คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [JSUWIWS] Chapter 1
TALK
บางคอมเมนต์บอกว่าอยากให้แทนชื่อโซจุนนี่กับฮยอนซูว่าซองยอลกับมยองซูไปเลย แต่ว่าโซจุนนี่ก็คือโซจุนนี่ และฮยอนซูก็คือฮยอนซู ขอให้ลองอ่านไปเรื่อยๆ ดูนะคะ แล้วจะเข้าใจเองว่าทำไมเอิบจึงไม่แทนชื่อทั้งสองคนเป็นซองยอลกับมยองซู แต่อยากให้จดจำทั้งคู่ในฐานะตัวละครนั้นๆ แทน (●´∀`●)
Chapter 1
ตึกตัก ตึกตัก ยุนโซจุนยืนลังเลหน้าประตูบานหนึ่ง หัวใจเขาเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ในมือมีสมุดหนังสือซ้อนเป็นตั้งสูงจนแทบล้นแขน
เด็กหนุ่มอยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนต่างโรงเรียน เขาตัวสูงเพรียว ผมหน้าม้าสีดำหวีเรียบร้อยยาวปรกหน้าผากตัดกับผิวขาวจัด แก้มยุ้ยสองข้างตอบลงเพราะเจ้าตัวกำลังดูดกระพุ้งแก้มอย่างหัวเสีย ใบหน้าน่ารักหลังกรอบแว่นหนาเรียกให้นักเรียนคนอื่นซึ่งเดินผ่านไปมาพากันหันมองอย่างสนอกสนใจ
โซจุนสูดลมหายใจเรียกกำลังใจเข้าเต็มปอดก่อนใช้ไหล่ดันบานประตูเปิดแล้วก้าวเข้าไป เด็กหนุ่มสามสี่คนในห้องเงยหน้ามองเขาเป็นตาเดียว
“ร-รบกวนด้วย” โซจุนพูดตะกุกตะกัก
หนึ่งในนั้นสบตากับเขาแล้วหันไปใช้ศอกถองสะกิดอีกคนหนึ่ง “ฮาจิน เด็กนายมา”
“บ้า ไม่ใช่เด็กฉัน” ฮาจินคนนั้นละมือข้างหนึ่งจากเบสมายกโบกปฏิเสธ “เพื่อนนายรึเปล่า กยองจง”
“เหอะ” เด็กหนุ่มตัวเล็กส่ายหน้าดิก “เพื่อนโดอิลมั้ง”
“ฉันไม่รู้จัก” คนผมยาวบอก
“งั้นก็เพื่อนฮยอนซู” กยองจงทายอีก “ปะ? จีฮยอก?”
“ไม่ใช่อะ ถ้าใช่ฉันต้องรู้จัก” คนผมฟูซึ่งเมื่อครู่เปิดปากพูดเป็นคนแรกว่า ทันใดนั้นฝ่ายนั้นหันกลับมาถามเอาคำตอบจากโซจุน “นายเป็นใคร?”
เด็กหนุ่มยืนตัวแข็งทื่อกลืนน้ำลายเอื๊อก “ฉัน...” เขาเผยอปากพูดเสียงเบาหวิว พวกที่เหลือจึงยิ่งหรี่ตาจ้องเขาหนักเข้าอีก “ฉันมา...” โซจุนก้มหน้ามองกองหนังสือในมือลอดแว่นสายตากรอบหนา โอ๊ย! เด็กหนุ่มโคตรเกลียดสถานการณ์อย่างนี้ เขาไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตาใคร โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนดัง
เออ สี่คนตรงหน้าเขาคืออันกูจองฮวา
อันกูจองฮวาที่ใครๆ พากันพูดกรอกหูจนเขาเบื่อจะได้ยินน่ะแหละ!
โซจุนอึกอักพูดไม่ออก เขาเป็นคนตัวสูงแต่กลับรู้สึกตัวลีบเล็กเป็นเด็กประถมเมื่อยืนต่อหน้าทั้งสี่คน เด็กหนุ่มทำตัวไม่ถูกได้แต่หลับหูหลับตาโพล่งออกไปดังลั่น
“ฉันมาขอลายเซ็น!”
ในห้องเงียบไปครู่หนึ่งก่อนพวกนั้นจะระเบิดหัวเราะกันดังก๊าก กระทั่งโดอิลซึ่งท่าทางเป็นคนนิ่งขรึมยังทำมุมปากกระตุก “แฟนคลับหรอกเหรอเนี่ย” “ผู้ชายเนี่ยนะ” “น่ารักจัง” เด็กหนุ่มฟังคำวิจารณ์แล้วอายจนหน้าแดง
ถูก! โซจุนมาขอลายเซ็นอันกูจองฮวา แต่อย่าเข้าใจเขาผิดล่ะ!
“ฉันถูกเพื่อนบังคับมาต่างหาก!” โซจุนแก้ตัวอย่างมีอารมณ์
เขาโกรธพวกนี้ที่หัวเราะเยาะเขา แต่เขาโมโหพวกนักเรียนหญิงที่โรงเรียนมากกว่า มีอย่างที่ไหนพอรู้ว่าเขาเป็นตัวแทนแข่งขันตอบปัญหาคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนจองซังก็แห่กันเข้ามาฝากสมุดหนังสือมาขอลายเซ็นพวกอันกูจองฮวาอย่างไม่เกรงใจ
เรื่องอะไรโซจุนต้องบากหน้าไปขอให้ เขาเกลียดวงบ้านี่จะตาย!
"ไม่เอาอะ" เด็กหนุ่มทำหน้ายี้ใส่พวกผู้หญิง
"ทำเพื่อเพื่อนหน่อยสิยะ!" เพื่อนร่วมห้องเท้าสะเอวพูดเสียงเขียว
"ฉันเป็นผู้ชายนะ ให้ไปขอลายเซ็นผู้ชายด้วยกันน่าขนลุกจะตาย อีกอย่างพวกนั้นหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่รู้ เกิดฉันไปขอลายเซ็นให้ผิดคนจะว่ายังไง" เขาได้ยินว่าโรงเรียนจองซังมีวงดนตรีดังอีกหนึ่งวง (ไม่รู้จะพูดถึงกันทำไมบ่อยนักหนา เด็กหนุ่มเบื่อจะฟัง)
อนิจจา โซจุนแพ้ทางผู้หญิงช่างสั่ง (ความผิดแม่น่ะแหละ) เขาโดนพวกนั้นถลึงตาใส่ไม่กี่ครั้งก็จำต้องยอมตกปากรับคำ ("เมื่อกี้นายว่าไม่เคยเห็นหน้าพวกนั้นเหรอ" พวกผู้หญิงได้ทีหยิบโทรศัพท์มาอวดรูปอันกูจองฮวาให้เขาดูใหญ่ ดูไปกรี๊ดกร๊าดไปจนโซจุนต้องยกนิ้วจิ้มอุดหู พอเขาขัดจังหวะถามว่าจะให้เขาไปตามหาตัวพวกนั้นที่ไหน พวกหล่อนก็ทำหน้าระอา เอ็ดใส่เขาว่า "มีปากก็ถามสิยะ ถามใครก็ได้เดี๋ยวเขาก็บอกเองแหละว่าพวกนั้นอยู่ไหน!") ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน เขาแข่งครึ่งเช้ากับกินข้าวเสร็จก็ขออนุญาตครูที่ปรึกษาหอบหิ้วข้าวของมาตามหาอันกูจองฮวา
ถ้ามือว่างโซจุนจะยกขึ้นทึ้งหัว
เขาโมโหสี่คนตรงหน้ากับพวกผู้หญิงก็จริง แต่ที่น่ากระทืบสั่งสอนให้จมดินจริงๆ ก็ตัวเขาเองนี่แหละ
ใครใช้ให้เกิดมาหงอวะ!? โซจุนเพลียตัวเอง!
“พูดจาไม่น่ารักเลย บอกว่าถูกบังคับให้มา ฟังแล้วใครจะอยากเซ็นให้”
เด็กหนุ่มหลุดจากภวังค์ เขาเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียงแล้วมุ่นคิ้วขัดใจ โซจุนอยากถามใจจะขาดว่านายเป็นใคร แต่แล้วเขาเปลี่ยนใจตวัดสายตาอ่านป้ายชื่อบนอกอีกฝ่ายแทน
คิม ฮา จิน
ใครวะ? โซจุนถามตัวเอง
“เครื่องแบบโรงเรียนอื่นนี่ มาจากที่ไหนเหรอ?” คิมฮาจินลุกขึ้นเดินตรงมายืนค้ำหัวเขา เด็กหนุ่มตกใจผงะถอยหลังไปก้าวหนึ่ง อีกฝ่ายเห็นแล้วเลิกคิ้วประหลาดใจใส่ก่อนยกมุมปากหัวเราะขันๆ “หมอนี่ตลกจัง” ฝ่ายนั้นหันไปพูดกับเพื่อนร่วมวง
“ช่วยเซ็นให้หน่อยสิ พวกผู้หญิงที่โรงเรียนฉันขอมาอีกที” โซจุนกลั้นใจยื่นตั้งหนังสือไปสะกิดหลังฮาจิน เขาตั้งใจรีบทำธุระให้เสร็จจะได้กลับไปเตรียมตัวแข่งช่วงบ่ายต่อ
“เอาไง?” ฝ่ายนั้นถามคนอื่น
“ฉันเซ็นให้ได้ แต่คิดเงินนะ” กยองจงเอียงคอยิ้มตาหยี โซจุนได้ยินแล้วหน้าเสีย
“กยองจงน่ะหน้าเงิน” คิมฮาจินหันมาพูดกับเขา ฝ่ายนั้นยิ้มให้แล้วเอามือล้วงกระเป๋าจ้องสำรวจเขาหัวจรดเท้าจึงถูกโซจุนชักสีหน้าใส่
“มองอะไร?” เขาถามเสียงมะนาวไม่มีน้ำ ได้ยินจากแม่ว่าพวกนี้อยู่ ม.5 โซจุนซึ่งโตกว่าจึงไม่คิดสุภาพด้วยให้เปลืองเวลา (ว่าแต่ทำไมแม่รู้เรื่องพวกนี้ดีจัง)
“ชื่อยุนโซจุนเหรอ?” อีกฝ่ายเหลือบมองป้ายชื่อบนอกเขา
“ชื่อยุนโซจุนแล้วหนักหัวใคร?”
“ว้าว ปากเก่งซะด้วย” ฝ่ายนั้นหัวเราะถูกใจ “มานี่สิ ฉันจะเซ็นให้” คิมฮาจินยืดแขนแบมือใส่หน้าเขา โซจุนถอนหายใจโล่งอกแล้วส่งตั้งหนังสือให้ ฝ่ายนั้นปัดมันออกและส่ายหน้าใส่
“เบอร์โทรศัพท์”
“หา?” เด็กหนุ่มงงเต้ก
“เอาเบอร์โทรศัพท์นายมาก่อน”
โซจุนมุ่นคิ้วก่อนเชิดคางใส่ “บอกไว้ก่อนว่าฉันโตกว่าพวกนาย จะพูดจะจาก็พูดให้มันน่าฟังหน่อย”
ฮาจินแค่นหัวเราะ “งั้นฉันไม่เซ็น” ฝ่ายนั้นว่าแล้วกลับหลังหันตั้งท่าจะกลับเก้าอี้ เขาปรี่เข้าไปคว้าชายเสื้อไว้แทบไม่ทัน “อ-เอาไปทำไม?” โซจุนถามเสียงอ่อย
“ฮาจินน่ะคาสโนว่า” กยองจงถือโอกาสจิกเพื่อนกลับ
“เดี๋ยวเหอะ ซอกยองจง” คิมฮาจินชี้นิ้วใส่หน้าเพื่อนขวับๆ ก่อนหันมายิ้มแฉ่งแก้ตัว “ฉันสะสมเบอร์โทรศัพท์”
เด็กหนุ่มทำหน้าไม่เชื่อ
“ไม่ให้ฉันไม่เซ็นนะ” ฝ่ายนั้นขู่
เขากลอกตาระอาใส่คิมฮาจินแต่สุดท้ายก็กระเดียดตั้งหนังสือเข้าเอว เก้ๆ กังๆ ล้วงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงยื่นให้จะได้จบเรื่องไป อีกฝ่ายยิ้มรับมันไปจิ้มๆ กดๆ ประเดี๋ยวเดียวก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมากดๆ จิ้มๆ โซจุนชะเง้อคอมองอย่างไม่ไว้ใจ “อะ” ในที่สุดฮาจินคืนโทรศัพท์ให้ เด็กหนุ่มรีบรับมาเก็บใส่กระเป๋าแล้วเสือกกองหนังสือให้แทน “เซ็นได้แล้ว” โซจุนสั่ง ฝ่ายนั้นอมยิ้มก่อนหันไปถามหาปากกาจากเพื่อนร่วมวงแล้วผิวปากเซ็นลายเซ็นสบายอารมณ์
หลังจากนั้นฮาจินช่วยคะยั้นคะยอคนอื่นๆ ให้เซ็นจนครบ กยองจงอมลมแก้มป่องเมื่อถูกเพื่อนร่วงวงขู่เข็ญให้แจกลายเซ็นฟรีๆ “หนนี้หนเดียวนะ!” คนหน้าเงินบอก “ขอบใจ” โซจุนเอ่ยกับอีกฝ่ายจากใจจริง เด็กหนุ่มรอจนทุกคนขีดๆ เขียนๆ เสร็จก็ทำท่าจะรวบรวมสมุดหนังสือซ้อนกลับเป็นตั้งเหมือนเดิม
“อ้าว ไม่รอฮยอนซูมาเซ็นเหรอ?” กยองจงเลิกคิ้วถาม
โซจุนเอียงคอกะพริบตาปริบใส่อีกฝ่าย ฮาจินเห็นแล้วหัวเราะเสียงดัง “เชื่อแล้วว่าถูกเพื่อนบังคับมาจริงๆ มือกีตาร์หายไปทั้งคนยังไม่รู้เลย” เขาขำจนน้ำตาเล็ดต้องยกปลายนิ้วปาดหางตา
เด็กหนุ่มทำหน้ามุ่ย---หมอนี่เส้นตื้นชะมัดยาด---เขาค่อนแคะอีกฝ่ายในใจก่อนค่อยอ้าปากถาม “แล้วมือกีตาร์ที่ว่านั่นจะมาเมื่อไหร่?”
“เมื่อไหร่อะจีฮยอก?” ฮาจินหันไปถามเพื่อนผมฟู
“เมื่อกี้บอกฉันว่าจะไปซื้อขนม เดี๋ยวก็มา” จีฮยอกพูดไม่ทันขาดคำก็มีใครบางคนผลักประตูห้องเปิด “มั้ยล่ะ?” ฝ่ายนั้นเลิกคิ้วให้เขาแล้วหันไปบอกกับเพื่อนที่เพิ่งมาถึง “เฮ้ย มีคนมาหา” แล้วฮยอนซูที่ว่าก็ชายตามองโซจุนแว้บหนึ่ง (แว้บหนึ่งจริงๆ!) วินาทีถัดไปฝ่ายนั้นมองหาเก้าอี้ว่างนั่งและหยิบห่อขนมปังมาฉีกกินพลางคุยกับเพื่อนพลางโดยไม่สนใจเขาอีกเลย
ไอ้กร๊วก!
โซจุนด่าลั่นในใจ เขาเหลือบเห็นคิมฮาจินกลั้นขำ (ขำบ้าอะไรอีกล่ะทีนี้?) อีกฝ่ายคงเห็นเพื่อนไม่ใส่ใจจึงหันไปชี้กองหนังสือและช่วยพูดให้ “เพื่อนโซจุนนี่ฝากมาขอลายเซ็น เซ็นให้เขาหน่อยสิ”
ฮยอนซูหันมองฮาจินก่อนเหลือบมองเขา “เซ็นซะเองสิ”
จู่ๆ มือกีตาร์ก็เอ่ยปากพูดด้วยเล่นเอาโซจุนตั้งตัวไม่ติด “หา?”
“อยากได้นักก็เซ็นเอง ถ้านายไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่านายเป็นคนเซ็น” ฮยอนซูพูดหน้าตาเฉย เด็กหนุ่มฟังแล้วมุมปากกระตุก
“อู้ว มาแล้ว โหมดเจ้าชายน้ำแข็ง” กยองจงแสร้งทำตัวสั่นก่อนหันมองแขกต่างโรงเรียน “โซจุนนี่อึ้งไปเลย”
เจ้าชายน้ำแข็ง? เด็กหนุ่มทวนคำในใจ และมองสำรวจอีกฝ่าย
ฮยอนซูซึ่งกำลังนั่งกินขนมปังไม่สนใจใครหน้าตาหล่อเหลา ผมโกรกสีน้ำตาล ผิวสีขาว นิ้วมือเรียวยาวตัดเล็บเรียบร้อยสมกับที่เล่นกีตาร์ แต่ดันสวมแหวนไม่เข้าท่าอยู่หนึ่งวง สีหน้าอีกฝ่ายเย็นชา ท่าทางเป็นคนปีนเกลียว (ที่จริงก็ปีนเกลียวกันทั้งกลุ่ม เพราะนอกจากจะไม่มีใครใส่ใจจะเรียกเขาว่าพี่แล้วยังเรียกเขาว่าโซจุนนี่อีก) ไร้มนุษย์สัมพันธ์ ระดับความเป็นมิตรติดลบ สรุปคือไม่น่าคบอย่างแรง
ฮยอนซู? เจ้าชายน้ำแข็ง?
ทันใดนั้นเขานึกคำพูดของแม่ออก ‘ใครๆ เขาก็รู้จักฮยอนซูกันทั้งนั้น พ่อมือกีตาร์เจ้าของฉายาเจ้าชายน้ำแข็งของแม่ไง!’
“อีฮยอนซู!?”
โซจุนตะโกนชื่อคนตรงหน้าลั่น ฝ่ายนั้นมองเขาด้วยหางตา เด็กหนุ่มเห็นแล้วอยากปราดเข้าไปคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายเขย่า หน็อย! หน้าตาก็ดีแต่ไม่มีมารยาท เสียแรงแม่เขาอุตส่าห์รักอุตส่าห์หลง!
“นายนี่มันไร้น้ำใจ!” โซจุนต่อว่า
อีกฝ่ายไม่พูดอะไร
“เซ็นให้เขาหน่อยน่า” ฮาจินช่วยกล่อม “เพื่อนๆ โซจุนนี่ฝากมา ขืนไม่ได้กลับไปก็ถูกดุกันพอดี พวกสาวๆ โหดจะตาย ข้อนี้ฉันรู้ดี” เพราะเด็กหนุ่มมีพี่สาวหกคน
ฮยอนซูแค่นหัวเราะ “ฉันไม่ทำเรื่องที่ฉันไม่อยากทำ” มือกีตาร์พูดจบแล้วเบือนหน้ากลับไปส่งขนมปังชิ้นสุดท้ายเข้าปาก หยิบกล่องนมมาเจาะหลอดดูดอึกสองอึกแล้วพูดต่อ “ไม่เหมือนใครบางคนที่ต้องทำเรื่องที่ไม่อยากทำเพราะถูกบังคับแล้วไม่รู้จักปฏิเสธ”
โซจุนอ้าปากค้างนานเป็นชาติ ว่าไงนะ? หมอนี่เสียดสีเขาทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันเรอะ? เขาขยับปากจะตอบโต้ก็พอดีได้ยินเสียงประกาศเรียกจากลำโพงมุมห้องเสียก่อน
“ยุนโซจุน โรงเรียนซอวอน ยุนโซจุน โรงเรียนซอวอน กรุณากลับไปรายงานตัวกับครูที่ปรึกษาที่ห้องแข่งขันด่วน”
“เขาเรียกนายรึเปล่า?” จีฮยอกชูนิ้วชี้ลำโพงถาม
เด็กหนุ่มกัดฟันกรอดก่อนรวบรวมสมุดหนังสือซึ่งไร้ลายเซ็นจากอีฮยอนซูขึ้นใส่มือ เขาจ้องมือกีตาร์ตาเขียวก่อนก้าวฉับๆ ไปใช้เท้าเขี่ยประตูห้องเปิดผาง
ไม่ได้การ ขืนกลับไปแข่งทั้งอย่างนี้มีหวังคิดเลขไม่ออกแน่
โซจุนต้องหาที่ปลดปล่อย!
“ห้องน้ำอยู่ไหน?” จู่ๆ เด็กหนุ่มหันกลับไปถามฮาจิน
“หา?” มือเบสเป็นฝ่ายงงบ้าง
“ถามว่าห้องน้ำอยู่ไหน!?” โซจุนกระแทกเสียงถามซ้ำ
“ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับห้องนี้ไปทางขวาแน่ะ” รุ่นน้องตอบ
เด็กหนุ่มจ้ำพรวดๆ ออกไปหาห้องน้ำ เขาตรงไปห้องในสุดแล้วตะโกนลั่น
“ใครว่าไม่รู้จักปฏิเสธวะ! ไม่รู้เรื่องยังจะเจิ๋นพูดอีก! สลัดเอ๊ย! อีฮยอนซู! เกลียดขี้หน้ามันจริงโว้ย!”
เสียงนั้นดังทะลุถึงห้องซ้อม
“น่ารักจัง” ฮาจินอมยิ้ม “บอกรักนายซะดังเลย” เขาหันไปพูดกับเจ้าชายน้ำแข็ง
ฮยอนซูแค่นหัวเราะพลางส่ายหน้ากับตลกฝืดของเพื่อนร่วมวง
"แพ้กลับมาละสิ"
พอโซจุนแบกหน้าบูดกลับถึงบ้าน แม่ก็ส่งเสียงต้อนรับจากครัวด้วยถ้อยคำอบอุ่นจนคนฟังน้ำตาแทบไหล
"แม่อะ!" เด็กหนุ่มเบ้ปาก "ชนะต่างหาก! ชนะแต่ไม่มีอารมณ์จะร่าเริง!" เขาอมลมแก้มป่องใส่แม่แล้วกระแทกเท้าตึงตังเข้าห้องนอน แม่เห็นเขาหิ้วของพะรุงพะรังจึงตามมาเปิดประตูห้องให้ "หนังสืออะไรเยอะแยะ" หล่อนถาม
โซจุนวางหนังสือบนโต๊ะแล้วยืดตัวกลับมาปลดเป้ออกจากไหล่ "ของพวกผู้หญิง" เด็กหนุ่มตอบห้วนๆ แล้วล้วงประกาศนียบัตรผู้ชนะการแข่งขันตอบคำถามคณิตศาสตร์ออกมาอวดแม่ "เอ้า เชื่อรึยังล่ะ ชนะมาจริงๆ นะ" เขายืดอกภูมิใจ
"เก่งมาก" หญิงวัยกลางคนยิ้มแฉ่งใส่กระดาษแข็งแล้ววางมันลงกับโต๊ะ "แล้วลูกเอาหนังสือของเด็กผู้หญิงมาทำไม" หล่อนถามพลางถือวิสาสะหยิบเอาสมุดเล่มหนึ่งมาเปิดอ่าน เพื่อนโซจุนก็ลูกศิษย์หล่อนทั้งนั้น สองแม่ลูกเป็นครูนักเรียนในโรงเรียนเดียวกัน "นี่ใครมาแกล้งเขียนอะไรไว้ เลอะเทอะเชียว" หล่อนมุ่นคิ้วใส่สมุดหน้าหนึ่ง
โซจุนทำหน้าตึงใส่แม่ "แม่อะ ชมกันมากกว่านี้ก็ไม่ได้" เขาเก็บเกียรติบัตรใส่แฟ้มงอนๆ "พวกนั้นฝากผมไปขอลายเซ็นอันกูจองฮวา นั่นมันลายเซ็นพวกนั้นซักคน"
"หา!? แล้วขอมาเผื่อแม่รึเปล่า!?"
"แม่!"
"ก็แม่น่ะสิ!"
"แม่แก่จะแย่แล้วจะเอาลายเซ็นพวกนี้ไปทำไม!?"
หญิงวัยกลางคนดึงหูลูกชายคนเล็กทันควัน "ใครสั่งใครสอนให้พูดจาหยาบคายอย่างนี้" หล่อนออกแรงบิดจนโซจุนร้องโอ๊ยๆ "แม่ก็จะเอาไปล่อพวกสาวๆ น่ะสิ มีรางวัลจูงใจจะได้ตั้งใจเรียนกัน!"
เด็กหนุ่มดิ้นรนหลุดจากมือแม่มาได้ก็ยกมือลูบหูป้อยๆ "แม่ไม่ได้บอกนี่ ผมเลยไม่ได้ขอมาให้ อีกอย่างพวกนั้นนิสัยเสียจะตาย ไม่รู้ทุกคนชอบลงไปได้ยังไง อีฮยอนซูของแม่น่ะแย่ที่หนึ่งเลย"
"สมัยนี้ใครเขาสนนิสัยกัน เขาสนหน้าตากันหรอกย่ะ"
ลูกชายฟังคำมารดาแล้วกลอกตาอย่างระอา นั่นมันพูดของผู้หญิงอายุสี่สิบกว่าแน่เหรอนั่น เขาอ้าปากจะพูดความในใจก็พอดีโทรศัพท์สั่น โซจุนหยิบมาขึ้นมาก็เห็นเป็นข้อความจากเบอร์แปลกหน้า เขาเปิดอ่านจนจบแล้วโวยวายเสียงดัง "อะไรวะเนี่ย!?"
"พูดไม่เพราะ" แม่ตีหน้าขาเขาเบาๆ ก่อนยื่นหน้ามาอ่านข้อความด้วยคนอย่างสนใจ "คืนวันศุกร์นี้จะไปโชว์ตัวที่แทฮังโน ที่รักทั้งหลายมาเชียร์กันให้ได้นะจ๊ะ ♥ ฮาจินนี่---อะไรเนี่ย?"
"คิมฮาจินแหงๆ"
"พ่อมือเบสน่ะนะ?"
"แม่นไปแล้วนะแม่" เด็กหนุ่มจิกกัด
"โซจุนคนดีของแม่แจกเบอร์โทรศัพท์ให้เขาเหรอ นี่ลูกอ่อยนักดนตรีเหรอ!?" แม่อุทานด้วยสีหน้าตกใจเว่อร์ๆ โซจุนยกมือกุมขมับอย่างกลุ้มใจ เขาอธิบายว่าไอ้หมอนั่นต่างหากเป็นฝ่ายขู่เข็ญขอเบอร์โทรศัพท์จากเขา
"ที่แท้เอาไว้ส่งข้อความโปรโมทตัวเอง" เด็กหนุ่มแค่นยิ้มดูถูก "ไม่ดังจริงนี่หว่า" เขาปรายตาใส่คำว่า ‘ที่รักทั้งหลาย’ ดูท่าอีกฝ่ายจะส่งข้อความทีละหลายเบอร์เพื่อเรียกคนไปดู
"ไปเลยนะ" จู่ๆ แม่ออกคำสั่ง
"หา?"
"ศุกร์นี้โซจุนนี่ไปดูพวกนี้แล้วขอลายเซ็นมาให้แม่ซะ เอาสมุดเปล่าไปเล่มหนึ่งแล้วให้เซ็นมาทุกหน้าเลยนะ"
"หา?" เขายังอึ้งไม่หาย
"ไม่ต้องหา นี่เป็นคำสั่ง" แม่พูดจบแล้วกลับออกไปทำอาหารต่อ
โซจุนกะพริบตามองผนังห้องปริบๆ สามสิบวินาทีจากนั้นเขาเอามือทึ้งหัวตะโกนดังลั่น
"งานเข้าฉันอีกแล้ว!!!"
ความคิดเห็น