คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [JSUWIWS] Chapter 7
Chapter 7
ผู้จัดการวงเรอะ
หลอกลวงสื่อ
ไอ้บ้าฮยอนซูหลอกโซจุนมาเป็นเบ๊ชัดๆ
โซจุนไม่โง่นะเว้ย!
โซจุนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันขณะหอบหิ้วเครื่องดื่มกระป๋องเต็มอ้อมแขนเดินกระแทกเท้าตึงตังใส่ขั้นบันไดลงไปห้องซ้อมใต้ดินของอันกูจองฮวา
“มา ฉันช่วย” คิมฮาจินยื่นมือหยิบโค้กกับไซเดอร์ไปสองกระป๋อง กระป๋องหนึ่งโยนให้กยองจง ส่วนอีกกระป๋องโยนให้ฮยอนซู มือเบสหันกลับมาคว้าเครื่องดื่มอีกสองกระป๋องยื่นให้จีฮยอกกับโดอิล เขาแจกน้ำให้สมาชิกครบทั้งวงแล้วจึงหยิบกระป๋องสุดท้ายมาเปิดดื่มเอง
เนิร์ดน้อยทำหน้ามุ่ยใส่อีกฝ่าย ฮาจินเหลือบหางตามาเห็นเข้าก็เลิกคิ้วให้เขา
“อ้าว โซจุนนี่ไม่ได้ซื้อให้ตัวเองเหรอ?”
“ห้ากระป๋องก็ล้นแขนฉันแล้ว!”
“อะ แบ่งให้” มือเบสยัดปากกระป๋องกระดกน้ำอัดลมใส่ปากให้เขา โซจุนไม่ทันตั้งตัว พอเงยหน้าดื่มไม่ทันน้ำก็หกใส่เสื้อ ฮาจินหัวเราะกิ๊กกั๊กแล้วชักมือกลับไป ฝ่ายนั้นกระดกน้ำดื่มอีกหนึ่งจิบก่อนหันมาพูดกับเขาว่า “อุ้ย จูบทางอ้อม” แล้วฉีกยิ้มใส่ โซจุนได้ยินแล้วหน้าแทบลุกเป็นไฟ เขายังจำได้ว่าฮาจินบอกว่าถูกใจเขา เด็กหนุ่มประสาทจะกิน เขารีบเดินหนีไปคว้าการบ้าน (ของอีฮยอนซู) มานั่งหันหน้าเข้ามุมและลงมือทำ
โซจุนถูกคิมฮาจินหยอดอย่างนี้มาเป็นสัปดาห์แล้ว เขาเรียกสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าสัปดาห์นรก เพราะทุกครั้งที่ไอ้มือเบสหยอดมุขน้ำเน่าใส่ ไอ้บ้ามือกีตาร์เป็นต้องจ้องเขาจนตัวแทบทะลุทุกที ถ้าตาอีฮยอนซูติดเลเซอร์ ป่านนี้โซจุนตัวพรุนเป็นฟองน้ำไปแล้ว ถามจริงเถอะ เขาทำผิดอะไร ทำไมต้องจ้องกันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้ออย่างนั้นด้วยวะ?
วันนี้ก็เหมือนกัน ระหว่างก้มหน้าก้มทำการบ้านให้คนอื่น จู่ๆ โซจุนเสียวสันหลังวูบจนต้องเหลียวหลังหาที่มา เขาหันหน้าไปหาอีฮยอนซูซึ่งยืนเยื้องไปไม่ไกลก่อนเป็นคนแรก และสบป๊ะเข้ากับสายตาคมกริบตามคาด
โอย----หัวใจจะวายตาย
เด็กหนุ่มหันกลับมาเอามือตบหน้าอกปลอบตัวเองปุๆ
นี่น่ะเหรอที่คิมฮาจินว่าไอ้บ้าฮยอนซูถูกใจเขา? โอ้ ใครเชื่อก็โง่แล้วจ้ะ ไปหลอกคนอื่นที่ฉลาดน้อยกว่าโซจุนเถอะ (มีเยอะเลยละ แค่ในห้องซ้อมนี่ก็นับได้ตั้งห้าคนแล้ว)
“นี่” จีฮยอกใช้ศอกถองเพื่อนสนิทและยื่นหน้ามาป้องปากกระซิบกระซาบ “จ้องจนตาแห้งเขาก็ไม่เข้าใจนายหรอก” หัวหน้าวงอันกูจองฮวาเพยิดหน้าใส่แผ่นหลังเนิร์ดน้อยมุมห้อง “ถ้านายจะแข่งกับฮาจินนายต้องทำให้ได้อย่างหมอนั่น ขยันหยอดทุกวันๆ ไม่อย่างนั้นซื่อบื้ออย่างยุนโซจุนไม่มีทางรับรู้”
ฮยอนซูกระตุกมุมปากขำ “นั่นสินะ ฉลาดน้อยออกอย่างนั้น” เขาเหลือบตามองยุนโซจุนส่งท้ายก่อนก้มลงวางกระป๋องโค้กกับพื้นดังปังแล้วหยิบกระเป๋ากีตาร์มารูดซิปเปิดคว้าเครื่องดนตรีขึ้นสะพายบ่า “แต่ฉันไม่ทำอย่างฮาจินหรอก ไม่ใช่แนวฉัน” เด็กหนุ่มทิ้งท้ายก่อนเดินไปเสียบสายไฟเชื่อมกีตาร์เข้ากับแอมป์
“อ้อ ใช่สิ นายมันแนวปากไม่ตรงกับใจ” จีฮยอกบ่นพึมพำไล่หลัง
โดอิลมองเพื่อนร่วมวงสองคนคุยกันแล้วจึงลุกขึ้นยืนจากโซฟาใช้ไม้กลองสะกิดไหล่ฮาจินบ้าง มือเบสหันกลับมากะพริบตาใส่เขาเป็นเชิงถาม “ฮาจิน” โดอิลเรียกชื่อเพื่อน “นายจะจีบโซจุนหรือจะยั่วโมโหฮยอนซูเล่นกันแน่?” มือกลองถามหน้าเครียด
เจ้าของชื่อฟังแล้วหัวเราะขันๆ “ฉันทำอะไรเหรอ? ฉันแค่ตอบแทนความมีน้ำใจของคุณผู้จัดการเองนะ” เขาทำไม่รู้ไม่ชี้ก่อนยกน้ำอัดลมขึ้นจิบอีก
โดอิลถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาหันไปหากยองจง มองหน้าเพื่อนร่วมวงซึ่งมองตอบเขาเหรอหราไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้วพรูลมหายใจยาวเหยียดใส่ใบหน้าน่ารักนั้นอีกทีหนึ่ง
“อะไรอะ!?” กยองจงร้องเสียงหลง
จีฮยอกเบ้หน้าพลางยกนิ้วก้อยแยงหู “หนวกหูชะมัด” เด็กหนุ่มผมฟูพูด “รีบซ้อมเถอะ เสร็จแล้วจะได้ลอกการบ้านกันต่อ”
“โดอิล นายถอนหายใจใส่ฉันทำไมอะ!?” มือคีย์บอร์ดยังสงสัยไม่เลิก
“ไม่มีอะไร ช่างมันเถอะ” โดอิลโบกมือไม่ใส่ใจแล้วเดินตามฮยอนซูกับจีฮยอกไปอีกคน
“อ-“ กยองจงอ้าปากตั้งท่าจะโวยวายต่อก็ถูกฮาจินเอามือปิดปากลากตัวไปประจำที่เสียก่อน
เจ้าตัวจ้อยเอะอะใหญ่ ในขณะที่คนตัวโย่งหัวเราะถูกใจ
หัวหน้าวงกับมือกลองมองสองคนนั้นแล้วหันมาสบตาอย่างรู้กัน
‘ฮาจินน่ะตัวยุ่ง’ จีฮยอกขยับปากพูดประโยคเดิมซ้ำอีกครั้งโดยไม่ออกเสียง
เป็นผู้จัดการให้อันกูจองฮวาต้องทำอะไรบ้าง?
งานโซจุนไม่เยอะหรอก หลักๆ ก็มีแค่สองอย่างเท่านั้นแหละ หนึ่งทำการบ้านให้ลอก สองออกไปซื้อของให้ ไม่ยากเลยใช่มั้ย? ก็แล้วถ้าอย่างนั้นทำไมไอ้บ้าห้าคนนี้ถึงไม่ทำทั้งสองอย่างนี่เองล่ะ!?
ฮ่วย!
โซจุนบ่นในใจพร้อมกับกระแทกปากกาลงกับสมุดการบ้านดังปัง ทันใดนั้นอีฮยอนซูก็โผล่มาคว้าสมุดนั่นไป
“ตกใจหมด!” หนุ่มแว่นสะดุ้งโหยงเอามือทาบอก
ไอ้จอมมารหลุบตามองเขาแล้วทำเมินใส่เฉย ฝ่ายนั้นพลิกสมุดการบ้านดู พอเห็นว่าเขาทำให้ครบหมดแล้วก็ยื่นให้คนอื่นๆ เอาไปลอกต่อโดยไม่เอ่ยปากขอบคุณเขาที่อุตส่าห์หลังขดหลังแข็งทำให้สักคำ
โซจุนมองตามหน้าหงิก---ไอ้บ้าฮยอนซู ไอ้เด็กปีนเกลียว----เขานินทาอีกฝ่ายในใจ
“ทำไม มีปัญหาอะไร?” ฝ่ายนั้นถามเขา
“ไม่มี้” เด็กหนุ่มตอบเสียงสูงทั้งที่ในใจไล่คำตอบได้ยาวเป็นหางว่าว
ฮยอนซูมองเหมือนไม่เชื่อเขาแต่ไม่เอ่ยปากซักอะไร ฝ่ายนั้นคว้าแขนเขาให้ลุกขึ้นและดึงตัวไปหย่อนตัวลงบนโซฟาที่ใช้นั่งเรียนกีตาร์เป็นประจำ
“ฝึกนิ้วก่อน แล้วทวนคอร์ดที่สอนเมื่อวานให้ฉันดูอีกที”
เหตุผลเดียวที่เขายอมเป็นผู้จัดการ (หรือที่จริงคือเบ๊) ให้อันกูจองฮวาจนป่านนี้เพราะอีฮยอนซูรักษาสัญญาสอนกีตาร์ให้เขาจริงๆ
ตอนนี้โซจุนเล่น That Summerได้ตั้งสองท่อนแล้วนะเออ (บอกแล้วว่าเขาไม่โง่)
“ผิดสายแล้ว”
“ผิดท่าแล้ว”
“ผิดคอร์ดแล้ว”
ฮยอนซูคอยเตะขาเตือนคนตรงหน้าทุกครั้งที่อีกฝ่ายเล่นผิด ยุนโซจุนก็เอาแต่เล่นล่กๆ จนเขาต้องพลอยเตะยิกๆ ในที่สุดเด็กหนุ่มทนไม่ไหว เขาเอ็ดอีกฝ่ายเสียงดังอย่างรำคาญว่า “มีสมาธิหน่อยสิ จะลนให้ได้อะไรฮะ!?” แล้วยุนโซจุนก็เงยหน้าจากกีตาร์ขึ้นมามองเขาอึ้งๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มเผยอค้างด้วยอารามตกใจ ดวงตากลมใสหลังกรอบแว่นกะพริบปริบๆ
เด็กหนุ่มเห็นอากัปกิริยานั้นแล้วพลอยอึ้งไปด้วย
“ก็นายเอาแต่เตะฉันนี่!”
เสียงเอะอะกระชากฮยอนซูกลับจากภวังค์
มือกีตาร์ละสายตาจากริมฝีปากและพวงแก้มยุ้ยไปมองตาโซจุนดุๆ อีกครั้ง เขาให้เหตุผลว่านั่นเป็นเพราะอีกฝ่ายเล่นผิดบ่อยๆ
“นายก็แก้ให้สิ! บอกแต่ว่าผิดแล้วก็เตะฉัน ฉันจะรู้มั้ยล่ะว่าผิดตรงไหน!?”
“ฉลาดนักไม่ใช่รึไง ก่อนหน้านี้พอฉันแก้ให้ก็บอกว่ารู้แล้วน่ะๆ ตลอด” ฮยอนซูกัดหน้านิ่ง (ก็ยุนโซจุนพูดอย่างนั้นจริงๆ)
ฝ่ายนั้นอ้าปากแล้วหุบ อ้าปากแล้วก็หุบ แล้วก็อ้าปากและหุบอีก
ทีแรกเขาอยากทับถมต่อว่า ‘เป็นยังไงล่ะ เถียงไม่ออกเลยละสิ’ แต่พอเห็นอีกฝ่ายทำปากบ๊อบๆ เป็นปลาทองแก้มป่องก็อดขำไม่ได้ เด็กหนุ่มหลุดหัวเราะออกมาดังพรืดทั้งที่หน้ายังมุ่ยๆ เขาไม่มีตาอยู่บนหน้าผากยุนโซจุนจึงมองไม่เห็นว่าตัวเองทำหน้าอย่างไร แต่ฮยอนซูเดาว่าหน้าเขาคงดูไม่จืดแน่ๆ เพราะนับจากนั้นจิ้งเหลนกลายพันธุ์หัวเราะไม่หยุดอยู่ตั้งสี่ห้านาที
“กุ๊กกิ๊กซะไม่มี”
จีฮยอกเท้าคางวิจารณ์สองคนบนโซฟาจากมุมลอกการบ้านแล้วแค่นหัวเราะหึหึ
“ฮยอนซูชอบโซจุนนี่จริงๆ เนอะ” กยองจงเงยหน้าออกความเห็นอีกคน “ไม่เคยเห็นยอมให้ใครอย่างนี้เลยนอกจากดาซม”
เจ้าชายน้ำแข็งของอันกูจองฮวาไม่เคยแยแสคนนอกสายตา ไม่ว่าจะสอนเต้น สอนกีตาร์ หรือปล่อยให้ขึ้นเสียงใส่ ถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่คนที่ถูกใจ อีฮยอนซูของพวกเขาไม่มีวันยอมให้แน่นอน
“โซจุนนี่ขำอะไรนักหนานะ” มือคีย์บอร์ดตั้งข้อสังเกต
“หัวเราะเยาะกันขนาดนั้นถ้าเป็นคนอื่นหมอนั่นต่อยคว่ำไปแล้ว” จีฮยอกพูดไม่ทันขาดคำก็เห็นฮยอนซูลุกพรวดขึ้นยืนคร่อมโซจุนกับโซฟาและยื่นหน้าเข้าไปแยกเขี้ยวขู่เสียใกล้“เฮ้ย! สถานการณ์ล่อแหลม!” เขาพูดน้ำเสียงแตกตื่นแต่ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มสนุก
จู่ๆ ฮาจินซึ่งนั่งมองเหตุการณ์เงียบๆ มาตั้งแต่ต้นก็ผละจากกองการบ้านตรงดิ่งไปยังโซฟา เขานั่งลงข้างๆ โซจุนพร้อมกับวาดแขนโอบไหล่อีกฝ่ายแล้วถามหน้าซื่อว่ามีเรื่องอะไรกันเหรอ
“นั่น เดินไปนั่นแล้ว ตัวขัดจังหวะ” กยองจงบ่นหน้าบูด
“หือ?” โดอิลเลิกคิ้วสูง “นายไม่พอใจเหรอ?”
“ก็เออน่ะสิ ฉันเป็นฮยอนซูคงรำคาญตาย คนจะจีบกันดันมาขัดจังหวะอยู่ได้”
“ไม่พอใจแทนฮยอนซูว่างั้น?” มือกลองถาม
“สุดๆ”
“ไม่ได้ว่าไม่พอใจที่เห็นฮาจินจีบเนิร์ดน้อยนะ?”
กยองจงอ้าปากหวอ “จางโดอิล นายบ้าเปล่า นายหาว่าฉันหึงฮาจินเหรอ!?” ร่างเล็กขำก๊าก “โอ๊ย อย่างฮา” มือคีย์บอร์ดยกมือปาดหยดน้ำจากหางตา “ถ้าฉันหึงหมอนั่นจริงคงทนโกรธไม่ไหวกัดลิ้นตายไปนานแล้ว!”
โดอิลพยักหน้ารับรู้ เขาก้มหน้าลอกการบ้านต่อ ปากก็พูดกับกยองจงว่าถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป ไม่พอใจแทนฮยอนซูก็บอกให้ฮาจินรู้ด้วยล่ะ ไม่อย่างนั้นเกิดหมอนั่นเข้าใจผิดว่านายหึงแล้วเล่นไม่เข้าท่าต่อไปเรื่องจะยิ่งยุ่งไปใหญ่
“หมายความว่าไง?”
“ฉันรู้ว่านายรู้ว่าฉันหมายความว่ายังไง” เด็กหนุ่มผมยาวสบตากับเพื่อนร่วมวงนิ่งก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “นายลอกหน้านี้เสร็จยัง ฉันจะเปลี่ยนหน้าแล้ว”
ฮยอนซูยืดตัวขึ้นยืนหลังตรงก้มหน้ามองฮาจินอย่างไม่สบอารมณ์ เขาหลุบตาลงมองมือเพื่อนร่วมวงซึ่งวางบนไหล่ยุนโซจุนอย่างถือวิสาสะแล้วใช้หัวกีตาร์เขี่ยออก
“การบ้านเสร็จแล้ว?” เด็กหนุ่มถาม
“ยัง แต่เดี๋ยวค่อยลอกต่อจากกยองจงอีกทีก็ได้”
“แล้วมานี่ทำไม” ฮยอนซูถามพลางแทรกกีตาร์ลงตรงกลางระหว่างสองคนบนโซฟาและเอนตัวเท้าคางกับเครื่องดนตรี ยุนโซจุนได้ทีก็ขยับตัวหนีจากมือเบส
ฮาจินแค่นยิ้มตอบว่าเห็นคุยกันท่าทางน่าสนุกเลยอยากมีส่วนร่วมด้วยอีกคน
เนิร์ดน้อยทำปากเบี้ยวทันควัน “ไอ้หมอนี่เอาแต่เตะขาฉัน มีอะไรน่าสนุกตรงไหน?”
“ฉันเห็นโซจุนนี่หัวเราะก๊ากๆ ตั้งนานสองนาน”
“อ๋อ ไอ้นั่นน่ะ?” เด็กหนุ่มรุ่นพี่ขำคิกออกมาอีก
“ตลกมากมั้ย?” ฮยอนซูจ้องโซจุนตาขวาง
“มาก” อีกฝ่ายพยักหน้าตอบรัวๆ โดยไม่สำนึกตัวว่ากำลังถูกเขาขู่ “นายเก๊กหน้าขรึมตลอด พอเมื่อกี้หลุดหัวเราะกล้ามเนื้อใบหน้านายเลยเหมือนจะปรับตัวไม่ทันอะ” ยุนโซจุนพยายามสาธิตสีหน้าเขาให้ดูแต่หัวเราะลั่นออกมาก่อนจึงทำไม่สำเร็จ “น-หน้าครึ่งบนกับครึ่งล่างนายมันคนละอย่างเลยอะ!”
“เมื่อกี้ฉันเตือนนายแล้วใช่มั้ยว่าถ้ายังไม่หยุดขำจะเจอดี”
ทันใดนั้นอีกฝ่ายรูดซิปปากฉับ
“อุ้ย น่ากลัว” ฮาจินพูดติดตลก
“นายกลับไปได้แล้ว ฉันจะสอนหมอนี่ต่อ” มือกีตาร์ออกปากไล่เพื่อนร่วมวง
“นายเป็นใครจะมาสั่งฉัน? เนอะ โซจุนนี่เนอะ” ฝ่ายนั้นกอดอกยียวนเขาพลางหันไปกล่อมยุนโซจุนเป็นพวก
“ฉันเป็นผู้จัดการวง ฉันสั่งได้รึเปล่า?” เนิร์ดน้อยถามหน้าซื่อ “นายกลับไปลอกการบ้านต่อได้แล้วไป มานั่งเบียดกันอย่างนี้ฉันเรียนไม่ถนัด”
ฮยอนซูลอบอมยิ้มในขณะที่ฮาจินหน้าเสีย “โซจุนนี่ใจร้าย”
“ถ้าใจร้ายจริงฉันไม่เสียเวลาทำการบ้านให้พวกนายลอกหรอก! ธุระฉันรึก็เปล่า!”
“ฉันไปก็ได้แต่นายต้องให้ฉันจูบลาก่อน”
“หา?”
“จะไปก็รีบไป” เด็กหนุ่มใช้กีตาร์เขี่ยตัวมือเบสออกจากที่นั่ง
“หมั่นไส้จัง” ฮาจินลุกขึ้นยืนเอามือล้วงกระเป๋าและจ้องตาพูดกับเขา “เล่นซะฉันอยากเอาจริงขึ้นมาเลย” อีกฝ่ายเหยียดยิ้มให้ฮยอนซูก่อนหมุนตัวเดินกลับไปหาคนอื่นๆ
มือกีตาร์พ่นลมออกจมูกดังหึ เขาเกลียดเวลาฮาจินพูดทีเล่นทีจริงอย่างนี้ที่สุด
“โอ๊ย! ขนลุกอะ!” โซจุนเอาสองมือลูบแขนตัวเองระหว่างมองไล่หลังคิมฮาจิน เขาโคตรสยองเวลาถูกอีกฝ่ายหยอดใส่ ไอ้บ้าฮาจินต้องการอะไรจากสังคมไม่ทราบ!?
“ไม่ชอบเหรอ?” อีฮยอนซูถามเขาขณะหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้า ฝ่ายนั้นเท้าแขนสองข้างกับกีตาร์บนตักแล้วชวนเขาคุย “ฮาจินฮอตนะ”
เด็กหนุ่มรุ่นพี่ทำหน้ายี้ “จูบลาเนี่ยนะ? มุขสะเด่ยซะ ไม่รู้ฮอตไปได้ยังไง”
“ทำไม? แล้วนายชอบแบบไหน?”
“ฉันชอบผู้หญิงน่ารักๆ”
“ถ้าผู้ชายต้องเท่แบบอินฟินิท?”
“เท่โคตร ฉันยังอยากเต้นท่าแมงป่องได้อยู่นะ” เขาหันไปทำตาเป็นประกายใส่ครูสอนกีตาร์ “เห็นท่านั้นทีไรขนลุกด้วยความประทับใจทุกที”
“นายชอบใครที่สุด”
“ชอบทุกคนอะ เท่กันคนละแบบ” โซจุนเป็นแฟนบอยของอินฟินิทตัวจริง
“แล้วชอบเท่แบบไหนที่สุด?”
หนุ่มแว่นหันไปขมวดคิ้วใส่อีฮยอนซูอย่างข้องใจ “เป็นอะไร ทำไมวันนี้ช่างซักจัง?”
“ดี งั้นฉันเลิกถาม เลิกสอนด้วย แยกย้ายกันกลับบ้าน That Summer ท่อนต่อไปไม่ต้องต่อ” ฝ่ายนั้นต้องท่าจะคว้ากระเป๋ากีตาร์มายัดเครื่องดนตรีเก็บ
“ขู่ตลอด!” ผู้จัดการวงโวยวาย “บอกก็ได้ ฉันชอบเท่ๆ แบบพี่มยองซู” เขาพูดแล้วหยิบกีตาร์มาดีดแตร๊งๆ หลับตาร้องเพลง Can U Smile เลียนแบบไอดอลในดวงใจ
ฮยอนซูฟังคำตอบของอีกฝ่ายแล้วจุดยิ้มมุมปาก เขานึกถึงคำพูดของน้องสาวช่างคุยที่บ้าน
‘พี่ชายเหมือนพี่มยองซูเลย’
ดาซมเคยบอกเขาอย่างนั้นครั้งหนึ่ง
ความคิดเห็น