ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [End] Trick.o.treaT จะรักจะหลอกช่วยบอกหน่อย (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #6 : 6. i'm hungry

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 51


    พระเอก ฮามาโนะทาดาโยชิ
     นายเอก นากามารุ ไทกิ
     เเฝดพระ อากิโมโตะ คาโงะ vs ไคโตะ
     แฝดนาย  ฟุคุดะ นาโอซึมิ vs มาซาฮิโระ

    6.

     ผลจากการเคี่ยวและเข็ญของคุณพี่สุดหล่อทำให้คะแนนกลางภาคของผมออกมาดีอย่างไม่น่าเชื่อ

     “นายได้ลำดับที่ 25 ของระดับชั้น” ดูโอ้แฝดนรกแหกปากลั่นขณะที่พวกเรากำลังไล่สายตาไปบนบอร์ด อายชาวบ้าาวช่องเค้าบ้างมั้ย! ขนาดพวกมันทำตัวน่าเกลียดแบบนั้นดันยังมีอนาคตของชาติผู้น่าสงสารทั้งชายและหญิงมองมันด้วยสายตาชื่นชมอีก

     “ชั้นยังได้แค่ที่สองเอง” นาโอซึมิพูดเสียงละห้อย

     “ชั้นก็แค่ที่สาม” มาซาฮิโระพูดต่อบ้าง หน้ามันหงอยเหลือเกิน

     ผมลืมบอกไปครับว่าเจ้าลิงทโมนที่ดูเหมือนวันๆ จะมีแต่เรื่องแกล้งชาวบ้านกับออเซาะแฟนนั้นเรียนเก่งขั้นเทพ ติดท็อปไฟว์ทุกครั้งที่สอบครับ ส่วนผมก็ท็อปไฟว์เหมือนกันครับ แต่วงเล็บว่าจากที่โหล่

     ปล่อยให้เจ้าสองคนนั้นกอดคอเล่นบทโศกกันต่อไป ส่วนผมเลี่ยงออกมาใช้โทรศัพท์เงียบๆ ที่หน้าห้องน้ำ
     
     ไม่อยากจะบอกเลยว่ามือมันสั่นระริกจนแทบกดเบอร์ไม่ถูกด้วยซ้ำ พิมพ์ข้อความไปก็อมยิ้มไป

     …มีข่าวดีจะบอก เจอกันเย็นนี้นะครับ…

     ก็คนมันดีใจ ไม่เคยสอบได้ลำดับที่ดีขนาดนี้มาก่อน งานนี้คงต้องพาติวเตอร์คนสำคัญไปเลี้ยงฉลองซะเเล้ว
    .
    .
    .
     พอออดเลิกเรียนดังปุ๊บ ผมก็กวาดของทุกอย่างลงกระเป๋า วิ่งแผล็วไปหน้าป้อมยามทันที วันนี้ทำสถิติได้ไวกว่าเจ้าแฝดแบบเทียบฝุ่นไม่ติด

     หลังทักทายรุ่นพี่คาโงะและรุ่นพี่ไคโตะเรียบร้อย ก็จัดการไปยืนฉีกยิ้มกว้างให้พี่โยชิของผม (แอบงงว่าทำไมสามคนนี้ถึงมาโผล่ที่โรงเรียนผมได้เร็วเหลือเกิน โดดเรียนคาบสุดท้ายกันมารึไง)
     
     “ทำไมมาไวจัง” ตอนแรกแค่คิดครับแต่ดันหลุดปากถามไปด้วย

     “ก็ไม่อยากให้ใครบางคนรอนานนี่นา” ตอบเอาใจแบบนี้เอาคะแนนไปเต็มร้อยเลยครับ

     “แล้วไหนหละข่าวดี”
     ผมแทบหุบยิ้มไม่อยู่ เขย่งเท้าขึ้นไปกระซิบที่ข้างหูพี่โยชิ “ผมสอบได้ที่ 25”

     รอดูปฏิกริยาท่านชายครับแต่ยังนิ่งสนิท “ว้า… นึกว่าจะได้ที่หนึ่งซะอีก เสียชื่อคนสอนหมด”
     
     พูดกลับมาอย่างงี้ก็สวยซิครับ ผมที่ตื่นเต้นอยู่เมื่อครู่เลยเฉาเลย หน้าบานสองกระด้งหุบลงมาเหลือนิ้วเดียว

     “ล้อเล่นน๊า ได้แค่นี้ก็เก่งเเล้ว” รอยยิ้มอบอุ่นกับมือใหญ่ที่วางลงมาขยี้เส้นผม แบบที่ทำเป็นประจำทำเอาผมสดชื่นขึ้นมาอีกครั้ง “แบบนี้ต้องให้รางวัลซักหน่อย”

     “พี่ไม่ต้องให้ผมหรอก ผมต่างหากที่ต้องเลี้ยงขอบคุณ”

     “อ่าว งั้นที่ขอคุณแม่ว่าจะพาไปเที่ยวทะเลก็ต้องยกเลิกหละซิ”

     ผมตาโตเลยครับ ไปเที่ยวหรอ!!ทะเล ทะเล บิกินีและสาวๆ กำลังรอผมอยู่

     “ไปซิ ไปๆ” ผมดึงแขนสุดหล่อยิกๆ พี่โยชิก็หัวเราะใหญ่ พอดีกับเสียงเอะอะของเจ้าแฝดดังขึ้นมา

     ร้องไห้กระจองอแงฟ้องพี่ล่ำใหญ่เลยว่าได้แค่ที่สองกับที่สาม อยากได้ที่หนึ่งกันต่างหาก ทำตัวน่าสงสารได้น่าถีบมากครับเพื่อนผม
     
     เซ็ง ต้องมานั่งดูฉากโอ๋ กอดกันกลมดิกแบบนี้ เพื่อนผมท่าทางจะเป็นเอามาก เพื่อนพี่โยชิก็ไม่ต่าง นั่งปลอบมันอยู่ได้

     “วันศุกร์์หน้าโรงเรียนนายหยุดวันสถาปนาโรงเรียนใช่ม่ะ มันติดกับเสาร์อาทิตย์ เราจะไปนอนค้างคืนกัน”

     คำว่าเรามันสะกิดใจแล้วครับ แต่เสียงเย้!! ดังลั่นอีกสองเสียงก็ช่วยตอบผมได้ว่าคำว่าเรามันเหมาเอาคู่รักแห่งปีอีกสองคู่รวมอยู่ด้วย

     ผมทำหน้าขดเป็นเครื่องหมายคำถาม คุณพี่สุดหล่อเลยรีบอธิบายว่า “ก็ไปพักบ้านพักตากอากศของคาโงะกับไคโตะเค้าไง”

     อ๋อ!! เพราะอานิสงส์ของแฟน เจ้าแฝดน้อยเลยได้ตามไปด้วย
    .
    .
    .
     “แม่ คืนนี้ผมไปนอนห้องพี่โยชินะ” ผมโผล่หน้าไปบอกแม่ที่กำลังนั่งถักอะไรซักอย่างในห้องนั่งเล่น

     “จะไปอีกแล้วรึ นอนบ้านบ้างมันจะเป็นอะไรมั้ย”

     “โธ่ แม่ … ไปนะ”

     เรื่องอะไรจะอยู่ให้เทศน์ต่อ ผมเผ่นตั้งแต่แม่ทำท่าจะหันมาด้วยซ้ำ เมื่อก่อนหละไล่นักไล่หนา พอมาตอนนี้กลับรั้งจะไม่ให้ไป คนแก่นี้ช่างเอาใจยากจริงเชียว

     ระหว่างที่เดินเเบกกระเป๋าเป้จากบ้านไปถึงคอนโดของผู้ชายที่ผมหอบผ้าหอบผ่อนไปนอนด้วยก็อดขำไม่ได้ ทั้งที่เจอกันครั้งแรกก็ถึงขั้นต่อยกันหน้าหัก แต่ตอนนี้กลับติดเขาแจ

     ผมกดกริ่งไปครั้งเดียว ใบหน้าขาวๆ ก็โผล่ออกมาให้เห็น

     “มาช้าจัง”

     “ก็คุณนายเค้าไม่ยอมปล่อยมา” ผมฟ้องแล้วทำหน้าเซื่องๆ แค่นั้นพี่โยชิก็เปิดประตูต้อนรับผมแต่โดยดี

     “ไปยกขนมในครัวมาซิ”

     “ฮะ”

     ผมวิ่งเอากระเป๋าไปโยนไว้ในห้องนอนก่อนจะวิ่งตื๋อไปในครัวที่มีคัสตาร์ตช็อคโกแลตนอนเด้งอยู่บนจานใบใหญ่ ถือมันเต็มสองมือมาวางลงข้างร่างยาวๆ ที่นอนเอกเขนกรออยู่แล้ว

     “นั่งซิ” เขาไม่ได้หันมามองผมหรอกครับ แค่พูดขึ้นมาลอยๆ

     โด่ ทำเป็นเก๊ก นึกว่าหล่อนักรึไง แอบหมั่นไส้ไปหนึ่งดอกครับ แต่ก็นั่งลงแต่โดยดี แถมยังพิงเบาะนุ่มๆ ที่เจ้าของห้องเขาเอามากองให้ มือซ้ายก็หยิบเจ้าขนมชิ้นเล็กขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆ ยามที่ใส้คัตตาร์ทช็อคโกแลตมันลอดออกมาจากชิ้นขนมปังเนื้อนุ่มช่างฉุ่มฉ่ำปากดีแท้

     “ดูหนังนะ”

     พี่จะบอกผมทำไมครับ ในเมื่อพี่กดปุ่มเพลย์ไปแล้ว -*-

    .
    .
    .
     หนังที่พี่โยชิเอาของกินมาล่อในวันนี้ไม่ใช่ DVD ที่จบภายในหนึ่งชั่วโมงกว่า แต่กลับเป็นซีรี่ย์เรียกน้ำตาสิบตอนจบ

     พระเอกเป็นช่างซ่อมเรือจนๆ แต่ดันไปตกหลุมรักกับลูกสาวร้านเพชรชื่อดัง แค่นั้นยังไม่พอ สวรรค์ก็ช่างกลั่นแกล้ง ส่งอุปสรรคมาทดสอบความรักของเค้าทั้งคู่กันอยู่ได้

     นางเอกในเรื่องน่ารักเหลือเกิน ส่วนพระเอกก็หน้าแปลกแต่หล่อสุดใจขาดดิ้น อินจัดครับ จ้องตาไม่กระพริบเลย

     ดูแล้วอยากมีความรักขึ้นมาตะหงิดๆ อยากจะซึมซับความรู้สึกนั้นบ้าง ดูจากในหนังแล้วมันช่างยิ่งใหญ่และอบอุ่นเหลือเกิน ผมจะมีวันได้พบกับมันมั้ยนะ

     THE END ขึ้นหราที่หน้าจอ

     แต่…หนังจบ อารมณ์ไม่จบ

     น้ำตาผมไหลพราก ซึ้งครับซึ้ง หันไปมองไอพี่โยชิตัวดี มันก็หันกลับมายิ้มๆ แล้วยื่นทิชชูกล่องใหญ่มาให้

     “ใช้พอมั้ย หรือจะใช้เสื้อพี่เช็ดอีก”

     ฟังประโยคเมื่อครู่แล้วเริ่มทะเเม่ง หมอนที่หนุนก็อุ่นแปลกๆ

     เกิดมา 17 ปี ไม่โง่นะครับ แยกออกว่าอันไหนคนอันไหนสิ่งของ

     โดดออกมาแทบไม่ทัน เอาหน้าไปซบอกมันตอนไหนฟระ!!

     หัวเราะร่วนครับ ไอพี่หน้าหล่อมันหัวเราะร่วน ผมเลยได้แต่ทำหน้างอแล้วเดินงอนปัดๆ เข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา แล้วจัดแจงยึดทีนอนมันซะเลย

    .
    .
    .
     “เมื่อคืนถูกพรากพรหมจรรย์หรือไงจ๊ะ ทำไมตาบวมเสียขนาดนั้น แถมหน้ายังซีดเหมือนคนไม่ได้นอน” นาโอซึมิยื่นหน้าน่าถีบมากวนผมตั้งแต่ยังไม่หย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ในห้องเรียน

     ผมเมินมันอย่างตั้งใจครับ ก่อนจะฟุบหน้าหาต้นแขน อาจารย์ยังไม่เข้าก็ขอซักงีบเถอะ

     เมื่อคืนนอกจากจะนั่งดูซีรี่ย์บ้านั้นจนเกือบตีสามแถมยังไปซบอกร้องไห้กับไอพี่บ้าเป็นวรรคเป็นเวร พอเข้านอนก็มีมือปลาหมึกที่ไหนไม่รู้มาคว้าเอาเอวเขาเข้าไปกอดอีก ชีวิตไทกิช่างรันทดนัก

     นอนน้อยจนมีสภาพเป็นศพเดินได้ แถมยังโดนเจ้าแฝดนรกล้อด้วยคำพูดเเสนประหลาดแต่เช้า วันนี้คงซวยไปทั้งวันแน่เลย

     แล้วก็เป็นไปดังคาดครับ วันนี้โดนเรียกตอบคำถามทั้งวัน พอตอบไม่ได้เลยโดนเจริญพรให้ไปช่วยจัดชั้นหนังสือในห้องพักครูตามระเบียบ
     
     ก็คนมันง่วงนี่
     หงุดหงิด และพาลครับ เย็นนี้ต้องไปเม้งใส่พี่โยชิให้ได้คอยดู
    .
    .
    .
     กว่าจะสลักวิญญาณลูกศิษย์ที่ดีพ้นตัวไปได้ ตะวันก็โพล้เพล้ ไม่เหลือสิ่งมีชิวิตใดๆ บนตึกอีกตามเคย แล้วเป็นที่แน่นอนได้ว่าเจ้าแฝดเพื่อนรักมันก็ต้องเห็นแฟนดีกว่า โดยการสะบัดก้นทิ้งผมไปแล้วแน่ๆ

     ลงมาที่ป้อมยามด้วยอาการหงอยนิดหน่อย หนังเมื่อคืนก็ยังตามมาหลอน

     เฮ้อ…ถ้าผมมีคนคอยรอบ้างก็คงดี

     “ไทจัง”

     “ไทจัง…”

     เหม่อจนไม่รู้ตัวครับว่าเอาหน้าทิ่มพรวดไปบนอกคนที่อยากไปเอาโทษด้วยเป็นที่สุด

     “เป็นอะไร หน้าซีดเชียว” พี่โยชิใช้ปลายนิ้วเชยหน้าผมขึ้น มีตึกเรียนสีขาวและท้องฟ้าสีส้มเป็นเเบ็คกราวน์ ไม่เขียนให้พี่แกก้มลงมสจูบผมเลยละครับ บรรยากาศโรแมนติกเหลือเกิน
     
     ผมปัดมือพี่แกออกอย่างตกใจ อย่ามาใกล้ชิดนักซิว่ะ คนมันหวั่นไหวได้นะเว้ย เฮ้ย!!

     “ขอโทษ”

     หน้าที่ยิ้มให้ผมเสมอ ดูเจื่อนลง แต่ก็ยังยื่นมือมารับกระเป๋าผมไปถือให้ตามปกติ เราเดินออกจากโรงเรียนเงียบๆ ด้วยอารมณ์ที่รู้ว่าไม่ควรพูดอะไรออกมาตอนนี้

     ผู้ชายคนที่เดินนำหน้า มาส่งผมถึงที่ร้าน วันนี้เขากลับไม่เข้าไป (ทั้งที่คุณนายนากามารุทั้งหว่านทั้งล้อมแต่ก็ไม่สำเร็จ)

     ผมช่วยงานแม่ตามหน้าที่ลูกที่ดีจนได้รางวัลเป็นข้าวมือเย็นชุดใหญ่เสร็จก็กลับขึ้นห้อง อาบน้ำปะแป้งเด็กหอมฟุ้งถลาลงเตียงด้วยท่าพุ่งหลาว

     ทั้งที่ง่วงใจจะขาด แต่กลับนอนไม่หลับ

     ผมพลิกไปพลิกมาจนที่นอนยับนับรอยไม่ถูกแล้วก็ยังไม่หลับซักที

     หรือผมจะคิดมากที่เห็นสีหน้าแบบนั้นของคุณชายทาดาโยชิ แล้วจะสายตาพ้อน้อยๆ แบบนั้นอีก เดินก็ไม่รอ ไม่พูด ไม่มาช่วยงานที่ร้าน แถมยังไม่ตื้อให้ไปนอนด้วย

     อ๊าก!!!!!!!! ทำไมต้องคิดมากขนาดนั้นด้วยว่ะ

     ลุกขึ้นมานั่งเสียสติอยู่พักใหญ่ ก็ลงไปหาอะไรกินข้างล่างครับ  ท้องร้องใหญ่เลย

     อย่าบอกใครนะว่าบ้านผมเป็นร้านอาหาร ทำไมมันไม่มีของกินซักอย่างเลยฟระ

     เปิดร้านทำแมวอะไรเนี่ยะ ของสดไม่มีเตรียมไว้เลย อาหารสำเร็จรูปก็ไม่มี หรือแม้แต่นมซักกล่อง
     
     แล้วไม่ต้องคิดจะให้ผมไปปลุกท่านแม่เสียให้ยากนะครับ เพราะถ้าไปปลุกคุณนายแกตอนตีสามแบบนี้หละก็ พรุ่งนี้คุณๆ คงเห็นเนื้อผมเป็นส่วนผสมอยู่ในมีทบอล แม่ผมโหดเกินไป

    .
    .
    .
     ก๊อก!

     ก๊อก!

     อย่าหาว่าผมไร้ยางอายเลยนะครับที่สวมชุดนอน ใส่ร้องเท้าแตะและหยิบเศษเหรียญเพียงไม่กี่บาทออกจากบ้านมาเคาะห้องผู้ชายกลางดึกกลางดื่นแบบนี้

     ก็คนมันหิวนี่นา!!

     แอด!!

     เสียงสวรรค์ฮะ ผมพยายามปั้นยิ้มให้ดูเจี๋ยมเจี้ยมที่สุดแล้วยื่นหน้าไปหาคนหล่อที่หัวหูยุ่งเหยิงซะ (แต่ย้ำว่ายังหล่อไม่บันยะบันยังอยู่ดี)

     พี่โยชิหรี่ตามองผม แล้วขนี้ตาอย่างเอาเป็นเอาตาย คงคิดว่าตัวเองตาฟาดหละซิ ผมไทกิตัวจริงเสียงจริงเลยต่างหาก

     “ขอของกินหน่อยนะฮะ”

     บอกจุุดประสงค์แล้วพี่ท่านก็หัวเราะก๊ากก่อนจะล็อกคอแล้วลากผมเข้าไป จับให้นั่งลงตรงโซฟาห้องรับแขก ก่อนเสียงก๊อกๆ แก๊งๆ ในครัวจะดังขึ้น

     อ่า…เกี้ยวกุ้ง หอมฉุย~

     ถึงมันจะเป็นอาหารสำเร็จรูปแล้วนำไปเข้าไมโครเวฟ แต่มันก็ช่วยต่ออายุน้อยๆ ของผมให้ยาวออกไปได้อีกตี๊ดนึง

     “ขอบคุณครับ”

     ผมยิ้มเต็มแก้ม แล้วลงมือโซ้ยฮะ

     “พี่โยชิทานด้วยกันมั้ย” ตักชิ้นสุดท้ายแล้วยื่นไปให้คนท่ี่นั่งยิ้มหล่ออยู่ข้างๆ ครับ หมดชามแล้วเพิ่งนึกได้ แย่จริงๆ เลยนะผมเนี่ยะ

     ที่แย่กว่าคือพี่แกก็อ้าปากงับช้อนที่ผมป้อนครับ ผมชวนตามมารยาทนะไม่ได้ให้กินจริงซักหน่อย

     “พี่นึกว่านายโกรธพี่อยู่ซะอีก”

     โกรธซิครับเล่นกินกุ้งตัวสุดท้ายของผมไปซะงั้น

     เฮ้ย! ผิดคดี

     “ผมต่างหากที่ทำให้พี่โกรธ” สำนึกครับ สำนึกบุญคุณที่เขาให้ของกิน

     “ไม่ได้โกรธซักหน่อย”

     เย้ ไม่โกรธก็ดีแล้ว ถ้าโกรธก็คงแย่ เดี๋ยวพี่ท่านพาลไม่พาไปเที่ยวทะเลศุกร์นี้หละซวยเลย

     
     
    ;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;;
    รับน้องและห้องเชียร์ ไม่ว่างเลยอ่า

    ถือว่าขำๆ นะ อย่าเอาสาระอะไรกับเรื่องนี้เลย

    รักทุกคนที่อ่านและทวงจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×