ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) RED SNITCH | sekai chankai (Hogwarts!AU)

    ลำดับตอนที่ #19 : 18 | THE MONSTER THAT YOU SEE (50%)

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ย. 61


     

     

    RED SNITCH

    (AU!HOGWARTS)

    OSH | KJI | PCY

     

     



    ( 18 )

    THE MONSTER THAT YOU SEE'

     



     

     

    โอเซฮุนจะรอดพ้นจากสิ่งที่เขาทุกข์ใจหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายแล้วนะ

     

     

    คิมจงอินจดจำบทสนทนาบนหอดูดาวคืนนั้นได้ขึ้นใจ

     

     

     

     

    ฉันชอบนาย

     

     

     

     

    คงมีอะไรมาเข้าสิงถึงได้พูดเช่นนั้นออกไป และอะไรที่ว่านั่นก็ลดทอนซึ่งทิฐิ ศักดิ์ศรี และความภาคภูมิใจของกัปตันทีมควิดดิชแห่งบ้านกริฟฟินดอร์จนไม่เหลือชิ้นดี ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นฝ่ายเดินตามโอเซฮุนออกมาถึงที่นี่ ทั้งที่กระจ่างแจ้งแก่ใจแล้วว่าหมอนี่คงเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายต่างๆ อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ทำไม -- ทำไมต้องเป็นเจ้าหนวดปลาหมึกงี่เง่านี่ด้วยเล่าที่เลือกภักดีต่อจอมมาร ศัตรูของผู้วิเศษทั้งโลก

     

     

    อย่างนี้แล้ว... นายจะยอมบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นใช่หรือเปล่า?

     

     

    แล้วทำไมนายต้องการเหตุผลบ้าๆ พรรค์นั้นด้วยเล่า เสียงหนึ่งท้วงในหัว คนคนนี้สวามิภักดิ์ต่อศาสตร์มืด!

     

     

    หัวใจของจงอินบีบรัดแน่นจนปวดหนึบ เขาไม่ชอบตนเองที่เป็นแบบนี้เลย คิมจงอินซึ่งเอาแต่เรียกร้องความถูกต้องมาบังหน้าแต่กลับยอมปล่อยให้ผู้เสพความตายรอดจากโอกาสถูกจับกุมอย่างง่ายๆ เคยเชื่อว่าผู้ที่เลือกอยู่ฝั่งชั่วร้ายย่อมต้องเป็นบุคคลชั่วร้าย แต่ขาวหรือดำเป็นอย่างไร สิ่งใดคือความถูกต้องกันแน่ ตอนนี้จงอินไม่แน่ใจเลยสักอย่าง -- เขาคงหน้ามืดตามัวเข้าจริงๆ เสียแล้วกระมัง

     

     

    อีกฝ่ายอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วริมฝีปากได้รูปก็หุบสนิท ดวงตาที่เคยวิบวาวไปด้วยความเจ้าเล่ห์เพทุบายบัดนี้กลับหม่นแสง ด้านชา จนไม่รู้ว่าภายในใจกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เซฮุนปล่อยให้ความเงียบโรยตัวลงมาพร้อมกับความอึดอัดอันไร้ทางออก จากนั้นจึงเริ่มแค่นหัวเราะอย่างไม่มีเหตุผล ก่อนจะสลัดผ้าห่มที่ใช้ปกคลุมร่างกายเปียกชื้นออกไป

     

     

    สิ่งนั้นถูกยกขึ้นมาตรงหน้า... ตราที่จงอินไม่แม้แต่จะอยากเห็นเป็นครั้งที่สอง

     

     

    นายเห็นมันแล้วสินะ

     

     

    เซฮุนถามเสียงเรียบ ส่วนเขาเผลอกัดริมฝีปากตนเองขณะเรียบเรียงความคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไป

     

     

    ใช่ ฉันเห็นมันแล้ว

     

     

    “... คนตรงหน้าจ้องมองเขานิ่ง ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่จับฉันส่งตัวให้มือปราบมารเสียเล่า

     

     

    ภายใต้สายตาทิ่มแทงอย่างนั้น โอเซฮุนกลับเปิดเผยว่าหัวใจของตนคงถูกทิ่มแทงเสียยิ่งกว่า

     

     

    หรือว่านี่เป็นวิธีรีดคำสารภาพของนาย?

     

     

    มือสีแทนกำหมัดแน่น น่าสมเพชที่หลังจากเคยเอาตัวเข้าแลก มาวันนี้คิมจงอินยังจะใช้ความรู้สึกเพื่อหวังผลเช่นนี้อีก ตัวเขาคงบ้าไปแล้วที่พูดอย่างนั้นออกไปในเมื่อสิ่งต่างๆ ก็ชัดเจนดีอยู่แล้ว ผลลัพธ์ไม่สามารถเปลี่ยนความเป็นจริงที่ผ่านมาได้ เขาน่าจะรู้แก่ใจดี แต่ทำไมถึงต้องพยายามยื้อยุดเพื่อสร้างเหตุผลอันชอบธรรมให้คนคนนี้ด้วย

     

     

    าจเป็นเพราะแววตาบนหอดูดาวนั่น สัมผัสที่วิงวอนให้เขาปลอบประโลมตลอดมา หรือน้ำตาซึ่งหลั่งรินเมื่อสักครู่นี้กระมัง

     

     

    ความวุ่นวายทั้งหมดในฮอกวอตส์เป็นฝีมือนายอย่างนั้นหรือ

     

     

    ถ้าใช่แล้วจะทำไม ไม่ใช่แล้วจะทำไม -- จงอินไม่รู้เลย

     

     

    คิดว่าไงล่ะ เซฮุนเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย คลี่รอยยิ้มอย่างงูพิษจนเขาขนลุกซู่ นายกำลังโกหกตัวเองเพราะเกิดชอบฉันขึ้นมาจริงๆ อย่างนั้นซี

     

     

    “...”

     

     

    “เวลาที่เห็นนายอยู่ในสภาพน่าอับอายแบบนั้น ฉันแทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่แน่ะ”

     

     

    ทั้งที่น่ารังเกียจขนาดนี้แท้ๆ

     

     

    ที่แท้คิมจงอินแห่งกริฟฟินดอร์ก็นิยมชมชอบการถูกย่ำยี --

     

     

    จงอินสุดจะทนแล้ว เขาพุ่งเข้าใส่พร้อมกับการซัดหมัดหนักๆ ที่ใบหน้าหล่อเหลาจนเซฮุนเซถลา ไม่ปล่อยให้ตั้งตัวก็ตรงเข้ากระชากคอเสื้อแล้วต่อยอีกรอบ ครั้งนี้เจ้าขายสลิธีรินถึงขั้นร่วงลงไปกองกับพื้น กลีบปากเปรอะไปด้วยเลือดคาวๆ แต่พอจะซัดหมัดที่สามเข้าใส่ โอเซฮุนก็ตั้งรับด้วยการคว้าข้อมือของเขาเอาไว้แล้วจับทุ่มลงกับพื้น จากนั้นจึงฉวยโอกาสขยับตัวขึ้นคร่อม แย่งชิงไม้กายสิทธิ์ขนาดสิบสองเศษสามส่วนสี่นิ้วซึ่งทำจากไม้แอชไปถือไว้ในมือเสร็จสรรพ มิหนำซ้ำยังใช้มันกดชี้ลงมาตรงหน้า ข่มขู่คิมจงอินให้สงบท่าทีด้วยแววตาน่ากลัว

     

     

    เลิกโง่สักที! นายยังไม่เข้าใจอีกหรือไง!

     

     

    เจ้าชายสลิธีรินแทบไม่เคยขึ้นเสียงใส่เขา ไม่มีสักครั้งที่จะหลุดจากท่าทียียวนและแสดงความโมโหโกรธาออกมาเหมือนคนที่คุมสติไม่อยู่อย่างนี้ ราวกับงูพิษที่กำลังแผ่แม่เบี้ยเพื่อขู่ให้เหยื่อตัวสั่นงั่นงกด้วยความกลัว หรือไม่แล้ว... คนคนนี้อาจจะคิดปลิดชีพเขาจริงก็เป็นได้

     

     

    หัวใจของคิมจงอินแค่นหัวเราะหยัน

     

     

    เขาโง่ แต่ก็ไม่โง่พอจะเชื่อว่าโอเซฮุนกำลังพูดความจริง

     

     

    ะเอายังไงล่ะ จงอินท้า ฉันรู้แล้วว่านายเป็นผู้เสพความตาย”

     

     

    ถึงตรงนี้เซฮุนกัดฟันกรอด น่าลุ้นว่าการเดิมพันของซีกเกอร์คนเก่งแห่งบ้านกริฟฟินดอร์จะประสบผลหรือไม่ หากเซฮุนเพียงนึกสนุกกับการย่ำยีศักดิ์ศรีดังที่เอ่ยปากพูด เขาคงไม่รอดจากสถานการณ์เสียเปรียบเช่นนี้แน่ และเขาก็ไม่ได้สร้างตัวเลือกใดไว้เลยถ้าทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามที่คิด

     

     

    หรือแท้จริงคิมจงอินก็แค่เด็กหนุ่มอวดฉลาดคนหนึ่งเท่านั้น

     

     

    เพราะเซฮุนไม่ได้ขู่เขา แต่กลับกดปลายไม้ใส่ด้วยสายตาเย็นชา

     

     

    พอกันที คิมจงอิน...

     

     

    จงอินเบิกตาโพลง ไม่อยากเชื่อว่าตนเองจะต้องมาจบชีวิตลงตรงนี้ และอาจเป็นเพียงแค่แวบเดียวก็ได้ที่เขาได้สัมผัสถึงความดำมืดในจิตใจของอีกฝ่าย โอเซฮุนในตอนนี้ช่างดูเหมือนกับปีศาจที่สังหารชีวิตอื่นได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นยูนิคอร์นตัวนั้น เซเลน่า โกเมซ หรือคิมจงอินผู้อวดดีก็ตาม

     

     

    ห้มันจบลงตรงนี้

     

     

    ฉัน... เขาอยากพูดอะไรกันแน่ ในสถานการณ์ที่กำลังจะถูกฆ่าแบบนี้...

     

     

    อะวา--

     

     

    สตูเปฟาย!

     

     

    แล้วร่างของโอเซฮุนก็ถูกลำแสงสีแดงยิงใส่จนกระเด็นออกไปต่อหน้าต่อตา หัวใจเขายังคงเต้นระรัวจนเหมือนจะหลุดออกมาจากอก และลมหายใจก็ยังถูกหยุดเอาไว้ต่อให้จะมองขึ้นไปเห็นเพียงท้องฟ้ามืดครึ้มก็ตาม

     

     

    ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วเสียจนจงอินไม่รู้จะลำดับความคิดและการกระทำของตนอย่างไร เมื่อสักครู่นี้เขากำลังจะตายด้วยน้ำมือของคนที่เพิ่งช่วยขึ้นจากทะเลสาบ คนที่คิมจงอินจำต้องยอมรับกับหัวใจว่าสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่พอเป็นตอนนี้... ทั้งร่างกายและจิตใจของเขากลับหนักอึ้ง กลวงโบ๋ และไม่มีสติพอจะรับรู้ได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร

     

     

    เกือบไปแล้วนะ คิมจงอิน

     

     

    ใบหน้าของบยอนแบคฮยอนชะโงกเข้ามาในกรอบสายตา คนคนนี้มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร อย่างนั้นเจ้าของลำแสงสีแดงที่หยุดทุกอย่างเอาไว้ก็มาจาก...

     

     

    มือปราบมารหนุ่มออกแรงดึงแขนของซีกเกอร์หนุ่มแห่งบ้านกริฟฟินดอร์ให้ลุกขึ้นยืนขึ้นมาได้ จากนั้นจึงมองตรงไปยังโอเซฮุนซึ่งถูกโจมตีด้วยคาถาสะกดนิ่งจนอยู่ในสภาพขยับเขยื้อนไม่ได้

     

     

    ทันใดนั้นปาร์คชานยอลและลูคัส ทิลก็ปรากฏตัวขึ้นบริเวณทางเดินซึ่งมาจากคุกใต้ดิน แวบแรกที่สบตากับอดีตกัปตันทีมกริฟฟินดอร์ จงอินเห็นชานยอลแสดงสีหน้าตื่นตระหนกเหมือนคนที่กำลังจะตายเสียเอง ก่อนวิ่งตรงเข้ามาหาเขาแล้วเผลอตัวดึงเข้าไปกอดเสียแน่น อาจด้วยเพราะความอบอุ่นหรือโล่งใจก็ตามแต่ ทำให้เก็บอารมณ์เอาไว้ไม่ไหวจนต้องใช้ร่างสูงใหญ่ของอีกคนเป็นที่กำบัง

     

     

    ทุกอย่างจบลงแล้วอย่างนั้นหรือ ผู้เสพความตายถูกจับ และคิมจงอินก็สามารถรอดชีวิตมาได้อย่างเฉียดฉิว ทั้งที่น่าจะเป็นอย่างนั้น...

     

     

    แต่ทว่า น้ำตาของเขากลับเกิดจากความรู้สึกเจ็บปวดจนสุดขั้วหัวใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ถึงแม้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเจ้าชายแห่งบ้านสลิธีรินจะถูกเก็บเป็นความลับ แต่เพราะเหตุการณ์เกิดในบริเวณโรงเรียน จึงเกินการควบคุมของคณาจารย์และมือปราบมารที่จะรักษามันเอาไว้ไม่ให้รั่วไหล ทันทีที่การเสียชีวิตของเซเลน่า โกเมซถูกเปิดเผยก็มีการจับกุมผู้เสพความตายวัยเยาว์ได้ทันที ส่วนใหญ่แล้วต่างอึ้งกิมกี่เพราะไม่เชื่อว่ามันจะเป็นไปได้ หากบางส่วนกลับไม่รู้สึกแปลกใจนักในเมื่อตระกูลโอเชิดชูเกียรติของการเป็นเลือดบริสุทธิ์เหนือใคร อีกทั้งวิลลิส โอยังถูกจับในข้อหาเดียวกันก่อนหน้านี้

     

     

    ทันทีที่เข้ามาในห้องโถงใหญ่ คิมจงอินก็ต้องอดทนกับสายตาซึ่งพุ่งมองมาทางเขาเป็นตาเดียว ข่าวลือว่าตัวแทนจากฮอกวอตส์คือผู้ที่สามารถจับโอเซฮุนได้ถูกแพร่สะพัด ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงแล้วคนที่เสกคาถาสะกดนิ่งคือบยอนแบคฮยอนก็ตาม

     

     

    กระนั้นแล้วเรื่องราวยังเต็มไปด้วยความสับสน ถ้าไม่ใช่ว่าเซฮุนคือตัวประกันในภารกิจที่สองแล้วละก็ อะไรๆ ก็คงจะเข้าใจง่ายกว่านี้มาก

     

     

    ตาสีเข้มละจากหนังสือ ก่อนจะเงยขึ้นมองเอดิสัน หวง หนึ่งในคู่ปรับบ้านสลิธีรินซึ่งยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า ขอบตาแดงก่ำเนื่องจากการสูญเสียเพื่อนสาวสนิท หากจะกล่าวว่าบรรยากาศของโรงเรียนตกอยู่ในความอึมครึม จิตใจของใครบางคนก็คงจะมืดมนยิ่งกว่า

     

     

    เขา... สารภาพกับนายอย่างนั้นหรือ ว่าเป็นคนฆ่าเซเลน่า

     

     

    เขาที่เอดิสันพูดถึงคือต้นเหตุของสถานการณ์แย่ๆ ในตอนนี้

     

     

    ฉันไม่รู้

     

     

    ได้ยินดังนั้นอีกฝ่ายก็เบิกตาโพลง ตั้งแต่ที่พบศพของเซเลน่า การที่ผู้ชายคนนี้ทำสีหน้าอยากร้องไห้อยู่ตลอดเวลาก็ไม่ใช่ภาพแปลกตาสักเท่าไรนัก

     

     

    ายยังจะมาบอกว่าไม่รู้อีกหรือไง ในเมื่อนายเป็นคนร่วมมือกับมือปราบมารเพื่อจับเซฮุน! ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะฆ่าเซเลน่า ในเมื่อ -- เอดิสันเงียบไปเพราะสะอื้น ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน... มาตั้งหลายปี

     

     

    จงอินหลุบสายตาลงด้วยความเจ็บปวด แม้แต่คีย์หรือแทมยังไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องเรื่องนี้ เพื่อนที่ฆ่าเพื่อน โอเซฮุนรับสารภาพเช่นนั้นจริงในวันที่ถูกจับได้ ต่อหน้ามือปราบมาร เจ้าหน้าที่กระทรวง หรือแม้แต่คณาจารย์ซึ่งรู้จักหน้าค่าตากันดีอยู่แล้ว หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงพยายามปฏิเสธเหมือนที่เอดิสันกำลังทำ แต่สายตาในตอนนั้น... สายตาที่เหมือนกับสัตว์ร้าย และคำสาปพิฆาตซึ่งถูกเปล่งออกมาแล้วครึ่งเสียงไม่อาจลบเลือนไปจากความทรงจำ

     

     

    ต่อให้จะเชื่อหรือไม่ มันก็ไม่สำคัญอะไรแล้ว

     

     

    “โอเซฮุนเป็นผู้เสพความตาย นั่นคือความเป็นจริง”

     

     

    เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ประจันหน้ากับเอดิสันผู้ซึ่งกำลังแตกสลายไปอีกคน คนคนนี้เคยเอาแต่พูดจาค่อนขอดและเยาะเย้ยถากถางเพียงเพราะคิดว่าคิมจงอินยกตัวเทียบชั้นโอเซฮุน หากใบหน้าเย่อหยิ่งจองหองในตอนนี้กลับไม่อาจเก็บกลั้นความเจ็บปวด ถึงจะอยู่ท่ามกลางสายตานักเรียนอีกเป็นร้อยก็ตาม ยิ่งถูกอริตัวฉกาจตอกย้ำแล้ว เอดิสันยิ่งทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ากำหมัดแน่นจนทั้งร่างสั่นเทิ้ม ก่อนจะสะบัดตัวเดินหนีออกไปพร้อมกับเพอร์ซิวัลเพื่อนสนิท

     

     

    ความเป็นจริงมักจะเจ็บปวดเช่นนี้ใช่หรือเปล่า

     

     

    ถึงไม่ใช่คนที่จับส่งตัวให้มือปราบมาร มิหนำซ้ำยังเป็นอะไรที่แทบจะตรงกันข้าม แต่ผลลัพธ์ก็คือโอเซฮุนถูกจับกุมด้วยน้ำมือเขาทางอ้อมอยู่ดี

     

     

    แค่เพราะเกิดในตระกูลเลือดบริสุทธิ์สูงส่ง จึงต้องเลือกเดินในเส้นทางที่มืดมิดอย่างนั้นน่ะหรือ

     

     

    โอเซฮุน ฉันไม่เข้าใจนาย ไม่เข้าใจแม้แต่นิดเดียว

     

     

    สิ่งที่เขาเห็นในคุกใต้ดินคืนนั้นก็คงจะเกี่ยวกับเซเลน่า โกเมซ หากตอนนั้นคิมจงอินไปถึงห้องนั้นได้สำเร็จ หล่อนอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ ทั้งที่มีโอกาสเข้าใกล้ความจริงก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายลงแล้วแท้ๆ แต่เขามันโง่เองที่ไม่เอะใจ โง่ที่ปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยเหตุผลโง่ๆ

     

     

    ...

     

     

    ทว่า ตอนนี้เองที่เขากลับฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา

     

     

    ชายหนุ่มกวาดสายตาตลอดความยาวของโต๊ะกริฟฟินดอร์ จะว่าไปในคืนนั้น คนที่อยู่กับเซฮุนก็คือคริสตัล จอง อดีตหญิงสาวที่จงอินเคยปรารถนาอยากคบด้วย การตายของเซเลน่าทำให้ภายในโรงเรียนวุ่นวาย และเขาก็ไม่เห็นคริสตัลอีกเลยนับจากภารกิจที่สองผ่านพ้น

     

     

    ผู้สมรู้ร่วมคิด? ไม่ซี จะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร

     

     

    แต่หากมีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากกว่าแค่โอเซฮุนเพียงคนเดียวละก็...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    โอเซฮุนนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ เปลือกตาปิดสนิท สองมือประสานอยู่บนหน้าตักอย่างหมดอาลัยตายอยากขณะมองม่านเวทมนตร์บางๆ ซึ่งกักขังตัวเขาเอาไว้ในรัศมีหนึ่งเมตร ภายในห้องเล็กๆ บนชั้นห้าไม่ไกลจากที่พักของมือปราบมารมาก ใกล้กันนั้นคือลูกโลกตั้งอยู่บนโต๊ะไม้สีมะฮอกกานี มีมังกรจำลองตัวเล็กๆ บินวนรอบถิ่นกำเนิดของตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงคิดว่านั่นเป็นของเล่นที่เพลิดเพลิน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่ทุกอย่างดำเนินมาถึงทางตันอย่างน่าตกต่ำที่สุด

     

     

    เปลือกตาบางลืมขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง หลังจากนั้นผู้มาใหม่จึงทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม โดยมีบยอนแบคฮยอนยืนประกบอยู่ทางซ้ายมือเพื่อร่วมรับฟังการพูดคุยในครั้งนี้ด้วย

     

     

    คุณโอ

     

     

    ศาสตราจารย์เดอนีโรอยู่ในชุดสูทสีกาแฟ ดวงตาลุ่มลึกนั้นมองตรงมายังเขา น่าขบขันที่มันยังแฝงไปด้วยความเมตตาเช่นเดียวกับตอนที่โอเซฮุนเป็นนักเรียนดีเด่นก่อนหน้านี้ อดสมเพชตนเองไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วตนก็ไม่ต่างจากบิดาเลยสักนิด

     

     

    ผมบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรจะพูดอีก มือปราบมารได้คำรับสารภาพไปทั้งหมดแล้ว”

     

     

    ฉันไม่ได้มาเพื่อกล่าวโทษเธอหรอกนะ เดอนีโรว่า เธอเป็นนักเรียนที่เก่งกาจของฮอกวอตส์ และฉลาดเฉลียวอย่างหาตัวจับได้ยาก ดังนั้นฉันเลยคิดว่าเราควรจะได้พูดคุยกันสักหน่อย แน่นอนว่าไม่เหมือนการสอบสวนหรอก

     

     

    ผมฆ่าเซเลน่าด้วยร่างแอนิเมจัส เซฮุนยืนยันคำเดิม ถึงแม้จะรู้แก่ใจว่านี่คือคำโป้ปดครั้งใหญ่ก็ตาม

     

     

    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยูนิคอร์นหรือการลักพาตัวเซเลน่าก็ถูกสารภาพว่าล้วนเป็นฝีมือเขาทั้งสิ้น รวมถึงการที่โอเซฮุนลักลอบฝึกฝนวิชาแอนิเมไจโดยไม่ได้รับอนุญาตและกลายเป็นแอนิเมจัสที่ไม่ลงทะเบียน มีความผิดมากมายหลายข้อหาในการส่งเขาไปอยู่อัซคาบันด้วยตั๋วเที่ยวเดียว อย่างนั้นแล้วคนพวกนี้ยังจะยื้อยุดอะไรอีก ป่านนี้กระทรวงเวทมนตร์คงอยากได้ตัวทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลโอเต็มแก่แล้ว

     

     

    นัยน์ตาคมเหลือบมองอาจารย์ใหญ่ ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ทริสตัน เลวิธานเคยพูดเอาไว้เมื่อเดือนก่อนว่าคนคนนี้มีสายสัมพันธ์กับจอมมารอย่างไร น้อยคนนักที่จะรู้ว่าพ่อมดผู้ได้รับการยกย่องอย่างเดอนีโรจะมีบุตรลับๆ และเด็กชายผู้นั้นก็เติบโตขึ้นเป็นผู้นำแห่งศาสตร์มืด อย่างกับตลกร้ายไม่มีผิด ทั้งน่าขัน น่ารังเกียจ และเป็นความจริงที่น่าสั่นสะท้าน ฝั่งไหนคือสีขาว ฝั่งไหนคือสีดำ เชื่อใจไม่ได้เลยสักอย่าง

     

     

    เขาล้มเหลว... เรียกอะไรคืนมาไม่ได้แล้ว

     

     

    แม้แต่มารดาซึ่งถูกจับเอาไว้เป็นตัวประกันก็คงหมดทางช่วยเหลือ ได้แต่หวังว่าจอมมารจะไม่ฆ่าหล่อนทิ้งเมื่อหมดประโยชน์ ไม่อย่างนั้นเขาคง -- ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ทุกอย่างมันเกินควบคุมแล้ว เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากติดอยู่ในอัซคาบัน

     

     

    เขาแค้นเคืองคริสตัล จอง แต่กลับข้องใจยิ่งกว่าว่าเธอทำเช่นนี้ไปเพื่ออะไร ทั้งเหตุผลและเรื่องราวไม่อาจปะติดปะต่อหากันได้เลยสักอย่าง ต่อให้ครุ่นคิดหัวแทบแตกอย่างไรก็ไม่เข้าใจ การตายของเซเลน่าไม่ได้สร้างสิ่งใดเลยนอกจากความวุ่นวาย

     

     

    “...”

     

     

    เหตุการณ์นี้ไม่ชอบมาพากล สถานการณ์ถูกสร้างขึ้นเพื่อบางสิ่งบางอย่าง

     

     

    โอเซฮุนคิดว่าเขาพอจะเข้าใจถึงสาเหตุที่เซเลน่าถูกฆ่าอย่างโหดร้าย ใครกันที่ต้องการณ์เหตุสะเทือนขวัญ ใครกันต้องการความวุ่นวายเพื่อจะได้ดำเนินการทุกอย่างง่ายขึ้น แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ว่าถูกวางเป็นหมากในแผน หากผู้เสพความตายซึ่งเป็นมือสังหารยูนิคอร์นถูกจับ ทุกอย่างก็ลงล็อกอย่างพอดิบพอดี

     

     

    เซฮุนมองตอบอาจารย์ใหญ่ ครุ่นคิดว่าสิ่งที่คนตรงหน้ารู้มีมากแค่ไหนกันแน่

     

     

    “ฉันยังอยากเชื่อว่าเธอไม่ใช่คนเลวร้าย” เดอนีโรว่า “แต่เราต้องรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่”

     

     

    อดีตเจ้าชายแห่งบ้านสลิธีรินเชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อย ใช้มือขยับคอเสื้อคลายความอึดอัดไปพลาง “พวกคุณพินิจใจผมไม่ได้ ก็ลองไปแล้วไม่ใช่หรือไงครับ”

     

     

    ทางเลือกบังเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระนั้นแล้วหนทางข้างหน้าก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วปลายทางจะไปจบลงที่ตรงไหน ไม่รู้แม้กระทั่งว่าจะต้องสูญเสียอะไรไปบ้างเพื่อแลกกับการเดินหน้าต่อ

     

     

    “ศาสตราจารย์ คุณน่ะ...” เขาแค่นยิ้ม “จะฆ่าลูกชายบังเกิดเกล้าได้ลงคอจริงๆ หรือครับ”

     

     

    แบคฮยอนขมวดคิ้ว ส่วนเดอนีโรยังปั้นสีหน้าเรียบเฉย

     

     

    “เป็นคุณเองไม่ใช่หรือที่ปล่อยให้จอมมารมีชีวิตรอดไปได้เมื่อสิบปีก่อน”

     

     

    “นั่นเป็นความผิดของฉัน” เดอนีโรยกยิ้มตอบด้วยแววตาอ่อนระโหย “เพราะอย่างนั้นเราถึงต้องแก้ไขไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก”

     

     

    ได้ยินอย่างนั้นโอเซฮุนก็ระเบิดหัวเราะเสียงดัง ภายในกล่องเวทมนตร์ที่พันธนาการตัวเขาเอาไว้ไม่ให้หลบหนีไปได้ แสงสีแดงแลบแปลบปลาบ ตอบสนองต่อภาวะอารมณ์อันบ้าคลั่งราวกับว่าไม่มีอะไรที่จะตลกไปกว่าโลกใบนี้อีกแล้ว

     

     

    เมื่อเสียงหัวเราะเงียบลง ทุกอย่างพลันสงบนิ่ง

     

     

    “ศาสตราจารย์... ผมได้เลือกข้างไปแล้วล่ะครับ”

     

     

    คำตอบเพื่อยุติบทสนทนาถูกเอื้อนเอ่ยจากปากในที่สุด

     

     

     

    (50%)

     

     

     

     

    -------------------------------------------



    ตอนนี้มาช้าไปหน่อย หวังว่าจะไม่ว่ากันนะคะ แฮะๆ

    เนื้อเรื่องก็บีบคั้นขึ้นทุกที หวังว่าจะยังไหวกันนะคะ 5555555

    ใกล้ถึงไคลแมกซ์แล้ว เดี๋ยวก็ได้หายใจหายคอกันแล้วค่ะ


    คืนนี้ (ศุกร์ 16 พ.ย.) จะเปิดจองฟิคแล้ว เย้

    มีของแถมรอบ ONE DAY สำหรับท่านที่โอนใน 24 ชม.แรกด้วยนะคะ <3


    ชอบไม่ชอบยังไง คอมเมนท์หรือติดแท็กเป็นกำลังใจให้กันได้ที่ #เรดสนิช ค่ะ















     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×