ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] EXO - ChanBaek , Chanyeol x Baekhyun

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] Chanyeol x Baekhyun แบคฮยอนสุดดื้อป่วย

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 56










     

    Chanyeol x Baekhyun เมื่อแบคฮยอนป่วย


     

     


     

                    ช่วงเวลาสายของวันอาทิตย์ เหล่าสมาชิก EXO บางคนยังคงนอนอุดอู้กันอยู่บนเตียงอย่างสบาย เพราะนานๆ ครั้งสมาชิกวง EXO จะได้มีเวลาหยุดพักผ่อนกับเค้าบ้าง

    เนื่องจากตารางงานอันแน่นเอียดที่บริษัทคอยรับคิวมาซะตลอดเวลา จนแทบไม่มีเวลาหยุดพักผ่อนกันเลยก็ว่าได้ วันนี้เลยทำเอาเหล่าสมาชิกชอบใจกันเป็นพิเศษที่จะได้หยุด เพราะพวกเค้าต่างก็ทำงานกันตามตารางที่ถูกบริษัทอัดงานมาให้หลายวันติด

     

                    เหล่าสมาชิกคนอื่นๆ เริ่มมีออกมาทำกิจกรรมส่วนตัวกันบ้างแล้ว ทั้งเล่นเกมส์ ทำกับข้าว รวมทั้งเล่นอินเทอร์เน็ตเสาะหาเว็ปไซต์ต่างๆดูแก้เบื่อ แต่ว่าห้องคู่รูมเมทประจำวงอีกคู่ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงโดยไม่สนใจเลยสักนิดว่าเวลานี้จะกี่โมงแล้ว

     

                    ผ้าห่มที่ถูกคลุมโปงไว้เริ่มขยุกขยิกขึ้นมาทำเอาคนข้างๆ ที่นอนด้วยกันปรือตามองเพราะแรงขยับไปมา ผ้าห่มผืนหนาถูกดึงร่นไปออกมากองไว้ที่ช่วงเอวโดยเจ้าตัว ใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อทำเอาคนข้างๆ รีบหันมาดูว่าเป็นอะไร มือหนาเลื่อนไปวางบนข้างแก้มของคนที่นอนอยู่ข้างๆ ก่อนจะใช้ฝ่ามือเช็ดเหงื่อที่ชุ่มให้ออกไป ไรผมที่เต็มไปด้วยเหงื่อถูกคนตัวสูงจับทัดไว้ที่หูเพื่อไม่ให้เปียกไปมากกว่านี้

     

    “บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่านอนคลุมโปง”  ชานยอลเอ็ดคนตัวเล็กที่นอนข้างๆ ก่อนจะดึงเข้ามาใกล้ๆ แล้วจูบที่ขมับคนตัวเล็ก ริมฝีปากที่จูบขมับคนตัวเล็กไปเมื่อสักครู่ เริ่มรับรู้ถึงไอร้อนจากคนข้างกาย ที่แลดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะมีไข้เข้าซะแล้ว

     

    “ก็มันหนาวนี่นา” คนตัวเล็กบ่นงุ้งงิ้งตามภาษาก่อนจะหลับตาต่อเพราะรู้สึกวิงเวียนหัวซะเหลือเกิน

     

                    ชานยอลมองคนตัวเล็กที่ยังคงหลับอยู่ในอ้อมกอด ก่อนจะสะกิดให้คนตัวเล็กลุกขึ้นมาอาบน้ำแล้วก็ทานข้าว เพราะว่าตอนนี้เริ่มจะสายมากแล้วกลัวว่าพี่ซูโฮจะบ่นเอาได้

     

                    แบคฮยอนครางในลำคอแต่ก็ยังไม่ยอมลุกขึ้นมาตามคำบอกของชานยอลอยู่ดี จนชานยอลต้องดึงแบคฮยอนให้ลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียง ก่อนชานยอลจะลุกชึ้นมาเตรียมผ้าเช็ดตัวให้คนตัวเล็ก แบคฮยอนยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเองด้วยความง่วงทำเอาชานยอลเอายิ้มเพราะท่าทางที่เหมือนเด็กน้อยแบบนั้น

     

    “ไม่อาบน้ำได้ไหม” คนตัวเล็กพูดเบาๆในขณะที่ยังมือขยี้ตาอยู่

     

    “อาบเถอะเดี๋ยวพาไปเที่ยวข้างนอก” ชานยอลก้าวเท้ามายืนอยู่ตรงปลายเตียงก่อนจะจับมือคนตัวเล็กที่ยังคงขยี้ออกจากตาอยู่เพราะกลัวว่าตาจะแดงซะได้

     

    “ไม่ไปได้ไหมปวดหัว” คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเตียงไม่ว่าเปล่าใช้มือกอดรอบเอวชานยอลที่ยืนอยู่ตรงปลายเตียงพลางเอาหน้าซุกท้องชานยอลอย่างออดอ้อน

     

    “หืม ไอ้ดื้อของชานยอลเป็นอะไรไปซะได้” ชานยอลที่อมยิ้มกับท่าทีออดอ้อนของแบคฮยอนเพราะบทจะอ้อนก็อ้อนซะน่ารักเหลือเกิน มันเล่นทำเอาหัวใจเค้าเต้นแรงแบบไม่หยุด

     

    “ปวดหัว” แบคฮยอนพูดทั้งๆ ที่ยังกอดเอวชานยอลอยู่ เวลาไม่สบายทีไรเค้ามักจะชอบอ้อนทุกที

     

    “งั้นไปล้างหน้าแปรงฟันแล้วไปกินข้าวกันนะ” ชานยอลจับคนตัวเล็กให้ลุกจากเตียงก่อนจะพากันเดินเข้าห้องน้ำ ชานยอลจัดการอุ้มคนตัวเล็กนั่งลงบนขอบอ่างก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแปรงสีฟันที่ถูกแขวนไว้คู่กัน พลางบีบยาสีฟันลงบนแปรงแล้วยื่นให้คนตัวเล็ก แบคฮยอนนั่งแปรงสีฟันจนฟองเต็มปากถึงขนาดเปื้อนด้านนอกไปหมดทำเอาชานยอลถึงกับขำกับความน่ารักของแฟนตัวเล็กนี่ซะเหลือเกิน

     

                    นิ้วโป้งชานยอลถูกปาดเช็ดคราบยาสีฟันรอบๆ ปากของแบคฮยอนก่อนจะหยิบแก้วน้ำลายการ์ตูนตัวโปรดของแบคฮยอนยื่นให้บ้วนปาก แบคอยอนกลอกน้ำอมไว้ในปากไปมาก่อนจะบ้วนจนสะอาดแต่ก็ไม่วายเลอะเทอะอยู่ดีจนชานยอลต้องหยิบผ้าผืนเล็กมาซับบริเวณใบหน้าให้แบคฮยอน
     

    “ไหนคนป่วยหมอชานยอลขอฟันดูหน่อยสะอาดหรือยัง” ชานยอลถามพลางจับหน้าแบคฮยอนให้เงยขึ้นมาหา ก่อนแบคฮยอนจะฉีกยิ้มยิงฟันสวยอวดว่าสะอาดครบทุกซี่แล้ว

     

    “ดีมากเก่งสุดๆ” ชานยอลบอกแบคฮยอนที่แปรงฟันสะอาดครบทุกซี่ก็เล่นทำเหมือนว่าแบคฮยอนเป็นเด็กน้อยไปซะได้

     

    “ไหนคนป่วยขอดูฟันคุณหมอบ้างสิ คิกๆ” แบคฮยอนขำน้อยๆ ก่อนจะจับหน้าของคุณหมอจำเป็นให้ฉีกยิ้มออก เพราะเวลาเห็นชานยอลฉีกยิ้มทีไรแบคฮยอนว่าน่ารักมากๆ เลย

     

    “แกล้งกันหรือไงไปกินข้าวได้แล้ว” ชานยอลจับมือคนตัวเล็กเดินออกจากห้องน้ำก่อนจะพาไปนั่งยังโต๊ะกินข้าวที่มีสมาชิกคนอื่นๆ นั่งกินข้าวอยู่ก่อนแล้ว

     

    “มีอะไรกินบ้างพี่ซูโฮ” แบคฮยอนรีบหันไปถามรุ่นพี่ซูโฮทันทีเพราะเห็นว่าซูโฮกำลังจะตักแกงอะไรสักอย่างออกจากหม้อในตอนนั้น

     

    “มีแกงกิมจิกับทงคัทซึมาเลือกกินเอาเลยนะ” ซูโฮบอกแค่นั้นก่อนจะยกถ้วยแกงที่พึ่งตักมานั่งทานรวมกับสมาชิกคนอื่นๆ

     

    “อยากกินทงคัทซึชานยอลเอาให้หน่อย” แบคฮยอนหันไปบอกให้ตักข้าวให้แต่ชานยอลแต่ชานยอลก็ส่ายหน้าใส่

     

    “ไม่สบายอยู่กินของทอดไม่ได้” ชานยอลพูดขัดขึ้นมา

     

    “งั้นเอาแกงกิมจิ” แบคฮยอนรีบหันไปขอกับข้าวอีกอย่างนึงมากิน

     

    “ของเผ็ดก็ห้าม”
     

         แบคฮยอนมุ่ยหน้าลงเมื่อได้ยินประโยคแบบนั้นก่อนจะหันมามองสมาชิกในวงให้ความช่วยเหลือแต่ก็เหมือนว่าไม่มีใครอยากจะยุ่งกับคู่รักรูมเมทนี่สักเท่าไหร่หรอกก็สองคนนี้ชอบเล่นบทพ่อแง่แม่งอน โกรธกันบ่อยงอนกันบ่อยแต่ก็รักกันดีซะเหลือเกิน

     

    “ไม่สบายหรอแบคฮยอน” รุ่นพี่ซูโฮหันมาถาม จนแบคฮยอนต้องพยักหน้ารับคำ

     

    “งั้นก็ลำบากหน่อย รักษาเสียของตัวเองไว้ให้ดีด้วยล่ะอีก 3 วันเราต้องไปขึ้นคอนเสิร์ต” ซูโฮพูดเพียงแค่นั้นก่อนแบคฮยอนจะนั่งหน้าหงอยเพราะไม่มีใครตามใจเค้าเลย ก็แบคฮยอนแค่อยากกินแบบคนอื่นบ้างเท่านั้นเอง

     

    “งั้นเดี๋ยวไปข้าวต้มมาให้แล้วกันนั่งรอก่อนนะ” ชานยอลบอกแบคฮยอนก่อนจะเดินไปครัวเพื่อทำข้าวต้มมาให้ จนแบคฮยอนต้องมุ่ยหน้าอีกรอบ ไม่สบายทีไรโดนกินข้าวต้มทุกทีแบคฮยอนเบื่อนะชานยอลคนบ้า

     




     

    ถ้วยข้าวต้มถูกเสิร์ฟมาตรงหน้าแบคฮยอนแต่แบคฮยอนก็ยังไม่ยอมลงมือกินอยู่ดี ชานยอลเลยส่งสายตาให้แบคฮยอนกินเดี๋ยวนี้ซึ่งแบคฮยอนเองก็ต้องกินอย่างเลี่ยงไม่ได้ ชานยอลชอบขู่ด้วยสายตาแบบนี้ตลอดแต่แบคฮยอนไม่ได้กลัวนะแบคฮยอนแค่เกรงใจ เรื่องอะไรจะไปกลัวเจ้าโย่งนี่เล่า แบคฮยอนแค่ยอมวันนี้วันเดียวเท่านั้นแหละ จริงๆนะ

     

    “ชานยอล” ซูโฮเรียกทักขึ้นมาในขณะทานข้าวกันอยู่

     

    “ครับ” ชานยอลหันไปมองลีดเดอร์โอโม่ประจำวงว่าเรียกเค้าทำไมกัน

     

    “วันนี้นายต้องนอนข้างนอกนะเข้าใจไหม”

     

    “นอนข้างนอก ทำไมอ่ะพี่” ชานยอลรีบถามด้วยความสงสัยทันที

     

    “ก็แบคฮยอนไม่สบายเดี๋ยวนายก็ติดไข้หรอก” ซูโฮรีบอธิบายเหตุผลให้ชานยอลได้ฟังเล่นเอาชานยอลถึงกับหน้าเหวอ

     

    “ไม่เป็นไรพี่ผมแข็งแรงผมไม่ติดไข้ง่ายๆ หรอก” ชานยอลรีบแย้งรุ่นพี่ไปอีก เรื่องอะไรจะยอมนอนนอกห้องกันล่ะแบบนี้ผมก็อดนอนกอดแบคฮยอนน่ะสิ  ใครจะยอมกัน

     

    “ไม่รู้แหละยังไงนายก็ต้องนอนข้างนอกพี่กลัวนายจะติดไข้แบคฮยอน”

     

    “แต่ผม

     

    “ไม่ต้องแต่ ตอนนี้แค่เมนวอยซ์ไม่สบายพี่ก็เครียดแล้วถ้าคืนแร๊พเปอร์ประจำวงมาไม่สบายอีกพี่ก็เครียดตายน่ะสิ อีกสามวันก็ต้องไปขึ้นคอนเสิร์ตแล้วเข้าใจไหม” ลีดเดอร์ฝั่งเครีบขัดขึ้นมายาวเหยียดก่อนชานยอลจะพูดอะไรออกมา ทุกคนรู้ทุกรู้ว่าชานยอลแร็พเปอร์ประจำวงขาดแบคฮยอนไม่ได้ แต่ทำไงได้ถ้าเกิดติดไข้ขึ้นมาแล้วมันจะซวยกันหนักกว่าเดิมเนี่ยสิ ผมมีหน้าที่ต้องดูแลน้องๆ แยกห้องแบบนี้ผมไม่ผิดนะ

     

    เมื่อแบคฮยอนได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าทะเล้นสมน้ำหน้าใส่ชานยอลทันทีเพราะเมื่อกี้เค้างอนชานยอลอยู่ แต่พอพี่ซูโฮพูดแบบนี้ผมล่ะสะใจจริงๆ ปาร์คชานยอลนายถูกนอนนอกห้อง วันนี้ผมจะได้นอนคนเดียว แบคฮยอนแลบลิ้นใส่ชานยอลไปอีกที จนชานยอลต้องถลึงตาโตใส่แบคฮยอนให้แบคฮยอนเลิกแลบลิ้นได้แล้วแต่พอชานยอลทำแบบนั้นก็เล่นทำเอาแบคฮยอนขำหนักกว่าเดิมเสียอีก
     

    “ถ้ายังไม่หยุดรู้ใช่ไหมจะโดนอะไร” ชานยอลพูดขู่ขึ้นมาเล่นทำเอาแบคฮยอนรีบเอามือปิดปากตัวเองทั้งๆที่ในใจยังคงขำอยู่
     

    เจ้าชานยอลคนบ้าชอบขู่อยู่เรื่อยนึกว่าว่ากลัวรึไง ผมก็ได้แต่คิคในใจไม่กล้าเถียง ถ้าขืนเถียงไปนะชานยอลเอาจริงแน่ๆ เพราะชานยอลขู่ทีไรแล้วทำจริงทุกที

     




     

    ผมแอบชำเลืองมองไปที่คยองซูพลางทำสายตาอ้อนใส่คนตรงหน้า เพราะคยองซูกำลังนั่งกินไอศกรีมรสโปรดของผมอยู่แต่คยองซูก็ส่ายหน้าปฎิเสธผม ผมเลยรีบหันไปมองทางด้านห้องครัวก็เห็นชานยอลเค้ากำลังยืนหันหลังล้างจานอยู่ด้านในกับพี่ซูโฮ มันเลยทำให้ผมหลุดพ้นจากสายตาของชานยอลสักที ผมยิ้มกว้างออกมาทันทีเมื่อนึกถึงไอศกรีมในตู้เย็น เสร็จผมล่ะไอศกรีมจ๋ารอแบคฮยอนก่อนนะ

     

    ผมรีบเดินไปยังตู้เย็นก่อนจะคว้าเอาไอศกรีมด้วยเล็กมากนั่งกินข้างๆ กับคยองซู แต่ผมก็ไม่วายโดนคยองซูเอ็ดเอาว่าไม่สบายแล้วยังไม่เจียมตัวเองอีก แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจหรอกก็มันอยากกินนี่นา

     

    ช้อนคันเล็กถูกปาดเข้าเนื้อไอศกรีมก่อนแบคฮยอนจะรีบเอาเข้าปากอย่างเร็วแต่เพราะด้วยความไวทำเอาความเย็นจิ๊ดเล่นเข้าสมอง

    แบคฮยอนหลับตาปี๋เพราะความเย็นที่พุ่งเข้าใส่ แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับชานยอลที่ยืนอยู่จากทางห้องครัวกำลังมองมา แบคฮยอนหันไปสบสายตากับชานยอลก็สะดุ้งทันที เพราะสายตาที่น่ากลัวของชานยอลถูกส่งมาอีกแล้ว

     

    ขายาวถูกก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าแบคฮยอน ถ้วยไอศกรีมที่เมื่อสักครู่อยู่ในมือของแบคฮยอนบัดนี้กลับกลายไปอยู่ในมือของชานยอลเสียแล้วทำเอาแบคฮยอนต้องมุ่ยหน้าอย่างขัดใจ

     

    “ชานยอลเอาคืนมาเดี๋ยวนี้” แบคฮยอนด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจก่อนจะยื่นมือไปคว้าด้วยไอศกรีมถ้วยเดิมมาถือ แต่คนตัวสูงมือไวกว่าเอาถ้วยไอศกรีมหลบไปก่อนแบคฮยอนจะคว้าทัน

     

    “ห้ามกินเข้าใจไหมไม่สบายอยู่แบบนี้เนี่ย” แบคฮยอนเริ่มหน้าหงิกกว่าเดิมเมื่อถูกชานยอลขัดใจเข้าให้

     

    “แบคฮยอนแค่ปวดหัวมีไข้นิดเดียวเองทำไมต้องห้ามด้วยล่ะเอาคืนมาเลย” แบคฮยอนยังคงพยายามไปคว้าแบบเดิมแต่ก็ไม่ได้อยู่ดี จนแบคฮยอนเริ่มหมดความอดทนก่อนยืนจ้องชานยอลตาเขม็ง

     

    “ไม่ต้องมาทำสายตาแบบนี้ยังไงก็ไม่ให้กิน” ชานยอลบอกเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าห้องครัวเอาถ้วยไอศกรีมไปโยนลงถังขยะสร้างความไม่พอใจให้แบคฮยอนอย่างมาก

     

    “ไอ้คนใจร้าย!” แบคฮยอนตะโกนด้วยเสียแหบๆ ใส่ชานยอลก่อนจะสะบัดหน้าหนีเดินมานั่งในห้องนั่งเล่นก่อนจะเปิดทีวีดูแก้หงุดหงิด เพราะทำอะไรก็ไม่ได้ดังใจเลย

     

    คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาพลางทำปากขมุบขมิบบ่นไปมาไม่หยุด ก่อนหางตาจะหันไปชำเลืองเห็นคนตัวสูงกำลังเดินเข้ามาทางนี้เล่นเอาแบคฮยอนหน้ามุ่ยกว่าเดิมเพราะตอนนี้งอนอยู่ไม่อยากเห็นหน้าคนใจร้าย

     

    ชานยอลที่เดินมาทิ้งตัวนั่งข้างแบคฮยอน ก่อนแบคฮยอนจะกระเขยิบหนีไปนั่งที่อื่นแต่ก็ถูกลำแขนของชานยอลคว้าเอวให้นั่งข้างตัวไว้ทัน แบคฮยอนตั้งท่าจะดิ้นให้ปล่อยแต่ก็ถูกคนตัวสูงกอดซะแน่นทำเอากระดุกกระดิกตัวไม่ได้เลย

     

    “ปล่อยเดี๋ยวนี้ไม่ต้องมาจับ” แบคฮยอนว่าด้วยเสียงงอนๆ ก่อนจะหันหน้าหนี

     

    “งอนอะไรชานยอลอีกล่ะไอ้ดื้อ มาง้อแล้วนี่ไง” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ ก่อนจะฟุบหน้าลงไปตรงซอกคอแบคฮยอน จมูกถูกฝังลงบนคอขาวแบคฮยอนเริ่มรับรู้ถึงลมหายใจร้อนๆ บริเวณลำคอทำเอาช่วงลำคอแบคฮยอนถึงกับขนลุกกันเลยทีเดียว

     

    “ปล่อยไม่ต้องมาจับไปไกลๆเลยคนใจร้าย” แบคฮยอนหดคอหนีจมูกชานยอลที่ยังคงพยายามเข้ามาฝังที่คอเค้า เผลอไม่ได้เป็นอันต้องทำแบบนี้ตลอด

     

    “หายโกรธนะ” ชานยอลยังคงอ้อนแบคฮยอนอยู่

     

    “ไม่” สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง

     

    “นะ”

     

    “ไม่”

     

    “ถ้าไม่หายจะไม่ง้อแล้วนะ” ชานยอลแกล้งพูดใส่คนตัวเล็ก

     

    ……” แบคฮยอนก็ยังคงเงียบไม่ตอบคนตัวสูงที่นั่งง้ออยู่ข้างๆ ซักที

     

    “แบคฮยอน” ชานยอลเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเรียบใส่แบคฮยอนอีกตามเคยแต่แบคฮยอนก็ยังคงเงียบทำเป็นไม่สนใจ

     

    “จะหายงอนได้รึยัง” ชานยอลยังคงถามอีกรอบ

     

    แบคฮยอนต้องหันมาชำเลืองมองชานยอลอีกตามเคยแต่ก็สะบัดหน้าหนีไม่สนใจเหมือนเช่นเดิม

     

    “ถ้ายังไม่หายจะไม่ง้อแล้วนะ” ชานยอลพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะปล่อยมืออกจากเอวแบคฮยอนแล้วเดินหนีไปทันทีทำเอาแบคฮยอนน้ำตาซึมเพราะความน้อยใจ

     

    “ไอ้คนใจร้ายง้อกันหน่อยก็ไม่ได้ ฮึกกกก...” แบคฮยอนที่สะอื้นออกมาเพราะความน้อยใจที่ชานยอลไม่สนใจเค้าเลยก่อนตัวเองจะลุกเข้าห้องนอนไปทันที

     

    จากเสื้อผ้าชุดนอนตอนนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นชุดออกไปข้างนอกเสียแล้ว เหล่าเมมเบอร์ที่ต่างคนต่างอยู่ในห้องทำกิจกรรมยามว่างของตัวเองกันทำเอาแบคฮยอนเบาใจที่ไม่เจอสมาชิกเมมเบอร์คนอื่นนั่งอยู่ตรงทางด้านนอกไม่งั้นมีหวังออกไปข้างนอกไม่ได้แน่ๆ

    แบคฮยอนหยิบรองเท้าผ้าใบมาเลือกสวมให้เข้าชุดก่อนจะเดินออกไปเที่ยวอย่างไม่สนใจใคร

     

    เหล่าเมมเบอร์ที่ต่างมารวมตัวกันเล่นเกมส์ที่ห้องของดีโอและไคจนเวลาล่วงเลยไปจนเย็นแล้วทำเอามักเน่เซฮุนบ่นหิวข้าวทำให้ทุกคนจึงต้องหยุดชะงักการเล่นเกมส์ไว้ ก่อนจะชวนกันออกมาโทรสั่งอาหารกินกัน

     

    “ใครจะกินอะไรจดมาเดี๋ยวจะโทรไปสั่ง” รุ่นพี่ซูโฮเอ่ยปากถามน้องๆก่อนจะยื่นสมุดและกระดาษไปให้จดเมนูอาหารที่อยากจะกินกัน

     

    ซูโฮพลางหันมองหาน้องชายอีกคนที่ไม่สบายแต่ก็ไม่เจอ เลยสั่งให้ชานยอลไปเรียกแบคฮยอนที่อาจจะนอนหลับอยู่ในห้อง ทำให้ชานยอลต้องเดินไปตามคนตัวเล็กมากินข้าว

     

    ชานยอลที่เปิดประตูห้องเข้าไปก็ไม่พบเจอกับคนตัวเล็กอย่างที่เค้าคิดไว้ก็ต้องขมวดคิ้วเพราะคนตัวเล็กที่เค้าแกล้งไม่ง้อเมื่อกี้นั้นหายไป

     

    “แบคฮยอนล่ะ” ซูโฮหันมาถามชานยอลเพราะไม่เห็นแบคฮยอนเดินตามมา

     

    “แบคฮยอนอยู่ในห้องใครรึเปล่า” ชานยอลรีบหันไปถามเมมเบอร์ที่เหลือ

     

    “ก็พวกเรานั่งเล่นเกมส์อยู่ในห้องกันแค่ห้าคนยกเว้นแค่พี่แบคฮยอน ในห้องพวกผมก็ไม่มี” เซฮุนมาบอกชานยอลเพราะว่าในห้องนอนของเค้ากับพี่ซูโฮไม่มีคนอยู่เลย ส่วนห้องของไคกับดีโอก็พึ่งนั่งเล่นเกมส์ไปเมื่อกี้ไม่มีทางที่แบคฮยอนจะอยู่ในห้องนั้นแน่นอน

     

    เมื่อชานยอลได้ยินที่น้องเล็กบอกแบบนั้นก็รีบเดินไปคว้าโทรศัพท์ของตัวเองที่วางทิ้งอยู่ในห้องแล้วกดเบอร์โทรออกหาคนตัวเล็กทันที เสียงรอสายยังต่อเนื่องอยู่หลายสายแต่ก็ไม่มีใครกดรับสักที
     

    “นายหยุดโทรได้แล้วชานยอลเดี๋ยวพี่จัดการเอง” ซูโฮหยิบไอโฟนคู่ใจของตัวเองขึ้นมาก่อนจะกดเบอร์โทรหาน้องในวงทันที

     

    แบคฮยอนที่นั่งอยู่ในสวนไม่ไกลจากที่พักมากนักนั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะเม้มปากแน่นเพราะเบอร์โทรของชานยอลที่โทรเข้ามาจนนับไม่ถ้วน เค้าไม่อยากรับสายชานยอลเพราะกลัวจะถูกดุอีก เลยไม่สนใจที่จะรับมัน แต่สักพักโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมาอีกจนแบคฮยอนตกใจเพราะเป็นเบอร์พี่ซูโฮโทรเข้ามามันทำให้แบคฮยอนต้องกดรับสายอย่างเลี่ยงไม่ได้

     

    “แบคฮยอนนายอยู่ไหน”เมื่อคนปลายสายกดรับซูโฮก็รีบถามออกมาทันที

     

    “ผมอยู่แถวนี้ครับพี่เดี๋ยวกลับ”แบคฮยอนรีบเอ่ยบอกพี่ซูโฮก่อนจะเป็นห่วงเค้ามากไปกว่านี้

     

    “นายนี่ก็ยิ่งไม่สบายอยู่ยังจะออกไปเที่ยวเล่นอีก” ซูโฮอดไม่ได้ที่จะดุรุ่นน้องในวงที่ไม่ยอมดูแลตัวเอง

     

    “ขอโทษครับพี่ผมจะรีบกลับนะ”

     

    ซูโฮยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อชานยอลก็คว้าเอาโทรศัพท์มาพูดต่อทันที

     

    “แบคฮยอน!!” ชานยอลตวาดไปตามสายโทรศัพท์หวังจะต่อว่าคนตัวเล็กที่ไม่ยอมรับสายโทรศัพท์ของเค้า

     

    “แบคฮยอนหายไปไหนทำไมไม่บอก โทรไปก็ไม่รับทำไมดื้อแบบนี้ห๊ะ” ชานยอลร่ายยาวเป็นชุดเพื่อดุคนตัวเล็ก

     

    “ไม่ต้องโทรมาว่ากันเลย ถ้าไม่อยากง้อกันก็ไปไกลๆเลย คนใจร้าย ฮึก” แบคฮยอนสะอื้นใส่คนปลายสายก่อนจะกดตัดสายทิ้งทันทีทำเอาชานยอลไม่พอใจหนักกว่าเดิม

     

    “แบคฮยอนอย่าวางสายหนีแบบนี้สิ แบคฮยอน!” ชานยอลตวาดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเมื่อแบคฮยอนตัดสายทิ้งไปทำเอาชานยอลไม่พอใจที่แบคฮยอนทำแบบนี้

     

    “ชานยอลนายจะไปตวาดแบคฮยอนทำไมนายก็รู้ว่าแบคฮยอนไม่สบายอยู่” ซูโฮเอ็ดชานยอลเข้าให้

     

    “พี่ก็ดูแบคฮยอนสิ ดื้อไม่มีใครเกิน”

     

    “ก็คนป่วยชอบเอาแต่ใจแบบนี้แหละ ชอบให้คนดูแล นายไม่รู้หรือไง”

     

    “แต่แบคฮยอนดื้อไม่ฟังผมเลยนะเนี่ย ห้ามอะไรก็ไม่เคยจะฟัง”

     

    “แล้วตอนนายป่วยนายอยากให้แบคฮยอนดูแลรึเปล่า หรือว่าตอนนายป่วยนายไม่ชอบอ้อนแบคฮยอนไหนบอกมาสิ”

     

    ชานยอลยืนเงียบคอยฟังสิ่งที่พี่ซูโฮพูดอย่างเงียบๆ ซึ่งมันก็จริงคนป่วยมักจะเดาอารมณ์ยากที่สุดเพราะช่วงอารมณ์ที่ไม่เหมือนกัน คนป่วยมักชอบที่จะอ้อนและชอบให้คนเอาใจเวลานั้นมากสุด เพราะขนาดตัวเค้าเองยังเป็น เมื่อคิดได้ดังนั้นชานยอลก็รีบกดเบอร์โทรออกหาคนตัวเล็กเหมือนเดิม แต่รู้ทั้งรู้ว่าโทรไปปลายสายก็ไม่กดรับอยู่ดี

     




     

    เวลาล่วงเลยผ่านไปจนเย็นเสียงกดกริ่งหน้าประตูห้องก็ดังขึ้นทำเอาชานยอลรีบวิ่งไปเปิดประตูทันทีเผื่อจะเป็นแบคฮยอนกลับมา ก่อนจะพบเจอกับคุณลุงเจ้าของหอกำลังพยายามหิ้วปีกของแบคฮยอนขึ้นมาส่งถึงห้อง

     

    “แบคฮยอน” ชานยอลรีบเข้าไปประคองคนตัวเล็กที่เหมือนจะหมดแรง

     

    “ลุงเห็นเจ้าหนูนี่เหมือนจะเป็นลมอยู่หน้าหอก็เลยช่วยมาส่ง” คุณลุงหันมาบอกชานยอลก่อนจะส่งตัวให้ชานยอล โดยชานยอลไม่ลืมที่จะก้มหัวขอบคุณคุณลุง แล้วรีบประคองแบคฮยอนเข้ามาในห้อง

     

    “ไม่ต้องมาจับ” แบคฮยอนทำท่าจะสะบัดออกแต่ชานยอลก็ยังคงจับไว้อยู่แบบนั้น

    “แบคฮยอนไม่ต้องมาดื้อเลย แรงก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว” ชานยอลเอ็ดคนตัวเล็กไปอีกทีก่อนจะพาแบคฮยอนเข้ามานอนอยู่ในห้องนอน แล้วจับแบคฮยอนเปลี่ยนใส่ชุดนอนทันที

     

    “ออกไปไกลๆ เลยไม่ต้องมายุ่งทำเองได้” แบคฮยอนตั้งท่าจะผลักชานยอลแต่ถูกชานยอลรวบมือไว้อยู่ดี

     

    “ทำไมดื้อจังนะแบคฮยอน” ชานยอลเริ่มพูดเสียงอ่อน ก่อนจะปล่อยมือคนตัวเล็กแล้วจับคนตัวเล็กใส่ชุดนอนก่อนจะพาคนตัวเล็กไปนอนบนเตียงเพื่อพักผ่อน

     

    “นอนพักซะแบคฮยอน เดี๋ยวจะไปทำข้าวต้มให้กินเข้าใจไหม” ชานยอลพูดดพลางเอามือลูบหัวก่อนจะจูบลงที่ขมับคนตัวเล็กแล้วลุกออกมานอกห้องนอนเพื่อไปทำข้าวต้มอย่างที่บอกคนตัวเล็กไว้

     

    แบคฮยอนงัวเงียลุกขึ้นมานั่งพิงอยู่ตรงหัวเตียงพลางมีคนตัวสูงนั่งป้อนข้าวต้มทีละคำอยู่ไม่ห่าง แต่แบคฮยอนกินไปได้นิดเดียวเท่านั้นก็ถึงกับอิ่ม ก่อนใช้มือจับที่ข้อมือของชานยอลแล้วดันช้อนออกไป

     

    “กินอีกหน่อยนะแบคฮยอนอา” ชานยอลใช้น้ำเสียงอ้อนเพื่อกล่อมคนตัวเล็กทานข้าวต้มอีกแต่แบคฮยอนก็ส่ายหน้าปฎิเสธ

     

    “อิ่มแล้วอยากนอน” แบคฮยอนพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะตั้งท่าล้มตัวนอนต่อแต่ก็ถูกชานยอลจับให้นั่งไว้อยู่

     

    “ทานยาก่อนนอนด้วยแบคฮยอน” ชานยอลยื่นเม็ดยาสีขาวให้แบคฮยอนแต่แบคฮยอนก็ส่ายหน้าเพราะไม่อยากกิน

     

    “ไม่เอาจะนอนแล้วปวดหัว” แบคฮยอนยู่หน้าอย่างขัดใจก่อนจะล้มตัวลงนอนทันที

     

    “แบคฮยอนถ้าไม่กินจะหายไหม อย่าดื้อสิ” แบคฮยอนก็ยังคงเอาแต่นอนนิ่งไม่สนใจสิ่งที่ชานยอลพูดเลยสักนิดก่อนจะหลับลึกลงไปในที่สุด

     

    ชานยอลได้แต่ถอนหายใจเพราะคนตัวเล็กนี่ไม่ยอมฟังเค้าเลย บอกให้กินข้าวก็ไม่กิน ให้ทานยาก็ไม่ทาน ไม่มีใครดื้อเกินแบคฮยอนของเค้าได้เลยจริงๆ

     

    ชานยอลได้แต่หยิบหมอนของตัวเองออกมาจากห้องนอนก่อนจะมีลีดเดอร์ประจำวงหยิบยื่นนำผ้าห่มมาให้ใช้เพราะกลัวน้องจะนอนหนาวอยู่ข้างนอกอยู่คนเดียวแล้วเดินจากเข้าห้องไปนอนอย่างเงียบๆ อย่างน้อยลีดเดอร์วงนี้ก็มีน้ำใจละนะ

     




     

    ตกดึกคืนนั้นแบคฮยอนที่นอนอยู่ก็ตื่นขึ้นมาเพราะอาการหนาวๆ ร้อนๆ ของคนเป็นไข้ ก่อนจะขยับตัวหวังจะเรียกชานยอลที่นอนอยู่ข้างๆ แต่ก็ไม่เจอ เพราะพึ่งคิดไว้ว่าชานยอลนอนอยู่ข้างนอก

     

    แบคฮยอนเดินออกไปนอกห้องก้าวขาเดินไปทางโซฟาหวังจะไปหาชานยอล ก่อนจะเพ่งสายตาในความมืดก็เห็นชานยอลที่นอนหลับอยู่

     

    ไอร้อนที่ถูกส่งผ่านมาทำเอาชานยอลสะดุ้งขึ้นมาดู ก็เจอกับคนตัวเล็กที่สมควรนอนอยู่ในห้อง แต่ว่าตอนนี้กลับมานอนเบียดอยู่ที่โซฟาด้านนอก

     

    หัวของแบคฮยอนมาหนุนอยู่ที่แขนของผม จมูกรั้นๆ ของคนตัวเล็กนั้นก็ฝังอยู่ตรงอกแถมมือของคนตัวเล็กตรงหน้านี้ยังพาดกอดเอวผมไว้แน่น ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นแต่มันติดอยู่ตรงที่ผมถอดเสื้อนอนอยู่แล้วจมูกรั้นๆ นั้นมาฝังอยู่ตรงอกโดยไม่เสื้อผ้ามาขวางกั้น แถมมือที่กอดเอวผมไว้แน่น ทำเอาผมสัมผัสได้ถึงไอร้อนของคนตัวเล็ก จนผมอดจะเป็นห่วงไม่ได้

     

    “แบคฮยอน” ผมสะกิดคนที่นอนกอดผมแน่น
     

    “ชานยอลอา หนาว” แบคฮยอนออกแรงกอดให้กระชับขึ้นกว่าเดิมเมื่อบอกว่าหนาวจนชานยอลต้องดึงคนตัวเล็กมากอดแน่นๆให้คนตัวเล็กรู้สึกร้อน

     

    “ไปนอนในห้องดีๆ ข้างนอกมันหนาว” ไม่พูดเปล่าชานยอลลุกขึ้นมาจากโซฟาก่อนจะอุ้มแบคฮยอนให้กลับไปนอนในห้องดังเดิม

     

    “ยอลอา”แบคฮยอนพึมพำออกมาเบาๆก่อนจะควานมือหาตัวชานยอลมากอด เมื่อชานยอลเห็นดังนั้นก็รีบคว้ามือแบคฮยอนให้ลงข้างตัวดังเดิมก่อนจะล้มตัวลงนอนกอดแบคฮยอนอยู่บนเตียง

     

    ลำตัวแบคฮยอนที่ยิ่งสัมผัสโดนตัวทำให้รับรู้ถึงอาการร้อนๆ หนาวๆ ของคนเป็นไข้ทำเอาชานยอลอดเป็นห่วงไม่ได้

     

    “ชานยอลอา” สายตาเยิ้มๆของคนเป็นไข้กำลังเรียกและมองมาทำเอาคนถูกเรียกรีบหันมาดูอาการอย่างเป็นห่วง

     

    “ว่าไง หืม” ชานยอลใช้มือข้างนึงที่กอดเอวเลื่อนมาประคองใบหน้าหวานนั้นให้หันมาสบตาตนเอง

     

    “หนาว” แบคฮยอนเอ่ยด้วยสียงสั่นๆ

     

    “ไหวไหม หรือจะเช็ดตัว” ฝ่ามือที่ประคองข้างแก้มแบคฮยอนไว้ ชานยอลใช้นิ้วเรียวของตัวเองลูบๆใบหน้าแบคฮยอนด้วยความอ่อนโยน

     

    แบคฮยอนส่ายหัวแทนคำตอบก่อนจะกอดชานยอลแล้วซุกหน้าลงไปอย่างแน่น

     

    “ยอลอา” น้ำเสียงหวานเอ่ยเรียกคนรักอีกครั้งก่อนที่เรียวปากเรียวบางนั้นจะฉกชิมริมฝีปากของคนตัวสูงอย่างไม่ทันตั้งตัว

     

    “ช่วยเค้าหน่อย อยากร้อน”คนตัวเล็กละริมฝีปากออกมาอีกทีก่อนจะกดจูบลงไปบนปากคนตัวสูงนั้นอีกรอบ

    ชานยอลไม่รอช้ารีบกดจูบกลับบนปากเรียวเล็กนั้น มือที่ใช้ประคองถูกจับไว้ไม่ให้คนตัวเล็กหันหนีไปไหน เพราะถ้ายั่วมาขนาดนี้ตัวเค้าคงไม่หยุดง่ายๆ แน่

     

    “ยอลอา  อื้ออออ” เสียงครางของแบคฮยอนถูกปล่อยครางออกมาเมื่อชานยอลละริมฝีปากออกก่อนจะกดจูบลงไปใหม่ย้ำๆเพื่อกระตุ้นคนตัวเล็กเรื่อยๆ

     

    จากคนที่หมดแรงเพราะพิษไข้ ยิ่งแทบไม่ได้สติแม้แต่จะขยับตัวเพราะร่างกายที่โดนกระตุ้นอย่างหนักทำเอาแบคฮยอนถึงกับอ่อนแรงเมื่อเจอชานยอลกระตุ้นแบบนี้เข้าใส่

     

    ฝ่ามือหนาเริ่มไล้ลงไปประคองอยู่ที่เอวบาง มือหนาบีบสะโพกอย่างเอาแต่ใจก่อนจะใช้นิ้วเริ่มเกี่ยวขอบกางเกงนอนให้หลุดไปจากขาเรียวเล็กนั้น หลงเหลือแต่ชั้นในตัวบาง ริมฝีปากที่ยังคงประคองจูบอย่างเอาแต่ใจ มือที่ปลดกางเกงเมื่อสักครู่ยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดี ฝ่ามือของชานยอลยังคงลูบขาเรียวเล็กอย่างตามใจตัวเองก่อนจะค่อยเลื่อนมือจากหน้าขาขึ้นมาสัมผัสตรงเอวคอดนั่นแล้วเริ่มไล้ขึ้นไปสัมผัสกับสิ่งที่อยู่ด้านบน

     

    “อื้ออออออ” เสียงครางยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เพราะสัมผัสของชานยอลในแต่ละครั้งทำเอาแบคฮยอนแทบคลั่ง

     

    “ยอลอาเค้าหนาว” แบคฮยอนยังคงงร้องบอกอาการหนาวของตัวเองอย่างไม่หยุด

     

    “กำลังจะทำให้หายหนาวแล้วนี่ไงครับ”





    *ฉากไม่เหมาะสม*






    แปะเมลทิ้งไว้เดี๋ยวจะส่งไปให้นะคะ 

    เป็นฟิคสั้นเรื่องแรก ฝากเม้นติชมกันด้วยนะคะ <3















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×