คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : [JSUWIWS] Chapter 11
Chapter 11
โซจุนลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้เขาใช้ชีวิตหลังเลิกเรียนอย่างไร เขาเป็นผู้จัดการให้อันกูจองฮวาได้สองสามอาทิตย์ รวมเวลาตั้งแต่เริ่มรู้จักกันก็ราวๆ เดือนกว่า---เดือนกว่าเองเหรอ? โซจุนรู้สึกราวกับเวลาผ่านมานานเป็นครึ่งค่อนปีแล้วนับตั้งแต่พวกเขาทั้งหมดเจอกันครั้งแรกที่โรงเรียนจองซัง ตอนนั้นเขาถูกพวกผู้หญิงขอร้อง (อันที่จริงคือขู่แกมบังคับ) ให้ไปขอลายเซ็นจากอันกูจองฮวา นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชีวิตโซจุนก็ไม่เคยสงบสุขอีกเลย
แต่ว่า
โซจุนก็ชอบความปั่นป่วนนั้น
อันที่จริง
เขารักช่วงเวลาเหล่านั้นเลยละ
โซจุนถอนหายใจใส่สมุดการบ้านที่กางค้างไว้บนโต๊ะ หัวใจเขาว่างเปล่าไม่ต่างจากช่องเติมคำตอบ---เบื่อ---เด็กหนุ่มถอนหายใจ วางดินสอลงแล้วเอนหลังนอนกับพื้นเอาฝ่ามือรองศีรษะ เมื่อเลิกเรียนแล้วกลับบ้านมานั่งเหงาคนเดียวในห้อง โซจุนจึงค่อยตระหนักว่าที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตได้จืดชืดเพียงใด
ตื่นนอน ไปโรงเรียน กลับบ้าน ทำการบ้าน แล้วก็เข้านอน หลังจากนั้นก็ตื่นนอน ไปโรงเรียน กลับบ้าน ทำการบ้าน แล้วก็เข้านอนอีก
โซจุนคิดถึงพวกอันกูจองฮวา
คิดถึงดาซมด้วย
คิดถึงพี่ชายของดาซมด้วย...
เด็กหนุ่มคิดแล้วเอามือปิดหน้าตัวเองอายๆ แม้จะรู้แก่ใจว่าตัวเองทำให้อีฮยอนซูผิดหวังจนฝ่ายนั้นออกปากว่าจะไม่ยุ่งด้วยอีกแต่ก็อดเขินเมื่อนึกถึงอีกฝ่ายไม่ได้ อาการเบื่อหายไป แทนที่ด้วยเสียงหัวใจเต้นตึกตักๆ มีความรักมันเป็นอย่างนี้เอง แม้จะกำลังเข้าหน้ากันไม่ติด แต่เมื่อคิดถึงหัวใจก็เต้นโครมคราม โซจุนกลิ้งซ้ายกลิ้งขวาและจบลงด้วยการนอนคว่ำซุกหน้ากับแขนและฟาดหน้าแข้งกับพื้น ทันใดนั้นเขาเกิดกลัวขึ้นมาว่าอีฮยอนซูจะทำตามคำพูดของตัวเองจริงๆ หัวใจซึ่งพองโตขึ้นจนคับอกเมื่อครู่ฟีบลงเหมือนลูกโป่งถูกเจาะรู
โซจุนไม่เห็นหน้าไอ้จอมมารมาสองวันแล้ว
เขาคิดถึงอันกูจองฮวาแต่ก็ไม่ได้ไปหาเพราะวันก่อนดันประกาศเสียลั่นห้องซ้อมว่าจะไม่โผล่ไปที่นั่นอีก (ความผิดคิมฮาจินคนเดียว) อีฮยอนซูไม่ใส่ใจจะโทรศัพท์มาตามตัวหรือมารับเขาที่บ้านเหมือนเคย และนี่คือเหตุที่ทำให้เขาเป็นกังวล
โซจุนผิดเองที่ทำตัวปากไม่ตรงกับใจ โพล่งออกไปว่าเกลียดทั้งๆ ที่ในใจก็รู้สึกดีๆ กับไอ้โคลนนิ่งของพี่มยองซูอยู่ ถ้าเพียงแต่---ถ้าเพียงแต่ ณ ขณะนั้นอีฮยอนซูจะทำดีกับเขาสักนิด...แง้มๆ แย้บๆ หรือพูดออกมาตรงๆ ว่าชอบเขาสักหน่อย (ไม่ใช่ค่อยมาพูดแกมประชดหลังถูกเขาพูดว่าเกลียดใส่ไปแล้ว) โซจุนอาจจะยอมรับว่าชอบอีกฝ่ายก็ได้
‘เหอะ ใช่ เพราะไอ้จอมมารมันปากหนักนักน่ะแหละ
‘ทำเป็นแหย่เขาทั้งๆ ที่ชอบเขาเหมือนเด็กประถมดีนัก เป็นยังไงล่ะ’
"สมน้ำหน้าแม่งแล้ว!" โซจุนพลิกตัวมาหงายหน้าตะโกนใส่เพดานเสียงดัง
คุณและคุณนายยุนซึ่งนั่งดูข่าวด้วยกันในห้องรับแขกได้ยินแล้วสะดุ้งโหยง "เสียงโซจุนใช่มั้ยนั่น?" หัวหน้าครอบครัวหันไปถามภรรยา
"ใช่ค่ะ" คุณแม่ของโซจุนพยักหน้าตอบ
"ช่วงนี้ลูกดูแปลกๆ นะ" คุณยุนบ่นกลุ้มๆ
"ลูกก็แปลกมาตลอดชีวิตลูกน่ะแหละ" หญิงวัยกลางคนยักไหล่แต่ในใจอดเห็นด้วยกับสามีไม่ได้ หล่อนถอนหายใจใส่ผู้ประกาศข่าวในโทรทัศน์และบ่นพึมพำกับสามี "ลูกอารมณ์แปรปรวนอย่างนี้สงสัยจะเมนส์มา"
คุณยุนหัวเราะ "แรงกับลูกตลอด" เขาส่ายหน้าให้ภรรยาและหันไปฟังข่าวต่อ
“ฮัดเช้ย!” โซจุนจามรุนแรงจนทำน้ำลายกระเซ็นรดหน้าตัวเอง “ยี้” เขายกหลังมือเช็ดหยดน้ำบนหน้าแรงๆ อย่างขัดใจ “นินทาฉันเหรอ ไอ้นิสัย!?” เด็กหนุ่มลุกพรวดขึ้นนั่งชันหลังถลึงตาและตะโกนใส่ผนังห้องทว่าไม่มีเสียงใดโต้ตอบกลับมา (แหงละ)
โซจุนหงายหลังลงไปนอนกับพื้นอีกครั้งหนึ่ง “เหมือนคนบ้าเลยเรา...” เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง
เสียงกระดิ่งคาบสุดท้ายดังไปทั่วโรงเรียน คุณครูย้ำให้บรรดานักเรียนทำการบ้านและอ่านหนังสือให้หนักเพื่อเตรียมตัวสอบเอนทรานซ์ก่อนจะเก็บอุปกรณ์การสอนเดินออกจากห้อง โซจุนถอนหายใจและฟุบหน้ากับโต๊ะอย่างห่อเหี่ยว เด็กหนุ่มไม่อยากให้โรงเรียนเลิกเลย เขาไม่รู้จะกลับบ้านไปทำอะไร พอไม่ต้องไปเป็นเบ๊รับใช้อันกูจองฮวา โซจุนก็มีเวลาว่างเหลือเยอะเป็นกระบุง เขาอ้อยอิ่งเก็บสมุดหนังสือเรียนและเครื่องเขียนลงกระเป๋า สะพายเป้กับสองไหล่แล้วเดินหลังค่อมกลับบ้าน ขณะเดินลากเท้าตัดสนามหญ้า เขาสังเกตเห็นหน้าโรงเรียนวุ่นวายแปลกๆ
"เฮ้ย!"
โซจุนตกใจเมื่อเห็นว่าใครเป็นตัวการทำให้เกิดเหตุจลาจลหน้าประตูโรงเรียน เขาแหกปากร้องเสียงดังก่อนจะนึกเสียใจว่าไม่น่าทำตัวเอะอะ เด็กหนุ่มกลับหลังหันเตรียมจะวิ่งหนี แต่คิมฮาจินซึ่งได้ยินเสียงเขารีบแหวกฝูงแฟนคลับปรี่เข้ามาคว้ากระเป๋าเป้ยื้อตัวไว้ก่อน "โซจุนนี่ คุยกันหน่อย" ฝ่ายนั้นปล่อยมือจากหูกระเป๋ามาจับข้อมือเขาและดึงตัวให้เดินตามหลังไป "เฮ้ย!" โซจุนร้องอีก ถึงเขาจะคิดถึงพวกอันกูจองฮวา แต่เขาก็ยังไม่พร้อมจะสู้หน้าไอ้กร๊วกฮาจิน
"ฉันขอโทษนะ"
ฮาจินพาโซจุนมายังสวนสาธารณะใกล้โรงเรียน จัดแจงให้อีกฝ่ายนั่งบนชิงช้าในสนามเด็กเล่นว่างๆ แล้วโค้งให้เก้าสิบองศาโดยไม่รอให้โซจุนตั้งตัว เขาก้มหน้าค้างอยู่พักหนึ่งจึงค่อยเงยขึ้นไปพบสีหน้าประหลาดใจของรุ่นพี่ต่างโรงเรียน ยุนโซจุนกำลังมองเขาตาค้างอย่างไม่เชื่อสายตา
"โซจุนนี่" เขาโบกมือเรียกสติอีกฝ่าย "โซจุนนี่ ฉันขอโทษ ฟังอยู่รึเปล่า?"
โซจุนสะดุ้งดึ๋ง เขายังตกใจไม่หายที่จู่ๆ คิมฮาจินก็ปรากฏตัวหน้าโรงเรียน ลากตัวเขามาขอโทษและโค้งให้อย่างสุภาพทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นแต่ปีนเกลียวใส่ เนิร์ดน้อยอดประทับใจไม่ได้ เขามองรอยช้ำบนโหนกแก้มของอีกฝ่ายตาปริบๆ จะว่าไปอีฮยอนซูก็เอาคืนไอ้กร๊วกฮาจินให้เขาแล้ว (หลังจากไอ้จอมมารเฉลยว่าชอบเขา โซจุนก็เข้าใจว่าทำไมไอ้หมอนั่นถึงโกรธฮาจินถึงขนาดต้องลงไม้ลงมือทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนโดนขโมยจูบเสียหน่อย) (เขาพอจะเดาได้ด้วยว่าทำไมอีฮยอนซูถึงบอกว่าเสียใจที่เขาเสียจูบแรกให้มือเบส) (ไอ้ใจโฉด! อย่าคิดนะว่าเขาจะรู้ไม่ทัน!) รอยนั่นเป็นสีม่วงน่าเกลียดจนโซจุนชักสงสารและพาลใจอ่อน
อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มรุ่นพี่กอดอกฉับพร้อมกับเชิดคางอย่างวางมาด เขาถือโอกาสเล่นตัวใส่อีกฝ่าย “ใช้เวลาสำนึกผิดนานนะ” โซจุนกัด
ฮาจินยิ้มเจื่อน “รู้หรอกน่า แต่มาช้ายังดีกว่าไม่มานะ”
“มัวทำอะไรอยู่ล่ะ”
“ก็กยองจงน่ะสิ ป่านนี้ยังไม่ยอมมองหน้าฉันดีๆ เลยเนี่ย” ฝ่ายนั้นว่าพลางกระแทกก้นลงนั่งบนชิงช้าตัวข้างๆ และใช้เท้าดันพื้นโล้ตัวเบาๆ
โซจุนเลิกคิ้วอย่างสงสัย “กยองจงเกี่ยวอะไรด้วย?”
“กยองจงโกรธที่ฉันจูบโซจุนนี่”
“หา?” ขอบอกว่านอกจากจะไม่ช่วยให้กระจ่างแล้วยังทำให้งงกว่าเดิมอีก
รุ่นน้องตัวโตหันไปหารุ่นพี่ “โซจุนนี่รู้รึเปล่าว่าฉันชอบกยองจง” เขาถามยิ้มๆ
“เหอะ ไม่รู้อะ” เนิร์ดน้อยส่ายหน้าดิกก่อนจะชะงักกึก “หา!? ว่าไงนะ!?” เด็กหนุ่มถามอย่างไม่เชื่อหู ทันใดนั้นเขาลุกพรวดไปเขย่าโซ่ชิงช้าของฮาจินเต็มแรง “นายชอบกยองจงแล้วมาจูบฉันทำไมวะ!?” โซจุนเลือดขึ้นหน้าควันออกหู ความคิดที่จะให้อภัยอีกฝ่ายปลิวออกจากหัวไปในบัดดล
“ก-ก็ ก็มันน่าหมั่นไส้นี่” ฮาจินพยายามอธิบายทั้งที่อีกฝ่ายยังเขย่าที่นั่งเขาไม่หยุด “ฉันชอบกยองจงแต่กลับได้ยินหมอนั่นบอกโซจุนนี่ว่าชอบคนอื่น พอจะนั่งทำใจ ฮยอนซูก็เอาแต่กุ๊กกิ๊กจุ๊กจิ๊กกับโซจุนนี่ต่อหน้าฉันไม่หยุด ฉันเห็นแล้วมันขวางหูขวางตาก็เลยจูบโซจุ---อ๊ากกกกกกกกกก!”
โซจุนปล่อยมือจากโซ่ชิงช้ามาบีบคอมือเบสแทน
“ไอ้กร๊วกฮาจิน!”
เด็กหนุ่มองค์ลง
“ไอ้สมองยัดนุ่น ไอ้ฟายเผือก ไอ้เฮงซวย ไอ้หน้าตาดี ไอ้หลอดไฟนีออน ไอ้โทรศัพท์ตกรุ่น ไอ้ผ้าห่มเน่า ไอ้สมการพัง ไอ้ไฟลัมไม่ปกติ!”
เขาพ่นไฟใส่อีกฝ่ายจนหนำใจก็ปล่อยมือจากคอมาขยุ้มผมหยิกเป็นลอนของฮาจินต่อ อีกฝ่ายตาเหลือก
“โอ๊ยยยยยยยยยย!”
“นั่นมันจูบแรกของฉันนะ!” โซจุนตวาด “จูบแรกอันมีค่าของฉัน!”
“ฉันถึงได้มาขอโทษไง!”
“ไม่ให้อภัยเว้ย!”
“ขอโทษอ้ะ!”
“เพราะนายคนเดียว!”
“เออ ฉันยอมรับ ทุกอย่างเป็นความผิดฉันคนเดียว ฉันงี่เง่าเองที่ทำอะไรไม่คิด ฉันผิดไปแล้---อ๊ากกก! โซจุนนี่ ถ้าหัวฉันล้านนะ!”
โซจุนกระชากหัวฮาจินจนหน้าหงายเป็นการทิ้งท้าย เขายืนหอบมองรุ่นน้องร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด “สมน้ำหน้า” เด็กหนุ่มแลบลิ้นใส่อีกฝ่ายก่อนกระแทกก้นนั่งลงบนชิงช้าตัวเดิม
“ซาดิสม์!” ฮาจินประณาม
“เดี๋ยวจะโดนยกสอง” เขาขู่ลอดไรฟัน
มือเบสย้ายตัวไปนั่งบนกระดานลื่นทันควัน “ไม่เห็นจะกลัวเลย” ฮาจินแลบลิ้นตอบแล้วหัวเราะออกมา
“อื้อหือออ น่าเชื่อออ” โซจุนลากเสียงยานคาง พอได้ระบายอารมณ์แล้วค่อยรู้สึกตัวเบาขึ้นจนพูดจาล้อเล่นกับฮาจินด้วยได้ อีกฝ่ายยิ้มบาง ถามเขาอย่างมีความหวังว่ายอมยกโทษให้แล้วใช่ไหมแล้วกะพริบตารอคำตอบอย่างมีความหวัง
“เฮ้อ” รุ่นพี่ถอนหายใจ “ยกโทษให้ก็ได้”
ฮาจินยิ้มกว้างจนมุมปากแทบฉีกถึงหู
“แล้วเรื่องกยองจงเป็นยังไง?” โซจุนโยกชิงช้าพลางถามเรื่องที่ยังข้องใจ เขายังคงอยากรู้ว่ามือคีย์บอร์ดจอมเขี้ยวคนนั้นหลงรักใคร
“กยองจงก็โกรธฉัน” รุ่นน้องตัวสูงตอบ “หมอนั่นชอบฉัน แล้วก็รู้ตัวว่าฉันชอบ พอเห็นฉันจูบโซจุนนี่ก็เลยโกรธ”
เนิร์ดน้อยฟังแล้วยิ่งงงหนัก คิ้วเขาผูกกันเป็นโบจนฮาจินเห็นแล้วถอนหายใจระอาและเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้โซจุนฟังตั้งแต่เรื่องที่เขาบังเอิญได้ยินกยองจงคุยกับโซจุน จนถึงความรู้สึกที่แท้จริงของกยองจง
โซจุนอ้าปากค้าง
“กยองจงชอบนายเรอะ!?” เขาร้องลั่น “แล้วนายก็จูบฉันเพื่อจะยั่วให้หมอนั่นหึงเนี่ยนะ!?” เด็กหนุ่มแทบจะกระโจนเข้าไปเขมือบฮาจินลงท้องอีกหน
“ขอโทษ! ขอโทษล้านครั้งเลย ขอโทษจริงๆ แต่เมื่อกี้โซจุนนี่ยกโทษให้ฉันแล้วนะ!” มือเบสยกมือป้องหัวปกป้องตัวเองสุดฤทธิ์
“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย ฉันโกรธธธธธธธธธธธธธธธ”
“ฉันผิดไปแล้ว”
“โคตรโกรธอะ!”
“โคตรสำนึกผิดอะ”
“ทำไมนายงี่เง่าอย่างนี้วะ!?”
“ฉันมันงี่เง่าเอง”
“งี่เง่ากันทุกคนน่ะแหละ ทั้งนาย ทั้งฉัน ทั้งอีฮยอนซู!”
ฮาจินเอียงคอเง็งๆ “ฮยอนซูงี่เง่ายังไง?”
“ทุกอย่าง!” โซจุนกระแทกเสียงตอบ
ถึงคราวมือเบสเป็นฝ่ายมุ่นคิ้วบ้าง “โซจุนนี่” เขาเรียกชื่อรุ่นพี่ขรึมๆ “ฉันไม่รู้ว่าโซจุนนี่จะรู้ตัวรึเปล่าหรือฮยอนซูจะบอกโซจุนนี่รึยัง แต่ว่า...หมอนั่นน่ะ แคร์โซจุนนี่มากนะ”
โซจุนสลดไป เขาถอนหายใจก่อนก้มหน้าลงพูดกับพื้น “รู้แล้วละ” เด็กหนุ่มตอบ “อีฮยอนซูบอกฉันแล้ว แต่บอกช้าไป ฉันพูดออกไปแล้วว่าเกลียดหมอนั่น หมอนั่นก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นจะไม่ยุ่งกับฉันอีก...งี่เง่าชะมัดเลย...” ท้ายประโยคโซจุนบ่นพึมพำ กระทั่งเขาเองยังไม่แน่ใจว่ากำลังพูดถึงใคร โซจุนหรือฮยอนซูนะที่เป็นฝ่ายงี่เง่า หรือคำตอบคือพวกเขาทั้งคู่? พวกเขาต่างก็งี่เง่ากันทั้งคู่เลย...
"เหรอ ถูกฮยอนซูโกรธเหรอ" ฮาจินพูดเศร้าๆ “แย่เลยนะ ฉันก็ยังขอโทษหมอนั่นไม่สำเร็จเหมือนกัน”
“ไม่ฟังเหรอ?”
“โอ๊ย ทำเหมือนฉันเป็นอากาศเลยละ”
โซจุนกลืนน้ำลาย เขาฟังคำพูดอีกฝ่ายแล้วยิ่งใจเสีย
“ไม่เป็นไรหรอก หมอนั่นเป็นผู้ใหญ่พอ รอให้ใจเย็นอีกนิด ประเดี๋ยวก็ยอมฟังคำขอโทษเอง”
“แล้วถ้าไม่ขอโทษล่ะ?”
ฮาจินหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างพิจารณาและว่าอย่างรู้ทัน “โซจุนนี่ชอบฮยอนซูละสิ” เมื่อเห็นเนิร์ดน้อยหน้าแดงเถือกก็รู้ว่าตัวเองคิดถูก “ชอบแต่บอกว่าเกลียด ฮยอนซูมันโกรธก็เลยพูดอย่างนั้นละสิ”
โซจุนหน้าเสีย “นายเป็นหมอดูรึไง? อ่านโหงวเฮ้งได้รึไง?” เขาถามเสียงสะบัด
“โซจุนนี่อ่านง่ายต่างหาก คิดอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าหมด” มือเบสยักไหล่ "ไม่ไปง้อฮยอนซูก็ได้นะ ถ้าทนให้หมอนั่นเห็นโซจุนนี่เป็นอากาศไปได้ตลอดชีวิต"
“โว้ย! แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ!?” เด็กหนุ่มถามอย่างเสียจริต
“ง้อซะสิ” ฮาจินตอบหน้าตาย “โซจุนนี่ง้อฮยอนซู ส่วนฉันก็ง้อกยองจง”
พวกเขาสองคนมองหน้ากันเงียบๆ
เวลาผ่านไปพักใหญ่ ทั้งโซจุนและฮาจินก็พร้อมใจกันถอนหายใจ
“เฮ้อ” ทั้งสองคนรำพึง “ถ้าทำได้ง่ายๆ ก็ดีน่ะสิ”
หากมีการจัดอันดับคนใจแข็ง ฮยอนซูกับกยองจงคงติดอันดับต้นๆ ของโพล
ความคิดเห็น