หมายความว่าไงของเราน่ะ!” สึนะรีบสะบัดมืออกแล้วออกตัวมาให้ห่างจากฮารุ แต่คุณเธอก็ยิ่งเดินเข้าไปชิดใกล้สึนะยิ่งขึ้นอีก

    ����������� เอาเข้าไป...

    ����������� แล้วก็เอาหน้ามาใกล้เกินไปแล้ว! อีกอย่างทำไมเธอต้องหน้าแดงด้วยเนี้ย!”

    ����������� ฮาฮิ เพราะฉันกำลังประจบคุณสึนะอยู่ไงคะเธอว่าพลางซบบนไหล่ของสึนะอย่างอ้อนๆ แต่เจ้าทูน่าของเรากลับเอามือผลักหัวเจ้าหล่อนออกไป เอนมะมองฮารุกับสึนะด้วยสายตาที่แปลกไปจากเดิม หรือว่านี่คือแฟนของวองโกเล่รุ่นที่สิบ ไม่สิ สึนะคุงดูท่าทางไม่ค่อยชอบเด็กคนนี้เท่าไรนี่ แต่ทำไมเหมือนจะสนิทสนมมากกว่ากับเคียวโกะล่ะ

    ����������� หรือว่าเราจะใช้เล่นงานผิดคน...

    ����������� อย่าลืมกันสิเจ้าพวกบ้า เริ่มได้แล้วฉันให้ฮารุเตรียมมาเรียบร้อยแล้วอัลโกบาเลโน่รีอบร์นว่า พลางชี้ไปที่ชุดพวกนั้น สึนะกับยามาโมโตะเดินดุ่มๆ ไปดูชุดพวกนั้น เด็กหนุ่มหัวฟูหยิบชุดแต่ละชุดออกมา ซึ่งมันเป็นรูปผักหมดเลย รีบอร์นอธิบายสาเหตุที่ให้ฮารุเอาชุดพวกนี้มา เล่นเอาสึนะหน้าซีด

    ����������� ฉันไม่อยากใส่ชุดน่าอายพวกนี้เว้ย~!!

    ����������� เราต้องการคนมากกว่านี้ ฉันเลยเรียกพวกนี้มาเจ้าหนูนักฆ่าว่าเสร็จ พวกเบียงกี้ก็เดินออกมาอย่างทันควัน สึนะไล่สายตาไปหาทุกคนก่อนจะสะดุดอยุ่กับเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงกลาง แล้วทำหน้าเหวอใส่

    ����������� เคียวโกะจังก็ด้วยเหรอ!?” เด็กหนุ่มผมแดงมองคนที่สึนะเรียก แล้วหันมามองหน้าเด็กหนุ่มหัวฟูอีกที ก่อนจะก้มหน้ามองพื้นอย่างครุ่นคิดอีก

    ����������� ไม่หรอก เราเลือกใช้คนถูกแล้ว เพราะหมอนี่หน้าแดงตอนที่เห็นซาซางวะ เคียวโกะ...

    ����������� ดีจริงๆ...

    ����������� เอ้า สึนะกับเอนมะก็มาเลือกด้วยกันสิแมงป่องพิษบอกทั้งสองคนที่กำลังยืนเอ๋ออยู่ให้รีบๆ มาเลือก เอนมะเลือกมาชุดนึงแต่ก็โดนอะไรไม่รู้ที่อยู่ในชุดบาดเอา เด็กหนุ่มร้องเสียงเจ็บปวดแต่หน้าดูเหมือนจะไม่เจ็บเลยสักนิด

    ����������� หน้าตายเป็นบ้า...

    ����������� สู้เขา นายต้องทำได้!” ทุกคนที่แปลงโฉมใส่ชุดผักกันเรียบนร้อยแล้วก็ส่งเสียงเชียร์มิซูโนะ คนตัวใหญ่ที่จินตนาการว่าเห็นคนรอบๆ ตัวเป็นผักกันหมดแล้ว เขาจึงตั้งท่าเตรียม ก่อนจะขว้างมันออกไปด้วยความเร็วและแรง!

    ����������� อั่ก!” ยามาโมโตะรับบอลที่แรงสุดขีดนั่น ก่อนจะหงายหลังล้มลงไป เด็กหนุ่มมองดูบอลในมือที่ตัวเองรับมาเมื่อกี้ แต่พอแบมือออกมา บอลกลับไม่อยู่แล้ว?

    ����������� มิซูโนะ ทำอะไรกันนะ...

    ��������� � งั้นฉันกลับก่อนนะ บ๊ายบายยามาโมโตะกล่าวลาทุกคนด้วยรอยยิ้ม อือ กลับบ้านดีๆ นะ

    ����������� งั้นฮารุกลับบ้างดีกว่า คุณสึนะไปส่งฉันหน่อนสิคะฮารุบอกกับสึนะพลางส่งสายตาวิ้งๆ ไปให้ เด็กหนุ่มหัวฟูได้แต่ยิ้มแหยๆ

    ����������� นี่เธอ อย่าไปกวนใจรุ่นที่10 เขาสิ!” โกคุเทระที่เพิ่งกลับมาหลังจากไปตามหาชิทพีก็ตวาดใส่ร่างบางผมม้า และดึงขอเสื้อฮารุให้ตัวเธอออกห่างสึนะ ฮารุหันไปถลึงตาใส่อย่างโกรธ

    ���������� ฮาฮิ แล้วคุณโกคุเทระยุ่งอะไรด้วยล่ะคะ สามีภรรยาเขาจะคุยกัน อย่ามาขัดจังหวะสิคะ

    ����������� เพราะว่าฉันเป็นมือขวาของรุ่นที่10 ไงเล่า! แล้วเธอน่ะไปเป็นภรรยาของรุ่นที่10 ตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ เดี๋ยวปั๊ดบึ้มใส่

    ����������� ฮาฮิ! แดนเจอรัสสุดๆ ค่า เด็กหนุ่มผมเทาไม่ปล่อยโอกาสให้คนปากมากได้โวยวายต่อ เขารีบลากฮารุออกมาโดยที่ไม่สนคนลากเลยแม้แต่น้อย

    ����������� ผมจะไปส่งยัยนี่เองครับ รุ่นที่10 เชิญกลับบ้านไปได้เลยครับผมโกคุเทระหันมาบอกลาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะโดนฮารุตบหลังเอา แล้วทั้งสองคนก็ทะเลาะกันไปมาตลอดทาง สึนะมองสองคนนั้นด้วยสายตาเป็นห่วงว่าจะรอดไปถึงที่บ้านหรือเปล่า

    ����������� อ้าว แล้วเคียวโกะจังล่ะสึนะที่มองดูสองคนนั้นจนสุดสายตา พอหันมาอีกก็ไม่เห็นเด็กสาวคนที่ตัวเองหลงรักอยู่

    ����������� เคียวโกะกลับไปแล้วน่ะ เพิ่งมาบอกตะกี้เบียงกี้ตอบแทน สึนะหน้าหงอลงขึ้นทันใด

    ����������� เสียใจด้วยนะเจ้าห่วย

    ����������� นายเงียบไปเลยรีบอร์น! อื๋อ? แล้วเอนมะคุงล่ะ? หายไปไหนแล้ว

    �������������ตึกๆ

    ����������� เสียงเดินภายในตึกอาคารเรียนดังก้องไปทั่วบริเวณ อาจเป็นเพราะไม่มีเสียงใดมารบกวน จึงทำให้เสียงดังกว่าปกติ เธอก้าวเท้าย่ำเดินไปเรื่อยๆ พลางสำรวจอาคารที่เธอเห็นขนชินตา แต่ก็ยังไม่เคยเห็นเวลายามเย็นภายในโรงเรียนสักที เธอจึงถือโอกาสนี้มองให้เห็นเต็มๆ ตาว่าเป็นยังไง เคียวโกะเดินไปยิ้มไปอย่างมีความสุข

    ������������ ใช่แล้ว อันที่จริง... เธอยังไม่ได้กลับบ้านไปเหมือนที่บอกไว้กับพวกเบียงกี้หรอก เธอแค่อยากจะเดินอยู่คนเดียวตอนเย็นๆ ในโรงเรียนดูบ้าง ก็ปกติต้องไปเตรียมอาหารเย็นรอพี่ชายกลับมาก่อนเลยนี่นะ ดีที่คราวนี้บอกพี่ชายไปว่าจะกลับเย็นหน่อย แถมยังเตรียมอาหารเอาไว้ให้แล้ว คงไม่เป็นไรแล้วมั้ง

    ���������� � เธอเดินมาเรื่อยๆ จนถึงห้องเรียนที่เธอเรียนอยู่ ร่างบางเดินเข้าไปข้างในตัวห้อง แล้วหยุดยืนดูท้องฟ้าสีส้มแดง มันช่างสวยงามสำหรับเธอเหลือเกิน ซึ่งพอเห็นท้องฟ้ายามนี้ทีไร หัวก็พาลคิดถึงตอนที่ไปเดทกับเอนมะในชิงช้าสวรรค์ที่สวนสนุกทุกที ใบหน้าหวานเริ่มแดงระเรื่อเหมือนท้องฟ้ายามเย็นนี่เข้าไปทุกทีๆ ร่างบางสะบัดหัวไปมาอย่างเขินอาย หวังว่าเพื่อจะลดแก้มแดงๆ นี่ออกได้ได้บ้าง แต่ก็ดันมีเสียงๆ หนึ่งดังมาจากด้านหลังของเธอ เล่นเอาหัวเธอเกือบจะเขกกับโต๊ะเลยทีเดียว...

    ����������� ...ตกใจเสียงฉันขนาดนั้นเลยเหรอเอนมะพูดพลางพยุงตัวเคียวโกะขึ้นมา เพราะถึงแม้หัวจะไม่เขกกับโต๊ะ แต่เธอก็ดันลื่นล้มกองอยู่กับพื้นแหล่ะนะ...

    ����������� เอ่อ แหะๆร่างบางหัวเราะแก้เขิน ละ แล้วนี่เอนมะคุงรู้ได้ไงเหรอจ้ะว่าฉันอยู่ที่นี่

    ����������� ฉันเดินตามเธอมาน่ะสิ เย็นป่านนี้ยังจะมาอยู่คนเดียวอีก

    ����������� ก็ฉันอยากลองเดินลองในอาคารเรียนตอนเย็นดูนี่ ไม่เคยเข้ามาในนี้ตอนเย็นเท่าไรเด็กหนุ่มถึงกับกุมขมับ สมกับเป็นเธอจริงๆ เหตุผลแปลกๆ เนี้ย

    ����������� ซึ่งฉันคิดว่ามันคุ้มมากเลยนะจ้ะ ที่ได้มาเดินเนี้ย เพราะแสงอาทิตย์ยามเย็นของที่นี่สวยมากเลยนะเธอบอกกับเอนมะด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เด็กหนุ่มยิ้มบางๆ ตอบ ประโยคหนึ่งก็ผุดเข้ามาในหัวเขาโดยที่ไม่ทันได้คิด

    ����������� ฉันว่าคุ้มกับการที่ได้เห็นเธอยิ้มมากกว่านะ...

    �����������...!” เขาเอามือบ้องปากตัวเองอย่างตกใจกับความคิดตัวเอง

    ����������� นี่เขาคิดอะไรของเขากันนะ... เธอเป็นคนของวองโกเล่แท้ๆ แต่เขากลับอย่างนี้กับเธอโดยที่สมองไม่ได้สั่งให้แกล้งหยอกเธอด้วยซ้ำ

    ������������แล้วทำไม... เขาถึงคิดว่าเวลาเธอยิ้มแล้วดูดีกว่าล่ะ

    ������������ ทั้งที่... เธอเป็นแค่เครื่องมือของเขาแท้ๆ...

    ������������ แต่ทำไม เขาอยากจะให้เธอยิ้มมากกว่าล่ะ ทั้งที่เธอจะสุขหรือทุกข์ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสักหน่อย แล้วทำไม...

    ������������เขาถึงมีความสุขเวลาที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอล่ะ...

    ����������� เอนมะคุง? เป็นอะไรเหรอจ้ะ เห็นเงียบเชียว หรือว่าไม่สบายจ้ะ?มือบางที่ทาบเข้ากับหน้าผากของเด็กหนุ่มเพื่อที่จะวัดอุณหภูมิ ทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ เด็กหนุ่มหันไปมองใบหน้าหวานผู้ที่เป็น เครื่องมือสำหรับเขา

    ������������ใช่ เครื่องมือ...

    ������������มันจะไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น...

    ������������ไม่มี...

    ������������ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ง่วงนิดหน่อยน่ะเขาสิ่งยิ้มให้เธอ แต่เคียวโกะกลับชะงักกับรอยยิ้มที่เขาส่งมา

    ����������� อะไรกัน... รอยยิ้มที่ดูเสแสร้งนั่น

    ����������� เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเด็ดหนุ่มเอามือเธอมากุมไว้แล้วพาเธอเดินออกไป เคียวโกะมองด้านหลังของเอนมะด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเขาหันกลับมายิ้มให้เธออีกรอบนึง ซึ่งเป็นรอยยิ้มปกติที่เธอได้เห็นบ่อยๆ เธอจึงไม่คิดที่จะสงสัยอะไรต่อ

    ������������ คิดไปเองมั้ง...

    ������������ ทั้งสองคนเดินคู่กันกลับบ้าน โดยที่มีใจหนึ่งว้าวุ่นอยู่ดวงเดียว...

    �����������������

    ____________
    เปลี่ยนจากผ้าพันคอเป็นเสื้อแทนนะคะ ^^
    เม้นกันด้วยน้า~ เม้นน้อยเกินไปจนไรทเตอร์หมดกำลังใจแล้วอ่ะค่ะ T_T แถมคนอ่านก็ลดลงด้วย
    ถ้าเกิดมีจุดบกพร่องตรงไหนบอกไรท์เตอร์ได้ค่ะ ไม่ว่าอยู่แล้ว ดีเสียอีกที่จะได้รู้จุดบกพร่องของตัวเอง
    อ้อ ลืมบอกไป ใกล้ที่จะงานสืบทอดแล้วล่ะค่ะ อีกแค่ตอนเดียวเอง ใครอยากอ่านเร็วๆ ก็เม้นหน่อยนะคะ อยากได้กำลังใจมากเลยค่ะ!
    ตอนสืบทอดอาจจะยาวแบบสุดๆ ใครที่ขี้เกียจอ่านยาวๆ ก็ทนอ่านหน่อยนะคะ T_T
    ขอบคุณคนที่คอยเม้นให้แบบสม่ำเสมอด้วยนะคะ เป็นยาชูกำลังที่ดีเลยล่ะค่ะ!
    พบกันตอนหน้าค่ะ
    ปล. สุขสันต์วันเปิดเทอมค่ะ สู้ตายกันนะคะทุกคน เทอมสุดท้ายแล้ว
    เอาใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×