คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่8
"แม่ฮะ ผมอยากกินไอ้นั้นอ่ะ"
"ปาโป่งมั้ยจ้ะน้องสาว"
"สนใจทานไอศกรีมกันมั้ยคร้าบ~"
"ไอ้แก่! ริอาจพาชู้มาสวนสนุกเรอะ!"
เสียงเจื้อยแจ้วของผู้คนในสวนสนุกนั้น ไม่ได้ทำให้เด็กสาวร่างบางหลุดออกจากภวังค์ได้เลย เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะชำเลืองมองคนข้างๆ และก้มหน้ากลับไปเหมือนเดิม
หลังจากที่เอนมะได้กลับมากจากห้องน้ำแล้ว เขาก็เดินออกจากสวนดอกไม้ไปโดยไม่พูดอะไร ทำให้เธอต้องรีบยกมือไหว้สวัสดีคุณลุงแทบไม่ทันก่อนจะรีบวิ่งตามออกมา เคียวโกะส่งเสียงเรียกเอนมะให้หยุดรอเธอก่อน ซึ่งเอนมะก็หยุดเดินแต่ไม่พูดอะไรแถมไม่ยอมหันหลังกลับมาด้วย ร่างบางสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเอนมะจึงชวนคุยทันทีที่เดินตามทัน แต่คำตอบทีได้มาก็มีแต่ "อืม" ไม่ก็ "นั่นสินะ" ราวกับตอบส่งๆ ไป ร่างเล็กจึงเลิกความพยายามที่จะชวนคุยแล้วเดินตามเขาไปเงียบๆ โดยจะแอบลอบมองเอนมะเป็นระยะๆ
เฮ้อ~! เอนมะคุงเป็นอะไรกันนะ
หลังจากที่ได้ยินข่าวลือในสวนสนุกก็นิ่งเงียบไปเลย
หรือว่า... เขาจะไม่ได้คิดกับเราแบบนั้น...
"...โกะ เคียวโกะ!" ร่างเล็กสะดุ้งตามเสียง ก่อนจะหันไปมองคนเรียกด้วยความมึนงง
"เอ๋ มีอะไรเหรอจ้ะ"
"ฉันถามเธอว่าเธอหิวแล้วหรือยัง จะได้แวะหาอะไรใส่ท้อง"
"อ่อ คือฉันยังไม่ค่อยหิว... หวา!" สะดุ้งเหงื่อตกเมื่อเห็นใบหน้าที่แลดูคล้ายจะผิดหวังอย่างแรงหลังจากที่เธอพูด
"เอ่อ.... คือ..." หรือว่าเราพูดอะไรผิดๆ ไป?
"เหรอ... ยังไม่หิวหรอกเหรอ" เสียงหงอยๆ กล่าว แต่ยังไม่ทันที่เคียวโกะจะหายสงสัยในความจ๋อยของเด็กหนุ่ม เอนมะก็ทำให้เธอตกใจหนักกว่าเก่าเมื่อเขาได้ลงไปนั่งกอดเข่าเข้าหากำแพงในมุมหลืบ แถมยังปล่อยออร่าทะมึนๆ ออกมาเป็นของประกอบฉากอีกด้วย
อะ... อะไรกันเนี้ย~!!
ทันใดนั้นเด็กสาวก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าทำไมเอนมะถึงได้ดูผิดหวังอย่างนี้ ซึ่งพอนึกเหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
"... ขำอะไรของเธอน่ะ" ผีตายซากมุมกำแพง (?) เอ่ยขึ้น
"คิกๆ เอนมะคุงหิวแล้วล่ะสิท่า"
"เปล่านะ! ฉันก็แค่..."
โครก~!!
เสียงๆ เดิมที่มักจะคอยทำให้เด็กหนุ่มเสียหน้าอยู่บ่อยๆ และคอยเรียกเสียงหัวเราะจากร่างบางอยู่เสมอ
"ไม่หิว... ฮะๆ" หัวเราะอย่างไม่เกรงใจคนตรงหน้าที่กำลังอายหน้าดำหน้าแดง "เลิกหัวเราะได้แล้วน่า"
"อุ๊บ คิก~ โอเคจ้ะ งั้นเราไปกินเคเอฟซีตรงหัวมุมตรงนู้นแล้วกันนะจ้ะ" ใบหน้าคมฉงน
"... วันนี้ไม่ได้ทำข้าวกล่องมาหรอกเหรอ" เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เคียวโกะทำหน้าบอกไม่ถูกเมื่อเจอคำถามนี้
"คือ... ที่จริงฉันทำมาแล้วนะจ้ะ แต่พอดีรีบไปหน่อย ก็เลย..." เด็กสาวพลางเกาหัวแกรกๆ อย่างเขินอายในความเปิ่นของตัวเอง ตื่นเต้นมากเกินไปก็อย่างนี้แหล่ะน้า...
"หืม... "
"ระ เรื่องนั้นช่างมันเถอะจ้ะ เรารีบไปกินข้าวกันดีกว่าเนอะ" ใบหน้าหวานพยายามเปลี่ยนเรื่อง พร้อมกับดึงแขนคนข้างๆ มาด้วย แต่เขากลับไม่ยอมเดินตาม
"งั้นฉันไม่กินดีกว่า" นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้างขึ้นอย่างตะลึงตกใจ ก่อนจะกระวีกระวาดวัดอุณหภูมิเด็กหนุ่มอย่างร้อนรน "เอนมะคุงไม่สบายหรือเปล่าจ้ะ? หรือว่าปวดท้อง? ถ้าเกิดปวดท้องฉันมียานะจ้ะ"
"นี่ๆ แค่ฉันบอกว่าจะไม่กินมันแปลกนักเหรอ"
"มากๆ เลยล่ะจ้ะ!!" ตอบทันควันด้วยสีหน้าจริงจังอย่างที่สุด
"นี่ฉันเหมือนคนเห็นแก่กินขนาดนั้นเลยรึนี่..." รำพึงรำพันกับตัวเองเบาๆ แต่คนข้างๆ กลับได้ยินและรีบบอกปัดไป "ไม่ใช่นะจ้ะ! ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น อ่า... อย่าทำหน้าเศร้าสิจ้ะเอนมะคุง~"
แต่เอนมะก็ยังซึมเศร้า (?) พลางพึมพำกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่า 'ใช่สิ เรามันเห็นแก่กิน เรามันเห็นแก่ได้ พึมพำๆ...'
ทำยังไงดีเนี้ย~!
"อ๊ะ ตรงโน้นมีช็อคโกบานานาขายนี่นา เดี๋ยวฉันไปซื้อมาให้นะจ้ะ" ว่าแล้วก็ผลุนผลันออกตัวไปซื้อทันที
เวลาผ่านไปได้สักพักเคียวโกะก็กลับมาพร้อมกับถือช็อคโกบานาน่ามาสองแท่ง เธอยื่นแท่งหนึ่งไปให้เอนมะ "เอนมะคุง หายงอนนะ?"
เด็กหนุ่มมองมันอย่างชั่งใจนิดนึง ก่อนจะหยิบช็อคโกบานานามาและรีบสวาปามไปอย่างรวดเร็ว
ไม่เห็นแก่กินเลยจริงๆ...
เคียวโกะมองร่างที่กำลังกินช็อคโกบานานาอย่างเอาเป็นเอาตาย อย่างขำๆ ก่อนจะลงมือทานของตัวเองบ้าง
จนเมื่อทั้งคู่ทานเสร็จแล้ว คนผมแดงก็เอ่ยปากชวนเด็กสาวทันที
"เอ้า ไปกันต่อเถอะ" เขาส่งมือมาให้เธอ ในขณะที่ร่างบางกำลังงงงวยกับคำชวน "ไปไหนเหรอจ้ะ?"
"ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์กันไง!"
ภายในกระเช้า
"..."
"..."
รู้งี้ไม่ขึ้นมาเสียก็ดีหรอก!
เคียวโกะคิดอย่างอึดอัดใจ ก็แหม! ถ้าเกิดรู้ว่าข้างในมันแคบพอที่จะนั่งแค่สองคน แถมยังต้องนั่งเบียดๆ กันอีก เธอก็คงไม่ขึ้นมาตั้งแต่ทีแรกแล้ว
ต้องคอยมานั่งให้หัวใจเสียวเล่นนี่ มันไม่ใช่เรื่องเลยนะ ไหนจะต้องสะดุ้งเฮือกทุกทีโดนตัวเอนมะคุง ไหนจะต้องคอยเบนสายตาไปทางอื่นจนไม่รู้จะมองไปทางดี....
ถ้าเกิดเราจะตาย ก็ตายเพราะชิงช้าสวรรค์นี่แหล่ะ!
พวกเขานั่งเงียบไปครู่ใหญ่เพราะต่างก็ทำตัวไม่ถูก จนเมื่อกระเช้ามาถึงจุดสูงสุด...
"เคียวโกะ... ดูนั่นสิ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น เด็กสาวจึงมองไปตามทางที่เอนมะบอก
"ว้าว!" เธอร้องออกมาอย่างตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้า ซึ่งเป็นวิวที่แทบจะมองเห็นเกือบทั่วเมืองนามิโมริเลยก็ว่าได้ แสงพระอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะลับตา ส่องลงมายังเมืองทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก เป็นความงามที่ไม่สามารถจะละสายตาได้
"สวยจังเลยนะ.... อ๊ะ" ร่างบางที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าคนข้างๆ นั้นได้เข้ามาประชิดตัวจากข้างหลังที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไร
ร่างของทั้งสองใกล้ชิดกันเสียจนได้กลิ่นกลิ่นกาย เคียวโกะหน้าแดงเมื่อเอนมะได้พ่นลมหายใจจรดตรงหลังใบหูเธออย่างเบาๆ ครั้นจะหันไปมองคนข้างหลัง ใบหน้าก็ห่างกันไม่กี่เซนต์ขนาดที่ว่าถ้าเกิดใครเผลอพูดออกไป ริมฝีปากคงได้แตะกันเป็นแน่
"เอ่อ... เอนมะคุงจ้ะ ช่วยถอยออกไปหน่อยได้มั้ย คือฉันหายใจไม่ค่อย..." ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบ ริมฝีปากบางก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของคนอีกคน
จูบครั้งที่สองนั้นช่างหอมหวาน และอ่อนโยนกว่าครั้งแรกเป็นไหนๆ อาจเป็นเพราะบรรยากาศหรืออาจจะเป็นความรักที่เธอมีให้เขามากขึ้นกว่าเดิม ทำให้จูบนี้หวานดั่งลูกกวาดรสมิ้นท์ที่เพลิดเพลินและรู้สึกดี
เนิ่นนานหลายวินาทีกว่าที่เขาจะถอนจูบออก ร่างบางที่ปากช้ำจากการกระทำเมื่อสักครู่กำลังสูดลมหายใจเข้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เนื่องจากเธอยังไม่มีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มากเท่าไร แถมยังนานเสียจนเธอหายใจไม่ทัน เอนมะเผลอหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
“ฮ่าๆ” รอยยิ้มที่เรียกเสียงหัวใจให้เต้นรัวเป็นจังหวะกลองดัง เคียวโกะมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วยิ้มบางๆ ให้กับตัวเอง
อย่างนี้หรือเปล่านะ ที่เขาเรียกว่าความสุข?
งั้นฉันขอ... ขอให้มันเป็นอย่างนี้...
.... ตลอดไป…
“ลงกันเถอะ” เด็กสาวพยักหน้ารับ ก่อนจะลงจากกระเช้าที่วนจนหมดรอบแล้ว ตามด้วยเอนมะ
เด็กหนุ่มเหลือบมองดูนาฬิกาที่กำลังบอกเวลาว่าใกล้เวลาที่ขบวนพาเหรดกำลังจะเริ่มแล้ว แต่ในขณะที่เขาจะเอ่ยปากชวนเด็กสาว เสียงข้อตวามเข้าก็ดังขึ้น
“โทษทีนะ แป๊บนึง” เขาหันขอโทษเด็กสาวก่อนจะดูชื่อคนส่งมาว่าเป็นใคร
จากอาเดลไฮท์?
ปลายหางคิ้วเลิกขึ้นอย่างสงสัย เธอก็รู้ดีนี่นาว่าวันนี้เรามาเดทกับเคียวโกะ แต่ทำไมถึงส่งข้อความมานะ? มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า? เด็กหนุ่มสลัดความคิดพวกนั้นออกจากหัว และอ่านข้อความให้รู้กันไปเลย ดีกว่ามานั่งสับสนกับตนเอง
โกคุเทระ ฮายาโตะ เรียกรวมพล ให้พวกเรามารวมตัวกันที่ร้าน xxx อย่างเร่งด่วน
ข้อความสั้นๆ แต่ได้ใจความปรากฏขึ้นในสายตาของเอนมะ เรียกรวมพลทำไมนะ หรือว่าเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อวานตอนกลางวัน เด็กหนุ่มคิดไปถึงตอนที่ซาวาดะ สึนะโยชิโดนลอบจู่โจมจากแฟมิลี่อื่นที่ไม่เห็นด้วยกับพิธีสืบทอดครั้งนี้ เอาไงดีล่ะ ไปดีมั้ยนะ แล้วขบวนพาเหรดที่สัญญากับเคียวโกะไว้ว่าจะไปดูด้วยกันจะทำยังไงล่ะ? เอนมะคิดอย่างหนักใจ
“เอ่อ มีอะไรหรือเปล่าจ้ะเอนมะคุง” เคียวโกะถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล เด็กหนุ่มมองหน้าเธอก่อนจะตัดสินใจไป
“ขอโทษนะ ฉันคงไปดูขบวนพาเหรดกับเธอไม่ได้แล้วล่ะ” เขาว่าพลางก้มหัวขอโทษเด็กสาว
“เอ๋?”
“เมื่อกี้อาเดลไฮท์ส่งข้อความมาน่ะ ว่าให้ไปเจอกันที่ร้าน xxx ด่วน เห็นว่ามีปัญหาอะไรสักอย่างนี่แหล่ะ”
“อาเดลไฮท์... คนที่ย้ายมาพร้อมกับเอนมะคุงน่ะเหรอจ้ะ”
“อืม ขอโทษด้วยนะ” เขาขอโทษเธออีกที เพื่อบอกให้เธอรู้ว่า เขาเสียใจจริงๆ
“ไม่เป็นไรจ้ะ ไปดีมาดีแล้วกันนะจ้ะ” เธอว่าด้วยรอยยิ้มอย่างไม่สงสัยอะไร เอนมะมองเคียวโกะด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำขอบคุณ ก่อนจะออกตัวไปอย่างรวดเร็ว โดยพูดทิ้งท้ายไว้ให้เด็กสาวใจเต้นอยู่คนเดียว
“ขอโทษจริงๆ นะ ไว้คราวหน้าเราไปพักค้างแรมที่ทะเลแล้วกัน ฉันจะทำให้เธอไม่ผิดหวังแน่นอน”
เด็กสาวหน้าแดงแปร๊ด และตะโกนไล่หลังกลับไป
“ที่ว่าไม่ผิดหวังหมายถึงอะไรกันแน่จ้ะ! แล้วทำไมถึงต้องมีคำว่า ‘ค้างแรม’ ด้วยล่ะ!!” เอนมะหันมายิ้มทะเล้น ก่อนจะหายตัวไปท่ามกลางผู้คน เคียวโกะทำหน้ามุ่ยกับตัวเอง และก้าวเท้ากลับบ้านของตัวเองบ้าง เพราะตอนนนี้ก็เย็นมากแล้วด้วย
“ว่าแต่เอนมะคุงกับผู้หญิงคนนั้นมีความสัมพันธ์ยังไงกันนะ?”
____________
ตอนนี้มาแบบมึนๆ เพราะตอนแต่งไรท์เตอร์ก็มึนๆ เหมือนกันค่ะ (ฮา)
ขอคอมเม้นหน่อยนะค้า~
ความคิดเห็น