คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : My Affiant Chapter 2
Chapter 2
หลังจากเมื่อกี้ที่ผมเผลอวิงเวียนศีรษะไปชั่วขณะเพราะคำพูดของรุ่นพี่ตรงหน้า ผมไปเป็นคู่หมั้นไอบ้านี่ตอนไหน มันโกหกชัดๆ เกิดมาพึ่งเคยเจอคนอื่นโมเมว่าเป็นคู่หมั้นเนี่ยแหละ หน้าตาก็ดีแต่ท่าทางน่าจะเอาไปเช็คสมองอย่างด่วน
“น้องแบคฮยอนไปนั่งที่ได้แล้ว”รุ่นพี่ยูริสั่งผมให้ไปนั่งประจำที่เดิมทันทีหลังจากผมถูกคนที่ชื่อชานยอลขโมยจูบของผมไป ผมเดินไปนั่งด้วยทั้งๆที่ยังเหม่อ สติสตังผมหายไปไหนหมดเนี่ย!
วันนี้ทั้งวันผมทำกิจกรรมกับพวกรุ่นพี่ แต่ผมไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่เพราะมีสายตาของรุ่นพี่คนที่ชื่อชานยอลมองผมอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ผมเสียความเป็นตัวเองไปทันที ไม่ว่าจะทำอะไรพี่แกก็ยังจ้องผมอยู่อย่างเดียว ห้องนงห้องน้ำไม่คิดจะไปเข้าบ้างหรือไง มาจ้องแต่ผมอยู่ได้
เอาล่ะจะว่าไปตอนนี้ช่างมันก่อน เพราะตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะได้เที่ยวแล้ว ยู้ฮู ดีใจสุดๆไปเลยครับ
“นี่ลู่ฮานไปเที่ยวกันไหม”ผมรีบเอ่ยชวนลู่ฮานทันที แต่ดูเหมือนว่าลู่ฮานเค้าจะปฎิเสธผมล่ะ
“ขอโทษนะ วันนี้ฉันมีนัดกับที่บ้านแล้ว”ลู่ฮานบอกผมด้วยสีหน้ารู้สึกผิดที่ปฎิเสธคำชวนผม มันทำให้ผมรู้สึกแย่ เพราะลู่ฮานเค้าไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย
“ไม่เป็นไรหรอก นายก็รีบกลับบ้านนะเดี๋ยวฉันก็จะรีบไปรีบกลับเหมือนกัน”
แบคฮยอนเอ่ยยิ้มๆก่อนจะรีบโบกแท็กซี่ไปเที่ยวห้างที่ตนเองอยากจะไปตั้งแต่เช้า แต่เมื่อมาถึงทำให้คนตัวเล็กหน้ามุ่ยทันที เพราะวันนี้คนเยอะมาก เดินไปทางไหนก็มีแต่คนเดินเบียดแย่งกันซื้อของและเหมือนที่ห้างจะมีจัดงานอะไรสักอย่างด้วย ซึ่งผมไม่สนใจเท่าไหร่ ผม
ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยให้ตายสิ
คนตัวเล็กรีบเดินเข้าไปภายในห้างเผื่อที่จะตากแอร์เย็นๆคลายเครียดซะหน่อย แต่มันติดที่ว่าคนเยอะไปหน่อย กว่าจะเดินเบียดผู้คนเข้าไปข้างในได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกอยู่พอสมควร ผู้คนที่เดินเบียดทั้งจะเข้าห้างและก็จะออกเล่นทำเอาเวียนหัว มือเล็กจับกระเป๋ากระชับแน่นราวกับกลัวมันจะหาย ก็สถานการณ์แบบนี้เสี่ยงโดนล้วงกระเป๋าได้นี่ฮะ
หมับ!
คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกทันที เพราะถูกใครไม่รู้เดินเข้ามาคว้าตัวเข้าไปกอดเอวแน่น มือที่กอดเอวเล็กนั่นกระชับให้แน่นขึ้นเพื่อบ่งบอกความเป็นเจ้าของ เพราะตั้งแต่ที่เดินเข้าห้างมานี่ เห็นมีแต่คนจับจ้องร่างเล็กตรงหน้าซะเหลือเกิน ฮอตไปหน่อยแล้วมั้ง คุณคู่หมั้น...
“เฮ้ย ปล่อยนะ”คนตัวเล็กที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครก็รีบตะโกนปล่อยขึ้นมาทันทีทำเอาคนแถวนั้นหันมามองกันหมด
“โถ่ ที่รักผมมาช้านิดเดียวอย่างอนกันเลยนะ”
น้ำเสียงที่คุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนทำเอาแบคฮยอนรีบหันไปมองต้นเสียงก่อนจะพบว่าเป็นชานยอลที่กำลังโอบเอวเค้าอยู่พร้อมแสดง ความเป็นเจ้าของเต็มที่
“ใครงอนนายกันแล้วฉันก็ไม่ใช่แฟน ปล่อยนะเว้ย”แบคฮยอนโวยวายก่อนจะเริ่มเอามือมาแกะมือของชานยอลออก แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้มือชานยอลติดหนึบเกาะเอวเค้าแน่นไม่ขยับไปไหนเลย
“โถ่ที่รักอย่าพูดจาแบบนั้นสิ คนมองกันหมดแล้วอยากได้อะไรเดี๋ยวจะตามใจทุกอย่างเลย ฟอด”ได้ทีฉวยโอกาสแก้มนิ่มๆ ก่อนจะพาคนตัวเล็กเดินออกมาจากตรงนั้นทั้งๆที่ยังเหวออยู่
“ไอ้... ไอ้บ้า! ใครใช้นายมาหอมแก้มห๊ะ!”แบคฮยอนรีบหันไปต่อว่าชานยอลทันที ก่อนจะทำหน้ามุ่ยปากยู่อย่างที่ตัวเองชอบทำ
แล้วแบคฮยอนจะรู้บ้างไหมว่าทำแบบนี้คนตรงหน้าแทบอยากจะจับมาจูบปิดปากซะให้เข็ด
“เป็นคู่หมั้นกันหอมแก้มไม่เห็นผิดเลย”คนตัวสูงก้มหน้ามาพูดใส่คนที่ตัวเล็กกว่าโดยที่จมูกชนกัน จนทำให้แบคฮยอนต้องผละออกด้วยความตกใจ
“อะ..อะไร คะ..ใครเค้าเป็นคู่หมั้นนาย”คนตัวเล็กพูดตะกุกตะกักเพราะเจอคนตัวตัวสูงยื่นหน้ามาแบบนี้เป็นใครก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา
จะว่าไปแบคฮยอนตกใจหรือแอบหวั่นไหวกันแน่?
“ก็นายไงคุณคู่หมั้น ว่าแต่มาซื้ออะไรเดี๋ยวพาไป”ชานยอลรีบถามขึ้นมาทันทีเพราะจะได้พาคนตัวเล็กกลับบ้านทันเวลาที่หม่าม๊าของแบคฮยอนนัดไปทานข้าวที่บ้าน
“ไม่ต้องมายุ่งน่า จะไปไหนก็ไปเลย”แบคฮยอนเอ่ยปากไล่ทันที ก่อนจะรีบเดินหนีออกห่างจากชานยอล
“ไม่ได้ เพราะฉันต้องพานายกลับบ้านพร้อมกับฉัน”
คนตัวเล็กขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“แล้วบ้านฉันมันเกี่ยวอะไรกับนาย”ความสงสัยที่แบคฮยอนมีรีบถามออกไปทันที
“ก็วันนี้หม่าม๊านายจะพูดเรื่องหมั้นกับนายไง”ไม่พูดเปล่าคนตัวสูงก็อาศัยจังหวะคว้าเอวคนตัวเล็กกว่าเดินไปซื้อของภายในห้างทันที
“อย่าบอกนะว่านายคือคู่หมั้นของฉันจริงๆ”คนตัวเล็กที่ถูกคว้าเอวมาด้วยรีบถามขึ้นมา
“อื้ม สามีในอนาคตของพยอนแบคฮยอน”ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ มันยิ่งทำให้แบคฮยอนตกใจคูณสองของวันนี้ สติไปหมดแล้วแบคฮยอนเอ๋ย
ไอ้นี่มันพูดจริงๆหรอเนี่ย ผมคิดว่าเค้าแกล้งผมเล่นตั้งแต่อยู่ที่มหาลัยเฉยๆ
“นายเป็นคู่หมั้นจริงๆหรอ”คนตัวเล็กถามย้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ
“ก็ใช่น่ะสิ เตรียมตัวเป็นภรรยาที่ดีด้วยล่ะ หึ”รอยยิ้มแบบนี้อีกแล้ว อ๊ากกกกก ผมไม่ชอบเลย มันยิ้มยังกะผมจะเสร็จมันเร็วๆนี้แหละครับ ทำไมหม่าม๊าถึงจับผมไปหมั้นกับคนแบบนี้นะ
ผมเดินไปกับชานยอลแบบไม่รู้ตัว เพราะเค้าลากผมเดินไปทั่วเลยจริงๆ
“สรุปจะซื้ออะไร”เค้าหันมาผม ลากเดินมาด้วยตั้งนานแล้วพึ่งจะถามเนี่ยนะ
“ไม่รู้”ผมตอบด้วยท่าทีไม่สนใจ ก่อนผมจะโดนลากให้เดินไปด้วยอีกรอบ
“ปล่อยนะเว้ย จะลากอะไรนักหนา”ผมรีบสะบัดมือออกก่อนจะยืนกอดอกหน้ามุ่ยตามสเต็ปเดิมทันที
“ก็จะพากลับบ้าน หม่าม๊านายเค้ารอนานแล้ว”
เรียกหม่าม๊าเต็มปากเต็มคำเชียวนะ ชิส์
“เออ ก็ได้”ผมตอบไปทั้งๆที่ยังหน้ามุ่ย ก่อนจะโดนชานยอลจับมือผมเดินไป ก่อนจะเปลี่ยนจากจับมือมากระชับเอวผมอย่างเคย ใครก็ได้เอาไอ้หื่นนี่ไปเก็บทีเหอะครับ
เมื่อพวกผมสองคนเดินมาถึงที่จอดรถผมก็รีบมองหารถของไอ้รุ่นพี่คนนี้ทันที อยากจะรู้เหลือเกินว่าขับรถแบบไหนกัน
“ไหนอ่ะรถ”ผมถามออกไปทันที ก่อนจะรีบแกะมือที่มันจับเอวผมอยู่ออกด้วย แต่ดูหมอนี่จะไม่ยอมท่าเดียว
“นั่นไง”ไอ้รุ่นพี่คนนี้มันชี้ไปที่รถแลมโบกินี่สีดำตรงหน้าผมเอาผมตาลุกวาว
ก็รถแบบนี้สีนี้เลยผมขอคุณหม่าม๊าซื้อแต่หม่าม๊าไม่ยอมซื้อให้เพราะบอกว่าผมมีเฟอร์รารี่อยู่แล้วยังไม่จำเป็นต้องซื้อ แถมที่บ้านก็มีรถหลายคันที่แทบจะไม่ได้ขับออกไปไหนเลย แต่รถรุ่นนี้เป็นขวัญใจของผมเลย อย่างน้อยไอ้รุ่นพี่ตรงหน้ามันก็ซื้อมาใช้ แค่นี้เป็นบุญของผมแล้วล่ะครับที่จะได้นั่ง วะฮะฮ่า
ชานยอลกดรีโมทรถก่อนจะเปิดประตูรถให้ผมเข้าไปนั่งแล้วคาดเข็มขัดให้ผมเสร็จสรรพ ไม่รู้จะทำแบบนี้ทำไม ทำยังกะผมจะหนีเค้ากลับบ้านยังนั้นแหละ แต่เมื่อผมเข้ามานั่งในรถสายตาผมก็สอดส่องไปทั่วเลยแหละครับ ก็อยากรู้นี่นาว่ารถราคาแพงขนาดนี้มันจะมีลูกเล่นอะไรบ้างอยู่บนรถ
แต่เมื่อไอ้รุ่นพี่คนนี้เปิดประตูเข้ามานั่งเตรียมจะออกรถ ผมก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งกดเล่นหงึกๆอยู่คนเดียว ก่อนจะหัวเราะคิกคักเบาๆจนไอ้คนข้างๆผมมันเริ่มรำคาญแล้วคว้าโทรศัพท์ไปเฉยเลย
“เฮ้ย เอาคืนมานะ”ผมรีบหันไปบอกรุ่นพี่ชานยอลแต่ดูเหมือนเค้าจะไม่สนใจผมเลยอ่ะ
“เอาโทรศัพท์คืนมานะ!”ผมเริ่มพูดเสียงดังขึ้น ก่อนคนข้างๆจะเหล่ตามองผมเล็กน้อยแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจต่อไป
ผมกระเถิบตัวเพื่อจะคว้าโทรศัพท์แต่ไอ้รุ่นพี่มันเอาไปยัดไว้ในกระเป๋ากางเกงตัวเองซะแล้ว แล้วแบบนี้ผมจะเอาคืนยังไงล่ะครับ!?
“ถึงบ้านแล้วจะคืนให้”ไอ้รุ่นพี่มันบอกผมแค่นั้นก่อนจะขับรถไปอย่างไม่สนใจผมอีกเลย ทำไมวันนี้ผมเจอแต่เรื่องแย่ๆเนี่ย
ผมนั่งเงียบมาตลอดทางจนเมื่อถึงบ้านผมก็รีบเปิดประตูลงจากรถทันที ก่อนจะเดินเข้าบ้านโดยไม่สนใจไอคนที่ขับรถมาจอดหน้าบ้านเมื่อสักครู่
ผมกำลังงอนอยู่นะ จะว่าไปผมจะงอนทำไม ก็แค่อยากได้โทรศัพท์คืน
“หม่าม๊า”ผมรีบวิ่งเข้าไปกอดคุณหม่าม๊าทันทีก่อนจะเอาหัวไปพิงอกคุณหม่าม๊าอย่างที่ผมชอบทำเป็นประจำ
“สวัสดีครับ”ไอ้รุ่นพี่คนที่มากับผมรีบกล่าวสวัสดีคุณแม่ผมทันที จนผมต้องหันไปมองอย่างเคืองๆ
“หนูรู้จักพี่เค้าแล้วใช่ไหมลูก”คุณหม่าม๊าหันมาถามลูกสายคนสวยของตัวเอง
“ไม่รู้จัก ลูกแบคไม่อยากรู้จักคนนี้”แบคฮยอนเริ่มงอแงใส่คุณหม่าม๊าของตัวเองจนคุณหม่าม๊าต้องหยิกแก้มลูกชายตัวเองเบาๆ ซึ่งทำให้แบคฮยอนไม่พอใจเท่าไหร่
“หม่าม๊าอ่า”แบคฮยอนเริ่มงอแงมากขึ้นกว่าเดิมจนคุณนายต้องเอ็ดลูกชายอย่างเสียไม่ได้
“แบคฮยอนห้ามพูดจาแบบนี้อีก เข้าใจที่หม่าม๊าพูดไหม”คุณหม่าม๊าเริ่มสั่งเสียงแข็งทำเอาคุณหนูแบคฮยอนเริ่มน้ำตาปริ่มอยู่รอบขอบตา จนคุณหม่าม๊าต้องรีบกอดปลอบลูกชายตัวเอง
เหตุการ์ณทั้งหมดอยู่ในสายตาของชานยอล ในใจเค้านึกขำเด็กตรงหน้าซะเหลือเกิน ชอบทำตัวอ้อน งอแงเป็นเด็กๆ อย่างนี้สิน่าปราบซะให้เข็ด
“โอ๋ๆ อย่าร้องนะลูก วันนี้มีแขกมาทานข้าวที่บ้านด้วยต้องทำตัวดีๆนะเข้าใจไหม”คุณหม่าม๊าเอ่ยเตือนลูกชายสุดที่รัก ก่อนแบคฮยอนจะพยักหน้ารับคำคุณหม่าม๊า
“ดีมากจ๊ะ งั้นไปกันเลยเนาะ”คุณหม่าม๊าบอกลูกชายตัวเอง ก่อนจะเดินนำหน้าไปยังทางห้องรับประทานอาหาร พร้อมกับชานยอลที่เดิมตามหลังมา
ภายในห้องรับประทานอาหารมีอีก3คนที่กำลังนั่งรออยู่พอดี นั่นคือคุณพ่อของแบคฮยอนกับแขกอีก2คนที่ผมไม่รู้จัก
“สวัสดีป่ะป๊าหม่าม๊าพี่เค้าสิลูก”คุณแม่กระซิบบอกลูกชายตัวเอง เมื่อแบคฮยอนได้ยินดังนั้นก็รีบยกมือขึ้นไหว้ทันที ทำเอาป่ะป๊าหม่าม๊าอมยิ้มกับท่าทีน่ารักของแบคฮยอน
“สวัสดีครับ”ชานยอลที่เดินตามหลังมาเมื่อเห็นพ่อของแบคฮยอนก็รีบทำความทักทายทันที ทำเอาพ่อของแบคฮยอนถึงกับพอใจกับมารยาทมากโขเลยทีเดียว
“หนูนั่งตรงนี้นะลูกแบค เราด้วยนะชานยอลนั่งข้างหนูแบคเลย”คุณหม่าม๊าจัดการที่นั่งให้เสร็จสรรพแล้วตัวเองก็รีบไปนั่งในที่ประจำของตัวเองทันที
ตอนนี้พวกผผรับประทานอาหารกันจนเสร็จสิ้น ถึงเวลาที่หม่าม๊ามีเรื่องจะบอกผม ซึ่งผมก็รู้ตัวไปแล้วล่ะครับ โดยรู้จากไอ้คนข้างๆเนี่ยแหละเล่นประกาศกลางมหาลัยซะแบบนั้น
“ลูกแบคหนูเป็นคู่หมั้นกับพี่ชานยอลเค้านะลูก”คุณหม่าม๊าหันมาบอกผมก่อนที่ผมจะทำท่าไม่สนใจเท่าไหร่
“ผมไม่หมั้นได้ไหมหม่าม๊า”ลูกชายรีบหันไปถามคุณหม่าม๊าทันที
“ทำไมพูดจาแบบนี้ล่ะลูกแบค ไม่น่ารักเลยนะ”คุณหม่าม๊าเอ็ดลูกอายตัวเองเป็นรอบที่2ของวัน เล่นเอาหนูแบคนั่งหน้าซึมไปเลย
“อย่าดุหนูแบคสิ หนูแบคอาจจะเขินอยู่ก็ได้นะ”
หม่าม๊าของชานยอลพูดขึ้นทำเอาผมอยากจะพูดขึ้นไปว่าผมไม่ได้เขินแต่ผมไม่ชอบคนหื่นแบบนี้ แต่ผมพูดไม่ได้ T T
“ชานยอลก็เหมือนกันต้องดูแลน้องให้ดีๆนะ”หม่าม๊าของชานยอลเริ่มสั่งลูกชายตัวเอง
“ผมจะดูแลน้องเค้าให้ดี ม๊าไม่ต้องเป็นห่วง”ชานยอลตกปากรับคำกับหม่ามาตัวเอง
ดูแลตัวเองได้เว้ย ไม่ต้องมาดูแลฉัน แบคฮยอนได้แต่คิดในใจ
ผู้ใหญ่ทั้งสองสองฝ่ายต่างคุยกันสนุกสนาน จึงปล่อยให้ลูกชายทั้งสองคนไปเดินเล่นคุยกันและทำความรู้จักให้มากขึ้นกว่านี้
แต่เมื่อแบคฮยอนเดินออกมาจากห้องทานอาหารก็รีบแบมือขอโทรศัพท์คืนทันที ซึ่งชานยอลไม่มีที่ว่าจะสนใจ
“ขอโทรศัพท์คืนด้วย”แบคฮยอนแบมือยื่นไปตรงหน้าชานยอลอีกรอบก่อนชานยอลจะควักโทรศัพท์ออกมา แล้วไล่ดูทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในเครื่อง
“เฮ้ย ห้ามดูนะ”แบคฮยอนตะโกนใส่ก่อนจะกระโดดคว้าโทรศัพท์แต่ก็ไม่ถึง ไอ้รุ่นพี่มันสูงกว่าผมอ่ะครับ สูงมากด้วยเหอะ
“แบคฮยอนน่ารักจังเลยครับ”ชานยอลอ่านข้อความที่อยู่ในมือถือ ทำเอาแบคฮยอนหน้าแดงวาบ
“มีแฟนหรือยังครับ” น่านๆมันยังไม่หยุดอ่านอีก
“ผมขอจีบนะครับ”
ฮือ ประโยคเด็ดมันอ่านออกมาแล้ว
“หยุดอ่านได้แล้วเอาคืนมานะ”แบคฮยอนกระโดดเกาะบ่าชานยอลทันที แต่ก็ทำอะไรชานยอลไม่ได้อยู่ดี
“นอกใจคู่หมั้นชัดๆ”อยู่ดีๆชานยอลก็พูดขึ้นมา ทำเอาแบคฮยอนทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว
“อะไรไม่ได้นอกใจนะ ใครจะไปรู้ว่าตัวเองมีคู่หมั่นเล่า!”
“อ้อหรอ”ชานยอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนๆ ก่อนมือก็ไล่กดตัวอักษรแล้วส่งข้อความกลับไป
“ฉันมีคู่หมั้นแล้ว” พิมพ์ตอบแทนคนตัวเล็กที่ยืนหน้าง้ำงอไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก่อนจะแอบยิงเบอร์เข้าเครื่องตัวเองพร้อมกับเมมชื่อให้เสร็จสรรพ “สามี”
“อ่ะเอาคืนไป”อยู่ดีๆชานยอลก็ยื่นมือถือคืนแบคฮยอนอย่างว่าง่ายทำเอาแบคฮยอนขมวดคิ้วงง แล้วรีบคว้าโทรศัพท์มาไว้ที่ตัวเองก่อน ก่อนจะเช็คดูว่าชานยอลแอบกดเข้าไปดูอะไรบ้าง แต่ยังไม่เห็นเบอร์ที่ชานยอลแอบเมมไว้ให้
“เฮ้ย นายตอบไปแบบนี้ได้ไง!!”หลังจากที่แบคฮยอนอ่านข้อความเสร็จก็รีบหันมาถามชานยอลทันที
“จะตกใจทำไม หรือที่พิมพ์ไปมันไม่ใช่เรื่องจริง?”ชานยอลย้อนถามกลับอย่างกวนๆ ทำเอาแบคฮยอนยู่ปากออกมาทันที
ใครก็ได้เอาไอ้หื่น ไอ้ตัววุ่นวายออกไปจากชีวิตผมซะที ผมไม่อยากเป็นคู่หมั้นกับมัน!!!
ผมก็ได้แต่ยืนคิดเพราะผมเบื่อที่จะเถียงกับคนแบบนี้แล้ว พวกผมสองคนยืนอยู่ตรงนั้นสักพักคุณหม่าม๊าป่ะป๊ากับหม่าม๊าป่ะป๊าของไอ้รุ่นพี่คนนี้ก็เดินมาเพื่อจะกลับบ้าน
หม่าม๊าของชานยอลเดินมากอดผมพร้อมกับหอมแก้มผมทำเอาผมเขินไปอยู่เหมือนกันก่อนจะเอ่ยลาหม่าม๊าป่ะป๊าแล้วเดินไปส่งที่รถที่จอดอยู่ด้านหน้า
“ขับรถกลับดีๆนะครับ”ผมบอกหม่าม๊าป่ะป๊าของชานยอล แล้วผมก็ทำเป็นไม่สนใจชานยอลที่ยืนอยู่ข้างๆเลยสักนิด
“ลูกแบคไปส่งพี่เค้าขึ้นรถสิลูก”คุณหม่าม๊าหันมาสั่งผมให้ผมเดินไปส่งชานยอลที่เป็นคู่หมั้นที่รถ เพราะคุณป่ะป๊าหม่าม๊าขับรถกันมาเอง และไอ้รุ่นพี่คนนี้มันก็ขับมาเองเหมือนกันเลยแยกกันกลับ
“ลูกแบคง่วงแล้ว ฮ้าววว”แบคฮยอนแกล้งหาวออกมาเพื่อที่จะเดินเข้าบ้านแต่ก็โดนคุณหม่าม๊าสั่งเสียงดุให้เดินไปส่งไอ้คนที่เป็นคู่หมั้นผมเนี่ย ทำไมหม่าม๊าต้องดุผมด้วย T T
“กลับไปดิ่”ผมพูดเสียงห้วนๆแข็งๆเมื่อเห็นว่าคุณหม่าม๊าเดินเข้าบ้านไปแล้วตอนที่ผมเดินมาส่งชานยอลแค่คนเดียว
“ไล่กันยังนี้เลยหรอคุณคู่หมั้น”ชานยอลยิ้มกวนๆใส่ผมอีกแล้ว ทำไมเค้าต้องกวนผมตลอดเวลาด้วยนะ
“ก็ใช่น่ะสิ รีบๆไปเลยเบื่อหน้าจะแย่”ผมพูดด้วยท่าทีไม่สนใจ
“งั้นก็ทนเบื่อต่อไปแล้วกันนะ เพราะคู่หมั้นคนนี้จะตามติดชีวิตพยอนแบคฮยอนไป24ชม. หึหึ”
อ๊ากกกกกกกกก ผมเกลียดเสียง หึหึ ของชานยอลเหลือเกิน น้ำเสียงมันเจ้าเล่ห์เกินไปผมไม่ชอบ
ชานยอลพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินไปเพื่อจะขึ้นรถ
“อ้อ.. เกือบลืม”ชานยอลหันมาบอกผมก่อนจะเดินย้อนกลับมาตรงที่ผมยืนอีกรอบ
“อื้ออออ”ผมร้องครางออกมาเพราะอยู่ดีๆไอ้หื่นนี่มันก็เดินมาจูบผมอีกแล้ว ผมทั้งตกใจทั้งตั้งตัวไม่ทันแถมผมก็ขัดขืนมันไม่ได้ด้วยเพราะมันดึงผมไปกอดแน่นเลยครับ วันนี้มันวันซวยของผมรึไงถึงโดนรังแกโดยการจูบไป2รอบแล้ว!!!
“กู๊ดไนท์คิสนะคุณคู่หมั้น”
ชานยอลพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินไปโดยไม่สนใจผมอีกเลย อ๊ากกกกกกกก ผมเกลียดมัน!!
ตอนที่2มาแล้ว
เรื่องนี้แต่งไว้รอหลายตอนแล้ว รออัพลงอย่างเดียว
ถ้าใครอยากอ่านตอนต่อไปไวๆก็เม้นกันด้วยนะคะ ติชมกันบ้าง
รับรองความหื่น(รึเปล่า) อยากรู้ต้องติดตาม ตอนหน้ายอลเริ่มออกลายใส่แบคฮยอนแล้ว
เม้นเยอะจะมาอัพทันที ติดตามกันด้วยนะ ♥
มือของชานยอลเริ่มมาตะปบอยู่ที่ชุดนอนสีหวานตรงหน้าก่อนจะค่อยๆถอดกระดุมทีละเม็ดๆ
บทความของตอนที่3 ใครอยากอ่านอย่าลืมเม้น ♥
ความคิดเห็น