ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic EXO : "My Affiant" CHANBAEK & HUNHAN / CHAN x BAEK

    ลำดับตอนที่ #3 : My Affiant Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 55






     

    Chapter 2

     




     

     

    หลังจากเมื่อกี้ที่ผมเผลอวิงเวียนศีรษะไปชั่วขณะเพราะคำพูดของรุ่นพี่ตรงหน้า ผมไปเป็นคู่หมั้นไอบ้านี่ตอนไหน มันโกหกชัดๆ เกิดมาพึ่งเคยเจอคนอื่นโมเมว่าเป็นคู่หมั้นเนี่ยแหละ หน้าตาก็ดีแต่ท่าทางน่าจะเอาไปเช็คสมองอย่างด่วน

     
     

    “น้องแบคฮยอนไปนั่งที่ได้แล้ว”รุ่นพี่ยูริสั่งผมให้ไปนั่งประจำที่เดิมทันทีหลังจากผมถูกคนที่ชื่อชานยอลขโมยจูบของผมไป ผมเดินไปนั่งด้วยทั้งๆที่ยังเหม่อ สติสตังผมหายไปไหนหมดเนี่ย!

     
     

    วันนี้ทั้งวันผมทำกิจกรรมกับพวกรุ่นพี่ แต่ผมไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่เพราะมีสายตาของรุ่นพี่คนที่ชื่อชานยอลมองผมอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ผมเสียความเป็นตัวเองไปทันที ไม่ว่าจะทำอะไรพี่แกก็ยังจ้องผมอยู่อย่างเดียว ห้องนงห้องน้ำไม่คิดจะไปเข้าบ้างหรือไง มาจ้องแต่ผมอยู่ได้

     
     

    เอาล่ะจะว่าไปตอนนี้ช่างมันก่อน เพราะตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะได้เที่ยวแล้ว ยู้ฮู ดีใจสุดๆไปเลยครับ


     

    “นี่ลู่ฮานไปเที่ยวกันไหม”ผมรีบเอ่ยชวนลู่ฮานทันที แต่ดูเหมือนว่าลู่ฮานเค้าจะปฎิเสธผมล่ะ


     

    “ขอโทษนะ วันนี้ฉันมีนัดกับที่บ้านแล้ว”ลู่ฮานบอกผมด้วยสีหน้ารู้สึกผิดที่ปฎิเสธคำชวนผม มันทำให้ผมรู้สึกแย่ เพราะลู่ฮานเค้าไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย


     

    “ไม่เป็นไรหรอก นายก็รีบกลับบ้านนะเดี๋ยวฉันก็จะรีบไปรีบกลับเหมือนกัน”


     

    แบคฮยอนเอ่ยยิ้มๆก่อนจะรีบโบกแท็กซี่ไปเที่ยวห้างที่ตนเองอยากจะไปตั้งแต่เช้า แต่เมื่อมาถึงทำให้คนตัวเล็กหน้ามุ่ยทันที เพราะวันนี้คนเยอะมาก เดินไปทางไหนก็มีแต่คนเดินเบียดแย่งกันซื้อของและเหมือนที่ห้างจะมีจัดงานอะไรสักอย่างด้วย ซึ่งผมไม่สนใจเท่าไหร่ ผม
    ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยให้ตายสิ


     

    คนตัวเล็กรีบเดินเข้าไปภายในห้างเผื่อที่จะตากแอร์เย็นๆคลายเครียดซะหน่อย แต่มันติดที่ว่าคนเยอะไปหน่อย กว่าจะเดินเบียดผู้คนเข้าไปข้างในได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกอยู่พอสมควร ผู้คนที่เดินเบียดทั้งจะเข้าห้างและก็จะออกเล่นทำเอาเวียนหัว มือเล็กจับกระเป๋ากระชับแน่นราวกับกลัวมันจะหาย ก็สถานการณ์แบบนี้เสี่ยงโดนล้วงกระเป๋าได้นี่ฮะ


     

    หมับ!



    คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกทันที เพราะถูกใครไม่รู้เดินเข้ามาคว้าตัวเข้าไปกอดเอวแน่น มือที่กอดเอวเล็กนั่นกระชับให้แน่นขึ้นเพื่อบ่งบอกความเป็นเจ้าของ เพราะตั้งแต่ที่เดินเข้าห้างมานี่ เห็นมีแต่คนจับจ้องร่างเล็กตรงหน้าซะเหลือเกิน ฮอตไปหน่อยแล้วมั้ง คุณคู่หมั้น...


     

    “เฮ้ย ปล่อยนะ”คนตัวเล็กที่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครก็รีบตะโกนปล่อยขึ้นมาทันทีทำเอาคนแถวนั้นหันมามองกันหมด


     

    “โถ่ ที่รักผมมาช้านิดเดียวอย่างอนกันเลยนะ”


     

    น้ำเสียงที่คุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนทำเอาแบคฮยอนรีบหันไปมองต้นเสียงก่อนจะพบว่าเป็นชานยอลที่กำลังโอบเอวเค้าอยู่พร้อมแสดง ความเป็นเจ้าของเต็มที่

     
     

    “ใครงอนนายกันแล้วฉันก็ไม่ใช่แฟน ปล่อยนะเว้ย”แบคฮยอนโวยวายก่อนจะเริ่มเอามือมาแกะมือของชานยอลออก แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้มือชานยอลติดหนึบเกาะเอวเค้าแน่นไม่ขยับไปไหนเลย

     
     

    “โถ่ที่รักอย่าพูดจาแบบนั้นสิ คนมองกันหมดแล้วอยากได้อะไรเดี๋ยวจะตามใจทุกอย่างเลย ฟอด”ได้ทีฉวยโอกาสแก้มนิ่มๆ ก่อนจะพาคนตัวเล็กเดินออกมาจากตรงนั้นทั้งๆที่ยังเหวออยู่

     
     

    “ไอ้... ไอ้บ้า! ใครใช้นายมาหอมแก้มห๊ะ!”แบคฮยอนรีบหันไปต่อว่าชานยอลทันที ก่อนจะทำหน้ามุ่ยปากยู่อย่างที่ตัวเองชอบทำ

    แล้วแบคฮยอนจะรู้บ้างไหมว่าทำแบบนี้คนตรงหน้าแทบอยากจะจับมาจูบปิดปากซะให้เข็ด

     

    “เป็นคู่หมั้นกันหอมแก้มไม่เห็นผิดเลย”คนตัวสูงก้มหน้ามาพูดใส่คนที่ตัวเล็กกว่าโดยที่จมูกชนกัน จนทำให้แบคฮยอนต้องผละออกด้วยความตกใจ
     

     

    “อะ..อะไร คะ..ใครเค้าเป็นคู่หมั้นนาย”คนตัวเล็กพูดตะกุกตะกักเพราะเจอคนตัวตัวสูงยื่นหน้ามาแบบนี้เป็นใครก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา

     
     

    จะว่าไปแบคฮยอนตกใจหรือแอบหวั่นไหวกันแน่?

     
     

    “ก็นายไงคุณคู่หมั้น ว่าแต่มาซื้ออะไรเดี๋ยวพาไป”ชานยอลรีบถามขึ้นมาทันทีเพราะจะได้พาคนตัวเล็กกลับบ้านทันเวลาที่หม่าม๊าของแบคฮยอนนัดไปทานข้าวที่บ้าน

     
     

    “ไม่ต้องมายุ่งน่า จะไปไหนก็ไปเลย”แบคฮยอนเอ่ยปากไล่ทันที ก่อนจะรีบเดินหนีออกห่างจากชานยอล

     
     

    “ไม่ได้ เพราะฉันต้องพานายกลับบ้านพร้อมกับฉัน”

     
     

    คนตัวเล็กขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

     
     

    “แล้วบ้านฉันมันเกี่ยวอะไรกับนาย”ความสงสัยที่แบคฮยอนมีรีบถามออกไปทันที

     
     

    “ก็วันนี้หม่าม๊านายจะพูดเรื่องหมั้นกับนายไง”ไม่พูดเปล่าคนตัวสูงก็อาศัยจังหวะคว้าเอวคนตัวเล็กกว่าเดินไปซื้อของภายในห้างทันที

     
     

    “อย่าบอกนะว่านายคือคู่หมั้นของฉันจริงๆ”คนตัวเล็กที่ถูกคว้าเอวมาด้วยรีบถามขึ้นมา

     
     

    “อื้ม สามีในอนาคตของพยอนแบคฮยอน”ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ มันยิ่งทำให้แบคฮยอนตกใจคูณสองของวันนี้ สติไปหมดแล้วแบคฮยอนเอ๋ย

     
     

    ไอ้นี่มันพูดจริงๆหรอเนี่ย ผมคิดว่าเค้าแกล้งผมเล่นตั้งแต่อยู่ที่มหาลัยเฉยๆ

     
     

    “นายเป็นคู่หมั้นจริงๆหรอ”คนตัวเล็กถามย้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ

     
     

    “ก็ใช่น่ะสิ เตรียมตัวเป็นภรรยาที่ดีด้วยล่ะ หึ”รอยยิ้มแบบนี้อีกแล้ว อ๊ากกกกก ผมไม่ชอบเลย มันยิ้มยังกะผมจะเสร็จมันเร็วๆนี้แหละครับ ทำไมหม่าม๊าถึงจับผมไปหมั้นกับคนแบบนี้นะ

     
     

    ผมเดินไปกับชานยอลแบบไม่รู้ตัว เพราะเค้าลากผมเดินไปทั่วเลยจริงๆ

     
     

    “สรุปจะซื้ออะไร”เค้าหันมาผม ลากเดินมาด้วยตั้งนานแล้วพึ่งจะถามเนี่ยนะ

     
     

    “ไม่รู้”ผมตอบด้วยท่าทีไม่สนใจ ก่อนผมจะโดนลากให้เดินไปด้วยอีกรอบ

     
     

    “ปล่อยนะเว้ย จะลากอะไรนักหนา”ผมรีบสะบัดมือออกก่อนจะยืนกอดอกหน้ามุ่ยตามสเต็ปเดิมทันที

     
     

    “ก็จะพากลับบ้าน หม่าม๊านายเค้ารอนานแล้ว”

    เรียกหม่าม๊าเต็มปากเต็มคำเชียวนะ ชิส์
     

     

    “เออ ก็ได้”ผมตอบไปทั้งๆที่ยังหน้ามุ่ย ก่อนจะโดนชานยอลจับมือผมเดินไป ก่อนจะเปลี่ยนจากจับมือมากระชับเอวผมอย่างเคย ใครก็ได้เอาไอ้หื่นนี่ไปเก็บทีเหอะครับ

     
     

    เมื่อพวกผมสองคนเดินมาถึงที่จอดรถผมก็รีบมองหารถของไอ้รุ่นพี่คนนี้ทันที อยากจะรู้เหลือเกินว่าขับรถแบบไหนกัน

     

    “ไหนอ่ะรถ”ผมถามออกไปทันที ก่อนจะรีบแกะมือที่มันจับเอวผมอยู่ออกด้วย แต่ดูหมอนี่จะไม่ยอมท่าเดียว

     
     

    “นั่นไง”ไอ้รุ่นพี่คนนี้มันชี้ไปที่รถแลมโบกินี่สีดำตรงหน้าผมเอาผมตาลุกวาว

     
     

    ก็รถแบบนี้สีนี้เลยผมขอคุณหม่าม๊าซื้อแต่หม่าม๊าไม่ยอมซื้อให้เพราะบอกว่าผมมีเฟอร์รารี่อยู่แล้วยังไม่จำเป็นต้องซื้อ แถมที่บ้านก็มีรถหลายคันที่แทบจะไม่ได้ขับออกไปไหนเลย แต่รถรุ่นนี้เป็นขวัญใจของผมเลย อย่างน้อยไอ้รุ่นพี่ตรงหน้ามันก็ซื้อมาใช้ แค่นี้เป็นบุญของผมแล้วล่ะครับที่จะได้นั่ง วะฮะฮ่า

     
     

    ชานยอลกดรีโมทรถก่อนจะเปิดประตูรถให้ผมเข้าไปนั่งแล้วคาดเข็มขัดให้ผมเสร็จสรรพ ไม่รู้จะทำแบบนี้ทำไม ทำยังกะผมจะหนีเค้ากลับบ้านยังนั้นแหละ แต่เมื่อผมเข้ามานั่งในรถสายตาผมก็สอดส่องไปทั่วเลยแหละครับ ก็อยากรู้นี่นาว่ารถราคาแพงขนาดนี้มันจะมีลูกเล่นอะไรบ้างอยู่บนรถ

     
     

    แต่เมื่อไอ้รุ่นพี่คนนี้เปิดประตูเข้ามานั่งเตรียมจะออกรถ ผมก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งกดเล่นหงึกๆอยู่คนเดียว ก่อนจะหัวเราะคิกคักเบาๆจนไอ้คนข้างๆผมมันเริ่มรำคาญแล้วคว้าโทรศัพท์ไปเฉยเลย

     
     

    “เฮ้ย เอาคืนมานะ”ผมรีบหันไปบอกรุ่นพี่ชานยอลแต่ดูเหมือนเค้าจะไม่สนใจผมเลยอ่ะ

     
     

    “เอาโทรศัพท์คืนมานะ!”ผมเริ่มพูดเสียงดังขึ้น ก่อนคนข้างๆจะเหล่ตามองผมเล็กน้อยแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจต่อไป

     
     

    ผมกระเถิบตัวเพื่อจะคว้าโทรศัพท์แต่ไอ้รุ่นพี่มันเอาไปยัดไว้ในกระเป๋ากางเกงตัวเองซะแล้ว แล้วแบบนี้ผมจะเอาคืนยังไงล่ะครับ!?

     
     

    “ถึงบ้านแล้วจะคืนให้”ไอ้รุ่นพี่มันบอกผมแค่นั้นก่อนจะขับรถไปอย่างไม่สนใจผมอีกเลย ทำไมวันนี้ผมเจอแต่เรื่องแย่ๆเนี่ย

     






     

    ผมนั่งเงียบมาตลอดทางจนเมื่อถึงบ้านผมก็รีบเปิดประตูลงจากรถทันที ก่อนจะเดินเข้าบ้านโดยไม่สนใจไอคนที่ขับรถมาจอดหน้าบ้านเมื่อสักครู่

    ผมกำลังงอนอยู่นะ จะว่าไปผมจะงอนทำไม ก็แค่อยากได้โทรศัพท์คืน

     
     

    “หม่าม๊า”ผมรีบวิ่งเข้าไปกอดคุณหม่าม๊าทันทีก่อนจะเอาหัวไปพิงอกคุณหม่าม๊าอย่างที่ผมชอบทำเป็นประจำ

     
     

    “สวัสดีครับ”ไอ้รุ่นพี่คนที่มากับผมรีบกล่าวสวัสดีคุณแม่ผมทันที จนผมต้องหันไปมองอย่างเคืองๆ

     
     

    “หนูรู้จักพี่เค้าแล้วใช่ไหมลูก”คุณหม่าม๊าหันมาถามลูกสายคนสวยของตัวเอง

     
     

    “ไม่รู้จัก ลูกแบคไม่อยากรู้จักคนนี้”แบคฮยอนเริ่มงอแงใส่คุณหม่าม๊าของตัวเองจนคุณหม่าม๊าต้องหยิกแก้มลูกชายตัวเองเบาๆ ซึ่งทำให้แบคฮยอนไม่พอใจเท่าไหร่

     
     

    “หม่าม๊าอ่า”แบคฮยอนเริ่มงอแงมากขึ้นกว่าเดิมจนคุณนายต้องเอ็ดลูกชายอย่างเสียไม่ได้

     
     

    “แบคฮยอนห้ามพูดจาแบบนี้อีก เข้าใจที่หม่าม๊าพูดไหม”คุณหม่าม๊าเริ่มสั่งเสียงแข็งทำเอาคุณหนูแบคฮยอนเริ่มน้ำตาปริ่มอยู่รอบขอบตา จนคุณหม่าม๊าต้องรีบกอดปลอบลูกชายตัวเอง

     
     

    เหตุการ์ณทั้งหมดอยู่ในสายตาของชานยอล ในใจเค้านึกขำเด็กตรงหน้าซะเหลือเกิน ชอบทำตัวอ้อน งอแงเป็นเด็กๆ อย่างนี้สิน่าปราบซะให้เข็ด

     
     

    “โอ๋ๆ อย่าร้องนะลูก วันนี้มีแขกมาทานข้าวที่บ้านด้วยต้องทำตัวดีๆนะเข้าใจไหม”คุณหม่าม๊าเอ่ยเตือนลูกชายสุดที่รัก ก่อนแบคฮยอนจะพยักหน้ารับคำคุณหม่าม๊า

     
     

    “ดีมากจ๊ะ งั้นไปกันเลยเนาะ”คุณหม่าม๊าบอกลูกชายตัวเอง ก่อนจะเดินนำหน้าไปยังทางห้องรับประทานอาหาร พร้อมกับชานยอลที่เดิมตามหลังมา

     

    ภายในห้องรับประทานอาหารมีอีก3คนที่กำลังนั่งรออยู่พอดี นั่นคือคุณพ่อของแบคฮยอนกับแขกอีก2คนที่ผมไม่รู้จัก

     
     

    “สวัสดีป่ะป๊าหม่าม๊าพี่เค้าสิลูก”คุณแม่กระซิบบอกลูกชายตัวเอง เมื่อแบคฮยอนได้ยินดังนั้นก็รีบยกมือขึ้นไหว้ทันที ทำเอาป่ะป๊าหม่าม๊าอมยิ้มกับท่าทีน่ารักของแบคฮยอน

     
     

    “สวัสดีครับ”ชานยอลที่เดินตามหลังมาเมื่อเห็นพ่อของแบคฮยอนก็รีบทำความทักทายทันที ทำเอาพ่อของแบคฮยอนถึงกับพอใจกับมารยาทมากโขเลยทีเดียว

     
     

    “หนูนั่งตรงนี้นะลูกแบค เราด้วยนะชานยอลนั่งข้างหนูแบคเลย”คุณหม่าม๊าจัดการที่นั่งให้เสร็จสรรพแล้วตัวเองก็รีบไปนั่งในที่ประจำของตัวเองทันที

     
     

    ตอนนี้พวกผผรับประทานอาหารกันจนเสร็จสิ้น ถึงเวลาที่หม่าม๊ามีเรื่องจะบอกผม ซึ่งผมก็รู้ตัวไปแล้วล่ะครับ โดยรู้จากไอ้คนข้างๆเนี่ยแหละเล่นประกาศกลางมหาลัยซะแบบนั้น

     
     

    “ลูกแบคหนูเป็นคู่หมั้นกับพี่ชานยอลเค้านะลูก”คุณหม่าม๊าหันมาบอกผมก่อนที่ผมจะทำท่าไม่สนใจเท่าไหร่

     
     

    “ผมไม่หมั้นได้ไหมหม่าม๊า”ลูกชายรีบหันไปถามคุณหม่าม๊าทันที

     
     

    “ทำไมพูดจาแบบนี้ล่ะลูกแบค ไม่น่ารักเลยนะ”คุณหม่าม๊าเอ็ดลูกอายตัวเองเป็นรอบที่2ของวัน เล่นเอาหนูแบคนั่งหน้าซึมไปเลย

     
     

    “อย่าดุหนูแบคสิ หนูแบคอาจจะเขินอยู่ก็ได้นะ”

     
     

    หม่าม๊าของชานยอลพูดขึ้นทำเอาผมอยากจะพูดขึ้นไปว่าผมไม่ได้เขินแต่ผมไม่ชอบคนหื่นแบบนี้ แต่ผมพูดไม่ได้ T T

     
     

    “ชานยอลก็เหมือนกันต้องดูแลน้องให้ดีๆนะ”หม่าม๊าของชานยอลเริ่มสั่งลูกชายตัวเอง

     
     

    “ผมจะดูแลน้องเค้าให้ดี ม๊าไม่ต้องเป็นห่วง”ชานยอลตกปากรับคำกับหม่ามาตัวเอง

     
     

    ดูแลตัวเองได้เว้ย ไม่ต้องมาดูแลฉัน แบคฮยอนได้แต่คิดในใจ

     
     

    ผู้ใหญ่ทั้งสองสองฝ่ายต่างคุยกันสนุกสนาน จึงปล่อยให้ลูกชายทั้งสองคนไปเดินเล่นคุยกันและทำความรู้จักให้มากขึ้นกว่านี้

     
     

    แต่เมื่อแบคฮยอนเดินออกมาจากห้องทานอาหารก็รีบแบมือขอโทรศัพท์คืนทันที ซึ่งชานยอลไม่มีที่ว่าจะสนใจ

     
     

    “ขอโทรศัพท์คืนด้วย”แบคฮยอนแบมือยื่นไปตรงหน้าชานยอลอีกรอบก่อนชานยอลจะควักโทรศัพท์ออกมา แล้วไล่ดูทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในเครื่อง

     
     

    “เฮ้ย ห้ามดูนะ”แบคฮยอนตะโกนใส่ก่อนจะกระโดดคว้าโทรศัพท์แต่ก็ไม่ถึง ไอ้รุ่นพี่มันสูงกว่าผมอ่ะครับ สูงมากด้วยเหอะ

     
     

    “แบคฮยอนน่ารักจังเลยครับ”ชานยอลอ่านข้อความที่อยู่ในมือถือ ทำเอาแบคฮยอนหน้าแดงวาบ

    “มีแฟนหรือยังครับ” น่านๆมันยังไม่หยุดอ่านอีก

    “ผมขอจีบนะครับ”

    ฮือ ประโยคเด็ดมันอ่านออกมาแล้ว

     
     

    “หยุดอ่านได้แล้วเอาคืนมานะ”แบคฮยอนกระโดดเกาะบ่าชานยอลทันที แต่ก็ทำอะไรชานยอลไม่ได้อยู่ดี

     
     

    “นอกใจคู่หมั้นชัดๆ”อยู่ดีๆชานยอลก็พูดขึ้นมา ทำเอาแบคฮยอนทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว

     

    “อะไรไม่ได้นอกใจนะ ใครจะไปรู้ว่าตัวเองมีคู่หมั่นเล่า!

     
     

    “อ้อหรอ”ชานยอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนๆ ก่อนมือก็ไล่กดตัวอักษรแล้วส่งข้อความกลับไป

     
     

    “ฉันมีคู่หมั้นแล้ว” พิมพ์ตอบแทนคนตัวเล็กที่ยืนหน้าง้ำงอไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก่อนจะแอบยิงเบอร์เข้าเครื่องตัวเองพร้อมกับเมมชื่อให้เสร็จสรรพ “สามี”

     
     

    “อ่ะเอาคืนไป”อยู่ดีๆชานยอลก็ยื่นมือถือคืนแบคฮยอนอย่างว่าง่ายทำเอาแบคฮยอนขมวดคิ้วงง แล้วรีบคว้าโทรศัพท์มาไว้ที่ตัวเองก่อน ก่อนจะเช็คดูว่าชานยอลแอบกดเข้าไปดูอะไรบ้าง แต่ยังไม่เห็นเบอร์ที่ชานยอลแอบเมมไว้ให้

     
     

    “เฮ้ย นายตอบไปแบบนี้ได้ไง!!”หลังจากที่แบคฮยอนอ่านข้อความเสร็จก็รีบหันมาถามชานยอลทันที

     
     

    “จะตกใจทำไม หรือที่พิมพ์ไปมันไม่ใช่เรื่องจริง?”ชานยอลย้อนถามกลับอย่างกวนๆ ทำเอาแบคฮยอนยู่ปากออกมาทันที

     
     

    ใครก็ได้เอาไอ้หื่น ไอ้ตัววุ่นวายออกไปจากชีวิตผมซะที ผมไม่อยากเป็นคู่หมั้นกับมัน!!!

     
     

    ผมก็ได้แต่ยืนคิดเพราะผมเบื่อที่จะเถียงกับคนแบบนี้แล้ว พวกผมสองคนยืนอยู่ตรงนั้นสักพักคุณหม่าม๊าป่ะป๊ากับหม่าม๊าป่ะป๊าของไอ้รุ่นพี่คนนี้ก็เดินมาเพื่อจะกลับบ้าน

    หม่าม๊าของชานยอลเดินมากอดผมพร้อมกับหอมแก้มผมทำเอาผมเขินไปอยู่เหมือนกันก่อนจะเอ่ยลาหม่าม๊าป่ะป๊าแล้วเดินไปส่งที่รถที่จอดอยู่ด้านหน้า
     

     

    “ขับรถกลับดีๆนะครับ”ผมบอกหม่าม๊าป่ะป๊าของชานยอล แล้วผมก็ทำเป็นไม่สนใจชานยอลที่ยืนอยู่ข้างๆเลยสักนิด

     

    “ลูกแบคไปส่งพี่เค้าขึ้นรถสิลูก”คุณหม่าม๊าหันมาสั่งผมให้ผมเดินไปส่งชานยอลที่เป็นคู่หมั้นที่รถ เพราะคุณป่ะป๊าหม่าม๊าขับรถกันมาเอง และไอ้รุ่นพี่คนนี้มันก็ขับมาเองเหมือนกันเลยแยกกันกลับ

     

    “ลูกแบคง่วงแล้ว ฮ้าววว”แบคฮยอนแกล้งหาวออกมาเพื่อที่จะเดินเข้าบ้านแต่ก็โดนคุณหม่าม๊าสั่งเสียงดุให้เดินไปส่งไอ้คนที่เป็นคู่หมั้นผมเนี่ย ทำไมหม่าม๊าต้องดุผมด้วย T T
     

     

    “กลับไปดิ่”ผมพูดเสียงห้วนๆแข็งๆเมื่อเห็นว่าคุณหม่าม๊าเดินเข้าบ้านไปแล้วตอนที่ผมเดินมาส่งชานยอลแค่คนเดียว


    “ไล่กันยังนี้เลยหรอคุณคู่หมั้น”ชานยอลยิ้มกวนๆใส่ผมอีกแล้ว ทำไมเค้าต้องกวนผมตลอดเวลาด้วยนะ

     
     

    “ก็ใช่น่ะสิ รีบๆไปเลยเบื่อหน้าจะแย่”ผมพูดด้วยท่าทีไม่สนใจ

     

    “งั้นก็ทนเบื่อต่อไปแล้วกันนะ เพราะคู่หมั้นคนนี้จะตามติดชีวิตพยอนแบคฮยอนไป24ชม. หึหึ”

    อ๊ากกกกกกกกก ผมเกลียดเสียง หึหึ ของชานยอลเหลือเกิน น้ำเสียงมันเจ้าเล่ห์เกินไปผมไม่ชอบ

     
     

    ชานยอลพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินไปเพื่อจะขึ้นรถ

    “อ้อ.. เกือบลืม”ชานยอลหันมาบอกผมก่อนจะเดินย้อนกลับมาตรงที่ผมยืนอีกรอบ

     
     

    “อื้ออออ”ผมร้องครางออกมาเพราะอยู่ดีๆไอ้หื่นนี่มันก็เดินมาจูบผมอีกแล้ว ผมทั้งตกใจทั้งตั้งตัวไม่ทันแถมผมก็ขัดขืนมันไม่ได้ด้วยเพราะมันดึงผมไปกอดแน่นเลยครับ วันนี้มันวันซวยของผมรึไงถึงโดนรังแกโดยการจูบไป2รอบแล้ว!!!

     
     

    “กู๊ดไนท์คิสนะคุณคู่หมั้น”

     
     

    ชานยอลพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินไปโดยไม่สนใจผมอีกเลย อ๊ากกกกกกกก ผมเกลียดมัน!!



     

     

     

     ¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸¸.•*´¨`*•.¸
     

     

     



    ตอนที่2มาแล้ว

    เรื่องนี้แต่งไว้รอหลายตอนแล้ว รออัพลงอย่างเดียว

    ถ้าใครอยากอ่านตอนต่อไปไวๆก็เม้นกันด้วยนะคะ ติชมกันบ้าง
    รับรองความหื่น(รึเปล่า) อยากรู้ต้องติดตาม ตอนหน้ายอลเริ่มออกลายใส่แบคฮยอนแล้ว
    เม้นเยอะจะมาอัพทันที ติดตามกันด้วยนะ 






    มือของชานยอลเริ่มมาตะปบอยู่ที่ชุดนอนสีหวานตรงหน้าก่อนจะค่อยๆถอดกระดุมทีละเม็ดๆ
    บทความของตอนที่3 ใครอยากอ่านอย่าลืมเม้น  




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×