คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : △ chanbaek | Even if there is no tomorrow
EVEN IF THERE IS NO TOMORROW
c h a n y e o l x b a e k h y u n
- o h a r h a -
ลมเอื่อย ๆ พัดโกรกท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของบ้านเดี่ยวแถบชานเมือง นานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้กลับมา นานเท่าไรที่เสียงร้องไห้นั้นยังคงติดในห้วงสำนึก นาน... แต่ก็ไม่นานมากพอที่จะทำให้ลืมบางสิ่งบางอย่างในบ้านหลังนี้ บ้านที่ใครคนนั้นซึ่งเฝ้ารอเขาตลอดมา ใครที่มักจะกลับมาพร้อมหนังสือหัดทำอาหารและหมกตัวอยู่ในครัว ใครที่ใช้เวลาส่วนมากไปกับการเล่นเกม และใช้เวลาส่วนน้อยในการทำสิ่งที่ไม่ชอบ อาหารที่เขาชอบบอกว่ามันไม่อร่อย และออกไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาตุนไว้ทุกทีไป
ใครคนนั้นกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเล็ก ๆ เยื้องออกจากห้องครัว ตรงหน้านั้นคือชามจาจังมยอนสีขาวเป็นเงาวับ จากสายตาของคนที่นั่งจ้องมันอยู่บอกชัดว่าไม่เต็มใจจะกินสักเท่าไร
“แบคฮยอน...”
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเรียกออกไปแผ่วพร่า ดวงหน้าขาวนั้นหันมาวูบหนึ่ง คิ้วเรียวขมวดน้อย ๆ ราวกับขัดแย้งบางอย่างในใจ แต่เพียงครู่เดียวก็เชิดรั้นขึ้นแล้วหันกลับไปตามเดิม ก้มหน้าคีบอาหารในชามเข้าปากเหยเก แต่ก็เงียบเชียบเสียจนเหมือนว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่เป็นเพียงอากาศธาตุ
ปาร์คชานยอลก้าวอาด ๆ ไปจนหยุดอยู่เบื้องหลังอีกคน ฝ่ามือหนายกขึ้นวางบนเรือนผมสีเปลือกไม้นั้นบางเบา ค่อย ๆ ลูบด้วยความรู้สึกทะนุถนอม อ่อนโยน จนร่างเล็กนั้นสั่นเทา เพียงครู่ที่ชานยอลเห็นนัยน์ตาเรียวรีนั้นคลอรื้น กระทั่งร่างทั้งร่างผุดลุกหนีไปพร้อมเทจาจังมยอนที่เหลืออยู่เต็มชามลงถังขยะ
“โกรธมากเหรอ”
สองมือเกาะท้าวอ่างล้างจานพลางเงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจลึก ไม่แม้แต่จะต่อคำใด ๆ กลับมาอย่างเช่นเคย บยอนแบคฮยอนเลือกใส่ใจกับจานชามซึ่งกองสุมเลอะอยู่ทั่วครัว อีกครั้งที่เขาตัดสินใจทำอาหารที่ไม่มีทางอร่อยขึ้นมาได้เลยแม้ว่าจะพยายามไปมากเท่าไร
‘ลองชิมดู เชื่อเถอะว่าอร่อยเหาะ’
คิมบับจานโตถูกยื่นไปตรงหน้าชายหนุ่มร่างผอมสูงที่นอนเอกเขนกดูทีวีสบายอารมณ์ มักจะชอบบ่นว่าที่บ้านไม่มีอะไรกิน บ่นว่าอยากได้นู่นนี่ เป็นอยู่อย่างนั้นเสียจนแบคฮยอนทนไม่ไหว ตัดสินใจปิดเกมลงแล้วเข้าเว็บสอนทำอาหาร ลองดูถูก ๆ ผิด ๆ จ่ายตลาดก็ได้มาแต่ของแพง ๆ เพราะซื้อไม่เป็น ทำเสียงดังก๊องแก๊งในครัวจนอีกคนต้องเดินมาดู และพบเพียงคนที่หัวเราะแห้ง ๆ โดยมีพื้นหลังเป็นอาหารไหม้เกรียม
‘ทำอะไรเนี่ย เลอะเทอะไปหมดแล้ว’ ดันตัวยุ่งออกไปให้พ้นทางแล้วจัดการเก็บกวาดครัวเสียใหม่ ในตอนนั้น ไม่ทันได้มองว่าใบหน้าเปรอะเปื้อนนั้นกำลังแสดงอารมณ์ความรู้สึกแบบใด ไม่ได้สนใจแม้กระทั่งว่ามันก้มลงต่ำ เพียงชั่วอึดใจ เสียงแหบพร่าก็กลั้นใจถามออกมาโดยที่ยังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
‘ก็เห็นบ่นว่าอยากกิน เลยหัดทำให้’
‘นั่งเล่นเกมต่อไปเถอะน่า อาหารสำเร็จรูปก็อร่อยดีอยู่แล้ว’
เสียงน้ำจากก๊อกไหลกระทบอ่างสแตนเลสจนเกิดเสียงดังก้องคลอไปกับสายลมหวีดหวิวภายนอก แบคฮยอนยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ใช้ฟองน้ำถูล้างไปตามขอบจานชามแล้ววางซ้อน ๆ กันด้วยท่าทีที่ไม่ได้ดูทะมัดทะแมง คนมองทำเพียงแค่ยืนมองห่าง ๆ มองไหล่ลาดที่ไหวขึ้นลงตามการเคลื่อนไหวของมือ โดยที่ไม่เห็นใบหน้านั้นเหมือนอย่างทุกที
เพล้ง
จานกระเบื้องตกลงกับพื้นจนร่างเล็กต้องถอยกรูด รีบก้มลงเก็บเศษซากจานแตกด้วยความหัวเสีย อุทานออกมาผะแผ่วยามถูกบาดที่นิ้วให้เห็นเลือด ครั้นชานยอลรีบถลาเข้ามาดู กลับได้เห็นน้ำตาใส ๆ เอ่อล้นในดวงตาสีนิลสนิท น้ำตาที่คิดว่าแบคฮยอนคงไม่มี
“เจ็บไหม”
ยื่นมือเข้าไปเพื่อประคองมือเรียวไว้แต่กลับถูกอีกฝ่ายเบี่ยงตัวหนีไปอีกทาง แบคฮยอนกุมมือตัวเองไว้ ก้าวฉับ ๆ เข้าไปในตัวบ้าน รื้อหายาในตู้ด้วยมือเดียว กระทั่งได้มาเพียงแค่เบตาดีนและผ้าพันแผล
“ให้ช่วยนะ”
คนตัวเล็กพันมือด้วยผ้าก๊อตอย่างลวก ๆ โดยไม่พึ่งเสียงเสนอตัวนั้น น้ำตาที่อดกลั้นไว้ค่อย ๆ ไหลเผาะลงมาเป็นทาง พอลุกขึ้นจะเก็บยาบนโต๊ะเก็บกลับเข้าตู้ น้ำตานั้นก็ยิ่งไหลออกมาอีก กระทั่งร่างทั้งร่างหอบโยน
ปาร์คชานยอลตรงเข้าสวมกอดแผ่นหลังนั้นด้วยใจวูบหาย “ไม่เอา ไม่ร้องไห้”
รับแรงสั่นไหวจนต้องรัดรึงอ้อมแขนให้แน่นขนัด อบอุ่น อ่อนโยน และปรารถนาจะให้อีกคนมีความสุขอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ร่ำคำกระซิบข้างหูเสียงเว้าวอน เพราะแบคฮยอนไม่เคยร้องไห้ให้เห็น ชานยอลถึงได้เพิ่งรู้ว่ามันทำให้ใจเขาแตกเป็นเสี่ยงได้ถึงเพียงนี้
“อย่าร้องไห้เลยนะ”
“....”
“ขอโทษ แบคฮยอน”
“....”
“....”
“นายมันใจร้าย...”
เสียงนั้นสะอื้นไห้จนฟังแทบไม่ได้ศัพท์ แบคฮยอนเคนขอร้องชานยอลว่าอย่าไป แต่เขาก็แค่โมโหและเลือกทิ้งให้คนในอ้อมกอดอยู่ตามลำพัง จากนั้นก็กลับมาทั้งรอยยิ้ม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ้มที่เป็นหลักประกันอะไรไม่ได้สักอย่าง
“จะไม่ไปไหนแล้ว... สัญญา”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากบริเวณเคาน์เตอร์บาร์ที่เพิ่งเดินจากมา ร่างเล็กสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนผละออกจากอ้อมกอด เดินสะโหลสะเหลไปคว้าเอาโทรศัพท์เครื่องบางเฉียบ จ้องมองชื่อบนหน้าจอเพียงครู่หนึ่ง แล้วจึงกดรับด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าในนาทีต่อมา “โอเค จะไปแต่งตัวเดี๋ยวนี้แหละ”
คุยกันแค่เพียงประโยคสั้น ๆ ก็กดตัดสายไป หันมาสบตากันแค่ครู่หนึ่ง แบคฮยอนก็ผละเดินเข้าไปในห้องนอน ชานยอลตัดสินใจเดินตามไปติด ๆ และเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังเปลี่ยนจากชุดลำลองเป็นเสื้อตัวใหม่ แล้วทับด้วยเสื้อโค้ทอีกชั้นหนึ่ง
จากนั้นจึงหันมายิ้มให้ ชานยอลคิดว่าแบคฮยอนคงยอมอภัยให้แล้ว
“เดี๋ยวจะออกไปข้างนอกกับพี่จุนมยอนนะ อยากกินซุปไก่ใช่ไหม ไว้เดี๋ยวจะซื้อกลับมาทำให้กินนะ”
“....”
“ระหว่างที่นายไม่อยู่ ฝีมือฉันขึ้นเยอะเลย”
ร่างสูงคลี่ยิ้มกว้างรับคำพูดคำจาน่าฟังของอีกคน “โอเค เดี๋ยวจะรอ”
“นายมันบ้าจริง ๆ เลยชานยอล ทั้งบ้า ขี้บ่น แล้วก็ชอบกวนประสาทอยู่เรื่อย”
“....”
“ฉันชอบคนนิสัยไม่ดีแบบนี้เข้าไปได้ยังไง”
แบคฮยอนหลุบสายตาลงต่ำ ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินสวนออกไปเมื่อเห็นว่าคนที่นัดกันไว้ได้มาถึง คิมจุนมยอนอยู่ในชุดเสื้อโค้ทแบบยาวเช่นเดียวกัน สองมือนั้นล้วงอยู่ในกระเป๋า ยืนจังก้ารออีกคนที่กุลีกุจอรวบโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาไว้ในมือ
“จะไปกันหรือยัง”
“ครับ ขากลับแวะซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อของด้วย ผมจะทำซุปไก่” พอตั้งท่าจะเดินออกไป ร่างเล็กก็จำต้องเอี้ยวตัวกลับมา หน้าประตูห้องมีใครอีกคนยืนอยู่ ชานยอลคอยอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้เดินตามออกไป “แป๊บนึงนะพี่จุนมยอน”
บยอนแบคฮยอนก้าวเดินกลับมา หยุดอยู่ตรงหน้าร่างสูง ใช้สายตาจับจ้องเพียงครู่หนึ่ง
แล้วค่อย ๆ เดินทะลุผ่านไป
มือเรียวคว้าเอาล็อกเกตเงินอันเล็กที่มีรูปของใครบางคนขึ้นมอง เจ้าใบหน้ารูปไข่ ผมซอยสั้น และสายตาสดใสซึ่งจับจ้องมองเขาเพียงคนเดียว แบคฮยอนเก็บสร้อยล็อกเกตลงกระเป๋าเสื้อโค้ท จากนั้นจึงเดินกลับออกไปหาคนที่รออยู่
“ผมลืมของน่ะ”
ทั้งคู่เดินห่างออกจากคนในล็อกเกต ร่างผอมสูงของปาร์คชานยอลค่อย ๆ โปร่งแสง ในนาทีต่อมา มันกลับหายล่องไปตามกระแสลมอ่อน ๆ ของฤดูใบไม้ผลิ
และแรงลมนั้นเองที่พัดอวลอยู่รอบตัวบยอนแบคฮยอนจนต้องละมือจากประตูรถ คนตัวเล็กเบนสายตามองไปรอบ ๆ ทว่าไม่พบสิ่งใด คงมีเพียงเสียงที่แว่วหวานนั้นกระมัง
“จะไม่ไปไหนแล้ว... สัญญา”
แบคฮยอนไม่รู้ว่าน้ำตานี้ไหลมาจากที่ใด
หากแต่ความอบอุ่นที่ราวกับว่าสายลมนั้นกำลังโอบกอดทั้งร่างไว้ มันทำให้คิดถึงใครบางคนจับหัวใจ ใครคนนั้นที่จากเขาไปตลอดกาล
“ฉันรู้”
ล้วงมือลงในกระเป๋าเสื้อโค้ท บีบกุมล็อกเก็ตสีเงินไว้แน่น
แบคฮยอนยิ้มให้กับสัมผัสร้อนวาบ คล้ายกับมีอีกมือกุมอยู่ด้วยกันก็ไม่ปาน
“แบคฮยอน”
ความคิดเห็น