ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic reborn 0095] Parallel non-day meet

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่9 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 53


    รีไรท์นิดหน่อยนะคะ ^^
    ______________________________________

                "งั้นพวกเราจะร่วมมือกับวองโกเล่แฟมีลี่ เพราะยังไงก็ไม่เป็นผลเสียกับฝ่ายเราอยู่แล้ว" น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยขึ้น หลังจากที่พวกเขาได้ลองใคร่ครวญดูแล้วว่าจะเป็นบอดี้การ์ดให้กับว่าที่วองโกเล่รุ่นที่สิบดีหรือไม่
                "แล้วแต่เถอะ" เด็กหนุ่มผู้ที่อยู่ร่วมประชุมกล่าวตอบอย่างไม่ใส่ใจอะไรมาก
               ฉันขอผ่านละกัน ไม่ค่อยว่างน่ะร่างที่นอนราบกับเก้าอี้เอนขัด ก่อนจะหลับตาพริ้มเตรียมตัวที่จะนอน

               ไม่ว่างเรอะ สรุปแค่ไปเหล่หญิงมากกว่ามั้ง!!” หนุ่มแว่นตะโกนใส่ร่างที่นอนอยู่ด้วยความประชดประชัน

               อย่างน้อยฉันก็ดีกว่านายที่วันๆ เอาแต่สอบซ่อมละกันน่า

               ว่าไงนะ!!”

                พอเถอะเพื่อนร่วมวงสนทนาห้ามปรามสองคนที่ทะเลาะกันอย่างเบื่อหน่าย

                จะยังไงก็ช่างเถอะ พวกนายยังเก็บ สิ่งนั้นไว้ดีๆ หรือเปล่า เด็กสาวผมดำกล่าว และหันไปมองแต่ละคน  ซึ่งพวกเขาก็ไม่ตอบอะไรนอกจากจะมองหน้ากันเฉยๆ

                 งั้นเอนมะ ขอดูหน่อยเด็กหนุ่มไม่ตอบอะไรนอกจากหยิบ สิ่งนั้นที่ห้อยอยู่ตรงคอออกมา เธอมองมันแล้วยิ้มออกมา ก่อนจะตั้งคำถามใหม่กับว่าที่บอสชิม่อนแฟมิลี่

                 แล้วแผนการนั้นเป็นยังไงบ้าง เป็นไปได้สวยหรือเปล่า  เอนมะชะงัก แต่ก็พยักหน้ารับไปโดยไม่บอกว่าเป็นยังไงซึ่งเธอก็เข้าใจว่า มันเป็นไปได้ดี

                ดีแล้ว เท่านี้ก็รอถึงวันพิธีสืบทอดเท่านั้นพูดเสร็จก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับบอกว่าจะขอไปอาบน้ำ คนอื่นๆ ก็ค่อยๆ ทยอยกลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง ทิ้งให้คนหัวแดงนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียว

                นัยน์ตาสีแดงทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมนมีดวงดาวคอยส่องระยิบระยับเป็นประกายเป็นหย่อมๆ เขามองดวงจันทร์ที่กำลังส่องแสงอย่างนวลละอออย่างเหม่อลอย

               

                อีกหกวันสินะ...

     

     

               รุ่งสายของวันอาทิตย์ เคียวโกะได้เดินมุ่งหน้าไปตรงหน้าสถานีเมืองนามิโมริ เนื่องจากบริเวณนั้นมีร้านขายของหวานอย่างที่เธอชอบเต็มไปหมด เธอซึ่งเก็บตังค์มาเป็นเวลานานเพื่อที่จะมาซื้อขนมเค้กมาทานตามใจชอบอย่างที่เคยฝันไว้ บัดนี้ความฝันกำลังจะเป็นจริงแล้ว~!

                แต่น้ำหนักคงมาเพิ่มมาแทนตังค์ที่เราเสียไปแน่เลย...  เคียวโกะสลัดความคิดนั้นออกจากหัว ไม่ได้! จะให้ความตั้งใจที่เรามีมาสูญเปล่าไม่ได้นะ! ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องทำให้ได้! ส่วนเรื่องน้ำหนัก... ค่อยไปลดหลังจากนั้นก็ได้น่า! เธอคิดอย่างแน่วแน่พร้อมกับไฟที่ลุกโชนในนัยน์ตาเหมือนที่พี่ชายเธอเป็นบ่อยๆ

                ความเร่าร้อนนี่ เป็นกรรมพันธุ์สินะ...

                โว้ยยย ไม่มีคนมาบุกโจมตีเลยเว้ย! อีแบบนี้ไม่เป็นอันแข่งพอดีๆ พอแล้วพอ!” เสียงดังกระหึ่มที่ไม่แน่ใจว่าเป็นของมนุษย์หรือเปล่า เพราะมันดังเสียจนขี้หูแทบบออกมาเต้นระบำชาวเกาะได้ เคียวโกะหันไปตามเสียงที่ดังสนั่นแล้วพอหันไปก็จ๊ะเอ๋กับป้ายชิ่อของบ้านหลังนี้

                ซาวาดะ... บ้านของสึนะคุงนี่! มีงานเลี้ยงฉลองอะไรกันนะ เธอคิดอย่างแปลกใจโดยที่ไม่ได้สงสัยอะไรไปมากกว่านั้น ตามประสาของเด็กสาวที่ใสซื่อ (บื้อ) แต่เธอก็ชะงัดเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหูซึ่งเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วที่เธอได้ยินเสียงนี้มา

                คงต้องดวลกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยสินะ!” ร่างบางถือวิสาสะรีบวิ่งเข้าไปในบ้านของซาวาดะเพื่อที่จะดูให้แน่ชัดไปเลยว่าจะใช่คนที่เธอคิดอยู่รึเปล่า!

                พี่คะ!!” เธอส่งเสียงร้องออกไปอย่างตกใจ

                คะ... เคียวโกะจัง!!” ลูกชายของเจ้าของบ้านเรียกชื่อผู้มาใหม่อย่างตกใจพร้อมกับลุกขึ้นยืนตรงราวกับจะเคารพธงชาติ ใบหน้าแดงเป็นกาน้ำร้อนที่กำลังเดือด

                ช่างเป็นปฏิกิริยาที่น่าสมเพชเหลือเกินนะทูน่า...

               เช่นเดียวกับเจ้าคนที่ถูกเรียกก็สะดุ้งตัวโหยงเหมือนกัน แต่จะต่างกันก็เพียงแค่คนที่ถูกเรียกว่า พี่คะกำลังเหงื่อแตกพลั่กก็เท่านั้น...

              เมื่อกี้ได้ยินว่าดวลเดินอะไร คงไม่ใช่ทะเลาะกันใช่มั้ยคะ

               น่ะ.. แน่นอน!!”  เรียวเฮตอบเสียงสั่น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับคุณนายบ้านซาวาดะออกมาพูดกับเธอ และเสนอแนะนำวิธีการแข่งที่ดีๆ ให้กับเรียวเฮและโคโย เคียวโกะที่เพิ่งสังเกตเห็นคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ สึนะ จึงส่งยิ้มให้เล็กน้อยเป็นเชิงทักทาย เอนมะยิ้มตอบกลับ  ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินตามทุกคนที่ขึ้นไปยังห้องสึนะเพื่อจะดูการแข่งขันระหว่างเรียวเฮกับโคโย

               ... เอาล่ะ พวกเราอยู่ไปก็รบกวนเปล่าๆ ออกไปก่อนสักรอบเถอะ ครบตามกำหนด 1 ชั่วโมงแล้วค่อยกลับมาเสียงเล็กๆ ของอัลโกบาเลโน่ รีบอร์นบอกทั้งสองผู้เข้าแข่งขันที่นั่งสลบเหมือดอยู่...

               งั้นก็ไว้เจอกันนะจ๊ะนานะว่า แล้วลงไปข้างล่างอย่างอารมณ์ดี หลังจาดนั้นนักฆ่าตัวจิ๋วก็เอ่ยขึ้นมาอีกโดยทิ้งท้ายไว้ให้ทั้งสองคนได้ฮึดกัน ก่อนจะลงตามทุกคนไป

                     

                ห้องรับแขกบ้านซาวาดะ

                สึนะมองเพดานบ้านตัวเองอย่างหวาดๆ กลัวว่ามันจะถล่มลงมาทับเขา เพราะตอนนี้มันสั่นราวกับเกินแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เลยทีเดียว... โดยมีเคียวโกะมองด้วยอีกคน แต่เธอมองเพราะเป็นห่วงพี่ชายของเธอ สึนะละสายตาขากเพดานมาจ้องครูสอนพิเศษตัวจิ๋วของเขาด้วยสายตาเคลือบแตลง ปนระแวง

                เจ้ารีบอร์นจะต้องวางแผนชั่วร้ายอะไรอยู่แน่!  เขาคิดอย่างผวา ก่อนจะหันไปหาเอนมะที่กำลังเล่นกับนัทสึอย่างอารมณ์ดี  สึนะจึงเอ่ยปากชวนคุย ท่าทางอารมณ์ดีจังเลยนะเอนมะคุง

               เสียงของสึนะทำให้เคียวโกะละสายตาจากสิ่งที่ตัวเองกำลังดูอยู่ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนทอดสายตาไปที่เด็กหนุ่มผมแดง ซึ่งเขาคนนั้นก็กำลังส่งยิ้มไปให้กับแมวของสึนะอย่างไร้เดียงสา ราวกับเด็กๆ ที่ได้เล่นอย่างสนุกสนาน เคียวโกะรีบเบนหน้าไปทางอื่นพร้อมกับเอามือปิดปาดไม่ให้ใครเห็นว่าเธอกำลังอมยิ้มอยู่!!

              น่ารักจังเลย~!!

             เคียวโกะตะโกนในใจอย่างสุดกู่ ปลายตาก็เหลือบมองเด็กหนุ่มที่เธอว่า ว่าน่ารักก่อนจะรีบหันไปมองที่เดิม เพราะนัยน์ตาสีแดงนั่นกำลังจ้องมาที่เธอก่อนอยู่แล้ว  เอนมะคุงมองมาที่เราทำไมนะซึงพอเธอคิดได้ไม่เท่าไร เสียงแมสเซสข้อความก็ดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าอย่างลุกลี้ลุกลน ร่างบางกดเปิดอ่านข้อความ ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ

               จากเอนมะคุงนี่? เคียวโกะหันไปมองคนส่ง ซึ่งตอนนี้เขากลับไปเล่นกับนัทสึเหมือนอย่างเคยแล้ว เธอเลยอ่านข้อความในนั้นอย่างงงๆ

                      

                      มองฉันแล้วอมยิ้มทำไม...

     

                      ร่างบางยิ้มกับคำถามนั้น นิ้วเรียวก็กดปุ่มเขียนข้อความกลับไปบ้าง

       

                      เปล่าสักหน่อย ฉันยิ้มให้นัทสึจังต่างหาก..

     

                      เธอมองเอนมะที่กำลังพิมพ์ส่งหาเธออยู่อย่างตื่นเต้น ว่าเขาจะส่งหาเธอว่าอะไร เคียวโกะเปิดข้อความที่เข้ามาใหม่

                       

                    ไม่ต้องเลย ฉันรู้ว่าเธอมองฉันแล้วก็ยิ้ม ทำไมเหรอ? ฉันมีอะไรน่าขำหรือไง...

     

                     เคียวโกะยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบกลับไป

     

                     เปล่าจ้ะ ฉันก็แค่คิดว่าเวลาเธอเล่นกับนัทสึจังแล้วน่ารักดี...

     

                เด็กสาวส่งข้อความเสร็จก็หันไปมองเอนมะที่กำลังอ่านข้อความอยู่ด้วยใบหน้าที่แดงแจ๋ เคียวโกะขำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะดุ้งเล็กๆ กับเสียงข้อความเข้าอีกครั้ง เธออ่านมันแล้วก็ยิ้มอีกรอบ และส่งข้อความตอบตลับไปหาเอนมะ ทั้งคู่โค้ตอบเมลกันอย่างสนุกสนานจนเวลาล่วงเลยฝ่านไป ได้มีเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นมาจากชั้นสอง ซึ่งเป็นที่ๆ เรียวเฮและโคโยแข่งกันอยู่ ทุกคนจึงรีบวิ่งขึ้นไปดู แล้วก็ต้องผงะเมื่อข้าวของภายในห้องของสึนะกระจัดกระจายเต็มไปหมด สภาพเนื้อตัวของทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในห้องก็แทบดูไม่ได้ สึนะมองตัวเองอย่างซึ้งใจที่สุดที่ห้องของตัวเองเละยิ่งกว่าเก่าอีก...

                รีบอร์นทอดสายตาไปที่แผ่นข้อสอบที่ทำด้วยเซรามิคแกร่งพิเศษหักเป็นสองท่อนอย่างครุ่นคิด

               ชิม่อน... ใช่แฟมิลี่ต๊อกต๋อยจริงๆ รึ?

     

               งั้นก็โชคดีนะจ๊ะทุกคนคุณนายซาวาดะกล่าวลาแขกที่มากันในวันนี้อย่างยิ้มแย้ม

               บายๆ ค่ะคุณน้าเคียวโกะบอกลา แล้วเดินไปหาพี่ชายซึ่งกำลังรอเธออยู่ที่ประตูรั้ว และในขณะที่เธอกำลังเดินไปหาเรียวเฮที่แยกเขี้ยวใส่โคโยอยู่ เด็กหนุ่มหัวแดงก็เดินไปประชัดข้างๆ เธอแล้วกระซิบข้างหูเธอเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ เคียวโกะมองตามหลังเอนมะไปอย่างเหม่อลอย

               เฮ้! เคียวโกะ กลับกันเถอะเรียวเฮส่งเสียง เรียกสติของเคียวโกะกลับมา ร่างบางวิ่งไปหาพี่ชายของตัวเองอย่างงกๆ เงิ่นๆ อะ อือ!”

     

               ฮ้า~!! แข่งวันนี้ก็มันเหมือนกันนะเนี้ย~ ถ้าเกิดไม่นับที่สอบติวอ่ะนะ!”

               พี่นี่ล่ะก็ ข้อสอบมันยากขนาดนั้นเลยเหรอคะ

              โอ๊ย!! ยากสุดหูรูดไปเลยล่ะน้องรัก! พี่เห็นนี่อยากจะเป็นลม

              แต่ก็ได้ข่าวว่านายสลบเหมือดในตอนแรกเหมือนกันไม่ใช่เรอะ...

              เรียวเฮบ่นข้อสอบที่เจ้าหนูรีบอร์นให้เขาอย่างกระปอดกระแปด ก่อนจะชมตัวเองว่าเรานี่เก่งจริงๆ ที่ทำให้ข้อสอบนั่นแตกได้อยู่คนเดียว โดยไม่สนใจน้องสาวที่ก้มหน้าก้มตาคิดนู่นคิดนี่ ร่างบางหยุดเดินแล้วตัดสินใจบอกพี่ชายของตน และออกตัววิ่งไป

               พี่คะ! เดี๋ยวหนูมานะ พี่กลับไปก่อนเลยค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะหัวสนามหญ้า (?) มองร่างบางที่วิ่งออกไปอย่างงงๆ สงสัยจะปวดเข้าห้องน้ำมั้ง เฮ้อ~ กลับก่อนดีกว่า

                        

     

               แฮ่กๆ

              มาเจอกันที่สวนสาธารณะนามิโมรินะ...

               แฮ่กๆ

               ร่างบางหวนคิดคำพูดที่เด็กหนุ่มบอกกับเธอไว้ ก่อนจะเอามือยันกับราวโหนอย่างอ่อนแรง เพื่อไม่ให้ตัวเธอไม่ล้มไปกองอยู่กับพื้น โอย เหนื่อย! เธอคิดในใจ แล้วสูดลมหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ และเมื่อเธอเริ่มใจเย็นขึ้นแล้ว เธอก็หันมองหาเด็กหนุ่มที่นัดเธอมาที่นี่ ซึ่งเขาก็กำลังโบกมือเรียกเธออยู่เช่นกัน เคียวโกะยิ้มร่า แล้วเดินไปหาเอนมะทันที

               เอนมะคุงให้ฉันมาทีนี่ทำไมเหรอจ้ะ?

               เด็กหนุ่มไม่ตอบคำถามของร่างบาง แต่ตบพื้นข้างๆ เบาๆ เป็นเชิงว่าให้เธอนั่งลง เคียวโกะนั่งลงข้างเอนมะแล้วเอ่ยปากถามอีกรอบ

              ฉันชวนเธอทานมาเค้กด้วยกันน่ะ...เคียวโกะเอียงคอกับคำพูดของเอนมะ

              เธอชอบกินเค้กใช่มั้ยล่ะ? ฉันเลยชวนเธอมาไง  ร่างบางอ้าปากค้างอย่างตกใจ ก่อนจะถามกลับไป

              ทำไมเอนมะคุงถึงรู้ว่าฉันชอบทานเค้กล่ะ! ที่จริงวันนี้ฉันก็ตั้งใจจะมาซื้อเค้กไปทานเหมือนกัน แต่มาเจอพี่ก่อน เลยไม่ได้ไปเอนมะเห็นท่าทางตื่นๆ ของเคียวโกะก็หัวเราะออกมาเบาๆ

               ฮะๆ ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เมื่อวันก่อนฉันเห็นเธอกำลังจ้องเค้กในร้านขนมหวานแถวหน้าสถานีแบบเคลิ้มๆ เหมือนเธอกำลังกินเค้กชิ้นนั้นอยู่น่ะ เลยพอจะเดาได้ ส่วนเรื่องที่เธอจะมาซื้อเค้กวันนี้ฉันก็ไม่รู้หรอก เพิ่งรู้จากปากเธอนี่แหล่ะว่าจะมาซื้อ  เคียวโกะถลึงตาใส่เอนมะอย่างเคืองๆ

               ฉันไม่ได้ทำหน้าเคลิ้มสักหน่อยร่างบางบ่นอุบ เด็กหนุ่มเลยหัวเราะอีกรอบกับท่าทีของเด็กสาว

               อ่ะ อ้าปากสิ เดี๋ยวฉันป้อนเป็นการง้อแล้วกันเขาตักเค้กแล้วยื่นไปข้างหน้า เพื่อที่จะป้อนเค้กให้กับเคียวโกะ ร่างบางมองหน้าเอนมะสลับกับเค้กที่อยู่ตรงหน้าเธอไปมาอย่างเขินอาย

              มะ ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวฉันทานเองดีกว่า

               ไม่ได้ๆ ก็เธองอนฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ นี่ไงฉันง้อแล้ว อ้าปากสิเอนมะว่าพลางยิ้มเผล่ให้ เคียวโกะมองรอยยิ้มของคนตรงหน้า และคิดไปว่า เราโดนแกล้งซะแล้ว!

              ฉะ ฉันไม่ได้งอนนะจ้ะ เพราะงั้นเอนมะคุงไม่ต้องป้อน...

              ไม่เอาน่า ฉันรู้ว่าเธองอน เอ้า เร็วสิ ไม่งั้นฉันงอนนะ เอนมะเร่งเธอ ด้วยการงัดไม้ตายออกมาใช้ เคียวโกะไม่มีทางเลือก เลยกินเค้กคำนั้นเข้าไปอย่างอายๆ

              ดีมากเอนมะส่งยิ้มละลายใจไป เคียวโกะเบนหน้าหนีอย่างสุดจะทน โธ่เอ๊ย... มาแกล้งให้ใจฉันสั่นไหวอย่างนี้มันไม่ดีน้า~! เธอว่าพลางเอามือทาบอกตัวเองเพื่อหวังว่าจะให้ใจเต้นไม่เสียงดังจนให้เขาได้ยิน

              อ่ะ คำต่อไป

              เอ๋! มะ ไม่ต้องแล้วจ้ะเอนมะคุง ฉันทานเองได้

              ไม่ล่ะ ฉันจะป้อน อ้าปากเร็วสิ ไม่งั้นงอนนา

              งะ... ไหงงั้นอ่ะ!”

               ถือว่าเป็นการแก้แค้นที่เธอบอกว่าฉันน่ารักแล้วกัน

               ว้าย~! ไม่เอาแล้ว อายจะตายอยู่แล้วนะ

               ก็ดี ฉันชอบเห็นเวลาเธออาย น่ารักดี

               เอนมะคุงอ่ะ!”

               ฮ่าๆๆ

     

                           ขนมเค้ก ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนองตัณหาให้กับคนที่ชอบทานของหวาน

                           และบางครั้ง ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออยากจะเห็นรอยยิ้มที่หวานละมุนเหมือนดั่งครีม

                           ความสุขที่ได้ทานมัน ไม่ว่าใครถ้าเกิดได้สร้างสุขให้กับคนอื่นอย่างน้อยแค่คนเดียว เขาก็มีความสุขกันแล้ว

                           และเขา... ก็อยากที่จะเห็นรอยยิ้มของเธอที่แสนจะสดใสนี้

                           เพราะหลังจากนี้ไป... รสชาติของความหวาน จะถูกเปลี่ยนรสกลายเป็นความขมของยา

                          ความสุขที่มีแม้ช่วงนิดเดียว เขาก็อยากให้เธอได้มี

                          แค่นิดเดียวก็ยังดี...

    __________
    คอมเม้นด้วยนะคะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×