ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (SEKAI) 王子和雨 | WHEN THE RAIN FALLS,

    ลำดับตอนที่ #3 : 03 | ชายแปลกหน้าผู้ไม่ได้ยินเสียงใด

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ย. 61


    王子和雨

    WHEN THE RAIN FALLS,

    OHSEHUN l KIMJONGIN

    - OHARHA -

     

     

     

    ( 3 )

    ชายแปลกหน้าผู้ไม่ได้ยินเสียงใด

     

     

     

    คิมจงอินอนุมานว่าตัวเขาย้อนเวลาข้ามแผ่นดินมายังประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ถัง อันที่จริงจงอินไม่สันทัดด้านประวัติศาสตร์ถึงขนาดจดจำได้แม่นยำนัก หากก็พอรู้ว่านี่คือรัชสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดยุคหนึ่งของจีนเลยก็ว่าได้ ถึงอย่างนั้นเขากลับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ดีว่าทำไมการตกตึกที่โรงพยาบาลถึงกลายมาเป็นอย่างนี้ไปได้ หากทุกการกระทำของโชคชะตาล้วนมีเหตุและผล หมายความว่าตัวตนของคิมจงอินกับจินจงเหรินย่อมต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน

     

     

    ทั้งที่อ้างว่าอยู่ในภาวะเสียความจำ แต่ป๋ายเซียนก็ยังอยากให้ติดสอยห้อยตามช่วยขายของป่าที่หามาได้ถึงในเมืองอยู่ดี ที่นี่ผิดจากย่านอาศัยแถวบ้านป๋ายเซียนราวฟ้ากับเหว เพราะมันทั้งคาคั่งไปด้วยผู้คน การค้าขาย รวมถึงสถาปัตยกรรมและวิธีชีวิตที่คงไม่มีนักประวัติศาสตร์คนใดมีโอกาสเห็นกับตา จะว่าน่าตื่นเต้นก็คงใช่ แต่ลึกๆ แล้วจงอินกลับรู้สึกไร้ประโยชน์ยิ่งกว่าที่แพทย์มือดีตกอับมาเป็นลูกมือพ่อค้าของป่าเช่นนี้

     

     

    ป๋ายเซียนตะโกนโหวกเหวกแข่งกับพ่อค้าคนอื่นๆ แล้วเขม่นทางสายตาให้เขากระตือรือร้นได้สักครึ่งของเจ้าตัว จงอินแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นสายตานั้น เขาเอาแต่มองไปรอบๆ เพราะอยากเก็บเกี่ยวสภาพแวดล้อมของยุคนี้ให้มากที่สุด การปรับตัวเป็นไปได้ยากเพราะสังคมและวัฒนธรรมต่างกันราวฟ้ากับเหว หลายครั้งที่เขาว่างจนไม่รู้จะทำอะไร พอไร้งานแพทย์กับสมาร์ทโฟนแล้ว เวลาช่างผ่านไปเชื่องช้าเหลือเกิน

     

     

    ขายยังไม่ทันหมดฝนก็เริ่มลงเม็ด ป๋ายเซียนลงมือเก็บสินค้าของตนอย่างว่องไว ถึงขายไม่หมดก็ยังเอาไปทำกินเองได้ ขืนโดนฝนคงเน่าเสียจนหมดแน่

     

     

    “มาช่วยข้าหน่อยจงเหริน อย่ามัวอืดอาดยืดยาดอยู่เลย”

     

     

    จงอินโคลงศีรษะ เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่มีคนหาว่าเขาอืดอาด ลองได้เห็นนายแพทย์คิมดูแลคนไข้ทีละสามวอร์ดพร้อมกัน ป๋ายเซียนคงถอนคำปรามาสแทบไม่ทัน

     

     

    “ฝนตกแล้ว ยังไงเราก็กลับบ้านไม่ทันหรอกน่า” เขาเงยหน้ามองฟ้าอย่างเกียจคร้าน ยอมรับว่าตนในตอนนี้ไม่มีอารมณ์กระฉับกระเฉงเลยสักนิด “ทำไมไม่รอจนฝนหยุดแล้วค่อยเดินทางล่ะ”

     

     

    “ถ้าเร่งเท้าหน่อยอาจจะทัน”

     

     

    “ไม่ทันหรอก เราเดินตั้งเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงตลาด” จงอินท้วงคำพูดของป๋ายเซียน ฝนลงเม็ดขนาดนี้แล้ว เอาตรรกะที่ไหนมาคิดว่ายังจะหนีฝนทัน

     

     

    “หากเป็นดังเจ้าว่า เราตกที่นั่งลำบากแน่” หนุ่มพ่อค้าของป่ายกตะกร้าใหญ่ขึ้นสะพายหลัง อีหรอบนี้คงดึงดันจะกลับบ้านให้ได้ ไม่กลัวพืชผักที่หามาจะเน่าเสียแล้วกระมัง

     

     

    ไม่ทันขาดคำสายฝนก็เทลงมาเสียแล้ว จงอินรีบพาตนเองและตะกร้าบนหลังวิ่งเข้าหลบฝนใต้ชายคาร้านค้าใกล้ๆ โดยไม่รอความเห็นของคนที่มาด้วย ไม่นานนักป๋ายเซียนก็วิ่งตามเข้ามา บ่นกระปอดกระแปดโทษฟ้าฝนฟังน่าขัน ธรรมชาติไม่ได้กลั่นแกล้งถึงขนาดเทห่าฝนลงมา หากก็เม็ดใหญ่จนอาจทำให้จับไข้ถ้าฝืนเดินทางต่อ ตามทางเดินยังมีผู้คนคาคั่ง บ้างก็กางร่มหลากสีสันขึ้นบังตัว เป็นภาพซึ่งไม่ต่างกับยุคที่เขาจากมาสักเท่าไรนัก

     

     

    เสียงโหวกเหวกเรียกความสนใจจากสองหนุ่มให้หันไปมอง รถม้าขนสินค้าวิ่งฝ่าฝนกลางถนน ส่งผลให้ผู้คนต้องรีบแหวกตัวเปิดทางผ่านให้ หากหลบไม่ทันคงบาดเจ็บสาหัสแน่ พอคิดได้อย่างนั้น สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นชายผู้หนึ่งยังเดินทอดน่องอยู่กลางทาง ไม่มีทีท่าว่าจะรีบหลบให้พ้นระยะชนของรถม้าแต่อย่างใด

     

     

    ชาวบ้านรอบๆ ต่างร้องบอกให้หลบด้วยความตื่นตระหนก ทว่าคนคนนั้นคงจะหูหนวกกระมัง ถึงได้ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวจนกระทั่งรถม้าวิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เห็นดังนั้นจงอินก็ใจเต้นไม่เป็นส่ำ เผลอตะโกนออกไปร่วมกับเสียงร้องเตือนของคนอื่นๆ ในที่สุด

     

     

    “ระวังรถม้า...!”

     

     

    อยู่ดีๆ ชายหนุ่มกลางถนนก็เบิกตาโพลง หมุนตัวหันหลังไปพบรถม้าขนสินค้าที่พุ่งตรงเข้ามาก่อนจะกระโดดหลบเข้าข้างทางได้อย่างเฉียดฉิว สถานการณ์เมื่อสักครู่นี้ช่างน่าใจหายใจคว่ำ เกือบได้เห็นคนโดนเหยียบแล้วไหมเล่า

     

     

    “ชายคนนั้นแต่งตัวดูดีมีฐานะ แต่กลับเลินเล่อยิ่งนัก” ป๋ายเซียนนินทา ซึ่งจงอินก็แอบเห็นด้วยในใจ

     

     

    เขามองชายที่แต่งตัวดูดีมีฐานะผู้นั้นอย่างสนอกสนใจ อาจเพราะระหว่างยืนหลบฝนไม่ได้มีอะไรให้ทำนัก เท่าที่พอจะขยับได้ก็คงเป็นสายตาที่มองไปทางนั้นทีทางนี้ที ดูแล้วชายเลินเล่อนั่นคงจะเป็นคุณชายจากสักบ้านจริงๆ เพราะไม่ทันไรก็มีชายผู้ติดตามอีกคนรีบรุดเข้ามาดูอาการ วิ่งวนรอบตัว ท่าทางน่าขันยิ่งนัก

     

     

    “ไปกันเถอะ” ป๋ายเซียนเรียก

     

     

    “ฝนยังไม่หยุดเลยนี่”

     

     

    “ขืนรอให้ฝนหยุดก็อีกเป็นชั่วยาม มีหวังถึงบ้านมืดค่ำกันพอดี”

     

     

    “แล้วพืชผักพวกนี้จะเอายังไง”

     

     

    “กลับไปข้าจะใช้ต้มซุปผักให้หมด อย่างน้อยคงกินได้สักสองสามวัน” ป๋ายเซียนอธิบาย นี่เป็นความคิดที่ดี อย่างน้อยก็ดีกว่ายืนตากฝนนานสองนานโดยไม่มีอะไรทำ จะนั่งก็ยังไม่ได้ หากเป็นในโลกปกติเขาคงจะเรียกแท็กซี่กลับหรือไม่ก็แวะกินอาหารสักร้านระหว่างรอไปแล้ว

     

     

    ออกเดินได้ไม่กี่ก้าว จงอินกลับต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็นเปี้ยนป๋ายเซียนถูกคว้าแขนด้วยใครคนหนึ่งที่เขาจำได้แม่นยำ เป็นคุณชายเลินเล่อที่เกือบถูกรถม้าเหยียบเมื่อสักครู่นี้นั่นเอง เสียงฝนดังขนาดนี้คงไม่ใช่ว่าได้ยินคำนินทาของป๋ายเซียนหรอกนะ

     

     

    “เจ้า... เมื่อสักครู่เป็นเสียงเจ้าใช่หรือไม่” คุณชายเอ่ยปากสู้เสียงฝน

     

     

    “หา?” ป๋ายเซียนอุทาน ส่วนชายแปลกหน้าขมวดคิ้วมุ่น มีผู้ติดตามยืนช่วยลุ้นอยู่ด้านหลัง

     

     

    “ข้าได้ยินเสียงบอกให้ระวัง”

     

     

    “คนทั้งตลาดก็ร้องบอกท่านเช่นนั้น แล้วนี่มาจับข้าไว้ด้วยเหตุอันใด”

     

     

    ป๋ายเซียนจิ๊ปาก อยู่ดีๆ คุณชายก็สะบัดมือออกโดยพลัน สีหน้าไม่สบอารมณ์เกิดขึ้นเพราะโดนป๋ายเซียนทำท่าทีไม่ดีใส่หรืออย่างไรก็ไม่รู้ได้ มิหนำซ้ำยังหันไปส่ายศีรษะเบาๆ ให้ผู้ติดตามซึ่งถอนหายใจอย่างผิดหวัง จงอินได้แต่มองภาพตรงหน้าตาปริบ ไม่เข้าใจว่าคนแปลกๆ ทั้งสองกำลังเล่นอะไรอยู่กันแน่

     

     

    “ไปเถอะจงเหริน แปลกคนจริง”

     

     

    ป๋ายเซียนบ่นพึมพำก่อนจะก้าวเท้าเดินนำเขาฝ่าสายฝนเพื่อตรงกลับบ้าน ในสายตาของเขาแล้ว คุณชายคนนี้หล่อเหลาเอาการทีเดียว ถ้าอยู่ในยุคเดียวกันก็คงจะถูกจับไปเดบิวต์เป็นไอดอลหรือเล่นเว็บซีรีส์อย่างไม่ต้องสงสัย หากพอทำตัวแปลกประหลาดแล้วความหล่อที่สั่งสมมาก็เป็นอันสูญเปล่า จงอินเข้าใจว่าป๋ายเซียนกำลังอารมณ์เสียและไม่อยากเสียเวลาตากฝนนานนัก เขาจึงก้าวเท้าตามไปอย่างไม่รอรี

     

     

    น่าเสียดายว่ายุคสมัยนี้ไม่มีพลาสติก หรือถ้ามีผ้าใบที่กันน้ำก็ยังพอใช้ห่อผักพวกนี้ได้แท้ๆ

     

     

    “เดี๋ยวจะเป็นไข้เอานะ” จงอินเอ่ยเตือนแบบไม่จริงจังนัก เคยได้ยินว่าคนสมัยโบราณป่วยง่ายแถมอายุสั้น น่าสนใจว่าจะเป็นเรื่องจริงเท็จแค่ไหน

     

     

    หากมิใช่เปี้ยนป๋ายเซียนที่หันมาตอบรับบทสนทนานี้

     

     

    “เดี๋ยวก่อน”

     

     

    คิมจงอินชะงักฝีเท้า เพราะเป็นเสียงที่เพิ่งได้ยินมาก่อนหน้านี้เขาจึงจำได้แม่นยำว่ามาจากคุณชายคนพิลึกเมื่อสักครู่ เขาถอนหายใจ หันไปก็พบว่าอีกฝ่ายสาวเท้าเข้ามาจนหยุดยืนประจันหน้าในระยะห่างแค่หนึ่งก้าว คนคนนี้จะมีธุระอะไรกับหนุ่มชาวบ้านสองคนนักหนาก็สุดจะรู้

     

     

    “เป็นเจ้า...”

     

     

    “ผมทำไม?” เจ้าของผิวสีแทนเลิกคิ้ว จำได้ว่าตนเองไม่ได้นินทาอะไรคนตรงหน้าแม้แต่น้อย

     

     

    ดวงตาคมของคุณชายแสนเลินเล่อเบิกกว้างยิ่งกว่าเก่า ทำเอาเขานึกกังวลว่าจินจงเหรินจะสร้างปัญหาใดให้อีกหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรจงอินก็เตรียมมุกเสียความจำเอาไว้แล้ว ไม่ว่าใครจะพูดอะไรมา เขาก็จะตอบกลับว่าไม่รู้เรื่องเสียให้หมด

     

     

    “ข้าได้ยิน...” อีกฝ่ายยกมือขึ้นจับใบหูของตน “ได้ยินเสียงของเจ้าชัดเจน”

     

     

    “ครับ?”

     

     

    “ทำไมข้าถึงได้ยินเสียงของเจ้ากัน นี่มันประหลาดมาก”

     

     

    คราวนี้เขาขมวดคิ้ว ฟังอย่างไรก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

     

     

    “ถ้าไม่ได้ยินสิแปลก คุณไม่ได้หูหนวกนี่”

     

     

    จงอินตอบปัด ตั้งใจว่าจะเดินหนีดื้อๆ เพราะกลัวพลัดหลงกับป๋ายเซียน แต่หนุ่มนักหาของป่าคงรู้ตัวไวกว่าถึงได้เป็นฝ่ายเดินย้อนกลับมาทั้งสีหน้าบูดบึ้ง

     

     

    “ยังไม่จบอีกหรือท่าน มีธุระอะไรกับเราสองคนก็ว่ามา” ป๋ายเซียนเริ่มโวยอีกรอบ แต่กลับถูกอีกฝั่งเมินซึ่งๆ หน้า “นี่!

     

     

    ทั้งร่างของจงอินสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกมือแกร่งถือวิสาสะคว้าข้อมือเอาไว้ไม่ให้หนี เจ้าหมอนี่... นอกจากจะทำให้เขาต้องมัวตากฝนจนครั่นเนื้อครั่นตัวแล้ว ยังไร้มารยาทถึงขั้นแตะเนื้อต้องตัวคนอื่นตามใจชอบ ทั้งยังเอาแต่พูดจาแปลกประหลาดอยู่ฝ่ายเดียวโดยไม่สนคำทักท้วงของใครอีกต่างหาก

     

     

    “เจ้าเป็นใครกันแน่”

     

     

    “...”

     

     

    “เหตุใดจึงมีเพียงเสียงของเจ้าเท่านั้นที่ข้าได้ยิน”

     

     

     

     

     

     

     

    #องค์ชายกับสายฝน

     

     

     

     

     LI5HT
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×