ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหนี้สุดป่วนกับลูกหนี้ตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #9 : มารยา!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 617
      1
      12 พ.ค. 48

    เจ้าหนี้สุดป่วนกับลูกหนี้ตัวแสบ chapter 9



    ร่างระหงพริ้มตาหลับใหลอยู่บนเตียงนอนกว้าง ตลอดทั้งร่างถูกปิดคลุมด้วยผ้านวมสีฝ้าอ่อน ใบหน้างดงามนั้นถูกจับจ้องด้วยสายตาของบุรุษนามคุโรโร่ ลูซิเฟอร์ที่บัดนี้หัวคิ้วยังคงผูกเป็นปม ไม่มีวี่แววว่าจะคลาย ก็จะคลายได้อย่างไรเล่าเมื่อสาวน้อยไม่ยอมตื่นซักที



    ชายหนุ่มยื่นมือไปปัดไรผมสีทองพิสุทธิ์ออกจากดวงหน้านั้นอย่างเบามือ ไม่ว่ายามหลับหรือยามตื่นหญิงสาวก็งามเย้ายวนนัก



    “อือ..” ปากบางเผยอออกพร้อมเสียงครางเบาๆ แพขนตาหนาขยับช้าๆเป็นสัญญาณว่ารู้สึกตัวแล้ว



    “ตื่นแล้วหรอ...” น้ำเสียงทุ้มนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย



    “อืม มึนจังเลย” น้ำเสียงหวานเอ่ย สีหน้ายังคงซีดอยู่



    “เมื่อคืนดื่มเหล้าไปเยอะละซิ” คุโรโร่ทำหน้าดุ “มันน่าจับตีมั้ยละ”



    “ก็...” คนถูกดุกัดปาก ทำหน้างอง้ำ “ดื่มเพราะใครละ”



    อีกฝ่ายได้แต่ถอนหายใจ ยอมเป็นผู้แพ้แต่โดยดี



    “แล้วนี้กี่โมงแล้วทำไมไม่ไปทำงานอีก” จู่จู่คุราปิก้าก็ร้องขึ้น



    “เที่ยงแล้วละ ก็อยากอยู่ใกล้ๆคุราจังนี่นา”



    “........”



    “โกรธหรอ” ชายหนุ่มถาม



    “เปล่า….ใครจะกล้าโกรธคุณคุโรโร่ละค่ะ” คุราปิก้าพูดด้วยน้ำเสียงกึ่งประชด



    “ขอโทษ..ฉันขอโทษ”



    “ขอโทษอะไร ไม่เห็นจำเป็นเลย”



    “ยังไม่หายโกรธหรอ”



    “ไปทำงานได้แล้วไป๊” คุราปิก้าออกปากไล่



    “ไม่อยากให้ฉันอยู่ใกล้ขนาดนั้นเลยหรอ” คราวนี้คุโรโร่เป็นฝ่ายงอนบ้าง



    “เปล่าซักหน่อย...ก็แค่ไม่อยากให้คุโรโร่มาเสียงาน”



    “แล้วคุราจังหายโกรธฉันรึยังละ”



    “.หายดีมั้ยละ” ทำหน้าน่ารักใส่ทีนึงก่อนจะลุกขึ้น



    “หายซิ แล้วจะไปไหนน่ะ”



    “อาบน้ำซิ” หญิงสาวเอียงคอตอบ



    “อาบด้วย”



    “บ้า!!” หญิงสาวด่าหน้าแดงวิ่งเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้อีกฝ่ายนั่งรออยู่ด้านนอก



    ซักครู่ก็ออกมา



    “อ้าว! ยังไม่ไปทำงานอีกหรอ” คุราปิกาถาม



    “วันนี้วันเสาร์” คุโรโร่บอก ทำเอาหญิงสาวหน้าแตก



    “แล้วก็ไม่บอกแต่แรก” คุราปิก้ายังวางมาดต่อ



    “หายโกรธนะ” คุโรโร่กอดร่างบางจากด้านหลัง สูดกลิ่นหอมจากเรือนผมสีทองนุ่มประดุจใยไหม



    “ไม่รุ ... ไปทานข้าวดีกว่า” ว่าแล้วก็ดิ้นออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่าย วิ่งออกนอกห้องไปทันที ...

    เสือร้ายที่เก่งต่อหน้าใครต่อใคร ตอนนี้กลับกลายเป็นแมวเหมียวที่ต้องคอยทำตาละห้อยง้อเจ้าของเสียแล้ว....



    “ทานข้าวเที่ยงรึยังละ” คุราปิก้าถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินตามมา



    “คุณหนูยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้าเลยค่ะ เฝ้าคุณคุราปิก้าอยู่” ป้ายูยะตอบแทนให้



    “เดี๋ยวก็เป็นกระเพาะตายหรอก นั่งลงเร็วๆ”



    “คุราจังหายโกรธแล้วใช่มั้ย”



    “หายก็ได้”



    ...ที่จริงก็ไม่ได้คิดจะโกรธหรอกแค่อยากรู้ว่านายเป็นห่วงฉันมั่งรึเปล่า...เท่านั้นเอง...



    ……………………. …………



    นับจากวันนั้นเวลาล่วงมาร่วมอาทิตย์ คลื่นลมสงบตลอด ไร้วี่แววของมรสุมใดใด



    ชายหนุ่มมาทำงานปกติ รวมทั้งพ่วงคนที่บ้านมาด้วย



    ขณะที่คุโรโร่นั่งทำงานอยู่จู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดัง



    “สวัสดีครับ” เจ้าของเครื่องพูดทักทายอย่างสุภาพ



    “คุโระ นี่ลิเลียเองนะค่ะ คุณออกมาพบฉันที่ด้านล่างหน่อยได้มั้ย” เสียงหวานเจื้อยเเจ้วมาทันที



    “อืม....” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิด



    หญิงสาวคะเนว่าอีกฝ่ายคงเตรียมปฏิเสธเลยรีบรวดรัด  “ฉันมีธุระกับคุณนิดหน่อย ฉันรออยู่ที่หน้าประชาสัมพันธ์นะค่ะ”  หลังสนทนาจบปลายสายก็วางไป ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะ สีหน้าปรากฏเค้าความสงสัย ลิเลียมีธุระอะไรกับเขาหรือ



    “ไปไหนหรอ...” หญิงสาวอีกคนที่อยู่ในห้องละหน้าจากหนังสือภาษาต่างประเทศถาม



    “มีแขกมาพบข้างล่าง เดี๋ยวมานะ” คุโรโร่ยิ้มบางๆให้ก่อนเดินออกไป



    คุราปิก้ายิ้มตอบ  เมื่ออีกฝ่ายออกจากห้องไปก็ก้มลงอ่านหนังสือต่อ



    ซักพักสาวน้อยคนสวยก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองประตูอีกครั้ง เธอจ้องร่างนั้นนิ่งอย่างตกใจ เมื่อคนที่เข้ามาคืออดีตคนรักเก่าของคุโรโร่...ลิเลียนั่นเอง!



    “สวัสดีค่ะ” คุราปิก้าทักทายอย่างเก้ๆกังๆ รู้สึกว่าบรรยากาศในห้องอึดอัดขึ้นทันตา



    “อืม...เธอเป็นอะไรกับคุโรโร่หรอ” ดวงตากลมโตสีดำนั้นสำรวจดูอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า



    “เอ่อ....” คุราปิก้าก็ยังไม่แน่ใจฐานะของตัวเองซักเท่าไหร่ ถ้าจะบอกว่าคนรักก็กลัวเป็นการคิดเข้าข้างตัวเองเกินไปเพราะฝ่ายชายเองก็ยังไม่เคยบอกว่ารักตนซักคำ



    “เธอคิดว่าน้ำหน้าอย่างเธอจะทำให้คุโระของฉันรักได้งั้นหรอ ฉันจะบอกเธอไว้นะคุโระน่ะ เค้าชอบผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่ เก่ง แล้วก็ฉลาด” ลิเลียเหยียดยิ้มอย่างสะใจเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของเด็กสาวก่อนกล่าวว่า “ซึ่งฉันคิดว่าตัวเธอคงไม่มีคุณสมบัติเหล่านั้นหรอกนะ..เธอคงเป็นได้แค่ของเล่นละมั้ง อืม..คุโระขี้เบื่อด้วยซิ ไม่นานเค้าคงเขี่ยเธอทิ้ง หนี้สินร้อยล้านของพ่อเธอคุโระเค้าคงไม่เสียดายหรอก”



    “พูดอะไรของคุณ” คุราปิก้าถามน้ำเสียงสั่น ทุกคำพูดของผู้หญิงตรงหน้าจี้ใจดำเธอที่สุด



    “ก็ฉันพูดความจริง เธอไปเสียเถอะ ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย ทำไมคุโระมายุ่งกับเธอได้นะ”

    ผู้หญิงที่เคยชื่นชมว่าสวยงาม บัดนี้กลับกลายเป็นนางแม่มดไปแล้ว ในเมื่อมาด่ากันแบบนี้ใครจะยอมได้



    “หุบปากได้แล้ว! ของเก่าอย่างคุณใครจะสนใจละ” เด็กสาวที่ถูกทำร้ายด้วยคำพูดมาตลอดเอาคืนบ้าง แต่เด็กสาวอย่างเธอจะทันเล่ห์เหลี่ยมแม่มดร้ายได้ฤา ตั้งแต่คุราปิก้าเริ่มตั้งท่าจะด่าลิเลียก็แอบกดมือถือถึงคุโรโร่แล้ว ฝ่ายชายหนุ่มจึงทันได้ยินคำด่าที่เป็นเสียงของเด็กสาวพอดี



    เพียะ!! ฝ่ามือของลิเลียประทับเข้าเต็มแก้มนวลของคุราปิก้า แต่ปากฝ่ายที่ลงมือตบคนอื่นกลับร้องว่า



    “เธอตบฉันทำไมนะ คุราปิก้า”



    “ว่าไงนะ!! อยากโดนใช่มั้ย เดี๋ยวฉันสนองให้” คุราปิก้าที่เซไปเพราะแรงตบเมื่อครู่ หันกลับมา



    “ฉันแค่มาพบคุโระเฉยๆ ไม่ได้มีเจตนาอื่นจริงๆ เราเป็นเพื่อนกัน เธออย่าเข้าใจผิดซิ” ลิเลียพยายามทำเสียงน่าสงสาร เด็กสาวงุนงงกับการกระทำของอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ผู้หญิงคนนี้เป็นบ้ารึเปล่า

    ระหว่างที่คุราปิก้ากำลังอึ้ง ฝ่ามือที่สองก็ประทับเต็มแก้มเธออีกครั้ง



    “โอ๊ย เจ็บนะคุราปิก้า” แต่ฝ่ายที่ร้องเป็นลิเลียอีกแล้ว



    “อะไรของคุณห๊ะ!!” เด็กสาวโมโหเต็มที่ ฝ่ามือครั้งที่สองแรงพอที่ทำให้เธอได้รสเลือดในปาก

    คุราปิก้าเงื้อมือเตรียมตบลิเลียคืนบ้าง



    “หยุดนะ!!” คุโรโร่เข้ามาดึงร่างคุราปิก้าจากด้านหลัง



    “เธอทำบ้าอะไรของเธอ” คุโรโร่ตะคอกเสียงดัง หน้าตาดุดันน่ากลัว



    ลิเลียแสร้งเอามือจับแก้ม บีบน้ำตาหลบหลังชายหนุ่ม



    “ขอโทษลิเลียซะ” ชายหนุ่มพูดด้วยอารมณ์โกรธโดยไม่ได้เหลือบดูใบหน้าอีกฝ่ายแม้แต่น้อย



    “แต่!...”



    “ไม่มีแต่! เธอเป็นบ้าอะไรห๊ะคุราปิก้า อยู่ๆก็ลงไม้ลงมือกับลิเลีย” เสียงที่เคยนุ่มกร้าวแข็ง เต็มไปด้วยโทสะ

    คุราปิก้าจ้องใบหน้าของคนที่ตะคอกใส่นิ่ง ความน้อยใจพร่างพรูเข้าใส่จนตั้งรับไม่ทัน



    “ใช่ซิ ฉันมันบ้า” ตอนนี้ภาพของเขาพร่าเลือนหมดแล้ว ดวงตาสีชาสวยเต็มไปด้วยน้ำที่ก่อตัวขึ้น เจ็บกายไม่เท่าเจ็บใจ ร่างบางถลันออกไปทันที



    ...เธอต่างหากที่โดนทำร้าย เธอต่างหากที่เป็นฝ่ายเจ็บ...



    ชายหนุ่มแทบจะวิ่งตามออกไปทันทีเมื่อเห็นอาการนั้น แต่ก็ต้องสะกดใจไว้



    เจ้าของบริษัทคนนี้ฉลาดมาทั้งชีวิตแต่กลับมาโง่เอาวันนี้เอง!!



    “ลิเลียเป็นอะไรรึเปล่า”  คุโรโร่พยายามปรับน้ำเสียงให้เหมือนเดิม



    “ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แต่คุณไม่ตามคุราปิก้าไปหรือค่ะ เธอยังเด็กอาจทำอะไรไปโดยไม่คิด” แม้นสีหน้าที่แสดงออกมานั้นเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ แต่ภายใต้หน้ากากแม่พระกลับเป็นใบหน้าที่สะใจสุดๆของแม่มดร้าย



    “ผมขอโทษแทนคุราปิก้าด้วยนะ เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณที่คอนโดเอง” ชายหนุ่มพูดด้วยใบหน้าเครียดขรึม เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุราปิกก้าที่เป็นเด็กดีมาตลอด แม้บางครั้งจะออกอาการดื้อหรือเอาแต่ใจบ้างก็ไม่น่าจะทำถึงขนาดนี้ กลับไปคงต้องลงโทษกันหน่อย



    ระหว่างทางจากบริษัทถึงคอนโดมิเนียมหรูชานเมือง หญิงสาวและชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยปากพูดจากันแม้ซักคำเดียว



    คุโรโร่เดินมาส่งลิเลียจนถึงห้อง



    “เข้ามานั่งด้านในก่อนซิค่ะ” เธอทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี แต่อีกฝ่ายก็ปฏิเสธทันควัน



    “ไม่ละ…คุณแน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร”



    “ค่ะ แสบๆนิดหน่อยแต่ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ”



    “งั้นผมขอตัวกลับก่อนหละ แล้วเรื่องคุราปิก้าผมจะจัดการให้คุณเอง”



    “คุราปิก้ายังเด็กอยู่ อย่าไปว่าอะไรแกรุนแรงเลย สงสารแกน่ะค่ะ”



    “อืม...” ชายหนุ่มรับคำสั้นๆแล้วก็เดินออกมา หากเขาเหลียวหลังกลับไปมองซักนิดคงจะเห็นรอยยิ้มอย่างชั่วร้ายบนใบหน้าของหญิงงามนามลิเลียเป็นแน่



    ....................................TOOOO BEEEEEE CoNNNNNNN……………………………





    ขอบคุณค่ะที่ตามอ่าน เม้นๆกันหน่อยน๊าจะได้มีกำลังใจแต่งตอนต่อไปไง ว่าแต่อีตาคุโระ นี่โง่สุดๆเลยว่า แมะ!! เอ๊ะรึคนแต่งมันน้ำเน่า!!

    ช่างมัน ฮุฮุ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×