คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : [JSUWIWS] Chapter 14 [END]
TALK
หายศีรษะไปนานอีกแล้ว แอร๊ก ขอโทษค่ะ โซจุนนี่ตอนนี้เป็นตอนจบซะแล้วค่ะ แต่ไม่ต้องใจหายไป จะยังยังมีตอนพิเศษให้อ่านอีกค่ะ ฮี่
มีใครสั่งหนังสือเรื่อง Many Little Things กับ Untitled ไหมคะ? หนังสือเริ่มทยอยส่งถึงมือผู้รับทีละคนสองคนแล้วนะคะ ใครยังไม่ได้รับก็ขอให้ได้รับกันไวๆ นะคะ ^o^
Chapter 14
“เมื่อกี้นี้คือหน้าบ้านนะ”
“ขอโทษครับ”
“ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้ว ไม่รู้เหรอว่าทำอย่างนั้นอาจจะมีใครนอกจากแม่ไปเห็นเข้า”
“ขอโทษครับ”
“เด็กสมัยนี้นี่ไม่รู้จักกาลเทศะ”
“ขอโทษจริงๆ ครับ”
แม่ของโซจุนกำลังรอลูกชายอยู่ในครัวเมื่อได้ยินเสียงดังจากหน้าบ้าน หล่อนรู้ทันทีว่าโซจุนกลับถึงบ้านแล้ว ลูกชายไม่ได้กลับมาคนเดียวด้วย เสียงของโซจุนเหมือนกำลังขึ้นเสียงใส่ใครสักคน นาพิลบุนลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปเปิดเตาอุ่นกับข้าวก่อนใส่รองเท้าเดินออกไปเปิดประตูรับลูกชายและเห็นโซจุนอยู่กับฮยอนซู
“ทั้งสองคนทำอะไรกัน”
หล่อนถามออกไปแม้จะเห็นทุกอย่าง
เด็กสองคนหันมามองพิลบุนหน้าตาตื่น ลูกชายคนเล็กถึงกับเข่าอ่อน (หล่อนมารู้เอาทีหลังว่าที่จริงแล้วโซจุนปวดหัวเข่าจากการนั่งคุกเข่าสองชั่วโมงเต็ม) “ฮยอนซูรีบกลับบ้านมั้ย?” หล่อนถามเพื่อนของลูกชายน้ำเสียงฟังบังคับกลายๆ ฮยอนซูตอบว่าไม่รีบ หล่อนจึงสั่งให้ทั้งสองคนเข้าไปรอที่ห้องของโซจุนส่วนตัวเองไปปิดเตาแก๊ส สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนถอนหายใจออกมาแล้วจึงเดินตรงไปหาลูกชายที่ห้องนอน หล่อนเคาะประตูสองสามครั้งก่อนค่อยเปิดเข้าไป เห็นโซจุนนั่งบนโต๊ะเตี้ยเหยียดขายาวขณะที่ฮยอนซูนั่งขัดสมาธิบนพื้นข้างล่าง
“ผมปวดขา” ลูกชายอธิบายเมื่อเห็นแม่ขมวดคิ้วมอง
“เขานั่งคุกเข่ามาสองชั่วโมง” ฮยอนซูขยายความ “นั่งคุยอย่างนี้ได้มั้ยครับ?”
พิลบุนเก็บความสงสัยเรื่องคุกเข่าสองชั่วโมงไว้ในใจก่อนเดินกลับออกไปหยิบเก้าอี้จากโต๊ะกินข้าวมานั่งในห้องลูก เมื่อจัดที่ทางให้ตัวเองเรียบร้อยก็เปิดปากอบรมเด็กสองคนโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ฮยอนซูเป็นฝ่ายขอโทษ ส่วนโซจุนไม่พูดอะไร
“โซจุนฟังที่แม่พูดอยู่รึเปล่า?” หล่อนถาม
“ฟังครับ” ลูกชายตอบเสียงค่อย
“ไม่เห็นตอบแม่เลย”
“ขอโทษครับ”
คนเป็นแม่จับน้ำเสียงไม่พอใจของลูกได้ หล่อนกอดอกฉับถามโซจุนว่าเป็นอะไร ไม่พอใจที่แม่ว่าเหรอ
“เปล่าครับ”
“อย่ามาโกหกแม่นะ”
โซจุนถอนหายใจ “เรื่องเมื่อกี้ผมก็เป็นฝ่ายเสียหายเหมือนกัน”
คุณนายยุนเลิกคิ้วมองลูกจนหน้าผากย่น “แต่แม่ไม่เห็นลูกแม่ขัดขืนเลยนะ”
โซจุนฟังแล้วหน้าแดงเป็นมะเขือเทศในขณะที่ฮยอนซูเม้มปากซ่อนรอยยิ้มขบขัน
“แม่จะถามตรงๆ” พิลบุนกลับมาใช้น้ำเสียงเป็นการเป็นงานอีกครั้ง “ทั้งสองคนเป็นอะไรกัน”
โซจุนหันไปสบตาปรึกษากับฮยอนซู แววตาของเขาสับสน ว่ากันตามตรงเขาเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนเป็นอะไรกัน ฮยอนซูเพิ่งจะบอกรักเขา เขาเองแม้จะรู้สึกเหมือนกันแต่ก็ยังไม่ได้ตอบออกไป ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังไม่ชัดเจน โซจุนจึงไม่รู้จะตอบแม่ว่าอย่างไร
“ผมชอบโซจุน” ฮยอนซูตอบเรียบๆ
โซจุนเบิกตากว้างจนตาแทบจะหลุดจากเบ้าในขณะที่แม่ซึ่งปกติขี้โวยวายยิ่งกว่าเขาพยักหน้ารับและหันมาถามเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “แล้วโซจุนของแม่ล่ะ?”
เจ้าของชื่อหัวหูแดงไปหมด คนเป็นแม่ถือเอาอาการนั้นเป็นคำตอบ “พวกเราเป็นผู้ชายทั้งคู่นะ” คุณนายยุนกอดอกพูดเสียงเครียด
“รู้แล้วครับ”
“ฮยอนซูของเราชอบผู้ชายเหรอ”
“ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย ผมแค่ชอบโซจุน และพอดีโซจุนเป็นผู้ชาย”
ตาโซจุนยังถลนอยู่เลย ไม่ทันไรอีฮยอนซูทำเขาอ้าปากค้างอีกแล้ว โอ๊ย หน้าโซจุนจะสุก ใครช่วยหาอะไรมาอุดปากไอ้จอมมารมันหน่อย ขืนปล่อยให้พูดมากไปกว่านี้มีหวังเขาต้องถูกอีกฝ่ายคิดบัญชีย้อนหลังให้พูดจาหวานหยดไม่แพ้กันให้ฟังบ้างแน่นอน
แต่เดี๋ยวก่อน
นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นคืออีฮยอนซูกำลังพูดจาไร้สาระต่อหน้าแม่ของโซจุนอยู่ แม่นะเว้ย แม่นะ แม่ แม่น่ะ มอ-แอ-แม-ไม้เอก-แม่ แม่นะโว้ย!
“แล้วโซจุนของแม่ล่ะ?” มอ-แอ-แม-ไม้เอก-แม่หันมาถามคำถามเดิมกับโซจุนอีก
เด็กหนุ่มสะดุ้ง เขาอึ้งไป เมื่อหลุบตามองพื้นหางตาก็เหลือบเห็นอีฮยอนซูเข้า อีกฝ่ายเองก็กำลังรอฟังคำตอบจากเขา (คำตอบที่น่าพอใจด้วย) เขาก้มหน้ามุบมิบตอบว่าผมไม่รู้ ทันใดนั้นก็สะดุ้งโหยงเพราะถูกไอ้บ้าฮยอนซูหยิกเข้าที่ขาซึ่งยังเจ็บอยู่
“โอ๊ย!” เขาร้อง “หยิกทำไมวะ!?”
“ตอบแม่นายไปเดี๋ยวนี้” มือกีตาร์ขู่ลอดไรฟัน
“แม่ฉันยังไม่บังคับให้ตอบเลย นายเป็นใครมาบังคับให้ฉันพูด!” เขาเอ็ด
“อย่ามาทะเลาะกันต่อหน้าผู้ใหญ่นะ” คุณนายยุนกอดอกฉับ เด็กสองคนรูดซิปปากหันกลับมานั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัวต่อหน้าหล่อนอย่างเดิม หญิงวัยกลางคนไม่พูดจา หล่อนเพียงแต่มองลูกชายและฮยอนซูเงียบๆ อยู่พักใหญ่ก่อนจะค่อยพรูลมหายใจออกมายาวเหยียด
พิลบุนเลี้ยงโซจุนมากับมือ ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่าลูกชายคิดอย่างไรกับฮยอนซู (อันที่จริงใครๆ เห็นเข้าเขาก็คงรู้ ลูกชายคนเล็กของหล่อนคิดอะไรก็เขียนบอกบนใบหน้าหมด) แต่หล่อนยังคงอยากได้ยินกับหูจึงถามลูกออกไปอีกครั้งหนึ่ง
“ยุนโซจุน แม่จริงจังนะ ลูกชอบผู้ชายรึเปล่า?” หล่อนถามกว้างๆ ก่อน
“ผมเปล่า!”
โซจุนตอบชัดถ้อยชัดคำตามคาดหล่อนจึงถามอีกคำถามหนึ่ง “แล้วชอบฮยอนซูรึเปล่า?”
ลูกชายคนเล็กเงียบกริบ คนเป็นแม่จึงตบเท้ากับพื้นดังตุบๆๆ เบาๆ เพื่อกดดันให้ลูกตอบ
โซจุนยังไม่ปริปากพูด เขาหลือบตามองฮยอนซูทีมองแม่ทีแล้วเม้มปากด้วยความอาย ทำไมใครๆ ต้องพากันถามเขาด้วยคำถามนี้ด้วย โซจุนจะบ้าตาย เขากลั้นหายใจบอกออกไป “ชอบครับ” เพื่อจะได้ฟังคำตอบจากแม่แทบจะทันทีว่า
“แม่ไม่อนุญาตให้คบกัน”
เฮ้ย ณ จุดนี้ตามไม่ทันนะขอบอก
“อะไรของแม่เนี่ย!?” โซจุนร้องถาม
“แม่เข้าใจทั้งสองคนว่าไม่ใช่เกย์ แต่เด็กผู้ชายสองคนเป็นแฟนกัน ไม่ว่ายังไงใครๆ เขาก็มองว่าเป็นเกย์ เราจะทนรับแรงเสียดทานจากภายนอกได้ยังไงไหว?”
“ผมจะระวังตัว” ฮยอนซูบอก “ผมจะไม่ทำผิดอย่างที่ทำเมื่อกี้นี้อีก”
“หา?” โซจุนยังไม่เข้าใจ “นายพูดเรื่องไรเนี่ย?”
มือกีตาร์ถอนหายใจอย่างระอา “นายนี่ฉลาดแต่เรื่องในตำราจริงๆ นะ” เขาบ่นพึมพำว่ากำลังถูกคุณน้าดุซ้ำเรื่องที่ยืนจูบกันหน้าบ้านยังไม่รู้ตัวอีก
“ก็นายน่ะแหละเป็นฝ่ายจูบฉัน!”
“ฉันถึงได้บอกว่าจะระวังไง!” ฮยอนซูชักจะเหลืออด
“ถึงจะไม่ใช่เด็กๆ แล้วแต่ก็ยังอายุไม่มาก” คุณนายยุนขัดขึ้นมา “หลังจากนี้อาจจะทะเลาะกันบ่อยๆ จนบ่นว่าอยากเลิก หรืออาจจะได้พบใครคนใหม่ที่ถูกใจกว่าก็ได้นะ”
“พวกผมยังไม่ทันเป็นแฟนกันก็แช่งกันซะละ” โซจุนหน้าบูด
“แม่กำลังชี้ให้ทั้งสองคนเห็นว่าการคบกันไม่ใช่แค่ชอบกันก็จบ” คนเป็นแม่สอน “ถ้าตัดสินใจจะคบกันแล้วก็ต้องทำใจให้กว้างๆ เปิดใจให้มีที่ว่างพอที่จะเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกเราไม่ได้มีกันแค่สองคนบนโลก นอกจากจะต้องใส่ใจทั้งความรู้สึกของกันแล้วยังต้องใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้างด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะประคองความสัมพันธ์ให้ราบรื่นไปตลอดรอดฝั่ง คิดว่าจะทำได้รึเปล่า?”
“แม่ ผมไม่ได้จะแต่งงานนะ”
“โซจุนนี่ ไม่ว่าลูกจะมีแฟนหรือแต่งงานก็ตาม นั่นหมายความว่าลูกไม่ได้ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้วแต่มีใครอีกคนนำชีวิตมาผูกติดกับลูกด้วย เชือกที่เรียกว่าแฟนอาจจะไม่หนาแน่นเท่าเชือกที่เรียกว่าการแต่งงาน แต่ไม่ว่าจะอย่างไหนลูกก็ต้องใส่ใจดูแลไม่ให้มันขาด เพราะถ้ามันขาดก็เท่ากับลูกจะต้องกลับไปตัวคนเดียวอีก เข้าใจรึเปล่า”
โซจุนอึ้งไป เขามองแม่แล้วหันไปมองฮยอนซู เห็นอีกฝ่ายกำลังทำอย่างเดียวกันอยู่ เมื่อมือกีตาร์หันมาสบตากับเขา ชั่วขณะหนึ่งพวกเขาต่างสังเกตเห็นแววตาไม่มั่นใจของกันและกัน แต่เมื่อหันกลับไปยังผู้ใหญ่คนเดียวในห้อง ทั้งโซจุนและฮยอนซูก็ให้คำตอบอย่างเดียวกันคือพวกเขาเข้าใจ
“ที่จริงผมไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าแม่จะจริงจังขนาดนี้ทำไม แต่ผมก็พอเข้าใจแหละว่าแม่เป็นห่วง”
“ตกลงเข้าใจหรือไม่เข้าใจยะ”
“เข้าใจคร้าบ”
“ดี” คุณนายยุนพยักหน้าพอใจ “แต่แม่ก็ไม่อยากให้คบกันอยู่ดี”
“หา? แม่เป็นอะไรเนี่ย!?”
“ลูกต่างหาก! เมื่อก่อนยังโวยวายว่าไม่ชอบฮยอนซูอย่างนั้นอย่างนี้อยู่เลย อยู่ดีๆ ทำไมมาชอบเขาได้ล่ะ ฮยอนซูของแม่นะ! แม่บอกลูกไปตั้งแต่แรกแล้ว!”
“มุขรึเปล่าเนี่ย แม่!?”
“ไม่มุขย่ะ ฮยอนซูของแม่ แม่ไม่ให้”
“แม่!”
“ก็แม่น่ะสิ!”
“ไม่ขำนะ เอาจริงๆ”
“เอาจริงๆ ใช่มั้ย?” คุณแม่คนสวยหันไปหาฮยอนซู “ฮยอนซูของแม่ใช่มั้ยจ๊ะ?”
ฮยอนซูหัวเราะ เขาส่ายหน้าปฏิเสธ ตอบแม่ของโซจุนว่า “ไม่ใช่ครับ”
หนนี้หญิงวัยกลางคนเป็นฝ่ายทำหน้าบูด หล่อนเชิดหน้าหนีเด็กสองคนงอนๆ “แม่ยอมให้ก็ได้ แต่ต้องรับปากแม่ก่อน”
โซจุนถามแม่ขำๆ “อะไรอีกล่ะแม่”
“โซจุนนี่จะเอนทรานซ์แล้ว ต้องรักษาผลการเรียนและสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ อย่ามัวแต่หลงฮยอนซูของแม่จนผลการเรียนตกเข้าใจมั้ย?”
“ฮยอนซูของใครนะ?” ลูกชายยกมือป้องหูทำท่าเหมือนฟังไม่ถนัด
“ฮยอนซูของแม่” คุณนายยุนยังยืนยันคำเดิม “แล้วก็ฮยอนซู บอกกับแม่แล้วจะว่าระวังก็ขอให้ทำให้ได้อย่างที่พูด นะจ๊ะ?”
เจ้าของชื่อพยักหน้ารับ “ครับ”
“ทีนี้บอกแม่มาว่าหิวข้าวกันมั้ย”
โซจุนกับฮยอนซูงงเป็นไก่ตาแตก
“เอ๊ โซจุนนี่เนี่ย ไหนว่าให้แม่เตรียมข้าวเย็นไว้จะกลับมากินไง”
โซจุนถึงบางอ้อ เขาตอบแม่อ้อนๆ ว่าหิวจะแย่อยู่แล้วคุณนายยุนจึงบอกว่าจะไปเตรียมกับข้าวให้ลูกชายทั้งสองคนแล้วเปิดประตูห้องนอนออกไป คล้อยหลังหญิงวัยกลางคนไม่ทันไร ฮยอนซูก็เปลี่ยนท่านั่งจากคุกเข่ามาขัดสมาธิและถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
“แม่นายนี่สุดยอดไปเลย”
มือกีตาร์พูดอย่างทึ่งจัด น้ำเสียงและสีหน้าฉายแววประทับใจ
“ก็แม่ฉันนี่” โซจุนยิ้มภูมิใจก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ เขาหันไปถามคนบนพื้นอย่างกังวล “แล้วคนที่บ้านนายล่ะ จะว่าอะไรรึเปล่า?”
“ว่าอะไร?”
“ว่าที่ฉันเป็นแฟนกับนาย”
“อ้าว เราเป็นแฟนกันแล้วเหรอ?”
โซจุนหน้าแดง “เออ ไม่เป็นก็ได้!” เขาโวยวาย
“อ้าว ไม่เป็นหรอกเหรอ” อีฮยอนซูตีสีหน้าผิดหวัง
“อะไรของนายวะ!?”
“เป็นแฟนกันนะ” ฮยอนซูเงยหน้าจ้องตาโซจุนและพูดออกไปตรงๆ “ผูกตัวติดกันและคอยดูแลเชือกเส้นนั้นไม่ให้ขาดกันเถอะ”
โซจุนมองอีกฝ่ายนิ่งก่อนค่อยๆ คลี่ยิ้มอายๆ แล้วตอบออกไปว่า “ไม่เห็นต้องถามเลย” ฮยอนซูแค่นยิ้มตอบเขา ฝ่ายนั้นหันไปมองประตูและถามว่า “แม่นายจะกลับมามั้ย?” เด็กหนุ่มส่ายหัวให้แทนคำตอบ เขาหลับตาลงเมื่ออีกฝ่ายลุกขึ้นจากพื้น ใช้สองมือประคองแก้มของเขา และโน้มตัวลงมาหา
“ไม่ลืมตาแล้วเหรอ?” ฮยอนซูไม่วายพูดแหย่
เจ้าของห้องไม่สนใจ เขาหลับตารอจนกระทั่งริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกัน ฮยอนซูจุมพิตเขาซ้ำๆ เหมือนที่เคยทำ แต่รสจูบครั้งนี้กลับหวานหอมยิ่งกว่าครั้งก่อน
เมื่อมือกีตาร์ผละออกไป โซจุนลืมตาขึ้นและถามคำถามเดิมกับอีกฝ่ายอย่างกังวล “ตกลงที่บ้านนายจะว่าอะไรรึเปล่า?”
“พ่อนายล่ะ?” ฮยอนซูย้อนถาม
“พ่อไม่ว่าหรอกถ้าแม่ไม่ว่า”
“ถ้าอย่างนั้นพ่อแม่ฉันก็ไม่ว่าหรอก”
“หา?”
“พ่อแม่ฉันก็ไม่ว่าหรอกถ้าดาซมไม่ว่า” ครอบครัวของฮยอนซูตามใจลูกสาวคนเล็กของบ้านมาแต่ไหนแต่ไร
“ดาซมรู้เรื่องฉันกับนายเรอะ รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ขนาดฉันยังเพิ่งรู้วันนี้เลย!”
“นายกับดาซมว่าฉันเหมือนแอล อินฟินิทใช่มั้ย?”
จู่ๆ มือกีตาร์เปลี่ยนเรื่องคุย โซจุนถึงกับไปต่อไม่ถูก
“ดาซมเคยบอกฉันว่านายก็เหมือนซองยอล” ฮยอนซูพูดต่อแม้อีกฝ่ายจะยังทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม “แล้วยัยนั่นก็บอกว่าชอบพี่มยองซูกับพี่ซองยอล”
“บอกตามตรงว่าไม่เข้าใจ”
“ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าที่บ้านฉันไม่ว่าอะไรก็แล้วกัน” มือกีตาร์ยักไหล่สบายๆ และยื่นมือมาช่วยฉุดเขาลุกขึ้นเมื่อคุณนายยุนตะโกนเรียกเสียงดังจากห้องครัวให้ไปจัดการกับข้าวมื้อดึกด้วยกัน
อันกูจองฮวา อันกูจองฮวา แม้ว่าโซจุนจะเรียนมหาวิทยาลัยแล้วก็ยังได้ยินใครๆ พูดถึงอันกูจองฮวากันหนาหู ซ้ายก็อันกูจองฮวา ขวาก็อันกูจองฮวา โซจุนได้ยินชื่อนี้บ่อยแต่ไม่ยักกะรำคาญอย่างสมัยก่อน ตรงกันข้าม เขากลับยิ้มกับตัวเองแทบทุกครั้งที่ได้ยินชื่ออันกูจองฮวา
“เห็นว่าศุกร์นี้จะมีไลฟ์ละ ไปดูกันมั้ย”
ไปสิ ไปเลย ไปกันเยอะๆ เลย!
“จริงน่ะ ไม่เห็นฮาจินนี่ส่งข้อความมาบอกฉันเลย!”
ฮาจินนี่คนนั้นเป็นอดีตไปแล้วละ หมอนั่นมีซอกยองจงแล้ว รักกันปานจะกลืน ไม่สนใจคนอื่นหรอก
“ฉันไป! ฉันจะไปดูโดอิลกับจีฮยอก!”
ดีมาก สองคนนั้นขยันซ้อมกว่าใครเลยละ
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะดูฮยอนซูให้เอง”
หา? ว่าไงนะ?
โซจุนเงยหน้าจากหนังสือกฎหมายขึ้นและเหลียวหลังไปมองกลุ่มนักศึกษาสาวซึ่งนั่งคุยกันที่โต๊ะข้างหลัง พวกเธอคุยกันออกรสจึงไม่สังเกตเห็นเขาที่กำลังมองอย่างสำรวจตรวจตรา
เมื่อกี้หนึ่งในสี่ห้าคนนี้พูดถึงใครนะ?
อ้อ อีฮยอนซู
มือกีตาร์ฉายาเจ้าชาย
แค่ได้ยินชื่อก็โซจุนก็อดอมยิ้มกับตัวเองไม่ได้แล้ว
มือกีตาร์ฉายาเจ้าชาย
แฟนของยุนโซจุนคนนี้นี่ไง
THE END
ความคิดเห็น