ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [INFINITE] Just Shut Up While I Was Sleeping! [MyungYeol]

    ลำดับตอนที่ #11 : [JSUWIWS] Chapter 10

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 56


    Chapter 10

                    เย็นวันนั้นอันกูจองฮวาไม่ได้ซ้อมดนตรี ห้องซ้อมแปรสภาพเป็นสนามมวยชั่วคราว ข้าวของต่างๆ ล้มเกลื่อนพื้นไปหมด

                    เมื่อถูกขโมยจูบ โซจุนเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เขายังไม่ทันผลักฮาจินออก ฮยอนซูก็กระชากไหล่อีกฝ่ายให้หันไปหาและประเคนหมัดขวาใส่หน้าเพื่อนร่วมวงเต็มแรงเสียก่อน ฮาจินเซถอยหลังไปชนโต๊ะและเก้าอี้ล้ม เมื่อตั้งหลักได้ก็พุ่งเข้าไปสวนกำปั้นใส่ฮยอนซูที่ตำแหน่งเดียวกันจนอีกฝ่ายเสียหลักล้มลงกองกับพื้นและก้าวตามไปอย่างหาเรื่อง ฮยอนซูลุกพรวดขึ้นพร้อมจะกระโจนเข้าใส่ โซจุนได้แต่นั่งมองตาค้างในขณะที่กยองจงร้องห้ามเสียงดัง หยุดนะ!” ร่างเล็กกระโดดเข้าไปกอดยื้อฮาจินจากด้านหลังพร้อมๆ กับที่โดอิลและจีฮยอกช่วยกันรั้งแขนฮยอนซูไว้คนละข้างก่อนมือกีตาร์จะปล่อยหมัดใส่ฮาจินอีก

                    ปล่อย!” สองคนที่มีเรื่องกันต่างหันไปตะคอกใส่คนห้าม

                    ฮาจิน!” มือคีย์บอร์ดตะโกนชื่อเพื่อนสนิทเพื่อเรียกสติอีกฝ่าย คิมฮาจิน!

                    เจ้าของชื่อหยุดชะงักราวกับถูกปิดสวิตช์ เขาเหลียวหลังกลับไปมองกยองจงก็พบอีกฝ่ายจ้องตรงกลับมาด้วยสายตากล่าวโทษ เขาลืมหายใจไปชั่วขณะจนกระทั่งเพื่อนสนิทปล่อยมือจากเขา ฮาจินพรูลมหายใจออกมาและสูดหายใจเข้าไปใหม่ ตามองตามกยองจงซึ่งเดินอ้อมจากข้างหลังมายืนตรงกลางระหว่างเขากับฮยอนซู มือคีย์บอร์ดเองไม่ละสายตาจากเขา อีกฝ่ายยืนเงียบอยู่พักใหญ่ก่อนค่อยเปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

                    ขอโทษพี่โซจุนซะ แล้วก็ขอโทษฮยอนซูด้วย

                    ฮาจินเลิกคิ้วเมื่อได้ยินสรรพนามไม่คุ้นหู มือเบสหันไปมองยุนโซจุน เห็นอีกฝ่ายกะพริบตามองกยองจงปริบๆ สีหน้าประหลาดใจไม่แพ้กัน

     

                    โซจุนนี่...

     

                    โซจุนสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกคิมฮาจินเรียกชื่อ หางตาเหลือบเห็นฮยอนซูพยายามสะบัดตัวให้หลุดจากโดอิลกับจีฮยอก เขามองหน้ามือเบสได้แวบเดียวก็ก้มหน้าหลบสายตาพลางขบริมฝีปากตัวเอง ทั้งโกรธทั้งอายทั้งอยากร้องไห้ โซจุนยกหลังมือขึ้นเช็ดปาก เขาถูมันแรงๆ สองสามครั้งก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับไปฉวยกระเป๋าเป้แล้วเดินแทรกคิมฮาจินกับกยองจง ก้าวฉับๆ ขึ้นบันไดจากไป

                    ฉันจะไม่มาที่นี่อีก!” เขาทิ้งท้ายก่อนจะกระแทกประตูห้องซ้อมปิด

                    โซจุน!” ฮยอนซูตะโกนเรียก เขาสลัดมือเพื่อนร่วมวงสองคนทิ้ง มองฮาจินตาขวาง เพราะนายคนเดียวเด็กหนุ่มกระซิบลอดไรฟันแล้ววิ่งตามยุนโซจุนไปติดๆ

                    ฮยอนซูเหวี่ยงประตูปิดดังโครม คนอื่นๆ ยกเว้นฮาจินได้แต่มองตามแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

                    เป็นบ้าอะไรหา? คิมฮาจิน? หัวหน้าวงเอามือเท้าสะเอวข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งยกขึ้นนวดขมับถามอย่างกลัดกลุ้ม

                    ฮาจินทำสีหน้าปั้นยาก เขาเอ่ยปากขอโทษจีฮยอกและโดอิล แต่กลับรูดซิปปากสนิทเมื่อสบตากับกยองจง อีกฝ่ายจ้องเขานิ่ง เขาจึงจ้องตอบอย่างไม่ยอมกัน

                    นักร้องนำเห็นปฏิกิริยาของสองคนแล้วพรูลมหายใจออกมาอีก

                    ฉันกลับละ จีฮยอกก้มหยิบสมุดการบ้านซึ่งยังทำไม่เสร็จจากบนพื้นก่อนจะเดินไปหยิบกีตาร์เก็บใส่กระเป๋า โดอิล ไปกัน

                    มือกลองพยักหน้ารับและเก็บเฉพาะของๆ ตัวเอง นายเป็นคนก่อเรื่อง เก็บห้องด้วยล่ะ โดอิลชี้นิ้วไปตามข้าวของต่างๆ บนพื้นแล้วเดินตามเพื่อนขึ้นบันได

                    ในห้องซ้อมจึงเหลือเพียงฮาจินกับกยองจง

     

                    มือคีย์บอร์ดถอนหายใจ

     

                    “เป็นบ้าอะไรหา? คิมฮาจิน?” กยองจงยกประโยคของหัวหน้าวงมาถามซ้ำทั้งดุ้น เขาหันไปพูดกับอีกฝ่ายแต่ฮาจินกลับเดินหนีไปก้มลงคว้าเก้าอี้ที่นอนแอ้งแม้งกับพื้นขึ้นตั้งโดยไม่ตอบ

                    “ฮาจิน” ร่างเล็กเรียกซ้ำ “นี่ คิมฮาจิน”

                    ฮาจินไม่ตอบ เขากระแทกเก้าอี้อีกตัวดังโครม

                    กยองจงขมวดคิ้วมองแผ่นหลังเพื่อนสนิทอย่างข้องใจ เขาไม่ชินกับการถูกฮาจินเมินใส่ (แต่ชินซะแล้วกับการที่อีกฝ่ายทำตัวไม่มีเหตุผล) เด็กหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง

                    “ก็ได้” มือคีย์บอร์ดยกมือยอมแพ้ “ไม่พูดก็ไม่พูด เก็บของให้เสร็จไปคนเดียวก็แล้วกัน วันพรุ่งนี้อย่าลืมไปขอโทษโซจุนนี่กับฮยอนซู คนเดียว ด้วยล่ะ” เขาเอื้อมมือฉวยกระเป๋าเป้มาสะพายไหล่ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินอ้อมหลังเพื่อนซึ่งกำลังก้มๆ เงยๆ เก็บของไปขึ้นบันได

                    ฮาจินเงยหน้าขึ้นมองตามก่อนจะเดินตามร่างเล็กเงียบๆ ไปยืนซ้อนหลังและยกมือดันบานประตูไว้เมื่ออีกฝ่ายหมุนลูกบิดดึงประตูเปิด

                    “เฮ้ย!” กยองจงร้องลั่น หันหลังไปก็เห็นฮาจินก้มลงมองเขานิ่ง ไอ้บ้า! ตกใจหมด!”

                    “ซอกยองจง”

                    “อ-อ-อ-อะไร”

                    “นายชอบใคร?”

                    หา? ฉันชอบใคร? มือคีย์บอร์ดทวนคำถาม งงเป็นไก่ตาแตก พูดเรื่องอะไร ใครชอบใครวะ!?”

                    ฮาจินแค่นยิ้ม คนที่นายชอบ คนที่โซจุนนี่ไม่รู้จักเขาบอกพลางยกมืออีกข้างขึ้นยันบานประตูขังอีกฝ่ายไว้ในวงแขน คือใคร ฉันรู้จักมั้ย ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่เคยเล่าให้ฉันฟัง แล้วคนอื่นรู้เรื่องรึเปล่า ร่างสูงถามเพื่อนสนิทเป็นชุด

                    กยองจงเบิกตากว้าง ริมฝีปากอ้าค้างน้อยๆ ด้วยความตกใจ

                    ใคร? ฮาจินถามอีก

                    ร-รู้ได้ยังไง?

                    ฉันได้ยินที่นายคุยกับโซจุนนี่

                    ร่างเล็กอึ้งไปอึดใจ ผ่านไปสักพักสีหน้าจึงค่อยๆ คลายความสับสน เขาเบือนหน้าหลบสายตาคาดคั้นของอีกฝ่ายทว่าฮาจินลดมือข้างหนึ่งลงมาหมุนคางเขาให้หันไปเผชิญหน้ากันและถามย้ำ

    ใคร?

                    กยองจงเงียบไปพักใหญ่ เขาหลุบตามองพื้นอย่างชั่งใจ ในที่สุดเขาถอนหายใจเหมือนปลงตก ถอยไปยืนคุยดีๆ คุยอย่างนี้ฉันอึดอัด เด็กหนุ่มว่าพลางดันอกอีกฝ่ายออก

                    ฮาจินยอมทำตามอย่างว่าง่าย เขาลดมือทั้งสองลงล้วงกระเป๋ากางเกง รอให้เพื่อนสนิทเป็นฝ่ายเดินนำลงบันไดกลับไปนั่งที่โซฟามุมห้องแล้วค่อยเดินตามไปติดๆ กยองจงไม่มองหน้าเขา ฝ่ายนั้นนั่งเท้าคางกับแขนโซฟา สายตามองเหม่อไปยังผนังสีเทา เขากอดอกนั่งรออย่างอดทน รู้ดีว่าอีกไม่นานกยองจงก็จะเอ่ยปากออกมาเอง

                   

                    นาย

     

                    อะไร?

                    มือคีย์บอร์ดหันมามองเขานิ่งๆ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ ฉันไม่ได้เรียกนาย คิมฮาจิน ฉันให้คำตอบของคำถามเมื่อกี้

                    ฮาจินมุ่นคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเพื่อนสนิทพูดอะไรจนกระทั่งผ่านไปประเดี๋ยวหนึ่งจึงต่อเรื่องติด ร่างสูงอึ้งไป เขาพูดไม่ออก ได้แต่จ้องอีกฝ่ายตาค้างจนกยองจงต้องดีดนิ้วเรียกสติดังเป๊าะ

    ฉัน? เขาถามอย่างไม่อยากเชื่อ ไหนนายว่าโซจุนนี่ไม่รู้จัก?มือเบสยังข้องใจ

                    ฉันบอกว่าโซจุนนี่ไม่เคยเจอต่างหาก

                    แล้วมันต่างกันตรงไหน

                    “ต่างสิ ไม่เข้าใจหรือไง ฉันหมายความว่านายเปลี่ยนไปยังไงล่ะ

                    ร่างสูงอึ้ง

                    เมื่อก่อนนายไม่เป็นอย่างนี้ นายแค่ชอบหยอกให้ฉันเขิน ไม่ได้เที่ยวกอดหรือจูบใครให้ฉันหึง กยองจงอธิบาย พูดจริงๆ นะฮาจิน ฉันเจ็บปวด ฉันไม่เคยหึงใครๆ ที่นายจีบหรือคบด้วย ฉันแค่เจ็บปวดและเสียใจที่นายทำอย่างนั้นกับฉัน นายอาจจะผิดหวังที่เคยบอกชอบฉันแล้วฉันไม่เชื่อ-”

    เดี๋ยว ฮาจินขัด ที่เคยบอกว่าชอบน่ะ จำได้ด้วยเหรอ?

    ร่างเล็กถอนหายใจ เขาพูดต่อโดยไม่สนใจจะตอบคำถามนั้นเพราะฮาจินรู้คำตอบอยู่แก่ใจ นายอาจจะผิดหวังที่เคยบอกชอบฉันแล้วฉันไม่เชื่อ แต่แทนที่นายจะพยายามพิสูจน์ตัวเองให้ฉันมั่นใจว่านายชอบฉันจริงนายกลับเอาแต่ยั่วให้ฉันโกรธ ฉันรู้จักนายมากี่ปีแล้ว ทำไมฉันจะไม่เข้าใจนาย และเพราะฉันเข้าใจ ฉันถึงไม่ยอมทำในสิ่งที่นายอยากเห็น ฉันจะไม่มีวันระเบิดอารมณ์ใส่นาย ไม่มีวันบอกนายว่าฉันหึง เพราะฉันไม่เคยรู้สึกอย่างนั้น

    กยองจงหยุดสูดอากาศประเดี๋ยวหนึ่งจึงพูดประโยคสุดท้าย

     

                    ...ฉันแค่เสียใจ

     

                    ความเงียบปกคลุมห้องซ้อม เพื่อนสนิทสองคนนั่งมองหน้ากันโดยไม่พูดจานานหลายนาที ในที่สุดฮาจินเอื้อมมือไปจะจับมือกยองจงแต่อีกฝ่ายกลับชักมือหนี

                    อย่ามาจับ มือคีย์บอร์ดบอก ที่ผ่านมาฉันอาจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แต่ครั้งนี้มันเกินไป นายรู้อยู่แก่ใจว่าฮยอนซูชอบโซจุนนี่แต่ยังทำอย่างนั้นอีก สะกดคำว่าเพื่อนเป็นมั้ยคิมฮาจิน?เขาสูดหายใจเข้าจนเต็มปอดแล้วโพล่งออกมาอีกคำหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นจากไป

                    ฉันผิดหวังในตัวนาย

                    กยองจงจากไปแล้ว ในห้องซ้อมของอันกูจองฮวาเหลือฮาจินนั่งไหล่ห่อเพียงคนเดียว

     

                ยุนโซจุน!”

                อย่าตามมานะ!”

                    เรื่องอะไรมาไล่ฉัน นายนั่นแหละหยุดเดี๋ยวนี้ คิดว่าจะวิ่งอย่างนั้นไปได้อีกซักกี่น้ำ!”

                    “จะกี่น้ำก็เรื่องของฉัน มันหนักหัวใครรึไง!?”

                    หัวฉันนี่แหละ!”

                    โว้ย! ฉันไม่สน นายกลับไปซะ!”

                    ไม่กลับ!”

                    บอกว่าอย่าตามมายังไงล่ะ!”

                    บอกว่าให้หยุดเดี๋ยวนี้ไงล่ะ!”

                    โซจุนเหนื่อยแทบขาดใจ เขาวิ่งพลางแหกปากเถียงกับอีฮยอนซูจนลำคอแห้งผาก ลำพังต้องวิ่งหนีอีกฝ่ายซึ่งไวเป็นจรวดก็กินแรงเหลือเกินแล้ว ไอ้จอมมารยังตะโกนไล่หลังหาเรื่องให้เขาต้องตอบโต้อีก โซจุนไม่อยากหยุด เขายังไม่อยากเห็นหน้าใครทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นไอ้กร๊วกฮาจินหรือเพื่อนร่วมวงของไอ้กร๊วกฮาจินก็ตาม เสียงฝีเท้าซึ่งไล่ตามมาติดๆ ยิ่งกระตุ้นให้เขาเร่งความเร็วขึ้น ทว่าน่าเสียดายที่โซจุนไม่ใช่นักกีฬา ถึงแม้เขาจะวิ่งเร็วที่สุดในชีวิตแล้วอีฮยอนซูก็ยังกวดตามเขาทันอยู่ดี

                    ยุนโซจุน หยุด!” มือกีตาร์คว้าข้อมือเขาหมับ

                    ปล่อยฉันนะ!” โซจุนหยุดวิ่ง พยายามสะบัดมือนั้นทิ้งแต่ไม่สำเร็จ ฮยอนซูกำมือแน่นเข้าจนเขารู้สึกเจ็บ เด็กหนุ่มทำหน้าเบ้ เลิกตะโกนเสียงดังและหันมาบ่นออดแอดแทนว่าเจ็บนะ

                    ฮยอนซูผ่อนแรงลงแต่ยังคงไม่ปล่อยมือจากเขา ฝ่ายนั้นจ้องหน้าเขาเขม็งจนเขาต้องหลุบตาหลบ มือกีตาร์เห็นแล้วกำมือแน่นขึ้นอีกทีและโซจุนก็มองค้อนอีกฝ่ายทันควัน เขาหลงกลกลง่ายๆ นั้น อีฮยอนซูหลอกให้เขาสบตากับตัวด้วยวิธีแสนง่ายอย่างนี้เอง

                    โซจุนเบ้ปาก เขารู้สึกแย่ที่ถูกล่อให้ติดกับ รู้สึกแย่ที่อุตส่าห์วิ่งหนีเต็มฝีเท้าแต่สุดท้ายก็ถูกจับ รู้สึกแย่ที่ตัวเองอ่อนหัด รู้สึกแย่ไปหมดจนต้องระบายความอัดอั้นนั้นออกมาดังๆ

                    ฉันเกลียดนาย!”

    จู่ๆ เด็กหนุ่มตะคอกใส่อีกฝ่าย ฮยอนซูตกใจจนเผลอปล่อยมือและมองเขาอึ้งๆ

    ทำไมนายต้องยุ่งกับฉันด้วย ทำไมนายต้องตามฉันมาด้วย ทำไมนายต้องวิ่งเร็วกว่าฉันด้วย ทำไมนายต้องทำให้ฉันรู้สึกแย่ด้วย ทำไมฉันต้องถูกหมอนั่นจูบด้วย นั่นมัน...นั่นมันจูบแรกของฉัน...ทำไมฉันต้องเสียจูบแรกให้ผู้ชายด้วยกันด้วย!?”

                    ฮยอนซูมองหน้าโซจุนนิ่ง ถามครบรึยัง?

                    “โอ๊ย!” โซจุนกระทืบเท้าขัดใจ ทำไมนายต้องกวนประสาทฉันด้วย!?”

                    “ฉันเปล่ากวน ฝ่ายนั้นตอบ ฉันยุ่งกับนายเพราะฉันอยากยุ่ง ฉันวิ่งตามนายมาเพราะไม่อยากให้นายหนีไปทั้งๆ ที่ยังตกใจอยู่ ฉันวิ่งเร็วกว่านายเพราะวันๆ ไม่ได้เอาแต่นั่งอ่านหนังสือเรียนอยู่กับบ้าน ฉันไม่ได้อยากทำให้นายรู้สึกแย่หรือรู้สึกไม่ดี ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฮาจินจูบนายทำไม และเสียใจมากๆ ที่นายต้องเสียจูบแรกให้หมอนั่น และฉันขอถามนายกลับว่าทำไมนายถึงต้องเสียใจที่เสียจูบแรกให้ผู้ชายด้วย

                    โซจุนฟังประโยคสุดท้ายแล้วกลายเป็นฝ่ายอึ้งเสียเอง

                    ฉันเป็นผู้ชายนะเขาบอก

                    แล้วยังไง ฮยอนซูถามอีก

                    ฉันเป็นผู้ชายนะ! ไม่ใช่แค่จูบแรก แต่จูบไหนๆ ของฉันก็ไม่ควรตกเป็นของผู้ชายด้วยกัน ฉันต้องจูบกับผู้หญิงเท่านั้นสิ!”

                    อีกฝ่ายเลิกคิ้ว ถ้าเป็นพี่มยองซูคนดีของนายล่ะ?

                    จะบ้าเรอะ!?” เด็กหนุ่มหน้าแดงเถือก ฉันไม่ได้อยากจูบพี่มยองซู ฉันแค่ชื่นชมเขา!”

                    แล้วฉันล่ะ?

                    หา?

                    นายรู้สึกยังไงกับฉัน

                    ฉันเกลียดนาย!”

                    ฮยอนซูจ้องโซจุนเขม็ง โซจุนตัวเย็นเฉียบราวกับถูกไอ้เจ้าชายน้ำแข็งแช่แข็งเพียงแค่ถูกมอง

    ยุนโซจุน อีกฝ่ายก้าวเข้ามาประคองใบหน้าเขาให้สบตากับตัวเองอย่างเมื่อคืนนี้ หัวใจโซจุนซึ่งกระตุกรุนแรงตั้งแต่ถูกถามว่ารู้สึกกับฮยอนซูอย่างไรยิ่งเต้นแรงขึ้นอีก คิด แล้วค่อยตอบว่านายรู้สึกยังไงกับฉัน ฉันอยากได้คำตอบที่มาจากตรงนี้ มือกีตาร์ปล่อยมือไปเคาะอกข้างซ้ายเขาเบาๆ ไม่ใช่คำตอบที่มาจากตรงนี้ ฝ่ายนั้นเลื่อนมือจากตำแหน่งหัวใจขึ้นมาจิ้มปากเขาเต็มแรงจนหน้าหงาย

                    เจ็บนะ!”

                    ฮยอนซูไม่โต้ตอบ เขาเพียงแต่กอดอกรอฟังคำตอบจากอีกฝ่าย

                    ถามแบบนี้แปลว่าอะไร อยากให้ฉันตอบว่าชอบนายรึไง!?”

                    มือกีตาร์มองเขานิ่ง

                    โซจุนขบริมฝีปากมองตอบอีกฝ่ายอย่างขุ่นเคือง เขาไม่ชอบหน้าอีฮยอนซูตั้งแต่แรก คนตรงหน้าดีแต่หาเรื่องเดือดร้อนให้เขาไม่หยุดหย่อน ไม่เคยพูดจาดีๆ กับเขา ไม่เคยเคารพเขา ไม่เคยทำดีกับเขา ทุกครั้งเอาแต่ยั่วโมโหและหาเรื่องให้เขาโกรธเอาๆ

                    ฉันเกลียดนาย เด็กหนุ่มตอบ

                    เขาเกลียดอีฮยอนซู แม้ว่ากยองจงจะบอกว่าเขาชอบอีกฝ่าย แม้ฮยอนซูจะสอนให้เขาเล่นกีตาร์เป็น จะพูดจาล้อเล่นและตั้งชื่อเล่นทุเรศๆ ให้เขาอย่างที่ไม่มีใครเคยทำกับเขามาก่อนเพราะที่ผ่านมาโซจุนไม่มีเพื่อนสนิท จะทำให้เขาหัวเราะจนท้องแข็ง หรือจะทำให้หัวใจเขาเต้นแรงแทบทุกครั้งในช่วงหลังๆ ที่เจอกัน

                    แต่โซจุนก็เกลียดอีฮยอนซู

                    เขาจะชอบอีกฝ่ายได้อย่างไรในเมื่อพวกเขาต่างก็เป็นผู้ชาย และอีกฝ่ายเองก็เกลียดเขาเหมือนกัน อย่างที่บอกว่าฮยอนซูไม่เคยทำตัวดีๆ กับเขาเลย

                    ฉันเกลียดนาย…” โซจุนน้ำตารื้น เขาพูดย้ำอีกครั้งพลางถอดแว่นออกและยกแขนเสื้อปาดน้ำตาทิ้ง

                    ฮยอนซูมองยุนโซจุนร้องไห้เงียบๆ และค่อนขอดอีกฝ่ายในใจว่าเขาควรจะเป็นฝ่ายต้องร้องไห้ต่างหาก เด็กหนุ่มเจ็บในใจ เขาคาดหวังว่าโซจุนจะรู้สึกตัวว่าพวกเขาทั้งสองคนมีใจตรงกันแต่อีกฝ่ายกลับพูดย้ำๆ ซ้ำๆ ว่าเกลียดเขา

                    ดี ฮยอนซูพูดเสียงเรียบ ดี ถ้านายรังเกียจ ฉันจะไม่ยุ่งด้วยอีก แม้ว่าฉันจะชอบนาย และนายเองก็ชอบฉันด้วยเหมือนกัน จบอย่างนี้คงพอใจแล้วสินะ เด็กหนุ่มพูดแล้วหมุนตัวเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับไปมองโซจุนอีกเลย

                    โซจุนยืนอึ้ง

                    ว่ายังไงนะ? นี่อีฮยอนซูเพิ่งสารภาพรักกับเขาใช่มั้ย?

                    เขาหันมองรอบตัวช้าๆ แล้วคิดในใจ

                    อีฮยอนซูเพิ่งจะบอกว่าชอบเขา...ในซอยแคบๆ หน้ากำแพงโทรมๆ บนพื้นมีขยะกองสุมอยู่มุมหนึ่ง...โซจุนรู้สึกหน่วงในอก น้ำตาซึ่งเพิ่งปาดทิ้งไปไหลออกมาอีก

                    เมื่อคิดหาสาเหตุตลอดทางกลับบ้านจนกระทั่งเปิดประตูห้องเข้าไปทรุดตัวนั่งกับโต๊ะหนังสือ โซจุนก็ได้คำตอบว่าเขาไม่ได้รู้สึกปวดหัวใจเพราะอีฮยอนซูสารภาพรักไม่เลือกที่ แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายพูดว่าจะไม่ยุ่งกับเขาอีกทั้งๆ ที่เพิ่งจะบอกว่าชอบเขาเมื่อไม่กี่คำก่อนหน้านั้นและเดินจากเขาไปต่างหาก

                    จะไม่ยุ่งกับฉันอีกแล้วเหรอ?

                    โซจุนใจหาย

                    ไม่เอานะ...

                    เด็กหนุ่มฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างเสียใจ เขายอมรับกับตัวเองตอนนั้นว่าเขาเองก็ชอบอีฮยอนซู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×